บวชมาเพื่อมรรคเพื่อผล
วันที่ 8 เมษายน 2549 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๙

บวชมาเพื่อมรรคเพื่อผล

ก่อนจังหัน

พระเณรมีจำนวนมากเท่าไร พระผู้ทรงศีลทรงธรรมผู้มุ่งต่อมรรคผลนิพพาน และผู้ทรงไว้ซึ่งมรรคผลนิพพาน เป็นพระที่เป็นสิริมงคลแก่ชาติไทยของเรามากนะ บ้านเมืองใดสถานที่ใดตามธรรมดาของชาวพุทธเรา ปลูกบ้านสร้างเรือนที่ไหน ต้องไปสร้างวัดสร้างวาพร้อมเพื่อเป็นขวัญใจหรือเป็นที่อบอุ่นแก่ประชาชน พระเรามีจำนวนมากเท่าไรขอให้เป็นพระผู้ทรงสมบัติอันเลิศเลอ ศีลสมบัติ สมาธิสมบัติ ปัญญาสมบัติ วิมุตติสมบัติ เป็นสมบัติที่เลิศเลอ ซึ่งควรอย่างยิ่งสำหรับพระเณรผู้ปฏิบัติ จะเป็นผู้ครองในสมบัติเหล่านี้ได้ยิ่งกว่าผู้อื่นใด

เพราะท่านเหล่านี้เป็นผู้มีหน้าที่การงานเบาบาง บวชมาเพื่อมรรคเพื่อผล ควรจะได้มรรคได้ผลติดเนื้อติดตัวไป อย่าได้ตั้งแต่พวกมูตรพวกคูถพวกยศถาบรรดาศักดิ์เป็นบ้ากันอยู่ทุกวันนี้ ดูไม่ได้นะ พระเราไปเป็นบ้ายศบ้าลาภสรรเสริญเยินยอ ผิดจากหลักธรรม ไม่มีอะไรเลิศเลอยิ่งกว่าธรรม ยศไหนๆ ก็มาเถอะ เขาตั้งขึ้นมาหรือมีท่านผู้ตั้งขึ้นมาด้วยเจตนาอนุโมทนาส่งเสริมนั้นไม่ผิดธรรมไม่เป็นไร ไอ้เป็นบ้าหายศหาลาภนั่นซีพระเรานี้น่ะ มันหยาบโลนที่สุดนะพระเรา

บวชเข้ามาแล้วแทนที่จะหามรรคหาผลสวรรค์นิพพานมันไม่ไป หายศหาลาภหามูตรหาคูถเข้ามาประดับตน เอายศเอาลาภนั่นน่ะมูตรคูถ เมื่อเทียบกับธรรมแล้วเท่ากับมูตรคูถ สำหรับพระไม่ควรกันเลยที่จะต้องแสวงหาด้วยตนเอง หากมีผู้หนึ่งผู้ใดหรือท่านผู้ที่มาอนุโมทนาส่งเสริมมาตั้งยศให้อย่างนั้นไม่เป็นไรไม่ขัดข้อง แต่ตัวเองไปเสาะแสวงหาเองนี้เลวมากนะ ปัจจุบันนี้พระเรารู้สึกจะเป็นพระเลวมากขึ้นทุกวันๆ บวชเข้ามาแทนที่จะหามรรคหาผล หาศีลหาสมาธิหาปัญญาวิชชาวิมุตติไม่ยอมหา หาแต่มูตรแต่คูถเต็มบ้านเต็มเมือง ไปที่ไหนได้ยศได้ลาภแล้วเป็นบ้าสดๆ ร้อนๆ เลย พระเราเป็นบ้ายศบ้าลาภนี้แหม น่าอิดหนาระอาใจเหลือเกิน

สอนเขาให้ละ แล้วเราเป็นคนหากอบโกยเอา มันเข้ากันได้ไหมล่ะ สอนญาติโยมเขาให้ละให้ถอนสิ่งที่ไม่เหมาะกับตัวเอง ไอ้เรานี่เหมาะหมด อะไรเหมาะหมดๆ นี่ก็พอดีกันกับที่เราพูดตะกี้นี้ รถเขาบรรทุกมะขามป้อมกับสมอมาวัดป่าบ้านตาดนี่ ดูลักษณะท่าทางเข้ามาก็น่าดู เราก็เดินแบบเซ่อๆ ซ่าๆ มา เข้ากันได้สนิทนะ เขาก็จอดรถกึ๊กทีเดียว มะขามป้อมสมอนี่จะให้เอาลงที่ไหน เราก็บอกว่า นู่นโรงปอบนู่น เราว่างั้น โรงปอบที่ไหน เขาก็มองดูหน้าเรา นู่นโรงปอบอยู่นั้น พอว่าอย่างนั้นแล้วเราก็เดินไป เขามองตามหลังเราก็เฉย โน่นเวลาจังหวะมันเข้ากันปั๊บได้เลยไม่ยากอะไร

นี่เรื่องบ้ายศบ้าลาภก็เป็นแบบเดียวกัน โฮ้ น่าทุเรศนะ มันเป็นอะไรพระเรานี่ คุณธรรมอะไรจะเลิศยิ่งกว่าในโลกนี้ไม่มี คุณธรรมหรือธรรมเลิศเลอ ขอให้มีศีลธรรมประจำใจ เป็นผู้ครองไว้ซึ่งศีลอันสมบูรณ์แบบ ชุ่มเย็นตัวเอง สมาธิ ความสงบมั่นคงของใจ ปัญญาความเฉลียวฉลาดรอบคอบ ชำระซักฟอกกิเลสออกจากใจจนกระทั่งถึงวิมุตติพระนิพพาน ผู้นี้เป็นผู้สง่างามสุดยอดแล้ว เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมกราบไหว้บูชาทั้งนั้น นี่ท่านผู้มีธรรมอันเลิศ มีสมบัติอันเลิศครองตน สมกับตนเป็นนักบวช เอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นเครื่องประดับเหมาะสมกันอย่างยิ่ง

เสาะแสวงหามูตรหาคูถพวกยศพวกลาภ พวกสรรเสริญเยินยอมาประดับ พระก็เลยกลายเป็นมูตรเป็นคูถไป หาความงามไม่ได้ หาความเป็นสิริมงคลไม่ได้ ถ้าท่านทั้งหลายต้องการเป็นสิริมงคลแล้วขอให้เป็นผู้มี สติ ปัญญา ศรัทธา ความพากเพียร รักษาให้ดี ศีลสมบัติอย่าให้ด่างพร้อยขาดทะลุ สมาธิสมบัติ อบรมทางด้านจิตตภาวนา รักษาใจให้ดี ที่มันตัววอกแวกคลอนแคลนคือใจนั้นแหละ รักษาให้ดีด้วยสติด้วยปัญญา ไม่ให้มันคิดไปทางโลกทางสงสารเรื่องฟืนเรื่องไฟ ให้คิดแต่เรื่องอรรถเรื่องธรรมเต็มหัวใจๆ ทุกวันๆ ธรรมล้นหัวใจนี้สุขบรมสุข ตอบรับกันทันที ขอให้พากันตั้งอกตั้งใจนะ

จวนจะตายเท่าไรยิ่งเป็นความวิตกวิจารณ์กับบรรดาพระลูกพระหลาน ตลอดประชาชน ใครจะว่าหลวงตาบัวเป็นบ้าก็ตาม เราไม่ได้เป็นบ้า ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศกังวานโลกมาได้เท่าไรปีแล้ว ธรรมที่เป็นของเลิศเลอ ขึ้นโสดา สกิทาคา อนาคา อรหัตบุคคล ผู้ครองธรรมเหล่านี้เต็มหัวใจแล้วเป็นผู้สง่างามมากทีเดียว เป็นธรรมที่เลิศเลอที่สุด ที่เรานำมาสอนโลกเราเอาธรรมเหล่านี้มาสอน ธรรมเหล่านี้ไม่ได้บกบางในหัวใจหลวงตาบัว พูดให้ชัดเจน

ใครจะว่าโอ้ว่าอวด ว่าอะไรให้ว่าไปปากอมขี้ ปากเราปากอมธรรม เราปฏิบัติแทบล้มแทบตายตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ตะเกียกตะกายมา ก็ค่อยได้เป็นลำดับลำดาๆ จนกระทั่งถึงที่เป็นที่พอใจ พอแล้วที่นี่ทุกอย่าง การเสาะแสวงหาเรียกว่า วุสิตํ พฺรหมฺจริยํ กตํ กรณียํ พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว งานที่ควรทำได้ทำเรียบร้อยแล้ว พรหมจรรย์คืออะไร งานที่สูงส่ง ได้แก่งานถอดถอนกิเลส นำธรรมเข้ามาครองใจ ได้แก่วิสุทธิธรรม ท่านเรียกว่า วุสิตํ พฺรหมฺจริยํ งานวิสุทธิธรรมเข้าสู่หัวใจแล้ว เป็นงานที่สำเร็จเสร็จสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีอะไรกังวลต้องทำต่อไปอีก นั่นท่านว่าเสร็จกิจในพุทธศาสนาสำหรับผู้บำเพ็ญธรรม เฉพาะอย่างยิ่งคือนักบวชเรา ให้ได้อันนี้มาครองหัวใจซิ

ธรรมเหล่านี้ครึล้าสมัยไปไหน มีแต่กิเลสเหยียบย่ำทำลายไม่ให้ธรรมเหล่านี้โผล่ขึ้นมาเท่านั้น ใครเป็นผู้รื้อฟื้นธรรมเหล่านี้ขึ้นมา ถ้าไม่ใช่นักบวชนักปฏิบัติเราแล้วหาผู้ที่จะรื้อฟื้นได้ยากนะ เพราะอันนี้ต้องหาโอกาสอันดี คือนักบวชเป็นผู้มีโอกาสโดยสมบูรณ์แล้ว เอา ชำระลงไป ธรรมพระพุทธเจ้าจะล้าสมัยเหรอ มันทันสมัยตั้งแต่กิเลสอย่างเดียวนั้นเหรอ ธรรมนี่ครึไปหมดแล้ว เอ้าฟื้นขึ้นมาๆ ธรรมเหล่านี้ ถ้าลงได้ครองในหัวใจแล้วจ้าไปเลยทีเดียว นี้พูดด้วยความอาจหาญชาญชัย เราไม่สะทกสะท้านอะไรเลย สามแดนโลกธาตุนี้เป็นแดนแห่งสมมุติทั้งมวล หัวใจดวงนี้เป็นวิมุตติแล้ว ได้สำเร็จตามความมุ่งหมาย

วุสิตํ พฺรหมฺจริยํ เราครองมาเป็นเวลา ๕๖ ปีนี้แล้ว เรานำธรรมเหล่านี้มาสอนโลก เราปฏิบัติธรรมนี้เป็นมงคลแก่หัวใจเรา ภาคภูมิใจ เกิดมาไม่คิดไม่คาดไม่ฝันว่าจะได้ครองธรรมประเภทนี้ ก็ได้ปรากฏขึ้นแล้วในหัวใจ จึงเอาธรรมประเภทนี้ไปสั่งสอนท่านทั้งหลาย แล้วกลับเป็นอัปมงคลแล้วเหรอ ให้เป็นมงคลอย่างยิ่งตั้งแต่กิเลสนั้นเหรอ ธรรมที่สอนเวลานี้ไม่มีคุณค่าอะไรเลยเหรอ ถ้าธรรมเหล่านี้ไม่มีคุณค่า พระพุทธเจ้าก็หมด ไม่มีศาสนาครองหัวใจ จะมีตั้งแต่มูตรแต่คูถเต็มหัวใจ ความโลภเต็มหัวใจ ความโกรธเต็มหัวใจ ราคะตัณหาซึ่งล้วนแล้วแต่มูตรแต่คูถเต็มหัวใจกันเท่านั้นเอง แล้วสิ่งเหล่านี้แสดงอะไรขึ้นมามีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้โลก เพราะความดีดดิ้นกับสิ่งเหล่านี้แล ขอให้ท่านทั้งหลายจำเอานะ

ศาสนานี่เลิศเลอมาเท่าไรแล้ว ทำไมจึงไม่มีใครรื้อฟื้นขึ้นมา กิเลสมันเลิศเลออะไร ทำไมจึงต่างคนต่างเสาะแสวงหา ต่างดีดต่างดิ้นกันไม่รู้จักเป็นจักตาย ยศก็ได้สักเท่าไร มีแต่ลมแต่แล้งทั้งนั้น ไอ้ยศๆ แย็ดๆ อะไรนั่น ไม่ได้เหมือนธรรม ธรรมนี่จ้าอยู่ในหัวใจตลอดเวลา อกาลิโก นั่นละธรรมสมบัติ ขอให้ได้ครอง ศีลสมบัติ สมาธิสมบัติ ปัญญาสมบัติ วิมุตติสมบัติได้แก่นิพพานสมบัติ ให้ครองในหัวใจเถอะไปที่ไหนสว่างจ้าสง่างามไปหมดเลย

เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมเขาตาดีหูดีกราบไหว้ พวกตาบอดหูหนวกคือมนุษย์เรา เหยียบย่ำทำลายไปด้วยความไม่เอาไหนในการปฏิบัติธรรม แต่เทวบุตรเทวดาเขากราบไหว้บูชาท่านผู้ครองธรรมอันเลิศเลอเหล่านี้ ธรรมเหล่านี้ท้าทายอยู่ที่หัวใจเรา ด้วยภาคปฏิบัติมีจิตตภาวนาเป็นต้น การทำบุญให้ทานล้วนแล้วตั้งแต่เป็นเครื่องส่งเสริมจิตใจของเราให้สง่างามทั้งนั้น ให้พากันอุตส่าห์พยายามนะ อย่าเห็นแก่ได้แก่กิน แก่ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ให้เห็นแก่อรรถแก่ธรรม ธรรมเข้าสู่ใจแล้วสบายๆ

สมบัติเงินทองข้าวของกองเท่าภูเขานี้อย่าเอามาแข่งธรรมในหัวใจ มีเพียงธรรมในหัวใจเท่านั้นลบไปหมดเลย ความทุกข์ร้อนที่เคยเป็นมาลบหมด ไม่มีเงินสักสตางค์ก็สบาย นี่ละธรรมเข้าสู่ใจแล้วสบายทั้งนั้น ตายก็หายห่วง สมบัติภายนอกเต็มไปด้วยความห่วงนะ เราไม่ได้ตำหนิสมบัติภายนอก นั้นให้รู้ว่าเป็นสมบัติภายนอกที่เราอาศัยเวลามีชีวิตอยู่ สมบัติภายในคือบุญคือกุศลนี้จะติดแนบไปทั้งเป็นทั้งตายภพใดๆ ก็ตาม เพราะอำนาจแห่งบุญแห่งกุศลนี้ละ ให้พากันสร้างนะ อย่าเห็นแก่โลภ กิเลสนี้หลอกโลกต้มตุ๋นโลกให้ล่มจมมานานแสนนานแล้ว แล้วคราวนี้มันจะวิเศษวิโสมาจากไหนอีก มันก็ตัวต้มตุ๋นโลกนั้นแหละ ธรรมวิเศษวิโสมาขนาดไหนแล้วให้พากันนำไปพินิจพิจารณา

เวลาจะหลับจะนอนอย่าลืมพุทโธ ธัมโม หรือสังโฆบทใดก็ได้ ทำจิตใจให้สงบจากความดีดดิ้นทั้งวันทั้งคืนนี้บ้าง ตื่นนอนขึ้นมาดีดแล้วจิต ความคิดความปรุงเต็มหัวใจจนกระทั่งหลับ เอาความหลับระงับความคิดปรุงของใจ ถ้าหลับไม่ได้ตายเลยคนเรา เพราะคนคิดมากจนนอนไม่หลับก็มี สุดท้ายก็เป็นบ้าไปเลย เพราะฉะนั้นให้เอาธรรมไประงับดับบ้าความคิดความปรุงเหล่านี้ ให้ค่อยสงบตัวลงบ้างด้วยจิตตภาวนา จิตตภาวนาเป็นของเลิศเลอ เรานำธรรมมาสอนพี่น้องทั้งหลายนี้ออกมาจากภาวนา พระพุทธเจ้าออกมาจากภาวนา สาวกทั้งหลายออกจากภาวนา หลวงตาบัวนำธรรมที่มาสอนนี้ด้วยว่าออกมาจากภาวนาผิดไปไหน เราพูดอย่างนี้ละ

มันสลดสังเวชนะมองดู มองไปที่ไหนมันดูไม่ได้นะ กิเลสดูกิเลสดูไม่ออก ธรรมดูกิเลสดูง่ายนิดเดียว แพล็บ รู้แล้วๆ ยังจะมาเห็นเป็นของไม่แปลกประหลาดอยู่หรือธรรม แปลกประหลาดตั้งแต่กิเลสนั่นเหรอ ให้พากันคิดนะพี่น้องทั้งหลาย โอ๊ย เราสลดสังเวช ศาสนาพระพุทธเจ้าเลิศเลอมาสักเท่าไร เฉพาะองค์ปัจจุบันนี้ ๒๕๐๐ กว่าปีนี้แล้วเลิศเลอขนาดไหน ถูกฝังอยู่ใต้ดิน กิเลสเหยียบย่ำทำลายกันไปมาอยู่นั้นไม่ปรากฏในจิตใจเลยนี่ซิ ใจวุ่นวายมาตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งบัดนี้หาความสงบที่ไหนได้ ไม่มี ถ้าไม่เอาจิตตภาวนาเข้าไปใส่ พอจิตตภาวนาเข้าไปปั๊บเป็นน้ำดับไฟ จิตใจจะวุ่นวายขนาดไหนสงบลงๆ ทีนี้จ้าขึ้นมาด้วยความสง่างาม ความอัศจรรย์เลิศเลอขึ้นที่ใจนะ เราอย่าไปเห็นของเลิศเลอที่ไหนนอกเหนือไปจากใจที่อบรมด้วยธรรมให้ดีนั้นเถอะ เอาละให้พร

หลังจังหัน

(ราษฎรหมู่ ๗ บ้านห้วยข่อย ๖.ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ขอถวายพื้นที่ป่าบริเวณห้วยภูผา เป็นป่าดงดิบผสมป่าเบญจพรรณ เนื้อที่ประมาณ ๒,๓๐๐ ไร่ แด่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อเป็นสำนักสงฆ์และเพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นป่าต้นน้ำ)เวลาเราว่างเราจะไปดู เป็นอันว่ารับไว้แล้ว

คณะศรัทธาชาวเพชรบูรณ์ ขอน้อมถวายปัจจัยสมทบศูนย์ดวงตาเป็นเงินสด ๔๗๔,๘๑๐ บาท เช็ค ๑๖๙,๐๐๐ บาท รวมยอด ๖๔๓,๘๑๐ บาท ในนามอาจารย์จิรวัฒน์เป็นหัวหน้าพี่น้องทั้งหลายมาทำบุญให้ทานนี้ เราขออนุโมทนาสาธุพร้อมกัน เอ้า สาธุ (สาธุ)

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก