คนมีธรรมเชื่อถือกันได้
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : ศาลา สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๙

คนมีธรรมเชื่อถือกันได้

         นี่ละพี่น้องทั้งหลายดูเอา ที่ไหลเข้ามาๆ นี่เพื่อช่วยโลกทั้งนั้น เราไม่เอา เราบอกตรงๆ เปิดโล่ง แบตลอดมือ เราไม่เอาอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจตุปัจจัยเงินทองข้าวของ การแนะนำสั่งสอนทุกอย่างเพื่อพี่น้องชาวไทยเราทั้งนั้น เราไม่เอาอะไร เราทำประโยชน์ให้โลกล้วนๆ ประโยชน์ของเราก็เคยเล่าให้ฟังพูดให้ฟังหลายครั้งหลายหนแล้ว สมบูรณ์เต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรบกพร่องในหัวใจดวงนี้ จากการประพฤติปฏิบัติตะเกียกตะกายตั้งแต่ล้มลุกคลุกคลานมา จนกระทั่งถึงขั้นพอตัว ธรรมเมื่อบำเพ็ญเต็มที่แล้วก็พอ

         แต่กิเลสไม่มีพอ ได้เท่าไรยิ่งอยากได้ อยากร่ำอยากรวย เอาตายเข้าว่าเลยกิเลสไม่มีถอย แต่ธรรมเมื่อถึงขั้นพอแล้วก็เหมือนกับน้ำเต็มแก้ว เอาน้ำมหาสมุทรทะเลมาเทลงก็ล้นหมด อย่าว่าแต่น้ำธรรมดา นั่นเรียกว่าน้ำเต็มแก้ว ธรรมเต็มหัวใจเป็นอย่างนั้น เมื่อธรรมเต็มหัวใจแล้วบรมสุขอยู่นั้นหมดเลย นี่เป็นผลที่เกิดมาจากการตะเกียกตะกายล้มลุกคลุกคลาน ทุกข์ยากลำบาก อุตส่าห์พยายามบึกบึนตลอด สุดท้ายก็ถึงขั้นพอ เราพยายามขวนขวายตลอดเวลา ผลก็ได้เป็นที่พอใจ นี่ก็ได้ตะเกียกตะกายมาจนผลเป็นที่พอใจ

         เพราะฉะนั้นการช่วยโลกจึงช่วยจริงๆ เราไม่มีการแบ่งรับแบ่งสู้แบ่งแยกสำหรับตัวเอง มีแต่เพื่อโลกทั้งนั้น ไม่ว่าได้มากได้น้อย ออกเพื่อช่วยชาติบ้านเมืองของเรา ตามแต่จะช่วยได้แง่ใดมุมใด ตามเหตุผลที่อำนวย เราก็ช่วยตลอดไปอย่างนี้ละ นี่ละธรรมช่วยโลก โลกช่วยโลกช่วยให้ล่มจม โลกช่วยโลกคือกิเลสช่วยให้ล่มจม หลอกลวงไปเรื่อยๆ ถึงขั้นแล้วใส่เสียตูมเดียวจมเลยๆ ผู้ที่มั่งมีศรีสุขมากๆ ไม่มีสติสตังก็ดีดก็ดิ้น สุดท้ายก็ล่มจม แต่ผู้ที่มีธรรมในใจพอเป็นไปแล้วหยุดพักๆ เรียกว่าพอดีๆ หยุดพัก มีความสุข

         สำหรับกิเลสนั้นไม่มีคำว่าพอ ดิ้นตลอดเวลา เอาจนจมไปเลย สมบัติเงินทองข้าวของช่วยไม่ได้ ที่ได้มามากน้อยเป็นที่ภูมิใจๆ ไฟเผาตัวเองจากสมบัติที่ได้มามากน้อย ไม่ทราบว่าได้มาจากแง่ใดมุมใด จากความทุจริตคดโกงรีดไถประเภทต่างๆ พอมาถึงมือแล้วก็ว่าเป็นของตัว ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ของตัวโดยหลักธรรมชาติ เป็นอย่างนั้น แล้วก็มาถือว่าเป็นของตัวก็กลายเป็นไฟเผาตัวตลอดไป เวลาตายแล้วสมบัติเหล่านั้นช่วยอะไรไม่ได้ เจ้าของก็จม จมทีเดียว

         มีท่านแสดงไว้แล้ว พระพุทธเจ้าไม่เคยโกหกหลอกลวงโลกแต่ไหนแต่ไรมา ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใด คำหลอกลวงต้มตุ๋นนี้จะไม่มีในธรรมของพระพุทธเจ้า นอกจากกาฝากมหาภัย คือกิเลสเท่านั้นเข้าแทรกธรรม ให้ธรรมกลายมาเป็นพิษ เพราะกิเลสทำให้เป็นพิษเท่านั้นเอง สำหรับธรรมแท้บริสุทธิ์สุดส่วน ไม่มีอะไรเป็นภัยต่อโลก จึงเรียกว่าธรรม โลกทั้งหลายตายใจได้คือธรรม กิเลสเชื่อไม่ได้ ตายใจไม่ได้ แม้ที่สุดผัวกับเมียนอนพันกันอยู่ที่นอน พอแยกจากกันไปแล้ว ไปแล้วที่นี่ ไปคนละแบบละฉบับ  เอาไฟมาเผากัน นี่คือกิเลสไว้ใจไม่ได้

         ถ้าเป็นเรื่องธรรมแล้วตายใจกันได้ตลอดไปเลย ไปอยู่ที่ไหนๆ เราเป็นเรา เขาเป็นเขา ของใครของเรา เป็นชิ้นเป็นส่วน เป็นฝั่งเป็นฝา นี่เรียกว่าธรรม กิเลสไม่มีฝั่งมีฝา ลุกลามเหมือนไฟได้เชื้อ นั่นละกิเลสเป็นอย่างนั้น โลกที่วิ่งตามกิเลสจึงหาความสุขไม่ได้ ให้พากันปฏิบัติตนเองเพื่ออรรถเพื่อธรรม อย่าไปเชื่อกิเลส เราเคยเชื่อมาแล้ว ฉิบหายล่มจมมามากต่อมาก ควรจะทำความเข็ดหลาบอิ่มพอกับสิ่งเหล่านี้บ้าง แล้วหันหน้าเข้าสู่ธรรมที่ไม่หลอกลวงใคร เจ้าของก็ตายใจเชื่อตัวเองได้ คนอื่นคนใดที่มีอรรถมีธรรมเชื่อตัวเองได้ เชื่อซึ่งกันและกันได้ ธรรมเป็นอย่างนั้น เข้าที่ไหนเชื่อถือกันได้ทั้งนั้น ถ้ากิเลสนี้ไม่มีคำว่าเชื่อถือได้เลย เหมือนโจรเหมือนมารแทรกเข้าตรงไหนเป็นไฟตรงนั้นๆ

         นี่ก็ได้พยายามเต็มกำลังแล้ว ที่ฟังทางวิทยุนี้ก็ ๕๑ สถานีแล้วเวลานี้ ทั่วประเทศไทยเรา ออกทั่วประเทศไทย ๕๑ สถานี แล้วยังจะมีต่อไปอีกไม่มีสิ้นสุด ไปเรื่อยๆ ค่อยขยับขยายออกไป เพื่อเสียงอรรถเสียงธรรมจะได้เข้าสู่ใจของชาวพุทธเราบ้างพอประมาณ เมื่อเสียงธรรมเข้าสู่ใจ ใจซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟด้วยกิเลสเผาผลาญตลอดเวลานั้นจะได้สงบตัวลง มีธรรมเท่านั้นเป็นน้ำดับไฟ ถ้าไม่มีธรรมแล้วไหม้เป็นเถ้าเป็นถ่านไปด้วยกันทั้งนั้นแหละ หากมีน้ำดับไฟแล้วก็พอมีชิ้นเหลืออยู่บ้าง ไม่ฉิบหายวายปวงไปหมด

         ขอให้ท่านทั้งหลายเชื่อพระพุทธเจ้าเถอะ ว่าไม่มีสองคือองค์ศาสดา สอนสัตว์โลกด้วยพระเมตตาล้วนๆ ไม่มีคำว่าหลอกลวงต้มตุ๋น แม้เม็ดหินเม็ดทรายไม่มีในธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นธรรมล้วนๆ ตายใจกันได้ทั้งนั้น ไม่เหมือนกิเลสมีร้อยสันพันคม ลูกเต้าหลานเหลนเกิดมาเป็นสกุลของกิเลส หลอกได้ตลอดหลอกสัตว์โลก ให้พากันระมัดระวัง เวลานี้ได้ถึง ๕๑ สถานีแล้ว นี้ก็เสียงธรรมออกไปเพื่อจะได้ระงับดับจิตใจของตนที่กำลังฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ลืมเนื้อลืมตัว ให้มีสถานีที่จอดแวะ เหยียบเบรกห้ามล้อเสียบ้าง จะได้สงบตัวลง ไม่วิ่งตามกิเลสตัวฟุ้งเฟ้อเห่อคะนองไม่รู้จักเป็นจักตาย

         ให้พากันพินิจพิจารณานะเราเป็นลูกชาวพุทธ สอนธรรมนี้เรียกว่าทุกวันเลย ธรรมส่วนมากจะออกจากปากหลวงตาบัวนี้แหละ เดี๋ยวนี้ทั่วประเทศไทย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านก็ช่วยสนับสนุนบ้างเล็กๆ น้อยๆ ทั้งๆ ที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายมากต่อมาก แต่ช่วยสนับสนุนกันได้เพียงเล็กน้อย ส่วนที่ออกสนามจริงๆ เป็นตายจริงๆ อยู่กับหลวงตาบัว เทศนาว่าการทั้งหลายแก่บรรดาพี่น้องทั่วประเทศไทยเราเป็นอย่างน้อย มากกว่านั้นนอกประเทศก็มี

         ธรรมะทั้งหมดที่เราเทศน์สอนพี่น้องทั้งหลายเป็นธรรมะที่ตายใจได้เลย ออกจากหัวใจที่แม่นยำ ตายใจได้ จึงไม่มีคำว่าหลอกลวงต้มตุ๋น ธรรมะของพระพุทธเจ้าเข้าสู่จิตใจดวงใดแล้วเป็นธรรมะที่แม่นยำแน่นอนทั้งนั้น ให้พากันตั้งใจปฏิบัติ เราอย่าตื่นกันเกินไปนะ ตื่นเสียมากต่อมาก ไม่มีเวลายับยั้งชั่งตัวได้เลย เพราะไม่มีธรรมเป็นเบรกห้ามล้อ มันก็วิ่งเตลิดเปิดเปิง ลงเหวลงคลองไปเรื่อยๆ อย่างนั้น ถ้ามีธรรมแล้วจะมีที่ยับยั้งนะคนเรา ไม่มีธรรมไม่มีฝั่งมีฝา ไม่มีหลักมีเกณฑ์ ไม่มีที่ยึดที่เกาะเลย อะไรๆ จะมีมากน้อยใจขาดที่พึ่งเสียอย่างเดียวไม่มีความหมาย

         เราไปเกาะไปอาศัยสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ฐานะกันกับใจ ฐานะของใจกับสิ่งที่สมควรแก่กันจริงๆ ก็คือบาปกับบุญ เรียกว่าดีกับชั่ว นี่เข้าติด เข้าติดใจ นอกจากนั้นมีเท่าไรๆ ก็ไม่ใช่ฐานะของใจจะรับไว้ได้ เป็นสิ่งที่อาศัยชั่วกาลเวลาที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น พอตายแล้วกองพะเนินเทินทึกก็อยู่อย่างนั้น ไม่ไปช่วยใครได้เลย ถ้าไม่มีบุญมีความดีช่วยตัวเองภายในจิตใจแล้ว ตายทิ้งเปล่าๆ นะคนเรา ยิ่งมีบาปมากแล้วยิ่งไสลงนรกหมกไหม้ ท่านทั้งหลายได้ยินมาตั้งแต่เกิดเรื่องนรกมีหรือไม่มี นี่ก็คือศาสดาองค์เอกทุกพระองค์สอนแบบเดียวกันตามสิ่งที่มีที่เป็น

         ถ้าเราจะเก่งกว่าศาสดาแล้วเรียกว่าเลวสุดยอดแล้ว ให้รีบแก้ไขตน แล้วเดินตามครูคือศาสดาองค์เอก เราจะค่อยเป็นคนดี รู้เนื้อรู้ตัวขึ้นเป็นลำดับ ถ้าเรายังทะนงตัวว่าเราเป็นคนดีและดีกว่าอรรถกว่าธรรม กว่าศาสนาแล้ว นั้นละเราจะเลวที่สุด ยังเหลือแต่ลมหายใจเท่านั้น กิเลสต้องทะนงตัวเสมอ ไม่ยอมรับว่าตัวต่ำ ต้องสูงเสมอ ลงกิเลสไปที่ไหนแล้วต้องหยิ่งตลอด ธรรมท่านไม่หยิ่ง ท่านสง่างามตลอดเวลา จะกดจะขี่จะบังคับให้จมท่านก็เป็นธรรม ท่านไม่จม แต่ผู้จมก็คือผู้ที่กดขี่บังคับ นำกิเลสไปกดขี่บังคับธรรมนั้นแลเป็นผู้จะล่มจม

         พากันจำเอาไว้ เราอยู่ในเมืองไทยมีพุทธศาสนาเป็นหลักของใจที่จะไปประพฤติปฏิบัติในหน้าที่การงานทุกประเภท ต้องมีธรรมเข้าแทรกเสมอ หน้าที่การงานจึงจะเป็นไปเพื่อความราบรื่นดีงาม ถ้าไม่มีธรรมหาความราบรื่นไม่ได้ เลอะเทอะไปหมด ถ้ากิเลสลงได้นำแล้ว ความรู้ที่เราเรียนมามากน้อย ไม่ว่าจะมาจากบ้านใดเมืองใดประเทศใดก็ตาม นี้เป็นความรู้ของคนมีกิเลส จะเป็นเมืองนอกเมืองนา นอกจากเมืองเราก็ในวงของวัฏจักร ในวงของกิเลส

         เรียนมาก็เป็นความรู้วิชาของนักโทษในเรือนจำ คือความรู้ของวัฏจักรได้แก่ความรู้ของกิเลส ทำคนให้เสียได้ตลอดไปถ้าไม่มีธรรมเข้าแทรกๆ แล้วเสีย จะเรียนมามากน้อยเพียงไรต้องมีธรรมเข้ากำกับรักษา ความรู้เหล่านั้นจึงจะมีความสง่างามและเป็นผลประโยชน์เท่าที่ควร ตลอดถึงเป็นผลประโยชน์โดยสมบูรณ์เพราะมีธรรมมากน้อยเข้ากำกับรักษา ถ้าไม่มีธรรมแล้วใครอย่าคุยอย่าโม้อย่าอวด ความรู้เหล่านี้เป็นความรู้ของคนมีกิเลส ความรู้ของพระพุทธเจ้าเป็นความรู้ของผู้สิ้นกิเลส โลกวิทู รู้แจ้งเห็นจริงสลัดปัดทุกข์ทั้งหมดออกจากพระทัยแล้ว นำแต่ธรรมบรมสุขล้วนๆ มาสั่งสอนสัตว์โลก ท่านจึงไม่มีอะไรเสียหาย

         ผู้ที่เย่อหยิ่งจองหองอวดดิบอวดดีกว่าธรรมกว่าศาสนา นั้นแหละจะเป็นผู้เสียหาย และทำผู้อื่นให้เสียหายมากทีเดียว ที่เด่นชัดก็คือพวกวงราชการงานเมืองเรา เป็นผู้มีหน้าที่และอำนาจปกครองบ้านเมือง จะปกครองแบบไหนก็ได้ เป็นอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ บีบบังคับได้ทั้งนั้น นี่คืออำนาจของกิเลสป่าๆ เถื่อนๆ ไม่มีธรรมแล้วก็บีบบังคับกัน ไม่มีชิ้นดีเลย ถ้ามีธรรมแล้วก็เหมือนพ่อแม่กับลูก ปกครองบ้านเมือง ปกครองประชาชนราษฎร ผู้ใหญ่เหมือนเป็นพ่อเป็นแม่ปกครองลูกเต้าของตนให้มีความสงบร่มเย็นทั่วหน้ากัน นี้คือผู้มีธรรมภายในใจ

         เพราะฉะนั้นวงราชการ เราพูดย่อมๆ ว่าควรจะมีธรรมเข้าแทรกในวงราชการแผนกต่างๆ และผู้มาปฏิบัติหน้าที่ในวงราชการก็ขอให้มีธรรมประจำใจ อย่ามีแต่กิเลสตัวเย่อหยิ่งจองหองพองตัว บ้าอำนาจบาตรหลวงเข้ามาแทรกในวงงานนั้นๆ จะเสียหายไปหมด เวลานี้วงราชการเมืองไทยเรามักจะมีตั้งแต่อำนาจของกิเลสป่าๆ เถื่อนๆ เข้ามาทำงาน ธรรมไม่มีในวงงานต่างๆ เห็นว่าศาสนาเป็นของครึของล้าสมัยไปเสียหมดแล้วเวลานี้ ที่ทันสมัยอยู่เวลานี้ก็คืออำนาจของกิเลสตัวแสบๆ ตัวบ้าอำนาจบาตรหลวง บ้าโลภ บ้าโกรธ บ้าราคะตัณหา บ้าไม่รู้จักวันฟื้นเลย คือบ้าอำนาจนี่สำคัญมาก

         ถ้ามีอำนาจเข้าตัวเท่านั้น ประสาดินเหนียวติดหัว ตั้งให้เป็นอำนาจกฎเกณฑ์เพื่อปกครองบ้านเมืองให้มีความสงบร่มเย็น กลายเป็นอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ กดขี่บังคับประชาชนให้เสียหายไปหมด นี้เรียกว่าอำนาจของกิเลส อำนาจของธรรมมีทั้งพระเดชมีทั้งพระคุณ พระเดชเวลาเด็ดก็เด็ด ธรรมเด็ดเพื่อความดีงาม คุณก็ประกาศสอนธรรมนำไปในทางที่ถูกที่ดี บรรดาผู้น้อยเดินตามก็เป็นมงคลด้วยกัน นี่ผู้มีธรรมในใจเป็นอย่างนั้น

         เดี๋ยวนี้วงราชการเราเป็นอย่างไร มันร้อนไปทุกหย่อมหญ้า อะไรเป็นผู้นำพาให้ร้อน ถ้าไม่ใช่กิเลสจะเป็นอะไรไป ธรรมท่านไม่ได้ทำใครให้ร้อนนะ ไปที่ไหนเราก็หูคน เป็นพระก็มีหูเหมือนกัน ฟังได้ทุกแห่งทุกหน มีทุกแง่ทุกมุม ส่วนมากมีแต่สิ่งที่เลวร้ายจากผู้มีอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ นั้นแหละ เหม็นคลุ้งไปทั่วประเทศไทย พวกมีอำนาจมาก อำนาจนี้ไม่เป็นของดีเลย เป็นพิษเป็นภัย เป็นมหาภัยต่อชาติบ้านเมือง ได้วิธีใดกอบโกยเข้ามาๆ กอบโกยเข้ามามากๆ จนประชาชนไม่มีตับมีปอด เงินทองจะผ่านออกมาตามตลาดลาดเลไม่ได้ กวาดต้อนเข้าไปหาคลังใหญ่ คือพุงหลวงเสียทั้งหมด จากอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ไปเสียทั้งนั้น เวลานี้เป็นอย่างนั้น

         บ้านเมืองเราจะหาความสุขความเจริญที่ไหนได้ มันก็ไปอยู่กับเจ้าอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ทำความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองนั้นแล นี่ละความไม่มีธรรม กินไม่อิ่มพอ  กินเท่าไรไม่อิ่ม ตายก็ตายเหมือนโลก แต่ความไม่อิ่มพอนี้จะไปเผาตัวเอง สมบัติเงินทองที่ได้มามากน้อยด้วยความทุจริตประเภทต่างๆ อย่าไปภูมิใจกับมัน อย่างไรจะเผาแน่นอนในวันหนึ่งๆ ถ้าไม่เผาในที่แจ้งก็เผาอยู่ที่ลับๆ อยู่ภายในหัวใจ พอตายแล้วเปิดเผย เมืองผีที่ว่าสัตว์นรกไปจมอยู่ในนรก

         ยมบาลจะเป็นใคร ก็เป็นกรรมของตัวเองมาบีบบังคับตัวเอง เรียกว่ายมบาลๆ จะเป็นใครที่ไหน ยมบาลก็ได้แก่กรรมชั่วช้าลามกของตัวเอง เป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงบีบบังคับตัวเองให้ล่มจมลงในที่เป็นทุกข์-มหันตทุกข์ทั้งนั้นแหละ ไม่มียมบาลมาจากไหน ยมบาลคือกรรมของตนเป็นผู้สร้างขึ้น กรรมชั่วนั้นแล ให้พากันระมัดระวัง ให้ระวังยมบาลตัวเองมันอยากทำชั่วละยมบาล อยากทำแต่ชั่ว ทำลงไปแล้วก็เป็นยมบาลบีบบังคับ แล้วจมไปๆ ท่านทั้งหลายอย่าไปเก่งกว่าพระพุทธเจ้านะ ไปลบล้างนรกหลุมต่างๆ สัตว์ประเภทต่างๆ ที่เสวยกรรมมากี่กัปกี่กัลป์ว่าไม่มี นี้ละจะเป็นตัวแสบตัวมหาภัยคนหนึ่งต่อตนเอง และจะสืบทอดไปสุดท้ายภายหลังเป็นพวกตาบอดหูหนวกด้วยกัน ลบล้างบาปบุญนรกสวรรค์ ลบล้างพระพุทธเจ้าไม่ให้มี ผู้ที่มีก็คือตัวลงนรกอเวจี คือตัวของเราเองเก่งๆ นั้นแหละ

         ให้พากันระมัดระวัง ไม่มีใครเก่งเลยศาสดาไปได้ เพราะเป็นผู้สิ้นกิเลส สามารถทุกแบบทุกฉบับ ทุกแง่ทุกทาง เราจะมีความสามารถอะไร มีแต่ทิฐิมานะอันเป็นเรื่องของกิเลสอวดก้ามไปเท่านั้นแหละ ไม่เกิดประโยชน์อะไร ให้พากันระวัง วันนี้พูดเพียงเท่านี้แหละ แล้วจะมีธุระต่อไป ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ (สาธุ)

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก