ชื่อว่ารัฐบาลได้อย่างไร
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา 8:25 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๘

ชื่อว่ารัฐบาลได้อย่างไร

         เอา พระท่านยังไม่อิ่มรุมเข้ามาทำไมนั่นน่ะ ให้พระท่านฉันอิ่มเสียก่อน มาไล่พระทำไมนั่นน่ะ อะไรกันพวกนี้ รุกเข้ามาตลอดเวลา เราอยากจะพูดว่าเหมือนรัฐบาลกำลังรุกชาวบ้านเวลานี้ กำลังรุกนะพวกนี้รัฐบาล เราสลดสังเวชจะตายไป คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทำประโยชน์ให้แก่ชาติทั้งประเทศเลย อันนั้นมันทำอะไร ไปก่อความเสียหายให้ชาติบ้านเมือง สมบัติเป็นสมบัติของชาติ ไปทำความบอบช้ำแก่ชาติมากขนาดไหนสมบัติเงินทองข้าวของ เมื่อคุณสนธิพูดในนามของพี่น้องชาวไทยเราซึ่งเป็นเจ้าของสมบัติที่เสียไป จากรัฐบาลเอาไปทำปู้ยี่ปู้ยำเรื่องใดก็ไม่ทราบแหละ แล้วพูดขึ้นมานี้ อย่างน้อยปิดปากคุณสนธิ

จากนั้นหาอุบายวิธีการ พูดชัดๆ เราเล็งตามอรรถตามธรรม เราไม่ได้เล็งตามแง่กฎหมายต่างๆ อุบายวิธีการต่างๆ นี้เป็นอุบายที่จะฆ่าคุณสนธินั่นเองในนามของคนทั้งชาติ เป็นอย่างนั้นนะ พอดีเราเรียกคุณสนธิให้มา เชิญให้มาทั้งนายกรัฐมนตรีมาวันนี้วันที่ ๒๔ อยากให้มาพินิจพิจารณาเรื่องราวของคนทั้งประเทศ ทีนี้คุณสนธิก็มาอยู่ที่นี่ แล้วก็ทราบแว่วๆ ว่าจะมีหมายจับอะไรคุณสนธิ คุณสนธิทำความผิดอะไรจึงต้องมีหมายมาจับ น่าจะได้รับอนุโมทนาทั่วประเทศไทยเรานับแต่รัฐบาลลงมาเสียด้วยซ้ำไป เราทำผิดก็มายกมือไหว้กันว่าเราผิดจริงๆ อย่างนี้จะสมชื่อว่าเป็นรัฐบาลของชาติ นี้ไม่ยอมรับความผิด

ใครผิดขึ้นมาที่ไหนก็จะปิดปากๆ ฆ่าด้วย พอเอาได้แบบไหนเอาแบบนั้น เราฟังมาโดยธรรม ฟังอย่างนี้ละเราฟัง นี่ก็พอดีคุณสนธิมาอยู่ที่นี่ ทราบว่ามีหมายจะมาจับอะไรต่ออะไร เอ้าจับถ้าหลวงตาบัวยังอยู่ที่นี่ว่างั้นเลย คุณสนธิไปทำความผิดที่ไหน คุณสนธิทำประโยชน์ให้ชาติทั้งชาติเลยเป็นยังไง เสียหายที่ตรงไหน มาหาเรื่องหาราวอะไร มาปิดปากฆ่าอะไรต่างๆ กับคุณสนธินี้น่ะ เราเปิดออกมาพูดจริงๆ เรื่องลี้ลับมันมีมาอย่างนั้น นี่ทราบแว่วๆ ว่า จับคุณสนธิไปนี้ก็จะไปฆ่าตามทาง กลอุบายวิธีการต่างๆ เราเปิดให้หมดนี่น่ะ คุณสนธิจะไปไม่ได้ เราบอกงั้น ถ้าสมมุติว่าทางนู้นมาจับไป ทางนู้นต้องรับรองความปลอดภัยของคุณสนธิตลอดเวลาจากนี้ไป เราจึงจะยอมให้ไป

มันสลดสังเวชนะรัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลบัดซบ รัฐบาลเป็นอันธพาล รัฐบาลเป็นเพชฌฆาต อยู่ในรัฐบาลนั้นหมด ให้ชื่อว่ารัฐบาลได้อย่างไร นี่มันรัฐมหาโจรอยู่ตรงนั้น เพชฌฆาตอยู่ตรงนั้น ไม่ฟังเสียงใคร มีแต่จะเอาให้ได้อย่างใจๆ ด้วยอำนาจป่าเถื่อน ประชาชนทั้งประเทศเดือดร้อนไปหมด นี่คุณสนธิก็ในนามคนทั้งประเทศนะ ที่พูดเรื่องราวความผิดพลาดอะไรๆ ของทางรัฐบาล ไปทำปู้ยี่ปู้ยำอะไมาก็ไม่ทราบ สมบัตินี้เป็นสมบัติของชาติ คุณสนธิก็เป็นคนของชาติ ก็ต้องเสียดายสมบัติ คนทั้งชาติไม่เสียดายได้ยังไง เอาไปแหลกเหลวที่ไหนก็ไม่รู้

นี่เราพูดโดยทางธรรมเป็นอย่างนั้น แล้วก็พูดถึงเรื่องราวที่เป็นความเสียหาย เจ้าของพูดถึงเรื่องราวความเสียหาย เสียหายด้วยเหตุผลกลไกอะไร พรรณนาไปอย่างนั้น ไม่ได้มีอะไรเสียหายสำหรับผู้พูดนี่นะ คือสมบัติเงินทองข้าวของมากน้อยเพียงใดเจ้าของสมบัติพูดเอง คุณสนธิในนามของชาติไทยเราเป็นผู้พูดแทนคนทั้งประเทศ แล้วเสียหายไปยังไงๆ คุณสนธิผิดที่ตรงไหน พิจารณาซิน่ะ ไม่ผิด มันเสียอะไรก็บรรยายธรรมดา

ทีนี้โจรมารมหาภัยนี้มันเดือดร้อนทางนู้น ก็จะมาปิดปากคุณสนธิไม่ให้พูด ทำความเสียหายขนาดไหนไม่ยอมให้พูด แต่ทำได้ตลอดทำความชั่วช้าลามก นี่คุณสนธิพูดจึงเป็นภัยเวลานี้ กำลังหาอุบายทุกอย่างที่จะทำลายคุณสนธิ หาเรื่องฟ้องร้องนั้นฟ้องร้องนี้ นี่ได้ทราบว่าจะมาจับคุณสนธิซึ่งอยู่ในวัดเรานี้ เอาไปนี้อาจจะเอาไปฆ่ากลางทางก็ได้ อุบายกลของพวกนี้อุบายป่าเถื่อนมันไม่ได้ฟังบาปฟังบุญอะไรนะ อุบายป่าเถื่อน เราได้ทราบว่าอย่างนั้น

เพราะฉะนั้นจึงต้องมายืนยันกัน เราเป็นผู้รับผิดชอบคุณสนธิ เราเป็นคนเรียกมาเชิญมาเอง ให้มาพักอยู่ที่พระตำหนักนี่ด้วยนะ พระตำหนักนะนั่น คุณสนธิมาพักอยู่ที่ข้างพระตำหนัก ในบริเวณพระตำหนัก แต่ไม่ใช่พระตำหนักจริงๆ เป็นบริเวณของพระตำหนัก บริษัทบริวารของท่านฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ มาพักที่นั่น ก็สมควรแก่กันกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็เป็นบริษัทบริวารเหมือนกัน เข้าพักได้ เห็นสมควรพัก นั่น เราพิจารณาหมดแล้วนะนี่ ส่วนพระตำหนักไม่แตะ ใครก็ไม่แตะ ใครก็รู้ อันนั้นเป็นที่สำหรับอยู่บริษัทบริวาร คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็เป็นบริษัทบริวารของท่านด้วย ทำไมจะพักไม่ได้ เราจึงสั่งให้ไปพัก เราเองเป็นผู้ให้ไปพัก มาพักอยู่ที่นี่

แล้วทราบว่าจะมีหมายอะไรมาจับ มาจับหาอะไร เราอยู่ที่นี่ยังจับไม่ได้ ว่างั้นเลย เราจะเอาคอขาดแทนคุณสนธิ ใครจะมาจับ หากว่าจะจับด้วยเหตุผลกลไกอะไรแล้วก็เอา ต้องรับรองคุณสนธิ เดินทางไปนี้มันเป็นอุบายที่จะเอาคุณสนธิไปฆ่าตามทางก็ได้นี่ เราเชื่อมันเมื่อไรคนพวกนี้น่ะ เราพูดจริงๆ อย่างนี้ ต้องยืนยันรับรองกันถึงความปลอดภัยทุกอย่าง เมื่อรับรองแล้วเราถึงจะให้ไป ถ้าไม่อย่างนั้นไม่ให้ไป เพราะคุณสนธิเป็นคนของชาตินี่นะ ทำงานเพื่อชาติเป็นเรื่องน้อยเมื่อไร ที่จะให้เอาไปฆ่าเหมือนปูเหมือนปลาได้เหรอ คุณสนธิไม่ใช่ปูใช่ปลา เป็นคนในนามของประเทศทั้งประเทศ เป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อไร ที่ใครจะไม่รับผิดชอบได้หรือ ต้องรับผิดชอบเต็มเหนี่ยวสำหรับคุณสนธิ คุณสนธิตายก็เท่ากับคนทั้งชาติตายนั่นเอง จะเป็นเรื่องน้อยเมื่อไร นี่ละเราได้ทราบ นี่ก็พูดตามเรื่องทราบมาๆ

มันบัดซบแล้วนะเวลานี้รัฐบาลเรา เราพูดให้ชัดเจน เอาธรรมออกพูด เอาถ้าว่าหลวงตาบัวผิดอีก เหมือนหาเรื่องใส่คุณสนธิผิด เอา เอาหลวงตาบัวไปตัดคอ พิจารณาซิ เราพูดด้วยความเป็นธรรม ใครผิดบอกว่าผิด ใครถูกบอกว่าถูก รัฐบาลก็เป็นลูกชาวพุทธแท้ๆ ทำไมไม่ฟังเสียพุทธ มีแต่เสียงผีเต็มรัฐบาล เขาตั้งชื่อว่ารัฐบาลได้อย่างไรเดี๋ยวนี้น่ะ ให้เราตั้งตามอรรถตามธรรมแล้วเราบอกว่ารัฐประหารก็ได้ ใครไม่ถูกต้อง ตามใจประหารเลย ประหารเลยก็ได้ รัฐเพชฌฆาตก็ได้ รัฐอันธพาลก็ได้อยู่ในนั้น

ที่ว่ารัฐบาลๆ รัฐบาลเขาไม่ทำอย่างนี้ เขามีกฎข้อบังคับให้ความร่มเย็นแก่ประชาชนทั้งชาติ อันนี้ใครพูดออกตรงไหนแล้วไปเที่ยวปิดปากๆ นี่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็กำลังอยู่ในท่ามกลางมหาภัยอันนี้เอง พูดให้มันชัดๆ อย่างนี้ มันทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ให้ชื่อว่ารัฐบาลได้อย่างไร ถ้าว่าเป็นรัฐเพชฌฆาตถูก รัฐอันธพาลนั้นถูก รัฐนักเลงโตนั้นถูก อยู่ในวงรัฐบาลปัจจุบันนี้นะ มันมีเหตุมีผลอะไร มีแต่คอยจะบีบจะบังคับคน ใครทำอะไรไม่ได้ถ้าไปกระเทือนหัวมันน่ะ มันจะต้องหาอุบายฆ่าแบบต่างๆ นานา ซึ่งดูไม่ได้เลย

เด็กเขาก็ไม่ทำ ตาสีตาสาตามท้องนาเขาไม่ทำ เขายังวินิจฉัยใคร่ครวญกันด้วยดี อันนี้มันเอาอำนาจป่าเถื่อนเข้ามาบีบบังคับคนทั้งชาติ คือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นนามของคนทั้งชาติ เป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อไร ฆ่าคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็เท่ากับฆ่าคนทั้งประเทศ เป็นเรื่องเล็กน้อยเหรอ มันเอาอำนาจบาตรหลวงมาจากไหนจะมาบีบบังคับ นี่ก็ทราบว่าจะมาจับคุณสนธิ เราคอยฟังอยู่นี้ คุณสนธิเวลานี้อยู่ในปกครองของเรา เราเป็นผู้เชิญมาเอง คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ได้อุตริมา เราเป็นคนเชิญมา มาแล้วเราเป็นผู้อารักขาทุกอย่าง เราต้องเป็นผู้รับผิดชอบซิ มีอะไรให้มาหาเรา อย่ามาทำสุ่มสี่สุ่มห้ากับคุณสนธินี้ไม่ได้ บอกตรงๆ เลย

มันน่าทุเรศนะเวลานี้ รัฐบาลน่ะทุเรศจริงๆ หาแต่เรื่องแต่ราว จะฆ่าจะฟันจะเก็บเขาทั้งนั้น เอะอะก็มีแต่คอยจะเก็บๆ เอาอำนาจป่าเถื่อนมาเก็บ เหมือนคนทั้งประเทศเป็นปูเป็นปลา สับยำได้อย่างสบายๆ อันนี้มันเอาอำนาจป่าเถื่อนจากไหนมาปกครองโลกเวลานี้ นี่ธรรมออกพูด พูดอย่างนี้แหละ เรื่องธรรมออก คอขาดขาดไปเลยเรา บูชาธรรม เราไม่ได้บูชาเปรตผีเหล่านี้นะ เราจึงได้พูดเต็มเม็ดเต็มหน่วยวันนี้มันน่าทุเรศเหลือเกินนะเรื่องราว

คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ผิดที่ตรงไหน ไม่มีผิด ในสายตาของประชาชนทราบทั่วกันว่าคุณสนธิไม่ผิด ไม่มี ผิดตรงไหน พูดในนามของประชาชนทั้งประเทศต่างหาก สมบัติเงินทองข้าวของอะไรที่เสียไป เพราะเหตุผลกลไกอะไร ใครเป็นคนไปทำให้เสียมากน้อยก็พรรณนา เพราะเสียดายสมบัติของตัว จะว่าไง สมบัติเสียไป เจ้าของทรัพย์สมบัติก็ต้องพรรณนาพูดเป็นธรรมดา แล้วเสียหายไปไหน โจรจึงจะมีอำนาจเข้ามาบีบบังคับไม่ให้พูดว่าโจรลักไปขโมยไป อย่างนี้มีอำนาจมาจากไหน ดีไม่ดีจับโจรที่เอาไปนั่นซี นี่ดีเขาไม่ได้จับรัฐบาลตัวมหาภัย

เขาพูดความได้ความเสียของสมบัติที่เขารักสงวนกันทั้งประเทศต่างหากนี่นะ ว่าเสียไปเพราะเหตุผลกลไกอะไร มันเสียหายอะไรการพูดอย่างนี้ ผู้เอาไปไปทำปู้ยี่ปู้ยำเสียหายต่างหาก ถ้าธรรมดาก็ต้อง หนึ่ง นิ่ง แล้วพยายามแก้ไขตนต่อไป อย่ามาพูดอย่างนี้กับคนทั้งชาติ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ในนามของคนทั้งชาติไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ อย่ามาทะลึ่ง ป่าๆ เถื่อนๆ นะ ธรรมมีอยู่ ความจริงมีอยู่นี่ มันทุเรศเหลือเกิน

นี่ก็กำลังทราบจะหาเรื่องหาราวฟ้องร้องคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าอะไรที่อุบลน่ะ (ว่าดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ครับ) ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์อะไร ใครๆ เขาก็เทิดทูนพระมหากษัตริย์ทั้งนั้นแหละ มันหาเรื่องเอาพระมหากษัตริย์จะมาฆ่าพวกนี้น่ะ พวกนี้มีความเทิดทูนพระมหากษัตริย์ทั้งนั้น ไม่ว่าใครเทิดทูนทั้งนั้น ใครจะไปดูหมิ่นประมาทได้ นอกจากตัวหัวมันเองนั้นน่ะ หาเรื่องหาราวหมิ่นประมาทท่านั้นท่านี้ โบสถ์วัดพระแก้วเป็นอย่างไร เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วมันทำอะไรปู้ยี่ปู้ยำอยู่นั่น เราทราบย่อๆ อย่างนี้ละ นั่นใครหมิ่นหรือไม่หมิ่น ดูซี

ตาสีตาสาเขากล้าไปทำได้อย่างไร ทะลึ่งได้อย่างไร นี่ก็ตัวเป้งๆ สำคัญตนว่าตัวใหญ่ตัวโต แล้วจะไปเหยียบหัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเข้าไป ประชาชนเขาก็ดูไม่ได้ แน่ะเขาก็พูดบ้างซิ พิจารณาซิ ประชาชนก็คนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลูกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขาจะไปหมิ่นประมาทท่านอย่างไร เขาเทิดทูนจะตายไป ก็พวกหาเรื่องอยู่นี่ พวกเหยียบหัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงมา จะเป็นใครไป อย่างที่เข้าไปทะลึ่งวัดพระแก้ววันนั้นเขาก็ออกกันทั่วประเทศ เห็นไหมล่ะ

มันใหญ่ไปอย่างไรคนเรา ใหญ่ป่าๆ เถื่อนๆ เขาไม่ยอมรับเขาก็ว่าซี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเขาเทิดทูนกันทั้งประเทศ พระที่นั่งหรือที่ประทับตรงไหนๆ เป็นเหมือนพระองค์อยู่ที่นั่นๆ ไม่อยากให้เข้ามาแตะต้อง ความหมายว่างั้น แล้วทะลึ่งเข้ามาหาอะไร มันผิดเขาก็ว่าซี เขาไม่ได้หมิ่นประมาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขาเทิดทูนนี่นะ อันนี้มันหาเรื่องต่างหาก พูดแล้วน่าทุเรศนะเรา

นี่ละภาษาธรรมพี่น้องทั้งหลายฟังเอานะ ที่เราพูดนี่พูดภาษาธรรม ไม่ได้พูดภาษากิเลส พูดภาษากิเลสเที่ยวหาปิดปากคนนั้นปิดปากคนนี้ ฆ่าคนนั้นฆ่าคนนี้ ใครมาเฉียดตนบ้างไม่ได้นะ กิเลสมันใหญ่อย่างนี้ ธรรมเหนือกิเลส พูดไม่ได้อย่างไร ต้องพูดเรา อย่างที่พูดถึงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล นี้ทำงานเพื่อคนทั้งประเทศ ให้พากันทราบเสียพี่น้องชาวไทยเรา ว่าคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นนักเสียสละ ชีวิตจิตใจเพื่อคนทั้งชาติ เราจะไม่เห็นคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นคนสำคัญของชาติได้อย่างไร ต้องเทิดทูน ต้องให้กำลังใจถึงจะถูก  

การให้กำลังใจ พอพูดอย่างนี้ก็ระลึกถึงพระท่านไปให้กำลังใจกับคุณสนธิ แล้วทางนู้นก็ต่อว่ามา พระท่านลำเอียง ว่าอย่างนั้น ไปให้กำลังใจคุณสนธิเขาว่าลำเอียง ความหมายก็อยากจะให้ไปให้กำลังใจกับพวกรัฐบาลนั่นแหละ เราก็บอก เราไม่ลำเอียง พระเหล่านี้ไปก็ในความรับผิดชอบของเราอยู่แล้ว สมควรที่จะไปให้กำลังใจสำหรับผู้ดีเราก็อนุโลมให้ไป ครั้นไปมาแล้วเขาก็หาว่าพระเหล่านี้ไปให้กำลังใจนั่นคือว่าลำเอียง ไปให้กำลังใจคุณสนธิ เป็นแต่เพียงเขาไม่บอกว่า ไม่เห็นไปให้กำลังใจเขาบ้าง เราเลยบอกทันทีว่าให้กำลังใจทุกอย่าง เราไม่ลำเอียง

ถ้าสมมุติว่าทางรัฐบาลทำดีมีความดีความชอบอะไร เราจะให้กำลังใจทั้งนั้นพระเรา ดีไม่ดีเราจะเป็นหัวหน้าไปให้กำลังใจ เราไม่ลำเอียง เราบอกอย่างนี้  ใครควรติเราติ ควรชม ชม มันไม่มีเหตุมีผลอะไรเลย เอาอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ มาเหยียบย่ำทำลายประชาชนราษฎรทั้งประเทศมีอย่างเหรอ มันฟังไม่ได้นะ รัฐบาลที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เราพูดจริงๆ มันฟังไม่ได้ดูไม่ได้ แง่ไหนๆ มีแต่บีบแต่บังคับ เอ่ยถึงรัฐบาลไม่ได้ แย็บถึงรัฐบาลไม่ได้ เพราะเหตุไร

เพราะรัฐบาลไปทำปู้ยี่ปู้ยำอะไรมากมาย จนกระทั่งสมบัติเงินทองข้าวของของคนทั้งประเทศเขาเสียหายมาก เขาก็พูดถึงเรื่องความเสียหาย เพราะเหตุผลกลไกอะไร แล้วเป็นความผิดที่ตรงไหน ไม่ได้ผิด ผู้ทำผิดต่างหากที่จะยอมโทษ หรือไม่ยอมโทษ จะนิ่ง เขาก็ไม่ได้เอาโทษ เขาเล่าเฉยๆ ดีที่เขาไม่ได้ไปจับรัฐบาลมาติดคุกติดตะราง เอาเงินของคนทั้งชาติไปปู้ยี่ปู้ยำหาอะไร ไล่เบี้ยเข้าไป จับรัฐบาลเข้ามาติดคุกได้ คุกใส่รัฐบาลไม่ได้เหรอ รัฐบาลเป็นเทวดามาจากไหนถึงจะรับความผิดของตนไม่ได้ เหนือกรรมไปไหน เหนือเรือนจำไปไหน เขาก็ไม่ได้เอาโทษเอากรรมอะไร เขาพูดธรรมดา ทำไมจึงว่าเป็นพิษเป็นภัยจะมาฆ่าเขาล่ะ นี่มันผิดมาก ผิดสองชั้นสามชั้นพวกนี้ แล้วมีอะไรต่อไป

ผู้กำกับ จากนสพ.พิมพ์ไทย คอลัมน์วิจารณธรรม วันพุธ ชื่อเรื่องว่า

พระมาโปรด

เคยมีพระผู้ใหญ่ (ไม่ใช่ใหญ่โดยสมณศักดิ์) เคยกล่าวไว้ว่า พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติตามธรรมตามวินัยของพระพุทธเจ้าจริงๆ ในปัจจุบันยังคงมีเหลืออยู่เพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น การปฏิบัติตามธรรมตามวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้เจริญรอยตามนี้ ขอให้ท่านผู้ชมพิจารณาจากคัมภีร์พระไตรปิฎกเอาเองก็แล้วกัน

การยังโลกให้เกิดความสงบร่มเย็น การชี้ทางพ้นทุกข์ การขนสัตว์ให้พ้นจากภัยในวัฏสงสาร ถือเป็นหน้าที่ของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติตามธรรมตามวินัยของพระบรมศาสดา ดังนั้น เมื่อหมู่ชนใดกำลังตกอยู่ในมหันตทุกข์ มหันตภัย หรือเกิดความไม่สงบขึ้นในหมู่ชนอันจะเป็นเหตุให้เกิดการจองล้างจองผลาญ จองเวรจองกรรมกันอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น พระสงฆ์สาวกจึงต้องออกมาทำหน้าที่เพื่อยังประโยชน์เกื้อกูลแก่หมู่ชนนั้นๆ

ดังที่เกิดเหตุความขัดแย้งในหมู่ชน 2 กลุ่มใหญ่ขึ้นในบ้านในเมืองเรา ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้มีอำนาจในรัฐบาลกับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นประชาชนจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการระงับภัยเวรนี้เสียให้ทันเวลาก็แน่นอนว่าในที่สุดก็จะต้องเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นในแผ่นดินอย่างแน่นอน แล้วความเสียหายก็ย่อมตกแก่แผ่นดินไทยอันเป็นที่รักของเรานั่นเอง

ด้วยความเมตตาของ “หลวงตามหาบัว  ญาณสัมปันโน” อย่างล้นโลกล้นสงสาร หลวงตาท่านจึงมอบหมายให้พระสงฆ์วัดป่าจำนวน 500 รูปนำหนังสือต้นฉบับเจริญพรมาถึงศิษย์ทั้งสอง คือ “พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” เพื่อขอบิณฑบาตให้เข้าพบเพื่อทำความเข้าใจอันดีต่อกัน ณ วัดป่าบ้านตาด ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา 16.00 น.

โดยเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการบ้านพระอาทิตย์จึงเหลืองอร่ามไปด้วยสีจีวรพระสงฆ์ เสียงสวดมนต์ให้พรของพระสงฆ์เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คุณสนธิและคุณสโรชา พร้อมด้วยทีมงานผู้จัดการทุกคน จึงดังกระหึ่มก้องไปทั้งสำนักงานบ้านพระอาทิตย์

คุณสนธิและคุณสโรชา ได้ก้มลงกราบรับพรพระสงฆ์ผู้เป็นครูบาอาจารย์ พร้อมกับกล่าวตอบรับคำขอบิณฑบาตของหลวงตาโดยไม่มีข้อแม้ ทางด้านนายกรัฐมนตรีก็มอบหมายให้โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงทางสื่อของรัฐบาลว่า จะต้องเข้าไปกราบนมัสการหลวงตาที่วัดป่าบ้านตาดอย่างแน่นอน แต่จะเป็นวันใดหรือเวลาใดนั้นจะกำหนดให้แน่นอนอีกครั้ง

ประชาชนทั่วประเทศที่มีหัวใจเป็นธรรม ต่างน้อมจิตน้อมใจอนุโมทนาสาธุการต่อความเมตตาธรรมของพระสงฆ์สายวัดป่าทั้ง 500 รูปอย่างถ้วนหน้า

จะมีก็แต่ไอ้ตัวป่วนเมืองทั้งหลายที่ไม่เห็นแก่ความสงบของบ้านเมืองเท่านั้น ที่พวกมันมองพระสงฆ์ที่ออกแสดงความเมตตาว่า เป็นพวกม็อบพระเข้ามาก่อความไม่สงบ ยิ่งไอ้สกปรกปากมอมที่จ้อรายวันทางหน้าจอทีวีนั่นด้วยแล้ว มันยิ่งออกมาด่ากราดหลวงตามหาบัวอย่างเสียๆ หายๆ (หลวงตา เดี๋ยวพักไว้ก่อน ที่ว่ามาด่าหลวงตาบัวนั้น ใครมีโคตรแซ่กี่โคตรแซ่ให้ด่ามาเลย หลวงตารับได้สบาย ตกไปได้สบาย เท่านั้นแหละ หลวงตาเพื่อประโยชน์แก่โลก จะว่าอะไรว่ามาเถอะ ขอให้เป็นประโยชน์แก่โลกหลวงตาเป็นที่พอใจ ส่วนเขาจะสับจะยำอะไรหลวงตาให้ยำไปเลย ขอให้ได้ประโยชน์มาสู่โลกเป็นความสงบ หลวงตาเป็นที่พอใจ เอ้ามีอะไรว่าต่อไป) ด่ามาว่ามาก็เหมือนน้ำหยดลงบนใบบัวมันก็กระเด็นไปโดนมันเองละครับ (เดี๋ยวตีปากเอานะ มันปากเปราะ)

มันยิ่งออกมาด่ากราดหลวงตามหาบัวอย่างเสียๆ หายๆ มันปรับอาบัติหาว่าพระสงฆ์ทั้งหลายนี้ไม่ใช่พระ

ได้ทราบมาว่าท่านส.ส.พรรคไทยรักไทย “ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง” ได้ออกมาสั่งสอนตักเตือนพระคุณเจ้าสายวัดป่าทั้งหลายด้วยเช่นกัน คือได้กล่าวว่า “การดำเนินการเช่นนี้ของพระป่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ผู้ที่เป็นพระสงฆ์นั้น เราต้องถือว่าเป็นผู้ทรงศีล รู้ผิดรู้ถูก ยิ่งเป็นพระสายวัดป่าด้วยแล้วยิ่งต้องคำนึงถึงปัญหาที่จะทำลายความสงบสุข ต้องระมัดระวัง อย่าแสดงออกถึงความไม่สมดุล โอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เห็นชัดว่าพระในเมืองไทยขณะนี้มี 2 พวก คือที่ยึดติดกับกฎหมายบ้านเมือง เคารพคำสั่งของเถรสมาคม กับพระป่าที่ระยะหลังไม่ยอมรับกฎหมายของคณะสงฆ์ ผมห่วงว่าพระพวกหลังนี้จะตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงอยากเรียกร้องให้พระผู้ใหญ่ที่ดูแลพระป่าเหล่านี้เคารพกฎหมายบ้านเมือง อย่าทำตัวเป็นปัญหาเสียเอง”

หลวงตา ใครเป็นคนทำลายกฎหมายอยู่เวลานี้ พระท่านไม่ได้ทำลายกฎหมายนะ ท่านรักษาธรรมวินัยอย่างเข้มงวดกวดขันต่างหาก ท่านไม่ได้ทำลายอะไร ที่ว่าท่านลำเอียง ท่านลำเอียงที่ตรงไหน ใครที่ดีท่านก็ส่งเสริมต่างหาก ถ้าใครดีท่านส่งเสริม นี่เราก็ได้ตอบไปหนหนึ่งแล้ว ทางฝ่ายรัฐบาลมาว่าเรานี้ลำเอียง ไม่ลำเอียง เวลานี้รัฐบาลกำลังถูกตำหนิติเตียน ถ้ารัฐบาลปรับตัวให้เป็นคนดีขึ้นมาแล้ว หลวงตาจะไปให้กำลังใจเอง เราว่างั้น เอนเอียงที่ไหน ยกพระไปให้กำลังใจเลย จะให้กำลังใจฝ่ายไหนก็ต้องให้ไปด้วยความเป็นธรรม ไม่ได้เอนเอียงไปไหน ถ้าฝ่ายไหนดีเราจะไปให้ความเป็นธรรม

สมมุติอย่างรัฐบาลนี้ปรับปรุงตัวเองให้ดีเข้ากับประชาชนได้ เราจะเป็นหัวหน้าพระเณรทั้งหลายในสายวัดป่า สายพ่อแม่ครูจารย์มั่น จะยกทัพไปให้กำลังใจเลย เราไม่ลำเอียง เราอยากฟังแต่ความสงบร่มเย็นของประชาชน มาจากทางรัฐบาลกับประชาชนเข้ากันได้ ฟังเหตุฟังผลของกันและกัน สมานเป็นความสงบร่มเย็นได้ เราต้องการอย่างนี้เท่านั้นเอง เอ้า มีอะไรว่ามา

ผู้กำกับ ต่อนะครับ ครับ...พระที่ยึดติดกับกฎหมายบ้านเมือง กับพระที่ยึดติดกับคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ท่านกุเทพมองว่าพระฝ่ายไหนคือศิษย์สาวกของพระพุทธเจ้ากันล่ะครับ??

                                                                        ณ. หนูแก้ว

หลวงตา อันนี้ก็ถูกต้อง เพราะฉะนั้นจึงพูดยันๆ เลย เราพูดอย่างยันเลยเรา กฎหมงกฎหมายกฎหมอยอะไรเราไม่เคารพถ้าไม่ถูกต้องตามธรรม ยิ่งกฎหมอยไม่เคารพเลย อย่างที่ตั้งขึ้นมามหาเถรสมาคม นี้เราก็บอกตรงๆ เลย มันเอาตั้งแต่ตัวพิษตัวภัยเข้ามาในวงมหาเถรสมาคม หัวหน้าใหญ่มันก็เป็นมหาโจรเข้ามาเป็นหัวหน้าอยู่ที่มหาเถรสมาคม ทางพระผู้ทรงศีลทรงธรรมไม่ยอมรับ เราบอกตรงๆ ไม่ปฏิบัติตาม เราจะปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยนี้เท่านั้น อะไรที่มาทำลายหรือเป็นการกระทบกระเทือนต่อธรรมวินัยเราไม่ปฏิบัติตาม ว่างี้เลย นี้เราเคยพูดแล้ว พูดตามหลักธรรมหลักวินัย พุทฺธํ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ เราพูดตั้งแต่ออกบวชจนกระทั่งป่านนี้ เราไม่เคยลดละปล่อยวางเลย แต่ขี้หมูราขี้หมาแห้งให้เรา สรณํ คจฺฉามิ เราสรณังไม่ลง นอกจากหมาเท่านั้นมันจะไป สรณํ คจฺฉามิ เห็นขี้อยู่ที่ไหนหมาวิ่งใส่ มันจะ สรณํ คจฺฉามิ ได้พวกหมา คนนี้ไม่ละ ยิ่งพระด้วยแล้วไม่เลยเชียว เอ้ามีอะไรว่ามา

(การ์ตูนจากนสพ.มติชน เขาวาดเป็นคนรูปหน้าเหลี่ยมๆ แล้วเขียนว่า ทุกเย็นวันศุกร์ แล้วก็มีเสียงครางฮือๆ ) หมายความว่าไงเราไม่รู้เรื่อง (หมายความว่าทุกเย็นวันศุกร์ คนหน้าเหลี่ยมเขาก็จะครางฮือๆ สาเหตุที่ครางฮือๆ มีดังต่อไปนี้ครับ เขาวาดเป็นคนหน้าเหลี่ยมกำลังเต้นขึ้นเต้นลงแล้วร้องว่า โอ๊ย อยากให้จบเร็วๆ จัง ไอ้จุกเด็กข้างบ้านสงสัยเลยถามว่า ละครทีวีเรื่องอะไรรึลุงนายกฯ ลุงนายกฯก็บอก ไม่ใช่ละคร แต่เป็นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรของคุณสนธิต่างหาก)

เราเห็นการ์ตูนเราอดหัวเราะไม่ได้นะ เอาละเข้าใจ กัดไปหมดละ กัดดะเลยพวกนี้ การ์ตูนมันก็กัด เราเลยหัวเราะการ์ตูนเขากัดกัน หน้าเราไม่เห็นเขาเขียนบ้าง หน้าหลวงตาบัวเขียนได้เลย ในโลกธาตุนี้ไม่เคยหวั่นกับอะไร

ทองคำวันนี้ ๓ บาท ๑ สลึง เห็นไหมได้ทุกวันๆ นี่ก็เพื่อซึมซาบเข้าคลังหลวงของเรา เราพยายามขวนขวายตลอดเวลาเพื่อชาติ ลูกหลานไทยเรา จะเป็นอะไรเรายอมรับหมดขอให้เราได้ทองก็พอ ใครจะว่าอะไรว่าไปเถอะ ขอให้ได้ทองมาเรื่อยๆ ก็พอใจเรา ไม่สนใจกับอะไร สนใจแต่ทองอย่างเดียว เขาจะว่าอะไรเฉยเลย ขอให้เอามาทอง ทองเราเดี๋ยวนี้ประเภทน้ำไหลซึมได้ ๑๘๗ กิโล ๓๒ บาท ๙๐ สตางค์ แล้ว ถ้าไม่พูดอย่างนี้อันนี้ไม่ได้เลยนะ นี่ก็ได้ขนาดนั้น ทองของเล่นเมื่อไร กิโลหนึ่งเท่าไร (เกือบหกแสนห้าเจ้าค่ะ) นั่นตั้งหกแสนกว่า

(ชลบุรีถวายสถานีวิทยุเครือข่ายของเสียงธรรมเพื่อประชาชน อ.บางละมุง ทดลองออกอากาศวันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ เป็นต้นมา พร้อมรับภาระค่าใช้จ่ายของสถานีตลอดไป พร้อมกันนี้ขอนิมนต์รับผ้าป่าตามแต่วันเวลาหลวงตาจะสะดวกเมื่อลงกรุงเทพแล้ว)

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก