อย่าให้เราอุ้มให้หนัก
วันที่ 19 มีนาคม 2549 เวลา 8:40 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙

อย่าให้เราอุ้มให้หนัก

ก่อนจังหัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำสื่อมวลชนมาจากกรุงเทพมหานคร แล้วที่อุดรเรามีบ้างหรือเปล่าล่ะ หรือมีแต่ทางกรุงเทพ มีหรือเปล่าเมืองอุดร (มีครับ) นึกว่าไม่มีเมืองอุดร เราขายหน้าไม่อยากอ่าน เอ้า อ่านใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีนำสื่อมวลชนจาก ก.ท.ม.และจังหวัดอื่นๆ มาทำบุญตักบาตร และรับฟังธรรมจากหลวงตา ตามโครงการหอมดินกลิ่นศีล อีสานโบราณ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานี

การท่องเที่ยว เราอย่าท่องเที่ยวตามกิเลสตัณหาจูงจมูกไปนะบรรดาลูกๆ หลานๆ หลวงตาจวนจะตายแล้วยิ่งห่วงลูกห่วงหลานมากนะ เพลินเกินเนื้อเกินตัวเวลานี้ เรียนวิชามีแต่วิชากิเลสจูงจมูก ดูซิคนจมูกมันมีไหมเดี๋ยวนี้ หรือกิเลสจูงขาดไปหมดแล้ว มีแต่ความเพลิดความเพลินศีลธรรมไม่มี ก็มีแต่ฟืนแต่ไฟ อย่าดีดอย่าดิ้นไปตามกิเลสจนลืมเนื้อลืมตัวทั้งๆ ที่ศีลธรรมมีอยู่ ให้ศีลธรรมฉุดลากเอาไว้บ้าง ไม่งั้นจมได้นะ

น่าสลดสังเวชนะเมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธ แต่เวลาการปฏิบัติ ดูกิริยาอาการของชาวพุทธเรามันกลายเป็นชาวผีไปหมดแล้ว มีแต่ความเพลิดความเพลินรื่นเริงบันเทิง ไปอยากดูนั้นเห็นนี้ ที่จะอยากดูเพื่อความเป็นคติเครื่องเตือนใจในทางศีลทางธรรมนี้ไม่ค่อยมี เห็นไหมป้ายหน้าวัดนั่น ที่นี่คือวัด หรือที่นี่เป็นวัด เป็นสถานที่ภาวนาเพื่อความสงบใจ ไม่มีกิจจำเป็นไม่ควรมาเที่ยวเพ่นพ่าน เราเขียนไว้เห็นไหมนั่น หลวงตาบัวเป็นคนเขียนเอง ไม่ใช่ผู้อื่นผู้ใดมาอุตริ ถ้าอุตริก็หลวงตาบัวอุตริเองเขียนไว้ ให้ท่านทั้งหลายอ่านบ้างนะ

คือมันเพลินเกินเนื้อเกินตัว มันขวางหูขวางตาจนทนไม่ไหวแล้วว่างั้นเถอะ จึงไปเขียนประกาศติด ให้ได้มีสติสตังนำไปคิดบ้าง เวลานี้กิเลสเหยียบย่ำทำลายพุทธศาสนาในเมืองไทยเราจนจะไม่มีเหลือแล้ว เราอย่าว่าตั้งแต่ประชาชนเลย แม้แต่ในวัดในวา วัดวาแต่ละวัดละวาเดี๋ยวนี้มันกลายเป็นส้วมเป็นถานไปหมดแล้ว พระเณรในวัดในวากลายเป็นมูตรเป็นคูถด้วยการปฏิบัติเหลวแหลกแหวกแนว จนหาที่กราบไหว้บูชาไม่ได้แล้วเวลานี้ ให้ท่านทั้งหลายคิดนะลูกๆ หลานๆ นี่คิดแล้วค่อยพูด

ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะจอมปราชญ์ฉลาดแหลมคม นำโลกให้พ้นจากทุกข์ได้ด้วยธรรมของพระองค์ เราเป็นลูกๆ หลานๆ ก็ขอให้พากันคิดบ้าง อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม อย่าลืมเนื้อลืมตัวจนเกินไป มันพิลึกพิลั่นนะเวลานี้ วันนี้ลูกหลานมาตักบาตรทำบุญก็ถูกต้องแล้ว ให้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ฟังเสียงเรื่องของกิเลสตัณหามันฟังตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับ เสียงอรรถเสียงธรรมจะได้ยินเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ยินมากนะ วันนี้มาฟังทั้งเสียงอรรถเสียงธรรม ได้ทำบุญตักบาตร นี้เป็นประเพณีของมนุษย์เราที่มีศีลธรรม เฉพาะอย่างยิ่งเมืองไทยเราเป็นเมืองชาวพุทธ ขอให้ได้นำอันนี้ไปเป็นคติเครื่องเตือนกันในประเทศไทยของเรา

มันเลอะเทอะไปหมดแล้วนะเดี๋ยวนี้เมืองไทย ยังเห่อยังเป็นบ้ากันอยู่เหรอเมืองไทยทั้งประเทศนี้น่ะ เป็นเมืองพุทธ มันเมืองพุทธเป็นบ้า เมืองผีเป็นบ้าเราก็ไม่ว่า ไอ้เมืองพุทธเป็นบ้าไม่อยากได้ยินนะ ไปที่ไหนดูกิริยาท่าทางจนจะดูไม่ได้ สลดสังเวช เจ้าของยัง โถ เพลินทีเดียว เห่อเป็นบ้าไปอีกยังไม่รู้เนื้อรู้ตัว นี่ละเอามูตรเอาคูถมาประดับตัวว่าเป็นของสวยของงามแทนทองคำทั้งแท่ง คือธรรมทั้งหลายเป็นทองคำทั้งแท่งปัดออก เอาแต่มูตรแต่คูถคือกิเลสตัณหามาประดับตน ด้วยกิริยามารยาทที่เลวทรามประดับตน ไปที่ไหนมันงามด้วยมูตรด้วยคูถ ไม่ได้งามด้วยศีลด้วยธรรม

งามด้วยศีลด้วยธรรม การประพฤติตัวมีความเรียบร้อยสวยงาม คัดเลือกการพูดการจาการกระทำของตน อะไรผิดอะไรถูกให้คัดเลือก ต่างคนต่างคัดเลือกจะมีคนดีขึ้นมากในเมืองไทยเรา ถ้าไม่มีใครคัดเลือก ตะกละตะกลามไปตามกิเลสนี้แหลกไปหมดนะ เราได้พูดให้ฟังท่านทั้งหลายให้ฟัง ให้ดูธรรม สถานที่ใดเป็นคติเครื่องเตือนใจแล้วให้ไปดูให้ไปศึกษา จะได้เป็นคติอันดีงามติดตัวของเรามา ไปเพ่นๆ พ่านๆ ไปแบบกิเลสตัณหา ไปที่ไหนก็ไม่ได้หน้าได้หลังแหละ

วันนี้ลูกหลานมาตักบาตรฟังธรรมแล้วก็ได้เป็นคติเครื่องเตือนใจ นี้เป็นสิริมงคล และมีหัวหน้ามา ผู้นำคือใคร อุดรเราก็มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำ งานการต่างๆ ขอให้มีผู้นำเถอะ ดีๆๆ นะ เดี๋ยวนี้วงราชการต่างๆ ที่จะนำในทางพุทธศาสนามีน้อยมาก แทบจะว่าไม่มี ถ้านำในเรื่องความเสื่อมความเสียนี้ โหย เต็มบ้านเต็มเมือง ยิ่งใหญ่เท่าไรยิ่งนำความเลวร้ายดังเขาตำหนิอยู่เวลานี้ เมืองไทยเหม็นคลุ้งไปหมดเพราะหัวหน้าพาให้เหม็น หัวหน้าพาให้เน่าเฟะ มันดูไม่ได้นะ หัวหน้าแบบนั้นใช้ไม่ได้

หัวหน้าที่ดีนำบริษัทบริวารไปในทางที่ถูกที่ดีเป็นคติแก่โลก ไปที่ไหนเขากราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจเคารพนับถือ นี่คือผู้ดี พระก็ดีอย่างนั้น ฆราวาสก็ดีไปอีกอย่างหนึ่ง เป็นที่เคารพนับถือของลูกๆ หลานๆ ต่อไป ผู้นำทางพุทธศาสนาไม่ค่อยมีนะเวลานี้ แต่ผู้นำในทางฉิบหายวายปวงอันเป็นเรื่องของกิเลสเต็มบ้านเต็มเมือง แม้แต่อยู่ในท้อง แม่มันเป็นอันธพาล ลูกมันก็เป็นอันธพาล เลยกลายเป็นลูกหลานเหลนโคตรแซ่อันธพาลไปหมดนะเวลานี้ จะไม่มีโคตรแซ่แห่งอรรถแห่งธรรมเหลือติดตัวชาวพุทธของเราในเมืองไทยนะ เอาละ ต่อไปนี้จะให้พร

หลังจังหัน

วันนี้เป็นวันอาทิตย์เป็นวันว่างของทั่วโลกที่ถือกัน วันเสาร์วันอาทิตย์เป็นวันว่าง สำหรับชาวพุทธเราวัน ๗ ค่ำ ๘ ค่ำ ๑๔-๑๕ ค่ำ ทางพุทธศาสนาประกาศให้เป็นวันว่างงานภายนอก แล้วบำเพ็ญงานภายในเข้าสู่ใจ งานภายในคือการบำเพ็ญกุศล ทำบุญให้ทาน เข้าวัดเข้าวาฟังธรรมจำศีลอะไรก็ได้ โลกเขาถือกันวันเสาร์วันอาทิตย์นี้เรียกว่าทั่วโลก เราก็แอบเอากับเขาซิ เราก็อยู่ในโลกกับเขาจะให้เสียท่าเสียทีไปทำไม วันเสาร์วันอาทิตย์ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นวันว่างงาน  งานนี้เขาจะบำเพ็ญทางศาสนาของเขาเขาก็บำเพ็ญ ทางพุทธศาสนาเราก็บำเพ็ญทางพุทธศาสนา ถือว่าวันเสาร์วันอาทิตย์เป็นวันว่าง แล้ววัน ๗ ค่ำ ๘ ค่ำ ๑๔-๑๕ ค่ำก็เป็นวันว่างสำหรับบำเพ็ญธรรม

เราอยากเห็นพี่น้องลูกหลานไทยของเราหันหน้าเข้าสู่ธรรม เวลานี้หันหน้าเข้าสู่ทางโลกซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟ รอเผาไหม้หัวใจโลกอยู่ตลอดเวลาหาความสงบร่มเย็นไม่ได้ นี่คือเรื่องของกิเลสทำงานบนหัวใจสัตว์ กระจายออกไปทางกิริยามารยาท ความประพฤติ หน้าที่การงาน เลยเป็นของเลอะเทอะไปหมด ไม่มีธรรมเข้าแทรกอยู่ในนั้นแล้วจะเป็นของเลอะเทอะหาประมาณไม่ได้นะ ต้องมีธรรมเข้าแทรกเสมอ

เรื่องธรรมเป็นเรื่องสำคัญมาก ในขณะเดียวกันกิเลสมันไม่ประกาศว่ามันสำคัญมาก แต่มันสำคัญทุกหัวใจคน อยู่ในนั้นหมด เรื่องธรรมนี้จะมีน้อยมากทีเดียวที่จะเข้าแทรกอยู่ในนั้นด้วย เกือบว่าจะไม่มี โลกจึงหาความสุขไม่ได้ ต่างคนต่างวิ่งเต้นขวนขวายหาความสุขความเจริญความสมหวัง ครั้นได้มาแล้วก็มือเกยหน้าผาก คิดจนกระทั่งนอนไม่หลับ ผิดหวัง ติดหนี้ติดสินเขาพะรุงพะรังเป็นตาข่ายครอบประเทศไทยและทั่วโลก ติดหนี้ติดสินระโยงระยางไปหมด ถ้าเป็นตาข่ายเรียกว่าครอบโลก มีแต่ตาข่ายของหนี้สินติดหนี้กัน

ในธรรมท่านบอกว่า ความติดหนี้ติดสินนี้เป็นทุกข์มากในโลก ความไม่ติดหนี้ติดสินนี้เป็นสุขมาก เป็นความสงบร่มเย็นในโลก แต่มนุษย์เรานี้ชอบติดหนี้ติดสิน เพราะความทะเยอทะยานดีดดิ้น อยากได้อยากมีอยากดีอยากเด่น อยากมีชื่อเสียงโด่งดัง หาไม่ได้ก็ไปกู้ไปยืมเขามาเพื่อเป็นต้นทุนค้าขาย ให้ได้กำไรมากๆ ขึ้นไป รวยๆ สุดท้ายที่ไปกู้ยืมเขามานั้นหาดอกให้เขาก็จะไม่ทัน ต้นนั้นก็เรียกว่าฝังหัวใจแล้ว เป็นคนติดหนี้เขาเป็นกองทุกข์อยู่ภายในใจ แล้วยังวิ่งเต้นขวนขวายหาดอกมาเพื่อเขาอีก แล้วผลที่ได้จากการไปยืมเขามาเลยจะไม่มีนะ มีน้อยมากทีเดียวที่กู้ยืมเขามาแล้วตั้งตัวได้ นี้มีน้อยมาก ส่วนมากมักจะล่มจมไปเพราะความทะเยอทะยานนั่นแหละพาโลกให้ล่มจม

ธรรมท่านไม่พาใครให้ล่มจม ไม่เคยมี ผู้ปฏิบัติตามธรรมได้รับความล่มจมฉิบหายวายปวง มีความทุกข์ร้อน ถูกเผาอยู่ในมนุษย์ทั้งเป็นตลอดลงไปนรกทั้งตายนั้นไม่เคยมีในธรรมของพระพุทธเจ้า แต่ในเรื่องของกิเลสมีอยู่ท่วไป ไม่ต้องหาก็มี มีในตัวของเราเอง ในหัวใจของเรานี้มันร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ กิริยาภายนอกมาประดับร้านกันว่าสดสวยงดงาม แต่งตัวโก้หรูโอ่อ่าฟู่ฟ่ามาอวดกันหน้าร้าน แต่ภายในมีแต่ขี้หมูราขี้หมาแห้ง กองฟืนกองไฟเผาไหม้อยู่ในขี้หมูราขี้หมาแห้งนั้นหัวอกจะแตก นี่เรื่องความทะเยอทะยานของใจเป็นอย่างนี้

อย่าพากันทะเยอทะยานจนเกินเหตุเกินผล ลืมเนื้อลืมตัว เสียคนได้เพราะความทะเยอทะยานนั้นแหละไม่ใช่อะไร เราออกมานี้ประดับร้านกันนะ ไปที่ไหนๆ หรูหราฟู่ฟ่าไปหมด ทางภายในเจ้าของร้านๆ เป็นยังไง มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้อยู่ในหัวอก เอาธรรมจับเห็นหมด การพูดทั้งนี้เรียกว่าเอาธรรมมาจับ ไม่ได้มาอุตริ นี่ละที่ไม่มีธรรมในใจมีแต่โลกก็มีแต่ฟืนแต่ไฟ ไปที่ไหนทุกหย่อมหญ้าไฟเผาหัวอกไปตลอดเวลา กิริยาที่แสดงออกหนักเข้าไปก็เป็นสงครามโลกขึ้นมา นี่คือกิเลสมันระเบิดเอาให้ฉิบหายวายปวงไปหมด นี่คือเรื่องของกิเลส

ใครก็ว่าดีว่าเด่น ครั้นทำลงไปแล้วมันฉิบหายทั้งสองทางนั่นแหละ เหมือนหมากัดกัน ตัวนั้นก็เก่งตัวนี้ก็เก่ง ครั้นกัดกันแล้วมันเจ็บทั้งสองตัวนั่นแหละ ตัวแพ้ตัวชนะเจ็บ ดีไม่ดีตัวชนะเจ็บมากยิ่งกว่าตัวแพ้ นักมวยเหมือนกันต่อยกันบนเวที ใครก็จะเอาชนะๆ สุดท้ายก็เจ็บทั้งสองฝ่าย ผู้ชนะเจ็บมากกว่าผู้แพ้ไปเสียอีกก็มีเยอะ เรื่องความอยากดีอยากเด่นอยากดังมันดังไปทางนั้นละ ดังของกิเลส ถ้าอยากดีอยากเด่นทางธรรมะนี้ อยากดังอยากเด่นเท่าไรนี่ก็คือ เอาเข็มทิศที่สำคัญเข้ามาตั้งจุดลงไป เพื่อบำเพ็ญธรรมให้ถึงพระนิพพาน ผู้นี้จะมีความสงบร่มเย็นตลอดไป ถึงจะทุกข์ก็ทุกข์เพื่อความสุขความเจริญ ทุกข์ขนาดไหนก็ตามทุกข์เพื่อความสุขๆ ไม่ใช่ทุกข์เพื่อมหันตทุกข์เหมือนกิเลสพาให้เป็นไป ต่างกันอย่างนี้

การบำเพ็ญธรรม จึงเป็นของสะดวกสบายภายในจิตใจ เรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ สมบัติเงินทองข้าวของเป็นสิ่งภายนอก เจ้าของคือจิตใจเป็นเจ้าของอันใหญ่โตอยู่ภายใน ให้ปรับปรุงจิตใจให้ดี ถ้าอยากได้สมบัติมาครองตัวเองให้เป็นความสงบร่มเย็น ขอให้ปรับปรุงจิตใจให้ดี อย่าปรับปรุงแต่ภายนอก อันนั้นได้มา อันนี้เสียไป ได้มาเสียไป ทางเข้าทางออกของการจับการจ่ายการได้มามันไม่ทันกัน สุดท้ายก็ติดหนี้ติดสินเขาพะรุงพะรัง นี่คือความทะเยอทะยานของกิเลส ให้ท่านทั้งหลายพากันจำเอานะ

ธรรมท่านไม่ทะเยอทะยานจนเกินเหตุเกินผล มีมากมีน้อยก็พอครองชีวิตไป ให้มีความสุขความเจริญทางใจ รวมในโลกนี้อย่าไปหาความสุขความทุกข์จากที่ไหนไม่มี ต้นไม้ภูเขาเป็นต้นไม้ภูเขา ดินฟ้าอากาศเป็นดินฟ้าอากาศ ฟ้าแดดดินลม มหาสมุทรทะเลหลวง เป็นสิ่งนั้นๆ ต่างหาก เขาไม่ได้เป็นความสุขความทุกข์เหมือนหัวใจมนุษย์เราที่ไม่รู้จักประมาณ ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมดีดดิ้น นี้ละความทุกข์มารวมอยู่ที่หัวใจสัตว์โลก ถ้ารู้จักประมาณ มีธรรมเข้าจับ มีธรรมเข้าพาดำเนินแล้ว ความสุขก็จะรวมเข้ามาสู่ที่ใจ

ความสุขความทุกข์ในโลกนี้ ไม่มีอะไรเป็นภาชนะรับรองไว้ได้ นอกจากหัวใจของสัตว์โลกอย่างเดียวเท่านั้น เราอย่าเข้าใจว่าสถานที่ใดจะเป็นที่บรรจุความสุขความทุกข์ทั้งหลาย ไม่มี มีที่หัวใจเรา จึงต้องปรับปรุงที่หัวใจเป็นสำคัญมาก ปรับปรุงที่อื่นได้มาเสียไปๆ เอาแน่นอนกับเขาไม่ได้ แต่ปรับปรุงจิตใจของเราให้มีความสงบร่มเย็นสว่างกระจ่างแจ้งขึ้นภายในใจนี้สง่างามไปหมด ทุกข์จนเลยไม่คำนึง เพราะความมั่งมีอยู่ภายในใจมีแล้ว มีอรรถมีธรรม มีความสงบร่มเย็นอยู่ภายในใจ รื่นเริงบันเทิง อยู่ที่ไหนรื่นเริงภายในใจ นี่ละเรียกว่าความสุขมาอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ภายนอกกับสิ่งต่างๆ ที่เราดีดดิ้นหามันตลอดเวลาแทบเป็นแทบตาย ได้มาก็มีแต่ความทุกข์ร้อน ผิดหวังๆ ไปทั้งนั้น วิ่งตามกิเลสเป็นอย่างนี้ ถ้าวิ่งตามธรรมแล้วมีความสงบร่มเย็น

อะไรได้มาก็ได้มา เสียไปก็เสียไป ให้รู้เท่าทันมันเสมอ อย่าดีดอย่าดิ้นว่าได้มาไม่ยอมให้เสีย เป็นไปไม่ได้ แต่เราฝืนความจริงละซิ ได้มาไม่อยากให้เสียไป เวลาเสียไปก็เป็นความทุกข์มาก ให้เข้าใจกันไว้ทั้งได้มาทั้งเสียไป สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งแปรปรวน จิตใจผู้มีธรรมภายในใจแล้วเรียนรู้ทั้งที่ได้มาทั้งที่เสียไป ไม่เสียใจนะ คนที่มีแต่จะเอาท่าเดียวทางเสียไม่มี ผู้นี้จะเป็นทุกข์มาก เพราะทางได้กับทางเสียมันมาด้วยกัน บวกกับลบมันไปด้วยกันนั้นแหละ ให้เรามีธรรมเสมอ

ไม่ได้มองดูใจ โลกเรานี้ไม่มี เราอยากจะว่าไม่มีใครมองดูหัวใจ นอกจากพุทธศาสนาที่ทรงแสดงไว้เพื่อหัวใจโดยถ่ายเดียวเท่านั้น เฉพาะอย่างยิ่งท่านผู้ปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนาเพื่อความพ้นทุกข์โดยถ่ายเดียว เช่นพระท่านไปอยู่ในป่าในเขาบำเพ็ญความดีงามภายในจิตใจ ตีลงไปจิตใจมันฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไปกับกระแสของโลกให้เผาหัวอกตัวเองนั้น ตีเข้าไปๆ ให้กระจายเข้าไปเป็นน้ำดับไฟ ภาวนาให้จิตใจมีความสงบเย็น พอใจเย็นไปแล้วเท่านั้นโลกอันนี้เย็นหมด ถ้าใจร้อนเสียอย่างเดียวโลกนี้ก็ร้อนหมด ทั้งๆ ที่ใจนั้นแหละพาให้ร้อน สิ่งเหล่านั้นเขาไม่ได้มีอะไรเป็นร้อนเป็นหนาวแหละ มันร้อนมันหนาวอยู่ที่ใจของเรา เพราะฉะนั้นจึงต้องปรับปรุงใจให้ดี ถ้าปรับปรุงใจให้ดีแล้วจะพากันร่มเย็นเป็นสุข

ดังที่กล่าวตะกี้นี้พระท่านบำเพ็ญในป่า ชำระจิต ตัวคึกตัวคะนองอยู่กับใจ ใจนี้เป็นมหาเหตุ เกิดขึ้นที่ใจทั้งนั้นๆ  เวลานี้มีแต่กิเลสสร้างที่ทำงานขึ้นที่หัวใจของสัตว์โลก และเผาหัวใจสัตว์โลกไม่ให้ตายแต่ให้ทรมานอยู่อย่างนั้น เพราะใจไม่เคยตาย ใจตายไม่เป็น แต่ความทุกข์ความทรมานนี้ใจยอมรับตลอดไปเลย แม้ที่สุดไปตกนรกหมกไหม้อยู่ตั้งกัปตั้งกัลป์ได้ฟื้นขึ้นมานี้ ความทุกข์ทั้งหลายในแดนนรกนี้ก็ยอมรับทั้งหมด ผู้ทำกรรมหนักๆ ไปยอมรับเสียเอง แต่ไม่ยอมฉิบหายคือใจ ตัวที่เสวยกรรมของตนที่ทำไม่ดีลงไปแล้วนั้น พอฟื้นตัวขึ้นมา เพราะกรรมเป็นของไม่เที่ยงเหมือนกัน กรรมดีกรรมชั่วเป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา แต่แปรปรวนช้าหรือเร็วต่างกันเท่านั้น ตกนรกเป็นกัปเป็นกัลป์ ก็มีการแปรสภาพขึ้นมาเป็นคนดีได้ พ้นจากนรกได้ เหมือนเขาติดคุกติดตะราง ว่าติดตลอดชีวิต เมื่อทำความดีงามเข้าไปนี้ก็พ้นจากโทษมาได้ไม่ต้องติดตลอดชีวิตก็มีเยอะ

ความดีของเรายังมีอยู่ภายในจิตใจดวงนั้น ไม่มีแต่ความทุกข์บาปกรรมอย่างเดียว เวลาตกนรกก็ยอมรับว่าตก ทุกข์ยอมรับว่าทุกข์ ใจไม่ยอมฉิบหาย เวลาผ่านพ้นขึ้นมาได้ด้วยกฎแห่งกรรม คือบาปกรรมอันนั้นสิ้นสุดลงไป บุญมีอยู่ภายในใจก็สนับสนุนกันขึ้นมา พอสนับสนุนกันขึ้นมา รู้เนื้อรู้ตัว ส่งเสริมจิตใจให้ดีขึ้นๆ ใจนี้ก็กลายเป็นใจที่มีคุณค่ามีราคาขึ้นเป็นลำดับลำดา จนกระทั่งเป็นคนดีประจักษ์ใจ สร้างแต่ความดีงาม

ความชั่วเห็นเป็นฟืนเป็นไฟไปหมด ไม่เล่นด้วยเลย จะสร้างแต่ความดีงาม นี้คือจิตของท่านผู้มีอุปนิสัยปัจจัยที่จะหลุดพ้นโดยถ่ายเดียวแล้ว เห็นความชั่วเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ตัวเอง เห็นความดีงามนี้เป็นแก้วเป็นแหวนภายในจิตใจ กระหยิ่มยิ้มย่องบำเพ็ญเข้า และชำระสิ่งชั่วช้าลามกให้จางไปๆ กลายเป็นความสุขความสงบเย็นใจ เป็นความอัศจรรย์ขึ้นมาภายในจิตใจ นั่นละใจที่มีคุณค่าเกิดขึ้นแล้วในตัวของเราเอง อยู่ที่ไหนก็สะดวกสบาย

ยกตัวอย่างถึงสองสามครั้งแล้ว เช่น พระกรรมฐานท่านบำเพ็ญในป่า ท่านไม่ยุ่งกับอะไรนะ อาหารการกินพอยังอัตภาพให้เป็นไปวันหนึ่งๆ  ได้ฉันอะไรก็แล้วๆ แต่ความมุ่งมั่นอันใหญ่หลวงของท่านเพื่อให้พ้นจากทุกข์โดยถ่ายเดียว นี่เป็นหลักใหญ่ที่สุดในหัวใจ ความทุกข์ความทรมานอะไรจึงไม่เป็นอุปสรรคกีดขวางทางดำเนินแห่งความเพียรของท่านได้เลย ท่านก็ก้าวเดินเรื่อยๆ จิตใจสง่างามขึ้นมา

ทีนี้ในโลกอันนี้อะไรสง่างามที่นี่ หาที่ไหนก็ไม่เจอๆ โลกกว้างแสนกว้าง ความสง่างาม ความแปลกประหลาด ความอัศจรรย์ไม่มีในแดนใด สุดท้ายก็มามีในแดนหัวใจที่บำเพ็ญธรรม ส่งเสริมธรรมเข้าสู่จิตใจนี้เป็นใจที่สง่างาม เป็นใจที่อัศจรรย์ แปลกประหลาดอยู่ในใจนี้หมด รวมมาอยู่ที่ใจนี้หมด ความสุขทั้งหลายที่โลกหวังกันทั่วดินแดนนั้นมาอยู่ที่ใจของผู้บำเพ็ญธรรมเต็มเม็ดเต็มหน่วยนี้ทั้งหมด สุดท้ายอยู่ที่ไหนท่านก็เย็นท่านก็สบาย จนกระทั่งบำเพ็ญให้ถึงขีดสิ้นสุด เรื่องของกิเลสก่อกวนสิ้นไปจากจิตใจแล้ว กลายเป็นใจที่บริสุทธิ์ขึ้นมา นั่นท่านครองบรมสุข บรมสุขอยู่ที่ใจของผู้บำเพ็ญ มหันตทุกข์ก็อยู่ที่ใจของผู้ขวนขวายในทางความชั่วช้าลามกโดยถ่ายเดียว ไม่ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมเลย ผู้นี้มีแต่จมท่าเดียว

ผู้ที่มีแต่จะเจริญท่าเดียว ก็คือท่านผู้บำเพ็ญธรรม หนักเข้าๆ ก็มีความสามารถแก่กล้าขึ้นไป เป็นความพากความเพียรอัตโนมัติ จะหมุนตัวให้หลุดพ้นโดยถ่ายเดียวเท่านั้น อย่างอื่นไม่เอา สมบัติเงินทองข้าวของสามแดนโลกธาตุมามอบให้ไม่เอา จะเอาแต่ความพ้นทุกข์ๆ สุดท้ายความพ้นทุกข์มีกำลังหนาแน่นขึ้นไป จนกระทั่งถึงความพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง ดังพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ท่าน นี่คือท่านผู้พ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง เป็นบรมสุขครองหัวใจ มาสั่งสอนสัตว์โลกสั่งสอนด้วยบรมสุข ไม่ได้สั่งสอนด้วยความเป็นมหันตทุกข์เหมือนโลกทั้งหลายที่เข้ามาฟังการอบรมของท่าน พวกนี้แบกหามตั้งแต่กองทุกข์มา ท่านมีตั้งแต่ความสุขบรมสุขสั่งสอนโลกเรื่อยมาดังที่เห็นนี้

พุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาที่เลิศเลอ สำหรับชาวพุทธเรามีวาสนาแล้ว อย่าปล่อยวางนะ อย่าเห็นขี้หมูขี้หมาว่าเป็นของดิบของดียิ่งกว่าทองคำธรรมชาติ ทองคำธรรมชาติได้แก่ธรรม ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ได้แก่สิ่งที่กิเลสเสกสรรปั้นยอขึ้นมา ไม่ดีก็บอกว่าดี มูตรคูถก็บอกว่าเป็นทองคำ โลกที่หลงตามมันก็วิ่งไปตามมูตรตามคูถ ก็มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ตลอดเวลา หาความสุขความเจริญไม่ได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า โลกนี้และโลกหน้า โลกไหนๆ ก็มีแต่ความทุกข์ เพราะเห็นมูตรเห็นคูถเป็นของดิบของดี ขวนขวายสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาก็เป็นฟืนเป็นไฟเผาหัวอกตัวเองนั้นแล

ส่วนผู้ที่เห็นความดีเป็นความดี เห็นทองคำธรรมชาติเป็นทองคำธรรมชาติ เห็นธรรมเป็นธรรม แล้วบำเพ็ญตั้งแต่ความดีงามขึ้นไป ผู้นี้เป็นผู้ที่จะได้รับการส่งเสริมจากธรรมที่ตนบำเพ็ญไปโดยลำดับ ให้ถึงความพ้นทุกข์ จนกระทั่งพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง สุดท้ายความสุขทั้งหลายมารวมอยู่ที่ใจนี้หมด ไม่มีอะไรเป็นสุขเป็นทุกข์ในโลก มีหัวใจเท่านั้น เป็นทุกข์ก็หัวใจดวงนี้เคยแบกหามมาแล้ว เป็นสุขก็คือหัวใจดวงนี้ปลดเปลื้องสิ่งที่เป็นสาเหตุให้เป็นทุกข์ทั้งหลาย คือความชั่วช้าลามกออกจากจิตใจ มีแต่ใจที่บริสุทธิ์พุทโธล้วนๆ แล้วเป็นใจที่เลิศเลอ

ใจที่เลิศเลอนี้แลคือใจพระพุทธเจ้า ใจท่านพระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นใจที่เลิศเลอ นั่นท่านขวนขวายหาความดีงาม หาอะไรได้อย่างนั้น หาบาปได้บาป หาบุญได้บุญ เราจะหาอะไรเวลานี้ กิเลสมันอยู่ปากคอกนะ เอะอะมันลากไปแล้วๆ จมไปตามมันเรื่อยๆ นั่นแหละ ส่วนบุญกุศลธรรมทั้งหลายนี้เหมือนว่าอยู่หลังคอก เมื่อยังไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นมาปากคอกได้แล้วก็อยู่หลังคอก ให้กิเลสอยู่หน้าคอก ฉุดลากชักจูงไปมามีแต่ความชั่วช้าลามกนรกจกเปรต ตกนรกหมกไหม้ไปเรื่อยๆ อย่างนี้

ผู้ที่สร้างความดีเข้ามาก็กลายมาอยู่ปากคอกแล้วที่นี่ พออยู่ปากคอกแล้วก็ผ่านพ้นไปได้โดยสิ้นเชิงไม่มีเหลือ ท่านผู้สร้างความดีงามด้วยความอดความทน ความฝ่าฝืนกิเลสตัณหาที่มันไม่อยากให้ทำความดีเราทำลงไป การต่อสู้กันต้องต่อสู้กับข้าศึก กิเลสเป็นข้าศึกกับธรรม เราต้องต่อสู้กิเลส เหมือนกับนักมวยเขาต่อยกัน เขาเป็นข้าศึกต่อกัน คนนี้ก็จะเอาชนะ คนนั้นก็จะเอาชนะ ต่อยกันจนได้ชัยชนะขึ้นมาเพราะความไม่ถอย นี้เราก็ต่อยกับกิเลสความขี้เกียจขี้คร้าน ความท้อแท้อ่อนแอ ความไม่เอาไหน เหล่านี้เป็นกิเลสทั้งนั้น

นอกจากนั้นความไม่เชื่อว่าบาปมีบุญมี นรกสวรรค์ พรหมโลก นิพพานมี ความไม่เชื่อเหล่านี้เป็นการสร้างความล่มจมให้ตัวเองโดยถ่ายเดียว ให้ระวังนะ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เชื่อบาปบุญ นรกสวรรค์ พรหมโลก นิพพาน กันทั้งนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ นำธรรมเหล่านี้มาสอนโลกให้รู้ทั้งคุณทั้งโทษ สิ่งที่เป็นคุณให้ส่งเสริมให้มีมากมูนขึ้นภายในใจ สิ่งที่ไม่ดีให้ปัดออกๆ นี่เรียกว่าสร้างตัวเองเพื่อความดีทั้งหลาย อันใดที่เป็นภัยต่อตัวเองนั้นคือข้าศึกของเราให้ปัดทันที กิเลสตัณหาให้ถือเป็นข้าศึกต่อเรา อย่าถือเป็นมิตรเป็นสหายจะตายจมไปกับมันโดยไม่ต้องสงสัย ให้ท่านทั้งหลายได้พินิจพิจารณา

วันนี้เป็นวันว่างวันอาทิตย์ ว่างงานภายนอกขอให้บำเพ็ญงานภายใน นำธรรมเข้าสู่ใจ ธรรมเป็นของเลิศเลอที่จะนำเข้าสู่ใจให้เป็นความสุขความเจริญ จนอวสานสุดท้ายหนุนถึงนิพพาน ไม่ต้องมาล่มจมในโลกเกิดตายนี้ต่อไปอีกก็เพราะอำนาจแห่งบุญ ให้พากันฝ่าฝืนนะ ไม่อยากไปไป ไปทำความดี ไม่อยากทำทำ บังคับกันจึงเรียกว่าต่อสู้กันกับกิเลส เหมือนนักมวยเขาต่อสู้กันบนเวที ถ้าเราอ่อนเขาต่อยเราหงาย อันนี้ถ้าทางฝ่ายธรรมอ่อนแล้วหงาย หงายลงไปไหน ถ้าว่าหงายหมามันจะหยาบไป เราไม่เอาละว่าหงายหมา ถอยจากหงายหมามาเสีย มาเป็นหงายหมอนเข้าใจไหม นอนหลับครอกๆ หงายอยู่กับหมอน หมาสู้ไม่ได้เข้าใจไหมล่ะ

หมาหลับครอกๆ หงายหมาไม่มีใครตำหนิติเตือนกัน ไอ้คนไปภาวนาไปหลับครอกๆ หงายหมอนนี่มันเลวมากนะ ในครัวไฟของเรามากนะ ในครัวหลวงตาบัวลูกศิษย์หลวงตาบัวทั้งนั้น ไปที่ไหนได้ยินเสียงครอกแครกๆ เสียงดินฟ้าถล่ม ฟังจริงๆ แล้วมันมีแต่เสียงกรนครอกๆ อยู่บนหมอนๆ พวกนี้พวกหงายหมอนเข้าใจเหรอ พวกหงายหมาไม่ต้องเอามาพูด เพราะคำว่าหมามันหยาบเข้าใจไหม หลวงตาบัวจะไม่เอามาพูดละคำว่าหงายหมา เอาหงายหมอนดีกว่า อย่าให้มันหงายหมา หงายหมอนก็อย่าเอา

เวลาสู้ๆ เวลาเด็ดๆ การประกอบความพากเพียร ไม่อย่างงั้นไม่ได้กิเลสมันหนาแน่นทุกวัน ไม่มีอะไรฉลาดแหลมคมยิ่งกว่ากิเลส การที่จะรู้สิ่งเหล่านี้ว่าฉลาดแหลมคมขนาดไหนต้องนำธรรมมาปฏิบัติ สุดท้ายยกธรรมขึ้นฉลาดแหลมคมเหนือกิเลส ฟาดกิเลสให้ขาดสะบั้นลงจากใจ ธรรมฉลาดแหลมคมสุดยอดเลย เอากิเลสม้วนเสื่อถึงนิพพานทั้งเป็น พากันตั้งอกตั้งใจนะบรรดาพี่น้องลูกหลาน วันว่างอย่างนี้เป็นวันที่ขวนขวายนำธรรมเข้าสู่ใจ อย่าพากันเพลิดเพลินรื่นเริงบันเทิง ตาก็หลอกให้ไปดูนั้นดูนี้ หูก็อยากฟังนั้นอย่างนี้ อยากฟังไปตามอำนาจของกิเลสหลอกลวง

ตาให้ดูอรรถดูธรรมดูวัดดูวา ดูครูดูอาจารย์ที่เป็นสารประโยชน์ที่เป็นสรณะอันพึงใจของเรา ให้ดู ดูพระ ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมให้ฟัง เสียงอรรถเสียงธรรมไม่พาคนให้ล่มจมให้ฟังเถอะ การบำเพ็ญธรรมก็เหมือนกันไม่พาคนให้ล่มจม เอาบำเพ็ญ การให้ทานมีเท่าไรมากน้อยแบ่งสันปันส่วนแบ่งกินแบ่งทาน อย่าหึงหวงไว้โดยถ่ายเดียวตายแล้วจม กองสมบัติเท่าภูขาไม่มีความหมายเลย คนนั้นไม่ได้ทำบุญให้ทานไว้ ส่วนที่จะเป็นบุญเป็นกุศลนำตนให้พ้นจากทุกข์ไม่ได้สร้างเอาไว้ก็มีแต่ความล่มจม จมไปเลย ในท่านกลางแห่งสมบัติที่มีจำนวนมากมายกองเท่าภูเขา ของเศรษฐีคนตระหนี่นั้นแล

คนมีความเฉลียวฉลาดแหลมคมแยกส่วนแบ่งส่วน อันนี้แบ่งกินนี้แบ่งทาน อันนี้แบ่งให้พวกธาตุพวกขันธ์ อันนี้แบ่งให้จิตใจ ใจจะได้อาศัยนี้ไปในภพชาติหน้าจะมีแต่ความสุขความเจริญ ให้พากันแบ่งสันปันส่วนนะ อย่าหลงโลกหลงสงสาร ธรรมประกาศอยู่เวลานี้ท่านทั้งหลายฟังหรือยัง นี่ละธรรมกำลังประกาศให้รู้ ว่าธรรมเป็นของเลิศเลอขนาดไหนได้ประกาศให้ท่านทั้งหลายทราบ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมากระเทือนสามแดนโลกธาตุ อะไรกระเทือนขึ้นมาไม่เคยมี พระพุทธเจ้าตรัสรู้ฆ่ากิเลสขาดสะบั้นลงไปนี้กระเทือนทั่วแดนโลกธาตุ พระสาวกอรหันต์ทั้งหลายก็เหมือนกันกระเทือนเป็นลำดับลำดากันลงมา

นั่นละท่านผู้เลิศผู้เลอนำธรรมมาสอนเรา ขอให้ฟังเป็นคำสัตย์คำจริงเข้าสู่จิตใจ แล้วจะเป็นผลประโยชน์แก่เรา อันเรื่องเสียงกิเลสมันลั่นโลกอยู่แล้ว สามโลกธาตุเป็นแดนที่อยู่ของกิเลสกระเทือนไปหมด ไม่เห็นทำใครให้เกิดประโยชน์ แต่ธรรมพระพุทธเจ้านี้พอตรัสรู้ผึงขึ้นมากระเทือนสามแดนโลกธาตุ บรมสุขอยู่กับพระองค์ท่าน นั่นเป็นอย่างนั้น ต่างกันนะ นี่ได้สั่งสอนลูกหลานทั้งหลายให้พากันคิดกันอ่าน อย่าพากันเที่ยวเตร็ดเตร่เร่ร่อนหาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้

ดูใจแต่ละดวงนี้ไขว่คว้าเหมือนคนตกน้ำในมหาสมุทร เป็นยังไงน้ำในมหาสมุทรกับคนและสัตว์ตกน้ำ ว่ายน้ำป๋อมแป๋มๆ อยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร หาฝั่งหาแดนหาเกาะหาดอนที่จะยึดก็ไม่มี แต่ก็ว่าย ไม่ว่ายไม่ได้มันจะตาย พอบรรเทาถึงเวลาตายเท่านั้น นี่ละสัตว์โลกที่ไขว่คว้าอยู่ในท่ามกลางมหาสมมุติมหานิยมไม่มีฝั่งมีฝาอย่างนี้แล เหมือนสัตว์ทั้งหลายตกน้ำเวลานี้ ตายแล้วจะไปเกิดที่ไหนๆ ก็ไม่ทราบความเกิดตายของตัวเอง เพราะไม่ได้สร้างความดีอันเป็นที่แน่ใจเอาไว้ ทีนี้เมื่อสร้างความดีเป็นที่แน่ใจแล้วมองเห็นฝั่งอยู่นี่ ถึงจะยังไม่ถึงฝั่งก็เห็นฝั่ง เห็นเกาะที่จะหลุดจะพ้น เห็นเรือใหญ่ที่ผ่านเข้ามาซึ่งจะได้ยึดได้เกาะอยู่ประจักษ์ตาประจักษ์ใจ นี่คนมีความดี ถึงอยู่ในท่านกลางมหาสมุทรก็เห็นฝั่งเห็นฝาอยู่ เห็นเรือที่จะมาให้เกาะยึด อันนี้คนอยู่ในท่ามกลางมหาสมมุติมหานิยมก็มีบุญมีกุศลเป็นฝั่งเป็นฝาเป็นเกาะเป็นที่ยึด ให้ยึดอันนี้ไว้ให้ดี ถ้ายึดอันนี้แล้วยังไงพ้นได้ไม่สงสัย

วันนี้เทศนาเพียงเท่านี้แหละ ขอให้บรรดาพี่น้องลูกหลานทั้งหลายที่มาวัดมาวาฟังธรรมวันนี้ ขอให้นำธรรมนี้ไปเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ไปปฏิบัติตนปรับปรุงตนเองให้เป็นคนดี แล้วจะดีขึ้นที่หัวใจของเรา ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องลูกหลานโดยทั่วกันเทอญ

(หลวงตาคะ อยากกราบนิมนต์หลวงตาให้ช่วยเทศน์เรื่องความสามัคคีหน่อยค่ะ) สามัคคี ร่างกายของเราเป็นสามัคคี ประกอบหน้าที่การงานการหลับตื่นอะไรสะดวกสบายหมดถ้าร่างกายเป็นสามัคคี ถ้าเจ็บท้องปวดศีรษะเจ็บนั้นปวดนี้แตกสามัคคีแล้วร่างกาย ให้รีบหายามาใส่มารักษา อันนี้ใครที่มีความแตกสามัคคีกันให้รีบประสานความสามัคคีเข้ามาด้วยอรรถด้วยธรรม ยอมรับเหตุรับผลซึ่งกันและกันโลกนี้สงบได้ ถ้าต่างคนต่างถือดีถือเด่นทั้งๆ ที่ชั่วนั้นโลกนี้แตกได้ เข้าใจไหมแตกความสามัคคี เข้าใจหรือยัง เอาละพอถ้าเข้าใจแล้ว เอาเท่านั้น

(ไม่ถือดีถือเด่น ถ้าถือดีถือเด่นแล้วมันจะแตกความสามัคคีใช่ไหมคะ) ดีเด่นเป็นเรื่องของกิเลส ว่าถือดีถือเด่น คือถือความชั่วช้าลามกว่าเป็นของดีและทำลายกันแตกสามัคคี ถ้าต่างคนต่างดีปฏิบัติดีๆ ประสานกันด้วยความสามัคคีโดยอรรถโดยธรรมดีทั้งนั้น เข้าใจไหมล่ะ

(อันนี้เป็นการ์ตูนครับเขาบอกว่า “ทักษิณน่าจะออกบวชอย่างหมอเปรมบ้างนะ” หมอเปรมก็ ส.ส ไทยรักไทย บวชไปแล้วครับตอนนี้) เปรมไหน เปรม ติณสูลานนท์ หรือเปรมไหน (เปรมขอนแก่น) เขาบอกว่า “ทักษิณน่าจะออกบวชอย่างหมอเปรมบ้างนะ”) ไม่ได้นะทักษิณไปบวชที่ไหนโบสถ์แตกวัดแตก มาอยู่วัดป่าบ้านตาด วัดป่าบ้านตาดแตก ไม่ให้บวช ไม่ให้มาอยู่ อ่านให้จบเราจะสอดเข้าไปเป็นพักๆ เอาว่าไป (“ทักษิณน่าจะออกบวชอย่างหมอเปรมบ้างนะ” แล้วเพื่อนเขาก็เลยบอกว่า “อย่าเชียวนะ” เพื่อนคนที่พูดครั้งแรกบอกว่าทำไม “ศาสนาวิบัติแน่”) โอ๋ ศาสนาวิบัติแน่ เข้ากันได้ วัดป่าบ้านตาดจะแตกเข้ากันได้แล้ว เอาว่าไป

(ทีนี้ก็มีนักการเมืองคนหนึ่งประเทศฟิลิปปินส์ เขาชื่อนายเอสตราด้า ตอนนี้ก็อยู่สบายในคุกครับ) เอ้อ อยู่สบายในคุก ใครอยากไปอยู่สบายในคุกบ้างล่ะเหล่านี้น่ะ ไม่เห็นมีสักคำเลยว่าอยากไป เงียบเลย เอาว่าไป ( มีคำพูดดังนี้นะครับ นายเอสตราด้าเขากล่าวว่า “ทักษิณใช้ประชานิยมกับพวกรากหญ้า เหมือนนายทำเป๊ะเลย” คือนายคนนี้เขาทำมาก่อนที่ฟิลิปปินส์ครับ “ที่ตลกก็คือว่า มันกำลังจะจบลงอย่างนายเหมือนกัน” คือหมายความว่าอนาคตก็คงจะติดคุกเช่นเดียวกับเอสตราด้าครับ) อันนี้เราไม่ค่อยชัดเจน เอาละปล่อยไปเถอะเราไม่อยากซักของสกปรก เอาไป

(หลวงตาขา แล้วเรื่องการให้ยอมกันบ้าง เวลาทะเลาะกันให้ถอยกันคนละก้าวนี้ หลวงตามองเรื่องนี้ยังไงบ้างเจ้าคะ) อ้าว เราก็สอนมาพอแล้วนี่นะ เราก็สอนมาแล้ว ทักษิณก็เป็นลูกศิษย์ของเรา เราอุ้มทักษิณขึ้นแทบเป็นแทบตายเราลืมเมื่อไร ทักษิณวิ่งมาหาเราวัดป่าบ้านตาดกี่ครั้งหน้าซีดมา สู้เขาไม่ได้เขาตีเอา วิ่งเข้ามาหาเรา เราชี้แจงเหตุผลทุกอย่าง เป็นที่พอใจกลับไปสู้อีกๆ จนกระทั่ง เอ้า เราจะช่วย บอกขนาดนั้นเราไม่ลืม เอ้าๆ เราจะช่วย

นี่ที่ว่าเรายอมว่า เราดูคนผิดไป เราก็ยอมรับว่าดูคนผิด เพราะดูเขาดูในฐานะการเงินการทอง เราไม่ได้ดูในเรื่องของธรรมว่าเขาเป็นคนเช่นใดในหัวใจของเขา เพราะสมบัติเงินทองเขามีมากมายก่ายกอง จะไม่เที่ยวกลืนเที่ยวกินตับปอดประชาชนเหมือนที่แล้วๆ มา กลืนกินประชาชนด้วยความหิวด้วยความกระหาย คนนี้จะไม่ไปกลืนกินตับปอดเพราะเขามั่งมีศรีสุข เขาจะตั้งหน้าตั้งตาช่วยชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราจึงได้อุ้มขึ้น เข้าใจไหมล่ะ เอ้าๆ ให้เป็น เราก็เอาเต็มเหนี่ยวของเรา จนกระทั่งเป็นนายกฯขึ้นมาได้

ครั้นเป็นขึ้นนายกฯขึ้นมาได้ทีนี้แล้ว กิเลสมันมาแผนสูงซิ เราดูไปทางฐานะการเงิน กิเลสมันเหนือเมฆมาแล้ว มันมากลืนบ้านกลืนเมือง กลืนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จนจะไม่มีเหลือเลย เราก็ยอมรับว่าเราดูคนผิด แล้วทีนี้ก็ตีทักษิณซิที่นี่ ทักษิณให้รีบลาออก อย่าเอาไว้เมืองไทยจะจมไปหมดแล้วนี่ เข้าใจไหมที่นี่ เมื่อเห็นโทษแล้ว ลูกศิษย์นี้ลูกศิษย์ทำลายครู ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่สมเจตนาที่ครูพายกชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไว้ นี่มันตรงกันข้าม เวลานี้กำลังไล่ทักษิณ ไล่มาก่อนแล้ว ให้ออก ทักษิณให้ออก ทักษิณเป็นลูกศิษย์ของเราเราอุ้มขึ้นมาไม่เป็นท่าแล้วให้ออก อย่าให้เราอุ้มให้หนัก อย่างนี้ก็ว่าไปแล้ว ให้ว่าอะไรอีกล่ะ พูดเมื่อกี้ลืมแล้วนะ

(หลวงตาให้กำลังใจแล้วอุ้มมาตั้งแต่ทีแรก สนับสนุนตั้งแต่ทีแรกก็หวังว่าเขาจะมาช่วยชาติบ้านเมืองให้เจริญ แต่มันตรงข้ามครับ) มันตรงกันข้าม เพราะฉะนั้นจึงบอก ไล่ออก นี่เราก็ไล่ออก นี่เรายอมรับความจริงทุกอย่าง ผิดเราบอกว่าผิด เมื่อพิจารณาเห็นโทษแล้วปัดออกอย่าเอาเข้ามายุ่ง ก็มีเท่านั้น แล้วมีอะไรอีกล่ะว่ามา (ถ้าเจอคนดื้อรั้นจะทำยังไงคะ) ให้ดูเจ้าของเสียก่อนนะ เจ้าของมันดื้อรั้นจะปฏิบัติยังไงกับเจ้าของ เข้าใจไหม เมื่อปฏิบัติเจ้าของได้ผลแล้วค่อยไปสอนคนอื่น มันต้องอย่างนั้นซิ เจ้าของมันดื้อรั้นยังไง แล้วแก้ไขกันยังไงกับเจ้าของ ได้ผลแล้วก็เอาผลอันนี้ไปสอนคนอื่น ถ้ายังไม่ได้ผลอย่าไปสอนเขาเดี๋ยวเขาตีปากเอาอย่าว่าไม่บอกนะ นี่บอกก่อนแล้ว กลัวปากแตก

(ขอประทานโทษ หลวงตาขาหนูเป็นพนักงานการบินไทย หนูเป็นเจ้าของโครงการที่เรากำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้ ของทัวร์เอื้องหลวงการบินไทยนะคะ ปีนี้เป็นปีมหามงคล เราอยากจะชักชวนคนไทยให้มาเข้าวัดฟังธรรมกันให้มากๆ หนูแล้วก็อาจารย์คธา ชินบัญชร นี้นะคะ ได้มาร่วมมือกันที่จะจัดโครงการท่องเที่ยว หอมดินกลิ่นศีล แล้วก็เราจะนำจังหวัดอุดรธานีนี้เป็นจังหวัดนำร่อง ในการทำทัวร์ครั้งนี้ค่ะ อยากจะขอพรจากท่านหลวงตาให้โครงการนี้เป็นผลสำเร็จค่ะ) โครงการเจริญเรื่อยๆ ส่วนมากมันเจริญเตลิดเปิดเปิง (เปิดเปิงไม่เอา เอาแบบเจริญมากๆ ให้ประสบความสำเร็จ) เจริญมากๆ จะมาเข้าศีลเข้าธรรมนี้มันยากอยู่นะ กิเลสเจริญมากเท่าไรยิ่งเหยียบธรรมศาสนาคนทั้งหลายลง เราก็ไม่อยากพูดมากละ ขี้เกียจพูด

(เขาว่าแผ่นดินของอุดรธานีหอมครับ หอมกลิ่นศีล เพราะว่ามีพระปฏิปทาที่คนเคารพนับถือทั่วประเทศไทยครับ เราก็จะพาคนกรุงเทพฯ คนจังหวัดอื่นๆ มาฟังธรรมแล้วก็ปฏิบัติธรรมด้วยครับหลวงตา) เอ้อ เรานี้มีข้อแม้อันหนึ่งนะ จังหวัดอุดรเราต้องเป็นคนดี ที่จะชักชวนคนอื่นมาเป็นคนดีได้ ถ้าอุดรเป็นคนชั่วชักชวนคนอื่นเป็นคนดีนี้แหลกหมดใช้ไม่ได้เลย ต้องเอาเมืองอุดรเราก่อนซิ เข้าใจแล้วนะ ต้องชักชวนเมืองอุดรให้เป็นคนดีเสียก่อน แล้วค่อยไปชักชวนคนอื่น อย่าด่วนไปชักชวนเขา มันจะขายหน้าเมืองอุดรเรา หลวงตาบัวนั่งอยู่นี้ ต้องเสมอไม่เอนไม่เอียง ที่จะทำให้คนอื่นดีต้องเมืองอุดรเราต้องปรับปรุงตัวของเราให้ดี เข้าใจ เอาเท่านั้นล่ะ มีอะไรอีกล่ะ

(ท่านผู้ว่าฯมีโครงการคนดีศรีอุดรอยู่แล้วครับ ให้คนอุดรเป็นคนดีครับ) เอ้อ ให้ปฏิบัติให้เป็นคนดีนะ ว่าแต่ปากเฉยๆ ใช้ไม่ได้ เท่านั้นแหละ (หลวงตาครับ ผู้นำที่เป็นคนดีควรจะมีคุณสมบัติยังไงครับ ผู้สื่อข่าวอยากทราบ).คนดีนี้กว้างขวางมาก ต้องปฏิบัติตัวให้ดี ระวังความคิดความปรุงของเจ้าของซึ่งเป็นเหมือนลิงร้อยตัวอยู่ในความคิดนั้น มันออกอย่างรวดเร็วในทางไม่ดี เอาธรรมตีหัวมันเข้าไปๆ เมื่อจิตใจค่อยสงบ กายวาจาเคลื่อนไหวออกไปจะดีไปตามๆ กัน มันอยู่ที่ใจนะ การบังคับก็ต้องบังคับที่ใจ บังคับอื่นไม่ได้ บังคับที่ใจ

พอพูดอย่างนี้แล้วจะพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เป็นการโอ้อวดไหม ฝึกจิตมาอย่างนี้ละ ที่ว่าฝึกทีแรกมา นี่ละการฝึกจิต ฝึกจิตให้ดี ฝึกทีแรกฝึกอย่างที่ว่านี่ จะเป็นจะตาย ให้กิเลสมันเหยียบย่ำทำลายตลอดเวลา ทางนี้ก็ เอา ปลอบโยนตัวเอง เวลากิเลสมันหนามันก็เป็นอย่างนี้ละ เอ้า สู้กันไปๆ อย่าถอย พระพุทธเจ้าสอนว่า วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ คนจะหลุดพ้นจากความทุกข์ได้เพราะความพากเพียร นี่พากเพียรไป ก็พยายามทำ ทำไปๆ ดัดเข้าไปๆ ความคิดคึกคะนองนี้ตีลงๆๆ ความรู้สึกที่เป็นฝ่ายธรรมก็หนาแน่นขึ้นๆ ตีกิเลสๆ จนกระทั่งพูดให้ชัดเจน กิเลสที่เป็นอกุศลธรรมไม่มีแย็บขึ้นในจิตแม้ตัวเดียว

ตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งป่านนี้ เรียกว่าไม่มีกิเลสแฝงอยู่ในจิตเลย ถึงจะดุด่าว่ากล่าวแนะนำสั่งสอนขนาดไหนก็ตาม เป็นเรื่องธรรมล้วนๆ ออกเป็นคุณต่อโลกทั้งนั้น ไม่มีพิษมีภัยออกจากใจนี้ไปทำลายโลก ไม่มีเลย นี่การฝึกจิต ฝึกจนไม่มีความชั่วติดหัวใจเลย บอกชัดเจนไม่มี ความชั่วทั้งหมดซึ่งเป็นสมมุติทั้งมวลหมดโดยสิ้นเชิง เหลือแต่ธรรมล้วนๆ เต็มหัวใจ สอนโลกด้วยความสว่างกระจ่างแจ้งภายในจิตใจไม่อัดไม่อั้น สอนเทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมมาหามนุษย์ สอนได้หมดในหัวใจดวงนี้เมื่อเวลามันจ้าขึ้นมาแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าสอนเทวบุตรเทวดาสอนยังไงๆ จะบอกได้ไงตั้งแต่สอนมนุษย์นี้มันก็สอนไม่ได้เรื่องจะไปเอาเทวดามาอวดได้ยังไง เราจึงต้องผลักเทวดา เดี๋ยวเทวดาจะเสียหน้าเข้าใจไหม สอนมนุษย์ได้เสียก่อนถึงเอื้อมเอาเทวดามาสอนช่วยอีก เข้าใจหรือ

นี่ละจิตถ้าฝึกได้แล้วเป็นอย่างนั้น เราพูดตรงๆ เราไม่มีอะไรในโลกสงสาร สามแดนโลกธาตุเราไม่มีอะไรในจิต ว่างไปหมดจากสมมุติทั้งมวล ไม่ว่าดีว่าชั่วเป็นสมมุติทั้งมวลเปิดออกหมด เหลือแต่ธรรมทั้งแท่งแล้วเรียกว่าธรรมธาตุเต็มหัวใจ นี่สอนโลกอยู่สอนด้วยธรรมธาตุนะสอนเวลานี้ เราจึงกล้าพูดโลกไม่เห็นโลกไม่รู้ เรารู้เราเห็นเราพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ดังพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นเพียงพระองค์เดียวสอนโลกได้ทั้งสามโลก สาวกทั้งหลายท่านก็สอนได้ในธรรมอันเดียวกัน เพราะความรู้อันเดียวกันบรรจุธรรมไว้แล้ว สามารถสอนได้ทั้งนั้นเต็มกำลังความสามารถของตน นี้เราก็สอนได้เต็มกำลังของเรา ให้ท่านทั้งหลายนำไปปฏิบัติ คำที่ว่าพูดเหล่านี้จะโกหกหลวงลวงท่านทั้งหลายแม้เม็ดหินเม็ดทรายไม่มี มีแต่หลักความจริงล้วนๆ เท่านั้น ให้เอาไปปฏิบัตินะ เอาละพอ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก