เตือนสนธิ
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2548 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๘

เตือนสนธิ

สรุปทองคำประเภทซึมซาบถึงวันที่ ๑๕ พ.ย.๔๘ ทองคำที่หลอมแล้ว ๑๗๕ กิโล(๑๔ แท่ง) เหลือทองคำที่ยังไม่ได้หลอม ๑๒ กิโล ๔ บาท ๒๙ สตางค์ รวมทองคำที่หลอมแล้วและยังไม่ได้หลอม ๑๘๗ กิโล ๔ บาท ๒๙ สตางค์ ถ้ารวมกับ ๓๗ กิโลครึ่งที่มอบแล้วก็เป็น ๒๒๔ กิโล ๓๗ บาท ๑๘ สตางค์ นี่ทองคำเราประเภทซึมซาบ ถ้าไม่มีประเภทซึมซาบก็เท่านั้นละที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเท่านั้น อันนี้เพิ่มขึ้นมาอีกตั้ง ๑๗๕ กิโล ๑๔ แท่ง นี่เรียกทองคำประเภทซึมซาบ ได้มากขนาดนี้ละเกือบสองร้อยกิโลแล้ว

เราเป็นห่วงคลังหลวงของเรามาก เพราะฉะนั้นจึงไม่เลิกไม่แล้ว ได้แล้วขอเรื่อย เพราะบกบางมากเนื่องจากเราไปเห็นเองไปดูเอง ถามอย่างละเอียดลออหมด วันนั้นเป็นวันที่ไปมอบทองคำและดอลลาร์เป็นครั้งแรก พอมอบเสร็จแล้วหัวหน้าคลังหลวงมานิมนต์เราเข้าไปดูคลังหลวง ก็คงมีหวังละต่อไป เห็นเอามาขนาดนี้แล้วเป็นอย่างนี้ ถ้าได้เห็นเหตุการณ์นี้แล้วอาจจะมี ก็เป็นอย่างนั้นละ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอเราไปดูมาแล้วออกมาก็ประกาศลั่นตั้งแต่บัดนั้นเลยทองคำนะ ถึงได้ทองคำถึง ๑๑ ตันกับ ๒๒๔ กิโลแล้ว เป็นของเล่นเมื่อไร

(จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้จัดตั้งสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน ที่อำเภอพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ในระบบ เอฟเอ็ม คลื่นความถี่ ๙๗.๕ ออกอากาศตั้งแต่เวลา ๕.๐๐-๒๓.๐๐ น.ทุกวัน โดยกำหนดให้เป็นสถานีวิทยุโทรคมนาคมลูกข่าย รับสัญญาณจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนวัดป่าบ้านตาดร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้ออกอากาศแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๐ พ.ย.๔๘ จนถึงปัจจุบัน คณะศรัทธาทั้งหลายขอน้อมถวายสถานีวิทยุดังกล่าวพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ถวายแด่องค์หลวงตายกให้เป็นสมบัติของสงฆ์ และจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ อันเกิดจากการดำเนินการของสถานีวิทยุ โดยไม่ให้เป็นภาระขององค์หลวงตาและวัดป่าบ้านตาดแต่อย่างใด) พอใจๆ เราพอใจกับบรรดาพี่น้องทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีในจดหมายที่บอกมานี้ เราก็อนุโมทนากับบรรดาพี่น้องทั้งหลายที่ตั้งสถานีวิทยุต่างๆ ทั่วประเทศไทยมาพร้อมนี้ด้วย

ผู้กำกับ จากนสพ.พิมพ์ไทย คอลัมน์วิจารณธรรม ประจำวันศุกร์ ชื่อเรื่อง

สมเด็จพระสังฆราช 2 องค์

            ตามที่ “คุณวิษณุ  เครืองาม” ออกมากล่าวภายหลังออกประกาศแถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2548 ว่า เพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า “ ในปัจจุบัน สมเด็จพระญาณสังวร สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ยังทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แต่เพียงพระองค์เดียวของประเทศไทย ”

ครับ...ใครที่ชอบพูดนักว่า ประเทศไทยมีพระสังฆราช 2 องค์ “คุณวิษณุ” บอกให้เข้าใจเสียใหม่ว่า “มีพระองค์เดียว” มีพระองค์เดียวเท่านั้นคือสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร มีพระองค์เดียวเท่านั้น

จริงครับ...ผู้ที่มีความเคารพรักในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เขาต่างก็ให้การยอมรับต่อ “สมเด็จพระญาณสังวร” ว่าทรงเป็น “สมเด็จพระสังฆราช” เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น  ส่วนท่านอื่นนั้นไม่ใช่

คำว่ามี “พระสังฆราช 2 องค์” คำๆ นี้ได้บังเกิดขึ้นจากปากของ “คุณวิษณุ  เครืองาม” เป็นคนแรก บังเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่รัฐบาลได้จัดประชุมเชิงวิชาการเกี่ยวกับความมั่นคงของพระพุทธศาสนาที่ทำเนียบรัฐบาลนั่นเอง ไม่ใช่เกิดมาจากปากของใครหรอก นับจากนั้นมาเพียงไม่กี่เดือนคำพูดของ “คุณวิษณุ” ก็กลายเป็นเรื่องจริง เมื่อมีการแต่งตั้งสังฆราชซ้อนขึ้นมา

แล้วพอมาถึงวันนี้ “คุณวิษณุ” ก็กลับมาออกแถลงการณ์ลบคำพูดของตนเอง แล้วจริงหรือไม่จริงกันเล่าที่คนเขาพูดกันว่า “คุณวิษณุ” เป็นผู้ลงนามแต่งตั้งสังฆราชซ้อนขึ้นมา

จริงหรือไม่จริงก็เห็นได้จากพฤติกรรม ดังที่ “สนธิ-สโรชา” นำเอกสารออกมาแฉต่อสายตาประชาชนจำนวนครึ่งค่อนโลก (ผ่านดาวเทียม) ในรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” สัญจร ครั้งที่ 6 โดยแฉว่า เทปอำนวยอวยพรต่อประชาชนของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ต้องได้ “รับบัญชา” อนุญาตจาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเสียก่อน ถึงจะนำออกเผยแพร่สู่ประชาชนทางวิทยุและโทรทัศน์ได้

บัดซบ ! ใครคนหนึ่งนึกสบถอยู่ในใจ

หลวงตา บัดซบ เราก็ฟังด้วย หูเราก็บัดซบเหมือนกันฟังของไม่เป็นท่า ฟังไม่ได้นะ อย่างนี้ละ ลิ้นนี่พลิกไปพลิกมาเพื่อทำลายศาสนาอย่างมากทีเดียวเวลานี้ ไม่มีใครทำลายศาสนาเกินคนนี้ละ รากแก้วของพุทธศาสนา พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระสงฆ์ที่ว่า สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรา ไม่ใช่พระสงฆ์ที่มาแย่งตำแหน่ง แย่งกินโต๊ะบนเก้าอี้เหนือเก้าอี้ใต้เก้าอี้อย่างนี้นะ นี่มันพวกกาฝาก สังฆราชก็สังฆราชกาฝาก เป็นมหาภัยต่อพุทธศาสนาอย่างมากทีเดียวเวลานี้ ความจริงเป็นอย่างนี้

ครั้งพุทธกาลท่านไม่มีอะไรนักหนา ที่ตั้งขึ้นมานี้ก็อนุโลม เห็นว่าเป็นความดีงามให้ประชาชนทั้งหลายได้เคารพและมีขอบเขต เป็นผู้ใหญ่ตามขั้นตามภูมิมาด้วยความเป็นธรรมของผู้ใหญ่ และผู้น้อยทั้งหลายก็มีความสงบร่มเย็น แต่เวลานี้ซ้อนเข้ามาอย่างนี้ละพวกกาฝาก พวกนี้พวกกาฝากมาตลอดเลย ร้อยสันพันคม ลิ้นเก่งมากนะ ลิ้นนายวิษณุนี่ ลิ้นเก่งมากทีเดียว ไม่มีใครจะพลิกร้อยสันพันคมได้อย่างนายวิษณุแหละ ฟังมาโดยตลอด

เอา พี่น้องทั้งหลายถ้าว่าหลวงตาโกหก ฟังมาโดยลำดับเป็นอย่างนี้ มือเขียนตีนลบๆ เรื่อยมาตลอด มือเขียนแล้วลบด้วยตีนๆ เจ้าของนั่นแหละทำ คนทั้งโลกไม่ใช่หมามันอ่านเข้าใจด้วยกันทั้งนั้นแหละ นี่ละเรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ เวลานี้ศาสนากาฝากกำลังแทรกพุทธศาสนาเข้ามาเรื่อยๆ นี่ละกาฝาก กาฝากนี้เป็นกาฝากมหาภัยต่อพุทธศาสนาและต่อจิตใจของประชาชนชาวพุทธทั้งหลายผู้เคารพบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ แล้วก็เป็นศาสนากาฝากขึ้นมาอย่างนี้ละดูเอา

เรื่องศีลเรื่องธรรมมันไม่สนใจพวกนี้ เป็นโลกล้วนๆ เลยบอกชัดเจน เอาธรรมออกกางซิ พูดแล้วเอาธรรมออกกางมันถึงถูกถึงมีหลักเกณฑ์ อันนี้มันมีที่ไหน มีหลักมีเกณฑ์ ที่ว่าสลับซับซ้อนด้วยการแย่งกันด้วยลาภด้วยยศ นี้เป็นเรื่องของโลก เลยโลกไปอีก พระเป็นโลกเลวกว่าโลกนะ เวลานี้พระเราวิ่งตามโลกๆ มันเลวกว่าโลกไปแล้วเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวตั้งนั้นขึ้นมาตั้งนี้ขึ้นมา มีแต่เรื่องทำลาย ไม่ได้มีการส่งเสริม พวกนี้ส่งเสริมที่ตรงไหน เอาหลักธรรมวินัยไปกางกันซิน่ะ

ท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านอิดหนาระอาใจจะตายแล้วเวลานี้ ตั้งขึ้นมาสลับซับซ้อน มีแต่เรื่องจะกินจะกลืนพุทธศาสนาให้แหลกเหลวลงไปโดยลำดับลำดา นี่หลวงตาบัวพูดเอง เอา ถ้าผิดตรงไหนเอามาอ้างกันซิคัมภีร์มีอยู่ พวกเราบวชมาเพื่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ บวชมาตามหลักธรรมวินัย นี้ปฏิบัติตามหลักธรรมวินัย ใครจะใหญ่ไปไหนก็ใหญ่เถอะไม่เหนือพระพุทธเจ้าไปได้ ไม่เหนือธรรมวินัยซึ่งเป็นองค์ศาสดาแทนไปได้เลย เราปฏิบัติตามนี้เท่านั้น ใครจะยุ่งอย่างไรเราไม่เล่นด้วย เราจะเดินตามหลักธรรมหลักวินัยนี้เท่านั้น อย่างอื่นไม่เล่นด้วย ตั้งมาเท่าไรไม่เล่นด้วย ปัดออกทั้งหมดๆ เลย เพราะพวกนี้พวกกาฝาก ปลอมทั้งนั้นๆ

ธนบัตรปลอมมันทำลายธนบัตรจริง นี่ละปลอมทั้งนั้นๆ เรื่องศีลเรื่องธรรมที่จะพอให้ชมเชยสรรเสริญบ้างมันไม่มี เราอยากพูดชัดๆ ฟังแง่ไหนๆ มีแต่แง่พวกลาภพวกยศพวกสรรเสริญเยินยอ เป็นบ้ากันไปทางโลก เลยโลกไปอีกพวกนี้น่ะ หัวโล้นๆ มองกันจนมองไม่ได้นะเวลานี้ ท่านผู้ทรงศีลทรงธรรมมองไม่ได้ อิดหนาระอาใจ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ละ เก่งทุกอย่าง ถ้าเรื่องความชั่วเก่งทุกอย่าง เรื่องความดีไม่เห็นมีวี่แววอะไรเลย

มันไม่ได้สนใจในศีลในธรรมพวกนี้ สนใจตั้งแต่ลาภแต่ยศแต่สรรเสริญเยินยอ อันเป็นเรื่องมูตรเรื่องคูถเรื่องส้วมเรื่องถานของธรรมเท่านั้นเอง ธรรมท่านไม่เป็นอย่างนี้ ท่านอยู่ด้วยความสงบสบาย ปฏิบัติหน้าที่ของตนมีหลักธรรมหลักวินัยเป็นเครื่องพาดำเนิน ท่านไม่ได้เดินแบบนี้นะ อันนี้แบบส้วมแบบถาน ก่อขึ้นนั้นก่อขึ้นนี้

นี่ก็กำลังได้ยิน เวลานี้กำลังได้ยินว่าประมาณ ๑๐ นาฬิกาวันนี้ จะมีกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นทหาร เพื่อนนายกรัฐมนตรี จะไปที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเพื่อพบนายทักษิณ ลิ้มทองกุล (นายสนธิ ครับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ครับ) เราอ่านว่าไงตะกี้นี้(อ่านนายทักษิณครับ) อย่างนั้นละฟัง แก้ใหม่นะ เราอ่านผิดเราก็ยอมรับว่าเราอ่านผิด ทีนี้เราจะอ่านให้ถูก นายสนธิ ลิ้มทองกุล (ครับ) รับรองแล้วเหรอ (รับรองแล้วครับ) เออ เราผิดก็ยอมรับว่าผิด ทีนี้อ่านนี้มีคนรับรองว่าถูกแล้วใช่ไหม เราจะอ่านต่อไป

ยังไม่ทราบเจตนาดีหรือไม่ดี จะเข้ามาหานายสนธิ ลิ้มทองกุล ของเราวันนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุลนี้เป็นหัวใจของประเทศชาติของเรา เป็นกระบอกเสียงของชาติไทยเราทั้งชาติ ผู้มุ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่จะอุ้มชูทั้งสามพระองค์นี้ นี่กำลังเข้ามา มันจะเข้ามาแบบไหนไม่ทราบนะวันนี้ มันเข้ามาหาอะไรไม่ทราบ มันจะมาอวดดีอวดเก่ง มันไม่ได้มีดีละ จะมาอวดเลวร้ายนั่นละมานี้ ทราบอย่างนี้เราก็พูดตามเรื่องที่ทราบมา จะเข้ามาหาอะไร ถ้าว่าเก่งก็เอาความดีออกมาประกาศแข่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ให้โลกทั้งหลายได้เห็น  เขาจะได้อนุโมทนาบ้างนะ นี่จะมาเป็นข้าศึกทั้งนั้นละพวกเปรตพวกผีนี่ จะไปเป็นข้าศึก มันเข้ามาหาอะไรกัน จะมาหานายสนธิ

นายสนธิที่เขาประกาศนี้ เขาประกาศด้วยความถูกต้องทุกสิ่งทุกอย่าง ประชาชนอนุโมทนาสาธุการทั่วไปหมดเขาไปที่ไหน เพราะเอาความจริงออกมาแสดงๆ ที่มันปลอมปกคลุมกันไว้ หุ้มห่อกันไว้ด้วยมูตรด้วยคูถ ทางล่างก็ด้วยส้วมด้วยถาน มูตรคูถบรรจุอยู่ด้วยกัน นี่เขาเปิดออกมาให้รู้เรื่องรู้ราว ก็นายสนธิ ลิ้มทองกุล ของเรานี่แหละ ใครกล้าพูดอย่างนี้ได้ไม่มี ต้องเป็นคนเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงจะพูดได้อย่างนี้ หลวงตานี้จะสละเพื่ออะไรไม่ทราบ พุทธ ธรรม สงฆ์ อยู่ในหัวใจนี้แล้ว ไม่เคยกล้าไม่เคยกลัวกับใครในโลกอันนี้

สามแดนโลกธาตุเหนือหมด พูดจริงๆ ในหัวใจดวงนี้ เราพูดตามหลักความจริง ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก ไม่อย่างนั้นไม่เรียกว่าธรรม ธรรมจะมาเห็นสูงๆ ต่ำๆ ลูบหน้าปะจมูกไม่ได้ไม่ใช่ธรรม ไว้ใจไม่ได้ นี่เรานำธรรมออกเดิน ให้พี่น้องทั้งหลายทราบ นี่เราก็ทราบว่าประมาณสัก ๑๐ โมงเช้า จะมีกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นทหารเพื่อนนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ จะไปที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เพื่อพบนายสนธิ ลิ้มทองกุล จะไปพบเรื่องอะไรไม่ทราบ ส่วนมากจะมีแต่ภัยละเข้าไป เราคิดไว้แล้ว แต่คิดอย่างนี้ไม่ผิด

นี่ละข้าศึกของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ของเรา กำลังเบียดเบียนทำลายทุกแง่ทุกมุม พี่น้องทั้งหลายต่างคนต่างมีหัวใจให้ออกช่วยกันนะ ไม่งั้นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะจมด้วยบุคคลประเภทเปรตผีกินไม่อิ่มไม่พอ ด้วยความปรารถนาลามก ให้จำเอาทุกคน นี่เราก็เตือนคุณสนธิเอาไว้ว่า วันนี้ ๑๐ น. เขาจะไปพบคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ให้ทราบเอาไว้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวใจของประเทศชาติของเรา ให้คอยฟังเสียงนะ มันเป็นยังไง เข้ามาแบบไหนๆ ให้พิจารณาให้ดี หลวงตาเองเป็นผู้พูด

หลวงตาเองอุ้มชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่มีอะไรเสียดายในหัวใจนี้เลย เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ที่เข้ามาจะมาทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เป็นหัวใจของชาติไทยเรา เทิดทูนตลอดเวลานี้ จึงไม่ได้เรา ตอบกันเลยโต้กันเลยทีเดียว เราปฏิบัติตัวของเรามาอย่างนั้น กิเลสเป็นตัวภัยในหัวใจของเรานี้ขนาดไหน เราไปอยู่บนภูเขาฟัดกับกิเลส น้ำตาร่วงลงมา เคียดแค้นให้กิเลสเป็นกำลังทีเดียว ถึงขนาดว่า หือ มึงเอากูขนาดนี้เทียวเหรอ

เราไม่ลืมนะก็เราเป็นเองนี่ อยู่บนภูเขาจะไปฟัดกับกิเลส กิเลสฟาดมาแหลกไปเลยเทียว กลับไปอีกศึกษาโรงงานใหญ่คือพ่อแม่ครูจารย์มั่นแล้วกลับมาอีก ใส่กันอีกๆ ฟาดกันจนกระทั่งกิเลสหงายหมาลงไป หายเงียบบนหัวใจ ใจนี้สะเทือนสะท้าน ตั้งแต่บัดนั้นมาเราทรงธรรมอันนี้ไว้ แล้วธรรมอันนี้ละนำมาสอนโลกเวลานี้ เราจึงไม่มีคำว่าเอนว่าเอียงกับฝ่ายใด เราไม่มีฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ มีตั้งแต่ว่า สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น อยากให้มีความดีงามเข้าสู่ใจ เข้าสู่ตัวเอง แล้วสังคมจะได้สงบร่มเย็นต่อไป มีเท่านั้นเรา อันใดที่จะมาเป็นภัยเราก็พูดตามเรื่องนี่ละ เรื่องราวมันมาอย่างนี้จะว่าไง

คุณสนธิเป็นบุคคลสำคัญ และคุณทองก้อนอีกคนหนึ่ง ที่เป็นหัวใจของประเทศเวลานี้นะ ช่วยชาติบ้านเมืองอย่างเอาเป็นเอาตาย เห็นไหมที่หน้าศาลาเขาติดไว้เดี๋ยวนี้ยังไม่เอาออก เขารุมตีเขาจะเอาปืนยิงคุณทองก้อน เห็นไหมล่ะนั่น ตำรวจนอกเครื่องแบบโดดขึ้นไปสะกัดลัดกั้นกันไว้ เพราะตำรวจมีทั้งในเครื่องแบบนอกเครื่องแบบ ส่วนมากจะนอกเครื่องแบบ ผู้ใหญ่ๆ ทั้งนั้นเข้าไป แล้วนั่นยกทัพออกมาผ้าเหลืองๆ หัวโล้นๆ อยู่นั้นเห็นไหม

จะปิดประตูตีแมว ฟังซิพวกเปรตพวกผี ถ้าตามหลักธรรมหลักวินัยแล้ว พวกนี้จะอยู่ไม่ได้ในพุทธศาสนา ต้องสึกทันทีทันใดเลยไม่ได้มีคำว่ารอกัน แต่นี้ใครไปเก็บไว้ หัวหน้ามันคือตัวไหน ตัวแสบๆ ที่มือเขียนตีนลบอยู่เวลานี้แหละ ทางตำรวจเขาจะเข้ามาจัดการอันนี้ ตำรวจคนไหนที่จะมาจัดการก็จะถูกย้ายลงไปภาคใต้อะไรเหล่านี้ เราทราบมาหมดนะ จึงอยู่กันแบบนี้ละ แบบโก้ๆ พวกเปรตพวกผีอยู่กันแบบโก้ๆ ทำผิดไม่มีผิด เพราะตัวใหญ่มันบังคับเอาไว้ ตัวใหญ่ก็ตัวมหาภัยต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นั่นละ มันบีบบังคับเอาไว้ไม่ให้ตำรวจเข้าไปยุ่ง ให้เขาสนุกกินสนุกกลืนกันพวกเปรตพวกผีนี่ เข้าใจหรือเปล่า

นี่ถ้าทางหลักพุทธศาสนาต้องสึกทันที จากนั้นทางบ้านเมืองเขาจัดการไปเลย นี่บ้านเมืองจัดการไม่ได้ สึกก็สึกไม่ได้เพราะตัวแสบๆ ตัวสำคัญอยู่เวลานี้ มือเขียนตีนลบนี้แหละ บอกชัดๆ เลย เป็นความจริงอย่างนี้ ผู้นี้เป็นผู้บังคับเอาไว้ ตำรวจคนไหนจะมายุ่งจะย้ายไปทางภาคใต้ ได้ยินมาอย่างนั้นชัดๆ ทีนี้ใครก็ไม่อยากไปซิ หมอบหัวอยู่ในกระดองเหมือนเต่าละซิพวกเรา พวกนี้ก็ได้แผลงฤทธิ์ อำนาจอันธพาลมหาภัยต่อชาติบ้านเมืองตลอดมาอย่างนี้แหละ ฟังซิ นี่ ๑๐ น. ก็จะมา ส่วนมากจะมาแบบนี้ละ เราคิดเอาไว้เลย มาดีๆ แล้วไม่จำเป็น มาคุยกันธรรมดาๆ ก็ได้ แต่นี่มาเป็นกองทัพมหาภัยละนั่น แล้วมีอะไรอีกล่ะ

ผู้กำกับ อ่านให้จบเลยนะครับ แล้วจะให้ประชาชนเขาคิดว่า มีสมเด็จพระสังฆราชพระองค์เดียวอย่างนั้นหรือ ก็ในเมื่อพฤติกรรม การปฏิบัติหน้าที่ของประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชกลับเป็นไปเสียอย่างนี้ ไม่รู้ว่าใครมีอำนาจเหนือใครกันแล้วในสังฆมณฑลวันนี้

หลวงตา สังฆราชก็เคยมีมาดั้งเดิมไม่ใช่หรือ นานเท่าไร ก็มีพระสังฆราชพระองค์เดียวเท่านั้น ใครมาแต่งตั้งใครให้ทำหน้าที่แทนสังฆราชไม่เคยมี สงบร่มเย็นมาตลอด เดี๋ยวนี้มาจากไหนจะมาทำหน้าที่แทนพระสังฆราช ก็คือจะมาเป็นสังฆราชนั่นเอง พูดให้มันชัดๆ เสีย ลงได้ลามกขนาดนี้มันจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน ไม่เคยมีมันก็มีขึ้นมาแล้ว แย่งชิงกันไปในลัทธิตำแหน่งอะไร เราฟังไม่ได้เลย มันเลวมากที่สุดพระเรา เลยโลกไปแล้ว มันไม่ได้หาอรรถหาธรรม หาตั้งแต่ยศถาบรรดาศักดิ์ซึ่งเป็นส้วมๆ ถานๆ ที่ธรรมทั้งหลายตำหนินั้นแล ว่าเป็นของดิบของดีขึ้นมา จึงทำให้โลกที่สะอาดแปดเปื้อนไปหมดด้วยกัน แล้วมีอะไรอีกล่ะ

ผู้กำกับ ต่อนะครับ ในคราวที่ “คุณวิษณุ” ลงนามแต่งตั้ง “สมเด็จพระพุฒาจารย์” วัดสระเกศ ให้ดำรงตำแหน่ง “ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช” (ไม่มีคำว่าแทน) โดยที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ มิได้ให้ความยินยอมด้วยนั้น แสดงให้เห็นว่า พระอำนาจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานถวายในคราวสถาปนา ได้ถูกแย่งชิงไปจนสิ้นแล้ว

ท่านผู้ชมผู้มีใจเป็นธรรมทั้งหลายยังจำได้ไหม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ พระองค์นี้ นอกจากจะทรงดำรงตำแหน่ง “พระสังฆราช” แล้ว พระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งเป็น “เจ้าคณะหนใหญ่คณะธรรมยุต” ทรงมีพระอำนาจในการปกครองคณะสงฆ์ธรรมยุตโดยทั่วสังฆมณฑลอีกด้วย

เมื่อมีการแต่งตั้ง “ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช” ขึ้นมาแล้ว “สมเด็จพระพุฒาจารย์”ได้ใช้อำนาจที่ได้มาแต่งตั้งให้ “สมเด็จพระพุทธชินวงค์” วัดมกุฏกษัตริยาราม ให้ดำรงตำแหน่งเป็น “รักษาการเจ้าคณะหนใหญ่คณะธรรมยุต” โดยมีการลงนามและนำตราประทับของสมเด็จพระสังฆราชไปประทับในใบแต่งตั้งนั้นด้วย

ขอถาม “คุณวิษณุ” ให้ช่วยตอบประชาชนทีเถอะ ก่อนที่จะเอาตำแหน่งปกครองสงฆ์ธรรมยุตของสมเด็จพระสังฆราชไปให้ผู้อื่น ได้เคยขอความเห็นชอบ ขอความยินยอมกับพระองค์ก่อนหรือไม่ หรือแย่งพระอำนาจของพระองค์ไปดื้อๆ ? (หลวงตา เราอยากจะตอบแทนว่า แย่งดื้อมหาดื้อ เราจะตอบแทนอย่างนี้เลย เรื่องมันเป็นมาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่เรียกอย่างนี้จะเรียกว่าไง จะเหมาะสมกัน)

แล้วใครจะมีอำนาจมากกว่ากันเล่าครับ ระหว่างสมเด็จพระสังฆราชที่ในหลวงทรงสถาปนา กับผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชที่ “คุณวิษณุ” ลงนามแต่งตั้งขึ้นมา

การแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช “คุณวิษณุ” ยืนยันว่าได้ขอความเห็นชอบจากพระองค์แล้ว ก็แล้วการเอาพระอำนาจปกครองสงฆ์ธรรมยุตของพระองค์ไปให้แก่ผู้อื่นนั้นเล่า

จะตอบประชาชนว่าอย่างไร ??

                                                                        ณ. หนูแก้ว

หลวงตา ยังไม่เข้าใจชัด ลองชี้แจงให้ทราบ

ผู้กำกับ เขาบอกว่า การแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช “คุณวิษณุ” ยืนยันว่าได้ขอความเห็นชอบจากพระองค์ คือสมเด็จพระสังฆราชก่อนแล้ว

หลวงตา นี่ตัวจอมปลอม ปากปลอมที่สุด ว่าไปขออนุญาตจากสมเด็จพระสังฆราช ถ้าพระองค์ทรงมอบแล้วจะไม่มีปัญหาอะไรเลย อันนี้คือมันไปแย่งนั่นเอง แย่งตำแหน่ง แย่งมากินโต๊ะกัน สมเด็จสังฆราชยังไม่ตาย ก็มีแต่พวกนี้กำลังแย่งกันกินโต๊ะสมเด็จสังฆราช เราเคยพูดมาแล้วอันนี้ มันเลวที่สุดจะให้ว่าไง เลวที่สุดพูดง่ายๆ ไม่เคยมีในเมืองไทยเรา พึ่งมามีสมัยนี้ละ ที่พวกเลวที่สุดแย่งตำแหน่งสมเด็จสังฆราชก็คือแย่งกันกินโต๊ะสมเด็จสังฆราชนั่นเอง ไม่เคยมีในสมัยใดๆ มาตลอด สมเด็จสังฆราชมีพระองค์เดียว ไม่มีใครที่จะมาตั้งทำหน้าที่แทนอย่างนั้นอย่างนี้ไม่เคยมี มีปัจจุบันนี้ละ มีจากพวกเปรตพวกผีนี้เลยว่ามันชัดๆ มันยุ่งหาอะไร เด็กเขาก็หัวเราะได้ อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่สลดสังเวชเลยเด็กก็หัวเราะ มันดูไม่ได้นะพวกนี้ แล้วมีอะไรอีกล่ะ

ฟังเอานะพี่น้องทั้งหลาย กระทบกระเทือนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มากเท่าไรเรื่องที่แสดงมานี้ เรื่องตะกละตะกลามลุกลี้ลุกลนจะเป็นใหญ่เป็นโตแบบส้วมแบบถาน ไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโตแบบธรรมแบบวินัยของศาสดา แบบของศาสดานั้นสงบมากทีเดียว พระองค์ทรงตั้งคือทรงชมเชยพระสาวก ๘๐ องค์ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ล้วนๆ พระองค์ทรงตั้งเอตทัคคะคือความเลิศไปคนละทางๆ องค์นี้เลิศทางนี้ เช่นพระสารีบุตร เลิศทางปัญญา พระโมคคัลลาน์ เลิศทางฤทธาศักดานุภาพ เป็นต้น แล้วองค์นั้นเลิศทางนั้นๆ พระองค์ทรงตั้ง ท่านเหล่านี้สงบเงียบเพราะท่านสงบอยู่แล้วภายในจิตใจของท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านไม่ตื่นเต้นอะไร นี่ล่ะมันเอาอันนี้มาเป็นแบบปลอมๆ เข้ามา

ครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าท่านทรงตั้งอย่างนั้นอย่างนี้ นี่มันก็มาแบบนี้ละ แบบกาฝากมหาภัยแทรกเข้ามา มีแต่เรื่องสกปรกทั้งนั้นที่มันตั้งขึ้นมาทุกวันๆ มันตั้งกันเองยุ่งกันเองอยู่ตลอดเวลา มันน่าทุเรศมากที่สุดเลย ยุ่งมากเวลานี้ พระเป็นเปรตเป็นผีเลวร้ายยิ่งกว่าประชาชนธรรมดาไป แย่งยศแย่งลาภไม่เคยมี พระหายศหาลาภอะไร อะไรจะเลิศยิ่งกว่าธรรม หาซิศีลอยู่ในตัวรักษาให้ดี สมาธิบำเพ็ญให้เกิดให้มีขึ้นภายในจิตใจ ปัญญาพิจารณา แยกธาตุแยกขันธ์แยกทุกๆ อย่างที่มันเคยยึดถือ มีลาภยศความเป็นบ้าอันนี้เป็นต้น ออกจากหัวใจแล้วสง่างามไปหมด นี่ยศของพระเป็นอย่างนั้น ธรรมของพระ สมณศักดิ์นั้นแปลว่าศักดิ์ศรีดีงามของท่านผู้มีความสงบ เป็นอย่างนั้นนะ

มันเลวที่สุดละเวลานี้พูดอย่างจังๆ เลยเราไม่เคยสะทกสะท้าน แบบแผนหลักธรรมหลักวินัยองค์ศาสดามีอยู่ มันเหยียบย่ำทำลายพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ หลักธรรมวินัยไปทั้งนั้นเวลานี้ เรื่องที่จะถูกต้องตามหลักธรรมวินัยให้รื่นตารื่นหูรื่นใจไม่มี มีตั้งแต่เรื่องขวากเรื่องหนามเรื่องฟืนเรื่องไฟเผาไหม้พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เผาไหม้หลักธรรมวินัยไปเรื่อยๆ อย่างนี้ละ นี่พูดตามหลักธรรมหลักวินัยเราพูดอย่างนี้ เอ้าถ้าผิดอย่างนั้น เอ้าอ้างกันมาเราจะเป็นคนตอบ หรือจะเอาคอเราไปตัดเอาไปเลยเราไม่เสียดาย ยิ่งกว่าเราเสียดายอรรถธรรมของพระพุทธเจ้า อันนี้เรามอบได้เลย เหล่านั้นเราไม่มอบกับมัน ส้วมๆ ถานๆ เราไม่มอบกับมัน มีแต่ปัดออกมันก็รุมเข้ามาอยู่อย่างนี้ละ เอาเท่านี้ก่อนละนะพอ

คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พิจารณาให้ดีนะว่ามีทหารเพื่อนของนายกรัฐมนตรี อ้างตัวว่าเป็นนายทหารเป็นเพื่อนนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาพบวันนี้ จะพบแบบไหนคุณสนธิให้พิจารณา คุณสนธิเป็นหัวใจของชาติ พิจารณาให้ดี เราเตือนมาอย่างนี้เราเตือนด้วยความเป็นธรรม เรารักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คุณทักษิณก็มอบไว้กับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เหมือนกัน จึงเข้ากันได้ เราพูดนี้เราพูดด้วยความเป็นธรรม เท่านั้นละ

ผู้กำกับ หลวงตาครับ มีกำหนดการเกี่ยวกับที่จะพูดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ เกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ของประชาชน เกี่ยวกับการรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลวงตาอนุญาตให้อ่านนะครับ กำหนดการการใช้สิทธิ์ของประชาชนเพื่อรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยการลงลายมือชื่อเพื่อฟ้องคดีอาญานายวิษณุ เครืองาม ในฐานความผิด ดูหมิ่น หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ และรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘ กลุ่มประชาชนผู้รักชาติ และคณะศิษยานุศิษย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันใช้สิทธิ์และหน้าที่ตามกฎหมาย แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ด้วยการแสดงสามัคคีธรรมร่วมกันลงลายมือชื่อเป็นโจทก์ เพื่อฟ้องคดีอาญานายวิษณุ เครืองาม ผู้กล่าวอ้างว่าการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังต่อไปนี้

วันเสาร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๒.๐๐ น. ณ โรงแรมวสุ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม มีกำหนดการดังนี้

เวลา ๑๐.๐๐ น. การบรรยายเรื่องข้อเท็จจริงกรณีนายวิษณุ เครืองาม แต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชซ้อนกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช โดยนายทองก้อน วงศ์สมุทร

เวลา ๑๑.๐๐ น. การบรรยายเรื่องการกระทำของนายวิษณุ เครืองาม เทียบกับข้อกฎหมาย จารีต ประเพณี และราชประเพณี ตลอดจนขั้นตอนการฟ้องคดีอาญา โดยคณะทนายความผู้รักชาติ

เวลา ๑๒.๐๐ น. ร่วมกันลงลายมือชื่อเพื่อเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญานายวิษณุ เครืองาม

 

วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ น. ถึง เวลา ๑๒.๐๐ น. ณ โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีกำหนดการดังต่อไปนี้

เวลา ๑๐.๐๐ น. การบรรยายพิเศษโดย คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการครับ

เวลา ๑๑.๐๐ น. การบรรยายเรื่องการกระทำของนายวิษณุ เครืองาม เทียบกับข้อกฎหมาย จารีต ประเพณี และราชประเพณี ตลอดจนขั้นตอนการฟ้องคดีอาญา โดยคณะทนายความผู้รักชาติ

เวลา ๑๒.๐๐ น. ร่วมกันลงลายมือชื่อเพื่อเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญานายวิษณุ เครืองาม

จึงขอเรียนเชิญพ่อแม่พี่น้องประชาชนผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และศิษยานุศิษย์ของท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ร่วมลงลายมือชื่อและกรุณานำบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านติดตัวไปด้วย โดยพร้อมเพรียงกัน จบครับ

หลวงตา เอ้อ เขาบอกว่าบรรดาประชาชนทั้งหลายผู้รักชาตินี้ เขาบอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัวเข้าใจไหม เรายอมรับทันทีว่าท่านเหล่านี้ไม่กล้าจะมาเป็นอาจารย์ของหลวงตาบัว เป็นลูกศิษย์ทั้งนั้นเรายอมรับ เรื่องนี้เขาจะไปดำเนินงานการด้วยความรักชาติของเขา ไม่ใช่หลวงตาบัวเป็นแนวหน้านะ หลวงตาบัวอยู่ตรงกลาง เหล่านี้เป็นลูกศิษย์ทั้งนั้นจะมาเป็นอาจารย์ของเรา เอ้า เสนอมา ไม่มีใครเสนอเราก็ยอมรับว่าเราเป็นอาจารย์ของคนเหล่านี้ เอาละพอ

ผู้กำกับ กราบเรียนท่านหลวงตาครับ มีข่าวด่วนจี๋มาเลยครับ (เอ้อว่ามา) ผมขออ่านกราบเรียนนะครับ (เอ้า ว่ามาซิ) เขาส่งข่าวมาดังนี้นะครับ มีข่าวยืนยันจากทางกองทัพบกว่า ผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้สั่งการให้นายทหาร หรือกลุ่มนายทหารผู้ไปพบคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไปดำเนินการเรื่องใดๆ แต่อย่างใด และได้ทราบอย่างชัดเจนมาว่า เขาจะนำกำลังทหารไปจับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่สำนักหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กรุงเทพฯแน่นอนครับ (ไหนใครจะไปจับ ) เขาส่งข่าวมาอย่างนี้ครับ (ไหนอ่านอีกทีหนึ่ง) ซ้ำอีกครั้งนะครับ

มีข่าวยืนยันจากทางกองทัพบกว่า ท่านผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้สั่งการให้นายทหารผู้นี้ หรือกลุ่มนายทหารผู้ใดไปดำเนินการเรื่องใดแต่อย่างใด และได้ทราบอย่างชัดเจนด้วยว่า กลุ่มอ้างว่าเป็นนายทหารดังกล่าวจะนำกำลังทหารไปจับกุม (พวกอ้างอันนี้นะ) ได้ทราบอย่างชัดเจนว่า เขาจะนำกำลังทหารไปจับกุมคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กรุงเทพฯแน่นอนครับ

หลวงตา เอ้อ นี่เขาจะไปจัดการ แล้วนายทหารผู้นี้มีส่วนเกี่ยวข้องไหม กับพวกที่จะไปจับกุมคุณสนธินี้น่ะ (นายทหารที่จะไปจับกุมนี่ละฮะ ทำโดยพลการ ผู้บัญชาการทหารบกเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วย) เอ้อ นี่เขาทำโดยพลการ ให้จำเอาไว้นะ ผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้สั่งเสียไม่ได้ทราบแต่อย่างใด เขาทำด้วยพลการของเขาเอง ก็ให้ทราบกันนะ (ต้องบอกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คุมตำรวจทั้งประเทศไปช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชนด้วย) เอ้อ ก็ถูกต้องแล้วนี่เขาทำใช่ไหมล่ะ เขาไปรักษาความสงบใช่ไหม (ยังไม่ได้ไป ต้องหลวงตาช่วยพูดหน่อย ให้หลวงตาช่วยพูดบอกเขาหน่อย ช่วยพูดว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยไปดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้แก่ประชาชนด้วยครับ) อันนี้ก็เป็นหน้าผู้บัญชาการอยู่แล้วที่จะดูแลความสงบของประชาชนในที่ทั่วๆ ไป อย่าว่าแต่เพียงเท่านี้เลย ก็สมบูรณ์แล้วนี่นะจะมาบอกเราอะไรอีก บอกก็มีแต่หลวงตาบัวเท่านั้นแหละ ก็มีเท่านั้น ถ้าบอกไปก็หลวงตาบัวเท่านั้นก็ไม่เห็นมีอะไร เขาทำหน้าที่ของเขาอยู่แล้วเข้าใจเหรอ ท่านเหล่านี้ทำหน้าที่ประจำอยู่มาแล้ว จำเป็นจะไปอวดรู้อวดฉลาดอะไร อวดอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ประสาหลวงตาบัว

(ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคงได้ยิน เดี๋ยวก็คงสั่งลูกน้องไปช่วยดูแล) โอ๋ย ไม่สั่งท่านก็สั่งอยู่แล้วละ เราอย่าอวดดีกว่าท่าน ท่านสั่งอยู่แล้วหน้าที่ของท่านโดยตรงแล้ว ประสาหลวงตาบัวมันได้เรื่องอะไร มีแต่เทศน์เป็นธรรมไปอย่างนั้น สุดท้ายก็มาตลกเท่านั้นเอง มีเท่านั้นละ เอาละพอใจ เราพูดจริงๆ เราไม่ได้เป็นภัยต่อใครทั้งประเทศ และทั่วโลกดินแดน สามไตรโลกธาตุเราไม่เคยเป็นภัยต่อผู้ใด สอนอรรถสอนธรรมเพื่อความสงบสุขร่มเย็น ที่ทะเลาะเบาะแว้งกันนี้เราก็ชี้แจงแสดงเหตุผลให้ทราบ การทะเลาะเบาะแว้งเหล่านั้นเป็นเรื่องหมาไม่ใช่เรื่องคน ถ้าเรื่องคนเอาธรรมเข้าไปจับๆ ประสานกันได้ดีหมด เข้าใจเหรอ เอาละทีนี้จะให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก