ธรรมท่านไม่หลอกให้ตกนรก
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : ศาลา สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพ

เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๙

ธรรมท่านไม่หลอกให้ตกนรก

 

ก่อนจังหัน

          ให้พรๆ ทานที่ท่านทั้งหลายนำมาบริจาคนี้เป็นสมบัติของท่านเอง เวลาท่านให้พร ตั้งสัจจะอธิษฐาน ปรารถนาสิ่งใดจากผลทานของตนก็พึงปรารถนาเอานะ

หลังจังหัน

         สรุปเงินสร้างเจดีย์วัดอโศการามถึงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ เมื่อวานนี้ เงินจากอุดร ๗๐๔,๐๐๐ บาท จากกรุงเทพ ๔๐๖,๕๐๐ บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน ๑,๑๑๐,๕๐๐ บาท นี่ละต้องให้ได้ล้านก่อนจะออกเดินทางไปวัดอโศฯ เราเตรียมมัดทุกกระเป๋าไว้แล้ว เงินอย่างน้อยต้องให้ได้หนึ่งล้าน แต่นี้ได้หนึ่งล้านแล้วก็ไม่ค่อยอะไรนักละ เราจะไปถามข้อเท็จจริงทุกอย่างจากวัดอโศฯ ขาดเหลือเท่าไรๆ แล้วจะมาพิจารณากันอีกที ไม่ใช่น้อยๆ นะไม่ทราบกี่ล้านแหละวัดอโศฯ เรารวบรวมไปจากวัดป่าบ้านตาดมาถึงทางนี้ดะกันไป ๒๒ ล้านกว่าแล้วนะ ไม่นับอันนี้ ๒๒ ล้านกว่าวัดอโศฯ ไม่ใช่เล่นนะ จากนั้นก็จะมารวมอยู่ในเราหมด

ลำพังวัดอโศฯ จะไปไม่รอด จะตกค้างอยู่นั้น ให้อีแร้งอีกาบินเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ว่าเน่าแล้วควรเป็นอาหารก็ยังไม่เน่า เห็นหูกระดิกๆ อยู่ แล้วบินกลับไปกลับมาอยู่นั้นละ เราเลยจะไปชำระอีแร้งอีกา จึงมารวบรวมกัน นี่ท่านทองก็ว่าจะกลับวันพรุ่งนี้วันที่ ๒๔ ให้โทรไปถามให้ชัดเจนนะ ท่านทองจะกลับมาถึงวัดอโศการามเวลาเท่าไรวันพรุ่งนี้ นี่เราก็จะไปให้ทราบเรื่องราวของเจดีย์วันพรุ่งนี้ ให้โทรไปถามให้ชัดเจนนะว่าท่านทองจะกลับมาถึงวัดอโศการามเวลาเท่าไรวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้เราจะไปเอาเงินไปมอบ แล้วก็จะถามถึงเรื่องปัจจัยขาดเหลือเท่าไรให้เรียบร้อยในวันพรุ่งนี้

วันที่ ๒๕ เรากลับแล้วนี่ ท่านทองจะมาวันที่ ๒๔ จะทันกันอย่างไรหรือไม่ ไม่ทันถ้ามาถึงตอนค่ำตอนเย็น ท่านทองควรจะมาหาเราอีกก็ให้มา ถ้าธรรมดาท่านทองต้องมาถ้าไม่เซ่อจนเกินไป พูดให้มันชัดเจน เราเคยดุท่านทองตลอด ท่านทองไม่ได้ฉลาดนะว่างี้เลย ไม่สมศักดิ์ศรีของวัดอโศการามซึ่งเป็นวัดใหญ่นะ ว่าจริงๆ เราไม่เหมือนใคร ดูลักษณะเซ่อๆ เซ่ๆ ว่าจริงๆ แหละเรา มานี่ถ้าเราไปถึงนั้นท่านทองอาจมาถึงตอนเย็นก็ได้แล้วก็เลยจะปล่อยให้เรื่องผ่านไป ถ้าเป็นเราไม่ผ่าน จะตามให้ถึงเลย ก็ครูบาอาจารย์ทั้งองค์มาช่วยเหลือเต็มกำลังใช่ไหม เราจะมาเอื่อยอ่ายอยู่ไม่ได้นะ ถ้าเป็นเราแล้วผึงเลย พอถึงนั้นปั๊บเตรียมมาเลยถ้าไม่ทัน แต่นี้จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไรก็มันเซ่อ

นี่ตามจริงๆ ไม่ใช่เล่นๆ เราก็จะไปให้ทัน วันพรุ่งนี้ให้ได้ทราบเรื่องราวเจดีย์มีอยู่เท่าไรเราจะประมวลมาพิจารณาช่วยเหลือ ไม่ใช่อะไรนะ ท่านจะมาจากอินโดนีเซียวันพรุ่งนี้ไม่ทราบว่าเวลาเท่าไรมาถึง แต่เราฉันจังหันเสร็จแล้วเราก็จะไป ในราวจวนเที่ยงหรือเที่ยงเราก็ไปถึงวัดอโศการาม ถ้าท่านมาก่อนก็จะทราบเรื่องราวกันเรียบร้อย แล้วก็ประมวลทั้งหมดมาพิจารณาอีกต่อไป ถ้าท่านทองยังไม่มาก็พลาดละที่นี่ ถ้าหากว่าท่านทองมาตอนเย็นท่านทองต้องมาหาเราให้ได้ความชัดเจน เพราะทราบแล้วว่าวันที่ ๒๕ เราจะกลับ ก็ทราบกันชัดเจนอยู่แล้ว (กำลังโทรอยู่ครับ) เออ ถามให้ชัดเจนซี จะมาเอื่อยๆ ไม่ได้นะกับเรา เราจริงจังทุกอย่าง ดุเรื่อยแหละท่านทอง เอาเรื่อยกับท่านทอง เราไปดุเรื่อยนะ

นี่ก็ว่าจะมาวันที่ ๒๔ แล้วก็ยังไม่ทราบ ให้โทรให้ทราบว่าจะมาถึงวัดอโศการามเวลาประมาณเท่าไร ให้ติดต่อเสีย ถ้าหากว่ามาไม่ทันเราตอนที่เราไป ท่านทองมาตอนเย็นต้องมาหาเรา ประมวลบัญชีมาพร้อมเลย บอกอย่างนั้นเลยนะ (ครับ) ถ้าสมมุติว่าเราไปนี้ท่านทองยังไม่มาเรากลับมาก่อน แล้วท่านทองกลับมาแล้วให้รวบรวมบัญชีเจดีย์เท่าไร ขาดเหลือเท่าไร เรียบร้อยแล้วให้มาหาเราในวันพรุ่งนี้ตอนเย็น เพราะวันที่ ๒๕ เราก็จะกลับแล้วนี่ เราจะรวบรวมบัญชีทั้งหมด ขาดเหลือเท่าไรจะได้พิจารณาต่อไป

โธ่ มันหนักทุกแง่ทุกมุมนะเรา ไปที่ไหนทำอย่างนั้นละ เรื่องช่วยโลกนี่ช่วยตลอดเลย ไปที่ไหนหมุนติ้วๆ ช่วยทั้งนั้น อย่างนี้ละ นี่ก็ไปทางวัดอโศฯ บ้างทางไหนบ้าง เราเป็นแต่เพียงผู้ชี้บอกเท่านั้น ไปทางไหนๆ เอ้า แยกไปๆ ทำประโยชน์ให้โลก เรานี้บาทเดียวไม่เคยแตะไม่ยุ่ง อย่างนั้นนะเราช่วยโลกจริงๆ ช่วยด้วยความพอแล้วในหัวใจของเรา ไม่มีอะไร เราช่วยโลกที่ขาดแคลนมากมาย ไปที่ไหนยุ่งไปหมดด้วยความขาดแคลน จึงช่วยเต็มกำลังทุกแห่งๆ

วันพรุ่งนี้ไม่ไปไหนละ เหนื่อย พักผ่อนเสียก่อน วันพรุ่งนี้จะไปวัดอโศฯ วันที่ ๒๕ ก็กลับ วันที่ ๒๖ ก็ต้องไปจังหวัดเลย เทศน์ที่จังหวัดเลย จากนั้นมาวันที่ ๕ มีนาคมหรืออะไร ไปเทศน์ที่วัดหลวงพ่อแนน อย่างนั้นละเราได้อยู่เมื่อไร หมุนตลอด นี่ก็เป็นกังวลอยู่กับท่านทองจะมาทันหรือไม่ทัน ที่สำคัญก็คือว่าท่านทองมาในวันพรุ่งนี้ต้องมาหาเรา รวบรวมบัญชีของเจดีย์มาพร้อมเลย ให้ทราบชัดในวันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย ถ้าจะให้เหมาะจริงๆ ก็ให้ได้พบกับเราที่วัดอโศฯ เลยนั่นแน่นอน ตามมาทีหลังเป็นปลีกเป็นย่อยอีกแหละ

ที่เราได้อุตส่าห์พยายามเจดีย์วัดอโศการามนี้ เราเทิดทูนครูบาอาจารย์ทั้งหลายนะ เจดีย์นี้ถึงขึ้น เรื่องเจดีย์จริงๆ เราไม่เคยริเริ่ม ไม่เคยก่อเคยสร้างขึ้นมา แต่เมื่อเวลาทำลงไปแล้วเรื่องราวก็ประมวลเข้ามาหาครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เป็นเพชรน้ำหนึ่งๆ ที่จะมาวัดอโศการาม ครูบาอาจารย์ทั้งหลายอัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุๆ นั้นคือพระอรหันต์แต่ละองค์ๆ  เราจะรวมมาที่วัดอโศการามที่เจดีย์หลังนี้ละ เราจะอาราธนาท่านมาให้หมด เราจะพยายามเองให้ได้มาทุกองค์ๆ แล้วก็มาประดิษฐานที่นั่นให้ลูกหลานไทยเราได้กราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจตลอดไปเรื่อยๆ  เราจึงได้อุตส่าห์พยายามเทิดทูน ตกลงเราเลยรับภาระเรื่องเจดีย์นี้ จะให้เป็นเจดีย์ของพระอรหันต์ในสมัยปัจจุบัน พูดอย่างป้างไม่สงสัยเลย คือจะเอาอัฐิของครูบาอาจารย์ที่อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุเรียบร้อยแล้วมารวมอยู่ที่นั่น บรรจุเจดีย์ของพระอรหันต์ในสมัยปัจจุบันซึ่งมีไม่น้อยนะที่ล่วงไปแล้ว ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน

แต่ที่ยังมีชีวิตอยู่มีนะ พระที่ท่านทรงมรรคทรงผลอยู่ในป่าในเขา ส่วนมากต่อมากก็คือลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นทั้งนั้น อยู่ในป่าในเขา ท่านตักตวงเอามรรคผลนิพพานด้วยการทำความพากเพียรอยู่ในป่าในเขาตลอดมา ท่านเงียบๆ อยู่อย่างนั้นนะ เวลาจำเป็นจริงๆ ท่านก็ออกมาเสียทีหนึ่งจากหัวหน้าที่สั่งให้มา เช่นอย่างวัดอโศฯ ประชุมใหญ่พวกเทวทัตจะมาทำลายศาสนานั้นน่ะ ปี พ.ศ.เท่าไรท่านหลั่งไหลออกมา ลำบากลำบนท่านก็ต้องออกมาเพราะหัวหน้าสั่ง หัวหน้าคือใคร ก็คือเรา แน่ะก็อย่างนั้นแหละ ท่านก็มาประชุม ทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้วท่านก็กลับไปเงียบเลยเวลานี้ ท่านภาวนาของท่าน

มรรคผลนิพพานมีอยู่กับผู้ปฏิบัตินะ ไม่ได้มีอยู่ตามตู้ตามหีบตามคัมภีร์ใบลาน ที่เรียนจดจำมาแล้วก็มาท่องบ่นเหมือนนกขุนทอง แก้วเจ้าขาๆ ไม่ทราบว่าแก้วเจ้าขาเป็นยังไง มีมากเรียนมา เรียนธรรมกลายเป็นโลกไปหมด เรียนธรรมเพื่อชั้นเพื่อภูมิเพื่อกิเลสตัณหาไปเลย ไม่ได้เรียนธรรมเพื่อปฏิบัติธรรม นี่ละเราวิตกวิจารณ์มาก จวนจะตายเท่าไรยิ่งวิตกวิจารณ์ ใครจะเป็นบ้า เอ้า เราสมัครเป็น เป็นบ้าด้วยความเมตตาสงสารเป็นห่วงใยโลก เอา เป็นเราไม่ว่า มีแต่เรานี่ละพูดเปรี้ยงๆ ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งใด สิ่งเลวร้ายมันเต็มท่วแผ่นดินแผ่นหญ้า ธรรมที่เป็นเครื่องชะล้างในหัวใจของชาวพุทธเรามีน้อยมากทีเดียว จนจะไม่มีเหลือของวิเศษในพุทธศาสนา ไม่มีใครปฏิบัติหยิบยกออกมาโชว์ในหัวใจของตัวเอง

มีแต่เรียนๆ หนังสือธรรมะธัมโมเลยกลายเป็นกิเลสไปหมด เรียนมาก็ตีความหมายเพื่อกิเลส มันตีเองของมันนะเป็นความหมายไปเลย เรียนได้ชั้นนั้นชั้นนี้ เป็นกิเลสไป สำคัญตนว่าได้ชั้นนั้นชั้นนี้ ทะนงตน นั่นกิเลส เห็นไหมล่ะ ธรรมแท้เรียนได้มากเท่าไรจะเข้ามาแก้ตรงนี้ๆ  จึงว่าเรียนเพื่อปฏิบัติเพื่อแก้กิเลสถูกต้อง แต่เรียนเพื่อชั้นเพื่อภูมิอย่างนั้นก็เป็นเรื่องของกิเลส เป็นเรื่องของโลกล้วนๆ ไปเลย เดี๋ยวนี้มีแต่อย่างนั้น เราไม่อยากจะแยกออกมาว่ามีภาคปฏิบัติอย่างนั้นอย่างนี้ มีน้อยมาก จึงไม่อยากจะพูดเลย ที่มีน้อยมากนี่ละผู้ทรงมรรคทรงผล คือจำนวนน้อยมากนี่ มีน้อยเมื่อไรอยู่ในป่า

วงกรรมฐานท่านทราบได้ดี วงกรรมฐานด้วยกันท่านทราบได้ดี องค์ไหนเป็นยังไงๆ ปฏิบัติในป่าในเขา เพราะวงกรรมฐานเป็นเหมือนกับครอบครัวกรรมฐาน ท่านจะพูดกันอยู่ในวงครอบครัวของท่านเท่านั้น ออกจากนั้นไปหูหนวกตาบอดไปเลย เฉย ธรรมเป็นอย่างนั้นนะไม่อยากโอ้อยากอวด ไม่มี แต่ธรรมกับใจสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา มีน้อยเมื่อไรทุกวันนี้ ส่วนมากอยู่ทางภาคอีสาน พูดให้ชัดเจน เพราะต้นตออยู่ที่นั่น ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เป็นเพชรน้ำหนึ่งก็หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ต่อจากนั้นมาครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ได้รับการอบรมจากท่าน ก็กลายเป็นเพชรน้ำหนึ่งขึ้นมามีน้อยเมื่อไรอยู่ที่ภาคอีสาน

เพราะฉะนั้นกรรมฐานจึงอยู่ที่นั่นมากก็เพราะแม่เหล็กเครื่องดึงดูด คือครูบาอาจารย์ทั้งหลายมีอยู่ทางโน้นมาก และสถานที่บำเพ็ญก็สะดวกสบาย มีป่ามีเขาลำเนาไพรสมบูรณ์ ท่านจึงชอบอยู่ทางโน้นๆ นานๆ ท่านจะออกมาทีหนึ่งๆ  นี่ละท่านผู้ทรงมรรคทรงผล ให้จำเอาเสีย เราไม่ได้มาโกหกโลกนะ เราอยู่ในวงปฏิบัติทราบชัดหมด บรรดานักปฏิบัติทั้งหลายอยู่ในแถวไหนๆ ที่ใดๆ มีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงในด้านภูมิอรรถภูมิธรรมต่างกันอย่างไรบ้าง รู้ตลอด เพราะท่านบำเพ็ญตลอดเวลา ท่านก็ได้มรรคได้ผลมาตลอดเงียบๆ ท่านทำอย่างเงียบๆ

นี่ละศาสนาจะยังเหลืออยู่ มีภาคปฏิบัติเป็นแนวหน้า ประชาชนผู้ตั้งใจเคารพบูชาปฏิบัติตามท่านก็เดินตามหลังกันไปๆ ศาสนาจะยังเหลืออยู่อย่างนี้ มีแต่คัมภีร์ใบลานไม่ต้องพูดแหละ เต็มอยู่ในคัมภีร์ก็เป็นตัวหนังสือเป็นใบลานเป็นกระดาษไปเสีย ไม่ได้เป็นมรรคเป็นผลเหมือนที่เรียนมาแล้วออกไปปฏิบัติ แล้วเกิดมรรคเกิดผลขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ โสดา สกิทา อนาคา อรหันต์ สดๆ ร้อนๆ กับผู้ปฏิบัติ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกาลสถานที่เวล่ำเวลามืดแจ้งอะไร ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติ ถ้าผู้ปฏิบัติมีอยู่แล้วมรรคผลนิพพานรอเสมอๆ เป็น อกาลิโก ไม่เลือกกาลสถานที่เวล่ำเวลา ผู้ปฏิบัติดีเป็นดีตลอด ผู้ปฏิบัติชั่วเป็นชั่วตลอดไป

ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่มีคำว่าเอนเอียง มันเอนเอียงตั้งแต่เรื่องกิเลส ร้อยสันพันคมหลอกลวงโลก โลกก็โง่ด้วย ชั่วมันอย่างง่ายดาย ตายไม่เข็ดไม่หลาบก็คือสัตว์โลกที่วิ่งตามกิเลส ให้มันดัดสันดานเอาๆ ตกนรกอเวจีเพราะอะไร ก็เพราะอำนาจของกิเลสสหลอกนั่นซิ ธรรมท่านไม่หลอกให้ตกนรก มีแต่บอกให้ไปสวรรค์ทั้งนั้น ก็คิดดูอย่างไหลลงนรก มีแต่เรื่องกิเลสหลอกทั้งนั้น ผู้ที่พ้นทุกข์ไปสวรรค์นิพพานมีแต่ธรรมท่านดึงๆ ไป

นี้เราก็จวนจะตายแล้ว อยู่ได้กี่วันล่ะ เทศน์วอกๆ อยู่อย่างนี้ ท่านทั้งหลายให้จำนะ คำพูดของเราเป็นที่แน่ใจไม่สงสัย ถอดออกมาจากหัวใจที่แม่นยำแล้ว จึงไม่ผิดพลาด ไม่สงสัย การเทศนาว่าการไม่ว่าธรรมะขั้นใดไม่ผิด ถอดออกมาจากหัวใจๆ เลยที่เป็นที่แน่ใจแล้ว ขอให้พากันตายใจลงใจปฏิบัติ บาปบุญนรกสวรรค์มีเป็นพื้นเพมากี่กัปกี่กัลป์แล้ว อย่าไปลบไปล้างถ้าไม่อยากฉิบหาย ใครอยากฉิบหายก็ เอา ไปลบล้าง พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ยอมรับหมดเรื่องบาปเรื่องบุญ นรกสวรรค์ พรหมโลก นิพพาน ว่ามีอยู่ดั้งเดิม ฟังซิว่ามีอยู่ดั้งเดิม เราเกิดมาเมื่อสองสามวันนี้ไปเก่งกล้าสามารถยิ่งกว่าพระพุทธเจ้า ไปหาลบล้างบาปบุญนรกสวรรค์จมนะ ถ้าไม่อยากจมอย่าไปลบล้างคำสอนของนักปราชญ์ ซึ่งเป็นคำสอนที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว

คำพูดคำจาของเรานี้มันปากอมขี้ ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง อยู่ในหัวใจของเรา พูดออกมาก็เป็นปากอมขี้ไปหมดใช้ไม่ได้นะ เลอะเทอะไปหมด ปากอมธรรมเหมือนพระพุทธเจ้า สาวกทั้งหลายนั้น ประกาศออกตรงไหนสว่างจ้าชุ่มเย็นไปหมด จำเอา เอาละเท่านี้พอ ให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก