เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๙
อย่าเห็นแก่เงินยิ่งกว่าชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ก่อนจังหัน
วันนี้เราจะไปช่วยปลา ที่เราเคยช่วยมาทุกที ช่วยทั้งคนทั้งปลาทั้งอะไร เราเปิดประตูแคบ ไม่ว่าอากาศไม่ว่าน้ำ เปิดแคบมันก็เข้าได้น้อย ออกได้น้อย เปิดกว้างมันก็เข้าได้มาก ออกได้มาก เปิดกว้างเท่าไรออกมากเท่าไรเข้ามากเท่านั้น ทีนี้ปิดบัญชีกัน ปิดกึ๊กไม่ให้มันออก ทีนี้มันเลยไม่เข้า คนตระหนี่อย่างนั้นละ ปิดกึ๊กไม่ให้มันออก สุดท้ายมันก็ไม่เข้า เปิดออก เข้าไปเท่าไรออกไปเท่าไร มันเข้ากลับไปหาผู้ทำนั่นละ
ทำที่ไหนไม่มีที่แจ้งที่ลับ บุญกุศลให้เชื่อเถิด บาปบุญนี่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ปฏิเสธไม่ได้เลย บาปบุญๆ นี้ปฏิเสธไม่ได้ เพราะสัตว์ทำอยู่เป็นประจำ ท่านจึงให้เลือกทำ อย่าทำบาป ทำบาปเป็นบาป เปิดประตูให้บาปเข้า ทำบุญเปิดประตูให้บุญเข้า เข้าใจเหรอล่ะ เพราะมันอยู่กับเรา เวลาเปิดกว้างนี้มันก็เข้าได้มากออกได้มาก คนที่มีจิตใจกว้างขวางได้ทำบุญให้ทานนี้ อำนาจแห่งกุศลที่เต็มอยู่ในหัวใจไปไหนไม่มีอดอยาก จนกระทั่งถึงนิพพานไม่มีอดอยาก แต่คนที่มีความคับแคบตีบตันเห็นแก่ตัว ไปไหนตีบตันทั้งนั้นๆ แหละ เพื่อนฝูงมีมากเท่าไรก็ไม่มีความหมาย เพราะเจ้าของหมดความหมายแล้ว ถ้าสร้างความหมายให้ตัวเองไปที่ไหนมีความหมายทั้งนั้น ให้พากันจำเอานะ
เวลาจะไปทำบุญให้ทานตระหนี่ถี่เหนียว เวลาจะกอบจะโกยนี่เปิดกว้างออก พุงโตยิ่งกว่ารัฐบาลไทยทุกวันนี้ รัฐบาลไทยนี่พุงโตจนน่าเกลียด คนเกลียดกันทั้งประเทศเวลานี้ มันได้ใครมาเป็นหัวหน้ารัฐบาลก็ไม่ทราบ ได้ยักษ์ได้ผีมาจากที่ไหนจึงมาเป็นรัฐบาลของเมืองไทย จนตับปอดพี่น้องชาวไทยจะไม่มีเหลือ เละเทะ มีขนาดไหนก็ตามพวกนี้ เศรษฐีเหล่านี้เป็นเศรษฐีเน่าเฟะ เหม็นคลุ้งทั่วโลกดินแดน ยังจะไปเหม็นคลุ้งในนรกอเวจีอีก ที่มันกอบโกยออกมาอย่าเข้าใจไปไหน มันกอบโกยเอาไฟเข้ามาเผาหัวอกมัน มันจะเก่งกว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้พวกนี้
พระพุทธเจ้าทรงโลกวิทูรู้แจ้งเห็นจริงหมดแล้ว พูดอะไรไม่มีคลาดมีเคลื่อน คือศาสดาองค์เอกนั่นแหละ เรานี้ตลบตะแลงเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไป ซึ่งเท่ากับเหยียบหัวตัวเองไปโดยลำดับลำดา ให้ระวัง ถ้าเชื่ออรรถธรรมไม่ได้แล้วหมดความหมายนะมนุษย์เรา ถ้าเชื่อธรรมไม่ได้ หรือไม่เชื่อธรรมแล้วคนนั้นคือหมดความหมาย เชื่อกิเลสอย่างเดียวจมโดยถ่ายเดียว จมโดยถ่ายเดียวเท่านั้น ถ้าเชื่อธรรมฟื้นไม่ต้องสงสัย ผู้ที่หลุดพ้นไปถึงพระนิพพานมีแต่ผู้ที่เชื่อธรรมเท่านั้น ไม่ใช่ผู้เชื่อกิเลส พากันจำเอานะ จะให้พร
หลังจังหัน
(เช้านี้หลวงตาท่านจะไปเลี้ยงอาหารให้ปลาที่วัดหงส์) เอานะลูกเต้าหลานเหลนทุกคน พาทำบุญให้ทานเฉลี่ยเผื่อแผ่น้ำใจต่อสัตว์โลกนี้ อยู่ร่วมกันให้เป็นสุขๆ ธรรมะบุญกุศลไปที่ไหน การเสียสละไปที่ไหนกว้างขวางชุ่มเย็นไปหมด มีแต่ความตระหนี่ถี่เหนียว ไปที่ไหนตีบตัน จำให้ดีคำนี้ ภพนี้ก็ตีบตัน ไปภพหน้าก็ตีบตัน คนคับแคบอยู่ที่นี่ก็คับแคบ ไปที่ไหนคับแคบไปหมด คนที่มีจิตใจกว้างขวางใจบุญสุนทานไปไหนเบิกกว้างๆ ไปเลย เป็นอย่างนั้นนะ
สร้างไปทั้งหมดเข้าสู่ใจ เวลาใจได้แสดงออกเอาละที่นี่ เก็บไว้ที่ใจหมด บุญและบาปไม่มีที่เก็บ เก็บที่ใจของผู้ทำ บุญบาปก็ตามเก็บมากเก็บน้อยเข้าสู่ใจ เวลากระจายออก ส่วนเป็นพิษก็เผาเจ้าของแหลกไปเลย ตกนรกกี่กัปกี่กัลป์กว่าจะฟื้นขึ้นมา นู่นน่ะของเล่นเหรอ เจ้าของละทำเอง ไม่ใช่ผู้หนึ่งอื่นใดทำให้ ว่ายมบาลก็คือกรรมเจ้าของเอง เป็นยมบาลมาบังคับเจ้าของ ไม่ใช่ยมบาลมาจากที่ไหน ไปจากเจ้าของกรรมของเจ้าของไป เป็นรูปเป็นภาพต่างๆ ขึ้นมาจากเจ้าของที่ทำลงไปด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งเป็นความชั่วทั้งนั้น ทีนี้อะไรมาเป็นภัยหมด เป็นภัยรอบตัวๆ
ใครอย่ามาลบล้างพระพุทธเจ้า อย่าไปเหยียบหัวพระพุทธเจ้านะ ว่าบาปไม่มี บุญไม่มี จมทั้งนั้นละ บอกตรงๆ เลย มีแต่พวกจะจมทั้งนั้น ใครเก่งกว่าศาสดาองค์เอกที่นำธรรมมาสอนโลก ถ้าใครไม่เชื่อแล้วจมบอกชัดๆ เลย ถ้าใครเชื่อพระพุทธเจ้าไปได้ รอดๆ จนพ้นไปเลย พระพุทธเจ้าไม่เคยโกหกโลกแต่ไหนแต่ไรมา สร้างพระบารมีมา ๑๖ อสงไขยบ้าง ๘ อสงไขยบ้าง ๔ อสงไขยบ้าง ล้วนแล้วแต่รื้อขนสัตว์ขึ้นจากโลก ไม่มีแง่งอนเหมือนกิเลสนะ ท่านว่าตรงไหนๆ แน่นอนทุกอย่าง เอกนามกึ หนึ่งไม่มีสองคือพระวาจาของพระพุทธเจ้า ที่รับสั่งอะไรลงไปแน่เลย พระญาณก็เหมือนกันหยั่งทราบตรงไหนแน่เลยๆ เป็นอย่างนั้น
ถ้าลงได้พระญาณหยั่งทราบแล้วแน่ จึงว่า เอกนามกึ หนึ่งไม่มีสอง คือความแน่นอนอันเดียวเท่านั้น นี่ละพระพุทธเจ้ามาสั่งสอนโลกเป็น เอกนามกึ ทั้งนั้น ไม่มีสอง อันนี้จริงอันนี้หลอกไม่มี จริงล้วนๆ ส่วนกิเลสมีแต่หลอกจริงไม่มี ออกมาแง่ไหนมีแต่หลอกๆ มันอยู่ที่ใจเรา เพราะฉะนั้นเราถึงถูกหลอกทุกวันทุกเวลา มีแต่กิเลสหลอก ว่าจะไปทางดีกิเลสหลอกไปทางชั่ว วิ่งตามมันหัวซุกหัวซุนไม่รู้ตัวแล้วก็ไปจม แล้วจะไปตำหนิใคร ก็ตำหนิตัวเองที่โง่ วิ่งตามสิ่งหลอกลวงคือกิเลส มันก็จมได้ละซิ ถ้าวิ่งไปตามอรรถตามธรรมพระพุทธเจ้านี้ไปได้ทั้งนั้น ไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใดที่จะนำสัตว์โลกให้ล่มจมไป เพราะคำสอนพระพุทธเจ้าไม่มี แต่คำสอนของกิเลสนี้มีอยู่ทุกหัวใจคน หลอกตลอดเวลา
ให้พากันตั้งอกตั้งใจนะ เราก็เต็มกำลังของเราแล้วที่มาช่วยโลก ช่วยสุดขีดทีเดียว ว่าอย่างนั้นเถอะ โดยที่ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ฟังซิว่าไม่เอาอะไรทั้งนั้น ฟังแต่ว่าไม่เอาอะไร ดิ้นอยู่ตลอดเวลานี่ดิ้นเพื่อใคร ดิ้นเพื่อโลกทั้งนั้น เราไม่ได้ดิ้นเพื่อเรา อุตส่าห์พยายาม วันหนึ่งๆ เราอยู่ที่ไหนเมื่อไร เพราะอำนาจความเมตตามันครอบอยู่หมดเลย จึงว่ามีอะไรไม่ได้สำหรับเรา เราบอกจริงๆ มีไม่ได้เลย อำนาจแห่งความเมตตานี้กวาดออกหมด กวาดออกหมด แม้แต่ไม่มีก็ยังจะให้อยู่ จะว่าอะไรความเมตตา
เพราะฉะนั้นไปไหนจึงกระจายไปเลย ที่จะให้เก็บไม่มี เราบอกเราไม่มี เราพอทุกอย่างแล้ว การปฏิบัติธรรมถึงขั้นพอ พออย่างนี้เอง ไม่เอาอะไรเลย พอทุกอย่าง ยังอัตภาพให้เป็นไปจากการบิณฑบาตกับประชาชนญาติโยมวันหนึ่งๆ พอ ส่วนจิตใจพอแล้ว พอตลอดอนันตกาล ท่านว่านิพพานเที่ยงคือจิตใจกับธรรมเป็นอันเดียวกัน เรียกว่าเป็นธรรมธาตุ เมื่อสมบูรณ์เต็มที่แล้วใจนั้นเป็นธรรมธาตุเลย นั่นละนิพพานเที่ยงอยู่ตรงนั้นแหละ
ให้พากันอุตส่าห์พยายาม อย่าเห็นแต่เรื่องของกิเลสเป็นเรื่องใหญ่โตกว่านะ กิเลสมันเหยียบหัวคนตลอดเวลา ไม่เห็นละชาวพุทธเรา ถามปากไหนก็ว่าถือพุทธๆ แต่กิเลสเหยียบอยู่บนหัวมันไม่ดู ไม่ได้ปฏิบัติตามพุทธนะ ปฏิบัติตามกิเลส วิ่งตามกิเลส จะว่าชาวพุทธอะไรอย่างนั้น ให้ฟังนะ ฟังเสียงพระพุทธเจ้าถ้าไม่อยากล่มจม ถ้าฟังเสียงกิเลสจมทั้งนั้น ไม่จมมากจมน้อย จมตลอด ที่จะให้ฟื้นไม่มี ใครเชื่อกิเลสเอาเถอะน่ะ
อย่างที่เขาอวดตนอวดโตอยู่เวลานี้ จะเป็นรัฐบาลไหน รัฐบาลปัจจุบันนี้ มั่งมีศรีสุข กอบโกยที่สุดไม่มีใครเกินรัฐบาลปัจจุบันนี้ นี้ตามเรื่องที่ประชาชนทั้งแผ่นดินมาเล่าให้เราฟัง เราก็เป็นหูคน เขาก็เป็นปากคนมาเล่าให้ฟัง เขาจะไม่เอาเรื่องโกหกมายามาหลอกลวงเราละ เขาเล่าตามความจริง เขาว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลยักษ์ใหญ่ ว่าอย่างนั้นนะ กินไปหมดกลืนไปหมด ไม่มีอะไรเหลือเลย กินไม่อิ่มกินไม่พอ นี้เราก็ยอมรับว่าเราผิด เราดูคนผิดเราก็ยอมรับว่าผิด คือเราดูแต่ฐานะการเงินการทองของเขา ไม่ได้ดูจิตใจของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เราเลยเอาสมบัติเงินทองฐานะของเขาออกมาเป็นเครื่องประกาศ และเป็นเครื่องไว้ใจว่า เมื่อออกไปช่วยชาติแล้วคนที่มั่งมีสมบูรณ์แล้วจะไม่ยุ่งเกี่ยวข้องกับการกินการกลืนการรีดการไถประชาชน เขาจะช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราก็อุ้ม พูดชัดๆ อย่างนี้ละ เรายอมรับว่าเราผิด อุ้มขึ้น ให้ขึ้นให้ได้ จนกระทั่งขึ้นได้ ขึ้นมาเป็นนายกฯแล้วเป็นอย่างไร เป็นหัวหน้ารัฐบาลแล้วเป็นอย่างไร เวลานี้เดือดร้อนกันทั้งแผ่นดิน เป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่เป็นคนมั่งมีดีเด่นในประเทศไทยเรา แต่ทำไมถึงหิวโหยเอามากยิ่งกว่าคนทั่วประเทศอีกล่ะ ตาสีตาเขาไม่ได้หิวโหย ไม่ได้ดีดได้ดิ้นทะเยอทะยานเหมือนที่ว่าเศรษฐีใหญ่ เศรษฐีใหญ่กินไม่อิ่มกินไม่พอ คนทั่วประเทศจะจมกันไปหมด เพราะกินไม่พอ อำนาจของตัณหาเป็นอย่างนี้ละ
จึงว่าดูคนผิด เราก็ยอมรับว่าดูผิด ดูฐานะกับดูจิตใจมันต่างกัน นี้เราไม่ได้ดูจิตใจ เราดูฐานะการเงินการทองทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์พูนผล เป็นผู้สามารถที่จะช่วยชาติบ้านเมืองได้ให้มีความสงบร่มเย็นเป็นอย่างน้อย มากกว่านั้นจะค่อยสมบูรณ์พูนผล ที่ไหนได้กลับมาเป็นยักษ์เป็นผีใหญ่โต กินบ้านกินเมือง กินไปหมด กินไม่เลือกเลย นี่ทราบว่าจะยุบสภงสภา ตั้งรัฐบาลใหม่ รัฐบาลยักษ์นั่นละ มันหาอุบายเสือกนั้นเสือกนี้ เอาเงินไปหว่านล้อมประชาชนราษฎร เอาเงินไปโปรย คนเรามันมักเห็นแก่เงินยิ่งกว่าชาติบ้านเมือง ยิ่งกว่าส่วนรวมนะ เห็นเขาเอาเงินไปโปรยลงเป็นของเศษตกไปก็กลืนเอาๆ สุดท้ายก็มาเป็นบ๋อยของเขาตามเดิม
ฟังให้ดีนะถ้าไม่อยากเป็นหมาอย่าเห็นแก่เงินแก่ทอง ยิ่งกว่าชาติ-ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดูให้ดี เขาก็คนเราก็คน เขามาแง่ไหนเราก็เป็นคนเหมือนกัน เรามีแง่ที่จะตอบจะรับกัน เป็นอย่างนั้นนะเดี๋ยวนี้ พูดอย่างนี้ไม่มีใครพูด เราพูด เพราะประชาชน-พวกลูกศิษย์ลูกหาใครมาพูดให้เราฟังเขาไม่โกหก เราก็นำเรื่องราวนี้ออกมาพูด ผิดถูกประการใดฟังเอาก็แล้วกัน เราไม่ได้บวชมาโกหกใคร โกหกตัวเองก็ไม่เคยมี โกหกตัวเอง เช่นอย่างทำความเพียรว่าจะเอาอย่างนี้มันได้อย่างนี้ ฟัดกันอีก แก้กัน เคยเป็นมาแล้วนะนี่ ทำความเพียรว่าอย่างนี้มันไม่ได้อย่างใจหวัง ถูกกิเลสต้มเอา เดือดร้อน นอนไม่หลับ ต้องลุกขึ้นแก้กัน เป็นแล้วนะในหัวใจเรา ซัดจนกระทั่งกิเลสหมอบ มันหมอบเป็นคราวๆ นะ ไม่ใช่หมอบตลอด เมื่อมันยังไม่สิ้นซากมันต้องหมอบเป็นคราวๆ ตะครุบเราเป็นคราวๆ เหมือนกัน นี่ก็ได้ซัดกันอย่างนี้ละ
นี้ก็ได้ยินบ้านเมืองเขามาพูดทั่วดินแดนเลย เป็นอย่างไรคนไทยเราไม่ใช่หมา เป็นคนทั้งนั้น ทำไมจะพูดตามเรื่องเหล่านี้ผิดไป ไม่ผิด ผู้กินกิน ผู้โกงโกง ได้ไม่พอ ได้ไม่พอ เขาก็ต้องว่าซิ เงินตามท้องตลาดเวลานี้มีที่ไหน ไปที่ไหนไม่ค่อยมีเงินมีทอง คนจึงอดอยากขาดแคลน เรียกว่าเศรษฐกิจตกต่ำคือการจับจ่ายใช้สอยไม่สะดวก การเงินการทองไม่มีเสียอย่างเดียว วิ่งกันเป็นบ้ามันก็ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร เพราะเงินไม่ได้เดินหน้าเป็นสื่อทางในการทำมาหากิน มันก็ไม่สะดวก
เวลานี้เมืองไทยเรามีแต่ประชาชนเต็มบ้านเต็มเมือง เงินหาที่จะออกตลาดช่วยไม้ช่วยมือสนับสนุนกันในการซื้อขายการไปการมาให้สะดวกมันไม่มีเวลานี้ มันไปไหนหมดเงินเหล่านี้ เขาก็บอกว่าออกไปที่ไหนอีกกี่หมื่นล้านๆ แล้วจะมาโปรยจ้างประชาชนเข้าไปอีก จะมาเป็นใหญ่เป็นโต ยักษ์ใหญ่กินบ้านกินเมืองต่อไป ท่านทั้งหลายฟังให้ดีนะ นี่เป็นธรรมสอนโลก เราไม่ได้เข้าข้างนั้นออกข้างนี้ เราเอาธรรมมาสอนโลก ดีเราบอกว่าดี ผิดเราบอกว่าผิด
ดังที่ว่าเราดูคนผิดเราก็ยอมรับว่าเราผิด เพราะเราดูฐานะการเงินการทอง เราไม่ได้ดูจิตใจคน ฐานะนั่นเลยทับเรื่องธรรมไปเสีย เราไม่ได้ดู พลาดตรงนี้ เราก็ยอมรับว่าพลาด มันก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ ให้พิจารณานะท่านทั้งหลาย เจ็บแล้วให้เข็ดให้หลาบ อย่าเจ็บแล้วตายทิ้งเปล่าๆ เกิดมาตายอีกก็ไม่เข็ดอีก มันเกินไปนะมนุษย์เรา อย่าเห็นแก่เงินแก่ทองยิ่งกว่าชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากที่สุดเลย เงินใครหาที่ไหนก็ได้ อย่าเอาเงินหลอกลวงต้มตุ๋นซึ่งเป็นพิษเป็นภัยมาเผาเจ้าของก็แล้วกัน เผาเจ้าของยังไม่แล้ว เผาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี้เป็นของสำคัญ เพราะเห็นแก่เงิน เห็นแก่เงิน เก็บตกๆ เขามาหว่านที่ไหนเก็บเอาๆ แล้วก็มาเผาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้จมลงได้ เพราะเงินเก็บตก จำเอานะ เท่านี้ละพอ ต่อไปนี้จะไปเลี้ยงปลา
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz
|