ตายแล้วไปไหน
วันที่ 6 มกราคม 2549 เวลา 8:30 น. ความยาว 29.02 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๙

ตายแล้วไปไหน

         วันนี้เป็นวันมหามงคลแก่พี่น้องชาวอุดรเรามากทีเดียว โดยทูลกระหม่อมฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ท่านเสด็จมาโปรด เยี่ยมพี่น้องชาวอุดรเรา แล้วเข้ามาฟังอรรถฟังธรรมสำนักวัดป่าบ้านตาด นับเป็นสิริมงคลอย่างมากทีเดียว การที่จะได้ยินได้ฟังอรรถธรรม ตามบาลีท่านว่าไว้ กิจฺฉํ ธมฺมสฺสวนํ การจะได้ยินได้ฟังอรรถธรรมนี้ยากนักยากหนา แต่ทุกวันนี้ธรรมก็เฟ้อ มนุษย์ก็เฟ้อ ต่างอันต่างเฟ้อ ธรรมนั้นท่านเลิศเลอมาดั้งเดิม แต่มาคลุกเคล้ากับมนุษย์ที่เฟ้อๆ นี้ ธรรมก็เลยกลายเป็นของเฟ้อไปตาม เพื่อจะให้เป็นสิ่งที่ดีงามสมศักดิ์ศรีของธรรมแล้ว พวกเราทั้งหลายควรจะปฏิบัติปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนดี จะเข้ากันได้สนิทกับพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาของท่านผู้เลิศเลอ

คือพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาที่เลิศเลอ ในโลกทั้งสามนี้กราบไหว้พระพุทธเจ้าทั้งนั้น ไม่มีใครจะเย่อหยิ่งได้เลย เพราะธรรมเป็นของเลิศเลอ พระพุทธเจ้าทรงครองธรรมอันเลิศเลอ ก็กลายเป็นศาสดาองค์เลิศเลอขึ้นมา ธรรมที่แสดงออกแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายพุทธบริษัท ๔ ภิกษุ ภิกษุณี แต่ก่อนมีภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ได้ยินได้ฟัง สำเร็จเป็นมรรคเป็นผลขึ้นมาจำนวนไม่น้อย ตำรับตำราท่านแสดงไว้ คือองค์ศาสดาเป็นคลังแห่งธรรมที่เลิศเลอ ทรงกระจายออกไปที่ไหนก็เป็นธรรมที่เลิศเลอ ประพรมพวกบรรดาสัตว์ทั้งหลายให้ได้รับความยิ้มแย้มแจ่มใสเบิกบานภายในจิตใจ รู้เนื้อรู้ตัวในการจะประพฤติตัวเป็นคนดี และละชั่วไปเป็นลำดับลำดาตามสายธรรมที่ทรงแสดงไว้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อเราได้นำธรรมนี้เข้ามาประดับตน ไม่มีอะไรจะสวยงามยิ่งกว่าธรรมประดับใจ ประดับกาย วาจา ความประพฤติ หน้าที่การงาน เมื่อมีธรรมเข้าแทรกแล้วสวยงามทั้งนั้น ถ้านอกจากธรรมแล้วกิเลสตัวสกปรก ติดเปื้อนที่ตรงไหน ต้องได้ชะได้ล้างกันเต็มเหนี่ยว โลกเขารังเกียจกันในสิ่งสกปรกทั้งหลาย เข้ามาแปดเปื้อนร่างกายนี้เขารีบเช็ดรีบล้าง แต่กิเลสเข้าพัวพันกับจิตใจวันยังค่ำคืนยังรุ่ง ไม่มีใครสนใจจะชำระล้างให้เป็นของสะอาดขึ้นมาบ้างเลย เสียตรงนี้ละ พวกเราชาวพุทธให้นำธรรมนี้เข้าไปชะล้างจิตใจ ให้อยู่ในความพอเหมาะพอดีจะมีความสุข ซุกหัวนอนได้สะดวกสบายบ้างพอประมาณ

ถ้ามีธรรมเข้าตรงไหนจะมีความพอดี มีความสุขที่ตรงนั้น ถ้ากิเลสเข้าตรงไหนหาความพอไม่มี โลกจะตายอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความดีดดิ้นไปตามกิเลสตัณหานั้นแหละ ที่ไหนว่าเจริญๆ มันเจริญลมๆ แล้งๆ หาความสัตย์ความจริงไม่มี ก็คือกิเลสหลอกโลกทั้งหลายนั้นแหละ หลอกเป็นลมๆ แล้งๆ ความอยากที่เป็นไปตามกิเลสมันก็อยากไม่พอ อยากทุกสิ่งทุกอย่าง รับประทานอิ่มแล้วอันหนึ่งมันไม่อิ่มนะ จิตดวงนี้ไม่เคยอิ่ม มีหิวโหยอยู่ตลอดเวลาคือใจดวงนี้ ที่มีกิเลสเข้าครอบงำจิตใจ กลายเป็นใจที่รุ่มร้อนขุ่นมัว ดีดดิ้นตลอด ถ้าธรรมแทรกเข้าไปแล้วจะมีความสงบร่มเย็นบ้างพอประมาณ

เพราะฉะนั้นท่านจึงสอนให้อบรมจิตใจ เพราะจิตใจนี้ดีดดิ้นตลอดเวลา เนื่องจากกิเลสตัวเป็นไฟอยู่ภายในใจ ไฟจ่อเข้าไปตรงไหนจี้เข้าไปตรงไหน ดิ้นทั้งนั้นๆ นอกจากคนตาย เผาทั้งหมดยังเหลือแต่กระดูก จนกระทั่งกลายเป็นเถ้าเป็นถ่านก็ไม่ดีดไม่ดิ้น นั้นคือคนตายแล้ว คนที่มีชีวิตอยู่นี้ถูกกิเลสจี้เข้าไปๆ จึงต้องดีดดิ้นทั่วโลกดินแดน ไม่มีใครอยู่เป็นความสงบสุขได้ภายในจิตใจ สมบัติเงินทองข้าวของจะมีมากน้อยเพียงไรนั้นอยู่นอก มาช่วยไม่ได้ ช่วยกิเลสที่เป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้สัตว์โลกนี้ช่วยไม่ได้ นอกจากธรรมซึ่งเป็นน้ำดับไฟอย่างเดียวเท่านั้นช่วยได้

มันจะดีดจะดิ้นเหาะเหินเดินเมฆไปไหนก็ตาม ถ้าธรรมได้จับเข้าไปตรงไหน จะสงบตัวลงไปๆ ท่านจึงสอนให้อบรมจิตใจ ใจนี้เป็นสำคัญมาก เป็นเจ้าตัวการครอบโลกธาตุ มีใจเป็นผู้ปกครองทั้งนั้น เป็นใหญ่เป็นโตในโลกอันนี้ สุดท้ายก็เป็นบ๋อยของกิเลสจนได้นั้นแหละ ถ้าไม่มีธรรมเข้าครอบครอง จึงขอให้พากันมีธรรม

คำว่าธรรมๆ นี้ได้ยินแต่ชื่อแต่นาม ไม่เคยเข้าไปสัมผัสสัมพันธ์ภายในใจ จึงไม่มีความตื่นเต้น ไม่มีความรู้เนื้อรู้ตัวให้ฟิตตัวให้ดีขึ้นไปด้วยความตื่นเต้นในความดีของตนคือธรรมที่เข้าสัมผัสใจ ท่านจึงสอนให้อบรมจิตใจภาวนา ใจเป็นของเล็กน้อยเมื่อไร ทุกข์ทั่วโลกดินแดนก็มารวมอยู่กับใจ ใจเป็นผู้แบกหามเรื่องกองทุกข์ทั้งหลายด้วย ถ้าใจมีธรรมภายในใจ ธรรมนั้นก็ประคองจิตใจให้มีความสงบร่มเย็น สว่างกระจ่างแจ้งขึ้นมาก็ที่ใจนั้นแหละ ตัวมืดบอดที่สุดก็คือใจ ตัวจะสว่างกระจ่างแจ้งขึ้นมาก็คือใจ เพราะธรรมชะล้างให้มีความสะอาดสะอ้านขึ้นมา

ธรรมที่นำมาสอนโลกจนกระทั่งทุกวันนี้ออกมาจากใคร ก็ออกมาจากพระพุทธเจ้าผู้ทรง โลกวิทู สว่างกระจ่างแจ้งตลอดเวลาครอบโลกธาตุ ธรรมประเภทนี้แลนำมาสอนโลก ไม่ได้เอาธรรมมืดบอดมาสอนโลก เพราะโลกนี้มันมืดบอดอยู่แล้ว เอาความสว่างไสวคือธรรมสอดแทรกเข้ามา สอนเข้ามาให้รู้ดีรู้ชั่วและประพฤติตัวเป็นคนดี ละชั่ว ทำดี ไปเรื่อยๆ จิตใจก็สง่างาม ถ้าจิตใจได้รับธรรมเข้าสู่ใจแล้วจะสง่างาม แม้จะเข้าไปอยู่ในสถานที่ใดก็มีความสง่างามอยู่ในสถานที่นั้น

เช่น พระท่านอยู่ในป่าในเขา ท่านภาวนาสงบงบเงียบ นั่นท่านผู้ทรงอรรถทรงธรรมทรงมรรคทรงผล ท่านสง่างามอยู่ภายในภูเขานั้นแหละ โลกนี้ประดับประดาตกแต่ง มีแต่จะให้สวยให้งาม ปลูกบ้านปลูกเรือนก็จะเอาไปแข่งชั้นดาวดึงส์เทวโลก พรหมโลกนู่น แต่เจ้าของต่ำ แม้จะไปอยู่ที่ไหนก็เหมือนเอาศพเอาเมรุขึ้นไปตั้งไว้หอปราสาท มีความหมายอะไรหอปราสาทบรรจุศพ จิตใจของเรามีความสกปรก ไปอยู่ที่ไหนมันก็สกปรกอยู่ที่นั่นแหละ เพราะฉะนั้นจงชำระจิตใจให้สง่างาม อยู่ที่ไหนงามหมดใจ ถ้าลงใจได้มีความสง่างาม อยู่ที่ไหนสบายหมด ไม่ยุ่งเหยิงวุ่นวายกับสิ่งใด ไม่มีอะไรพอดิบพอดียิ่งกว่าธรรมครองใจ ถ้าธรรมได้ครองใจสบายไปหมด หายกังวลไปทุกสิ่งทุกอย่าง

ที่จิตพัวพันอยู่ตลอดเวลานี้ก็เพราะกิเลสตัวยุ่งเหยิงวุ่นวาย ทำจิตใจให้เดือดร้อนขุ่นมัวตลอด หาความสุขไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านจึงสอนให้อบรมจิตใจ เฉพาะอย่างยิ่งการภาวนา ศาสดาองค์เอกของเราตรัสรู้ขึ้นมาด้วยการภาวนา พระสาวกทั้งหลายที่เป็น สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรานี้ก็เพราะการภาวนา ท่านสง่างามขึ้นมา ธรรมนั้นสง่างามขึ้นมากับผู้ที่ภาวนา พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์นั้นคือคลังแห่งธรรม ท่านสง่างามนำไปสอนโลก โลกก็เลยรู้ดีรู้ชั่วรู้หนักรู้เบา ทำจิตใจของตนให้มีความสง่างามไปตามธรรมท่านที่สอนไว้ ก็ค่อยเป็นคนดิบคนดีเป็นคนมีราค่ำราคาบ้าง

เวลานี้เราได้ถามดูตัวของเราบ้างหรือไม่ว่า เรามีราค่ำราคาในตัวพอที่จะพึ่งเป็นพึ่งตายได้บ้างหรือไม่ หรือมีแต่ความดีดความดิ้นหาจุดหมายปลายทางไม่มี ดีดดิ้นไปไหนก็ลงฟืนลงไฟถูกเผาไหม้ตลอดเวลา นั่นคือกิเลสหลอกสัตว์โลกให้ดีดให้ดิ้น ดิ้นไปไหนๆ ก็อยู่ในข่ายแห่งกิเลสพัวพันตลอดเวลาหาความสุขไม่ได้ ให้พากันอบรมจิตใจให้มีความสงบเย็นใจ เฉพาะอย่างยิ่งจิตตภาวนาเป็นสำคัญมาก ในพุทธศาสนานี้จะเด่นอยู่ที่จิตตภาวนาของผู้ปฏิบัติธรรม ในตำรับตำราท่านก็แสดงเข้ามาที่หัวใจเรา เพราะหัวใจมันมีแต่ฟืนแต่ไฟ โรคทางใจนี้เป็นโรคเรื้อรังมาตั้งกัปตั้งกัลป์ คือโรคกิเลส เอาธรรมเข้าไปชะล้างให้มีความสงบร่มเย็นผ่องใสขึ้นมา ใจจะมีความสงบเย็นและผ่องใสขึ้นมา อยู่ที่ไหนค่อยสบายๆ เมื่อชำระล้างมากเข้าเท่าไรใจยิ่งมีความสง่างามขึ้นโดยลำดับ

จิตตภาวนาทำคนให้มีคุณค่า ทำหัวใจของเราให้มีคุณค่ามีราคาขึ้นมา เพราะจิตตภาวนาเป็นสำคัญที่สุด ด้วยเหตุนี้เองศาสดาองค์เองจึงประทานธรรมโอสถอันนี้ไว้ สำหรับรักษาโรคกิเลสตัณหาภายในใจนั้นให้สงบเย็นลงไปด้วยจิตตภาวนา คำว่าจิตตภาวนานี้เป็นของเล่นเมื่อไร ถ้าจิตได้รวมลงให้เห็นในหัวใจของเราดูซิแต่ละดวงๆ นี้ ทั้งวันวันนั้นจะมีความกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่กับผลของตน ที่ภาวนาได้รับความสงบร่มเย็นนั้นแล แม้กาลเวลาจะผ่านไปแล้ว แต่อารมณ์แห่งจิตใจที่ได้รับความแปลกประหลาดอัศจรรย์ในเวลาภาวนานี้ จะมาสัมผัสสัมพันธ์อยู่ที่ใจของเราให้มีความเอิบอิ่มทั้งวันทีเดียว

นี่ละสมบัติของธรรมเป็นสมบัติที่เลิศเลออย่างนี้ ใครสัมผัสเข้าไปแล้วมีความปีติยินดีเอิบอิ่มตลอดเวลา เพียงสมาธิเท่านั้นก็พอใจแล้ว จิตที่เป็นสมาธิรวมลงใน เช่นอย่างเรานั่งภาวนาในคืนวันนี้จิตรวมสงัดเงียบไม่มีอะไรคิดปรุงกวนใจ มีแต่ความสง่างามของใจเท่านั้น ใจจะแสดงความอัศจรรย์ขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน ทีนี้เมื่อใจผ่านเรื่องนี้ไปก็ไปคละเคล้ากับเรื่องกิเลสตัณหาเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนโลกทั่วๆ ก็ตาม แต่อารมณ์ของใจที่ได้อาศัยความอัศจรรย์แห่งธรรมในเวลาตนภาวนานั้น แม้เรื่องจะผ่านไปแล้วก็ยังเป็นอารมณ์ให้อบอุ่นภายในใจทั้งวัน ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย นี่ละธรรมสมบัติเข้าถึงใจแล้วเอิบอิ่มไม่มีคำว่าเฟ้อ มีแต่ความเอิบอิ่มตลอดเวลา

ให้พากันอบรมจิตใจให้ได้รับความสงบร่มเย็นบ้างนะเราชาวพุทธ ไปที่ไหนๆ ก็มีแต่กิเลสฉุดลากไปต่อหน้าต่อตาทั้งเขาทั้งเราไม่มีใครอายใคร เพราะใครก็กิเลสเต็มตัวๆ กิเลสไม่เคยอายใครทั้งนั้นแหละ ถ้าสายตาของธรรมดูแล้วมันดูไม่ได้นะ เหมือนบ้าดีดดิ้นอยู่ทั้งวันทั้งคืน ดีดดิ้นด้วยทะนงตนว่าเราดีนะนั่นน่ะไม่ใช่เล่น ดีดเพื่อนั้นดีดเพื่อนี้ ว่าเป็นของดิบของดี สายตาของธรรมจับเข้าไปนี้มันเหมือนบ้ากันทั้งโลกนั่นแหละ โลกอันนี้โลกบ้ากิเลสตัณหา โลกพาดีดพาดิ้น โลกตื่นเงา ความสุขความเจริญไม่ทราบอยู่ที่ไหนพากันตื่นเป็นบ้ากันไปอย่างนั้น

กิเลสหลอกสัตว์โลก ธรรมมีในใจจับดูนี้รู้หมดนะ ท่านผู้ที่บริสุทธิ์พระพุทธเจ้า สาวกทั้งหลายดูสัตว์โลกนี้แบบที่ว่านี่ละ เหมือนดูคนบ้า ไม่ได้เป็นเหมือนคนดี มันเหมือนบ้า แล้วหยิ่งด้วยความเป็นบ้าของตัวเองอีกด้วยไม่ใช่ธรรมดา บ้านี้บ้าหยิ่งตัวเอง ไปที่ไหนก็หยิ่งๆ หยิ่งยศ หยิ่งลาภ หยิ่งความสรรเสริญเยินยอ หยิ่งฐานะสมบัติว่ามีนั้นมีนี้ ตัวเองไม่มีอะไรก็ไปอาศัยเขา ไปเกาะเขาแล้วก็ไปหยิ่งกับตัวเอง นี่เรียกว่าบ้าตื่นลมตัวเอง ธรรมเข้าสู่ใจแล้วไม่ต้องมีอะไรเข้ามาเพิ่มเติม พอตัวๆ นี่ละธรรม มีสมบัติคือธรรมภายในใจแล้วไม่ต้องไปหาอะไรมาเพิ่มเติม หากเป็นความกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ภายในจิตใจ ให้ท่านทั้งหลายหาสมบัติอันนี้เข้าสู่ใจ

ความมีความจนมีได้ด้วยกัน โลกนี้เป็นโลกอนิจจัง เป็นโลกกฎแห่งกรรม ต้องเสวยไปตามมีตามเกิดของตนที่สร้างมามากน้อยเป็นธรรมดา แต่ยังไงขอให้สั่งสมธรรมเข้าสู่จิตใจ แล้วจะมีความสง่างาม ความทุกข์ความจนก็ทราบว่าทุกข์ว่าจน เราเกิดมาจากท้องแม่ทีแรกเราก็มีตัวล่อนจ้อนมา ไม่เห็นมีสมบัติเงินทองยศถาบรรดาศักดิ์จากไหนมาประดับประดา ก็มีตัวของเรากับกรรมของเรานี้เท่านั้น แต่เวลาออกมากระจัดกระจายทั่วโลกดินแดนเลยเป็นบ้ากันไปหมดทั่วโลก

เรามีแต่ตัวของเรา เวลาตายไปแล้วก็มีแต่ตัวเท่านั้นละไป เขาไปส่งเสียที่เมรุเท่านั้น ไปถึงนั้นแล้วต่างคนต่างโลเลๆ ไม่ทราบผู้ตายตายแล้วไปไหน บางรายลงนรกลงอเวจีก็มี ที่จะไปสวรรค์ชั้นพรหมนี้มีน้อยมาก ไปก็ขนกันลงนรกนั่นละ บาปกรรมละขนลง ไปส่งกันแล้วก็กลับมาไม่เห็นได้เรื่องได้ราว ดูหัวใจตัวเองจะรู้เรื่องทันที ตายแล้วใครจะส่งเสียหรือไม่ส่งเสีย บุญกุศลหรือธรรมมีภายในใจแล้วภูมิใจตลอดเวลา ถึงกาลเวลาแล้วก็ดีดพับเดียวไปเลย นั่นคนมีบุญตายเป็นอย่างนั้น ต่างกับคนมีบาป เวลาจะตายนี้ทั้งดีดทั้งดิ้นหาสติสตังไม่ได้ ตกที่หลับที่นอนตกเตียงไม่มีสติ ตายไปด้วยความไม่มีสติแล้วก็จมไปเลย คนมีบุญมีกุศลมีสติสตัง ถึงกาลเวลาตายตายเหมือนโลกทั่วไป แต่จิตที่มีธรรมภายในใจมีที่ยึดที่เกาะ อาศัยธรรมนั้นเป็นตัวของตัวไปเลยทีเดียวสะดวกสบาย ให้พากันจำ

ให้ดูความเป็นอยู่ของตัวเองมันดีดดิ้นไปทางไหน ถ้าดูตัวเองพอเข้าใจแล้วจะรู้จักวิธีปฏิบัติตัวเอง คติที่ไปของคนมีธรรมจะไปสุคโต เป็นความสุขสบาย อยู่สบายไปสบาย อยู่ที่ไหนสบายหมด เรียกว่าสุคโต แต่ทุคโตนี้อยู่ที่ไหนเป็นทุกข์ทั้งนั้น บาปกรรมทำให้โลกเป็นทุกข์ บุญทำให้โลกมีความสุข ให้พากันสั่งสมความดีนี้ไว้ให้ดี เราเกิดในท่ามกลางพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เลิศเลอแล้ว สมควรที่จะน้อมศาสนาเข้ามาสู่ใจ เป็นเครื่องประดับใจของตนให้มีความอบอุ่นก็ยังดี ยิ่งมีความเลิศเลอภายในตนแล้วนั้นภูมิใจที่สุด ให้พี่น้องทั้งหลายจดจำเอาไว้

วันนี้ก็เทศน์เพียงเท่านี้ละ พอเป็นคติเครื่องเตือนใจ ทุกวี่ทุกวันมักจะได้เทศน์ทุกวันไม่มากก็น้อย ให้ยึดไปเป็นคติเครื่องเตือนใจ ในวาระสุดท้ายนี้ก็ขออวยพรปีใหม่ ให้ท่านทั้งหลายมีความสุขความเจริญในปีต่อไปนี้ พร้อมทั้งธาตุทั้งขันธ์ให้มีความสุขกายสบายใจ ใจให้มีความสุขความสบายไปด้วยอรรถด้วยธรรม จากนั้นผลทั้งหลายก็จะเป็นที่สมหวังของบรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกัน การแสดงธรรมย่อๆ นี้ก็เห็นว่าสมควรแก่กาลเวลา ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก