ภูเขาของกิเลส
วันที่ 2 มีนาคม 2549 เวลา 8:50 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙

ภูเขาของกิเลส

ก่อนจังหัน

(พูดถึงเรื่องส่งอาหารวัดภูวัว) นี่ก็ ๒๐ กว่าปีมาแล้วที่เราเลี้ยงดู ถ้าเรายังไม่ตายเราจะเลี้ยงตลอดไป ส่งเสริมพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เราอยากส่งเสริม ถึงไหนถึงกันเลยเทียว หายากนะ พระดีหายาก อันนั้นหายาก อันนี้หายาก เวลารวมลงมาแล้วไม่มีอะไรหายากยิ่งกว่าพระดี ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนถึงขั้นวิมุตติหลุดพ้น หายากขนาดไหน ไปหาดูซิน่ะ ไปหาที่ไหนเจอแต่มูตรแต่คูถเต็มส้วมเต็มถาน วัดไหนๆ กลายเป็นส้วมเป็นถาน พระเณรกลายเป็นมูตรเป็นคูถ ปฏิบัติตัวเหมือนมูตรเหมือนคูถไปหมดแล้ว แล้วจะหาของดีได้ที่ไหนเมื่อเป็นเช่นนั้น ไปที่ไหนก็เห็นแต่ส้วมแต่ถาน เต็มไปด้วยมูตรด้วยคูถ คือพระเณรเหลวแหลกแหวกแนว

เพราะฉะนั้นที่ไหนที่ท่านตั้งใจปฏิบัติดี เราจึงต้องเสริมทันทีเลย นี่หมายถึงเป็นหลักนะ ที่วัดภูวัวนี้เป็นหลักมาเลยขาดไม่ได้ นี่เขาก็ไปแล้ว พอจวนปลายเดือนเขาก็ไป ๔ คันรถยนต์ ๖ ล้อก็มี บองขึ้นนะไม่ใช่ธรรมดา เต็มเลย พวกเครื่องกระป๋งกระป๋องอะไรๆ ทุกอย่างเอาให้มาก หาแต่ของดีๆ บอกอย่างนี้นะ เมื่อของดีมีอยู่เอาแต่ของดีๆ อย่าเอาของชุ่ยๆ ไปนะบอกอย่างนี้เลย สั่งเด็ดขาดๆ ไปเลยทีเดียว เรามันอย่างว่าแหละ เราขี้ริ้วขี้เหร่ก็ตาม ถ้าเป็นผู้ชายขี้ริ้วขี้เหร่ก็อยากได้เมียงามๆ นะ เข้าใจไหม นี่เราขี้ริ้วขี้เหร่ สิ่งของทั้งหลายไม่ให้ขี้ริ้วขี้เหร่เหมือนเรา ว่างั้นนะ เอาจริงเอาจังมาก

ส่วนวัดเหล่านั้นๆ เราก็ไปแต่ไม่ค่อยแน่นอนนัก เอาแน่นอนไม่ได้ อันนี้แน่เลยเคลื่อนไม่ได้ที่วัดภูวัว โห หาพระนี่หายากจริงๆ พูดตามความจริงก็คือภาคอีสานมีพระมากอยู่ เพราะรากแก้วอยู่ที่นี่ หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ อยู่ที่นี่ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ไปอบรมกับท่านเวลากระจายออกไปก็มีแต่พระดีๆ เป็นลูกศิษย์ผู้ใหญ่ๆ ท่าน มีแต่เพชรน้ำหนึ่งๆ เห็นไหมล่ะ หายากนะ นี่แตกกระจายไปทุกแห่งทุกหน ประกอบกับสถานที่บำเพ็ญมีทั่วๆ ไป พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นจึงมีมากทางภาคอีสาน ภาคอื่นก็มีสายหลวงปู่มั่นแต่มีน้อยมาก

สำหรับภาคอีสานมาก มากมาตลอด ก็เกี่ยวกับเรื่องครูบาอาจารย์ผู้ให้การแนะนำสั่งสอน สำคัญมากนะ อยู่ที่ไหนก็อยู่ถ้าครูบาอาจารย์ที่เป็นแม่เหล็กสำคัญแล้วไม่ต้องนิมนต์แหละ พระท่านไปเองๆ ทีนี้มันไม่มีครูบาอาจารย์ที่จะแนะนำสั่งสอนให้ถูกต้องแม่นยำตายตัวได้ มันก็ต้องหมุนอยู่ตามภาคอีสานเพราะภาคนี้มี มีมาไม่ขาด

โห นับวันเลวลงๆ ทุกวัน ไม่ว่าท่านว่าเรา พระเราเลวลงทุกวันๆ อ่อนแอท้อแท้ให้กิเลสเหยียบหัว เราอยากพูดให้เต็มขีดเต็มยันเลยว่า พระเรานี้ให้กิเลสเหยียบหัวขี้แตก เยี่ยวแตกเยี่ยวราดตามวัดตามวา มันของเล่นเมื่อไร ที่จะให้ธรรมเหยียบกิเลสให้มันขี้ทะลักออกไม่เห็นมี มีแต่กิเลสเหยียบหัวพระพุงแตก กินมากพุงแตก ขี้ทะลัก นั่น มีแต่ของอย่างนี้ ที่จะตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ กำจัดตัวเองในสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายออกนี้มันหายาก

เรื่องกิเลสไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ใครยังไม่ขึ้นเวทีอย่าด่วนคุยนะ พูดอย่างอาจหาญเรา ใครถ้ายังไม่ขึ้นเวทีฟัดกับกิเลส อย่าอวดเก่งนะ ถ้าฟัดกับกิเลส กิเลสพังลงไปแล้วออกไป ไปเถอะ ไปไหนไป จะถ่อมตนขนาดไหน นู่นจรดเมฆความดีงาม ความสง่าผ่าเผยของจิตใจดวงนั้น ขอให้กิเลสดีดออกเถอะน่ะ เตะกิเลสให้ขาดสะบั้นลงไป อันนี้ไม่ต้องบอกดีดขึ้นเองๆ นี่มันไม่มี มีแต่กิเลสเหยียบเอาๆ ไปที่ไหนก็เหยียบเอาๆ

เดี๋ยวนี้ศาสนาเรามันเป็นศาสนวัตถุไปหมดแล้ว มองเห็นศาสนาที่ไหนเวลานี้ มีแต่ศาสนวัตถุ วัตถุก็เป็นเรื่องกิเลสไปด้วย ไปไหนเห็นแต่สิ่งก่อสร้างหรูหราฟู่ฟ่า วัดนั้นวัดนี้หรูหราฟู่ฟ่าสวยงามน่าเกรงขาม เกรงขามขี้หมาอะไรประสาอิฐปูนหินทราย ธรรมต่างหากเป็นที่น่าเกรงขาม ตั้งใจปฏิบัติให้มันเห็นเด่นในหัวใจซิ พอพูดมันก็คึกคักนะ มันมีสิ่งคึกคักอยู่ในใจนี่ ไม่ใช่มาพูดเฉยๆ มาคุยมาโม้มาอวด ไม่ พอพูดมันผึงขึ้นมาเลยอันนี้ ธรรมชาติที่เลิศเลอ

อยากให้ปฏิบัติ อยากให้ดูใจตัวเอง มันกระจ่างขึ้นมาแล้วเอาเถอะ อยู่ไหนอยู่ไปเถอะ สบาย กิเลสขาดสะบั้นไปจากใจแสนสบาย ที่โลกทั้งหลายทุกข์ยากลำบากจะเป็นเถ้าเป็นถ่านเพราะการรบราฆ่าฟันกันนี้ มีแต่กิเลสทั้งนั้นจับหัวใส่กัน ไสเข้าไปหากัน กัดกันยิ่งกว่าหมา กิเลสมันจับหัวมนุษย์เรา ยิ่งผู้ใหญ่เป็นผู้ปกครองบ้านเมืองด้วยแล้ว นั่นละหมาตัวใหญ่ กิเลสมันจับไสให้กัดกันๆ โอ่อ่าฟู่ฟ่าซิไอ้หมาตัวนี้ เก่งนะกิเลสตัวนี้ กิเลสมันไม่ยอมอ่อนตัวนะ มันต้องพองตัวตลอดเวลา ถ้าธรรมท่านไม่มี อันไหนก็ไม่มี

ยกตัวอย่างพระอัสสชิกับพระสารีบุตร ดูซิตัวอย่าง เราพูดย่อๆ พระสารีบุตรไปเห็นกิริยามารยาทของพระอัสสชิที่บิณฑบาต น่าเคารพเลื่อมใส ดูอะไรสวยงามตาไปหมด ก็แอบไปๆ พระสารีบุตรเป็นคลังปัญญา ทีนี้เวลาออกไปพ้นหมู่บ้านก็เข้าไปถามท่าน ท่านบวชในสำนักใด ดูกิริยามารยาทของท่านรู้สึกน่าเคารพเลื่อมใสทุกอย่าง ครูอาจารย์ท่านสอนว่ายังไง นี่ฟังซิพระอัสสชิ แทนที่จะโอ่อ่าขึ้นกลับไม่นะ อาตมาเพิ่งบวชมาในธรรมวินัยใหม่ๆ ความรู้ยังไม่ลึกซึ้งกว้างขวาง

นั่นฟังซิ ท่านเป็นพระอรหันต์แล้วนะ ว่าความรู้ยังไม่กว้างขวาง จะยกมาให้ท่านฟังแต่เพียงเล็กน้อย เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา ย่อๆ ธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุ คือหัวใจ ดีชั่วเกิดขึ้นจากเหตุ เมื่อดับก็ดับลงที่เหตุดับ พระสารีบุตรบรรลุพระโสดาปึ๋งขึ้นทันทีเลย นั่นเห็นไหมล่ะ แล้วพระอัสสชิท่านพูดเมื่อไรว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ทีนี้พระสารีบุตรก็จอมปราชญ์อีก ทราบว่าอาจารย์คือพระอัสสชิอยู่ในสถานที่ใด ท่านจะน้อมเกล้ากราบไหว้ไปทางนู้นนะ ท่านถือเนื้อถือตัวเมื่อไร ท่านถ่อมตนอย่างนั้นละผู้ที่สิ้นกิเลส ธรรมไม่มีพองตัว ควรจะหลับหูหลับตาก็หลับไปเสีย หูหนวกตาบอดไปเสีย ธรรมไม่มีเรื่องพองตัว ที่จะแสดงออกมากน้อยก็เท่าที่เห็นว่าจะเกิดผลเกิดประโยชน์เพียงไรๆ จะออกตามนั้นๆ จะออกแบบกิเลสอย่างนั้นไม่ได้ ไม่มี...ธรรม

ปฏิบัติให้เห็นดูซิธรรมพระพุทธเจ้า พุทธศาสนาประกาศกังวานมา ๒๕๐๐ กว่าปีแล้ว มาประกาศกังวานในหัวใจชาวพุทธเราซึ่งเป็นลูกศิษย์ตถาคตบ้างหรือไม่ประการใด เป็นปัญหาอยู่ที่นี่ มันไม่มีใครสนใจจะปฏิบัติตาม ถ้าเข้าไปก็ให้กิเลสมัดคอๆ เข้าไปเสีย เราจะไปมัดคอกิเลสไม่มีนะ แทบไม่มี จึงเรียกว่าศาสนวัตถุ ไปที่ไหนมีแต่เรื่องการก่อการสร้างยุ่งเหยิงวุ่นวาย มันเป็นวัตถุอิฐปูนหินทราย เป็นเรื่องสั่งสมกิเลสไม่ใช่ชำระกิเลส

คิดดู เราไปประกอบความพากเพียรที่ไหน เวลาไปถึงทีแรกให้เขามาทำแคร่ให้ ทำแคร่ยังไม่เสร็จวันนี้เป็นกังวล นั่นเห็นไหมล่ะ วันนั้นทำแคร่ทั้งวันก็เป็นกังวลทั้งวัน ที่ยังไม่เสร็จเป็นกังวลอยู่ จนกระทั่งแคร่นี้เสร็จถึงจะปล่อยกังวลแล้วทำความเพียร เพียงแคร่อาศัยอยู่ชั่วกาลเวลาเท่านั้นยังเป็นกังวล ยิ่งสร้างหรูหราฟู่ฟ่าใหญ่โต ไม่กังวลได้ยังไง มีแต่ภูเขาของกิเลสอยู่ตามศาลา ตามโบสถ์ ตามวิหาร นั่นละภูเขาของกิเลสให้ดูเอา ใครพูดอย่างนี้น่ะ ก็เรียนมาเหมือนกัน ปฏิบัติมาเหมือนกัน ให้ขึ้นเวทีมันถึงชัดเจนมาก ศาสนธรรมกับศาสนวัตถุต่างกันยังไงบ้างมันรู้ซิ

เดี๋ยวนี้มีแต่ศาสนวัตถุ ไปที่ไหนหรูหราฟู่ฟ่า เอานั้นละเป็นศาสนา โอ๋ย เด่นดวง วัดนั้นสวยงาม โบสถ์สวยงาม กุฏิสวยงาม อะไรสวยงามๆ หมดน่าเกรงขาม อู๊ย เราอยากตีปากใครมาพูดว่าน่าเกรงขาม ยังจะเด็ดเข้าไปอีกว่า เกรงขามหีพ่อหีแม่มึงอะไรประสาอิฐปูน อยากซ้ำเข้าไปอย่างนั้น นี่หยาบไหม น้ำหนักเข้าใจไหม มันเลวอย่างนั้นต้องกระตุกอย่างแรงๆ ซิ สำหรับที่จะว่าคำหยาบไม่มี ธรรมไม่มี เรื่องน้ำหนักมีติดกันไปเลยเชียว

มันมีแต่ของอย่างนั้นทุกวันนี้ ผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติดีชำระสะสางกิเลสให้มีความสง่างามภายในจิตใจ ทรงความสุขความเจริญ เรียกว่ามรรคผลนิพพานอยู่ในนั้นเสร็จนี้ไม่ค่อยมีนะ ศาสนาพระพุทธเจ้าเป็นโมฆะไปหมดแล้วหรือ ตัวเราเป็นโมฆะดูเราซิ พระพุทธเจ้าสอนธรรมนี้ เป็นคลังแห่งธรรมก็คือศาสดาองค์เอก พระสาวกทั้งหลายคือคลังแห่งธรรม พวกเรานี้คลังกิเลสมันถึงมีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวาย ความสงบร่มเย็นไม่มีเพราะไม่มีธรรม เอาละพูดเพียงเท่านั้น

หลังจังหัน

ทองคำประเภทน้ำไหลซึมได้ถึง ๒๘๔ กิโลแล้ว ถ้าเราไม่ขอบิณฑบาตหรือรบกวนพี่น้องทั้งหลาย ทอง ๒๘๔ กิโลนี้ก็ไม่มี ขาดมาตั้งแต่โน้นเลย ตั้งแต่วันมอบวันที่ ๑๒ เมษา เป็นวันประกาศปิด หยุด ทีแรกออกนำก็วันที่ ๑๒ เมษา เวลาหยุดก็วันที่ ๑๒ เมษา ดูเหมือนเป็นเวลา ๖ ปีหรือไง ทีนี้หยุดแล้วมันไม่หยุดละซิที่นี่ ต่อยบนเวทีนั่นแล้ว ลงมาต่อยข้างเวที ให้น้ำอยู่ก็ต่อย สุดท้ายได้มา ๒๘๔ กิโลเห็นไหมล่ะ ต่อยที่นั่นต่อยที่นี่ ได้มา ๒๘๔ กิโล ยังจะได้มาอีกเรื่อยๆ นะ

ทองคำเป็นเครื่องประดับชาติไทยเรา เราจึงพยายามที่สุดที่จะให้ได้หลักเกณฑ์คือหัวใจแห่งชาติไทยเรา ขนทองคำเข้าสู่คลังหลวงแล้วสบายใจอบอุ่น ทุกอย่างแข็งแกร่งไปตามๆ กันถ้ามีทองคำแล้ว เราจึงพยายามเอาจุดนี้ เพราะทองคำที่เราไปดูรู้สึกว่ามีน้อยมาก ถึงร้องโก้กเลยออกมา หัวหน้าคลังหลวงเขาก็รู้ ที่เราไปมอบดอลลาร์ ทองคำครั้งแรกเลย ไปมอบที่ธนาคารชาติหรืออะไรเราลืมแล้วแหละ ดูเหมือนเป็นคลังหลวงอยู่ในนั้นแน่ พอเสร็จแล้วหัวหน้าเขาก็มานิมนต์เราไป เข้าไปดู ดูเหมือนมันอยู่ติดกันนะ นิมนต์เราไปดูทองคำ เราก็สะดุดกึ๊กนะ มันเป็นสายทาง ก็คงมีหวังให้เรามามอบทองคำนี้ต่อไป ทองคำจะค่อยเป็นไปละ ให้ต้นเหตุไปดูก่อนพูดง่ายๆ เขาจึงนิมนต์เราไป

พอเข้าไปนั้นเขาก็ว่า ผู้ที่จะมาดูทองคำนี้เห็นทองคำนี้มีสองท่านเท่านั้น แล้วใครบ้างล่ะ สมเด็จพระเทพฯกับหลวงตานี้ นอกนั้นไม่มีใครเห็นได้ละ มันก็เป็นสายทางจริงๆ พอไปดูดูละเอียดลออนะ ดูจริงๆ เพราะเราทราบตั้งแต่ต้นเขานิมนต์เราไปดูคลังหลวง ทราบแล้วนั่น จึงต้องดูอย่างละเอียดลออ ดูซอกแซกซิกแซ็กหมด พอจากนั้นแล้วก็ไปนั่งกันสองต่อสองเลย ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง เพราะเป็นตับปอดของชาติไทยเราก็จะให้ใครยุ่งอะไรไม่ได้ ไปคุยกันสองต่อสอง

ทองคำนี้ไปฝากไว้ที่ประเทศไหนๆ บ้าง ประเทศไหนเท่าไรๆ ถามกันโดยเฉพาะ การที่เราคิดไว้ก็ไม่ผิด คือที่ไปถามถึงเรื่องทองคำไปฝากไว้ที่ประเทศใดบ้าง ก็คือเกี่ยวกับการซื้อการขายการติดหนี้ติดสินต้องเอาทองคำเป็นเครื่องยืนยัน เราไม่ใช่พ่อค้าหากคิดอย่างนั้น ถามปั๊บติดปุ๊บเลย เข้าตรงเป๋งเลย ประเทศนั้นเท่านั้นๆ แล้วเมืองไทยเราล่ะ ทองคำเป็นเครื่องประกันชาติของเราโดยเฉพาะล่ะมีเท่าไร มีเท่านั้น ใจหายวูบเลยนะเรา ที่เอาไปฝากที่นู่นก็คือเป็นเครื่องประกัน เมื่อเราติดหนี้ติดสินหรือการซื้อการขายนี้ต้องเอาทองคำเป็นเครื่องยืนยันกัน หากจำเป็นเขาก็ยึดทองคำเราไว้ เพราะฉะนั้นจึงไม่เอามานับกับทองคำในคลังหลวงของเรา อันนั้นเป็นเครื่องยืนยันต้านทานกันทางนอก แก้ไขกันทางนอก ส่วนทองคำของเราภายในคลังหลวงนี้เพื่อแก้ไขภายในตัวของเรา ต้านทานรอบเมืองไทยของเรา อะไรเข้ามายุ่งไม่ได้ในทองคำจำนวนนี้เป็นเครื่องต้านทานได้พอดีอยู่ ความหมายว่างั้น

พอว่ามีเท่านั้นใจเราหายวูบเลย เราคำนวณถึงคน ๖๒ ล้านคน ทองคำมีน้อยมาก ใจเราหายวูบเลย นั่นละที่ได้มารบกวนพี่น้องทั้งหลายเรื่อยมาก็เพราะเหตุนี้เอง นี่ก็รู้สึกว่าอบอุ่นขึ้นพอสมควร ตั้งแต่เราช่วยชาติคราวนี้ได้ทองคำถึง ๑๑ ตันกับ ๓๗ กิโลครึ่ง ที่เข้าเรียบร้อยแล้ว รู้สึกว่าเต็มตื้นขึ้นมา จิตใจเราก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา แต่ยังไม่สนิทใจ เพราะฉะนั้นจึงต้องออดต้องอ้อนขอบิณฑบาตเอาห้าเอาสิบ เอาบนเวทีบ้างนอกเวทีบ้าง เอาทุกแง่ว่างั้นเถอะ นี่ก็ได้ถึง ๒๘๔ กิโลแล้วเห็นไหมล่ะประเภทนี้ ก็จะเข้าคลังหลวง เราจะพยายามเข้าให้ได้มากกว่านี้ เพราะฉะนั้นจึงยังไม่ปิดประตูอันนี้ เปิดประตูขอทานเรื่อยยังไม่ปิด จะพยายามอยู่เรื่อยๆ มันก็มาเรื่อยๆ

วันนี้ก็ได้ไม่ใช่เหรอ (ได้ ๑ บาทครับผม) นั่นเห็นไหม ๑ บาท วันนี้ก็ได้ ๑ บาท นั่น ถ้าเราว่าหยุดแล้ว ๑ บาทก็ไม่มี ๑ สตางค์ก็ไม่มี เปิดไว้อย่างนี้ไม่มากก็น้อย เราไปกรุงเทพคราวที่แล้วมันได้ถึง ๖ หรือ ๗ กิโล หือ (๖ กิโลกว่าครับ) นั่น ๖ กิโลกว่านู่น ไปเชียงใหม่ก็ได้เยอะ เชียงใหม่ก็ได้หลายกิโล ไปกรุงเทพคราวนี้ตั้งหลายกิโล ก็อย่างนั้นแล้วไปที่ไหนได้ทองคำมาๆ เพราะทองคำเป็นประเภทที่เราต้องการอยู่มากทีเดียว ไปที่ไหนจึงพูดถึงเรื่องทองคำๆ เสมอ ไม่ปิดปากเรื่องทองคำ เปิดปากเรื่อยเชียว ได้เรื่อยๆ

เมื่อวานนี้ใครเขาเอาทองคำมาให้ตอนเย็น ก็จะหลายบาทอยู่ พระครูอะไรที่วัดถ้ำประทุน ที่เราเคยไปเทศน์วัดถ้ำประทุน อาจารย์อะไรนะ (หลวงปู่อ่อนศรีเจ้าค่ะ) นั่นละท่านเอาทองคำมาให้ไวยาวัจกรเอาทองคำมาให้เมื่อวานนี้ ดูแล้วเราคาดเฉยๆ น่าจะไม่ต่ำกว่า ๓ หรือ ๔ บาท มันเป็นอะไรหลายประเภททองคำในนั้น เรามอบให้เขาไป เขาคงเอาไปเก็บที่ตู้นิรภัย สมบัติทุกอย่าง คนผู้เกี่ยวข้องการเงินกับเรานี้ต้องเป็นหัวใจเดียวกับเรา เพราะฉะนั้นเราจึงเชื่อได้หมด ใครจะรับมาที่ไหนๆ ก็ตามคนของเรารับมา เป็นเหมือนเรารับมาเอง ไม่มีเรี่ยราดสาดกระจายหรือซึมซาบไปไหนเลยไม่มี ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ๆ

อย่างเมื่อวานนี้ก็ชูมันรับไป หรือเยี่ยมบ้าง ยัพบ้างเหล่านี้ มีแต่คนของเราทั้งนั้นนะ เอาคอขาดเข้าเลย สูมาให้กูเห็นไม่ได้นะสูคอขาดบอกเลย ปัดไม่ให้เข้ามายุ่งเลย เราไม่มีญาติมีวงศ์ มีญาติด้วยความสนิทติดกันด้วยธรรมเท่านั้น อย่างอื่นไม่มีกับเรา ไม่ว่าจะใกล้จะไกลที่ไหนเราไม่ไว้ใจเราไม่เล่นด้วย อย่างการเงินการทองนี้เขาก็ติดพันกับเรื่องนี้มานานแล้ว เมื่อวานนี้ให้เขาเอาไป นี่ก็เข้าตู้นิรภัยละ เวลาไปกรุงเทพ หรือว่าชายป๋ำมาจากกรุงเทพก็ให้เอาไปถ้าพอเอาไปได้ ถ้าหากว่ามากกว่านั้น หรือขึ้นเครื่องบินไปไม่ปลอดภัยนี้เราเอาไปทีหลัง อย่างไปกรุงเทพคราวที่แล้วนี้ชายป๋ำก็ไม่ได้เอาไป ให้เราเอาไปเอง เพราะมันหลายกิโล ก็อย่างนั้นละ

ไปทางนู้นเป็นคนจัดให้ไปหลอม ไปหลอมมาเก็บไว้ตู้นิรภัยทางนู้น เวลานี้ได้เท่าไรแท่งแล้ว(ที่หลอมไว้แล้ว ๑๘ แท่ง) เอ้อ ๑๘ แท่งๆ ละ ๑๒ กิโลครึ่ง ที่ยังไม่หลอมก็มีเขาบอกอย่างนั้น เมื่อหลอมแล้วพอสมควรที่จะมอบเมื่อไรมันไม่ยากแหละไอ้เรื่องมอบนั่นน่ะ คือให้ได้เป็นร้อยๆ ขึ้นไป เรากะว่าถ้าเป็นไปได้ เรากะว่าจะประมาณสัก ๔๐๐ แต่นี้เราไม่ได้หาโดยตรง หาแบบออดแบบอ้อนบิณฑบาต ขอเปิดกระเป๋านั้นเปิดกระเป๋านี้ไปเล็กๆ น้อยๆ อย่างนั้น กะว่าไม่ถึง ๔๐๐ กิโลก็มอบได้ เราก็หาอีกอยู่นั้นละ

เราพยายามที่สุดเรื่องสมบัติส่วนรวมซึ่งเป็นหัวใจของชาติ เราพยายามที่สุดทุกวิถีทาง เพราะฉะนั้นใครที่มาทะลึ่งมันถึงโว้กว้ากขึ้นทันทีเลยเรา ก็คนหนึ่งหามาแทบล้มแทบตาย คนหนึ่งจะมาโกยเอาไปไหน อย่างน้อยตีข้อมือเอา ยุ่มย่ามมาทำไม ปั๊วะแล้วค่อยบอกว่างั้นเถอะ เราพยายามหาไว้เพื่อลูกหลานไทยเรานั้นแหละไม่ใช่เพื่ออะไร อันไหนที่สำคัญๆ เราจะคิดไว้เรียบร้อย เช่นอย่างโรงพยาบาลนี้ก็หมายถึงตาเป็นสำคัญมาก เราประมวลมาแล้วในอวัยวะของเราที่ใช้ภายนอกคืออะไร พวกตา พวกหู พวกจมูก ลิ้น กายอะไรนี้ อะไรจะชำรุดไปบ้างๆ ก็ยังไม่หมดความหมาย ยังขาดความหมายไปบ้างก็เป็นธรรมดา แต่ถ้าตาบอดเสียอย่างเดียวเท่านี้ แหมขาดเอาอย่างมากมาย

ไปนั่งอยู่บนกองเงินกองทองก็ไม่เห็นเงินเห็นทอง ไม่มีความหมายอะไร ตาบอดสำคัญมากนะ เพราะฉะนั้นเราจึงได้เสาะแสวงหาเครื่องมือตา นี่ก็ยังไม่แล้วทางเวียงจันทน์ก็ดี เพราะประเทศทั้งประเทศเครื่องมือตาไม่มี นี่เราก็จะพยายามช่วยแบ่งทางโน้นทางนี้ ส่วนใหญ่ทางประเทศไทย อันนั้นส่วนย่อย นี่ก็ไปตั้งที่บุรีรัมย์แล้ว เริ่มสั่งแล้ว ๖ ล้านเครื่องมือ แล้วเขาก็จะพยายามหาหมอมาให้ครบ คือเครื่องมือตานี้มันหลายประเภทหลายหมอ ผู้ใดชำนาญทางไหนๆ ในตา ต้องหาหมอมาให้ครบ แล้วเครื่องมือเราจะให้ครบ อย่างอุดรนี้ครบหมด ทั้งหมอทั้งเครื่องมือ ทีนี้ทางโน้นกำลังติดต่อกันทางบุรีรัมย์ เขาจะพยายามหาหมอให้ครบ แล้วเขาจะมาหาเรา ไม่จำเป็นต้องมา หาหมอให้ครบตามที่ต้องการก็แล้วกันเราว่างั้น ทางนี้เราจะหาเครื่องมือ ตั้งแล้วนั่น

เราจะตั้งไปทุกภาคนะ เห็นว่าภาคนี้เป็นภาคที่จนมาก และใกล้ชิดติดพันกับเรา มาขอมาร้องทั้งเช้าทั้งเย็นอยู่เรื่อย ทนไม่ไหวก็ต้องแก้ขัดแก้จนกันไปอย่างนี้ อย่างอุดรหรือแม้แต่ศรีนครินทร์ก็ยังมาขอเรา ศรีนครินทร์เครื่องมือตาขาด นั่นเห็นไหมล่ะ มาขอเราดูให้ไป ๖ ล้าน ๘ แสน จากนี้ก็ไปบุรีรัมย์ก่อน เริ่มบุรีรัมย์แล้วก็จะไปเริ่มทางไหนอีก จะไล่เลี่ยกันไป ไม่ให้ขาดทีเดียวว่าทางนี้พอแล้วถึงจะให้ทางนั้น ไม่เอาอย่างนั้น เราจะค่อยเพิ่มไปเรื่อย ตั้งนี้แล้วก็จะไปตั้งที่นั้น ตั้งที่นั้นแล้วสั่งที่นี่เรื่อยมาอย่างนี้ละ นี่ก็คิดว่าไปทางเพชรบูรณ์ทางพิษณุโลกหรือทางไหนกำลังคิดอยู่เดี๋ยวนี้ จะไปจุดนั้น พอตั้งบุรีรัมย์นี้แล้วก็คิดว่าจะออกไปทางพิษณุโลกหรือทางเพชรบูรณ์ ตรงไหนที่มีคนจนตรอกจนมุมมากก็จะลงจุดนั้นก่อน แล้วให้กระจายเหล่านั้นเข้ามาอาศัยกันทั้งหมดนั่นแหละ

เรื่องตานี้กว้างขวางมากนะคนไข้ อยู่ที่ไหนๆ อย่างที่อุดรเรานี้ ไปดูเมื่อไรแน่นๆ ตลอด ไม่ว่าเช้าสายบ่ายเย็นเต็มคนไข้ตา จนได้ถาม เขาก็บอก โอ๋ย มาหมดแถวนี้มานี้หมด ตา แต่คนไข้ธรรมดาเขาก็มาตามที่ตามฐานของเขาไม่มากนัก ที่ไหนก็มีโรงพยาบาล รักษากันได้เขาก็ไปทางนั้น แต่ตานี้ไม่ค่อยมีว่างั้นนะ จึงต้องไหลมาทางตา คนจึงมาก อย่างนั้นนะ เราจะพยายามช่วยเต็มกำลัง ที่คาดเอาไว้ก็คือบุรีรัมย์แห่งหนึ่ง ทางภาคอีสานหยุดละที่นี่ เห็นว่าได้พอสมควร อุดร ศรีนครินทร์ แล้วก็บุรีรัมย์ ได้สามแห่ง จากนี้ก็จะแยกไปทางภาคกลางภาคไหนไปเรื่อยๆ อย่างนั้น ถ้าเรายังไม่ตายจะทำอย่างนี้ตลอดไป นอกจากตายแล้วก็สุดวิสัยเท่านั้น วันนี้มีเท่านั้นละ ไม่พูดอะไรมาก

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก