กิเลสเผาหัวอกคน
วันที่ 4 มีนาคม 2549 เวลา 8:50 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙

กิเลสเผาหัวอกคน

ก่อนจังหัน

เมื่อเช้าเราออกไปเห็นรถใหญ่มา ๓ คันรถบัส มาจากที่ไหนบ้าง วันเสาร์ อาทิตย์เป็นวันว่าง ไม่ใช่ว่างเพื่อเตร็ดเตร่เร่ร่อนนะ ว่างเพื่อศีลเพื่อธรรมให้มีบ้างนะ มีตั้งแต่เรื่องกิเลสตัณหาเหยียบหัวคน ดูแล้วเราสลดสังเวช พอว่างว่างเพื่อกิเลสทั้งนั้นไม่ได้ว่างเพื่อศีลเพื่อธรรม เลอะเทอะมากเมืองไทยเราเวลานี้ เลอะเทอะจนจะดูไม่ได้ ย่นเข้ามาเลยตั้งแต่วงรัฐบาลลงมา เลอะเทอะทั้งหมด พูดให้ชัดเจน เอาธรรมจับไม่ได้หาเรื่องใส่ใคร ธรรมเป็นธรรมชาติให้ความร่มเย็นแก่โลกมานานสักเท่าไร ไม่มีใครเหลียวแล ถ้าเรื่องของกิเลสตัณหา เรื่องตลบตะแลงนี้เก่งมาก เอาออกละ ออกทั่วประเทศเป็นบ้ากัน

อู๊ย น่าทุเรศ ผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งทำความชั่วช้าเสียหายมากกว่าผู้เล็กผู้น้อยนะ แทนที่จะทำความดิบความดีให้บ้านเมืองสงบร่มเย็นสมเป็นผู้นำ กลับนำไปนรกอเวจี นำไปเพื่อความวุ่นวาย ดูแล้วสลดสังเวช ฟังเสียท่านทั้งหลายไม่เคยฟังเสียงธรรม ฟังเสียนะวันนี้ มีตั้งแต่เรื่องจุ้นจ้านๆ หาตั้งแต่เรื่องโลกเรื่องสงสาร ดีดนู้นดีดนี้ ทะเยอทะยาน แล้วสิ่งที่ได้มาก็คือความผิดหวังๆ นอนมือเกยหน้าผาก นอนไม่หลับ มันผิดหวังๆ เยอะนะ เห็นไหมกิเลสต้มคนหลอกคน ธรรมท่านไม่ได้ต้มท่านไม่ได้หลอก

ลองไปบังคับจิตกับจิตตภาวนาลองดูซิ เอาพุทโธเข้าสู่ใจไม่ต้องมาก ให้ท่านทั้งหลายดัดท่านทั้งหลายดู ผลของการปฏิบัติธรรมดัดกิเลสเป็นผลดีขึ้นมาอย่างไรบ้าง ให้รู้ อันนี้มีแต่กิเลสดัดสันดานเรา ธรรมก็เลยแตกกระจัดกระจายไม่มีเหลือในชาวพุทธเรา แม้ที่สุดในวัดก็เหมือนกัน วัดก็กลายเป็นส้วมเป็นถาน พระเณรกลายเป็นมูตรเป็นคูถไปหมดแล้วเวลานี้ มีตั้งแต่ผ้าเหลืองคลุมศีรษะหัวโล้นๆ หัวโล้นใครโกนก็ได้ โกนจนกระทั่งถึงกะโหลกศีรษะก็ได้ไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้าไม่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมที่ท่านสั่งสอนไว้ ไม่เกิดประโยชน์นะ คัมภีร์กี่คัมภีร์ พระไตรปิฎกมีกี่ปิฎก แบกหามไปหลังหักก็ไม่เกิดประโยชน์ถ้าไม่นำมาปฏิบัติ

ท่านทั้งหลายให้สนใจปฏิบัติธรรมบ้าง โลกร้อนมากนะเวลานี้ การที่กล่าวทั้งนี้เราไม่ได้ร้อน เราไม่มีคำว่าร้อน ที่สอนเวลานี้ไม่ร้อน ธรรมพระพุทธเจ้าไม่ได้ร้อน พระพุทธเจ้าสอนโลกพระองค์ไม่ได้ร้อน ทั้งๆ ที่โลกร้อน เป็นน้ำดับไฟสอนไปๆ สาวกทั้งหลายไม่ได้ร้อน นี้ตัวเท่าหนูก็ตามเราไม่ได้ร้อนนะ เราปฏิบัติตัวของเรามาเต็มเม็ดเต็มหน่วย จนกระทั่งมันจ้าขึ้นมาครอบโลกธาตุ พูดให้ชัดๆ จึงมามองเห็นนรกอเวจีกิเลสเผาหัวอกคน มันสลดสังเวชจึงเตือนบ้าง ให้พากันพินิจพิจารณานะ อย่าเห่อ เห่อเป็นบ้าหาอะไร เห่อไม่หยุดไม่ถอย ตายไม่เข็ดไม่หลาบ คือกิเลสต้มสัตว์โลกนั่นแหละ ให้พากันพิจารณาบ้างนะ อย่าพากันเห่อนั้นเห่อนี้

ไปที่ไหนกิเลสออกหน้าออกตา ธรรมไม่มีเลยเวลานี้ ธรรมหมอบ อยู่ที่ไหนก็กิเลสเข้าไปตามเผาๆ ธรรมจะไม่มีเหลือในบุคคล และไม่มีเหลือในวัดในวาในพระในเณร มีแต่กิเลสตีตลาดหมด วัดก็กลายเป็นส้วมเป็นถาน พระเณรกลายเป็นมูตรเป็นคูถไปหมดแล้วเวลานี้ กิเลสเข้าครองอยู่ในนั้น ธรรมแตกกระจัดกระจายไปหมด หาที่ซุกซ่อนไม่ได้แหละธรรม ผู้มีธรรมก็ปฏิบัติลำบากนะ ถูกเรื่องกองทัพของกิเลสเหยียบย่ำทำลาย ดูถูกเหยียดหยามกัน ใครไปปฏิบัติศีลธรรมเพื่อความดีงามดูถูกเหยียดหยามกัน เรื่องกิเลสลากกันลงส้วมลงถานนี้มันไม่ได้พูดนะ

กิเลสนั่นละลากคนลงส้วมลงถาน ลากคนเข้าฟืนเข้าไฟ ท่านทั้งหลายพากันพิจารณาบ้างนะ วันเสาร์วันที่ว่างการงานภายนอก ควรจะได้บำเพ็ญการงานภายในคือการบุญการกุศล อย่าไปเที่ยวเตร็ดเตร่เร่ร่อนไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร ตื่นโลกกันอะไรนักหนา ตื่นมากี่กัปกี่กัลป์แล้ว ควรจะรู้เนื้อรู้ตัวด้วยศีลด้วยธรรมกระตุกเตือนบ้างซิ นี่กำลังกระตุกเตือนท่านทั้งหลายทราบหรือยัง ที่สอนนี้เราไม่มีทุกข์ในหัวใจเรานะ พูดชัดๆ เปิดให้โลกฟัง เราจวนจะตายแล้วไม่กี่วัน ไม่กี่ปีกี่เดือนเราก็จะตาย ธรรมเหล่านี้บำเพ็ญมาแทบเป็นแทบตาย จ้าขึ้นมาในหัวใจ สมหวังแล้ว ผู้ที่ร้อนร้อนอยู่จะเป็นจะตาย เย็นก็เย็นบรมสุขเห็นกันอยู่ประจักษ์อยู่ แจกกันบ้าง ให้ท่านทั้งหลายไปพิจารณา

การพูดเหล่านี้ไม่ได้นำธรรมมาโกหกนะ ถอดออกมาจากหัวใจมาสอน นี้คือผลแห่งการปฏิบัติพุทธศาสนา เป็นผลอย่างนี้ๆ ผลแห่งการวิ่งตามกิเลสเป็นผลยังไงบ้าง ร้อนกันทั่วโลกสงสารไม่คิดกันบ้างเหรอ หูมีตามีใจมีทุกคนให้เอาไปคิดบ้างนะ เกิดมามีแต่วิ่งเต้นเผ่นกระโดดไปตามกิเลส ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับ ตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งถึงวันตายหาสาระอะไรไม่ได้เลย เป็นยังไงมนุษย์เราว่าฉลาด มันฉลาดหรือมันโง่น่ะ หาสาระคืออะไร ความดีงาม จอมปราชญ์คือพระพุทธเจ้าสอนไว้ เราเป็นลูกชาวพุทธควรจะฟังเสียงอรรถเสียงธรรมของจอมปราชญ์บ้าง ที่ทรงบรมสุขไว้แล้วมาสอนพวกมหันตทุกข์คือพวกเรานี่ ให้ได้ยึดได้เกาะท่านพอได้มีสาระติดหัวใจบ้าง

เกิดมาเปล่าตายเปล่าๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร มันไม่เปล่านะ ไม่ทำดีมันก็ทำชั่ว ขนเอาแต่ความชั่วช้าลามก กองทุกข์จึงเต็มโลกเต็มสงสาร ฟังนะวันนี้ เห็นรถมาหลายคันเราอดคิดไม่ได้ มากันอะไรบ้าง หรือมาเพ่นๆ พ่านๆ เที่ยวดูนั้นดูนี้ เข้าวัดเข้าวาบ้างหรือไม่ เข้าวัดเข้าวามีความรู้สึกยังไง หรือเข้ามาวัดมาวาแล้วมาดูพระองค์นี้ปฏิบัติยังไงๆ บ้าง ไปดูพระ นอกจากนั้นก็ยกโทษพระ โอ๋ย พระเหลวแหลกๆ ตัวเองเลวขนาดไหนไม่ดูตัวเอง ให้ดูตัวเองบ้างนะ ดูตัวเองแล้วดูพระมันจะได้ถ้อยได้ความดี ดูแต่ภายนอกไม่ดูภายในไม่ดี ดูภายในหัวใจของตนเสียก่อนแล้วดูภายนอกกระจายไปหมดเลย ท่านทั้งหลายจำเอานะ

วันนี้เอาธรรมะมาต้อนรับพี่น้องทั้งหลายที่มาจากทางไกลแสนไกล สงสารจึงแนะนำสั่งสอน ขอยุติเพียงแค่นี้ หิวข้าวแล้ว ให้พร

หลังจังหัน

ที่เราพูดถึงเรื่องตั้งศูนย์ดวงตาที่พิษณุโลก เรามาพิจารณาอีกทีหนึ่ง คือเพชรบูรณ์เป็นย่านที่คนทุกข์ยากลำบากมาก เราจึงคิดว่าอาจจะย่นเข้ามาหาเพชรบูรณ์ก็ได้ ในย่านเพชรบูรณ์นี้คนจนตรอกมากทีเดียว มากกว่าทางพิษณุโลก (หมอเป็นสำคัญนะครับ) หมอนั่นไม่ละ เราติดต่อปุ๊บไปเขาจะติดต่อหามา คือยังไงก็ตามหมอต้องเป็นเครื่องประกัน ถ้าหมอไม่ครบเราก็ไม่ให้ ต้องยันกันอย่างนั้น อย่างอุดรก็เหมือนกัน ยันกันเลยเทียว

เราไม่ได้ลืมไปผ่าตัดตามาจากกรุงเทพ พ.ศ.๒๕๓๐ พอกลับมาจากกรุงเทพเห็นตาสว่างไสวเหมือนได้ตาใหม่มา มันจะเป็นตาเอกหรือตาไหนก็ไม่รู้ เขาถือว่าพระเอกนางเอก พระเอกตาเดียวก็มี นางเอกตาเดียวก็มี ถ้าว่าตาบอดแล้วเสร็จเลย ทีนี้ไปโรงพยาบาลอุดร เชิญหมอในโรงพยาบาลมาประชุมกันโดยด่วนเลยเทียว ว่าเราจะให้เครื่องมือแพทย์ตา เราบอกงี้เลย จะพยายามหามาให้ครบ เราบอก แล้วหมอที่จะมารักษาโรคตานี้จะครบไหม เขาบอกว่าเดี๋ยวนี้ยังไม่ครบเพราะเครื่องมือไม่ค่อยมี หมอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีมากมาย แต่ถ้าได้เครื่องมือมาเขายืนยันว่าจะครบ ว่างั้นนะ เอา ถ้าอย่างนั้นเอากันเลย เหมากันเลย ทางนี้ก็เอาให้ครบ ทางนู้นหมอก็ให้ครบ เขาก็ยันเลยว่าครบ นั่นละจึงได้สมบูรณ์

อันนี้ไปที่ไหนก็เหมือนกัน นี่ทางบุรีรัมย์เขาก็ยืนยันมาแล้ว เวลานี้ยังไม่ครบแต่เขาพยายามจะหาหมอตานี้ให้ครบว่างั้น ไปทางไหนก็เหมือนกันหมอต้องสำคัญมาก ยืนยันมาเลยหมอให้ครบ เพชรบูรณ์นี้ก็หนหนึ่งแล้ว จวนเข้าไปหนหนึ่งแล้วน่าจะได้เครื่องมือตาที่เพชรบูรณ์ สัก ๑๐ ปีผ่านมาแล้วละ คือหมออะไรจากอุดรเป็นหมอตาหมอผู้หญิง เขามานี้แล้วเขาก็ย้ายไปเพชรบูรณ์ เขาอยากได้เครื่องมือตาว่างั้น เรากำลังพิจารณากัน แล้วพอดีเขาถูกย้ายไปไหน ทีนี้ตาเลยล้มไปเลย ถ้าเขาอยู่ที่นั่นจะได้ตาขึ้นมาแล้ว เพราะเริ่มแล้วเริ่มจะหาเครื่องมือตาให้ พอดีเขาถูกย้ายไป เมื่อเขาถูกย้ายไปแล้วเราก็เลยย้ายไปด้วยกัน คือย้ายจากจะให้เป็นไม่ให้เข้าใจไหม เราก็เลยย้ายเหมือนกัน นั่นละเลยล้ม

ทีนี้คราวนี้อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ หรือจากบุรีรัมย์แล้วอาจจะตั้งที่เพชรบูรณ์ ถ้าออกทางพิษณุโลกนั้นย่านนี้คนทุกข์จนมากมาย เรามาคิดถึงย่านนี้ย่านเพชรบูรณ์นี่ย่านนี้คนทุกข์มากมาย เลยคิดว่าจะตั้งย่านเพชรบูรณ์ แล้วลามออกไปๆ คือต้องหาจุดจำเป็นๆ แต่ละแห่งๆ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ อย่างบุรีรัมย์นี้ก็เห็นว่าเป็นจุดสำคัญ โคราช ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลโน้นก็มาบุรีรัมย์หมด แล้วเอาตั้งศูนย์นี้ละ เพราะศูนย์นี้เป็นจุดที่แร้นแค้นกันดารมากที่สุดเลย นี่ละถึงได้ตั้ง ตั้งแล้วนะเดี๋ยวนี้เริ่มแล้ว คือเริ่มสั่งมาถึง ๖ ล้าน เท่าไรก็ตามถ้าว่าจะเอาแล้วเราไม่เหมือนใคร ถ้าได้ลงใจแล้วตูมเลย ถอนไม่ขึ้น

เราพูดจริงๆ หัวใจเราเป็นอย่างนั้น ถ้าลงได้ลงตรงไหนแล้วถอนไม่ขึ้นเลย ถ้าเหตุผลไม่เหนือนี้ตัวเองตั้งลงไปแล้วตัวเองก็ถอนตัวเองไม่ได้ ต้องให้เหตุผลเหนือนี้ถึงจะถอนได้ อย่างอื่นก็เหมือนกันถ้าได้ตั้งไปแล้วถ้าเหตุผลไม่เหนือไม่ถอน นี่ก็ตั้งลงไปแล้ว เช่นบุรีรัมย์เอาให้ครบ นี่ตั้งลงแล้ว แล้วยังพิจารณาทางเพชรบูรณ์อีกอยู่ ถ้าจะไปพิษณุโลกเสียทีเดียวย่านนี้รู้สึกว่าลำบากมากอยู่ เยอะคน เราเลยเอานี้ ถึงยังไงพิษณุโลกหรือแถวนี้ก็ต้องมาหากันได้แหละ เอาจุดคนจำเป็นมากกว่านี้เป็นจุดใหญ่ แล้วพวกนั้นให้ค่อยไหลมาหากันก็ได้

เป็นไงมีไหมเหตุผลเราพูดนี่ จะตั้งที่เพชรบูรณ์ เพราะเพชรบูรณ์แร้นแค้นกันดารมากย่านนี้นะ เราตั้งจุดนี้ แล้วที่อื่นเขาอยากมาเขาก็มา ส่วนคนจำเป็นเขาต้องได้รับแน่นอน เราเลยคิดจะลงจุดนี้ พิจารณาเสียก่อน หากว่ามีโอกาสยังจะไปเพชรบูรณ์อยู่ (หลวงตาเจ้าคะ พิษณุโลกเป็นชุมทางภาคเหนือ คือจังหวัดภาคเหนือภาคอีสานก็ไปได้ เท่ากับมีสองจุด คือพิษณุโลกก็จำเป็น) อันนี้เราก็ได้คิดแล้วพูดกันมาแล้ว คือจุดนั้นก็เป็นจุดจำเป็นอันหนึ่ง แต่ทีนี้ดูความจำเป็นของคนมาก ในย่านเพชรบูรณ์รู้สึกว่าลำบากมากกว่านั้นอีก เราเลยจะตั้งนี้ก่อน แล้วก็ลุกลามไป ถ้าเรายังไม่ตายนะ จะไปหมดว่างั้นเถอะ

คือไปตามความจำเป็นๆ โดยลำดับลำดา จะไปหมด จะว่าอะไรทั่วประเทศไทยนี่ ถ้าเรายังไม่ตายเอาจริงๆ เราไม่ได้เหมือนใครนี่นะ การที่จะลงแต่ละจุดๆ พิจารณาเรียบร้อยแล้วลงๆ ลงไปอย่างนั้น นี่เอาบุรีรัมย์ก่อน ต่อไปนี้จะเอาอีกละ กำลังเริ่มพิจารณา ทางประเทศลาวก็ปล่อยไม่ได้ นี้เรายังจะต้องติดตามอยู่ นี่ว่าหมอที่เวียงจันทน์ยังไม่กลับมา เราจึงรอ เราถามไปหนหนึ่งแล้ว เราจะไปติดต่อทางนี้ละ นี่ก็พึ่งจ่ายไป ๑๓ ล้านแล้ว เห็นไหมเอะอะ ตา ๑๓ ล้านแล้วยังไม่ครบ จะต้องไปถามทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อย ถ้าว่าหมอเป็นที่พอใจแล้วหมอก็จะครบแล้วนี้ เราก็จะทุ่มใส่กันเลย เพราะประเทศลาวประเทศทั้งประเทศตาไม่มีจะทำไง อย่างนี้เราก็ไม่ปล่อย เพราะเราไปวางรากฐานไว้แล้ว ๑๓ ล้าน จากนั้นก็ไปบุรีรัมย์ จากนั้นจะไปทางโน้น จะติดต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่ขาด ระยะนี้ไป เรื่องตาเราจะติดต่อไปเรื่อยๆ สั่งเรื่อยมาเรื่อยๆ

สงสารคนตาบอดนะ คืออวัยวะของเรานี้ตาเป็นสำคัญมาก ถึงจะง่อยเปลี้ยเสียแข้งเสียขาตายังดียังมีความหมายๆ หูหนวกบ้างก็ตามแต่ตาพอตื่นขึ้นมาปั๊บมันจะมองไปเลยเชียว ไปที่ไหนต้องเอาตาไป ตาไปดู อย่างเขามาท่องเที่ยวที่เหล่านี้ เอาตาละมา เข้าใจไหม ไม่เห็นคนตาบอดมาในรถเลย เห็นแต่คนตาดีตาใสยิ่งกว่าตาแมวมาเข้าใจไหม ตาจึงเป็นของจำเป็น ทุกสิ่งทุกอย่างอะไรบกพร่องก็ตามขอให้ตายังดี ตื่นมาพับดูแล้ว ยังมีความหมาย พอตาบอดเสียอย่างเดียวเอาขึ้นมานั่งบนกองเงินกองทองไม่มีความหมายใช่ไหมล่ะ เอาจุดนี้นะ เราจึงลงจุดนี้ก่อน

จากนั้นเราก็มายกข้อเปรียบเทียบ เอาไม้ไล่ตีลูกศิษย์ที่ศาลา ให้มันตาบอดทั้งหมดพวกนี้ ทีนี้เอาไม้ไล่ตีไล่กลับบ้าน มันก็ชนนั้นชนนี้ดะ ชนไปชนมาขี้แตกเยี่ยวราดตามนี้ เพราะมันไม่มีทางไปใช่ไหมล่ะตาบอด ทางนี้ฟังเสียงเปี๊ยะนู่นเปี๊ยะนี่ตีเรื่อยมา มันกลัวตายมันก็ไปก็ชนต้นไม้ละซิ นี่คนตาบอดเราได้เห็นชัดๆ ในศาลาเรานี่ เข้าใจหรือเปล่าล่ะ นี่เรายกภาพพจน์มาเป็นข้อเปรียบเทียบ ถูกไหมที่ว่านี่ มันสำคัญมากนะตา ถ้าตาดีนี้พอว่าไป โอ๋ย คว้าไม้เรียวไม่ทันละมันออกแล้วเข้าใจหรือ นี่ละตาดีมันต่างกันนะ กับตาบอดนี้วิ่งชนนั้นชนนี้ แล้วก็พอดีทางนี้เปี๊ยะนู่นเปี๊ยะนี่ ไม้เรียว ขี้กับเยี่ยวออกเข้าใจ ขี้กับเยี่ยวราดออกเลยเต็มศาลาเรา นี่ข้อเปรียบเทียบผิดหรือถูก เอ้า เอาไปพิจารณาซิ นี่ละเห็นว่าตาเป็นสำคัญหมายอย่างนี้

พูดอย่างนี้มันก็ออกทั่วโลกๆ ออกซิเหตุผลกลไกมีอยู่ จะได้ยินกันทั่วโลก จะได้ถือเป็นสำคัญเรื่องตา บอดก็บอดแต่ไม่คิดมันก็ไม่ก้าวหน้านะ ถ้าคิดแล้วมันก็มีทางที่จะคืบหน้าไป ไม่ว่าที่ไหนๆ พอได้ข้อคิดไปแล้วอาจจะคิดกัน ผู้มีทุนมีรอนมีอะไรอาจจะปรึกษาหารือกัน แล้วขยายงานผลประโยชน์เกี่ยวกับเช่นตาเป็นต้นนี้ออกได้ เป็นอย่างนั้นนะ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก