เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙
ใจสงบแล้วจะเห็นโทษเห็นภัย
(วัดเขากลางนิมิต อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถวายสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน จ.กาญจนบุรี ให้แด่องค์หลวงตา ข้าศึกใดก็ตามในแหล่งโลกธาตุ ไม่มีอำนาจอันลึกลับแหลมคมเหมือนข้าศึกภายในใจ คือกิเลสตัณหานี้เลย ข้อปฏิบัติที่ท่านพระอาจารย์มั่นพาดำเนินโดยหลวงตามหาบัว การจะสู้ข้าศึกคือกิเลสภายในใจให้ชนะได้ ต้องอาศัยผู้นำทัพที่เก่งและชำนาญการรบ ชาวจังหวัดกาญจนบุรีจึงได้ลงมติขอนิมนต์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเป็นผู้นำทัพ...)
การออกวิทยุเสียงธรรมที่ได้ออกมาเรียบร้อยแล้วนั้น เราเป็นที่พอใจในธรรมทุกขั้นที่เทศน์จนกระทั่งออกวิทยุนี้ เป็นธรรมยืนยันไปจากหัวใจดวงที่เทศน์อยู่เวลานี้ เราเป็นที่แน่ใจในธรรมทั้งหลายที่แสดงแก่บรรดาพี่น้องชาวพุทธทั่วๆ ไป เราพอใจ ไม่มีข้อตำหนิว่าเทศน์นี้จะผิดพลาดไปตรงไหน เพราะผ่านเวทีกิเลสกับธรรมฟัดกันดังที่พูดตะกี้นี้ว่า ไม่มีข้าศึกใดจะเหนือกิเลสไปได้ สะเทือนใจเราปึ๋งเลย ลองอ่านซ้ำอีกดูซิน่ะ(ข้าศึกใดก็ตามในแหล่งโลกธาตุ ไม่มีอำนาจอันลึกลับแหลมคมเหมือนข้าศึกภายในใจ คือกิเลสตัณหานี้เลย)
นี่สำคัญมากเรายอมรับทันที เพราะได้ผ่านกันมาแล้วถึงขั้นจะสลบไสล แต่เรายังไม่เคยสลบนะ เฉียดตลอด ระหว่างกิเลสกับธรรมฟัดกัน หนักมากทีเดียว จึงว่าไม่มีข้าศึกใดที่จะละเอียดแหลมคมยิ่งกว่ากิเลสบนหัวใจสัตว์ นี้ถูกต้องเลย ให้ทราบ เวลาขึ้นเวทีฟัดกับกิเลส กำลังของธรรมก็หนาแน่นขึ้นมา กำลังของกิเลสมันหนาแน่นอยู่แล้ว กำลังของธรรมหนาแน่นขึ้นมาๆ นี้ยกทัพเข้าใส่กันๆ เอาจิตใจเป็นสนามรบทีเดียว กิเลสกับธรรมอยู่ที่ใจ ฟัดกันที่นั่น ร่างกายก็บอบช้ำไปด้วย เพราะต้องอาศัยร่างกาย การฝึกทรมาน เช่น อดนอน ผ่อนอาหาร หรืออดอาหารอย่างนี้เกี่ยวกับร่างกาย มีความทุกข์มาก ในบางครั้งเดินบิณฑบาตในหมู่บ้านเขานี่ไม่ถึงเลย เป็นไม่รู้กี่ครั้งนะ
บางแห่งเขาก็ตีเกราะประชุมให้ไปดูพระองค์นี้ ตั้งแต่ตั้งบ้านมานี้ก็ไม่เคยเห็นพระที่มาอยู่ที่นี่ มาแล้วหายเงียบๆ ไม่ทราบว่ากี่วันด้อมๆ มาบิณฑบาตวันหนึ่งแล้วหายเงียบไปๆ นี่ก็หายเงียบไปหลายวันแล้ว ไม่ใช่ท่านตายแล้วเหรอ ไปดูซิ ตั้งแต่ตั้งบ้านมานี้เราก็ไม่เคยเห็นพระประเภทนี้ เขาว่างั้น แต่เขามีข้อแม้อันหนึ่งให้ระวัง พระองค์นี้ไม่ใช่พระธรรมดา เป็นมหานะ ถ้าไปไม่เข้าเรื่องเดี๋ยวท่านจะสับเขกเอา เขาก็หลั่งไหลไปจริงๆ เราก็ถามว่ามาอะไร จะมาแห่พระเวสสันดรเข้าเมืองหรือ เราไม่ใช่พระเวสสันดรนะ
เขาก็เล่าให้ฟังย่อๆ หนึ่ง ท่านไม่ตายแล้วเหรอ สอง ถ้าท่านไม่ตายท่านไม่โมโหโทโสอยู่เหรอ ไปดูซิเป็นยังไง ทีนี้เราก็เอาข้อนี้ละถามเขา เป็นยังไงตายแล้วยังเรา ก็ไม่เห็นท่านตาย แล้วโมโหโทโสอยู่ไหม ไม่เห็นโมโหโทโส ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ เราก็เลยบอกว่า การอดอาหารนี้เราอดเพื่อฆ่ากิเลส ด้วยความเพียรของเราต่างหาก เราไม่ได้อดเพื่อฆ่าตัวเอง ความโมโหโทโสเป็นกิเลส เราอดเพื่อจะฆ่ากิเลสนี้ต่างหาก เราจึงไม่โมโหโทโส มีเท่านั้นหรือ มีเท่านั้น เอา ไล่กลับ ไม่ถึง ๑๐ นาทีนะ นี่เราก็ได้เล่าให้ฟัง เป็นยังไงเจ้าของเองปฏิบัติตนอยู่นั้น ความตายอยู่กับตัวเองทำไมไม่รู้ ให้คนอื่นเขาขนาดตีเกราะประชุมไปดู เราตายหรือยัง นี่ทุกข์ไหม
การประกอบความพากเพียรในชีวิตของเรานี้ เรียกว่าเราทุกข์ที่สุด คือการถอดถอนกิเลส ฆ่ากิเลส การงานทั้งหลายในโลกที่เราเคยทำตามกำลังความสามารถของเรา ทุกข์ก็ยอมรับว่าทุกข์ แต่ถึงเวลาที่จะเลิกจะละจากมันไปเลยสบายๆ ไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยผูกโกรธผูกแค้นกันเหมือนกับกิเลสกับใจฟัดกัน ระหว่างธรรมกับใจฟัดกับกิเลส ถ้าวันไหนได้แพ้กิเลสวันนั้นนอนไม่ได้เลย ต้องเอากันให้ชนะกิเลส คือชนะเป็นพักๆ ไป ไม่ได้หมายถึงว่าชนะหมด นอนไม่ได้แล้ววันนี้ถ้ากิเลสตัวนี้ไม่หมอบเสียก่อน นอนไม่ได้ นั่นละตอนนั้นละไม่กิเลสก็เราฟัดกัน เอา ใครตายก็ตาย ใครดีให้อยู่บนเวที ใครไม่ดีให้ตกเวทีเลย
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจิตต้องเด็ดเฉียบขาดทีเดียว ซัดกันจนกระทั่งกิเลสหมอบ นั่น หมอบเป็นระยะๆ ไม่ใช่มันหมอบอยู่เรื่อยและธรรมะเราก็หมอบอยู่เรื่อย มีผลัดกันแพ้ชนะตลอดมา การประกอบความเพียรเพื่อฆ่ากิเลส ท่านผู้ใดถ้ายังไม่ได้ผ่านระหว่างกิเลสกับธรรมฟัดกันเสียก่อน อย่ามาอวดนะว่าโลกนี้มีงานมากหนักมากทุกข์มาก ไม่มีอะไรทุกข์ยิ่งกว่ากิเลสเหยียบหัวใจสัตว์โลก อันนี้ทุกข์มาก เวลานี้กระจายกันทั่วประเทศไทยและทั่วโลกด้วย มีแต่กิเลสเหยียบหัวใจสัตว์โลก ด้วยความล่อลวงต้มตุ๋นแบบต่างๆ ของมัน
อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี มีแต่จะดีๆ ไปหมด มันหลอกอยู่ในหัวใจ ทั้งอยากดีอยากเด่นทุกอย่าง อยากมีชื่อมีเสียงโด่งดัง กิเลสมันชอบยอ เป็นอย่างนั้นละ ทุกข์จนหนโลกก็ไม่ยอมรับว่าตัวทุกข์ ต้องบอกว่าเป็นเศรษฐี กิเลสมันชอบ นี่ละเรื่องกิเลสชอบยอเสมอ เรื่องธรรมไม่ชอบ ความจริงมีตรงไหนธรรมจะก้าวเดินไปตามนั้น ฟัดกับกิเลสตัวเก่งๆ เหล่านี้ละที่ว่าถึงขั้นจะสลบไสล แต่ไม่เคยสลบก็บอกว่าไม่สลบ เฉียดๆ ตลอด เอาจนกระทั่งกิเลสขาดสะบั้นลงไปจากหัวใจเลย ตั้งแต่บัดนั้น เราก็เคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เป็นความสัตย์ความจริงหรือเอามาโกหกท่านทั้งหลาย ฟังซิน่ะ
หลังวัดดอยธรรมเจดีย์ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ เวลา ๕ ทุ่มเป๋งพอดี เป็นเวลาฟ้าดินถล่ม ระหว่างกายกับจิตสะเทือนเอากันอย่างมาก จนกระทั่งร่างกายสะดุ้งปึ๋งเลยทีเดียว เหมือนฟ้าดินถล่ม แต่ความจริงฟ้าดินเขาไม่มีอะไรละ มันเป็นอยู่ระหว่างกายกับจิต กิเลสขาดสะบั้นลงไปจากจิตนี้กระเทือนหมดจริงๆ ร่างกายสะดุ้งปึ๋งเลยทันที ในขณะเดียวกันก็จ้าขึ้นมาอย่างที่เราไม่เคยคิดเคยคาดเคยฝันไว้เลย ถึงขนาดออกอุทานย้ำแล้วย้ำเล่า พอฟ้าดินถล่มระหว่างกายกับจิตขาดสะบั้นลงไปเรียบร้อยแล้ว เหอ พระพุทธเจ้าตรัสรู้อย่างนี้ละเหรอๆ ขึ้นเลยเชียว มันชัดขนาดนั้นละ ย้ำแล้วย้ำเล่าให้มันถึงใจ หือ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ตรัสรู้อย่างนี้ละเหรอๆ ธรรมแท้เป็นอย่างนี้ละเหรอๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พระสงฆ์แท้เป็นอย่างนี้ละเหรอๆ ซ้ำ แล้วพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ยังไง
คำว่าพุทโธ ธัมโม สังโฆ ติดหัวใจมาตั้งแต่ต้นจนถึงขณะนั้นแหละ พอขณะฟ้าดินถล่มขาดออกไปแล้ว พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ยังไง นั่นเป็นแล้วนะนั่น เป็นอันเดียวกันแล้ว ตั้งแต่ขณะนั้นมาไม่เคยมีกิเลสตัวใด ไม่ว่าความโกรธ ความโลภ ความหลง ราคะตัณหา เป็นกิเลสทั้งนั้น ขาดสะบั้นไปตามๆ กันหมด แล้วไม่ปรากฏว่ามีกิเลสตัวใดที่แทรกขึ้นมาให้เราได้เอะใจ หือ กิเลสตัวนี้กูม้วนเสื่อมึงแล้วตั้งแต่วันนั้นแล้ว มึงยังโผล่หน้าขึ้นมาให้กูเห็นอีกเหรอ ไม่เคยมีจนกระทั่งบัดนี้ละ
นี่ละอำนาจแห่งการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า โกหกโลกไหม พิจารณาซิ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สดๆ ร้อนๆ ประกาศกังวานเพื่อความรื้อขนสัตว์ว่า นี้คือทางพ้นทุกข์ นี้คือตลาดแห่งความพ้นทุกข์ ได้แก่ศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า ท่านทั้งหลายได้เห็นหรือยัง ได้ฟังหรือยัง หรือฟังตั้งแต่เพลงลูกทุ่งลูกกรุงตลอดมา นี้พวกเพลงพาให้จมนะ เพลงธรรมของพระพุทธเจ้านี้พาให้สว่างไสวขึ้นโดยลำดับจนกระทั่งถึงความพ้นทุกข์ มองดูโลกเหมือนส้วมเหมือนถาน ความคิดอันนี้ความเห็นอันนี้ไม่เคยมีในหัวใจแต่ก่อน พอธรรมชาตินี้ขึ้นมาผางเลยสมมุติไปเสียทั้งมวลแล้ว จึงได้มองเห็นอันนี้กลายเป็นฟืนเป็นไฟเป็นส้วมเป็นถานไปหมดในบรรดาสามแดนโลกธาตุนี้
ท่านจึงยกเป็นภาษิตขึ้นมาอีกว่า ทุกฺขํ นตฺถิ อชาตสฺส ทุกข์ย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่เกิด นั่นเห็นไหม ทุกข์จะเอามาจากไหนเมื่อไม่เกิด ไม่เกิดทั้งกิเลสตัณหา ไม่เกิดทั้งภพทั้งชาติต่อไปแล้วจะเอาทุกข์มาจากไหน นี้ความเลิศเลอในแดนพุทธศาสนาที่สอนโลกมาเป็นเวลานาน พุทธศาสนาของเราก็สอนมา ๒๕๐๐ กว่าปีนี้แล้ว เป็นยังไงพวกเราพากันตื่นเนื้อตื่นตัวหรือยัง หรือใครก็อวดดีอวดเด่นอึ่งอ่างกับวัวอยู่นั้นเหรอ อึ่งอ่างก็คือตัวเราที่พองตัวๆ สำคัญว่าตนดิบตนดี ตัวมั่งตัวมี ตัวยศถาบรรดาศักดิ์สูง จรดฟ้าๆ อยู่นั้นหรือ ไม่ได้มองดูธรรมหรือ ธรรมคือวัว แล้วไปแข่งธรรมแข่งได้ยังไง ธรรมคือวัวหมายความว่าครอบโลกธาตุ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรเหนือธรรม ธรรมเลิศเลอยิ่งกว่าโลกทั้งหลายไปหมด นั่นละถ้าเทียบว่าวัว
พวกเราอย่าเป็นอึ่งอ่าง กิเลสตัณหาเต็มตัวแล้วพองตัว ไปวัดไปวาก็โอ่อ่าๆ ฟู่ฟ่า ไปก็ไปดูพระดูเณรเหมือนจะไปให้คะแนนพระ ตัดคะแนนพระเณรนั้นแหละ ท่านผู้ปฏิบัติดีท่านดูอยู่นี้น่ะ ถ้าเป็นพระเณรประเภทที่จะควรตรวจตราดูคะแนนตัดคะแนนเพิ่มคะแนนก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง พระเณรมีหลายประเภท พระเณรที่เหนือนั้นแล้วเราไปหาตรวจตราพาทีดู จะคอยตัดคะแนนเพิ่มคะแนนให้ท่าน ท่านหัวเราะจะตาย ท่านสลดสังเวช นี่อึ่งอ่างมาเป็นอย่างนี้ละเหรอ มาตรวจตราพระเณรที่ปฏิบัติธรรม ตัวเองดีหรือไม่ดียังไงทำไมไม่ดูตัวเอง ธรรมท่านย้อนเข้าไปตรงนั้นมันก็สลดสังเวชละซิ เวลานี้พวกเรานี่พวกอึ่งอ่างกับวัวนะ กิเลสแข่งธรรม อึ่งอ่างคือกิเลสอยู่ภายในหัวใจของเรามันกำลังแข่งธรรม อวดดิบอวดดียิ่งกว่าธรรม แล้วที่สุดก็จมๆ ขอให้ท่านทั้งหลายจำเอา
นี่พูดถึงเรื่องวิทยุที่ออกช่วยชาติบ้านเมืองเราพอใจแล้ว วิทยุที่ออกไปทั้งหมดที่เป็นเสียงธรรมซึ่งเรานำมาแสดงนี้ไม่มีที่ต้องติ เราเองเป็นผู้แสดงออก หาที่ต้องติตัวเองไม่ได้เพราะออกจากความถูกต้อง เลิศเลออยู่ในหัวใจนี้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีที่คัดค้านต้านทาน ท่านผู้ใดนำออกไปได้ยินได้ฟังปฏิบัติตาม เอาเถอะ ธรรมนี้จะพาท่านทั้งหลายลงนรกให้เห็นสักทีน่ะ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์สอนโลกไม่เคยพาโลกให้ลงนรก เฉพาะอย่างยิ่งพระสมณโคดมของเราสอนโลกมานาน ขนขึ้นสวรรค์นิพพานทั้งนั้นๆ ไม่ได้ขนลงนรก มีแต่เทวทัตคือกิเลสแทรกธรรม มันลากสัตว์โลกลงนรกทั้งนั้นๆ ส่วนธรรมไม่มี
เอา ไปฟังเถอะ จะเป็นกี่สถานีก็ตาม ขอให้ฟังด้วยความจริงใจ ดังผู้นำมาเทศน์ ปฏิบัติด้วยความจริงใจแทบเป็นแทบตายมาแล้ว เป็นเดนตายมาสั่งสอนโลก เราจึงไม่สงสัยในธรรมที่สอนโลก ให้ท่านทั้งหลายฟังให้ดี หลวงตาบัวตายแล้วจะไม่มีใครพูดอย่างนี้ นี้พูดออกมาจากหัวใจที่จ้าอยู่ครอบโลกธาตุอยู่เวลานี้ พูดให้ชัดเจน ธรรมพระพุทธเจ้าของดิบของดีมาพูดไม่ได้เหรอ ของเลวเขาออกประกาศทั่วโลกนี้ไม่เห็นตื่นตระหนกตกใจ ไม่เห็นสะกิดใจบ้างเลย ธรรมออกมาเพื่อรื้อถอนให้พ้นจากทุกข์ทำไมจะตำหนติเตียน งงงั้นอั้นตู้กันไปแบบบ้าๆ ของกิเลสนั่นน่ะ
นี้เอาไปฟังซิ ใครจะว่าอะไรก็ว่าเถอะ มันเลยหมดแล้วเรื่องสมมุติสามแดนโลกธาตุในหัวใจดวงนี้ นำธรรมออกจากหัวใจดวงนี้มาแสดง มันก็เหมือนกับหมาอมขี้เห่าว้อๆ ปากอมขี้ นี้ปากพระพุทธเจ้าปากสาวกทั้งหลายท่านเป็นปากอมธรรม แสดงไปที่ไหนเป็นมงคลทั้งนั้น ไม่ได้เป็นมูตรเป็นคูถเป็นเสี้ยนเป็นหนามเป็นฟืนเป็นไฟเผาโลก เหมือนปากกิเลสที่เรียกว่าปากอมขี้ ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง ขี้ราคะตัณหา อันนี้ปากอมขี้ ปากพระพุทธเจ้าปากสาวกทั้งหลายไม่มีขี้เหล่านี้ติดหัวใจเลย ท่านนำมาสอนโลกจึงนำโลกให้หลุดพ้นจากทุกข์ไปโดยลำดับ จึงขอให้ท่านทั้งหลายได้นำไปประพฤติปฏิบัติ
ให้ตื่นเนื้อตื่นตัวบ้างนะอย่าให้กิเลสกล่อมตลอด เวลานี้กิเลสยิ่งกล่อมหนักเข้าไป ศาสนาไม่มีค่าแล้วเวลานี้ กิเลสไปมีค่า กองมูตรกองคูถคือกิเลสไปมีค่าบนหัวใจสัตว์โลกเสียหมด ธรรมะที่มีคุณค่าอันเลิศเลอเหมือนทองคำทั้งแท่งนี้ ถูกเหยียบถูกย่ำจากกิเลสเสียจนจะไม่มีเหลือ ใจดวงหนึ่งมันคิดถึงอรรถถึงธรรมมากน้อยเพียงไร แต่คิดเรื่องกิเลสวันยังค่ำคืนยังรุ่ง บางคืนนอนไม่หลับเพราะเสียอกเสียใจผิดหวัง มือเกยหน้าผากนอนไม่หลับก็มี นี่ละกิเลสดัดสันดานคน ธรรมท่านดัดสันดานที่ไหน ไม่มี ถ้าท่านไม่นอนอย่างนี้ก็ อย่างประกอบความเพียรท่านไม่นอน เพลินฆ่ากิเลส นี่ท่านไม่นอน นอนไม่หลับตลอดรุ่งก็มี นี่เราก็เอาออกมาจากสนามรบบนหัวใจเรา
การประกอบความเพียรถึงขั้นธรรมหมุนแล้วนี้ กิเลสอยู่ที่ไหนหมุนตลอดเวลา เหมือนกิเลสอยู่บนหัวใจสัตว์โลกทั่วๆ ไป กิเลสทำงานบนหัวใจสัตว์โลกนี้เป็นอัตโนมัติ ไม่ต้องมีติดเครื่องดับเครื่องอะไรละ ติดเครื่องมันติดของมันเอง แต่ดับดับไม่ลง ไม่มีเครื่องดับกิเลส ดับเครื่องกิเลสเผาหัวใจสัตว์โลก จึงต้องมีธรรมเข้าไป พระพุทธเจ้าเป็นน้ำดับไฟ คือธรรมนั้นดับหัวใจโลก เอา นำไปพิจารณาภาวนาซิ พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี้คือน้ำดับไฟ กิเลสมันวุ่นอยู่ภายในหัวใจเป็นฟืนเป็นไฟ นั้นคือไฟเผาหัวใจโลก ให้นำธรรมนี้เข้าไประงับดับมัน เราจะมีวันพออยู่พอกินพอหลับพอนอน
สมบัติเงินทองข้าวของเป็นสิ่งภายนอก ท่านทั้งหลายฟังให้ดี อย่าเป็นบ้ากับไอ้หลังลายจนเกินไป แร่ธาตุต่างๆ สิ่งนั้นสิ่งนี้ดีนั้น ดีไปตามแร่ธาตุ ไปตามความเสกสรรปั้นยอของเรา ดูตัวของเรามันดีหรือไม่ดี มันเลวหรือไม่เลว ไปตำหนิตรงนั้นไปยอตรงนี้ คือหัวใจดวงนี้ตัวคึกตัวคะนอง ดูหัวใจดวงนี้ ดูหัวใจดวงนี้ด้วยอรรถด้วยธรรม จิตใจสงบแล้วจะเห็นโทษเห็นภัยของตัวเองที่แสดงออกทุกแง่ทุกมุมเรื่อยมา แล้วจะเห็นโทษของมันตลอดไปจนกระทั่งถึงไม่มีโทษที่แสดงจากหัวใจแล้ว มีแต่ความสง่างามจ้าครอบโลกธาตุ นี่ธรรมถ้าได้ครอบหัวใจแล้วเป็นอย่างนั้น
เราอยากให้พี่น้องทั้งหลายปฏิบัติตามธรรมของพระพุทธเจ้าสดๆ ร้อนๆ นี่น่ะมรรคผลนิพพานอยู่กับพุทธศาสนา ตลาดแห่งมรรคผลนิพพานอยู่ที่นี่ สถาบันสังหารกิเลสก็อยู่ที่พุทธศาสนานี้แหละไม่อยู่ที่ไหน ให้พากันตั้งใจประพฤติปฏิบัติ นี่จวนจะตายแล้วก็บอกจวนจะตาย จะอยู่ไปได้กี่วัน ความเมตตาสงสารนี้จึงล้นพ้นตลอดมา ที่จะมาห่วงใยเจ้าของด้วยเรื่องเป็นเรื่องตายเราบอกว่าเราไม่มี อันนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้เท่านั้นแหละ แนะนำสั่งสอนเต็มกำลังความสามารถ หมดสภาพของมันแล้วก็ขาดสะบั้นลงไปเขาเรียกว่าตาย ธรรมชาตินั้นไม่มีอะไรที่จะไปเกี่ยวข้องได้แล้ว เลิศเลออยู่ในหัวใจตลอดเวลาไม่มีกาลสถานที่ ท่านเรียกว่านิพพานเที่ยง ก็คือธรรมธาตุ ได้แก่ใจที่บริสุทธิ์ล้วนๆ แล้วนั้นแล คือนิพพานธาตุ หรือธรรมธาตุอยู่ตรงนั้น
ออกมาจากพระพุทธเจ้านะ พระพุทธเจ้าทรงค้นพบเป็นพระองค์แรก สาวกทั้งหลายค้นพบเป็นลำดับลำดามา เอาธรรมประเภทนี้มาสอนโลก โลกเห็นว่าเป็นธรรมหรือเห็นว่าเป็นมูตรเป็นคูถ แล้วก็ไปเห็นว่ากิเลสที่เป็นมูตรเป็นคูถว่าเป็นทองคำทั้งแท่งนั้นเหรอ ถ้าอยากให้มันเหยียบหัวเป็นฟืนเป็นไฟต่อไปก็ให้เสกสรรกิเลสขึ้นให้มากๆ นะ เอา โลภให้มาก ได้เท่าไรอย่าพอ กินบ้านกินเมืองกินตับกินปอดประชาชนเขา เอาให้แหลกหมดอย่าให้มีเหลือ เอามาเลี้ยงตัวเอง มันจะใหญ่ไหมไอ้กิเลสตัวนี้น่ะ เอาตับปอดของประชาชนคนทั้งประเทศ แล้วเอาคนทั้งโลกมากินมันก็ไม่อิ่ม ความโลภตัวนี้กินไม่อิ่ม อะไรกินไม่อิ่ม
จนตาย กิเลสไม่เคยพาอิ่ม นตฺถิ ตณฺหาสมา นที แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี แม่น้ำยังมีฝั่งมีฝา มหาสมุทรทะเลหลวงมีฝั่ง แต่กิเลสตัณหาไม่มีฝั่ง ท่วมท้นไปได้หมดเลย ไม่มีอะไรเกินกิเลสตัณหา ถ้าวิ่งตามความโลภ โลภจนตายจมไปเลย ความโกรธราคะตัณหาวิ่งตามมัน จมไปด้วยกันทั้งนั้นไม่มีใครฟื้นขึ้นมา นอกจากเอาธรรมเข้าไปเป็นน้ำดับไฟ อย่าโลภมาก พออยู่พอกินให้อยู่ให้กินไปอย่าดีดอย่าดิ้นเกินไป อย่าโกรธอย่าแค้น ความโกรธเกิดจากเจ้าของเผาเจ้าของก่อนแล้วจึงไปเผาคนอื่น ราคะตัณหาก็เหมือนกันมันเผาอยู่ในหัวใจของทุกคนๆ ให้พากันระงับดับมัน ดับไม่ได้ให้มันอยู่ในกรอบแห่งความพอดีพองาม โลกจะพอมีความสุขซุกหัวนอนได้บ้าง ถ้าไม่น้ำดับไฟแล้วจมไปด้วยกันหมด พากันจำเอานะทุกคน เอาละเทศน์เท่านี้ละ เทศน์ไปเหนื่อย
ผู้กำกับ หลวงตาครับ จังหวัดพิษณุโลกที่เสนอขอเมตตาเครื่องมือผ่าตัดดวงตามาดังต่อไปนี้นะครับ รายการอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่ขอสนับสนุน เพื่อใช้ในโรงพยาบาลจังหวัดพิษณุโลก
๑.เครื่องเลเซอร์ชนิดลำแสง เพื่อรักษาโรคเบาหวานขึ้นตา ต้อหิน และประสาทตาหลุดออกชนิดมีรูฉีกขาด ๑ เครื่อง
๒. เครื่องเลเซอร์ชนิดลำแสง NDYAG เพื่อรักษาสภาวะถุงหุ้มเลนส์ชุ่มและรักษาโรคต้อหิน โดยใช้ร่วมกับเครื่องรายการที่หนึ่ง
๓. เครื่องจี้ความเย็น ๑ เครื่อง
๔. เครื่องผ่าตัดน้ำวุ้นตา ๑ เครื่อง
๕. เครื่องเลเซอร์และอุปกรณ์ ๑ เครื่อง
รวมยอดทั้งหมด ๕ รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น ๙ ล้าน ๕ หมื่นบาทถ้วนครับ
หลวงตา ๙ ล้าน ๕ หมื่นบาทถ้วน ไอ้เรามันมีแต่หัวล้าน จะไปแข่งเขาได้ไหมล่ะ เป็นอันว่ารับทั้งหมดเลยนะ (สาธุ) เราจะเป็นบ๋อย ไม่มีใครไปไถ่ถอนตัวก็ให้เห็นสักที ลูกศิษย์เราอย่างน้อยเต็มศาลา มากกว่านั้นเต็มเมืองไทย เราจะยอมติดคุกติดตะราง ถ้าไถ่ถอนตัวไม่ได้เราติดคุกเราจะยอมติด สั่งเลย เอ้า เข้าใจแล้วหรือ เอาไปเลย สั่งเลย บอกเขาเสีย โอ๋ย สงสาร เป็นจุดสำคัญ ตานี่สำคัญมาก เห็นไหมคนวิ่งว่อนถึงกันเที่ยวกันเตร็ดเตร่เร่ร่อนสนุกสนานเป็นบ้ากันเลยเพราะตาดี ถ้าตาบอดมันไม่ไปละเข้าใจไหม ตานี่สำคัญมาก เราจึงเห็นว่า เอ้า เอาเลย
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |