เป็นความชอบธรรม ไม่ให้พูดได้อย่างไร
วันที่ 20 ธันวาคม 2548 เวลา 8:10 น.
สถานที่ : ศาลา สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

เป็นความชอบธรรม ไม่ให้พูดได้อย่างไร

         หลวงพ่อสังวาลย์ท่านทำประโยชน์ให้โลกขนาดไหน ท่านทำประโยชน์ให้โลกมากที่สุดเลย ประหนึ่งว่าเป็นแขนซ้ายของเรา ท่านช่วยจริงๆ จังๆ ประหนึ่งว่าเราเป็นแขนขวา ท่านเป็นแขนซ้าย ช่วยกันเต็มเหนี่ยวๆ หาได้ที่ไหนพระอย่างนี้ เอาเอาไป เอาท่านไปกราบ เป็นมงคลทั้งนั้น กราบมงคลมหามงคล

         (ลูกศิษย์อ่านหนังสือของแพทย์หญิงกาญจน์ชนก พานิช ซึ่งเป็นเจ้าภาพสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน จังหวัดเพชรบุรี กราบนิมนต์หลวงตาเมตตาไปรับผ้าป่าสงเคราะห์โลก ณ สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๘นี้ ซึ่งสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน จังหวัดเพชรบุรีนี้ออกอากาศด้วยระบบ FM 90.5 MHz ระหว่างเวลา ๐๕.๐๐น.-๒๓.๐๐ น. ทุกวัน)

         มาคราวนี้ก็ดูเหมือนได้ทองคำหลายกิโลอยู่นะ ที่ผ่านมาแล้วดูว่า ๖ กิโล ที่เรามาคราวนี้ ทองคำวันที่ ๒๐ เช้าวันนี้ได้ ๒๑ บาท ๔๙ สตางค์ เฉพาะเช้าวันนี้ นี่กำลังจะถึง ๒๐๐ กิโลแล้ว ทองคำประเภทน้ำไหลซึมได้ ๑๙๖ กิโลแล้ว เราเป็นกังวลมากกับคลังหลวงของเรา เพราะฉะนั้นจึงต้องรบกวนบรรดาพี่น้องทั้งหลายเพื่อให้เข้าจุดนี้ ให้หนุนขึ้น ทองคำเป็นสิ่งสำคัญมากต่อชาติไทยของเรา ไม่ว่าชาติไหนทั่วโลกถือทองคำเป็นหลักเกณฑ์ ยอมรับกันทั่วโลก

         เพราะฉะนั้นเมืองไทยเราก็ควรจะให้ได้ทองคำพอสมควร นี่ยังรู้สึกว่าน้อยไปอยู่ เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นกังวลตลอดมา ตั้งแต่วันเราเข้าไปดูทองคำแล้ว วันแรกตั้งแต่ไปดูมาแล้วประกาศก้องออกมาเลยเชียว คือวันนั้นเป็นวันที่ไปมอบทองคำและดอลลาร์ ที่ธนาคารชาติหรืออะไร พอเสร็จแล้วหัวหน้าคลังหลวงละมานิมนต์เราเองเลย นิมนต์เข้าไปดูทองคำ ท่านก็คงหวังว่านี่ต้นเหตุที่จะได้ทองคำต่อไป ท่านคงคิดอย่างนั้น เพราะฉะนั้นจึงต้องนิมนต์เราเข้าไป

         เราเข้าไปเราก็ไปดูละเอียดถี่ถ้วน ออกมาเราไปถามกันโดยเฉพาะ ทองคำได้ฝากไว้ประเทศไหนบ้างๆ เราก็ถาม เพราะการเกี่ยวโยงกันเรื่องหนี้เรื่องสิน การค้าการขายระหว่างประเทศต้องมีหนี้สิน มีเครื่องประกันกัน เราคิด เราถามก็ถูกเป๋งเลย เมืองนั้นไว้เท่านั้น เมืองนั้นไว้เท่านั้น แล้วเมืองไทยของเราล่ะมีเท่าไรเวลานี้ มีเท่านั้น ใจเราหายแล้วนะ เพราะฉะนั้นเวลาออกมาจึงประกาศลั่นตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งบัดนี้ไม่หยุด เพื่อจะให้ได้ทองคำหนุน นี่ก็ได้หนุนขึ้นมากแล้ว

         การช่วยชาติคราวนี้ก็ได้ทองคำเข้าสู่คลังหลวงของเรา ๑๑ ตัน นู่นของเล่นเมื่อไร ๑๑ ตันกับ ๓๗ กิโลครึ่ง นี่เข้าเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวนี้กำลังเป็นประเภทน้ำไหลซึม ค่อยซึมเข้าไป ก็ได้ ๑๙๖ กิโลแล้ว กำลังเข้า เข้าไปเรื่อยๆ เราเป็นห่วงเป็นใยกับคลังหลวงซึ่งเป็นหัวใจของชาติไทยเรา จึงได้พยายาม ถ้าควรจะเป็นไปได้อย่างไรเราจะพยายามให้เป็นไปๆ เวลาอยู่ในฐานที่พอตะเกียกตะกายได้อยู่ เราจะพาพี่น้องทั้งหลายตะเกียกตะกายหาเพื่อส่วนรวม

         เรากว้านเข้าเพื่อส่วนรวม ไม่มีรั่วไหลแตกซึมไปไหน นี่ซิเราถึงได้ว่าให้วงรัฐบาล  ทางนั้นขนออกๆ ไปถลุงไหนๆ ไม่ทราบ คนนี้พยายามขนเข้าตลอดเวลา ไม่เคยรั่วไหลไปไหนเลยสำหรับเราเป็นผู้นำ นี้ธรรมฟังเอาซิ ธรรมเป็นผู้นำตายใจได้ไหมพี่น้องชาวไทยเรา ให้กิเลสเป็นผู้นำนี่เงินในคลังหลวงชาติไทยของเราจะไม่มีเหลือแล้วนะ เอาไปถลุงทางนู้นถลุงทางนี้ ที่เขาประกาศความเสียหายในสมบัติของชาติเขา ก็จะมาบีบปากเขา จะมาเก็บเขา จะมาฆ่าเขา เราก็ออกต้านทันทีเลย เขาทำนี้ถูกต้องแล้ว ตัวเป็นโจรเอาของเขาไปถลุงแล้วยังจะไม่ให้เขาพูดได้เหรอ ผิดสองชั้นสามชั้น ว่าอย่างนั้นเลยเรา เอาพูด พูดได้เลย

         อย่างคุณสนธิพูดอยู่ทุกวันนี้ ก็ออกจากเราเป็นเครื่องหนุนกัน ทางนั้นก็ออก เราก็หนุนเลย เพราะเป็นความชอบธรรมจะไม่ให้พูดได้อย่างไร คนหนึ่งเอาไปถลุงเสียพอแล้ว ยังจะไม่ให้พูดถึงเรื่องความเสียหายของชาติ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นมหาโจร เข้ามาเอาชาติบ้านเมือง ตับปอดประชาชนจะไม่มีเหลือเลย เมื่อเขาพูดถึงเรื่องความเสียหายแห่งสมบัติของชาติของเราในนามคนทั้งชาติทำไมเขาพูดไม่ได้ จะมาทำวิธีต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง ฟ้องร้องบ้าง จะเก็บจะฆ่าบ้างอะไรบ้าง เราเปิดออกรับเลย เอาหลวงตาบัวตายแทนได้เลย บอก ความจริงเป็นความจริงวันยังค่ำ ไม่ผิดนะ

         ให้ประกาศได้เลย อย่างคุณสนธิประกาศอยู่นั้นน่ะ ก็ประกาศในนามของคนทั้งประเทศที่เสียหายด้วยกัน ทั้งประเทศมันเสียหายด้วยกัน ใครเอาไปถลุงเงินเหล่านี้มันเอาไปไหน นี่ซีที่มันขัดกันกับธรรม ที่นำพี่น้องทั้งหลายเราไม่เคยแตะ ฟังซิ มันเข้ากันได้ไหม โลกกับธรรมเป็นอย่างนี้ ธรรมสะอาดสะอ้านตลอดเลย มีเท่าไรพี่น้องทั้งหลายบริจาคมานี้ แม้บาทเดียวไม่เคยมีในจิตของเราที่มัวหมองอย่างนั้นไม่มีเลย สะอาดอยู่ตลอด

         เราจะคิดอ่านอะไรต่ออะไรเราจะต้องพิจารณาในใจของเราก่อน เมื่อใจเป็นธรรมล้วนๆ แล้ว อะไรถ้าขัดกับธรรมนี้ปัดทันทีๆ เลย เมื่อถูกต้องแล้วก็นำออกๆ  จะหมดมากน้อยก็ตามขอให้ออกด้วยความเป็นธรรมๆ อย่างช่วยโลกนี้เงินสักเท่าไรพี่น้องทั้งหลายบริจาคมาเป็นพันเป็นหมื่นๆ ล้าน ออกช่วยชาติพี่น้องทั้งหลายทั่วไปหมด ไม่ได้มาหาเรา เราไม่เอา เราบอก เราช่วยชาติด้วยความเมตตาสงสารล้วนๆ เราจึงทำเต็มเม็ดเต็มหน่วยแห่งความสงสารของเรา

         อย่างเมื่อวานเห็นไหม มานี่เขาตาบอด มาขอความช่วยเหลือจากเรา ว่าไม่มีเงินค่าผ่าตา ผ่าแล้วจะเห็นไหม บอกว่าเห็น เห็นเอาให้เลย ถ้าผ่าไม่เห็นไม่ให้ มันมีเหตุผลอะไร ผ่าไม่เห็นแต่ไปผ่าเกิดประโยชน์อะไร นี่ว่าผ่าเห็นแล้วให้ อย่างเมื่อวานนี้ก็ให้ไปแล้ว พี่น้องทั้งหลายก็เห็นทั่วหน้ากัน นี่ละเงินทั้งหลายอย่างนี้ละ อย่างที่เห็นนี่ละ ที่เอามาให้อย่างนี้ละ ไม่ว่าที่ไหนๆ จำเป็น อย่าว่าแต่ตาที่อื่นที่ใดเหมือนกันหมด เราให้เต็มกำลังความสามารถ เพราะอำนาจเมตตามันครอบอยู่แล้ว มีเท่าไรปัดออกๆ เพื่อสงเคราะห์โลก

         เราจึงอบอุ่นในใจของเรา สมชื่อสมนามว่าเราปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่ต้นจนกระทั่งถึงได้นำพี่น้องทั้งหลายนี้ ธรรมเป็นที่พอใจในหัวใจของเรา ธรรมพาออกแสดงจึงไม่มีมลทินมัวหมองเลย มีแต่ความสว่างจ้าๆ เพราะฉะนั้นจึงขัดกันกับโลกล่ะซิ มีเท่าไรเอาไปถลุงหมดๆ มันขัดกันจะไม่ให้พูดได้อย่างไร ก็คนหนึ่งขนเข้าไป คนหนึ่งขนออก ขนออกเพื่อฟืนเพื่อไฟ ไปเผาไหม้แหลกหมด คนหนึ่งขนเพื่อส่งเสริมชาติของเราให้มีความแน่นหนามั่นคง แต่คนหนึ่งเอาไปถลุง มันก็เอากันบ้างละซิ จะให้ว่าอย่างไร

         เรานี้สุดหัวใจเราแล้วที่ช่วยพี่น้องทั้งหลายนะ เราไม่มีเลย อะไรที่จะมีในหัวใจของเรามีไม่ได้ เราบอก เพราะใจนี้พูดให้ชัดเจนก็ประกาศมาหลายครั้งแล้ว จิตใจนี้บริสุทธิ์เต็มที่แล้ว เราไม่หาอะไรอีกแล้ว คำว่าพอในหัวใจอันนี้พอด้วยความเลิศเลอ ไม่ใช่พอธรรมดา สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เลิศเลอ จะเอามาทำลายสิ่งเลิศเลอให้เสียไปได้เหรอ ทำลายไม่ได้ ว่างั้นเลย มีเท่าไรปัดออกๆ ช่วยชาติก็ช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ เราช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย

         ในชาตินี้ก็มีคราวนี้ละคราวที่ช่วยพี่น้องทั้งหลาย เรียกว่าสละเต็มที่ ทางด้านวัตถุมีเท่าไรก็ช่วยเต็มกำลังความสามารถ นี่เราก็ได้พูดที่ออกมาจากความคิดเต็มหัวใจแล้วไม่ผิด ความคิดนี้ก็ไม่ผิด คราวช่วยชาติคราวนี้โลกทั้งหลายจะมองแต่วัตถุว่าจะได้วัตถุเงินทองข้าวของเข้าสู่ชาติไทยของเรา นี้เป็นความเห็นของโลก จะพูดว่าทั่วประเทศไทยก็ไม่น่าจะผิดไป แต่ความคิดของเราวัตถุนี้เพียงเล็กน้อย ส่วนธรรมที่จะไปตามวัตถุนี้การเทศนาว่าการธรรมจะกระจายออกไปสู่หัวใจของประชาชนนี้จะมีน้ำหนักมาก มีค่ามาก คราวนี้ธรรมจะได้ออกสู่โลก แล้วเวลานี้ออกไหมล่ะ ธรรมของหลวงตาบัวเทศน์ทั่วประเทศไทย มิหนำซ้ำยังออกทางวิทยุทั่วประเทศไทยอีกเหมือนกัน

         นี่ละธรรม ธรรมไม่จบไม่สิ้นนะ กระจายเข้าสู่หัวใจ ใจนี้เหมือนกับว่าไฟเผาอยู่ตลอดเวลา น้ำสาดลงไป เมื่อได้ธรรมเข้าสู่ใจเหมือนกับน้ำดับไฟๆ คนเราก็ต้องรู้จักดีจักชั่ว ผิดถูกชั่วดี แล้วพยายามแก้ไขไปตามอรรถตามธรรมที่ได้ยินได้ฟังมา ผลประโยชน์ก็เกิดขึ้นจากจิตใจ เมื่อใจดีแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะดีไปตามๆ กัน ถ้าใจเลวเสียอย่างเดียวเลวหมด โลกนี้ไม่มีความหมายนะ เพราะฉะนั้นจึงต้องบำรุงใจด้วยอรรถด้วยธรรม คือความถูกต้องดีงามเรียบร้อยแล้ว ให้นำไปปฏิบัตินะบรรดาพี่น้องทั้งหลาย นี่ได้ยันในหัวใจเจ้าของ ไม่ได้ยันที่ไหน เอาหัวใจเจ้าของมายัน

         ตั้งแต่ไปปฏิบัติล้มลุกคลุกคลาน เราก็เคยพูดแล้ว ประวัติย่อของหลวงตาบัว เคยพูดให้ฟังก็เพื่อเป็นคติ ไม่ใช่เพื่อโอ้อวดนะ ทีแรกมันจะไม่บวช จนกระทั่งพ่อกับแม่น้ำตาร่วง เสียใจที่ว่าลูกชายคนนี้ลูกทั้งบ้านมีเท่าไร ไม่ได้อาศัยมันละเหล่านั้นๆ นั่นพ่อเวลาจะยกขึ้น ยกขึ้นเพื่อจะทุ่มลง เราก็ไม่ลืม ลูกกูก็มีมากมีหลายคนกูไม่หวังพึ่งมันอะไรละ มีแต่ไอ้บัวนี้ละ ไอ้นี่ถ้าลงมันได้ทำอะไรแล้วกูสู้มันไม่ได้ บอกงั้นเลย ยกขึ้นนี่ยกเพื่อจะทุ่ม ไม่ใช่ยกยอนะ ยกเพื่อจะทุ่ม ว่าอะไรๆ นี้ถ้าลงมันได้ทำแล้วกูสู้มันไม่ได้

         แต่เวลาจะขอให้มันบวชนี้มันหูหนวกตาบอดเฉยเลย นี่เวลากูตายแล้วถ้าไอ้นี้มันไม่ลากกูขึ้นนรกได้ด้วยการบวชของมันแล้วกูต้องจมตลอดไปเลย กูหวังอาศัยลูกคนนี้ มันก็ไม่ได้หน้าได้หลัง หูหนวกตาบอด เฉย กูตายแล้วคงไม่มีหวังขึ้นจากนรกแหละ ว่าอย่างนั้นนะ จะจมในนรก ถ้าไอ้นี้มันลากกูขึ้นจากนรกไม่ได้ พอว่าอย่างนั้นน้ำตาพ่อร่วงเลย สะดุดปึ๋งเลยเชียวนะ สะดุดอย่างแรงทีเดียวไม่ใช่ธรรมดา เรื่องราวทั้งหลายที่ข้องนั้นเกาะนี้อยู่พังหมดเลย น้ำตาของพ่อกับแม่ น้ำตาพ่อร่วง แม่เห็นพ่อน้ำตาร่วงแม่ก็ร่วง

         เราดีดผึงเลย คิดอยู่สามวันเต็ม มัดเจ้าของนะ ทุกสิ่งทุกอย่างโลกเขาทำได้ เราก็ทำได้เช่นเดียวกับโลกเต็มกำลังของเรา แต่ทำไมให้บวช บรรดาประชาชนทั่วประเทศไทยซึ่งเป็นชาวพุทธเขาบวชกันทั่วโลกทั่วดินแดน เขาบวชได้เขาสึกได้ บางองค์เป็นสมภารเจ้าวัดอยู่จนกระทั่งวันตาย ท่านเสียหายอะไร แล้วทำไมเราทำไม่ได้ เราบวชไม่ได้ นั่นซิมัดเรา ท่านทำสิ่งเหล่านั้นโลกทั้งหลายก็ทำได้ เราทำได้ บวชนี้โลกเขาทำได้ ทำไมเราทำไม่ได้วะ จากนั้นต้องบวช ขึ้นเลย ตัดสินใจปึ๋งเลย

         นี่ละพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เริ่มต้นของเราที่สร้างความดีนะ ไปคิดอยู่สามวัน คิดมัดเจ้าของ ไม่ให้มันออกช่องไหนได้เลย จะให้บวชโดยถ่ายเดียวเท่านั้น ลงใจไม่มีที่อื่น ที่จะคัดค้านได้แล้วมา มาหาแม่ละที่นี่ ธรรมดาลูกมันติดแม่นะ ไม่ว่าผู้ชายผู้หญิง เพราะแม่อยู่กับบ้านกับเรือน แต่ก่อนพ่อไปทำงานนอกบ้านแม่อยู่ติดบ้าน ทุกวันนี้ไปได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทั้งพ่อทั้งแม่ สมัยนั้นแม่อยู่เฝ้าบ้าน เราพอเจ้าของลงแล้วก็มาขู่แม่ละซิ ไม่ใช่มาหมอบนะ มาขู่แม่ นี่ว่าจะให้บวชนั้นทีนี้จะบวชให้แล้วนะ บวชแล้วอยากสึกเมื่อไรก็ได้ ใครจะมาห้ามให้อยู่เท่านั้นเดือนเท่านี้ปีไม่บวช ถ้าว่าบวชแล้วจะสึกเมื่อไรก็ได้นี้จะบวชให้

         แม่ก็ฉลาดกว่าลูก ยกมือสาธุขึ้น เอ้อ ลูกไปบวชแล้ว พอไปบวชเสร็จแล้วออกมาหน้าโบสถ์นั้นลูกจะสึกเสียแม่ก็ไม่ว่า แม่อยากเห็นผ้าเหลืองเวลาลูกบวช แล้วใครจะมาสึกได้ต่อหน้าคนมากๆ ไปบวชจำนวนน้อยเมื่อไร คนเต็มวัดเต็มวา วัดโยธานิมิตร แล้วใครจะไปสึกได้ ถ้าไปทำอย่างนั้นก็ไม่บวชเสียดีกว่าใช่ไหมล่ะ บวชแล้วออกมาสึกต่อหน้า แม่ก็รู้มันจะทำได้อย่างไร เราก็ตกลงติดปัญหาแม่ สึกเมื่อไรก็ได้ เอา ถ้าอย่างนั้นบวช มันจึงเรื่อยมาจนกระทั่งป่านนี้แหละ

         บวชแล้วก็เอาจริงเอาจังทุกสิ่งทุกอย่าง จริงจังตามนิสัยเดิม เพราะนิสัยเราไม่เหลาะแหละ พูดจริงๆ แม้เพื่อนฝูงที่โกโรโกโสไม่คบๆ ๆ จะคบแต่เพื่อนที่แน่ใจ  เวลาไปบวชก็ปฏิบัติตนเรื่อยมาๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ มีแต่สร้างความดีตลอดมาตั้งแต่วันบวชจนกระทั่งบัดนี้ แล้วความดีทั้งหลายมีหรือไม่มี พิจารณาซิ เราก็สร้างความดีตั้งแต่วันบวช ความดีก็เด่นๆ มีความอบอุ่นในตัวเอง ไม่มีความเดือดร้อนอะไร ว่าจะเป็นความเสียหายแก่การประพฤติพรหมจรรย์ในการบวชของเราไม่มี เราก็ปฏิบัติมา จนกระทั่งปัจจุบันนี้พอ

         นี่ละผลแห่งความดีงามเราหาได้เต็มเหนี่ยวแล้วพอ ไม่ต้องหาอีกแล้ว เราพูดจริงๆ เราไม่หาอะไร หาบุญเราก็ไม่หา หาบาปเราก็ไม่หา ด้วยเจตนาเราก็ไม่มี แต่ความเมตตาครอบไปหมด ทำได้ความดีทั้งหลายด้วยอำนาจแห่งความเมตตาพาให้ทำ จะหวังบุญหวังกุศลเพื่อไปสวรรค์-นิพพานเราไม่หวัง เราบอกจริงๆ เราไม่มีอะไรหวังแล้ว พอในหัวใจของเรา เมื่อพอแล้วก็กระจายออกไปด้วยความเมตตา

         ดังที่ช่วยพี่น้องทั้งหลายเวลานี้ช่วยด้วยความเมตตาล้วนๆ สมบัติเงินทองข้าวของมีมากน้อยมาเราไม่เอา ปัดตลอดเลย ปัดออกช่วยชาติบ้านเมือง ที่ไหนขัดข้องยุ่งเหยิงช่วยตลอด ตลอดมาอย่างนี้ สำหรับเราเองเราบอกว่าเราพอ นี้ละการปฏิบัติธรรมเมื่อเต็มที่แล้วพอ บาปก็ไม่หวัง บุญก็ไม่หวัง คำว่าบาปว่าบุญอยู่ในขั้นสมมุติ ที่เลยบาปเลยบุญไปนั้นคืออะไร นั้นละธรรมชาติที่เลิศเลอ เราพอแล้วเราได้ธรรมชาตินั้นมาครองใจ เราจึงไม่เอาอะไร ทำแต่ประโยชน์ให้โลกด้วยความเมตตาสงสารทั้งนั้นเรื่อยมา

         การดีดการดิ้นทุกวันนี้เราหนักมากอยู่ แต่ดีดดิ้นก็ดีดดิ้นเพื่อโลกเพื่อสงสาร จะมาดีดดิ้นเพื่อเราไม่มี มีแต่ดีดดิ้นเพื่อโลกสงสาร ได้มาเท่าไรๆ เอามาก็เพื่อประโยชน์แก่โลกทั้งนั้น นี้เราทำเต็มที่ รวมลงไปแล้วสมบัติเงินทองก็เข้าสู่คลังหลวง และกระจายออกไปสู่ส่วนรวมด้วยความบริสุทธิ์ใจของเรา ไม่มีความรั่วไหลแตกซึมไปไหนเลย แล้วก็มาเห็น อยู่ๆ รัฐบาลเราปัจจุบันนี้แหละ เงินมีเท่าไรๆ โกยไปหมด ไม่ทราบว่าโกยไปที่ไหนต่อที่ไหนบ้าง จนนับไม่ถ้วน มีแต่โกยแบบเดียว โกยแบบเดียวด้วยกัน ไปหมด จนกระทั่งจะไม่มีเงินเหลือในคลังหลวง ตับปอดประชาชนมีเท่าไรขนเข้าไปคลังหลวงเอาไปสะแตกกันหมด จนไม่มีอะไรเหลือ

         จะไม่ให้พูดได้อย่างไร คนเรามีหูมีตามีจิตมีใจต้องคิดได้พูดได้ มันเสียหายที่ตรงไหน ผู้ทำชั่วต่างหากเสียหาย ผู้เอาเงินไปถลุงเป็นผู้เสียหาย ผู้พูดความเสียหายของตนเพื่อชาติบ้านเมืองทั้งหลายได้รู้เนื้อรู้ตัว ว่าเราเสียหายไปเพราะเหตุผลกลไกอะไร เท่านี้เสียไปที่ไหน นั้นละจึงพูดได้ อย่างคุณสนธิพูดนี้ถูกต้องทุกอย่าง คุณสนธิพูดในนามของชาติ ชาติเรากระเทือนไปหมด คุณสนธิพูดอันเดียวกระเทือนทั่วประเทศไทย เพราะได้รับความเสียหายเหมือนกันหมด

         คุณสนธิออกมาพูดถึงเรื่องความเสียหายของชาติไทยเรา จึงไม่มีความเสียหายประการใดเลย เป็นความถูกต้องในความรับผิดชอบในสมบัติของตนแห่งคนทั้งชาติ  เป็นผู้อารักขามาและกระจายออกไป สละออกไปเพื่อส่วนรวม ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนใหญ่ มันกลับเอาไปถลุงเอาไฟเผาไปเสียแหลกหมด เขาก็ว่าละซี เขาเป็นเจ้าของของสมบัติ คนทั้งชาติเป็นเจ้าของของชาติไทยทั้งนั้น คนหนึ่งพูดออกมาในนามของชาติ จากความเสียหายที่เป็นมานั้นจะเสียหายไปที่ตรงไหน

         นี่ละเรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอา ธรรมนำโลกเป็นอย่างนี้ โลกนำโลกนำเพื่อล่มจม ธรรมนำโลกนำเพื่อความเจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคง อย่างที่เราทำมานี้เราพูดยืนยันได้เลยว่า เราบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราไม่มีอะไรเลย เราจึงพูดได้เต็มปาก สมบัติมีมากน้อยขนเข้าไป ได้ที่ไหนเหล่านี้เหมือนกันนะ ออกช่วยส่วนรวมๆ ทั้งนั้น เราไม่เคยสนใจจะเอา เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ

         นี้ละธรรมนำพี่น้องทั้งหลายให้ความร่มเย็นเป็นสุข ไม่มีระแคะระคาย เช่นว่าหลวงตาบัวเอาเงินจากพี่น้องทั้งหลายไปเท่านั้นเท่านี้ เท่านี้หมื่น เท่านี้แสนล้าน เอาไปไว้ที่ไหน ชี้ลงไปตรงนั้นๆ เอาไว้ที่นั่นๆ เช่นอย่างโรงพยาบาลนี้ ไปเพียงวันหนึ่งไปตรวจดูผลประโยชน์และตรวจดูรายจ่ายของเรา ที่ไปจ่ายโรงพยาบาลโรงหนึ่งเท่าไรๆ ไปกี่โรง ตั้งสองร้อยกว่าโรง ฟังซิ โรงร่ำโรงเรียน สถานสงเคราะห์ ที่ราชการต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีแต่เงินของพี่น้องทั้งหลายเฉลี่ยเผื่อแผ่เพื่อชาติของตนทั้งนั้น ไม่ได้รั่วไหลแตกซึมไปไหน เราจึงพูดได้เต็มปากของเราว่าเราบริสุทธิ์ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้

ทองคำตั้งแต่วันที่ ๗ ที่เรามาถึงสวนแสงธรรมนี้ จนกระทั่งถึงเช้าวันนี้ ได้ทองคำ ๗ กิโล ๓ บาท ๒๗ สตางค์ นี่จะเข้าคลังหลวงทั้งนั้นไม่ไปไหน เข้าคลังหลวงตลอดๆ มานี่ก็ได้ถึง ๗ กิโลแล้ว กว่าจะกลับจะได้เพิ่มขึ้นไปอีกนะ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก