เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

คนไหนดีจะคัดออก

         (ผู้กำกับ อ่านหมายนิมนต์ประชุมพระสงฆ์ กรณีการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๘ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ศาลาใหญ่ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อเผดียงการดำเนินการ ตลอดจนขั้นตอนในการที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และปฏิบัติต่อนายวิษณุ เครืองาม ให้เป็นไปตามกฎหมาย)

มันเก่งมาแต่ไหนแต่ไรแหละนายวิษณุนี่ มันออกหน้าออกตาทุกแบบทุกฉบับ ทั้งที่ลับที่แจ้ง ออกได้ตลอดคนๆ นี้ เราจับดูด้วยธรรม เราไม่ได้หาเรื่องหาราว ทุกเรื่องทุกราวมันจะสอดจะแทรก ทั้งอยู่เบื้องหน้าทั้งอยู่เบื้องหลัง มันเป็นใหญ่ทั้งหมดนั่นแหละ ทั้งพระสงฆ์ทั้งราชอาณาจักรไทยเรา มันเอาอำนาจของมันไปครอบไว้หมด นี่ก็เป็นอำนาจของมันมาตั้งอะไร (ย้ายผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขครับ) อันนี้เขาก็วิจารณ์กันมากอยู่นะเวลานี้ เขากำลังวิจารณ์กันอยู่ วิจารณ์เข้ามาก็มาหาเรา มาปรึกษาหารือกับเรา เขาวิจารณ์กันเรื่องนายวิษณุนี่

(ครับ อยู่เบื้องหลัง แต่ที่อ่านตะกี้นี้เกี่ยวกับคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นายวิษณุ เป็นคนลงนาม) นี่เป็นคนลงนาม มันเก่งไปอย่างนั้นแหละ คนๆ นี้เก่งไปทางนั้น เก่งไปทางการทำลาย ไม่ได้เก่งไปในทางส่งเสริม เราฟังมาตลอด เราพูดอย่างนี้ละ นายวิษณุตั้งท่าอะไรมาสู้กับเรา มาสู้อะไรกับเรา เราเอาธรรมมาพูด สู้ก็สู้กับธรรมซิเราว่างั้น จะมาสู้อะไรประสาหลวงตาบัว สู้กับธรรมซิ เราพูดนี้เราเอาธรรมมาพูดเราว่างั้น เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ มันเป็นอยู่ตลอดนะ สอดแทรกทางนั้นทางนี้ ตั้งแต่วิทยุของเราออกอรรถออกธรรม มันก็กีดกันขัดขวางท่านั้นท่านี้ตลอด เดี๋ยวจะไปโดนเครื่องบินกองทัพอากาศบ้างอะไรบ้าง เวลาถามทางโน้นเขาว่าไม่มีอะไรกระทบ แน่ะ เป็นเรื่องมันแต่งขึ้นมา

ลิ้นมันแหลมนะ แต่แหลมเพื่อกัดชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คนๆ นี้แปลกอยู่มากนะเราพูดให้ชัดๆ เลย เรื่องธรรมพูดให้ชัด นายวิษณุนี้แปลกคนทั้งหลาย เกี่ยวกับเรื่องการทำลายนี้ยกให้เป็นที่หนึ่งเลย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มันเข้าไปได้ทั้งนั้น เข้าไปเหยียบทางโน้นเหยียบทางนี้ เดี๋ยวนี้กำลังทางศาสนา ธรรมที่แสดงออกไปที่ไหนไม่ได้นะ มันจะหาอุบายวิธีการ เช่นอย่างเทศนาว่าการออกทางวิทยุ มันจะตั้งกฎเกณฑ์ทางวิทยุไว้อะไรบ้าง ให้สูงเท่านั้นให้สูงเท่านี้ (เสาสูง ๓๐ เมตร เครื่องส่ง ๓๐ วัตต์ ระยะทางไกลไม่เกิน ๑๕ กิโลเมตร)

อย่างนี้ละ มันเที่ยวทำไว้อย่างนี้ ให้พี่น้องทั้งหลายทราบนะ เราพูดจริงๆ โดยความเป็นธรรม เราไม่เคยกล้าเคยกลัวกับใครในโลกอันนี้ ข้ามไปหมดแล้วเราพูดจริงๆ หัวใจเราข้ามหมดแล้ว เราจะเอาธรรมที่ข้ามหมดแล้ว โลกุตรธรรมนี้มาแสดงแก่โลก ใครสกปรกโสมมให้แก้ ไม่แก้การต่อสู้ธรรมก็เท่ากับขับรถชนภูเขานั่นแหละ เป็นยังไงขับรถชนภูเขา อะไรจะเสียหาย นี่เรื่องของคนอึ่งอ่างที่อวดตนว่าเก่งว่ากล้า ชนภูเขาชนอรรถชนธรรม อย่างไรก็ไปไม่รอดแหละ อันนี้ตัวสำคัญมากมันทำลายทุกแบบ มันอยู่ทั้งเบื้องหลังอยู่ทั้งเบื้องหน้า ส่วนมากจะอยู่เบื้องหลังๆ ไม่ค่อยออกตัวแหละ มันก็มาออกตอนที่นายกรัฐมนตรีมาฟ้องประชาชน ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้นน่ะ

เราก็เตือนไป ฟ้องหาอะไร เราเป็นพ่อของชาติบ้านเมือง แล้วมาฟ้องเด็กตาดำๆ ในบ้าน ก็เท่ากับพ่อกินลูกนั่นแหละ อย่าทำนะ ก็ว่างั้น ทางนี้ก็ออกมาป้องกันละซิ นายวิษณุออกมา พอออกมาจับตัวได้แล้วเท่านั้นก็ซัดกันเลย ออกมาแล้วตัวสำคัญเราว่างั้น เราไม่ได้ถอยใครนี่นะ มันอยู่ลึกๆ ลับๆ ตัวสำคัญนี้น่ะ เวลานี้มันออกทุกแง่ทุกมุม ทางศาสนามันก็ไปเป็นใหญ่เป็นโต ตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชมันก็เซ็น มันเป็นใหญ่เป็นโตมาจากไหน เป็นเรื่องของพระต่างหากที่จะปฏิบัติเรื่องของศาสนา มันมายุ่งหาอะไร ธรรมดาเรื่องของธรรมแล้วมายุ่งหาอะไร เป็นยังไงมันแสบไหมไอ้นี่ พิจารณาซิ

มันมีทุกแง่ทุกมุม ส่วนมากกับศาสนานี้จะมีแต่เหยียบย่ำทำลายเรื่อยไป แล้วคืบคลานเข้าไปทางพระมหากษัตริย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ก็เลยจะจมไปด้วยกัน ถ้าเชื่อมันเป็นไปตามมันก็เป็นอย่างนั้น นี่เขากำลังมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนายแพทย์จักรธรรมอีกแหละ เขาก็เข้ามานี้อีก เขาว่ามันให้อะไร รางวนรางวัลอะไร

(ผู้กำกับ ตอนนี้เขาย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข แต่เวลามีคนไปซักถามมากๆ เขาบอกว่า เดี๋ยวจะหาตำแหน่งสำคัญให้ ลักษณะเหมือนจะให้เงินเดือนเพิ่มขึ้น ชั้นสูงขึ้น ยังไม่ให้แต่ย้ายไปแล้ว) ตอนนี้ยังไม่ให้ นี่ละคนไหนที่เป็นคนดีๆ แล้วมันจะหาอุบายวิธีการหลอกลวงต้มตุ๋นแบบต่างๆ ว่าจะให้ค่าจ้างรางวัล ให้ตำแหน่งดีๆ เอาคนดีออกจากสถานที่ดี สำนักงานพระพุทธศาสนาเป็นของเล่นเมื่อไร ครอบทั่วประเทศไทย เราเกี่ยวกับพุทธศาสนาเราจึงพูดได้ซิ นี่จะเอาคนดีออกไป แล้วเอาคนชั่ว ก็เป็นคนของมันนั่นละจะเป็นคนของใครเข้ามาทำลายศาสนา คนนี้เป็นคนส่งเสริม เอาคนใหม่เข้ามา คนใหม่ก็คือคนทำลายนั่นละเข้ามาแทนๆ

คนไหนดีจะคัดออกๆ เอาไปฆ่าทั้งเป็นฆ่าทั้งอะไรทุกอย่าง อุบายวิธีการจะให้ตำแหน่งสูงๆ บ้าง จะให้เงินเดือนสูงๆ บ้าง หลอกไปๆ คือเครื่องประดับศพ ผู้ที่ถูกย้ายไปนั้นเท่ากับคนตายแล้วทั้งเป็นนั่นแหละ แล้วเครื่องประดับศพคือให้ยศอย่างนั้นยศอย่างนี้ ให้ค่าจ้างรางวัลอย่างนี้ๆ ประดับศพ จะเอาไปฆ่า ฆ่าแบบมีเกียรติ จะไม่ให้ใครรู้ จะไม่รู้ได้ยังไงมนุษย์เรา มันจะแหลมคมมาจากไหนว่ะ มันก็ต้องรู้ได้ เอาคนดีออกไปแล้วจะเอาคนชั่วมาแทน ตรงไหนคนดี จะเอาคนดีตรงนั้นแทนด้วยวิธีการต่างๆ อย่างแยบยลของมันแหละ แต่หยาบคาย สำหรับพุทธศาสนาแล้วหยาบคายมากทีเดียว ว่าใครจะตามไม่ทัน แล้วก็หาอุบายค่าจ้างรางวัล ตกตำแหน่งหน้าที่และยศถาบรรดาศักดิ์ให้สูงขึ้นๆ  หลอกเอาคนดีไปฆ่า เอาคนชั่วมาแทน เพื่อทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี้อุบายวิธีนี้กำลังออกจากคนๆ เดียวนี้แหละ เราได้ยินมาอย่างนี้จะให้ว่าไง มันน่าทุเรศไหมพี่น้องทั้งหลาย พิจารณาซิ

ไม่มีใครที่จะพูดได้อย่างนี้ มีแต่หลวงตาบัว สามโลกธาตุนี่หลวงตาบัวไม่เคยหวั่น ธรรมนี่พูดจริงๆ เหนือหมดแล้ว เราไม่ถือบาปถือกรรมกับใคร เราพูดตามหลักความจริงเป็นอย่างนี้ เขามาพูดให้ฟังอย่างนี้เราก็พูดอย่างนี้ ถ้าเราเห็นด้วยตาเราจะตีข้อมือเลยเทียว แต่นี้เราไม่เห็น มีแต่คนอื่นมาเล่าให้เราฟัง เราก็พูดตามคำบอกเล่าของเขา ถ้าเราเห็นต่อหน้าต่อตา เราจะเอาไม้ตีเอาเลย หรือสันมีดฟาดปึ๊งเลย ของผิดมึงไม่รู้เหรอ เข้าใจไหม แต่นี้เราไม่เห็นเราก็พูดตามนี้แหละ จึงเสียดายไม่ได้เห็นไม่ได้ยินด้วยตัวเองจากปากจากคำของมัน มีแต่บรรดาพี่น้องทั้งหลายที่มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องความวิตกวิจารณ์ที่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จะล่มจมเสียหายเพราะปากอันแหลมคมของมันนี้ เข้าใจไหมล่ะ แล้วมีอะไรอีกล่ะ

ผู้กำกับ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๘ ลงข่าวดังนี้นะครับ

                          หมอจักรธรรม งงย้ายก่อนกำหนด

เมื่อวานนี้(19 ต.ค. ) น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โดนย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขว่า ไม่ทราบเหตุผลที่โดนย้าย แต่รู้ว่าจะถูกย้ายตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  เรียกไปพบ แต่ไม่บอกเหตุผล  ขนาดนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยังถามตนว่า ทำไมถึงโดนย้าย และเท่าที่ทราบมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำวาระในการย้ายตนเข้าสู่การประชุม ครม.วันที่ 25 ต.ค. นี้ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้รีบนำเข้าในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา เหมือนกับว่ามีความผิดร้ายแรงต้องรีบย้าย ถ้าเป็นไปได้จะหาโอกาสเข้าพบนายกฯ เพื่อถามถึงเหตุผลในการย้าย

สงสัยมีไอ้โม่งล็อบบี้คำสั่งเด้ง

“ผมขอแสดงความยินดีกับองค์กรพุทธทั้งหลายที่เคยขับไล่ผม และขออโหสิในสิ่งที่ทำล่วงเกินลงไป แต่เชื่อว่าไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้นายกฯสั่งย้ายผม แต่คงมีใครสักคนที่มีเหตุผลและมีน้ำหนักพอไปบอกกับนายกฯ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากมีโอกาสคุยกับนายกฯซัก 5 นาทีก็ยังดี” น.พ.จักรธรรมกล่าว

’ปรีชา’ ออกตัวชอบงานท้าทาย

ด้าน นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา ซึ่งมีข่าวว่าเป็นตัวเก็งจะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแทน น.พ.จักรธรรม กล่าวว่า เริ่มดำรงตำแหน่งในกระทรวงวัฒนธรรม ก็อยากที่จะมี ตำแหน่งสูงสุดอยู่ที่กระทรวงวัฒนธรรม การทำงานด้านศาสนาทำให้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ถ้ามีโอกาสได้รับใช้พระพุทธศาสนาจะเป็นการดี ทั้งนี้ การจะไปดำรงตำแหน่งอื่นใดขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาเป็นหลัก ส่วนตัวชอบงานท้าทาย เพราะหากประสบความสำเร็จแล้วจะเกิดความภาคภูมิใจมากกว่า

’วิษณุ’ อ้างให้เตรียมรับเก้าอี้สำคัญ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเรื่องเดียวกัน ว่า ได้พูดกันมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่าจะขอตัว น.พ.จักรธรรมซึ่งเดิมเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขมาทำงานในตำแหน่ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพียง 1 ปีเศษ ต่อมามีอะไรหลายอย่างที่ น.พ.จักรธรรมไม่ค่อยสบายใจนัก จึงให้กลับไปสู่ ตำแหน่งเดิม ความจริงแล้วเตรียมเผื่อจะให้ น.พ.จักรธรรมไปทำอย่างอื่น อาจให้เตรียมรับตำแหน่งอื่นที่สำคัญต่อไป แต่ต้องให้กลับไปคุ้นเคยกับกระทรวงสาธารณสุขระยะหนึ่งก่อน เพราะทิ้งมาปีกว่าแล้ว อาจไม่รู้ว่าในกระทรวงเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ส่วนการแต่งตั้ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนใหม่นั้น ได้ยินว่านายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะใช้วิธีเปิดรับสมัคร และมีคณะกรรมการคัดเลือก

หลวงตา เข้าใจกันทุกคนแล้วมิใช่เหรอ ตำแหน่งสำคัญกว่าคือตำแหน่งอะไรล่ะ เก้าอี้อะไรเราก็ไม่ทราบ เอาไปพิจารณา บรรดาพี่น้องทั้งหลายไม่ใช่หมา เป็นคนด้วยกัน ผู้พูดก็เป็นคน ผู้ฟังก็คน ให้ฟังเสียงไปโดยลำดับลำดานะ มันจะออกแง่ไหนๆ สำหรับเรานี้ฟังโดยธรรม พิจารณาโดยธรรม เมื่อตรงไหนตรงกับธรรมเราจะพูดตรงเป๋งๆ ไปเลย คำว่าสะทกสะท้านในสามแดนโลกธาตุนี้บอกว่าเราไม่มี มีแต่ธรรมล้วนๆ ที่จะพูดออกตามความสัตย์ความจริง ให้ผู้เคารพนับถือธรรมทั้งหลายได้ไปเป็นคติเครื่องเตือนใจเท่านั้น ที่จะทำลายไม่มี...ธรรม แล้วมีอะไรอีกล่ะ

ผู้กำกับ นสพ.พิมพ์ไทยรายวัน ฉบับวันพฤหัส เขาขึ้นหัวข้อว่า

ย้าย ผอ.จักรธรรมด้วยเหตุใด ??

            เป็นธรรมดากับวงราชการงานเมือง เมื่อผลงานเกิดไม่เข้าตาก็ต้องย้ายให้ไปอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่เหมาะสมกว่า แต่การย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อย่าง “คุณหมอจักรธรรม ธรรมศักดิ์” ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชนิดสายฟ้าแลบแบบไม่มีเค้าลาง แล้วส่งให้ไปนั่งตบยุงในตำแหน่งผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข นับเป็นสิ่งที่จะต้องหาที่มาที่ไป

ย้ายทำไม ? ย้ายเพราะอะไร ??

เป็นคำถามที่ประชาชนทั้งหลายต้องการทราบ

ก่อนที่จะเกิดคำสั่งสายฟ้าแลบหลายชั่วโมง พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว  ญาณสัมปันโน พระกรรมฐานชั้นบรมครู(หลวงตา ชั้นบรมครูนี่ตัดออกเสียก็ได้นะ เอ้า ว่าไป) แห่งสำนักวัดป่าบ้านตาด ได้แสดงพระธรรมเทศนาโปรดญาติโยมหลังฉันจังหัน เวลาประมาณ 8 โมงเศษ ว่า “ไอ้พวกอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ กำลังเบ่งอำนาจป่าเถื่อนสั่งให้หมอจักรธรรมย้ายออกไป เพราะหมอจักรธรรมนี้เป็นคนของหลวงตาบัว ฟังซิน่ะมันฟังได้ไหม หมอจักรธรรมที่ทำงานอยู่สำนักงานพุทธศาสนา นี่จะสั่งให้ย้ายเพราะคนๆ นี้เป็นคนของหลวงตาบัว”

ใครที่ได้ฟังเทศน์หลวงตาเมื่อยามเช้าของวันพระออกพรรษา ก็ต้องเกิดอาการงงเต็กไปตามๆ กัน ทำไมหรือ ? ทำไมหลวงตาท่านจึงเทศน์เรื่องการจะโยกย้ายคุณหมอจักรธรรมออกมาได้แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หลวงตาท่านรู้ล่วงหน้าได้อย่างไร หรือว่ามีใครมายุแหย่ให้หลวงตาต้องเปิดศึกรบกับเรื่องที่เป็นเรื่องขึ้นอีก

หลวงตาท่านเทศน์อย่างหนักแน่น เหมือนกับจะมีการปลดคุณหมอจักรธรรมจริงๆ โดยหลวงตาท่านเทศน์ว่า “อย่างที่ว่าหมอจักรธรรมนี้เป็นคนของหลวงตาบัว มันฟังได้ไหม หมอจักรธรรมเป็นคนของประชาชนทั่วประเทศ นี่ถ้าเราพูดตามหลักธรรมแล้ว หมอจักรธรรมเป็นคนของประชาชน ไม่ใช่เป็นคนของหลวงตาบัว จะย้ายหมอจักรธรรมไม่ได้ ผิด จะกระเทือนเมืองไทยเราหมดเลย นี่เขาจะสั่งย้ายแบบไหน เขาจะต้มยำแบบไหน ด้วยอำนาจป่าเถื่อนเรายังไม่ทราบได้นะ เราคอยฟังไป เวลานี้กำลังแสดงฤทธิ์อำนาจป่าเถื่อน กำลังแสดงฤทธิ์ออกมาทางศาสนา เฉพาะอย่างยิ่งก็มาโดนหลวงตาบัวนี่ละ อะไรเอะอะก็ว่าคนหลวงตาบัว ถ้าเป็นคนหลวงตาบัวจะย้ายมันหมด จะต้มยำมันหมดเข้าใจไหม”

(หลวงตา ว่าเป็นคนของหลวงตาบัว หลวงตาบัวเป็นคนของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ทั้งหลายเป็นคนของพระพุทธเจ้า แนะนำสั่งสอนประชาชนทั้งหลายไป เหล่านี้เป็นพุทธบริษัทของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เป็นพุทธบริษัทหรือเป็นคนของหลวงตาบัว ไม่ใช่เป็นคนของพระสาวกองค์นั้นองค์นี้ แต่เป็นคนของพระพุทธเจ้า แล้วมาอ้างว่าเป็นคนของหลวงตาบัว เรียกว่าเลวที่สุด ว่างั้นเลย ประชาชนทั้งหลายเขาฟังไม่ได้เลย ว่าเป็นคนหลวงตาบัว มาถือหลวงตาบัวกับนายแพทย์จักรธรรมนี้เป็นข้าศึกต่อชาติ ไม่ได้เป็นข้าศึกต่อชาติ มันเป็นข้าศึกต่อมันเอง เข้าใจหรือ มันไปหาพูดอะไรอย่างนั้น เด็กอมมือเขาก็ไม่พูดว่าเป็นคนของหลวงตาบัว แล้วจะสั่งย้ายเก็บให้หมดก็ว่าได้ ทีนี้หลวงตาบัวเป็นคนของพระพุทธเจ้า และประชาชนทั้งหลายพุทธบริษัทก็เป็นคนของศาสดา ตกลงก็ถูกเก็บหมดพวกนี้น่ะ แล้วเป็นยังไงฟังได้ไหม เอา เอาแค่นี้เสียก่อน มันพูดฟังไม่ได้เลย พูดแบบถูลู่ถูกัง แบบอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ มาใช้กับประชาชนมันฟังไม่ได้นะ ประชาชนเขาไม่ใช่คนประเภทนี้ เอาว่าไปอีก)

ครับถ้าพิจารณากันโดยธรรมแล้ว ที่ผ่านมาคุณหมอจักรธรรมก็ไม่เคยที่จะไปทำบุญหรือฟังเทศน์ฟังธรรมต่อหน้าหลวงตาเลยสักครั้ง หลวงตาท่านจึงแสดงความสัตย์จริงออกมาชัดๆ ว่าคุณหมอจักธรรมไม่ใช่คนของหลวงตา

งั้นถูกย้ายเพราะเหตุอะไร ?

ก่อนอื่นต้องมาพิจารณาถึงความไม่ค่อยจะลงรอย กับสายอำนาจในวงการสงฆ์กันก่อน ซึ่งปรากฏชัดว่าคุณหมอจักรธรรมเคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในทำนองเหยียบตาปลา นอกจากนี้ยังเคยแสดงความนอบน้อมต่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯอย่างออกนอกหน้า อย่างเช่นการรับสนองฝ่าบาทในคราวเสด็จไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วัดประดู่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งทำให้เกิดเป็นข่าวครึกโครมตามมาว่า สมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้นมาก สามารถเสด็จยังที่ห่างไกลเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

กับอีกประการหนึ่งที่ถือเป็นประเด็นร้อนที่สุดก็คือ การถูกกล่าวหาว่าสั่งการไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ให้รวบรวมรายชื่อพระสังฆาธิการในพื้นที่เพื่อเสนอเลื่อนสมณศักดิ์ ในมงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งในประเด็นนี้ได้มีการกล่าวขานกันอย่างหนักว่าคุณหมอจักรธรรมคิดจะแย่งโควต้าสมณศักดิ์ไปจากขุมอำนาจเดิม

ทำตัวเป็นก้างขวางคอว่างั้นเถอะ !

ซึ่งก็สอดคล้องกับที่มีการเปิดเผยรายชื่อพระสังฆาธิการ ที่จะได้เลื่อนสมณศักดิ์ในมงคลวโรกาส 5 ธันวาคม หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมมส. เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม จนถูกสำนักพระราชวังแจ้งให้ทำหนังสือชี้แจงถึงความไม่บังควรในกรณีดังกล่าว

กับสิ่งที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือ การถูกกล่าวหาจากกลุ่มชาวพุทธกลุ่มหนึ่งว่า ไม่ทำการระงับยับยั้งการยื่นถวายฎีกาของหลวงตามหาบัวกรณีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว  อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และข้อกล่าวหานี้ก็ได้มีการร้องเรียนไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง

พอจะนึกออกหรือยังว่าถูกย้ายเพราะอะไร

                                                            ณ. หนูแก้ว

หลวงตา ตั้งปัญหาไว้ว่าหมอจักรธรรมถูกย้ายเพราะอะไร ถ้าให้พวกนั้นแก้เขาก็จะแก้ว่า เพราะเป็นคนของหลวงตาบัว เขาจะแก้ว่างั้น เพราะฉะนั้นจึงถูกย้าย แล้วคนอื่นจะแก้ว่าไง นี้ละพูดเรื่องสกปรกไม่มีเหตุมีผลอะไรเลย พูดหยาบโลนมากทีเดียว ออกแบบหยาบโลนใช้ไม่ได้เลย เราลืมที่อ่านผ่านไปๆ ว่าเราจะตอบตอนนั้น เลยผ่านไปเสีย มันฟังมันฟังไม่ได้นะ

ที่ว่าจะเอาหนังสือที่เรากราบบังคมทูลเหรอ ให้ยับยั้งหรืออะไร(มีกลุ่มหนึ่งเขาไม่พอใจที่หลวงตาถวายฎีกาในหลวงครับ) อันนี้มันน้อยไป ถ้ามีร้อยฉบับเราจะส่งไปร้อยฉบับ จะมายับยั้งอะไร เข้าใจไหมล่ะ เพราะทำด้วยความเป็นธรรมแท้ๆ อันนี้ก็พวกเปรตนั่นละให้ยับยั้ง กลัวหน้าผากมันจะแตก ให้ยับยั้งเอาไว้ ก็มีเท่านั้นแหละ โอ๊ย ฟังไม่ได้นะเวลานี้ ทุกอย่างที่ออกมา ไม่ใช่ที่ไหนนะ รัฐบาลหัวใจของชาติไทยเรามาแสดงตัวโหดร้ายทารุณต่อประชาชนมาเป็นลำดับ นับตั้งแต่นายกฯ ฟ้องคุณสนธิ ลิ้มทองกุล นี้ฟังไม่ได้เลย

เราจึงกระตุกกันทันที ทำไมพ่อคนทั้งแผ่นดินมากินลูกเจ้าของ เป็นไปได้ยังไง มิหนำซ้ำยังจะปรับห้าร้อยล้านหกร้อยล้านเท่าไรไม่มีความหมาย ปรับเท่าไรไม่มีความหมาย มันมีความหมายอยู่ที่ผู้ฟ้องนั่นละ จมทั้งเป็นเลย กระเทือนทั่วโลก เขาจะดูจุดนี้ต่างหากนะ อย่าไปฟ้องไม่มีประโยชน์อะไร ขายขี้เท่อตัวเอง เราก็บอกอย่างนั้น เอ้า เราพูดจริงๆ ก็มีเท่านี้ละ เราถ้าลงได้ออกไม่มีถอยใคร บอกตรงๆ เลยไม่มีถอยใคร สามโลกธาตุไม่เคยหวั่นกับอะไร เราเอาธรรมออกพูดทั้งนั้นนี่นะ เรื่องขี้หมูขี้หมาเหยียบไปเลย มันเปรอะเปื้อนตีนก็ไปล้างใหม่เสีย มีเท่านั้นละ วันนี้ดูไม่มีอะไร ตกลงอันนี้ก็เป็นการเทศน์ไปหมดแล้วนี่ ออกทั่วประเทศไทยแล้ว คำของหลวงตาบัวก็สอดเข้าไปๆ หมดแล้ว

ทองคำเช้าวันนี้ ๓๕ บาท ๗๙ สตางค์ (สาธุ) สี่ห้าวันมานี้ได้มากทุกวัน ตั้งแต่สิบบาทขึ้นไปเรื่อย ติดกันมาเรื่อยๆ มันจะเป็นกิโลๆ ละมั้ง พอใจ

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz