เอาไว้ไม่อยู่ก็ปล่อย
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2548 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๘

เอาไว้ไม่อยู่ก็ปล่อย

ก่อนจังหัน

วัดป่าบ้านตาดนี้ใครก็ชมๆ ว่าเป็นวัดปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แล้วพระปฏิบัติดีจริง แต่พวกญาติโยมที่มาเพ่นพ่านๆ ไม่ได้ดูญาติโยมบ้างเลย และคอยที่จะตำหนิพระๆ ตำหนิอะไรท่านรักษาตัวท่านตามหลักธรรมหลักวินัยอย่างเคร่งครัดทุกสิ่งทุกอย่าง เราก็เป็นผู้ดูแลหมู่เพื่อน และนำธรรมวินัยมาสั่งสอนปกครองหมู่เพื่อน ญาติโยมไม่มีธรรมมีวินัย เพ่นพ่านๆ มากิจธุระจำเป็น วัดกับบ้านแยกกันไม่ออก แต่ไอ้มาเพ่นพ่านๆ มันไม่น่าดู ขวางหูขวางตา เขียนประกาศก็เขียนไว้แล้วนั่น เราเองเป็นคนเขียน สำนวนของเราเองว่า ที่นี่เป็นวัด เป็นสถานที่ภาวนาเพื่อความสงบใจ ไม่มีกิจธุระจำเป็นไม่ควรมาเที่ยวเพ่นพ่าน เขียนไว้นั่น มันหลับตาเข้ามานี่มันไม่ได้อ่านๆ ถ้าเป็นคนที่พึ่งมาใหม่ๆ เป็นอีกอันหนึ่ง ไอ้คนเก่านี่เพ่นพ่านๆ มันไม่น่าดูนะ

อย่างที่เขารับบริจาคที่หน้าศาลานี้ วัดนี้ไม่ได้บวชมาหาเงิน บวชมาหาธรรม เราก็ได้กำชับแล้วสั่งขาดเลย ที่เขารับบริจาคนี่ ๔ โมงหรืออย่างมาก ๔ โมงครึ่งเลิก บอก วัดนี้ไม่ได้สร้างเพื่อหาเงินหาทอง บวชมาไม่ได้บวชหาเงินหาทอง บวชมาหาอรรถหาธรรม มีความงามในอรรถในธรรมอย่างไร เราพร้อมแล้วที่จะปฏิบัติตาม ที่จะมาทำลายวัดหลายแบบหลายฉบับ โดยอ้างว่าอย่างนั้นอ้างว่าอย่างนี้ ไม่รับ ให้พากันพิจารณา

แล้วว่าพระท่านตำหนิอย่างนั้นอย่างนี้ ไอ้เราที่ทำน่าตำหนิท่านก็ตำหนิ ตั้งแต่โยมยังตำหนิพระได้ ทำไมพระท่านมีหัวใจเหมือนกัน พระยิ่งละเอียดกว่าประชาชนทำไมจะตำหนิกันไม่ได้ ตำหนิไม่ได้ตำหนิเพื่อความเสียหายถ้าพระตำหนินะ ถ้าเป็นฆราวาสตำหนิแล้ว ตำหนิด้วยความเคียดแค้น ด้วยปากเปราะปากบอน สำหรับพระท่านไม่ได้ปากบอน ตำหนิตรงไหนท่านมีเหตุมีผลทุกอย่าง เหมือนกับท่านปฏิบัติตัวท่านเอง ท่านเป็นอย่างนั้นนะ

นี่เราก็สั่งขาดแล้วที่หน้าศาลา สองแห่งที่เขามาบริจาค ทางวัดไม่ได้บอกแต่เป็นเรื่องศรัทธาเขาเอง เขาทำไว้ที่นั่น วัดไม่ได้จัดได้แจงไม่ได้สั่งเสียให้ทำอย่างนั้น มีตั้งแต่หลักธรรมหลักวินัยที่ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด บอกไม่บอกก็ปฏิบัติกันอยู่อย่างนั้นสำหรับวัดนี้ ทีนี้เมื่อเกี่ยวกับผู้คนญาติโยมเข้า มันไม่มีหลักธรรมหลักวินัย ไม่มีกฎมีระเบียบ เป็นเรื่องเลอะเทอะมาประจำเมืองไทยเรา พูดให้ชัดเจน เมืองไทยเราไม่ค่อยมีหลักมีเกณฑ์ เลอะๆ เทอะๆ อะไรมาคว้ามับๆ หาหลักเกณฑ์ไม่ได้

ถ้าใครอยากเห็นลิงในเมืองไทยให้เอาของมาขาย ให้เอามาจากเมืองนอกๆ แล้วคว้ามับ ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ดีนะๆ มีแต่ดี เจ้าของเลวไม่ดูนี่ซิสำคัญ อะไรมาคว้ามับๆ ทั้งๆ ที่ของในเมืองไทยเรามีเยอะแยะไม่สนใจ ถ้าเป็นของเมืองนอกเมืองนาแล้ว โอ๋ย เห่อกันเป็นบ้าไปเลย เมืองไทยเราเป็นบ้าตื่นกับของเมืองนอก ของเมืองเจ้าของมีเต็มบ้านเต็มเมือง ควรที่จะสนับสนุนกันด้วยการซื้อการขายกันไม่สนใจ ไม่มีเกียรติ ถ้าได้มาจากเมืองนอกแล้วมีเกียรติทั้งนั้น แอปเปิลแอปแป้น แอปเปิลในเมืองไทยเราอดอยากอะไร เห็นไหม มันเป็นบ้ากับแอปเปิลเมืองนอก

วันหนึ่งก็ใส่เอาเสีย ก็ลูกศิษย์นั่นแหละได้ช็อกโกแลตมา โอ๋ย ดีใจนะได้ช็อกโกแลตมาให้หลวงตา เราไม่ได้ลืมนะอยู่อยุธยา ว่าช็อกโกแลตนี้มาจากฝรั่งเศสเท่านั้นก็เปรี้ยงกันเลย วันนั้นนายกเทศมนตรีเป็นหัวหน้ามา ท่านไม่เคยฟังเทศน์เราก็ได้ฟังวันนั้น เอาเสียเปรี้ยงๆ เลย ตั้งแต่นั้นมาเห็นหน้าทีไร นี่ตัวดี ว่างั้นเลย เราบอกตัวดี มันเป็นบ้ากับเมืองนอกเมืองนา เมืองเจ้าของไม่สนใจแล้วจะดีได้ยังไง ผลิตอะไรขึ้นมาๆ ไม่สนใจกัน ไปสนใจแต่เมืองนอกๆ นั่นซิ แล้วผู้ที่ผลิตขึ้นมานี้จะมีแก่ใจมาจากไหน ทำแล้วไม่ได้ซื้อได้ขาย เป็นบ้าแต่เมืองนอก ท่านทั้งหลายจำเอานะ นี้เป็นธรรมมาสอนโลก

หรือว่าดุว่าด่าหรือเวลานี้ พวกเลวมันเลวขนาดไหนมันจะจมอยู่นั้น ลากขึ้นมานี้ยังว่าดุด่าอยู่เหรอ พิจารณาซิ มันเลอะเทอะขนาดนั้นเมืองไทยเรา ไม่ว่าการนุ่งการห่มการอะไรดูไม่ได้นะ บางทีเราก็จี้เอา ไล่ออกจากวัดก็มีมันดูไม่ได้ การนุ่งการห่มการอะไร แม้แต่หมาก็ยังต้องมาสอน หมาคงรำคาญตา หมาเขามาสอนยังไง เขาเขียนไว้ที่การ์ตูน เขาเอาการ์ตูนออกมา มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวนุ่งดำ ทีนี้ข้างนี้ผ่าออกหมดจนจะเห็นหี เข้าใจไหมล่ะ พูดหยาบไหมนี่ มันผ่าที่จะให้เห็นหีมันไม่หยาบหรือนั่น หมาดำตัวนั้นเขาคงรำคาญ หมาดำหูตูบด้วยนะ น่ารักด้วย เขาเป็นอาจารย์สอนคน

ทีนี้เขาก็มาคาบข้างซ้าย ข้างขวาหนีบผ่าจนจะเห็นหี ข้างนี้ยังไม่ได้หนีบ หมาดำตัวนั้นก็มาคาบตรงนี้ละ ก็ตัวสำคัญนั่นละตีหัวเขาตบหัวเขา มึงมาคาบทำไม ว่าให้หมา มันก็สอนว่า ตรงนี้ยังไม่ได้ผ่า ให้กลับไปผ่าเสีย และผ่าแล้วให้ผ่าเข้าไปถึงหีเลย มันสอนขนาดนั้น เป็นยังไงมนุษย์เราโง่ไหม นี่การ์ตูนเขาเอามาเป็นเครื่องสอน มันคิดหรือเปล่าไม่รู้นะ มันเลวขนาดไหนจนกระทั่งหมามาสอน หมารำคาญตา พิจารณาซิ แล้วว่าหลวงตาบัวพูดอะไรมีตั้งแต่ว่าหยาบๆ ตัวมันทำมันหยาบโลนที่สุดจนดูไม่ได้ ไม่ได้ดูเจ้าของบ้างเหรอ

ธรรมจะลงไม่ได้นะเมืองไทยเรา ประกาศตนว่าเป็นเมืองพุทธๆ มันพุทธอะไรเป็นอย่างนั้น ไม่ได้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมเสียงครูเสียงอาจารย์ยิ่งกว่าเสียงกิเลสตัณหาเป็นบ้ากันทั้งโลกนี้เลย อันนี้สำคัญมาก ให้ท่านทั้งหลายพิจารณานะ ไม่มีใครพูด พูดอย่างหลวงตาบัว เพราะเป็นอันเดียวกัน คลุกเคล้ากันแล้ว พูดก็ลูบหน้าปะจมูก เกรงอกเกรงใจกันเพราะเป็นพวกเดียวกันตำหนิกันไม่ลง ขี้ต่อขี้ตำหนิกันได้ที่ไหน มันก็ชมไปด้วยกันละซิ ถ้ามีสิ่งอื่นเข้ามาเป็นคู่แข่งแล้ว เหนือกันแล้ว มันก็เทียบกันได้แข่งกันได้และสอนกันได้ นี่ธรรมเลิศโลกจะนำมาสอนไม่ได้เหรอ โลกมันสกปรกสุดขีด ธรรมนี้สุดยอดแล้วทางความสะอาดสะอ้าน นำมาสอนไม่ได้เหรอ ถ้าอย่างนั้นมันก็หมดค่าหมดราคาแล้วนะเมืองไทยเรา ไม่ยอมฟังเสียง วิ่งตามกิเลสความไม่รู้จักประมาณๆ

ไม่ว่าการอยู่การกินการใช้การสอย ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ไม่มีใครเกินเมืองไทย รถยนต์ก็ดูซิเต็มไปหมด ถนนหนทางจนจะไปไม่ได้ หลวงตาบัวก็เหมือนกันนะ หลวงตาบัวมีรถตั้งสองคัน เขาจะซื้อรถมาถวาย เราบอกเราไม่เอารถ เราไม่ได้บวชมาหารถ เราบวชมาหาธรรม เขาไม่ได้แบบนี้เขาก็เอาแบบอื่น เขาซื้อเองเขาเป็นเจ้าของรถ แต่เขาเอารถมาแอบไว้ที่บ้านตาด เอามาให้หลวงตาบัวใช้ หลวงตาบัวก็เลยยอมกลของเขา เข้าใจไหมล่ะ เราบอกเราไม่เอา จะเอารถอย่างนั้นอย่างนี้ อย่างไหนก็ไม่เอา เราบอกเราไม่ได้บวชมาหารถ เราบวชมาหาธรรม ทีนี้เขาก็ใช้แผนใหม่ เขาซื้อรถมาแล้วทะเบียนบัญชีเป็นของเขาหมด เขาเอามาไว้ให้ใช้ เราจะว่าไม่ใช่รถของเรามันก็อย่างนั้นไม่เห็นได้เรื่องอะไร หลวงตาบัวก็ถูกเขาต้มเอาอย่างนี้แหละ

ฟังซิตั้งแต่พระยังถูกเขาต้มหลายแบบหลายฉบับ เราเห็นใจนะญาติโยมนี่ ถูกเขาต้มเราเห็นใจ คนหนึ่งๆ ให้ได้สักสิบคันนะเราเห็นใจ ไปเอามาสักสิบคันๆ เดินเข้าไปในครัวก็รถติดอีก ออกมาประตูก็รถติด ขึ้นบันไดก็รถติด อยู่ตามหน้าบ้านหน้าเรือนมีแต่รถติดๆ บ้านไหนมีแต่รถติดๆ ห้องนอนก็รถติด ติดอยู่ในห้องนอน เป็นยังไง เราก็เห็นใจพี่น้องทั้งหลาย เอาไปพิจารณาก็แล้วกัน ตั้งแต่หลวงตาบัวปัดออกๆ มันยังแทรกเข้ามาได้เห็นไหมล่ะ เดี๋ยวนี้ก็ใช้ของเขานั่นแหละ ถ้ามีคนมาว่าเรายอม เราหลงกลเขา พากันจำเอานะพี่น้องทั้งหลาย วันนี้พูดเพียงเท่านี้แหละ

เราก็พูดแล้วนะที่หน้าศาลา เอากันเด็ดขาดแล้ว ๔ โมงครึ่งให้หยุดเลยที่รับบริจาคทั้งหลาย ๔ โมงครึ่งเป็นอย่างค่ำ ถ้าธรรมดา ๔ โมง พอสมควรแล้ว ๔ โมงเย็น หากมีความจำเป็นจริงๆ เรายืดให้ ๔ โมงครึ่ง ที่สองแห่งที่เขาบริจาค บริจาคก็เพื่อโลกนั่นแหละ เพื่อเราไม่เพื่อแหละ แต่เมื่อมันไม่งามตางามศาสนา งามอรรถงามธรรมงามวินัยแล้วต้องปัดออกๆ เพื่อให้งาม จำเอานะ ให้พร

หลังจังหัน

(โรงพยาบาลกองบิน ๒๓ ทหารอากาศมารับรถพยาบาลที่หลวงตาเมตตาอนุเคราะห์) อันนั้นเขาเขียนหลวงตาบัวไว้นั่น บริจาคโดยหลวงตาบัว เราบอกเราไม่ให้เขียน แต่เวลาออกมามันมาอย่างนั้น เราไม่ต้องการชื่อเสียงอะไรๆ ทำประโยชน์ให้โลกแล้วเราเป็นที่พอใจๆ นั่นชื่อ ไม่จำเป็นสำหรับเราเองเคยบอกไม่ให้เขียน ทีแรกเห็นมา เราก็บอกว่าต่อไปนี้อย่าเขียนนะ มันก็เขียนตลอดเวลาแล้วจะให้ว่าไง รถที่แจกตามโรงพยาบาลต่างๆ เราไม่ให้ออก มันก็ขโมยออกอย่างนี้ ออกก็ออกจะให้ว่าไง เหมือนอย่างตำรวจคนหนึ่ง มันน่าฟังนะ จนเรางง ตำรวจคนนั้นเขาอยู่หน้ากองรักษาการของสถานีตำรวจสกลนคร เราจะขึ้นรถไปนครพนม ตอนนั้นรถไม่มีมาก เรามารอกับโยมที่จะขึ้นรถ มีผู้หญิงคนหนึ่ง ถนนไปอย่างนี้ นี่กองรักษาการตำรวจ ก็มีตำรวจคนหนึ่งยืนอยู่นี่ ไม่ทราบว่าเขายืนธรรมดาหรือยืนยาม มันอยู่หน้ากองรักษาการ เห็นผู้หญิงมานี้ เดินผ่านมานี้

เราก็ไม่รู้ว่าเขาสนิทกันมาแต่เมื่อไร พอเดินผ่านมานี้ ตำรวจคนนี้ก็บอก หยุด บอกผู้หญิงคนนี้ หยุด ผู้หญิงคนนี้ก็เดินเรื่อยไป หยุด หนักเข้าๆ เขาก็เดินเฉย บอกให้หยุดไม่หยุดเหรอ เสียงดังลั่นขึ้นเลย เรานึกมันเกิดอะไรขึ้น ต่อจากนั้นเขาก็บอก ไม่หยุดก็ไปเสียซี หมดท่า อ๋อ มันอย่างนี้เอง บอกหยุดไม่หยุดเหรอ ไม่หยุดก็ไปเสียซี โอ๊ย หมดท่า เรางง นั่นละกิริยาเขาหยอกกันเขาเล่นกัน จนเรางง เหมือนจะมีเรื่องจริงๆ เราก็ไม่รู้เรื่องเขา ผู้หญิงคนนี้ไม่ตอบเลยนะ เดินเฉยเลย ทางนั้นมีแต่ขู่ฟ่อๆ บอกให้หยุดไม่หยุดเหรอ ไม่หยุดก็ไปเสียซี หมดท่าเลยเรา

ของเอามาที่ศาลาใหญ่ พวกข้าวสาร พวกอะไรๆ เต็มอยู่ที่ศาลาใหญ่ วันพรุ่งนี้ทางเวียงจันทน์เขาจะมารับไป เราแจกทานทางเวียงจันทน์ เกี่ยวกับโรงพยาบาลก่อน แล้วทีนี้ก็กระจายออกไป ทางโรงพยาบาลเราเคยแจกไปหนหนึ่งแล้วพวกอาหาร นี่เป็นหนที่สอง ทีแรกเขามาติดต่อขอเครื่องมือแพทย์ เครื่องมือตา เราก็เห็นใจเพราะเวียงจันทน์เป็นเมืองหลวง โรงพยาบาลขาดแคลนมากว่างั้น เราเลยไปดูเอง ที่โรงพยาบาลไปดู เขาขอเครื่องมือตา เราไปก็บอกให้เขาบอกมาเลยเทียว มีความจำเป็นอะไรเขาบอกลำดับๆ มา แล้วมีอะไรอีกเรื่องตาที่ขอมา ว่ามีเท่านี้ละ ให้หมดเลย ๘,๕๘๐,๐๐๐ บาท แต่การส่งมามันไม่พร้อมกัน สั่งหลายบริษัท เดี๋ยวบริษัทนี้ส่งมาๆ เราก็เลยให้พวกอาหารการกิน ข้าวสาร เครื่องอะไรต่ออะไรไป

คราวนี้จึงตั้งใจสั่งให้เอารถสิบล้อมาสามคันเลย เราจะให้เต็มทุกคัน ของเอามาไว้ที่ศาลาใหญ่ วันนี้เขาจะเอามาเพิ่มอีก รถเขาจะมาสามคันวันพรุ่งนี้เช้า เราก็เตรียมไว้สำหรับวันนี้ พอพรุ่งนี้เช้าก็ขึ้นเลย สามคันรถสิบล้อ สงสารจะว่าไง สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลาย มีใกล้มีไกลที่ไหน ครอบโลกธาตุ สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น ครอบเลย ตรงไหนก็มีความจำเป็นขัดข้อง ซึ่งต้องอาศัยกันและกันตลอดทั่วโลกนี้เลย เราพอมีโอกาสบ้างก็จะช่วยเขาคราวนี้ คราวก่อนก็ช่วยแล้วทางเวียงจันทน์ชุดหนึ่ง ดูเหมือนจะได้สักสิบปีมั้ง อันนั้นก็ช่วยเยอะ ทั้งเอกซเรย์ ทั้งรถยนต์ รถคนไข้ และสร้างตึกให้โรงพยาบาลสามหลัง จากนั้นก็ส่งของให้ อันนั้นก็เอาเต็มเหนี่ยวเหมือนกันส่งของ เราไปเองนะนั่น ส่งของข้าม เขาให้ความสะดวกเตรียมพร้อมไว้เลย รถเราไปนี้ไม่ต้องถ่ายต้องเทให้ขึ้นเลย  พอรถเราไปลงเรือแล้วก็ขึ้นเลยๆ ไม่ใช่น้อยๆ นะหลายคัน สิบล้อๆ ส่งอาหารการกิน พวกเครื่องกระป๋อง พวกข้าวพวกอะไร อันนี้ก็เอาเต็มเหนี่ยว จากนั้นมาก็วางระยะห่าง นี่พึ่งมาเกี่ยวข้องกันตอนนี้ เขามาขอเครื่องมือแพทย์ จึงเริ่มช่วยอันนี้อีก

วัดนี้คนมากอยู่ตลอดเวลา จึงต้องได้รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของทางศาสนา ของวัด เพราะฉะนั้นจึงต้องมีดุมีด่ากันบ้าง คนไม่รู้ภาษีภาษาเก้งๆ ก้างๆ พลุกๆ พล่านๆ ไปได้ทุกแห่ง อย่างนั้นละ ถูกไล่ออกมา มันไม่รู้ภาษีภาษา คนที่รู้ก็ไม่ได้ว่ากันเขารู้เรื่องแล้ว เห็นเขามาก็มา มาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร นี่เรียกว่าอนุโลมที่สุดแล้ววัดนี้ อนุโลมต่อประชาชนที่เขามาเกี่ยวข้อง ตลอดถึงพระได้อนุโลม ที่เข้มงวดกวดขันเหมือนอย่างแต่ก่อนมันก็ลดของมันไปเอง ไม่ใช่ตั้งใจลดมันหากเป็นของมันเอง

อย่างทุกวันนี้จุ้นจ้านๆ แล้วไม่จุ้นจ้านธรรมดานะ คือเราออกมาไม่ได้ ต้องอยู่ในห้องขังคือกุฏิ ออกจากนั้นก็เข้าทางจงกรมอยู่นั้น ออกมาข้างนอกไม่ได้ ออกมามันรุมเอาเลย คนนั้นหลวงตา คนนี้หลวงพ่อ หลวงพ่อก็หลวงพ่อองค์เดียวกัน หลวงตาก็หลวงตาองค์เดียวกันมันรุมกันเลย นั่นเห็นไหมล่ะ อยู่ที่ไหนรุมกันเลย ออกมาไม่ได้ ต้องอยู่ในกุฏิ แม้อย่างนั้นก็ยั้วเยี้ยๆ อยู่ตลอด เขามาแค่นี้เขาออกของเขาเราไม่ว่าอะไรละ ตอนค่ำตอนหมดเวล่ำเวลา เพราะวัดนี้มีกฎมีระเบียบตามหลักธรรมหลักวินัย ตอนค่ำยังมาเพ่นพ่านๆ

เราจะออกดูกิจการต่างๆ ภายในวัดนี้จะออกได้ตอนเย็น ตั้งแต่ ๕ โมงเย็นล่วงไปแล้วถึงจะออกมาได้ เวลาคนเบาบางไปแล้วค่อยออกมา ถึงอย่างนั้นยังเต็ม ไหลเข้าไหลออก หมดเวลาจนค่ำแล้วยังไหลเข้าไหลออก ทีนี้ก็เขียนประกาศติด อย่างนั้นแล้วออกมาทีไรยังเพ่นพ่านๆ ทีนี้ก็ต้องปิดประกาศเอาปากออก ปิดประกาศเลย ไล่แตกฮือๆ เลย มันไม่มีเวล่ำเวลา จนจะมืดยังไหลเข้ามา มาเที่ยวเพ่นพ่าน มาดูวัดดูวา ไม่ได้มาเป็นกิจเป็นการอะไร ก่อนที่จะไล่ถามเสียก่อน มาธุระอะไร ถามได้เหตุได้ผลแล้ว มาเที่ยวเก้งก้างเฉยๆ ไปออก ทีนี้เอาเลยนะ ไม่มีหน้าอินทร์หน้าพรหม หลวงตาถ้าลงได้ออกไม่มีหน้าอินทร์หน้าพรหม ดะไปเลย ไล่แตกฮือๆ

มีผู้รักษานะนี่ รักษาความเรียบร้อยเพื่อเป็นคุณเป็นประโยชน์แก่โลก ผู้มาทำลายมันเกิดประโยชน์อะไร มาหาอะไร ไปออกเดี๋ยวนี้ ไม่มีหน้าอินทร์หน้าพรหมนะถ้าลงได้ถามไม่มีเหตุมีผลแล้ว ไล่เดี๋ยวนั้นเลย แตกฮือๆ ออก ไม่ใช้น้อยๆ ได้ไล่อยู่เรื่อย คือมันผิดเวลา เดินด้อมๆ ออกมายังหลั่งไหลเข้ามา เวลาถามหาเหตุหาผลไม่ได้ มาเที่ยวเฉยๆ มาดู นี่ละถูกไล่ตรงนี้ ถ้ามีเหตุมีผลเราไม่ว่า จะค่ำจะมืดก็ไม่ว่า มาตามนิสัยเก้งก้างๆ นิสัยไม่มีหลักเกณฑ์ สำคัญนะ ไม่มีหลักมีเกณฑ์ ศาสนาท่านมีหลักมีเกณฑ์ นอกจากพระผู้ปฏิบัติ เช่นนักบวชเป็นอันดับหนึ่งของศาสนา เป็นลูกตถาคต เรียกว่าลูกผู้พี่ว่างั้นเถอะ ถ้าไม่ปฏิบัติ เพ่นพ่านๆ พระก็เสีย ศาสนาก็เสีย พระเป็นอันดับแรกที่จะต้องปฏิบัติให้ตรงตามหลักธรรมหลักวินัย แล้วตัวเองก็ร่มเย็น ผู้มาเกี่ยวข้องก็ร่มเย็น ชื่นตาชื่นใจ

ไอ้แบบที่เลอะๆ เทอะๆ ยั้วเยี้ยๆ ไม่มีวันมีคืน ไม่มีขอบเขต ทางพระเองก็ไม่มีขอบเขต ทางฆราวาสเองก็ไม่มีขอบเขต มันก็เหมือนกับส้วมกับถานจะว่าไง ดีอะไรส้วมถาน ส้วมถามมันเต็มด้วยมูตรคูถ มูตรคูถคือผู้ปฏิบัติเหลวแหลกแหวกแนว ส้วมถานก็เป็นที่บรรจุ เหมือนอย่างวัดนี้เป็นที่บรรจุของพระเณรที่เลอะเทอะ วัดนี้ก็เรียกว่าส้วมว่าถาน พระเณรก็เป็นมูตรเป็นคูถเต็มวัดดูได้ยังไง ศาสนาไม่ใช่ส้วมใช่ถาน ปฏิบัติให้ตรงตามนั้นแล้วก็งามตางามใจภายนอกก็ดี พาหิรชนเขาก็ไม่ต้องติ ตัวเองก็ไม่ได้ต้องติตัวเอง ชุ่มเย็นตลอดเวลา

เพราะฉะนั้นวัดจึงเป็นสถานที่มีขอบเขต และผู้ปฏิบัติมีขอบเขต มีหลักธรรมหลักวินัยเป็นเครื่องดำเนิน อย่างอื่นไม่มีอะไรยิ่งกว่านี้ หลักธรรมหลักวินัยเลิศเลอสุดยอดแล้ว อย่างอื่นอย่างใดมาก็ให้เป็นการมาส่งเสริมมาเคารพบูชา อย่างเขามาถวายเงินนี่ เขาเองนะทำหน้าศาลา เขาตั้งกองบริจาค เราไม่เคยมาสนใจกับสิ่งเหล่านี้ เมื่อไม่ขัดข้องอะไรนักเราก็เป็นเพียงดูไปอนุโลมไป เขาบริจาคที่นั่น เพราะเงินทั้งหมดเอามานี้เราก็ออกช่วยชาติทั้งนั้น เราไม่สนใจกับเงินกับทอง พูดให้ชัดเจน ไม่สนใจ มีแต่ได้มาเท่าไรออกๆ

ถ้าหากเห็นว่าพอเหมาะพอดีสมควรเราก็ไม่ว่าอะไร ทีนี้ครั้นทำมาๆ จนค่ำจนมืดยังยืนเก้งก้างๆ ผู้มาบริจาคก็มี ผู้เก้งก้างๆ ก็มี มันขัดต่อหลักธรรมหลักวินัย เพราะหลักธรรมหลักวินัยมีคุณค่าสูงยิ่งกว่าเงิน เอาตรงนั้น บอกให้ลงอยู่ในระดับพอดี ทีนี้เมื่อมองดูเวลาก็สั่งแล้วนี่ ที่ศาลานี่ปรกติให้เลิก ๔ โมงเย็น หากว่ามีความจำเป็นเกี่ยวข้องกับผู้บริจาคมาบริจาค ก็อนุโลมไปถึง ๔ โมงครึ่ง พอ ๔ โมงครึ่งแล้วจะมีเท่าไรให้เลิก บอกเลย ต้องถือกฎเกณฑ์ของวัดของวาของศาสนาของพระของเณรครูบาอาจารย์เป็นหลัก

เราจะเอาคนบุคคลมาเป็นหลักไม่ได้ สมบัติเงินทองข้าวของไม่ได้ใหญ่กว่าธรรม ธรรมนี้เลิศเลอยกสัตว์โลกให้พ้นจากทุกข์ถึงนิพพานมีเท่าไร ผู้จะไปสวรรค์นิพพานชั้นไหนก็ถามซิน่ะ เอากันชัดๆ อย่างนี้เลย ไปสวรรค์แม้แต่ชั้นจาตุม มีตั้งแต่คนบุญไปอยู่สวรรค์ ชั้นนั้นๆ มีบุญสูงต่ำต่างกัน เพราะเลื่อนระดับไปตามบุญของตัวเอง ไม่มีใครสั่งย้ายโน้นย้ายนี้เหมือนข้าราชการทุกวันนี้ ข้าราชการทุกวันนี้เป็นยังไงโลกกับธรรม สกปรกมากราชการทุกวันนี้ ว่าให้มันชัด เอาธรรมมาสอนโลก นี้เป็นธรรมสอนโลกนะไม่ได้ว่าให้ผู้ใด ธรรมเป็นของสะอาด เราเป็นลูกชาวพุทธควรจะนำธรรมมาสั่งสอนบ้าง นี่เลอะเทอะสั่งย้าย อะไรไม่ถูกใจสั่งย้ายๆ ฟังซิมันฟังได้ไหม

เรื่องนี้เป็นเรื่องของแผ่นดิน กฎหมายบ้านเมืองปกครองแผ่นดิน ไม่ใช่จะเอามาเป็นอำนาจของตัวเองบังคับคนทั้งประเทศทั้งชาติ โดยอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ของตัวเองใช้ไม่ได้ มันขัดกันตรงนี้ หากว่าย้ายต้องมีหลักมีเกณฑ์ อันนี้ก็เหมือนกันสั่งให้เป็นธรรมทั้งนั้น นี่อนุโลม นี่ก็บอกว่า ๔ โมงเย็นให้เลิกกันทั้งหมด พระท่านจะได้ปฏิบัติธรรมสะดวกสบาย อย่ามาเพ่นพ่าน วัดนี้แต่ก่อนไม่มี เรื่องจะมาเพ่นพ่านนี้ไม่มี เรารับพระรับเพียงแค่ ๑๘ องค์เป็นอย่างมาก ประชาชนไม่มีมายุ่งเลย ครั้นต่อมาๆ ก็เห็นไหมล่ะ ไหลเข้ามาๆ อย่างนี้ เราก็ไม่ทราบว่าอนุโลมไม่อนุโลมมันก็เลยแหลกไปตามๆ กัน เพราะฉะนั้นจึงเตือนๆ

ไม่งั้นไม่รู้ว่ากฎเกณฑ์เป็นยังไง เห็นแต่ความยั้วเยี้ยๆ ยุ่มย่ามๆ ใช้ไม่ได้ วัดเลยกลายเป็นวัดยุ่มย่ามกลายเป็นวัดยั้วเยี้ย ใช้ไม่ได้ พระเณรก็เลอะเทอะไปหมด แล้วจะเอาอะไรมาเป็นหลักเป็นเกณฑ์มาเป็นสรณะ มาเป็นที่ชุ่มเย็นของจิตใจ เขามองเห็นพระก็ได้ชื่นตาชื่นใจเขาเพราะพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ สมณานญฺจ ทสฺสนํ การเห็นสมณะผู้สงบกายวาจาใจ ผู้มีศีลมีธรรมนั้นเป็นมงคลสูงสุด ท่านบอกไว้อย่างนั้น ทีนี้มาเห็นพระก็มีแต่พระแบบโกโรโกโสดูได้ไหมล่ะ ไปเป็นอารมณ์ขุ่นมัวในจิตใจเพราะมันแสลงหูแสลงตา กับพระที่ไปสัมผัสสัมพันธ์เข้า เห็นเข้าได้ยินเข้าแล้วไม่เป็นอรรถเป็นธรรม

คนที่เขามาแทนที่จะเป็นมงคลก็กลายเป็นเสนียดจัญไร ไปครุ่นคิดอยู่ กลางค่ำกลางคืนก็ไม่ได้หลับได้นอน เอ๊ พระนี้ทำไมเป็นยังงั้นๆ นั่นน่ะฟังซิ ไปเห็นแล้วเห็นพระท่านปฏิบัติดีไม่ต้องได้วินิจฉัย ชุ่มเย็นไปเลยๆ อย่างนั้นซิ เพราะฉะนั้นจึงรักษากฎระเบียบนี้ไว้ ตัวเองก็รักษาเข้มงวดกวดขันอยู่แล้ว ออกมาส่วนรวมขอบเขตตรงไหนที่ตัวเองรักษา เช่นอย่างเจ้าอาวาสเป็นผู้รักษารอบขอบชิดทุกอย่าง ก็ต้องได้กระจายออกไป เมื่อเป็นอย่างนั้นต้องได้แนะนำตักเตือนสั่งสอนกัน ไม่เช่นนั้นเลอะเทอะหมด ไม่ว่าวัดไม่ว่าบ้านเหมือนกัน วัดก็เลอะเทอะไปแบบหนึ่ง ชาวบ้านก็เลอะเทอะไปแบบหนึ่งตามเรื่องของเขา แต่เขาไม่มีกฎเกณฑ์แต่พระนี้มีกฎเกณฑ์ มาเลอะเทอะเหมือนชาวบ้านเลวกว่าชาวบ้าน นั่น นี่ที่รักษา

ที่เขาว่าหลวงตาบัวดุ ดุเพื่อความเสียหายที่ไหน ดุเพื่อให้เป็นคนดีต่างหาก มันไม่ดีตรงไหนก็ดุๆ คำว่าดุคือว่าพูดแรง พูดดุด่าว่ากล่าวเหมือนว่าจะกัดจะฉีกนั่นละ ความจริงมันเหมือนฟ้าร้องเปรี้ยงๆ ข้างบน เอ๊ย นี่ๆ เสียงฟ้าร้องแล้วนะหาอะไรมารองนี่ฝนจะตก นี่เสียงฟ้าเสียงธรรมก็เป็นอย่างเดียวกัน ออกมายังไงก็ชุ่มเย็นไปหมด ไม่ได้เป็นเสนียดจัญไรต่อผู้ใดเลยสำหรับธรรม นี้ก็นำธรรมประเภทนี้มาสอนโลก เราเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ในหัวใจของเรา หัวใจของเราไม่มีอะไรแล้วเราก็บอกไม่มี

เวลามันมีจนกระทั่งจะเป็นจะตายสู้กับกิเลสน้ำตาร่วงก็มี นี่กิเลสมันหนาแน่นมันเอาเรา ทีนี้เราฟัดกิเลสเอากันจนกระทั่งถึงขั้น... แต่ไม่ได้สำคัญตนนะ ฟาดจนกิเลสหมอบราบไปหมดค้นหาที่ไหนไม่เจอๆ เหอ นี่มันไม่ใช่เป็นพระอรหันต์น้อยๆ ขึ้นมาแล้วเหรอว่าเฉยๆ สักเดี๋ยวก็โผล่ขึ้นมาก็ซัดกันอีกๆ จนกระทั่งฟาดกิเลสขาดสะบั้นลงไปหมดไม่มีอะไรเหลือภายในใจเลย สว่างจ้าครอบโลกธาตุ เลยไม่ถามหาว่าอรหันต์น้อยอรหันต์ใหญ่  อยู่อย่างนี้ละ นี่ละจิตดวงนี้ที่มาสอนพี่น้องทั้งหลาย ไม่มีโทษแต่อย่างใด ที่แสดงออกมาเป็นกิริยาของธรรมล้วนๆ กรุณาท่านทั้งหลายทราบเอานะ

เพราะใจดวงนี้ไม่มีโทษแม้เม็ดหินเม็ดทราย มีแต่คุณมหาคุณล้วนๆ เต็มหัวใจ แสดงออกมาจากหัวใจก็กระแสของธรรมเพื่อความร่มเย็นแก่โลก ผิดพลาดประการใดแนะนำสั่งสอน ดุด่าว่ากล่าวหนักเบามากน้อย ตามเหตุผลที่ควรจะหนักจะเบา เหมือนเขาถากไม้ ตรงไหนที่ตรงแล้วเขาก็ถากเรียบๆ ตรงไหนที่มีคดมีงอเขาก็ถากหนักมือ อันนี้ควรจะดุจะด่าก็เท่ากับหนักมือที่มันคดมันงอ คนเราไม่เหมือนกันเรียบๆ ก็มีคดงอก็มี คดงอมากจนเอาไว้ไม่อยู่ปล่อยเลยอย่างนั้นก็มี อย่างพระพุทธเจ้าท่านปล่อยเลยก็มี พวกปทปรมะปล่อยเลย ทางหมอเขาไม่ปล่อยนะ เข้าห้อง ไอ.ซี.ยู เขาก็ต้องรักษาเป็นมารยาทของหมอ พระพุทธเจ้าท่านไม่สอน ปล่อยเลย ชักสะพานไม่เอาถ้าถึงขนาดแล้ว

นี่ละการสอนมีแง่หนักแง่เบา จนกระทั่งถึงเอาไว้ไม่อยู่ก็ปล่อยเลย อัปเปหิ ขับหนี ถ้าเป็นพระขับไม่ให้อยู่ในวงคณะ มันจะแปดเปื้อนส่วนใหญ่ ทำความเสียหายแก่ส่วนใหญ่ อย่างอวัยวะของเราเป็นของเราทั้งนั้นรักเสมอกันหมด ทีนี้นิ้วมือของเรานิ้วใดที่เป็นพิษเป็นภัยเป็นโรคร้ายอยู่ในนี้ จะรักขนาดไหนก็ตามถ้าปล่อยไว้มันจะเข้าสู่ส่วนใหญ่ จะทำส่วนใหญ่ให้เสียก็จำเป็นต้องตัดออกทั้งๆ ที่รักนั้นแหละ อันนี้บรรดาผู้ชั่วทั้งหลายก็รักเหมือนกันสงสารด้วยกันๆ แต่เอาไว้ไม่อยู่ ถ้าปล่อยไว้จะลุกลามเข้าไปหาส่วนใหญ่เสียหมด เพราะฉะนั้นต้องขับออก เท่ากับเราตัดนิ้วมือออกนั้นเอง นั่นมีหลายขั้นนะ ธรรมะท่านสอนอย่างนั้น ท่านไม่ได้มีคำว่าเสียหายนะท่านสอน ให้พากันไปปฏิบัตินะ

แล้วขอพูดตรงๆ เลยว่า ไม่มีพระองค์ไหนเทศน์อย่างนี้ ทั่วประเทศไทยเรายังไม่เคยมี มีแต่หลวงตาบัวองค์เดียวเทศน์ เทศน์อย่างนี้คือว่าตรงไปตรงมาตามอรรถตามธรรม ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมหลายสันหลายคมประจบประแจงไม่มีเรื่องธรรม ถ้าอย่างนั้นเป็นโลกไปหมดเชื่อถือไม่ได้ไว้ใจไม่ได้ ธรรมต้องตรงไปตรงมา ใครจะชมเชยสรรเสริญติฉินนินทาก็เป็นเรื่องของปากเขาความติของเขา แต่ธรรมเป็นบทเป็นบาทตายตัวได้แล้วที่โลกจะยึดถือให้เป็นประโยชน์เป็นคุณมหาคุณแก่ตน สอนธรรมอย่างนั้นลงไป ผู้ที่มีนิสัยใจคอก็ได้สติสตังไปคิดไปอ่าน และประพฤติปฏิบัติตัวให้ดีขึ้นไปโดยลำดับ ผู้เข้าห้อง ไอ.ซี.ยู. มันไม่ฟังเสียงอะไรก็ปล่อยเสียไม่ไปสนใจสอน เป็นอย่างนั้นนะการสอนโลก

เราจึงพูดว่าไม่มีใครที่จะสอนอย่างหลวงตาบัว อันนี้เอาธรรมล้วนๆ ออกสอน ไม่เคยที่จะไปรักผู้ใดชังผู้ใด ไม่มีคำว่าเอนว่าเอียง ตรงไปตรงมา ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูกทั่วโลกดินแดน ในโลกของเราเมืองไทยของเรานี้ จนกระทั่งถึงรัฐบาล รัฐบาลก็ไม่เหนือธรรม ธรรมสอนได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นธรรมจึงสอนไปได้ทุกแห่ง เขาจะว่ามาเล่นการบ้านการเมือง การบ้านการเมืองอะไรมันการส้วมการถานต่างหาก เอาธรรมมาสอนโลก ธรรมที่สะอาดชะล้างสิ่งสกปรก จะว่ามาเล่นการบ้านการเมืองอะไร ธรรมท่านไม่มาเล่นกับส้วมกับถานท่านสะอาดพอแล้ว ท่านชำระส้วมถานต่างหาก มาหาว่าท่านเล่นการบ้านการเมือง

การบ้านการเมืองมันวิเศษวิโสมาจากไหน ถ้าวิเศษวิโสทำไมจึงต้องตักเตือนกันได้ผิดได้ให้ตักเตือนกันได้นั่นซิ มันเตือนกันได้อยู่พอเตือนกันได้ ถ้าจะยอมรับก็ยอมรับ ถ้าไม่ยอมรับเมืองไทยแหลกได้ เพราะเป็นหัวหน้าก็คือรัฐบาลเลวไม่ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ไม่ฟังเสียงประชาชนพลเมืองทั้งประเทศ ซึ่งเขายกให้เป็นรัฐบาลก็คนทั้งประเทศยกขึ้น ไปหย่อนบัตรเป็นยังไงทั่วประเทศมีใครเว้นได้เมื่อไร มีอาชญาบังคับไว้เลยต้องไปหย่อนบัตร

หย่อนบัตรเพื่ออะไร หย่อนบัตรเพื่อจะหาคนดี เมื่อเขาหย่อนบัตรให้คนนี้เขาว่าคนนี้ดีก็ยกขึ้น ยกขึ้นแล้วมาเหยียบหัวเขาเขาก็ว่าเอาซิ เขายกขึ้นไปเป็นรัฐบาลแล้วมาเหยียบหัวเขาได้เหรอ ประชาชนเป็นผู้ยกรัฐบาล รัฐบาลไม่ได้ใหญ่กว่าประชาชนนะ ประชาชนยกรัฐบาล มิหนำซ้ำเมื่อเหตุผลกลไกที่ควรจะล้มรัฐบาลประชาชนล้มได้ เพราะรัฐบาลนี้ไม่พึงปรารถนาเป็นมหาภัยต่อชาติไม่ควรที่จะเป็นผู้นำต่อไป ประชาชนยกขบวนขึ้นใส่รัฐบาล รัฐบาลตกได้นะ นี่เราพูดตามสายธรรม ส่วนกฎหมายบ้านเมืองมีหรือไม่มีก็ตาม พูดตามสายธรรมเราพูดอย่างนี้ เพราะฉะนั้นธรรมจึงเข้าได้หมด สอนได้หมดธรรมไม่มีเว้น

เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหม สอนได้ทั้งนั้นธรรม ไม่ว่าแต่มนุษย์เราเท่านี้เลย เทวบุตรเทวดาเขายอมรับๆ ทำไมมนุษย์จะเก่งกว่าเทวบุตรเทวดา เก่งกว่าธรรมที่ไหนมาถึงสอนไม่ได้แตะไม่ได้มีอย่างเหรอ ให้พากันพิจารณาเอานะ เอาละพูดไปพูดมาก็เหนื่อยแล้วละ ต่อไปนี้จะให้ศีลให้พร เอ้อ รถเอาไปแล้วนะ เอาไปใช้ให้เป็นผาสุกเย็นใจนะ นี้ก็แจกทางโน้นแจกทางนี้รถนะ เวลานี้ได้ทราบว่าทางรัฐบาลเขาจะให้รถมาเท่าไรคัน (๒๓๒ คันครับ) เอ้อ ของอะไรทางรัฐบาล (ของกระทรวงสาธารณสุขครับ งบประมาณกระทรวงสาธารณสุขครับ) เอ้อ งบประมาณกระทรวงสาธารณสุขเขาจะแจกจ่ายออกมาทางโรงพยาบาลต่างๆ ดูว่า ๒๓๒ คัน

เรามันไม่มีกำหนดแหละ มันเหนือรัฐบาล เขามีงบประมาณเท่านั้น ที่คนมาขอมันมากกว่านั้น รถนี้มีสองร้อยสามร้อย คนมาขอเป็นพันๆ หมื่นๆ จะไปคอยแต่งบประมาณประชาชนก็ตาย เพราะฉะนั้นใครมาขอเราพอมีเงินช่วยได้เราช่วยเลยๆ ไม่ต้องดูรัฐบาล เรามันใหญ่กว่ารัฐบาล ให้เลยๆ อย่างเหล่านี้ละให้เรื่อยเลย ให้เรื่อยไม่ได้ฟังเสียงรัฐบาล ถ้าฟังรัฐบาลเขามาขอทำไม ก็แสดงว่ารัฐบาลบกพร่อง เรามีสมบูรณ์ตรงไหน สมบูรณ์ควรจะให้รถนี้คันหนึ่ง สมบูรณ์คันหนึ่ง เอา ให้คันหนึ่ง ถ้าสมมุติสองคันเราจะให้สองคันเข้าใจไหม ให้พากันจำเอานะลูกหลาน เอาละทีนี้จะให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก