เศรษฐีเหม็นคลุ้ง
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 8:45 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๙

เศรษฐีเหม็นคลุ้ง

ก่อนจังหัน

งานประทายข้าวเปลือก วัดป่าบ้านตาด เพื่อช่วยโลกนั่นแหละ นี่ก็จะเริ่มวันพรุ่งนี้ วันมะรืนเป็นวันรวมใหญ่ เราเดินออกไปตอนค่ำๆ เมื่อวานข้าวมาเยอะแล้วที่ลานซีเมนต์ วันนี้จะไหลมาแหละ อยากได้บุญได้กุศลก็ให้พิจารณาขวนขวายตามกำลังนะ เป็นกาลเป็นเวลา การสร้างกุศลรวมกันนี้เป็นกาลเป็นเวลา อันนี้ก็เป็นกาลประจำปี สำหรับเหล่านี้ได้มาออกช่วยโลกทั้งหมด เราไม่ได้เกี่ยวข้องเลย ช่วยโลกทั้งนั้นๆ สงสารโลก ได้เท่าไรก็ออกๆ ตลอดเพราะความเมตตาครอบไปหมดจะทำไง มันเป็นเอง ทุกอย่างที่ทำนี้ทำด้วยความเมตตาทั้งนั้น

ทุกข์ยากลำบากเราก็ทนเอา เดี๋ยวตะเกียกตะกายไปโน้นไปนี้เรื่อย อย่างโรงพยาบาลก็เป็นประจำแหละ เมื่อวานนี้ก็มา ๕ โรง เราไปเองเราก็ไปตามโรงพยาบาลต่างๆ เมื่อวานนี้ไปคำตากล้า ถ้าเราไปเองก็มีส่วนพิเศษ คือถ้าเขามารับเองก็มีเฉพาะในโกดัง ถ้าเราไปเองก็มีพิเศษ เช่นไปตามทางก็เอาอาหารสด เช่นไก่ตามทาง มีเท่าไรเหมาหมดเลย มีเท่าไรๆ ถ้าเราได้ผ่านแล้วเป็นหมดเลย นี่ละได้อาหารสด แล้วก็กล้วยกับปัจจัย เดี๋ยวนี้ให้โรงละสองหมื่นๆ นะ เพราะอัตคัดขัดสนมาก เราไปสอบถามเรื่องราวทุกอย่าง ตกลงไปโรงไหนก็ให้โรงละสองหมื่นๆ ถ้าเราไปเองก็ได้พิเศษอย่างนี้ ถ้าเขามารับเอานี้ก็ได้เฉพาะที่จัดไว้ ให้เสมอกันหมดไม่มีพิเศษ ส่วนที่พิเศษก็เป็นพิเศษไป ส่วนเราพิเศษอีกแบบหนึ่ง

นี่ก็จะเริ่มแล้วข้าวสุกข้าวสารข้าวเหนียว มาก็มารวมกันที่ข้างนอกนั่นแหละ เราก็ได้ตกลงกับทางเวียงจันทน์ไว้แล้ว วันที่ ๑๔ จะให้เขามารับ อันนี้ก็เอาเต็มเหนี่ยวเหมือนกัน ให้เขาเอารถมารับเต็มเหนี่ยว เราจะเตรียมพร้อมไว้เลย นั่นก็ทุกข์จนเต็มที่ ส่วนโรงพยาบาลที่เกี่ยวกับเรื่องค่าเครื่องมือแพทย์เราก็ให้แล้วดังที่ว่า ไปวันนั้นก็ ๕ ล้านกว่า เครื่องตาล้วนๆ เพราะที่นั่นไม่มีเลย ตาเป็นสำคัญมากเราดูจุดนี้เราถึงอุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกาย เรายกตัวอย่างไม่เห็นมีใครค้านได้วะ

ถ้าว่าตาไม่สำคัญ เอากันเดี๋ยวนั้นเลย มัดเลยเทียว ถ้าว่าตาไม่สำคัญ เอาคนอยู่ในศาลานี่ให้เป็นคนตาบอดทั้งหมด แล้วขนไม้มาใส่มือเรา บอกว่าไปกลับบ้าน พวกนี้ไปก็ไล่ตี มีแต่คนตาบอดชนนั้นชนนี้ ขี้แตกเยี่ยวราดเต็มศาลา เป็นยังไงเราพูดนี้ถูกต้องไหมตาเป็นสำคัญ ยอมรับหมด นั่น เข้าใจไหม ใครจะอยากไปขี้แตกเยี่ยวราดบนศาลา เมื่อตายังดีอยู่ก็ไปได้ ตาไม่ดีมันไปไม่ได้ซิ วิ่งชนนั้นชนนี้ ขี้แตกเยี่ยวราด เป็นยังไงใครอยากขี้แตกเยี่ยวราดไหม  ถ้าไม่อยากขี้แตกเยี่ยวราดก็เอาเงินมาให้เรา เราจะไปช่วยตา ช่วยตาตาบอดเราไม่เยี่ยวราด พุ่งไปเลย ถ้าตาบอดแล้วไปไม่ได้ ขี้แตกเยี่ยวราดเพราะเหตุไร เพราะตีเรื่อย เสียงเปี๊ยะป๊ะๆ มันก็กลัวซิคนใช่ไหม วิ่ง เอาละให้พร

หลังจังหัน

         ผู้กำกับ ปัญหาจากเว็บไซต์หลวงตา มีดังต่อไปนี้ครับ ข้าพเจ้าปรารถนาให้บิดามารดามีสัมมาทิฏฐิ และขอพรจากพระรัตนตรัยเสมอ ขอให้ท่านทั้งสองมีสัมมาทิฏฐิ และไม่คิดลบหลู่ล่วงเกินพระรัตนตรัยแม้จะเพียงน้อยนิด แต่บิดาของข้าพเจ้ายังคงปรามาสพระสงฆ์ด้วยความไม่รู้ ท่านมีทิฐิและเชื่อมั่นในความเชื่อของตัวเองสูงมาก เมื่อข้าพเจ้าไปทำบุญให้ทาน ถึงแม้จะถวายทองเพื่อร่วมในโครงการผ้าป่าช่วยชาติขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในใจจริงของข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านอนุโมทนาบุญ เพื่อที่จะได้บุญด้วย แต่แล้วผลที่ได้กลับตรงข้าม ข้าพเจ้าไม่กล้าบอกบิดาเพราะเกรงว่าท่านจะด่าว่าและลบหลู่องค์พระรัตนตรัย ข้าพเจ้าจะช่วยท่านได้อย่างไรบ้าง ขอกราบนมัสการท่านหลวงตาด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

หลวงตา ให้ปฏิบัติตามเดิมนั่นแหละ ท่านไม่ยินดีก็เป็นเรื่องของท่าน เราก็นิ่งเงียบไปเสีย เราเป็นลูก เข้าใจไหม เรื่องทำของเราก็ทำไป ก็เท่านั้นเอง (ไม่ต้องไปพูดอะไรกับท่าน เฉยๆ ไป) ไม่ต้อง พูดมันก็ไม่ลงกันมันถือสิทธิ์ พ่อก็ถือสิทธิ์ว่าตัวเป็นพ่อ ลูกก็ถือสิทธิ์ว่าเป็นลูก มันไม่ลงกันละ พ่อแม่กับลูกไม่ลงกันง่ายๆ เพราะต่างคนต่างถือสิทธิ์

คำพูดทั้งหลายที่ไม่ทราบให้ทราบเสีย ที่ว่าเห็นผิดคือมิจฉาทิฐิเห็นผิดๆ นี้คือความเห็นของกิเลสมันแทรกอยู่ในหัวใจเรา มันใหญ่กว่าธรรม ส่วนมากกิเลสใหญ่กว่าธรรมภายในหัวใจของสัตว์โลก นี่เรียกว่ากิเลสความเศร้าหมองมืดตื้อ สร้างแต่ฟืนแต่ไฟให้โลก ท่านเรียกว่ากิเลสภาษาของธรรม ธรรมคือเครื่องชะล้างอยู่ภายในจิตใจ เป็นธรรมชาติที่เลิศเลอ สองอย่างนี้อยู่ในหัวใจดวงเดียว มันฟัดมันเหวี่ยงกันอยู่บนหัวใจ หัวใจบนเวที แหลกไปหมด นักมวยเขาต่อยกันเวทีสะเทือนเลย อันนี้หัวใจสะเทือน ระหว่างกิเลสกับธรรมฟัดกัน ส่วนมากมีแต่กิเลสขยี้ขยำแหลกไปเลย ธรรมะที่จะฟัดกิเลสขยี้ขยำกิเลสให้แหลกนี้ไม่ค่อยมี ยกไว้พระพุทธเจ้าพระอรหันต์เท่านั้นเองที่เหยียบกิเลสแหลก นอกนั้นไม่มี มีแต่กิเลสเหยียบแหลกนั่นละ

เรื่องของกิเลสให้พากันทราบเสีย ความเห็นผิดเกิดมาจากใจ คือกิเลสบงการ ความเห็นถูกเกิดมาจากธรรม ธรรมบงการ มีอยู่สองอย่าง ใครจะเอาไปพินิจพิจารณา เราเป็นผู้รับผิดชอบตัวของเรา รับผิดชอบไม่ได้มีแต่กิเลสตีเอาๆ ให้เราชำระสะสางนะ ไม่มีใครที่จะชี้บอกได้อย่างแม่นยำอย่างนี้ คือธรรมชาติอันนี้กิเลสกับธรรมมีอยู่ในหัวใจโลกมากี่กัปกี่กัลป์ ไม่มีใครทราบ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมาทราบหมด ตรัสรู้ก็คือฟัดกิเลสแหลกหมดแล้วก็จ้าขึ้นมา ทีนี้ก็นำพิษนำภัยของมัน และนำคุณของธรรมมาสอนโลก ให้โลกพยายามแหวกว่าย ปัดกวาดชำระล้างสิ่งที่เลวร้ายทั้งหลายซึ่งเป็นภัยต่อตัวเองออกโดยลำดับ แล้วการสร้างความดีสร้างลงไปเรื่อยๆ ชำระล้างกันไปเรื่อยๆ นี่ละธรรมอยู่ในใจ ให้ธรรมได้แสดงออก มีแต่กิเลสแสดงฤทธิ์แสดงเดชอยู่ตลอดเวลา

นี่ก็มาสัมผัสกับเรื่องของเรา จำเป็นที่จะได้พูด ทีแรกก็มีที่ว่าใหญ่ๆ นั้นแหละ มันใหญ่เท่าภูเขามันเป็นภูเขา ภูเขาไม่เป็นภัย แต่ภูเขาภูเรานี้เป็นภัยมาก สำคัญว่าตัวใหญ่ตัวโต กระซิบกระซาบมาหาหลวงตาบัว ให้เอาคนที่เชื่อถือได้เป็นคนดีไปหา กระซิบกระซาบมาหาเราให้จัดคนที่ไว้ใจไปหา พูดนิ่มนวลนะ ไว้ใจไปหา ไม่ได้บอกว่า ให้เอาคนที่โง่ที่สุดไปหา ความหมายเขาว่างั้น เราไม่ให้ไป แน่ะ ทีนี้คนพวกนี้มันเล็ดลอดไปจนได้ ถูกเขาเป่าหัวมา เป่ากระหม่อมมาเห็นไหมล่ะ เราบอกไม่ให้ไปมันเล็ดลอดไปได้ ลูกศิษย์มันเก่งกว่าครู

อย่างนี้ละถ้ามันฝืนเราที่ตรงไหนผิดตรงนั้นเราพูดจริงๆ อันใดที่เรากันไว้เราไม่ให้ไป นั่นก็คือว่าสิ่งที่ผ่านไปนั้นผิด นั่น นี้เราบอกไม่ให้ไป จะถูกเขาเป่ากระหม่อมเอาละเราว่าอย่างนี้ ไม่ได้ของดิบของดีมา มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาพวกเดียวกันให้แหลกไปตามเขาไปหมดนั่นแหละ เราสั่งไม่ให้ไป นี่มันเล็ดลอดไป ไอ้พวกเปรต ลูกศิษย์ของเรามันเป็นเปรตเดี๋ยวนี้น่ะ เข้าใจไหม ไปหาเก็บตกจากเขา เก็บตกมามีตั้งแต่ยาพิษทั้งนั้นเอามานี้ แล้วมาเล่าให้เราฟัง ตีปากเอานะ กูบอกให้สูไปเมื่อไรว่างั้นแหละเรา สูฝืนกูสูเก่งกว่ากูนี่วะ กูพิจารณาหมดหัวใจกูแล้ว สิ่งใดกูสั่งออกไปนี้กูพิจารณาเรียบร้อยแล้ว กูไม่ได้พิจารณาสุ่มสี่สุ่มห้า บอกไม่ให้ไปสูฝืนไปทำไม

ถูกเป่ากระหม่อมมา แล้วก็มายกโทษคุณสนธิ ที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองมาตั้งแต่ดั้งเดิม มาคุณทองก้อน เรียกว่าสองคนนี้เลวร้ายที่สุดเห็นไหม มันเป่ากระหม่อมออกมา เลวร้ายที่สุด ที่ไม่เลวร้ายก็คือตัวที่มันเลวร้ายที่สุดนั่นตัวมันดีที่สุด มันเป่ากระหม่อมมา นี่ละเป็นอย่างนี้นะ ได้ยินชัดๆ เลยเราพูดอย่างตรงไปตรงมาภาษาธรรม เราไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใดในสามแดนโลกธาตุนี้เราไม่มี มีแต่ธรรมล้วนๆ ออกได้เต็มเหนี่ยวของธรรมเลย เราไม่เคยว่าเกรงคนนั้นเกรงคนนี้ ไม่มีเกรงใครละ ธรรมเท่านั้นเป็นหัวใจ นี่ละเรื่องก็เป็นมาอย่างนี้ เห็นไหมคนไหนที่มันเก่งกว่าครูเป็นอย่างนั้นละ

อันใดที่เราเตือนแล้วต้องฟังซิ การออกเตือนเราเอาธรรมออกเตือนนี่ นี่ก็ทราบว่าถูกเป่ากระหม่อมมา มาหาเรา ดีที่เราไม่ตีปากมัน บอกไม่ให้ไปมันยังไป มันฝืนเห็นไหมล่ะ อะไรๆ เราพิจารณาเรียบร้อยแล้ว สมควรยังไงไม่สมควรยังไงเราถึงบอกออกไป แล้วยังฝืนไปได้ให้เขาเป่ากระหม่อมออกมา ก็เป็นยาพิษยาภัยเต็มออกมาหมด จึงมายกโทษคนทั้งประเทศในนามของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล นั่นละเป็นผู้ทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากพวกยักษ์พวกผีมันกินมันกลืนไปทุกแบบทุกฉบับนั่นละ แล้วถือว่านี่เป็นคนที่เลวร้ายที่สุด เลวร้ายสำหรับมันนั่นเอง

คุณสนธิจะเลวร้ายต่อชาติบ้านเมืองได้ยังไง อุดหนุนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใครจะเกินคุณสนธิที่ออกประกาศอยู่ทั่วโลกดินแดนนี้ได้ยินกันไหม เราได้ยินอย่างนี้จะให้ว่ายังไง นี่พูดตามหลักความจริง มันว่าคุณสนธิเลวร้ายคุณทองก้อนก็เลวร้าย เมื่อสองคนนี้เลวร้ายก็เรียกว่า เป็นอาหารว่างของมันหมด มันกินโต๊ะกันหมดเลยเข้าใจไหม ก็มีอยู่นี่ที่เป็นก้างขวางคอมันไว้ มันเป็นอย่างนั้นนะเดี๋ยวนี้ เลวที่สุด พวกนี้หน้าด้านที่สุดเลย ประกาศความเลวร้ายของตัวเองให้เป็นความดีขึ้นมาใครจะเชื่อ กองขี้มันก็รู้ กองทองคำเขาก็รู้ ตั้งแต่เด็กเขาก็ยังรู้จะว่าไง จะมาหลอกกันหาอะไร มันหน้าด้านที่สุดพวกนี้ เลวเท่าไรยิ่งหน้าด้านเข้าไป ด้านมากที่สุดคือพวกเลวร้ายที่สุดนี่แหละ นี่ก็ออกมาแล้ว มาถึงเราเราออกได้เลย เป็นอย่างนี้ละ

ฟังซิคุณสนธินี่ช่วยคนทั้งประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล กับ คุณทองก้อนนี้ช่วยตลอดเวลาเลย เขาถือเป็นข้าศึกอย่างใหญ่หลวง แล้วเขาจะถือว่าสองคนนี้เป็นข้าศึกของชาติบ้านเมืองที่เลวร้ายที่สุด ฟังซิน่ะ นี่ละพวกเปรตพวกผีพวกยักษ์พวกมาร มันแสดงมาอย่างหน้าด้านอย่างนี้ละ ฟังเอาซิน่ะ ใครจะเลวยิ่งกว่าพวกนี้ บ้านเมืองจะล่มจมอยู่เวลานี้ คุณสนธิกับคุณทองก้อนหรือเป็นคนที่ทำบ้านเมืองให้ล่มจมอยู่เวลานี้ เอ้า ดูไปก็รู้กันนี่นะใครเป็นคนทำอยู่เวลานี้บ้านเมืองจนจะล่มจมไปหมด

เดี๋ยวนี้เงินบาทเงินสตางค์จะหาออกจ่ายตลาดก็จะไม่มีแล้วนะ มันไปไหนหมดเวลานี้ มันก็เข้าไปสกุลใหญ่นั่นละ สกุลมหาโลภ บ้าโลภนั่นจะไปเข้าสกุลไหน ออกจากนี้มันก็แยกไปหาพวกญาติพวกวงศ์พวกก๊กพวกเหล่าของมัน สะแตกกันไปหมดเลย แล้วว่าไง แล้วมันก็มาหาเรื่องใส่คนทั้งชาติ ผู้ที่พูดแทนคนทั้งชาติกลับกลายเป็นมหาภัยไปหมด มหาภัยต่อมันนั้นแหละ มันกลืนไม่ได้ถนัด เป็นก้างขวางคอของมัน มันจึงมาหาโจมตี ให้โจมตีนี้แล้วเรียกว่าอาหารว่างเกิดแล้วเต็มโต๊ะว่างั้นเถอะน่ะ เราได้ยินอย่างนี้เราก็พูดอย่างนี้ ผิดถูกประการใด เอ้า ฟังเอา เราเอาความจริงมาพูดนะ

มันเลวขนาดนั้นละเวลานี้ในวงราชการ นับแต่วงรัฐบาลลงมา พูดอย่างชัดเจนเลย เวลานี้เขาโจมตีรัฐบาลเพราะเหตุไร รัฐบาลทำอะไรเขาจึงโจมตี เวลาเขาชมเขาก็ชม นี้เวลานี้เขาตำหนิ เขาไม่อยากให้เป็นรัฐบาลให้เป็นนายกฯนำคนทั้งหลายให้จมทั่วทั้งประเทศไทยนี้ เขาไม่อยากให้จม เขาบอกให้ลาออกเสียก็มีนั่นจะว่าไง เขาพูดผิดที่ไหน คนทั้งประเทศเป็นคนแท้ๆ ไม่ใช่หมามาพูดทำไมจะไม่รู้ มันเป็นเทวดามาจากไหนมันจะมาเก่งกว่ามนุษย์ทั้งประเทศนี่วะ มาอวดทำไมอวดความชั่วช้าลามกของเจ้าของ มันฟังไม่ได้ในสายตาของธรรม เราพูดด้วยความเป็นธรรมนี่นะ มันเลวที่สุดพวกนี้เวลานี้ เลวมากทีเดียว ยิ่งเลวเข้าไปทุกวันๆ

ชั่วเท่าไรยิ่งยกตนว่าดีๆ ขึ้นไป อำนาจบาตรหลวงที่ไหนไปขุดกว้านมาหมด มันจะเหยียบคนทั้งชาติให้แหลก มันน่าทุเรศเอาเหลือเกิน ก็ดูด้วยธรรมนี่นะ เราฟังด้วยธรรม เราพูดด้วยธรรม เอาคอเราไปตัดเลยเราไม่เสียดายยิ่งกว่าธรรม เรากราบถึงที่สุดในหัวใจของเรามีแต่ธรรมเท่านั้น นอกนั้นเราไม่กราบ อย่างที่พูดมานี้ ปากอมขี้ๆ ขี้เต็มหัวใจมัน แสดงออกมาเหม็นคลุ้งไปหมดแหละ

แต่ก่อนเราได้ยินประเพณีของโลกเขานับถือกัน ใครเป็นคนมั่งมีศรีสุขมีฐานะใหญ่โตรโหฐาน เป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั้งหลายที่เขาเป็นคนทุกข์คนจนเขาอนุโมทนาด้วย บางคนเขาอัศจรรย์ก็ได้ ว่าเขาทำไมถึงมั่งถึงมี นี่พวกที่มั่งมีมาด้วยความบริสุทธิ์นะที่เขาชมเชย ถ้าไปหารีดหาไถกอบโกยเขามานี้เขาไม่ได้ร่ำลือ เศรษฐีนี้เป็นเศรษฐีเหม็นคลุ้งทั่วประเทศไทย ถ้ามีอยู่ในเมืองไทยเราก็เหม็นคลุ้งทั่วประเทศไทย เศรษฐีประเภทนี้น่ะ เศรษฐีทำเมืองไทยให้ล่มจม เหม็นคลุ้งทั่วประเทศคือเศรษฐีประเภทนี้ มีอยู่ในเมืองไทยไหมเวลานี้น่ะ ถ้าไม่มีก็ดูเอาซิมันเป็นยังไง

คำว่าเศรษฐีนี้เขาชมกันทั่วประเทศ ยินดีทั่วโลกทั่วสงสาร แต่เศรษฐีในปัจจุบันนี้เป็นยังไงจึงเหม็นคลุ้งไปหมด มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้แหลกไปเลย คนทั้งประเทศนี้เลยจะไม่มีตับมีปอดให้มันเอาไปสะแตก เข้าใจไหมล่ะ โอ้ มันน่าทุเรศนะ ก็เรานี้เป็นผู้ทำหน้าที่แก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตั้งแต่วันเราประกาศลั่นโลกออกมาว่าเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย ดูซิน่ะ มันเข้ากันได้ไหมกับเรื่องที่มันกินมันกลืนรีดไถคนทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จนจะไม่มีเหลือในประเทศไทย กับที่เรานำพี่น้องทั้งหลายเวลานี้ นี้คือเอาธรรมออกนำ ธรรมเป็นผู้นำ

มีเท่าไรๆ ขนเข้าๆ ไม่ได้ขนออกนะ ถ้าว่าทองคำก็เข้าคลังหลวงก็เห็นชัดๆ อยู่ ที่เข้าแล้ว ๑๑ ตันกับ ๓๗ กิโลครึ่งเข้าเรียบร้อยแล้ว ที่น้ำไหลซึม ประเภทน้ำไหลซึมทองคำ กำลังจะเริ่มไหลเข้าไปดูจะสองสามร้อยเข้าไปแล้ว นี่มีแต่ขนเข้าทั้งนั้น ดอลลาร์ขนเข้า เงินสดขนเข้าๆ เพื่อชาติบ้านเมืองของเรา เราไม่เคยแตะ เราชี้นิ้วได้เลยบาทหนึ่งเราไม่เคยแตะ ฟังซิพี่น้องทั้งหลาย นี่ละเรานำโลก กับโลกนำโลกเป็นยังไงต่างกันไหม เราไม่เคยแตะ เราอิ่มพอทุกอย่างแล้ว เราไม่ไปแตะ มีแต่พยุงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราขึ้นเต็มกำลังความสามารถของเราโดยถ่ายเดียวเท่านั้น แล้วมาเห็นความสกปรกนี้มันดูไม่ได้ ว่าเอาบ้างซิ ก็เราผิดชอบด้วยกันในคนทั้งประเทศเหมือนกันกับเขากับเรา เขารับผิดชอบทางไหน รับผิดชอบทางนี้เราก็บอกอย่างนี้ เงินทุกบาททุกสตางค์พี่น้องบริจาคนี้ไม่ไปไหน ออกช่วยชาติบ้านเมืองทั้งนั้น

อย่างที่ว่า ข้าวเขาจะมาทำบุญประทายข้าวนี้ออกหมด เราไม่ได้เกี่ยวข้องนะ อย่างนี้เป็นประจำ เราทำนี้ทำเพื่อชาติ สมบัติเพื่อชาติ เข้ามาในวัดป่าบ้านตาดออกเพื่อชาติทั้งนั้นๆ นี่ละเราพูดได้เต็มปากของเรา ที่เราบริสุทธิ์เต็มส่วน ใครจะมาว่าเรากินอะไรกลืนอะไร เอ้า ว่ามา เราเป็นผู้ทำเองนี่นะ บริสุทธิ์เต็มหัวใจของเราแล้ว ใครจะมาว่าอะไรก็ว่าซิ ความบริสุทธิ์อยู่กับเรา การกระทำดีอยู่กับเรา จะเสียหายไปไหน ปากอมขี้อย่าเอามาพูดเลยเราไม่สนใจฟัง

เวลานี้กำลังเลวร้ายมาก คนที่ดีๆ ไปเที่ยวโจมตี อย่างคุณสนธิคุณทองก้อนกำลังหาเรื่องหาราวว่าเลวที่สุด กำลังเขาจะไปโจมตีจุดสำคัญของหัวใจแห่งชาติไทยของเรา ให้แหลกเหลวไปหมด แล้วเขาจะกินโต๊ะในคนทั้งประเทศเป็นอาหารว่างของเขาทั้งหมดนั่นแหละ พวกเปรตเข้าใจไหม พวกเปรตพวกผี แหมพวกยักษ์พวกมารปัจจุบันนี้เลวร้ายมากที่สุด ถ้าว่ารัฐบาลก็รัฐบาลปัจจุบันนี้โด่งดังที่สุด เหม็นคลุ้งที่สุดเลย ไม่ได้หอมหวนนะ เหม็นคลุ้งที่สุด เศรษฐีในวงรัฐบาลนี้ก็เหม็นคลุ้ง สกุลเศรษฐีอะไรๆ หรือเป็นญาติเป็นวงศ์ของเศรษฐีในวงรัฐบาลเหม็นคลุ้งไปตามๆ กันหมด เศรษฐีพวกนี้เป็นเศรษฐีเหม็นคลุ้งทั่วโลก อย่าว่าแต่ทั่วเมืองไทยเราเลย

เราก็ไม่เคยเห็น มาเห็นเศรษฐีเหม็นคลุ้งในชาติไทยของเราปัจจุบันนี้แหละ ที่ไหนเป็นเศรษฐีเขาเคารพนับถือบูชายินดี แต่เศรษฐีในสมัยปัจจุบันนี้เป็นฟืนเป็นไฟและเหม็นคลุ้งไปหมด ก็พึ่งมาเห็นในเมืองไทยของเรานี้ ใครอยากเป็นเศรษฐีอันนี้พิจารณาซิ อยากเป็นไหมเศรษฐีประเภทเหม็นคลุ้งไปหมด เศรษฐีปัจจุบันในเมืองไทยของเรา เป็นเศรษฐีที่เหม็นคลุ้งไปหมดทั่วโลกดินแดนของประเทศไทยเรานี้ จนไม่มีใครดูได้ฟังได้ละ เป็นขนาดนั้นนะ นี่จบเป็นพักๆ นะ พูดถึงเรื่องคนดีโจมตีให้เป็นคนชั่วทั้งหมด

คุณสนธินี่ทำประโยชน์แก่โลก แกเอาอะไรคุณสนธิ คุณสนธิไปทำความเสียหายแก่ผู้ใด ในประเทศไทยเรานี้มีที่ไหน แล้วคุณทองก้อนก็เหมือนกันไปทำความเสียหายที่ไหน มีแต่พยุงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เต็มกำลังความสามารถของตน เป็นก็เป็น ตายก็ตาย ท่านเหล่านี้เป็นผู้เสียสละได้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วเป็นความเสียหายอะไรถึงมาต้องถูกโจมตีว่าเป็นคนเลวร้ายที่สุด เลวร้ายที่ตรงไหน มาชี้แจงให้หลวงตาบัวฟังเสียหน่อยน่ะ แต่พวกที่มันปากอมขี้นั่น เป็นฟืนเป็นไฟเผาบ้านเผาเมืองมันทำไมไม่แสดงตัวของมัน ว่ากินบ้านกินเมืองกินเท่าไร กินแบบไหนๆ บ้าง มาแจงความฉลาดของมันบ้างซิ ความฉลาดของจอมสกปรกที่สุดนั่น เอามาแสดงบ้างซิ ให้โลกเขาได้รู้ว่า โอ รัฐบาลนี้ คนไทยของเราปัจจุบัน รัฐบาลปัจจุบันนี้แหลมคมมาก สะแตกตับปอดประชาชนจนไม่มีเหลือ ให้เขาได้พูดบ้างซิน่ะ มันกินมันกลืนตลอดเวลา แล้วประกาศความดีของตนโต้งๆ ประกาศหาอะไร ความชั่วมันเต็มตัวนี่ ใครจะไปเชื่อมัน หมาก็ไม่เชื่อละเข้าใจไหม เอาละพอ เท่านี้ละ

สรุปทองคำน้ำไหลซึมถึงเช้าวันนี้ ทองคำที่หลอมแล้วได้ ๒๒๕ กิโล ๑๘ แท่ง ทองคำที่ยังไม่ได้หลอม ๓ กิโล ๕ บาท ๙๕ สตางค์ รวมทองคำที่หลอมแล้วและยังไม่ได้หลอม เป็น ๒๒๘ กิโล ๕ บาท ๙๕ สตางค์ กรุณาทราบไว้ทั่วกัน นี่ละไหลซึมเข้าไปหาคลังหลวง ไม่ไหลออก ไหลทั้งนั้น ธรรมเป็นผู้นำ มีแต่ไหลเข้าๆ ไม่มีไหลออก นี่ละมันจึงโมโหละซิคน พอว่ามันก็ว่ากันบ้าง

ทองคำเราประเภทน้ำไหลซึมค่อยเรื่อย ต่อไปมันก็จะมากนั่นละ เราเป็นห่วงทองคำหัวใจของชาติไทยเรา เราจึงหาอุบายวิธีทุกอย่างที่จะหนุนเข้าสู่ชาติไทยเรา ให้ลูกหลานทั้งหลายได้อาศัยเป็นความร่มเย็น แน่นหนามั่นคงทุกอย่าง ถ้าทองคำอยู่ในท้องพระคลังของเราแล้วทุกอย่างจะดีดขึ้นๆ แข็งไปตามๆ กัน ถ้าอันนี้อ่อนเสียอย่างเดียวอ่อนหมด เราเห็นเหตุการณ์อย่างนี้ จึงได้รบกวนบรรดาพี่น้องลูกหลานทั้งหลายเรื่อยมา สำหรับหลวงตาเราพูดตรงๆ เราไม่เอาอะไรเลย เข้าใจไหม ช่วยดิ้นล้มดิ้นตายแต่ไม่เคยสนใจเอาอะไร เป็นอย่างนั้นนะ ให้ลูกหลานทั้งหลายพิจารณา ชาติไทยของเราจะอยู่ได้ด้วยสิ่งเหล่านี้แหละ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก