เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๙
โลกก็ดีธรรมก็ดีขึ้นอยู่กับหัวหน้า
ก่อนจังหัน
ทองเราไปเชียงใหม่ได้ ๙ กิโล ไม่ใช่เล่นนะ ไป ๘ คืน ๙ วัน ขวนขวายหาเข้ามาๆ ทุกทิศทุกทางเข้าหัวใจชาติ เพราะฉะนั้นใครมาแตะมายุ่มย่ามนี้ทนไม่ไหวก็ฟัดกันบ้างซิ เข้าใจไหม คนหนึ่งหามาแทบล้มแทบตาย คนหนึ่งมาโกยออก มีศอกก็จะศอกงัดเอาเลย มันน่าโมโห ผู้หาหาเข้ามาแทบตาย ผู้โกยโกยออกไปแทบตายเหมือนกันนี่ก็ดี เรามีอะไรบกพร่องการช่วยชาติ เราไม่มี ชาติเสียเองเป็นผู้ทำลาย มันน่าโมโหซิ
ไปที่ไหนมีแต่ยักษ์แต่ผีคอร์รับชั่นรับแช่นอะไร อู๋ย น่าทุเรศนะ ธรรมนำโลกกับโลกนำโลก ผิดกันราวฟ้ากับดิน ธรรมนำโลกไม่มีอะไรออก เข้าตลอดๆ โลกนำโลกนี้เอาไปต้มไปยำกันที่ไหนยุ่งไปหมด เมื่อมันเปิดเผยมากๆ ก็มีฟ้องร้องกัน ที่ไม่ฟ้องร้องไปไหนไม่รู้ นี่ดูเอาซิธรรมนำโลกกับโลกนำโลกเป็นยังไง ดูเอา จะให้พร
หลังจังหัน
ผู้กำกับ หนังสือจากสถานีตำรวจภูธร ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย
วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๔๙
เรื่อง ขอความเมตตาหลวงตารับผ้าป่าช่วยชาติ
กราบนมัสการพระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
เนื่องด้วยกระผม พ.ต.ท.วีระเดช ศรีระย้า พนักงานสอบสวน ๓ ผบ.๓ รักษาการแทนผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจภูธร ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย มีความประสงค์ขอเมตตาจากองค์หลวงตา โปรดไปรับผ้าป่า ณ สนามข้างสถานีตำรวจภูธรหนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
การที่หลวงตาได้ออกนิมนต์ไปรับผ้าป่าช่วยชาติและช่วยโลก เพื่อนำทองคำเข้าคลังหลวงตามโครงการของหลวงตา ตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๑ และได้ปิดโครงการเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๖ ไปแล้วนั้น ท่านหลวงตาได้ปิดโครงการไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเมตตารับบริจาคผ้าป่าจากประชาชนประเภทน้ำไหลซึมตลอดมา ด้วยความเมตตาที่องค์หลวงตาจะสงเคราะห์โลกและหัวใจของประชาชนชาวไทย ให้มีโอกาสสร้างบุญสร้างมหากุศล และได้ฟังพระธรรมเทศนาขององค์หลวงตาให้อยู่ในศีลในธรรม เพื่อเป็นความร่มเย็นแก่ครอบครัวและประชาชนโดยทั่วไป
กระผมในฐานะที่รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจหนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย จึงใคร่จะให้ข้าราชการตำรวจพร้อมกับชาวบ้านในตำบลหนองหญ้าปล้องและบริเวณใกล้เคียง ได้มีโอกาสร่วมงานจัดทำบุญเลี้ยงพระกับพระภิกษุธรรมยุตสายวัดป่า ในตอนเช้าอย่างน้อย ๒๐ รูป เพื่อให้ข้าราชการตำรวจและชาวบ้านได้มีโอกาสทำบุญเลี้ยงพระสายวัดป่าดังกล่าวข้างต้น ส่วนในภาคบ่ายกราบขอความเมตตาท่านหลวงตาได้โปรดไปเทศน์เพื่อรับผ้าป่าช่วยโลก จากข้าราชการตำรวจและประชาชนในพื้นที่ต่อไป ณ บริเวณสนามข้างสถานีตำรวจหนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ขอได้โปรดรับและเมตตาในการครั้งนี้ด้วย
หลวงตา ไปปรึกษากับพระว่าว่างวันไหน (ปรึกษาแล้วท่านว่า วันอาทิตย์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ เวลา ๑๔.๐๐ น.) วันนั้นว่างนะ เออ รับ เดี๋ยวนี้ไปเทศน์ที่ไหนก็ออกวิทยุทั้งนั้นๆ ออกไปหมดเลยเดี๋ยวนี้ พูดที่ไหนเป็นวิทยุไปเลย ไม่ว่าไปเทศน์ที่ไหนพูดที่ไหน เครื่องรับมีออกทันทีๆ เลย เราพอใจได้ทราบว่าทางวังสะพุง ข้าราชการมีนายตำรวจเป็นต้น ได้พาพี่น้องชาวอำเภอนั้นจังหวัดนั้นๆ ทั่วประเทศไทยสนใจในอรรถในธรรม ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมนี้จะทำความชุ่มเย็นแก่ตนได้มากมาย ไอ้ฟังเสียงโลกเสียงสงสารมีแต่เสียงสกปรกเสียงฟืนเสียงไฟเจือปนกันไป หาความสงบร่มเย็นไม่ได้ มิหนำซ้ำวงราชการเราถือกิเลสเป็นใหญ่ยิ่งกว่าธรรมเสียเลย คำว่าลูกชาวพุทธ วงราชการทั่วประเทศก็เรียกว่าวงชาวพุทธทั้งนั้น แทนที่จะสนใจในอรรถในธรรม พาบรรดาพี่น้องทั้งหลายในเขตอำเภอ จังหวัดนั้นๆ ได้พากันไปฟังอรรถฟังธรรมบำเพ็ญการกุศลนี้ไม่ค่อยมี หรืออยากจะว่าไม่มีด้วยซ้ำไป
ก็มีที่เราไปช่วยชาติคราวนั้น มีไปทุกจังหวัด อันนี้เรายอมรับ ชมเชยว่าเป็นผู้รักชาติจริงๆ และถือศาสนาเป็นผู้นำ เพราะศาสนาเป็นธรรมชาติที่ใสสะอาดมากที่สุด เรานำธรรมของพระพุทธเจ้าไปแสดงนี้ก็สะอาดมากที่สุดเหมือนกัน ธรรมที่สอนโลกเราก็ถอดจากหัวใจเราสอน ไม่ได้มีอะไรสงสัยในการสอนโลก เราพูดจริงๆ เราไม่มีสงสัย แม่นยำตลอด เพราะหัวใจนี้แม่นยำแล้วโดยสมบูรณ์ การเทศนาจึงไม่มีที่จะสงสัย ว่าตรงนั้นหนักไป ตรงนี้เบาไป เราไม่มี เหมือนเขาถากไม้ ไม้ตรงไหนตรงแน่วไปเลยเขาก็ถากเรียบๆ ไม้ไหนที่คดที่งอ ขวานถากก็หนักมือๆ อันนี้การเทศนา ไปเรียบๆ ก็มี เน้นหนักก็มี เป็นหลายแบบหลายฉบับตามคลื่นของกิเลสที่เป็นอยู่ในหัวใจของสัตว์มากระทบกระเทือนกับธรรม ธรรมก็กระจายออกไปเพื่อชะล้างกัน เป็นอย่างนี้เรื่อยมา
เราเทศนาว่าการพูดจริงๆ เราไม่ได้สงสัยในคำเทศน์ของเรา พูดให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เราเป็นผู้ปฏิบัติเอง รู้อรรถรู้ธรรมขึ้นในใจของเราเอง การแสดงออกจากอรรถธรรมที่รู้ภายในใจของตัวเองไปนี้จึงแน่ใจว่าไม่ผิด เพราะถ้าผิดเราจะมารู้ธรรมนี้ได้ยังไง การดำเนินของเราแทบเป็นแทบตาย มีแต่แทบเป็นแทบตายเพื่อธรรมๆ ถูกต้องๆ มาโดยลำดับ จนกระทั่งเห็นผลเป็นที่พอใจ การแนะนำสั่งสอนพี่น้องทั้งหลายจึงไม่ควรจะถือว่าธรรมนี้เป็นข้าศึกต่อผู้ฟังทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้นผิด เพราะการปฏิบัติมานี้แทบเป็นแทบตายเพื่อธรรม เมื่อธรรมปรากฏขึ้นมาอย่างไรก็แสดงตามคลื่นหนักคลื่นเบาอะไรก็แล้วแต่ พี่น้องทั้งหลายฟังให้คิดเป็นความเป็นธรรมนะ
เราพูดนี้เรียกว่าไม่มีสงสัยแล้วในการเทศนาว่าการ ไปที่ไหนเทศน์ที่ไหนเวลานี้ออกทั่วประเทศไทยแล้ว เราก็ไม่สงสัยว่าธรรมนี้สมควรแก่พี่น้องชาวไทยเราหรือไม่ประการใด เราไม่สงสัย เหนือตลอดมาแล้วธรรมพระพุทธเจ้า เข้าสู่จิตใจดวงใดเหนือตลอดอีกเหมือนกัน ใจดวงนั้นจะเหนือโลกเหนือสงสารไปตลอดเช่นเดียวกับธรรม เพราะธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้ว จะเป็นอื่นไปไม่ได้ การแนะนำสั่งสอนโลก เราจึงสั่งสอนด้วยความแน่ใจทุกอย่าง
ที่สนใจหรือได้ปรารภอยู่ทุกวันนี้ก็คือว่า วงราชการงานเมืองเราต่างๆ รู้สึกว่าจะถือธรรมะเป็นของเล่นไปแล้ว เป็นของต่ำยิ่งกว่ายศกว่าลาภ กว่าหน้าที่การงานวงราชการต่างๆ นั้นเป็นใหญ่ยิ่งกว่าธรรม นั่นละตัวกิเลสมาเหยียบธรรมรู้ไหม ตามธรรมดาวงราชการนำพี่น้องทั้งหลายทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ถูกต้องดีงามไปถูกต้อง ตัวเองจะจนขนาดไหนก็ให้เห็นซิน่ะ วงราชการจน ไปทำราชการเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนแล้วไม่มีอะไรจะอยู่จะกิน ทุกสิ่งทุกอย่างขาดเขินบกพร่อง เราก็ไม่เคยได้ยิน ได้ยินตั้งแต่พุงกางๆ ออกมา
ใครเข้าไปเหมือนเอาหมาเข้าถานนั่นละ ถ้าได้เข้าไปแล้วจับหางดึงออก หางขาดมันไม่ยอมออก มันเสียดายอะไรอยู่ในถานนั่นน่ะฟังซิ เวลาออกมานี่ท้องกางๆ ออกมา ใครไปเป็นราชการจึงมีแต่พุงกางออกมาๆ ที่จะได้รับความอดอยากขาดแคลนเพราะช่วยชาติบ้านเมืองในนามราชการอย่างนี้ไม่ค่อยเห็นมี มีแต่ต้มแต่ตุ๋นกัน กินกันทุกแบบทุกฉบับ วงราชการเลวที่สุดในปัจจุบันนี้เห็นชัดเจนมาก ออกแง่ไหนๆ มีแต่ความไม่พอใจของประชาชนที่เขาถูกบีบถูกบังคับด้วยวิธีการต่างๆ สุดท้ายตับจะไม่มีในตัวของเขาเลย เขาก็บ่นเขาก็ว่าบ้าง เขาบ่นว่าก็เพราะพุงมันหมด ตับไตไส้พุงหมด พวกนี้เอาไปสะแตกหมด นี่ละวงราชการมันใหญ่ไปทางนี้นะ ไม่ได้ใหญ่ในศีลในธรรม
ตั้งแต่เรารู้จักเดียงสาภาวะมาก็ฟังมาโดยลำดับ แต่เวลามาบวชนี้ชัดเจนมาก เพราะใช้ความใคร่ครวญ ยิ่งออกปฏิบัติด้วยแล้วใคร่ครวญละเอียดลออ จนกระทั่งปัจจุบันนี้สุดขีดเรื่องพินิจพิจารณาใคร่ครวญเรื่องโลกเรื่องธรรมผสมกันไป พิจารณาประสานกันไปเต็มเม็ดเต็มหน่วยในหัวใจของเรา เพราะฉะนั้นเวลาแสดงออกจึงไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใด เพราะเราพูดตามหลักความจริงเราพูดอย่างนั้น เวลานี้วงราชการยิ่งสกปรกมากเข้าทุกวันๆ สกปรกไปที่ไหน ก็มาเหยียบประชาชนนั่นละจะไปไหน ประชาชนเหมือนหมาตัวหนึ่งๆ วงราชการเหมือนเจ้าของหมา
แต่เจ้าของหมาเขาสงสารหมานะ อันนี้มันไม่สงสาร สะแตกกันไปเรื่อยๆ อย่างนั้น มันน่าทุเรศนะ ที่จะสนใจในอรรถในธรรมทำบุญให้ทาน นิมนต์พระไปแสดงอรรถแสดงธรรมเพื่อบำเพ็ญกุศลเป็นบางกาลบางเวลา สมเราเป็นหัวหน้าในวงราชการ แล้วก็ชักชวนพี่น้องทั้งหลายไปทำบุญให้ทานสมกับเราเป็นหัวหน้า อันนี้เราอนุโมทนาด้วย แต่ดูไม่ค่อยมีนะ มีได้ยินที่ว่าวังสะพุงนี้ เราจึงเอานี้เข้ามาคิด เหล่านี้คิดเต็มหัวใจเรื่องโลกทั้งหลายเป็นยังไง หมุนกันไปยังไง คิดเต็มหัวใจ แต่เมื่อเรื่องไม่เข้าไปสัมผัส รู้ก็เหมือนไม่รู้ เห็นเหมือนไม่เห็น เฉยไปเสีย แต่นี้เวลามาสัมผัสก็พูดเสียบ้างจะเป็นอะไรไป เพราะความเป็นจริงมีก่อนเราพูดแล้ว ทั้งผิดทั้งถูกมีก่อนแล้ว นี้เรามาพูดให้ฟัง
สำหรับธรรมนำโลกนี้ อย่างที่เรานำทุกวันนี้เราหาที่ต้องติไม่ได้แล้วในการนำของตัวเอง ไม่มีที่จะเป็นมลทินในหัวใจของเรา แล้วก็สาดกระจายไปเป็นมูตรเป็นคูถเป็นฟืนเป็นไฟเผาพี่น้องทั้งหลาย ไม่เคยมีจากการบริจาคของท่านทั้งหลาย ไม่มีเลย มีแต่สมบูรณ์พูนผลมาตลอด คิดดูซิว่าบาทเดียวเราไม่เคยแตะ ฟังซิท่านทั้งหลายเคยได้ยินไหม เจตนาที่จะเป็นอย่างนั้นไม่มี การจับจ่ายใช้สอยมากน้อยที่จะเป็นประโยชน์แก่โลก เราพิจารณาเต็มหัวใจๆ เสร็จแล้วออกๆ จะจ่ายมากจ่ายน้อยจะจ่ายด้วยเหตุด้วยผล จึงเรียกว่าบริสุทธิ์ตลอดไปเลย ไม่มีที่ว่าซุบๆ ซิบๆ หรือแบ่งสันปันส่วนกันกินอย่างนี้เราไม่มี มีไม่ได้ ใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับเราต้องเป็นหัวใจเดียวกับเรา ใครให้เราจับพิรุธได้แล้วคนนั้นเราไล่หนีทันที เราไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง
การนำชาติก็เหมือนกัน คณะกรรมการไหนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรา พอเห็นลักษณะไม่ดีเราปัดออกเลยไม่ให้เข้ามายุ่ง ไม่พูดก็ปัดออกเลยไม่เล่นด้วย เป็นอย่างนั้นนะ มันดูอยู่ภายในนี้ ภายนอกพูดบ้างไม่พูดบ้างจะเป็นไร ดูอยู่ภายในเป็นความรู้สึกอยู่ภายใน เก็บไว้ๆ ถึงกาลเวลาที่จะนำออกใช้แบบไหนก็นำออกจากความรู้สึกนั้นแหละออกใช้ๆ เราทำอย่างนี้กับโลก เราจึงบริสุทธิ์ตลอดมา
คิดดูซิไปเชียงใหม่ ๘ วัน ๙ วันได้ทองตั้ง ๙ กิโล ของง่ายเหรอ ๘-๙ กิโลเป็นของหาง่ายเมื่อไร เงินตั้ง ๖-๗ ล้านที่ได้มา ทองคำ ๘ กิโล ๙ กิโลนี้เข้าคลังหลวงทั้งหมด ส่วนเงิน ๖-๗ ล้านนี้ออกช่วยชาติอีกเช่นเดียวกันไม่ได้ไปไหน ที่จะมาหาเราเราไม่เอา เราพอทุกอย่างแล้วเราบอก เราพูดอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยธรรมของเรา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมร้อยสันพันคมเหมือนกับโลก เราไม่มี พูดอย่างตรงไปตรงมาเลย
การเทศนาว่าการนี้ก็เทศน์มามากต่อมากแล้ว ควรจะเป็นคติเครื่องเตือนใจพี่น้องทั้งหลายถ้าอยากเป็นคน ถ้าอยากเป็นสัตว์ไปเสีย แล้วก็ปล่อยตามบุญตามกรรม อย่าสนใจกับอรรถกับธรรม ให้สนใจกับมูตรกับคูถทั้งวันทั้งคืนนั่นละจม พวกนี้พวกจม เจริญมีแต่ชื่อนั้นชื่อนี้ ตั้งชื่อนั้นตั้งชื่อนี้ ยศนั้นยศนี้ เป็นบ้ากันไปหมด ลมปาก หัวใจมีแต่ฟืนแต่ไฟ มีแต่บาปแต่กรรมเต็มหัวใจ ชื่อไพเราะเพราะพริ้งฟากจรวดดาวเทียม ตัวเองจมอยู่ใต้ก้นนรก ธรรมฟังไม่ได้นะ สายตาของธรรมดูดูไม่ได้ ถ้ากิเลสแล้วดูได้วันยังค่ำ แต่ธรรมดูไม่ได้
ต่างกันนะธรรมกับกิเลส ธรรมนี้ดูละเอียดลออมาก เพราะธรรมเป็นของสะอาด เป็นที่ตายใจของโลกเรื่อยมา กิเลสไม่มีใครตายใจแต่ก็จมกับมันไปเพราะเชื่อกลมายาของมัน กลมายาของมันแหลมคมมาก สามารถที่จะเอาโลกทั้งสามนี้ให้อยู่ในเงื้อมมือของมันได้ ธรรมจะฉุดลากออกได้เพียงเล็กน้อยๆ เท่านั้นเอง นี้ละเรื่องความจริงได้เอามาพูดอย่างนี้ วันนี้ก็พูดเพียงเท่านี้ละไม่พูดอะไรต่อไป มีเงื่อนต่ออะไรอีกไหมล่ะ ถ้าไม่มีก็ไม่พูดต่อไปละ มันเหนื่อยแล้ว ว่าจะไม่พูดก็ได้พูดอยู่นี้
ที่เราพูดออกชัดเจนก็คือว่า เราอยากให้วงราชการสนใจในศีลในธรรมบ้าง อย่าเป็นเปรตเป็นผีกินแต่บ้านแต่เมืองตับปอดประชาชนโดยถ่ายเดียว ว่าอย่างนี้ละให้เหมาะ (เช้าวันนี้ทองคำได้ ๑๓ บาท ๗๙ สตางค์ครับ) ที่เราไปเชียงใหม่ได้ตั้ง ๙ กิโล ไม่ใช่เล่นนะ ได้ทองคำเยอะตั้ง ๙ กิโล นี่ละคลังหลวงของเราจะค่อยเพิ่มพูนขึ้นๆ เราพยายามหนุนคลังหลวงให้พี่น้องลูกหลานไทยเรา เวลาเราตายแล้วจะไม่มีใครหาให้ เราไม่ใช่ยกตนข่มท่าน คือผู้ที่ควรหาเป็นบุคคลเช่นไรมันก็เป็นเรื่องของบุคคลตามนิสัยวาสนา เมื่อนิสัยวาสนาต่างกันแล้ว ความเป็นไปของโลกของธรรมก็ต้องต่างกันเป็นธรรมดา โลกก็ดีธรรมก็ดีขึ้นอยู่กับหัวหน้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับอะไร เวลามีชีวิตอยู่นี้พอที่จะเสาะแสวงหาได้มาไว้สำหรับลูกหลานไทยเรา เราก็อุตส่าห์พยายามทุกวิถีทางว่างั้นเถอะ พอได้ทางใดเอาๆ ขนเข้าๆ ไม่ให้ขนออก ขนออกก็ออกช่วยชาติ แน่ะ ไม่ใช่ขนไปไหน ขนออกช่วยชาติ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |