เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๙
ทนไม่ไหว ออกเสียบ้าง
ที่วังสะพุงเขามีงานอะไร (ฝ่ายตำรวจกับฝ่ายอำเภอร่วมกันจัดงานครับ) เราพึ่งจะได้ยิน และเราจะพูดบ้างวันนี้ เราพึ่งได้ยินว่าวงราชการต่างๆ เช่นวังสะพุงนี้ทางตำรวจกับทางอำเภอจะมีการทอดผ้าป่าถวายกุศลเพื่อชาติของตน ส่วนมากวงราชการหนามากนะกิเลส หนาที่สุดวงราชการ ใหญ่เท่าไรยิ่งหนา วงราชการเวลานี้กำลังจะแตกกัน นี่ก็เพราะอำนาจของกิเลสไม่ใช่เพราะอำนาจของธรรม ธรรมท่านไม่มีอะไร ยกตัวอย่างเลยเรา อย่างอาจหาญชาญชัย ตั้งแต่นำพี่น้องทั้งหลายมาเป็นเวลา ๗ ปี บาทหนึ่งเราไม่เคยแตะ ฟังซิน่ะท่านทั้งหลาย นี่ละธรรมนำโลกนำอย่างนี้เอง
พูดอย่างชัดๆ ก่อนที่จะแสดงกิริยาออกไป สั่งเสียอะไรต่ออะไรนี้ เราจะพิจารณาภายในเสียก่อน เรื่องความผิดแย็บออกมามันปัดของมันเอง นี่ละธรรมชาติที่บริสุทธิ์ล้วนๆ เป็นอย่างนี้ท่านทั้งหลายฟังเอา เราขึ้นเวทีจะสลบไสลการปฏิบัติฆ่ากิเลสตัวโกหกตัวหลอกลวงต้มตุ๋นโลก ทำให้โลกเดือดร้อนอยู่นี้คือกิเลสเหล่านี้เอง มันแย็บเข้ามาในจิตนี้มันปัดทันทีเลย เรียกว่ามลทินแม้เม็ดหินเม็ดทรายจะเข้ามาไม่ได้ เข้ามาในจิตดวงนี้ พูดให้มันชัด เราปฏิบัติแทบล้มแทบตาย พระพุทธเจ้าสลบ ๓ หน เราไม่ได้ถึงขั้นสลบ แต่เราก็ตะเกียกตะกายขนาดนั้น ไม่ถึงสลบแต่เฉียดๆ ตลอดตั้งแต่ออกปฏิบัติขึ้นเวทีฟัดกับกิเลส หนักขนาดนั้นละ จนกระทั่งกิเลสพังไม่มีอะไรเหลือเลย ทีนี้จ้าขึ้นมามีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ
ความคิดอะไร เช่นเราคิดเกี่ยวกับการกับงานทั้งหลายอย่างนี้ มันจะมีความคิดผิดแย็บออกมานี้มันจะปัดของมันทันทีเลย เรียกว่าเข้ามาหาความบริสุทธิ์นี้ไม่ได้ ทีนี้เวลากิริยาที่ใช้ด้วยความพินิจพิจารณาไตร่ตรองเรียบร้อยแล้ว มันเป็นธรรมล้วนๆ แล้ว ทีนี้สั่งออกโน้นออกนี้ สมมุติว่าสั่งจ่ายทางไหนๆ จำนวนมากน้อยเพียงไรที่เงินพี่น้องทั้งหลายมาบริจาคนี้มีจำนวนมากขนาดไหน เราอยากว่าเป็นหมื่นล้านขึ้นไป อย่าว่าพันล้านเลย มากต่อมาก บาทเดียวเราไม่เคยมีที่ว่าอันนี้จะแย็บเข้ามาทำลาย เอาเงินบาทเดียวนี้ไปทำลายจิตใจของเรา และทำลายจิตใจของพี่น้องชาวไทยที่บริจาคมาด้วยความรักสงวนและศรัทธาต่อชาติของตน บาทหนึ่งเราไม่เคยมี ฟังซิท่านทั้งหลาย
นี่ละเรานำธรรมออกสอนโลกเรานำอย่างนี้ ทุกอย่างเราภูมิใจเพราะความเมตตาครอบตลอดเลย เราจนทุกวันนี้เพราะความเมตตา ไม่ใช่อะไรนะ ที่จะไปกวาดโน้นกวาดนี้ไม่มี เช่นไปกรุงเทพ ทางโน้นก็เอา ทำประโยชน์ให้ทางโน้น มาทางนี้ก็ทำประโยชน์ให้ทางนี้ จนกระทั่งวันจะกลับมานี้เงินจะไม่มีเหลือติดตัวมาเลย เลยต้องบอกคุณชาย เงินตอนเช้าให้แบ่งอย่างนั้นๆ เราจะเอาไปอุดรไปทำประโยชน์ทางอุดร นี้ทางกรุงเทพเอาไปกินหมด เราว่างั้น มากรุงเทพคราวนี้กระจายไปหมด ต้องแบ่งไปทางอุดรบ้าง จะได้เงินติดตัวมาสักกี่บาทก็ไม่รู้แหละ นี่อำนาจแห่งความเมตตาและความบริสุทธิ์ของใจ เราดำเนินมาอย่างนี้ตลอด ท่านทั้งหลายเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม เราเองเป็นผู้ขึ้นเวทีฟัดกับกิเลสตัวโกหกหลอกลวงต้มตุ๋น ตัวแสบๆ ที่จะทำโลกให้ล่มจม เพราะการรีดการไถการเห็นแก่ได้แก่กินนี้ละ โลกกำลังพินาศ
วันนี้ก็ดูจะประชุมอะไรกันอีกวันที่ ๒๖ ในกรุงเทพ ก็เพราะเรื่องของกิเลสตัวกินไม่พอ บ้ายศบ้าลาภ บ้าได้ไม่หยุดไม่ถอย เป็นเศรษฐีแล้วมันจะข้ามหัวเศรษฐีไปอีกกิเลสตัวนี้ ฟังซิน่ะ เป็นอย่างนี้แหละ ทีนี้มันจะมีแก่ใจยังไงที่จะไปคิดเรื่องศีลเรื่องธรรม พาบรรดาพี่น้องประชาชนราษฎรทั่วประเทศไทยตามจุดต่างๆ ที่วงราชการเป็นหัวหน้าๆ อยู่แล้ว พาพี่น้องทั้งหลายได้สร้างบุญสร้างกุศลเป็นคติเครื่องเตือนใจของประชาชนทั้งหลายในนามเราเป็นหัวหน้านำชาติบ้านเมือง เราไม่ค่อยเห็นนะเราอยากพูดจริงๆ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะมันหนาแน่นมากกิเลส
ใหญ่เท่าไรตัวเป้งๆ เท่าไรเบ่งขึ้นอย่างนี้นะ เบ่งกิเลส มาอวดธรรมอวดได้ยังไง ธรรมดูหมดนี่ น่าสลดสังเวชนะพูดจริงๆ คนหนึ่งเปิดออก มีเท่าไรเปิดออกๆ กระจายทั่ว คนหนึ่งกว้านเข้ามาๆ ไอ้ผู้ที่กว้านเข้ามา สนุกกว้านเข้ามา ผู้ที่เปิดออกๆ มันดูละซิ ธรรมดูโลกดูยากอะไร พูดให้มันชัดเจน ในวงราชการต่างๆ เป็นผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งไม่มีเรื่องศีลเรื่องธรรม จะไปวัดไปวาเหมือนกับว่ากิเลสตัณหาตัวมูตรตัวคูถยกตัวขึ้นเป็นทองทั้งแท่ง เหยียบอรรถเหยียบธรรมลงไปโดยลำดับ ถ้าจะไปวัดไปวาเหมือนกับจะลงมูตรลงคูถ ถ้าจะเข้าส้วมเข้าถานนี้เหมือนจะขึ้นสวรรค์ชั้นพรหม เป็นอย่างนั้นนะเวลานี้ วงราชการถึงเดือดร้อน
ใครพูดอย่างเราพูดนี้ นี่พิจารณาเต็มกำลังความสามารถ นำมาพูด เราไม่ได้หาเรื่องโกหกหลอกลวงผู้ใดๆ นำธรรมมาปฏิบัติเราก็ไม่เคยโกหกเรา เอาเสียจนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้ผลขึ้นมาเป็นขั้นที่พอใจแล้วทีนี้ช่วยโลกละที่นี่ ช่วยตลอดเวลาอย่างนี้ ที่ว่าไปเทศน์ที่นั่นที่นี่ เทศน์ที่ไหนก็นำสมบัติมาเฉลี่ยเผื่อแผ่ทั่วประเทศไทย เราไม่สนใจเรื่องการเงินการทอง เอามาแต่ไม่สนใจที่จะมาเป็นของตัว เราทำอย่างนี้ตลอดมา
วงราชการเป็นวงที่หนาแน่นที่สุด หยาบโลนที่สุด ใหญ่เท่าไรยิ่งหยาบโลนมาก ศาสนาเข้าใกล้ไม่ได้ ไอ้กองส้วมกองถานมันเต็มอยู่ในวงราชการตัวใหญ่ๆ นั่นละ มีแต่ส้วมใหญ่ถานใหญ่อยู่นั้นเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นใครจึงอยากจะเป็นแต่ราชการๆ วงราชการนั้นน่ะเป็นที่รวมแห่งสมบัติทั้งหลายอยู่ที่นั่น แล้วก็เท่ากับส้วมใหญ่ถานใหญ่เต็มไปด้วยมูตรด้วยคูถ พวกวงราชการต่างๆ ใครก็สมัครเข้าไปๆ อยากจะเป็นเจ้าเป็นนายๆ คือเป็นเจ้าของส้วมเข้าใจไหม พอใครได้เป็นแล้วก็เหมือนปล่อยหมาเข้าถาน พอปล่อยหมาเข้าถานแล้วทีนี้มันกินไม่มีอิ่มนะ หมาเข้าถานยังอิ่ม ไอ้คนเข้าส้วมใหญ่ถานใหญ่นี้ไม่มีอิ่ม จับหางดึงมาหางขาดยังไม่ยอมออก ท้องป่องออกมาๆ ใครเป็นวงราชการเป็นเจ้าเป็นนายสนุกเหยียบหัวประชาชนคนตาดำๆ ด้วยกันไปอย่างนั้นละ เป็นชัดๆ เอาธรรมจับ
เอ้า ถ้าหลวงตาบัวพูดผิด เอา อ้างมา ว่าเราพูดผิดที่ตรงไหน เราคอขาดได้เลย เราปฏิบัติตามธรรม พูดตามอรรถตามธรรมด้วยการพิจารณาโดยอรรถโดยธรรมแล้วจึงมาพูด ที่ได้ยินวงราชการรวมกัน เช่นทางอำเภอวังสะพุงกับทางตำรวจ เราปลื้มปีติยินดี เราแทบจะว่าไม่เคยเห็นที่จะมารวมกัน วงราชการหน่วยนั้นหน่วยนี้สร้างบุญสร้างกุศลศีลทาน ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม แล้วนอกจากนั้นยังเป็นคติเครื่องเตือนใจ เป็นผู้นำของบรรดาพี่น้องทั้งหลายต่อไป สมความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้ใหญ่แต่กินแต่กลืนแต่รีดแต่ไถ ใหญ่ทางศีลธรรมนี้เย็นนะ ใหญ่ทางรีดทางไถนี้ ใหญ่เท่าไรยิ่งร้อนเป็นฟืนเป็นไฟไปละ
นี่ได้ยินที่ว่าจะนิมนต์ไปเทศน์ เราก็พอใจไปเทศน์ให้ เพราะมันไม่ค่อยมีนะวงราชการจะมีแก่ใจไปทำบุญให้ทาน ไม่ค่อยมีจริงๆ เรายังเหลือนิดหนึ่งว่าไม่มี มีไม่ค่อยเข้าไปหน่อยหนึ่ง คือมันยังมีอยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ ถ้าว่าจะหมดจริงๆ วังสะพุงก็ขึ้นมาแล้ว จึงว่าไม่ค่อยมี เป็นอย่างนี้ละ มันสลดสังเวชนะ ธรรมดูโลกดูจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดา ถึงกาลจะพูดพูดอย่างนี้ละ ดูมาตลอด ไปที่ไหนมีแต่ความสลดสังเวช การแต่งเนื้อแต่งตัววงราชการนี้โอ่อ่าฟู่ฟ่า โธ้ เทวดาอินทร์พรหมสู้ไม่ได้การแต่งตัวนี้นะ แต่ในร่างของคนนั้นมีแต่ส้วมแต่ถาน มีแต่ฟืนแต่ไฟ ตัวขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง ราคะตัณหาเต็มอยู่ในนั้นหมด กินไม่พอๆ คือพวกเป้งๆ นี้ละตัวสำคัญที่กินบ้านกินเมืองอยู่เวลานี้ ปีนกันขึ้นๆ จะเข้าส้วมเข้าถาน เป็นอย่างนั้นนะมันน่าทุเรศ
ที่จะไปปฏิบัติหน้าที่การงานให้ดีงามเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมนี้มีน้อยมาก เราไม่ได้ปฏิเสธนะว่าไม่มี มี แต่ผู้ที่ดีทั้งหลายพูดอะไรออกมาไม่ได้ พวกกองส้วมกองถานมันกองเท่าภูเขานี้มันทับทีเดียวหงายไปเลยๆ การจะทำความดีงามอะไรต้องหมอบๆ ลอบๆ มองๆ ไปทำ อย่างนั้นนะ จะทำอย่างออกหน้าออกตาไม่ได้พวกกองมูตรกองถานมันโจมตีเข้าใจเหรอ มันน่าสลดสังเวชนะเวลานี้กิเลสครองบ้านครองเมือง ธรรมไม่ได้ครองหัวใจสัตว์โลก มีแต่กิเลสเหยียบย่ำหัวใจของสัตว์โลกให้เดือดร้อนไปหมด ทุกหย่อมหญ้าละเวลานี้ว่างั้นเลย
เป็นยังไงวงราชการทุกวันนี้ มีไหมอย่างหลวงตาบัวพูด เอาตั้งแต่วงรัฐบาลลงมา ตั้งแต่นายกฯลงมาเป็นยังไง ใครเป็นผู้นำๆ นำเพื่อล่มเพื่อจมทั้งนั้น ตับปอดประชาชนทั้งหลายเลยจะไม่มี เอ้า พอผู้นำเหล่านี้สะแตกกันอิ่มแล้วออกไป แล้วผู้นำใหม่ขึ้นมาฟาดอีก ตับปอดประชาชนจะเอามาจากไหน คนๆ หนึ่งมีตับปอดนิดเดียวเท่านั้น ใครมาก็มากินมากลืนอย่างนี้ มันน่าทุเรศนะ ให้ธรรมเข้าไปทำงานดูซิน่ะ ไม่ว่าอะไรจะสมบูรณ์ไปตามๆ กันตั้งแต่ผู้ใหญ่ลงมา เอ้า วงราชการทุกข์ให้ทุกข์ให้มันเห็นเสียน่ะ ช่วยชาติบ้านเมืองเป็นราชการผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งไม่มีเงินติดเนื้อติดตัว เพราะช่วยชาติบ้านเมืองๆ ตามลำดับลำดาของวงราชการ ของเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ที่มีศีลมีธรรม ช่วยเฉลี่ยเผื่อแผ่ต่อประชาชนราษฎรให้เขามีความสุข ตนมีความอดอยากขาดแคลนหากินไม่พอปากพอท้อง อย่างนี้มันไม่เคยเห็นมี มีแต่ท้องป่องท้องเป้งออกมานั่นละ มันเป็นอย่างนั้น
เราก็อยากเห็นราชการคนไหนน่ะ ที่เป็นข้าราชการแล้วไปทำความดีแก่ประชาชนจนไม่มีเงินติดเนื้อติดตัว ไม่มีอะไรจะมาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ให้บอกมาหลวงตาบัวจะเรี่ยไรเงินไปช่วย พูดจริงๆ นะ นี่มันไม่เห็นมีนั่นซิ จะว่าไง มีแต่จะจับหางดึงเอาไว้ หางขาดมันไม่ยอมถอย บืนเข้าถาน กินไม่พอๆ เป็นอยู่อย่างนั้น มันเห็นแต่ยังงั้นจะให้ว่าไง มันน่าทุเรศไหมเมืองไทยเรา โห ศาสนาก็ต้องหมอบไปตามกิเลสนะเดี๋ยวนี้ วงศาสนาก็ต้องหมอบไปตามกิเลส สุดท้ายพระเณรก็ได้หมอบไปตามกิเลส หลวงตาบัวนี้ไม่หมอบเข้าใจไหม เอาธรรมออกมาประกาศจ้าเลย เอา คอตัดไปเลยถ้าหลวงตาบัวได้นำโลกนี้ผิดไป และสอนโลกนี้ผิดไป เอ้า เอาไปตัดคอเลยจะไม่มีอะไรเสียดาย เราทำด้วยความสุจริตเต็มที่แล้วคอขาดไปเถอะ ธรรมไม่ขาดในหัวใจเราเราเป็นที่พอใจ
วันนี้เราก็อนุโมทนากับวงราชการ มีทางอำเภอทางตำรวจรวมกันมีความพร้อมเพรียงสามัคคี จะพาพี่น้องทั้งหลายสร้างบุญกุศล เราอนุโมทนาสาธุการ ขอให้วงราชการทั้งหลายได้ถือเป็นคติตัวอย่างบ้างเถอะ อย่ามีตั้งแต่สะแตกๆ อย่างเดียว มันทุเรศจริงๆ นอกจากไม่พูด หัวใจก็ดูภายในก็ดู ภายนอกสัมผัสสัมพันธ์ทางตาทางหูมันฟังตลอด ที่จะพิจารณาทางจิตใจเป็นเรื่องลับๆ มันก็พิจารณาตลอด เก็บไว้ พิจารณาอะไรเก็บไว้ เก็บความรู้สึกๆ นี้ไว้ไม่ออก ถึงกาลออกก็ฟังเอาซิ อย่างนี้ละ เหมือนไม่รู้แต่ก่อน เหมือนไม่รู้ไม่ชี้ พึ่งจะมารู้วันนี้ มันรู้มานานแล้วเข้าใจไหม เป็นแต่เพียงไม่แสดงออกเท่านั้น วันนี้มีเหตุผลกลไกที่จะนำแสดงออก เราจึงนำแสดงออก
วงราชการนี้เรียกว่าเลวมาก ผู้ที่ดีมีน้อย ต้องหมอบหัวซุกหัวอยู่ในส้วมในถานกับพวกส้วมพวกถาน มันโปะเอา เข้าใจ อู๊ย น่าทุเรศ แล้วพระที่จะปฏิบัติดีนี้ก็จะอยู่ยากนะ พระที่เลวทรามก็มากต่อมากเดี๋ยวนี้ เหยียบหัวพระดีไปอีกเยอะนะ พระดีต้องหาหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ พูดความดีพูดเรื่องศีลเรื่องธรรมมาไม่ได้ พวกเปรตพวกผีนี้มันพิลึกกึกกือ ทั้งฝ่ายศาสนาทั้งฝ่ายประชาชนมันรวมหัวเป็นกองทัพกิเลส ส้วมใหญ่ถานใหญ่ทับศีลทับธรรมขาดไปหมด จะไม่มีอะไรเหลือนะ ท่านทั้งหลายยอมให้กิเลสทับอยู่ในหัวใจแต่ละดวงๆ กิเลสมีอยู่ในหัวใจมันทับมากน้อยเพียงไรตีให้มันแตกกระจายออกไปซิ ให้ศีลธรรมเกิดขึ้นภายในหัวใจจ้าไปหมดครอบโลกธาตุ นี่หัวใจนี้จ้าแล้วนะ พูดให้มันชัดๆ
เราปฏิบัติมาเป็นเวลา ๙ ปี เต็มเม็ดเต็มหน่วย จนกระทั่งได้ผลเป็นที่พอใจ จึงไม่เคยสะทกสะท้านอะไรในสามแดนโลกธาตุ กล้าก็ไม่มี กลัวก็ไม่มี เราไม่มี มีแต่ธรรมที่จ้าตลอดอยู่นี้ ไปที่ไหนควรจะหลับตาก็หลับ หูหนวกตาบอดบอดไปเสีย ภายในมันไม่ได้บอดเข้าใจไหมล่ะ ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้น เหนือโลกตลอดเวลา ทีนี้เวลาเห็นส้วมเห็นถานจึงดูไม่ได้ซิ ทนเอาๆ วันนี้น่าจะทนไม่ไหว ออกเสียบ้าง เอาเสียบ้าง พอเท่านั้นละ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |