เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๙
ไม่มีใครเหลียวแลใจ
ก่อนจังหัน
ทางพระวงกรรมฐานเราก็ได้ช่วยชาติบ้านเมืองมาเต็มกำลังความสามารถ ตั้งแต่เริ่มช่วยชาติมา เดินตามเราไปนั่นแหละ ทีนี้ก็รู้สึกว่าเบาบางลงบ้างแล้วในงานช่วยชาติ เพราะฉะนั้นให้เร่งมาช่วยตัวเอง จิตตภาวนาเป็นสำคัญมาก พุทธศาสนานี้เลิศเลออยู่ที่จิตตภาวนา ใครไม่ดูจิตเสียก่อนแล้วโลกอันนี้เป็นไฟตลอดไป โลกมันร้อนเพราะอะไร ไม่ได้ดูจิตของตัวเองด้วยธรรม ถ้าดูจิตของตัวเองก็เท่ากับน้ำดับไฟ ดังที่ท่านสอนในวงพุทธศาสนาเรียกว่าภาวนา คือการอบรมจิตใจ ให้ดูตัวเหตุมหาเหตุ ฟืนไฟเผาไหม้อยู่ นรกทั้งเป็นอยู่ที่หัวใจสัตว์แต่ละดวงๆ ไม่มีน้ำดับ มีตั้งแต่ไฟก่อตัวตลอด
ความโลภ ความโกรธ ราคะตัณหา ไฟสามกองนี้เผาทั่วโลก โลกวิ่งหาตั้งแต่ความสุข แต่เสริมไฟอันนี้ตลอดเวลาแล้วเอาความสุขมาจากไหน นี้คือไฟ พุทธศาสนาเท่านั้นที่เลิศเลอสุดยอด เราประกาศป้างเลย หัวขาดขาดไปตามพระพุทธเจ้า จะให้มอบไปอย่างอื่นเราไม่มอบ ได้พิจารณาค้นคว้าทางด้านจิตตภาวนาตั้งแต่วันออกปฏิบัติ มีพ่อแม่ครูจารย์มั่นเป็นโรงงานใหญ่สำหรับจิตตภาวนา ให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายได้พอรู้เนื้อรู้ตัว
ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่กระจายไปทุกภาค ล้วนแล้วตั้งแต่ออกจากพ่อแม่ครูจารย์ซึ่งเป็นโรงงานใหญ่นี้ทั้งนั้นในการอบรมจิตตภาวนา นี่เป็นสำคัญมาก ถ้าไม่ได้ดูจิตใจแล้วโลกอย่าอวดนะ ใครว่าเจริญที่ไหนเจริญด้วยไฟเผาหัวอกมันนั่นเองแหละ ผู้ที่ว่าเจริญๆ นั้นละคือไฟเผาหัวอกมัน อย่าเอามาอวดธรรมนะ โลกสามแดนโลกธาตุอย่าเอามาอวดธรรม ไม่มีอะไรเลิศเลอยิ่งกว่าธรรม
คุ้ยเขี่ยดูซิพระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่จริง คุ้ยเขี่ยลงไปที่จิตตภาวนาตามทางที่ท่านสอน จะเปิดจ้าขึ้นหมด พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะปรากฏที่นั่นหมด เหมือนกับแม่น้ำมหาสมุทรจ่อมือลงไปเท่านั้นถึงกันหมดเลย นี้จ่อความรู้ทะลุเข้าไปตรงนั้นแล้วถึงพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ไปหาท่านทำไม เอาตรงนี้นะ จิตตภาวนาเป็นสำคัญ นักบวชกรรมฐานนี้ละ ที่เรียกว่ากรรมฐานๆ สำคัญนะ ผู้นี้เป็นผู้ที่มุ่งมั่นหนักแน่นเกี่ยวกับเรื่องจิตตภาวนาเพื่อมรรคผลนิพพาน เอาให้เห็นที่จิตใจซิน่ะ
สอนมานานเท่าไร ๒๕๐๐ กว่าปีแล้วพระพุทธเจ้าสอน มีแต่พวกหูหนวกตาบอดไม่สนใจฟัง มิหนำซ้ำยังเอามูตรเอาคูถ ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง ราคะตัณหา เข้าไปทับถมธรรมของพระพุทธเจ้าจนไม่มีเหลือ เวลานี้ธรรมเหลือที่ไหนในโลก มันก็มีแต่ฟืนแต่ไฟออกจากกิเลสทั้งนั้นเต็มโลกเต็มสงสาร มันยังเป็นบ้ากันอยู่หรือมนุษย์เราเดี๋ยวนี้ เราอยากพูดอย่างนั้น นี่มันจวนจะตายแล้วนะหลวงตาบัว จะนำธรรมออกมาให้โลกทั้งหลายได้ฟัง พุทธศาสนานี้เลิศเลอสุดยอดแล้ว ค้นเข้าไปที่จิตตภาวนาซิถ้าท่านทั้งหลายอยากเห็นความเลิศเลอ อย่าวิ่งไปตามกิเลส อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี มันตายกองกันอยู่นี้มีแต่ของดีๆ ทั้งนั้นแหละ แล้วเอาความมั่งความมีมาอวดกัน เอาไฟมาอวดกัน ตัวเองว่ามั่งว่ามี เหยียบหัวคนอื่น กัดตับกัดปอดคนอื่นไป ตัวว่ามั่งว่ามีก็ว่าเอาเฉยๆ หัวใจมันไม่ได้มีความสงบร่มเย็นแหละถ้าไม่มีธรรม ธรรมเป็นของสำคัญมาก ขอให้ทุกๆ ท่านตั้งใจปฏิบัติ
เอาลงที่หัวใจนะ สติติดแนบตลอดดูซิน่ะ จิตมันจะแสดงอะไรขึ้นมา มหาเหตุอยู่ที่จิต ความโลภ ความโกรธ ราคะตัณหา คลังใหญ่ของมันอยู่ที่จิต ธรรมะก็เหมือนกันจิตตภาวนาเป็นสำคัญ เกิดที่จิต พิจารณาที่จิต จะได้เห็นของแปลกประหลาดภายในจิตใจนี้เอง หาของเลิศของเลอของดิบของดี หาทั่วโลกดินแดนไขว่คว้าทั้งนั้น เป็นเงาลมๆ แล้งๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไรกิเลสพาหา หาไปๆ ก็ฟาดให้จมๆ ได้เท่าไรไม่พอๆ เขยิบๆ สูงพอสมควรแล้วตูมเดียวลงนรกอเวจีทั้งเป็นเลย นี่กิเลสหลอกสัตว์โลก ธรรมไม่มี ตั้งแต่สมถธรรม วิปัสสนาธรรมขึ้นไปเรื่อยๆ
สมถะคือความสงบใจ ถ้าใจสงบโลกนี้เย็น ถ้าใจไม่สงบ ใครจะว่าโลกนี้เจริญขนาดไหนก็คือไฟเจริญเผาหัวอกมนุษย์นั่นแหละ อันนี้พูดให้ชัดเจนไม่สงสัย เปิดออกมาจากหัวใจที่คุ้ยเขี่ยขุดค้นมาเต็มกำลังความสามารถแล้ว ประจักษ์ในใจแล้วจึงไม่สงสัย ใครจะว่าบ้าก็ว่าไป ปากเขาว่าบ้า ปากอมขี้มันจะว่าก็ช่างหัวมันเถอะ เราปากอมธรรมใจอมธรรมจะผิดไปไหน ธรรมพระพุทธเจ้าสอนโลก พระพุทธเจ้าเรียกว่าปากอมธรรม สาวกปากอมธรรม สอนโลกให้มีธรรมในใจ
ทุกคนให้ตั้งใจปฏิบัตินะ อย่าเหลาะแหละๆ นะพระ ให้ขวางตาๆ ไปที่ไหนให้มีสติติดตัวเองๆ นี่ผู้มีค่ามีราคาสำหรับพระเรา ความเคลื่อนไหวไปมาที่ไหนสติให้ติดแนบๆ กับธรรมบทใดก็ตามผู้ที่เริ่มต้นตั้ง เช่นคำบริกรรม ติดกับคำบริกรรมไปเรื่อยๆ ผู้มีฐานแห่งความสงบแล้วสติติดอยู่กับความสงบคือสมาธิ ติดอยู่นั้น จากนั้นก้าวออกทางด้านปัญญาพิจารณาแยกธาตุแยกขันธ์ ในโลกธาตุนี่มันเป็นบ้ากันนักหนา ธาตุขันธ์นี่มันเป็นอะไร ดูธาตุขันธ์ของเรานี่ ภูเขาภูเรามันกระจายไปหมดแล้วก็จะหายสงสัยทุกสิ่งทุกอย่าง
จิตเมื่อได้หลักแล้วมันจะปล่อยสิ่งเลวร้าย ที่เข้าใจว่าเป็นของดิบของดีเข้ามาๆ มันไขว่โน้นคว้านี้ๆ นั่นละหาที่ยึดที่เกาะของจิต วัตถุจะมาเป็นที่ยึดที่เกาะของจิตได้ยังไง วัตถุเป็นด้านวัตถุ ธาตุขันธ์ของเรานี้เข้ากันได้ การอยู่การกินการหลับการนอนเหล่านี้เรียกว่าปัจจัยเครื่องอาศัยของธาตุขันธ์นี้ได้ แต่เรื่องที่จะให้อาศัยทางด้านจิตใจนี้ไม่มีทางถ้าไม่ใช่บุญกุศลเท่านั้น ถ้าบุญกุศลแล้วแน่นอนๆ นี่ละติดแนบกับใจ ใจเป็นของสำคัญ ไม่มีใครเหลียวแลนะโลกอันนี้ โลกกิเลสตัณหา หัวดิ่งลงมหาสมุทรทะเลหลวงแห่งความล่มจมทั้งนั้นแหละไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร
ยิ่งจวนจะตายเท่าไรยิ่งสลดสังเวชนะเรา มองดูโลกเราดูจริงๆ ไม่ได้ดูธรรมดา ใครจะว่าหลวงตาบัวเป็นบ้า เอ้า ว่าไป ปากเขาไม่ใช่ปากเราหัวใจเรา เราเป็นผู้คุ้ยเขี่ยขุดค้นหาธรรมที่เลิศเลอมาเต็มหัวใจ ใครจะว่าอะไรว่าไปปากของเขา ปากไม่มีพุทโธ ปากไม่มีธัมโม สังโฆ มีแต่ปากขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง ว่าไปเท่าไรก็ขี้เต็มตัวๆ พากันจดจำเอานะทุกคน
ดูหัวใจบ้างซิ ชาวไทยเรานี้เป็นชาวพุทธๆ เสียส่วนมาก ไม่เคยดูหัวใจ จิตตภาวนาเป็นยังไง แม้แต่พระหัวโล้นๆ มันก็ภาวนาที่ไหน มันดิ้นไปตามโลกตามสงสาร วัดเลยกลายเป็นส้วมเป็นถาน พระเณรกลายเป็นมูตรเป็นคูถยังไม่รู้ตัวอยู่เหรอในเมืองไทยของเรานี่ สร้างวัดขึ้นมาที่ไหนนั่นละสร้างส้วมสร้างถาน ตัวพระตัวเณรนั่นละทำตัวเหลวแหลกแหวกแนว ก็เป็นมูตรเป็นคูถอยู่ในส้วมในถาน แล้วก็ว่าวัดๆ มันวัดขี้หมาอะไร มีแต่พระเณรขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลงโลเลโลกเลกอยู่ในวัดนั่น มันประเสริฐอะไร เลิศเลออะไร
นอกจากนั้นสร้างวัดก็เอาวัตถุมาอวดกัน ศาสนวัตถุ ถ้าเป็นวัตถุทางด้านศาสนาเรียกว่าอนุโลม ไม่ใช่ศาสนธรรม ธรรมแท้ดูตัวเอง ปฏิบัติตัวเอง ฟิตตัวเอง แก้ไขดัดแปลงตัวเอง นี้เรียกว่าธรรมแท้ ศาสนธรรม สอนหัวใจของเราให้มีความเฉลียวฉลาดรอบคอบในการละชั่วทำดีเป็นลำดับลำดาไป นี่เรียกว่าศาสนธรรม เอานี้มาสอนซิสอนเรา นี่ไปหาลูบหาคลำหาเกาตั้งแต่วัตถุภายนอก อันนั้นดีอันนี้ดี เป็นบ้ากัน ว่าเป็นศาสนธรรมก็เพียงอนุโลม มันศาสนกิเลสนั่นน่ะ ถ้าลงได้สร้างนี้ขึ้นมาสั่งสมกิเลสทั้งนั้น แล้วก็กวนบ้านกวนเมือง
คนนั้นห้าคนนี้สิบ อาตมาสร้างโบสถ์นะโยม อาตมาสร้างศาลาหลังนั้นหลังนี้ เท่านั้นชั้นเท่านี้ชั้น นี่มันไม่ได้หาอรรถหาธรรม มันหาตั้งแต่วัตถุอิฐปูนหินทราย แล้วไปกวนบ้านกวนเมือง เลยกลายเป็นศาสนากวนบ้านกวนเมืองไป รู้ตัวหรือยังเดี๋ยวนี้พระเราน่ะ พระกวนบ้านกวนเมืองคือพวกเรานี่แหละ เอาละเทศน์เท่านี้
หลังจังหัน
ผู้กำกับ ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการมีว่า รองโฆษกพรรคไทยรักไทย นายสุทิน คลังแสง ได้ออกมากล่าวถึงการชุมนุมใหญ่วันที่ ๔ ก.พ.๔๙ นี้ว่า ประชาชนจำนวนไม่น้อยอึดอัดกับนายสนธิ โดยพร้อมที่จะรวมกันออกมาเคลื่อนไหวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในวันที่ ๔ ก.พ.นี้ด้วย ตนในฐานะตัวแทนของพรรคไทยรักไทยและฝ่ายรัฐบาล ขอตอบขอบคุณและขอร้องให้ประชาชนแสดงพลังสนับสนุนนายกฯอยู่ที่จังหวัดของตน อย่าออกมาเผชิญหน้ากัน ทั้งนี้อยากเรียกร้องให้ม็อบที่จะมาร่วมกับนายสนธิชุมนุมกันที่ลานพระบรมรูปฯ มาด้วยความสงบ เพราะหากว่ามีม็อบ อาจทำอะไรเกินงาม หลังวันที่ ๔ ก.พ.ก็อาจจะถึงคิวที่จะสนับสนุนนายกฯ บ้าง อาจจะมีเหตุการณ์บานปลายได้
ประเมินสถานการณ์แล้วม็อบนายสนธิ ล่าสุดทราบว่ามีการเกณฑ์ครูมาเขตละสองร้อยคนจากทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าไว้ไม่ให้ต่ำกว่าสามหมื่นคนทั่วประเทศ ในส่วนของประชาชนนั้นมีการเตรียมคนขนคนมาเขตละสามร้อยคน ตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นคน โดยทางพระทราบว่าเงินทุนที่ใช้เตรียมการเคลื่อนไหวมาจากเงินของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนและของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์
หลวงตา อย่าออกมา อย่าเป็นหมากัดกัน นายกฯเป็นผู้นำของชาติ คุณสนธิก็เป็นคนในนามของชาติทั้งประเทศนี้ ทั้งนายกฯทั้งคุณสนธิเป็นคนไทย เป็นคนในนามของชาติด้วยกันทั้งนั้น อย่ามากัดกัน นายกฯเป็นนายกฯ อย่ามาเป็นหมากัดกัน คุณสนธิก็แบบเดียวกัน อย่าเป็นหมากัดกัน ใช้ไม่ได้เลย ในสายตาของธรรมดูไม่ได้ อะไรจะสงบเรียบร้อย คนไทยเราเป็นเลือดเนื้อของไทยด้วยกันแล้ว ทำไมจะตกลงกันไม่ได้ จะปกครองบ้านเมืองไปได้ยังไง เอาความสุขความเจริญมาจากไหนถ้ามีแต่วิธีที่จะกัดกันๆ เหมือนหมานั่น มันเป็นสภาหมา เมืองไทยจะเป็นเมืองหมาทั้งประเทศนี่นะ เราไม่อยากให้เป็นหมา ให้เลิกความเป็นหมาอย่ามากัดกัน นี้เอาธรรมเข้ามาสอนนะ ใครดีใครผิดใครถูกก็รู้กันอยู่ หลีกเลี่ยงไปหาอะไร คนไม่ยอมรับความผิดถูกชั่วดีของตัวเองแล้วอยู่กับสังคมไม่ได้ สังคมแตก ต้องยอมรับความผิดถูกชั่วดีซิ เราเป็นลูกคนไทยเป็นลูกชาวพุทธด้วยซ้ำทำไมไม่ฟังเสียงบ้าง เราก็พูดเท่าที่ทราบมาเท่านี้ เอาแค่นี้ก่อน แล้วมีอะไรเงื่อนใดอีก
ผู้กำกับ มีเงื่อนว่า คุณสนธินี้ไปเกณฑ์ครูจากภาคอีสาน ให้มาเคลื่อนไหวในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ นี้ เขาบอกเขาทราบมาว่า ทางจังหวัดอุดรฯนี้พบว่าครูส่วนใหญ่ก็พอจะรู้เรื่องแล้วว่า การที่มานี้เป็นเรื่องของการเมือง อาจจะตกเป็นเครื่องของนักการเมืองได้
หลวงตา แล้วที่ว่าเงินกองทุนไปจากหลวงตาบัวนี้ใครเป็นคนยืนยัน เอามาพูดกับหลวงตาบัวนี่น่ะ (นายสุทิน คลังแสง ให้ข่าว) นั่นแล้ว ให้ข่าวมา สุทิน คลังแสง มันเอาความรู้วิชามาจากไหนนอกโลกไหน ว่าหลวงตาบัวเอาเงินทุนหลวงตาบัวไปสนับสนุน หลวงตาบัวช่วยโลกมานี้สักเท่าไรแล้ว สนับสนุนใครพิจารณาซิ มันฟังไม่ได้นะพวกเปรตนี่ คำพูดนี้มันภาษานี้มันปากอมขี้มา ว่าได้รับความสนับสนุนจากเรา ใครพูดมามันหน้าด้านเอาเหลือประมาณ คนๆ นี้หนักโลกมาก หนักที่สุดเลย เข้ามาเกี่ยวกับศาสนา เราทำความดีความชอบต่อชาติไทยของเรามาสักเท่าไร ตั้งแต่วันเริ่มประกาศออกนำพี่น้องทั้งหลาย อะไรที่เรามีความมัวหมองในหัวใจของเรา เราเปิดโล่งไม่มี เราบอกว่าไม่มี นี่ภาษาของธรรม เราทุกข์ยากลำบากอยู่ทุกวันนี้ทุกข์ยากเพราะอะไร ทุกข์ยากเพราะคนไทยทั้งชาติเรา เราก็เป็นคนไทยอยู่ท่ามกลางในเมืองไทยเรา มันจะเป็นยังไงผิดถูกชั่วดีเราก็ฟังเราก็ดูอยู่ ยิ่งเป็นเรื่องของธรรมแล้วยิ่งดูละเอียดลออมาก นอกจากจะแสดงออกหรือไม่แสดงออกเท่านั้น ความรู้สึกเก็บไว้เรียบร้อยๆ อันนี้ก็เปิดออกเสียบ้างซิ
ว่าเอาเงินหลวงตาบัวนี้ไปสนับสนุนว่างั้นใช่ไหม (เขาให้ข่าว เขาว่าเขารู้มาเขาถึงมาให้ข่าวพวกผู้สื่อข่าว เขารู้มาว่าเงินทุนที่ใช้ในการนี้ หนึ่ง มาจากท่านหลวงตา สอง มาจากนายประชัย) ตัวปากมันนั่นละมันเอาเรื่องคนนั้นมาพูดๆ ตัวมันเองนั่นตัวสำคัญมันออกจากปากนี้แหละ ปากสำคัญปากอมขี้นี่ มันจะมาเลอะเทอะไปหมด หลวงตาบัวทำความสะอาดเรียบร้อยต่อชาติไทยของเรามานานสักเท่าไร พิจารณาซิ บาทหนึ่งหลวงตาบัวไม่เคยแตะ เพื่อโลกทั้งนั้น ไปที่ไหนดาดาษตั้งแต่สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ออกจากสมบัติหัวตับหัวปอดของพี่น้องชาวไทยที่รักที่สุด สละออกมาเพื่อชาติบ้านเมือง เราก็นำออกไปช่วยชาติบ้านเมือง
ไปที่ไหนดาดาษไปหมด มีแต่สิ่งก่อสร้างที่เราช่วยชาติบ้านเมือง โรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ราชการต่างๆ เต็มไปหมดในอุดรฯมีน้อยเมื่อไร ในอุดรฯนี้ก็สถานีตำรวจไปเท่าไรตั้ง ๑๐ กว่าล้านนั่นน่ะ แล้วก็สถานีรถไฟนั่นเป็นยังไง เห็นไหมจ้าอยู่นั่นน่ะ นี่เงินหลวงตาบัวออกไปช่วย เราไม่ได้เอาออกไปสนับสนุนพวกหมูพวกหมากัดกันอยู่เวลานี้นะ เงินเรานี้เงินของพี่น้องชาวไทย เราเอาไปช่วยชาวไทยทั้งหมดเลย บาทหนึ่งเราไม่เคยแตะ เราบริสุทธิ์ขนาดนั้นละที่ทำต่อโลกเวลานี้ ทองคำที่นำพี่น้องทั้งหลายมานี้ได้ ๑๑ ตันกับเกือบ ๓๐๐ กิโลแล้วมัง (๒๒๕ กิโลครึ่งครับ น้ำไหลซึมนะฮะ ตอนหลังนี้ ๒๒๕ กิโลครึ่ง) เออ นี่ละเพิ่มเข้ามาๆ เข้าทั้งหมด ฟังซิน่ะ ไม่เคยแตะ
เราเป็นคนดูแลทุกสิ่งทุกอย่างควบคุมเองทั้งหมด การสั่งจ่ายสั่งอะไรก็ดีออกจากเรา จึงบริสุทธิ์เต็มสัดเต็มส่วนของเรา ไม่ว่าจะจ่ายมากจ่ายน้อยเพื่อชาติไทยของเราทั้งชาตินั่นแหละ เราไม่มีอะไรสำหรับตัวของเราเอง ดีดดิ้นก็คือเรานี้ละทุกข์มากที่สุด เพื่อพี่น้องชาวไทยเราทั้งประเทศ ไม่ว่าจะการแนะนำสั่งสอน เวลานี้วิทยุออกทั่วประเทศไทย ก็ออกจากธรรมของพระพุทธเจ้าที่เรานำออกมาสั่งสอนบรรดาพี่น้องทั้งหลาย นอกจากทางด้านวัตถุช่วยเต็มกำลังแล้วยังมีด้านธรรมะอีก ออกไม่หยุดไม่ถอยธรรมะเวลานี้ เราทำความเสียหายอะไร จึงจะว่าเอาเงินทุนของเราไปอุดหนุนอะไร เรามีเงินทุนมาที่ไหนไปอุดหนุน ตั้งแต่ช่วยชาติพี่น้องของเราทั้งประเทศนี้ก็ไม่พอเวลานี้ บางทีติดหนี้เขาก็มี หลวงตาบัวนี้ติดหนี้แล้วนะ เคยติดมาแล้ว ติดมาเรื่อยๆ ของจำเป็น เฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือแพทย์ เครื่องมือแพทย์ที่สำคัญ
คนไข้เป็นคนสำคัญวิ่งเข้ามาหาหมอ หมอไม่มีเครื่องมือก้าวไม่ออกจะทำไง เราก็ช่วยหนุนกันไปๆ ถึงขนาดติดหนี้ก็มี นี่ฟังซิพี่น้องทั้งหลาย หลวงตาบัวเปิดความบริสุทธิ์ให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ไอ้เรื่องความสกปรกอย่าเอามาแหยม หัวใจเรานี้ก็บริสุทธิ์สุดส่วนครอบโลกธาตุแล้ว นำหัวใจนี้ออกแสดงเป็นกิริยาเป็นความถูกต้องดีงามเป็นธรรมล้วนๆ ไม่มีอะไรที่เราจะนำออกเกี่ยวกับบรรดาพี่น้องทั้งหลาย จะมีตั้งแต่ความเป็นธรรมล้วนๆ แล้ว เราพิจารณาเต็มสัดเต็มส่วนแล้วสั่งออกไปๆ ที่ว่าผิดพลาดไม่เคยมีในหัวใจของเรา แล้วการแสดงออกไปทั้งหมดก็ไม่เคยผิดพลาด นอกจากมันมาหาเรื่องเอาอย่างนี้เท่านั้นเอง เราไม่มีพลาด
ตัวนี้ตัวสำคัญ ตัวปากอมขี้นี่ มันมาทำความสกปรกต่อความสะอาดทั้งหลายที่เราช่วยชาติอยู่เวลานี้ เราช่วยด้วยความสะอาดเต็มเหนี่ยวนี่นะ เราไม่ได้ช่วยธรรมดา ไปหาที่ไหน เอา ไปหามาซิหาพระมาแบบอีตาบัวที่ช่วยชาติอย่างนี้ ไม่แตะแม้บาทหนึ่งฟังซิน่ะ ท่านทั้งหลายจะไปหาที่ไหน เงินของคนทั้งประเทศหมุนเข้ามาหาหลวงตาบัว ออกช่วยชาติบ้านเมืองทั้งประเทศเหมือนกัน เราไม่เคยแตะ บาทหนึ่งไม่เคยมี พูดขนาดนี้ละเรา เพราะเราพอทุกอย่างแล้ว หัวใจนี้พอด้วยธรรมทั้งหลาย ไม่เอาอะไรแล้วเปิดโล่งปล่อยหมดโดยสิ้นเชิง เหลือแต่ความเมตตาครอบโลกธาตุอยู่เท่านั้น
ที่เราดีดดิ้นทุกวันนี้ก็เพราะความเมตตา วันนี้ไปนั้นวันนั้นไปนั้น แล้วสั่งจ่ายทุกแห่งทุกหนรอบวัดป่าบ้านตาดนี่รอบเลย คนเขาก็ว่ามั่งมีละถึงจะมีกองทุนไปอุดหนุนอย่างนี้ เขาว่ามั่งมี มีอะไรบางทีติดหนี้เขา คนมีจะไปติดหนี้หาอะไร เรามีแต่น้ำใจสำหรับโลกเราช่วยโลก เราไม่มีอะไรติดหัวใจเราเลย เราช่วยด้วยความอิ่มพอทุกอย่าง เราพอแล้วในทางด้านจิตใจธรรมะพอ ทุกสิ่งทุกอย่างปล่อยหมดโดยสิ้นเชิง มีแต่กิริยาที่ใช้ต่อโลกที่เห็นว่าเป็นประโยชน์เท่านั้น ส่วนที่จะทำความเดือดร้อนแก่โลกเราไม่เคยปรากฏในหัวใจของเรา แม้คิดออกเพียงคิดปั๊บปัดกันทันทีเลยนู่น จะนำตั้งแต่สิ่งที่บริสุทธิ์สุดส่วนแล้วออกใช้เท่านั้นแหละที่สั่งอะไรก็ดี เราไม่มีอะไร อย่ามาหาเรื่อง
ไอ้ตัวแสบๆ มันว่าได้ยินเขาเล่าๆ ตัวมันเองมันกุเรื่องขึ้นมาจะเป็นใครที่ไหนไป จี้เอาตัวนี้เอง ถ้าตัวนี้ไม่ออกมาไม่มีเรื่อง ตัวนี้มันก่อเรื่องขึ้นมาเองหาเรื่องหาราว ตัวสำคัญนี้น่ะ อู๊ย น่าทุเรศนะ ไอ้ที่สกปรกสกปรกเต็มสัดเต็มส่วน เราสะอาดสุดยอดเราพูดจริงๆ หัวใจก็สะอาดเต็มเหนี่ยวแล้วไม่มีอะไร สมมุติในโลกนี้ไม่มีผ่านแม้เม็ดหินเม็ดทราย ขาดสะบั้นไปจากสมมุติทั้งหมด เป็นวิมุตติล้วนๆ เต็มหัวใจ เราจึงเป็นกิริยาจากวิมุตติล้วนๆ นั้นออกมาแสดงแก่พี่น้องทั้งหลายด้วยความบริสุทธิ์ใจ มีความเมตตาเป็นพื้นฐานตลอดมา เรื่องของเราก็เป็นอย่างนี้ แล้วมีอะไรอีกล่ะ ที่จะให้พูดต่อไปอีก
ผู้กำกับ นายแพทย์วิชัย ชัยจิตวณิชกุล ส.ส. อุดรธานี เขาให้ข่าวอย่างนี้นะครับ การเตรียมการรับมือวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ นี้ รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นการชุมนุม แต่ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้ว ล่าสุดผมได้ทราบข่าวในเชิงลึกมาว่า จะมีการขนม็อบท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย จากอำเภอจะนะมาร่วมชุมนุม ร่วมทั้งกลุ่มโจรใต้จะมีการเตรียมการขนระเบิด และอาวุธสงครามมาระเบิดกลางกลุ่มคนที่มาชุมนุม เพื่อสร้างสถานการณ์ว่า รัฐบาลชุดนี้ทำให้เกิดกลียุค โดยลำเลียงมาทางรถไฟ ซึ่งขณะนี้ผมได้แจ้งให้นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการส่วนตัวนายกรัฐมนตรี และทางกระทรวงมหาดไทยทราบแล้ว
หลวงตา แพทย์วิชัยนี้มันเป็นอะไรมาเรื่อยๆ นะ ไอ้นี้มันพูดอย่างนี้มันจะมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรบ้างท่านทั้งหลายก็ฟังเอาซิ (เหตุการณ์ยังไม่เกิด แต่เขาบอกเขาทราบข่าวเชิงลึกว่า จะมีการขนม็อบท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย กลุ่มโจรใต้ เอาระเบิดมา) เอาขี้ปิดปากมัน ใครพูดอย่างนี้ขี้ปิดปากมันเลย อันอื่นปิดไม่อยู่ ต้องเอาขี้ปิด มันจะได้สำลักอั้กๆ ออกมามีแต่ขี้ทั้งนั้น สกปรก เราพูดจริงๆ อำเภอเพ็ญเราไปช่วยขนาดไหน นายแพทย์วิชัย หมอวิชัยไปอยู่ที่นั่น โฮ้ เราช่วยขนาดไหนกี่ล้าน เวลาเราจะออกมาเอารถโปเกมาขวางทางเราให้เราดู รถนี้ใช้ไม่ได้เลย สุดท้ายเราก็ดู เราก็เลยให้รถ แล้วช่วยนี้เท่าไร นอกจากนั้นมีเรื่องมาหาเราเรื่อยๆ แต่เราไม่อยากนั่นละสกปรก เราพูดเพียงเท่านี้แหละ
นี้มันจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่ทราบได้ละ ให้ฟังเอาก็แล้วกันพี่น้องทั้งหลายอยากฟัง ไม่อยากฟังปัดทิ้งเข้าใจไหม ก็มีเท่านั้น มีแต่เรื่องสกปรก มันไม่มีความดีติดหัวใจมันเลย มีแต่เรื่องความเลวร้าย ออกมาก็เป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ทั่วโลกดินแดน ปากนี้จึงเรียกว่าปากอมขี้ ปากอมธรรมจะไม่เป็นอย่างนี้ จะพูดตั้งแต่เรื่องความสัตย์ความจริง ความดีงามต่อโลกเท่านั้นต่อส่วนรวมเท่านั้น ก็มีเท่านั้นละ อะไรอีกล่ะ (อันนี้ลูกศิษย์เขาฝากมาครับ แล้วแต่หลวงตาพิจารณา เขาฝากบอกว่า วันที่ ๔ เขาจะไปได้หรือไม่ได้) เอาละๆ ฝากมาให้ปัดคืนหาผู้มันฝากมาเท่านั้นพอ ไม่เล่นด้วย เอ้อ ฝากมาปัดคืนไปหาผู้มันฝาก ไม่รับฝากเข้าใจไหม ก็เท่านั้นจะว่าไง
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |