ความเมตตา เฉลี่ยเผื่อแผ่ทั่วถึงกัน
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2544 เวลา 8:00 น. ความยาว 39.3 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :
 

                                                         เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

                                                เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔

            ความเมตตา เฉลี่ยเผื่อแผ่ทั่วถึงกัน

สรุปทองคำ ดอลลาร์ วันที่ ๒ ทองคำได้ ๙ บาท ๒๕ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๗๐ ดอลล์ รวมทองคำทั้งหมดได้ ๒,๓๐๑ กิโลทั้งที่หลอมและยังไม่หลอม

เวลานี้เงินในโครงการที่จะได้หนุนเข้าธนาคารต่าง ๆ เวลานี้ไม่ค่อยมีนะ เตือนพี่น้องทั้งหลายให้ทราบ อย่าอ่อนอย่าเฉื่อยชานะ เวลานี้เงินสดที่พี่น้องทั้งหลายได้โอนเข้ามาตามธนาคารต่าง ๆ เรื่อยมานั้น ระยะนี้แทบจะว่าไม่มีนะ แต่การจ่ายด้วยความจำเป็นเพื่อชาตินี้จ่ายตลอดนะ ผู้จ่ายนี้เป็นผู้ที่จะหมุนทางด้านจิตใจพิจารณารอบด้าน สุดท้ายถ้าธรรมดาก็เรียกว่าร้อนเป็นไฟว่างั้นเถอะ พี่น้องทั้งหลายกรุณาทราบด้วยกันนะ เงินสดนี้หมุนรอบด้าน ส่วนทองคำเข้าเป็นจุด ดอลลาร์เข้าอยู่เป็นจุด ๆ โครงการที่เข้าไปแล้วก็เข้า แต่ที่จำเป็นที่จะต้องออกก็ยังมี เช่นอย่าง ๘๐๖ ล้านนี้เป็นจุดแล้วนี่ เราได้พูดอะไรแล้วจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เราตายแล้วก็ตามจะต้องปฏิบัติตามเราที่สั่งไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น ๘๐๖ ล้านนี้นะ จะเปลี่ยนเป็นทองคำเท่านั้น เงินที่นอกจากนั้นที่ว่าหมุนรอบด้านหนักอยู่เหมือนกันนะ หมุนเพื่อชาติของเรา

สำหรับจุดนี้ใครมาแตะไม่ได้ ๘๐๖ ล้าน ๖ ล้านกว่านี้ได้ตอนกฐินที่ผ่านมา เขาเรียกกฐินทองคำเพื่อชาติ เพราะฉะนั้นในกฐินทองคำเพื่อชาติที่เข้าในบัญชี ๖ ล้านกว่านี้เราคัดไว้เลยเพื่อทองคำทั้งหมด รวมแล้ว ๘๐๖ ล้านกว่าอันนี้อยู่เป็นจุด ส่วนเงินที่เป็นโครงการนอกจากนั้นหมุนช่วยโลก ทีนี้เงินที่จะเข้ามาเพื่อช่วยโลกเวลานี้ที่โอนเข้ามาในที่ต่าง ๆ จากทั่วประเทศไทยนี้ เวลานี้แทบจะว่าไม่มีนะ พี่น้องทั้งหลายให้ตื่นเนื้อตื่นตัวทุกคนนะ ผู้นำพี่น้องทั้งหลายคือหลวงตานี้หมุนติ้ว ๆ เพื่อพี่น้องทั้งหลายนั้นแหละ ไม่ใช่เพื่อใคร อย่านอนใจนะ ให้โอนเข้ามา ได้กี่บาทกี่สตางค์ก็ตามเพื่อชาติของเรา ๆ ทั้งนั้นแหละไม่ใช่เพื่อใครเพื่อชาติใดแหละ เวลานี้ก็อยู่จำนวนเก่าประมาณ ๘๕๐ กว่าล้านก็อยู่ที่นั่น แล้วเวลาจำเป็นยังถอนออกมาด้วยนะ ที่ ๕๐ กว่าล้านนี้ สำหรับ ๘๐๐ ล้านก็ได้เรียนให้ทราบแล้วว่าไม่แตะ แต่ ๕๐ กว่าล้านนี้หากจำเป็นก็จะแยกออกดังที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว มีความจำเป็นอยู่ตลอดอย่างนี้

บุญข้าวเปลือกคราวนี้ไม่ได้รบกวนพี่น้องทั้งหลายแหละ เพราะเอะอะก็เพื่อชาติ ๆ มันกระเทือนพี่น้องทั้งหลายอยู่ไม่หยุดไม่ถอย เราทำทุกอย่างเราคิดตลอดไม่ได้ทำเฉย ๆ นะ คิดส่วนได้ส่วนเสียความบอบช้ำอะไร ๆ เราคิดหมด แต่เมื่อจำเป็นตรงไหนก็ค่อยถูไถกันไปตามความจำเป็น ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่อยากรบกวน เพราะฉะนั้นปีนี้จึงงดข้าวเปลือกช่วยชาติ ที่เคยประกาศทั่วไปนั้นปีนี้งด ให้พักเครื่องเสียก่อน เพราะมันร้อนอยู่ตลอดเวลาแล้วชาติไทยของเรา ในช่วงสองสามปีมานี้ร้อนมากอยู่แล้ว สมบัติออกทุกทิศทุกทางเข้ามาสู่คลังหลวง เราเห็นใจนะ เราพิจารณาตลอดนี่ ข้าวคราวนี้จึงให้เป็นตามอัธยาศัยของชาวบ้านหรือของใครก็ตาม สำหรับชาวบ้านนั้นเป็นความมุ่งมั่นของเขาเป็นหลักเกณฑ์ตายตัว

สำหรับหมู่บ้านตาดนี้ ตั้งแต่ตั้งบ้านตาดมาเขาไม่เคยเว้นเลย มีปีเดียวปี ๐๗ เราไม่ลืมนะ ปีนั้นไม่ได้ทำนาเลย เขายังจะมาทำบุญข้าวเปลือก เอาอะไรมาเป็นข้าวเปลือกนาไม่ได้ทำ ก็พอซื้อหาซื้อ พอหาที่ไหนได้ก็หาเอา ไม่เอาว่างั้นเลย ปีนั้นเป็นปีตัดขาดเลย อย่าทำปีนี้ว่างั้นเลย ห้าม เราเป็นคนห้ามเอง ฟังกันทั้งบ้านนะ เราก็ไม่เคยห้ามใครสักทีปีนี้ทำไมจึงห้าม ให้ฟังเสียงนะ มีอยู่ปีเดียว ปีหลังมาเขาก็ขึ้นของเขาอีกตลอดมาอย่างนี้ ก็เขาเคยอย่างนั้น ข้าวไม่มีจะไปหาซื้อเอา ได้มากได้น้อยก็จะไปหาซื้อมาไม่ให้เสียปีเสียเดือนที่เคยทำมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย

เขายกปู่ย่าตายายมาก็น่าฟังดีเหมือนกัน รักษามรดกอันดีงามไว้ใช่ไหมล่ะ นี่เราเป็นคนตัดเอง มันไม่มี ก็ให้รู้หนักเบาซิเราว่าอย่างนั้นแหละ การเคยทำมันมีก็พอเป็นพอไป ปีนี้ไม่มีจะเอาอะไรมาทำ เราดูอยู่ตลอดเวลานี่ ห้ามขาดเลย ปีนั้นถึงเว้นไป ถ้าธรรมดาเขาจะโจมตีเรานะ แต่นี้เงียบหมดทั้งบ้านเลย เพราะเราห้าม ก็ไม่มีข้าวจะเอาอะไรมา ยังจะไปหาที่อื่นมา ไม่ให้เสียปีเสียเดือนเขาว่างั้น เราเลยต้องห้ามขาด มีปีเดียว นอกนั้นเขาทำเป็นประจำของเขา จะมีพระในวัดหรือไม่มีก็ตาม เขาจะไปนิมนต์พระที่อื่นมา ทำบุญข้าวเปลือกเสร็จแล้ว นิมนต์วัดไหนมาบ้างเขาจะยกถวายวัดนั้น ๆ ไปหมดเลย นี่เป็นปรกติของเขาเขาทำอย่างนั้น เพราะฉะนั้นปีนั้นเขาถึงจะทำ เราเลยห้ามขาด

มีปีเดียวปี ๐๗ เราจำได้ เพราะเป็นปีที่แห้งแล้งจริง ๆ แม้แต่พันธุ์ข้าวก็จะไม่ได้จะว่าไง ต้องไปหาเอาที่อื่นมาเป็นพันธุ์ข้าว ปีนั้นแทบไม่ได้ถึงพันธุ์ข้าว พันธุ์ข้าวอีสานเขาเรียกข้าวปลูก พันธุ์ข้าวจนจะไม่ได้ยังจะมาทำบุญข้าวเปลือกอีก เลยไม่ให้ทำ มีปีเดียวจากนั้นเขาก็ทำของเขา เพราะฉะนั้นปีนี้จึงปล่อยให้เขาทำตามอัธยาศัยของเขา ไม่รบกวนพี่น้องชาวไทยเรา ส่วนท่านผู้ใดที่มีศรัทธาเลื่อมใสให้เป็นตามอัธยาศัย แต่ไม่ประกาศ สำหรับปีนี้เราไม่ประกาศ

ช่วยหลายด้านหลายทาง หมุนมาทุกด้านนะ หลวงตาพูดจริง ๆ หนักมากจริง ๆ นะ ดังที่เคยเรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ เวลานี้มันจนตรอกจนมุม เฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลเราจนตรอกจนมุมมาก เพราะฉะนั้นเราถึงถูไถ ๆ สร้างตึกตรงไหน ๆ ไม่มี ค่อยจ่ายเป็นงวดมันก็ไม่รุนแรงใช่ไหมล่ะ ถ้าเป็นเงินก้อนวัดป่าบ้านตาดแตกแล้วไม่มีเหลือ แต่นี้เป็นเงินงวดเข้ามาเป็นระยะ ๆ เราก็พอมีมาจ่ายไปเรื่อย ๆ ทุกวันนี้จ่ายไปแบบนี้หนา เราไม่ได้จ่ายด้วยเรามีเงินนะ เราจ่ายแบบนี้ เพราะน้ำใจมันล้นฝั่งตลอดเวลาเราพูดตรง ๆ ไม่มีแต่ความอยากให้มันไม่ลด ยิ่งไม่มีเท่าไรความอยากให้ จะเอาอะไรมาให้ มันยิ่งไปใหญ่เลย ถึงได้ทำอยู่อย่างนี้

พี่น้องทั้งหลายก็คงทราบแล้ว สำหรับวัดป่าบ้านตาดเปิดโล่งหมดเลย ทางเข้าทางออกนี้เปิดเสมอกันหมดไม่มีคำว่าอยู่ ไม่ว่าอะไรเข้ามานี้ออกหมดเลย วัตถุไทยทานทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามานี้ออกทั่วไปหมด อย่าว่าแต่เงินนะ ทุกอย่างในวัดนี้จะไม่ให้มีเหลือเลยด้วยอำนาจความเมตตา เฉลี่ยเผื่อแผ่ให้ทั่วถึงกันหมด ที่สิ่งของจะเป็นไปได้ยังไงต้องทำไปอย่างนั้น เฉพาะอย่างยิ่งเช่นในวัดป่าบ้านตาดนี้ ก็ถือว่าเป็นลูกของวัดป่าบ้านตาดทั้งหมด มาก็ดูแลกัน มีมากมีน้อยกินด้วยกัน คนละช้อนสองช้อน ไม่ให้กินเต็มอิ่มคนเดียวคนอื่นอดจะตาย ทำไม่ได้วัดนี้นะ มีน้อยขนาดไหนต้องเฉลี่ยให้ทั่วถึงกันหมดนี้เป็นธรรม ท้องจะบกบางไปบ้างแต่หัวใจเต็มตื้นด้วยความเป็นธรรมต่อกัน  ผาสุกอยู่ที่ตรงนี้นะ ไม่ใช่ผาสุกอยู่ที่ท้องเต็ม ท้องเต็มหัวใจเหี่ยวแฟบอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องหัวใจเบิกบานเฉลี่ยเผื่อแผ่ให้ทั่วถึงกันหมด อันนี้ชุ่มเย็น หัวใจชุ่มเย็นท้องจะแห้งบ้างไม่เป็นไร ขอให้หัวใจชุ่มเย็น ท้องป่องแต่หัวใจแห้งผากจากความกว้างขวางใช้ไม่ได้นะ คับแคบตีบตันใช้ไม่ได้

เรานี้ไม่ใช่มาเป็นในเวลามาเป็นหัวหน้าหมู่เพื่อนนะ เราเรียนพี่น้องให้ทราบ ดูว่าเคยเรียนมาให้ทราบบ้างแล้ว นิสัยของเรารู้สึกจะเป็นนิสัย เราคิดว่าจะเป็นนิสัย คือไปอยู่ที่ไหน ๆ เป็นอย่างนั้นตลอดนะ เราไม่เคยเก็บอะไรทั้งนั้น มีแต่ให้ ๆ คณะของเราพระเณรนี้เต็มหมด ไปอยู่ที่ไหนมักเป็นหัวหน้าคณะ อันหนึ่งความรู้วิชาก็ทัดเทียมกับหมู่กับเพื่อนนั่นแหละ แต่อัธยาศัยหมู่เพื่อนคงจะจับ ไม่จับยังไงทางนี้จ่ายออกไปก็เห็นอยู่นี่ ของอะไรมานี้เป็นอันเดียวกันหมดคณะเรานะ เราเป็นตั้งแต่เรียนหนังสืออยู่โน้นนะ ไม่ใช่มาเป็นนี่นะ เป็นตามนิสัย ได้อะไรมานี้หมดเลยไม่มีเหลือ ๆ ทีนี้ยิ่งมาเป็นหัวหน้าหมู่เพื่อนแล้ว วัดไหนก็ตามส่วนมากเรามักจะได้เป็นหัวหน้าคณะของวัดนั้น คณะมีหลายคณะวัดหนึ่ง ๆ

เรานี่เป็นนักล่าวัดว่างั้นเถอะ เรียนหนังสือไปทุกแห่งทุกหน ไปอยู่ที่นั่นที่นี่ไปที่ไหนก็มักได้เป็นหัวหน้าคณะ ๆ นั่นละคณะของเราเต็ม เรียกว่าชนะหมดในวัดนั้น สู้เราไม่ได้ ไม่ใช่คุยนะมันเป็นอย่างนั้น เพราะว่ามีอะไรมานี้รุมกันเลย เหมือนกับครัวเรือนเดียวกันนะ ของเราเอามานี้พระเณรก็เหมือนพ่อแม่กับลูกไม่ผิดกันอะไร พอพ่อแม่เอาอะไรมาวางลูกรุมเลย อันนี้ลูกรุมในแบบของพระก็คล้ายคลึงกัน แต่เป็นแบบของพระ แบบของฆราวาสเป็นแบบหนึ่ง แบบของพระระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ก็แบบหนึ่ง ลูกศิษย์กับอาจารย์ก็เหมือนเป็นพ่อเป็นแม่พระเณรใช่ไหมล่ะ

พอได้มานี้รุมเลย ๆ บางทีมีของดี ๆ มานี้ เดี๋ยวรอก่อนให้จับสลาก เดี๋ยวพวกคนเห็นแก่ตัวมันจะเอาไปกินหมด ไม่เอา อันนี้เราต้องห้ามไว้ ให้มาจับสลากเอา แล้วแต่ตามวาสนาของใคร ถ้าเป็นของสำคัญ ๆ เราจะบังคับให้จับสลาก ถ้าเป็นของทั่ว ๆ ไปนี้พรึบเดียวหมดเลย นี่เราเคยปฏิบัติอย่างนั้นมา มันก็เป็นอย่างนั้นมา อย่างทุกวันนี้พี่น้องทั้งหลายก็ดูเอา ก็เป็นอย่างนี้ตลอดมา ไม่สงสัยว่าจะต้องเป็นไปตลอดไปอย่างนี้กระทั่งวันตาย

ฟังซิผลที่สุดศพของเรายังไม่ให้ใครไปยุ่งเลย เรายังไม่ตายประกาศไว้แล้วเรื่องศพ เงินค่าศพค่าเมรุทั้งหมดนี้ เราจะริบรวมเป็นเงินสดแล้วจะซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงทั้งหมดฟังซิน่ะ เราจะไม่ให้ใครมาแตะต้อง ส่วนปลีกย่อยอะไรที่เขาบริจาคมาปลีก ๆ ย่อย ๆ ที่จะทำประโยชน์ในงานศพของเรานี้ก็ยกให้เขาเสีย แต่ส่วนที่เขามาบริจาคในนามบัญชีที่มีคณะกรรมการจัดไว้เรียบร้อยแล้วเข้ามานี้แล้วออกไม่ได้เลย เข้มงวดกวดขันขนาดนั้นนะ

เราตายแล้วก็ตามพินัยกรรมเราบอกไว้เรียบร้อยแล้ว จะต้องปฏิบัติตามนั้น เอาพินัยกรรมมากางเลย อ่านตามนั้นแล้วให้ปฏิบัติตามนั้น อย่าเลื่อนลอยอย่าโลเล เพราะเราไม่เคยโลเล พินัยกรรมก็คือพินัยกรรมของเราเอง เด็ดขาดอยู่ในพินัยกรรมหมด ให้ปฏิบัติตามนั้น เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามาในกองบัญชีซึ่งมีคณะกรรมการรับผิดชอบไว้เรียบร้อยแล้ว เงินจำนวนนี้จะซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงทั้งหมดเลย เราไปแต่เราพอ หายห่วง ไม่เอาอะไรละ เท่านั้นพอ

เวลานี้กำลังช่วยโลกแบบไหนเราก็ช่วยเต็มกำลังของเราดังที่เห็นนี้แหละ เราจึงพูดได้ทุกอย่าง ๆ เพราะเราไม่มีอะไรในโลกอันนี้ เราพูดจริง ๆ เราไม่มีอะไร จะพูดหนักเบามากน้อยเราพูดได้ตามธรรม ๆ ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก ไม่มีคำว่าสูงว่าต่ำ ไม่มีอะไรเหนือธรรม ธรรมเหนือทุกอย่าง คือความถูกต้องดีงามเหมาะสมอยู่กับธรรมหมด อะไรขัดธรรมตีออกทันที ๆ อันนี้สูงอันนั้นต่ำเป็นเรื่องของกิเลสถังขยะอย่าเอามายุ่งกับทองคำทั้งแท่ง ๆ ที่ครอบโลกธาตุนี้อย่าเอามายุ่ง ธรรมนี้ตีไปเลย ๆ เพื่อความชุ่มเย็นของโลก ถ้าให้กิเลสเข้ามาตีนี้แหลกนะโลก เป็นไฟไปตาม ๆ กันหมด ถ้าเป็นธรรมแล้วเสมอภาค ๆ เย็นไปหมด ต่างกันอย่างนั้นนะ

เพราะฉะนั้นทุกอย่างเราจึงพูดได้เต็มปากของเรา ด้วยอำนาจแห่งความเมตตาธรรมล้วน ๆ พูดแล้วจะเป็นพูดเบาพูดหนักพูดดุพูดด่าพูดดีก็ตามมีน้ำหนักเท่ากัน ด้วยความถูกต้องแล้วในการพูดของเรา ไม่ว่าจะพูดหนักพูดเบาพูดเด็ดพูดขาดพูดอะไรก็ตาม เป็นธรรมประเภทนั้น ๆ ออกมาล้วน ๆ เลย ไม่ได้มีกิเลสเจือปนออกมานะ เราจึงพูดได้เต็มปาก ขอให้พี่น้องทั้งหลายเอาไปคิดอ่านทุกคนนะ อย่านอนจมอยู่เฉย ๆ ไม่ได้นะ

เราทำเต็มกำลังความสามารถแล้วสำหรับช่วยโลกคราวนี้ ช่วยทางด้านวัตถุก็เต็มเหนี่ยว นอกจากนั้นยังอรรถธรรมอีก เวลานี้อรรถธรรมออกทั่วประเทศไทย ยังทั่วโลกอีกดูซิน่ะ เทศน์ก็เทศน์ทุกวัน ๆ ออกจากนี้ก็กระจายไปถึงทั่วโลกทางอินเตอร์เน็ต นี่ทางด้านอรรถธรรมเราก็สอน สอนก็เรียกว่าสอนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถึงขนาดเปิดโล่ง เอ้า ถามมาฟังซิน่ะ หัวใจนี้เคยมีเมื่อไรแต่ก่อน ก็มันเป็นอย่างนี้แล้วจะให้ว่ายังไง เวลามันมืดดำกำตาก็มืดอย่างที่ท่านสิงห์ทองพูดนั่นน่ะ เราก็ไม่ลืมนะ มาเป็นคติท่านสิงห์ทองหนึ่ง หลวงพ่อคูณหนึ่ง ยกมาเป็นคติเรื่อยนะ เพราะเป็นคติดี

ท่านสิงห์ทองท่านพูดถึงเรื่องว่า การเทศน์นี้ยกให้ท่านอาจารย์ แต่ต้องไม่มีปัญหานะ ถ้ามีปัญหา-ปัญหาเป็นหนึ่ง เทศน์ของท่านอาจารย์ ทั้งปัญหาทั้งเทศน์ ตอนตอบปัญหาเป็นที่หนึ่ง การเทศน์เป็นที่สอง ผมนี่มันไม่เป็นท่า ยิ่งการตอบปัญหาแล้วเวลาเขาถามมานี้อ้าปากอยู่ ท่านว่างั้นนะ เพราะเป็นนิสัยคนตลกเข้าใจไหม เวลาเขาถามมาคิดตอบอะไรไม่ได้อ้าปากอยู่ จนกระทั่งเขากลับไปถึงบ้านแล้วจึงระลึกได้ ปาตามหลังเขาไป พอคิดได้ก็ปาตามหลังเขาไป ท่านพูดเฉย ๆ ตามนิสัยของท่านนะแต่เราจับเอา โอ๋ นิสัยบ้ามันก็มีของมันอย่างนี้ พูดไม่ตั้งใจเป็นบ้า คำพูดออกมาเป็นกิริยาบ้าออกมาตามนิสัย นี่ท่านสิงห์ทอง ที่เอามาเป็นคติอยู่เรื่อย ๆ

กับหลวงพ่อคูณ เวลานี้กำลังฟัดหน่อหวายกับฟัดหน่อไม้ ถ้าหน่อหวายกับหน่อไม้จะมาโจมตี หลวงพ่อคูณโดดลงแต่ ๙๐ กูก็เหมือนกันกับหลวงพ่อคูณ กูจนตรอกกูไม่จน กูโดดหนี สูจะเหยียบ ๑๕๐-๑๖๐ ช่างหัวสู กูไม่ไปรับรองสู กูโดดลงตั้งแต่ ๙๐ นี่ก็เหมือนกันหน่อหวายเขาว่ามันเป็นพิษ มีสารพิษ ทีนี้เราก็ถามหมอแล้วว่าจะฟื้นคืนอีกไหม ไม่คืน เราก็เลยได้ใจใหญ่ หลวงพ่อคูณโดดลงแต่ ๘๐ นู่น เลยซัดเลย หน่อหวายกินแล้วเดี๋ยวนี้ กว่ามันจะมาสั่งสมเราตายไป ๕ ทวีปแล้วเข้าใจไหม เราจะไปกลัวมันอะไร เราโดดลงแต่ ๙๐ แล้ว

เทศน์เรานี้ มันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เปิดหัวใจนี้ครอบโลกธาตุ เอ้า ถามมา ขนาดนั้นฟังซิน่ะ เคยมีเมื่อไรหัวใจอย่างนี้ เวลามืดดำกำตาถึงน้ำตาร่วงอยู่บนภู(เขา) ก็มาพูดให้ฟังแล้วใช่ไหม สู้กิเลสไม่ได้ สู้เสือด้วยกำปั้น กิเลสมันรุนแรงมาก พอแย็บไปมันฟาดเราหงายหมา ๆ เราก็ไม่ลืม นี่เวลามันมืดไม่มีช่องทางที่จะต่อสู้กับกิเลส เวลาเปิดออก ๆ กิเลสค่อยหงายลง ๆ ฟาดพังลงหมดแล้ว ทีนี้เปิดโล่งหมด นั่นเห็นไหม กิเลสเท่านั้นปิดหัวใจ พอกิเลสเปิดออกแล้วไม่มีอะไรปิดหัวใจได้ ต้นไม้ภูเขาไม่มีความหมาย จิตนี้ทะลุหมดเลย ๆ

เพราะฉะนั้นจึงกล้าพูดล่ะซิว่า โลกธาตุนี้มันหนาแน่นขนาดไหนใหญ่ขนาดไหน ไม่มีความหมายสำหรับใจดวงนี้ ผางทีเดียวมันว่างไปหมดเลย แต่อันใดที่มันเกี่ยวข้องกันอันนั้นเป็นเองนะ พวกจิตวิญญาณของสัตว์ พวกบาปพวกบุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน เป็นนามธรรมด้วยกันกับจิต เข้ากันได้อย่างสนิท ไม่ต้องบอกถึงกันเลย ๆ อันนี้เป็นความหมายเต็มตัวกับจิต คือเป็นนามธรรม สมควรที่จะที่จะสัมผัสสัมพันธ์รับรู้เห็นกันทั้งดีทั้งชั่วทุกอย่าง มันจะเป็นของมันเอง อันนี้เป็นวิสัยของจิตซึ่งเป็นนามธรรมด้วยกันกับสิ่งเหล่านั้น แต่ด้านวัตถุนี้เข้ากันไม่ได้นะ เวลาดูนี้ก็เอาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ดูไปเสียเป็นธรรมดา ๆ เหมือนโลกทั่ว ๆ ไป แต่เวลาดูเป็นทางใจแล้วมันผางทีเดียว ไม่มีความหมายเหล่านี้ หมด ไม่มีเลย มีแต่จิตเท่านั้นจ้าไปหมดเลย

อะไรที่สัมผัสสัมพันธ์เป็นวิสัยของจิตมันจะเข้ากันทันที ๆ เช่น จิตวิญญาณของสัตวโลก จิตเป็นนามธรรมเข้ากันได้สนิทกับจิตของสัตว์กับจิตธรรมชาติอันนั้น เข้ากันได้หมด บาป บุญ นรก สวรรค์ เป็นนามธรรม สัมผัสสัมพันธ์เกี่ยวโยงถึงกันหมด ๆ อันนี้ไม่ต้องบอกมันก็รู้ของมันเอง แล้วใครเคยพูดไหมอย่างนี้ ฟังซิน่ะ อันนี้ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นแต่ทำไมถึงมาพูด ก็มันรู้อย่างนี้จะให้พูดว่ายังไง พูดอย่างอื่นไปไม่ได้ต้องพูดอย่างเป็นนี้ นี้ก็ได้พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังแล้ว มาสอนพี่น้องทั้งหลายเล่น ๆ เหรอ สอนขนาดนั้นเห็นไหมล่ะ

เห็นบาป นรก อเวจี เป็นของเล่นอยู่เหรอ มันจะเผาหัวผู้ฟังอยู่เวลานี้รู้ไหมล่ะ เตือนบอก ๆ ตลอดเวลา อย่าหนา ๆ ความชั่วเป็นความชั่ว ดีเป็นดีนะ สด ๆ ร้อน ๆ อยู่ด้วยกัน ใครเอื้อมไปทางไหนติดทางนั้น เอื้อมไปทางดีไปทางดีเลย เอื้อมไปทางชั่วไปทางชั่ว ไม่มีอะไรครึล้าสมัยทั้งสองอย่างนี้ บาปก็ดี บุญก็ดี นรกก็ดี สวรรค์ พรหมโลก นิพพานก็ดี ไม่มีอะไรครึล้าสมัย เสมอกันหมด ขอแต่ผู้จะก้าวเดินจะก้าวไปทางไหน ก้าวไปทางนรกเป็นทันที ตั้งแต่เริ่มสร้างบาปสร้างกรรม นี้คือทางนรกแล้ว ผู้ที่ไปความดีก็สร้างบุญสร้างกุศลนี่คือความดีแล้ว เอื้อมเข้าไปแล้วนี่ความดีเป็นฝั่งอยู่อย่างนี้แล้ว เสมอกันตลอด เราอย่าเข้าใจว่าอะไรด้อยกว่าอะไร

เช่นอย่างว่า  กิเลสมันมาโจมตีว่ามรรคผลนิพพานจะไม่มีบุญกุศลไม่มี ใครทำบุญกุศลทำเท่าไรก็ไม่ได้ นี้คือมันลูบจมูกของสัตวโลกให้จมไปตามมันนะ อย่าไปเชื่อหัวมัน โคตรมันมีแต่โคตรกิเลสต้มตุ๋นทั้งนั้น โคตรของธรรมโคตรของศาสดาทั้งหลายเป็นโคตรที่จริงจังทุกอย่าง รื้อสัตว์ขนสัตว์ออกจากโลกสงสารมีแต่โคตรพระพุทธเจ้าทั้งนั้นนะ โคตรกิเลสไม่มีโคตรไหนที่จะมารื้อขนสัตว์ขึ้นจากหล่มลึก มีแต่ขนลง ๆ เราจะเอาโคตรไหน เอ้าให้เลือกเสียนะเดี๋ยวนี้

สงสารก็สงสารนี้ทำไง สายระโยงระยางมันเห็นไปหมดนี่ แต่ธรรมไม่เหมือนโลกนะ ผิดกันตรงนี้ ผิดกันมากจริง    รู้เหมือนไม่รู้เห็นเหมือนไม่เห็น ไม่ได้เป็นอารมณ์ เวลาสัมผัสสัมพันธ์อะไรที่จะเป็นประโยชน์หยิบเอามาพูดนิด ๆ ผ่านไป ๆ ถ้าไม่เป็นประโยชน์แล้วปล่อยเหมือนไม่รู้ไม่เห็น เป็นอย่างนั้นแหละ นี่เรื่องของธรรมเป็นอย่างนั้นไม่หนักไม่หน่วงไม่กดไม่ผลักไม่ดัน กิเลสไม่ได้นะ โอ๋ ทำดีแล้วหนักอึ้งเชียวนะ ไม่อยากโม้อยากคุยอยู่ไม่ได้ ต้องไขออกเสียก่อนให้พุงนี้เบาบางไปแล้วพอก้าวได้ ไม่งั้นมันหนักความรู้อยากโอ้อยากอวด ไปไหนเสียงอืดอาด ๆ มันหนัก หนักอะไร หนักความรู้ มันได้เปิดออกบ้างความรู้อันนั้นหมดแล้ว คือความโม้หมดแล้วก็ไปได้ เป็นอย่างนั้นแหละ ถ้าธรรมนี้เฉยเลย ไม่มีอะไรแหละ

นี่พูดถึงเรื่องจิตวิญญาณ โห จิตวิญญาณไม่ได้มีกาลสถานที่นะ ไม่มีเวล่ำเวลา สด ๆ ร้อน ๆ ตลอดเวลา จิตวิญญาณที่จะสัมผัสสัมพันธ์กันนี้ ไม่มีที่ว่าแห้ง ๆ อะไร สด ๆ ร้อน ๆ ตลอดเวลา พูดอย่างนี้แล้วเราก็ระลึกถึงพระพุทธเจ้าที่เสด็จเข้าไปโปรดพระราชบิดา ฟังว่าพระตั้งสองหมื่นนะ ในตำราบอกไว้พระตั้งสองหมื่นองค์เสด็จเข้าไปรับบิณฑบาตในพระราชวังของพระราชบิดา เวลาเสด็จเข้าไปฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่นเห็นไหมพระพุทธเจ้า สิ่งที่ท่านจะรับสั่งอะไรเรื่องอะไรเราเคยได้ยินไหมล่ะ ทีนี้เวลาเสร็จเรียบร้อยแล้วพระสงฆ์ก็เลิก ก็ยังพระสารีบุตรพระโมคคัลลาน์สององค์ที่ตามเสด็จพระพุทธเจ้า ก่อนจะเสด็จไป นี่ละคู่บารมีของท่านเข้าใจไหมล่ะ ท่านพิจารณาของท่านเรียบร้อยมาพร้อมกันแล้ว

ทีนี้พระองค์ท่านผ่านเรียบร้อยแล้ว คู่บารมีกำลังอยู่ประตูที่จะเปิดให้ออก พระพุทธเจ้าเป็นผู้ไปเปิดออก พอเวลาจะเสด็จไปโปรด พระราชบิดาก็รับสั่งว่า นี่พิมพา ความคิดถึงนั้นล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ความเคารพในพระพุทธเจ้านี้ก็ล้นฟ้าล้นแผ่นดินตลอดเวลา นี่ก็เป็นโอกาสอันดีแล้วควรที่จะได้เสด็จไปโปรดพิมพาบ้าง ว่างั้นนะพระราชบิดา พระองค์ทรงนิ่งสักครู่หนึ่ง ความจริงพระองค์จะไปอยู่แล้ว แต่พอได้รับเผดียงนี้ปั๊บจึงเปิดให้พระสาวกทั้งสองทราบ นี่จากนี้เราจะไปเยี่ยมพิมพาก่อน แล้วเวลาไปหาพิมพานั้น หากเธอจะมาทำอะไรกับเราตถาคต อย่าสนใจอะไรนะ บารมีของเธอเต็มเปี่ยมแล้ว อย่าให้เป็นอุปสรรคต่อบารมีของเธอ เวลานี้เธอยังเป็นวิสัยปุถุชนอยู่ จะแสดงกิริยานิสัยปุถุชนออกมาอย่างใดอย่าไปสนใจ ให้เฉยเสีย เธอจะมากอดมารัดมาอะไรกับเราอย่างไรก็ตาม ให้เหมือนไม่รู้ไม่เห็นเสีย ถ้าไปถูกห้ามปั๊บนี่จะสะดุดเข้าพระทัยปึ๋ง แล้วจะตัดพระบารมีที่กำลังพร้อมแล้วจะตรัสรู้ ให้เสียพระทัยไปมากมาย เป็นความเสียหายมาก

นั่นพระองค์รับสั่งนะ เวลาไปนี้เธอจะทำอะไรอย่าสนใจ พระองค์ทราบแล้วเข้าใจไหม จึงต้องรับสั่งทีหลัง พอไปถึงนั้นก็ไปประทับอยู่ที่ห้องรับแขกข้างนอก ทางนั้นก็เข้าไปทูลว่าสมเด็จพระลูกเจ้าเสด็จมาถึงแล้ว เรียกพระลูกเจ้า มาถึงแล้วเวลานี้ประทับอยู่ข้างหน้า พอมานี้ปรี่เข้าถึงเลยเทียว มีไหมล่ะมารยาท นี่ละอำนาจแห่งความผูกพันที่เคยเกี่ยวโยงกันมา ๔ อสงไขยแสนมหากัป พระนางพิมพากับพระพุทธเจ้าเคยเกี่ยวข้องผูกพันกันมา สร้างพระบารมีกันมาถึง ๔ อสงไขยแสนมหากัป ก็ได้มาเปิดเผยขึ้นแล้วในปัจจุบันในวาระนั้น พอมามองเห็นพระองค์เท่านั้นโดดเข้ากอดเลยทันที  พระองค์ก็เฉยไม่สนใจเลย พระสาวกนั้นก็เฉยใครก็เฉย คือตอนนั้นไม่ให้ใครเข้าไป ทราบตามประวัตินั้นก็ว่า มีแต่พระสาวกข้างซ้ายข้างขวา จากนั้นก็พันเลยเทียว พระองค์ก็เฉย

จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้พระองค์ก็เปิดพระโอษฐ์ เริ่มถึงกาลเวลาแล้ว เราก็ได้บำเพ็ญเต็มเม็ดเต็มหน่วยถึงขั้นอะไรก็ว่าไปเลย ทีนี้ก็เป็นห่วงเป็นใยพิมพาคนเดียวนี้แหละ ถึงได้อุตส่าห์เข้ามานี้ก็เพื่อแนะนำสั่งสอน เวลานี้พร้อมแล้วที่จะผ่านพ้นจากแหล่งแห่งกองทุกข์ทั้งหลาย จึงได้เข้ามา พระโอวาทโปรดไม่นาน ที่กอดที่พันอยู่นั่นค่อยขยายตัวออกไป เป็นเองนะพระองค์ไม่ได้รับสั่งอะไรเลย ให้เป็นตามอัธยาศัยทั้งที่มากอดมารัดพระพุทธเจ้า พอรู้เนื้อรู้ตัว ค่อยถอยออกไป ถอยห่างไปจนกระทั่งไปนั่งพับเพียบเรียบร้อย แสดงธรรมนั้นถ้าหากว่าเราจำไม่ลืมก็ดูว่าสำเร็จพระโสดาก่อนหรือไง ตอนนี้เราลืม ๆ เสีย จากนั้นรู้เนื้อรู้ตัวก็เป็นมารยาทธรรมดาเรา แล้วหลังจากนั้นมาก็ประทานพระโอวาทจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้

นี่ละท่านพิจารณาของท่านหมดเลยทุกอย่าง ๆ อะไรจะปิดได้ พระญาณหยั่งทราบปิดไม่อยู่ ไม่มีอะไรปิดอยู่ เจ้าของเป็นผู้รู้เองเหตุการณ์กับธรรมชาตินี้มันต่อเนื่องกันอยู่สัมผัสสัมพันธ์กันอยู่ ใครจะมาปัดมาแยกออกไม่ได้ มันต้องพุ่ง ๆ มันต้องรู้อย่างนั้นจึงเรียกว่ารู้จริง อะไรมาผ่านไม่ได้ จอมปลอมอะไรผ่านไม่ได้ ของจริงจะพุ่งถึงเลย ๆ เป็นอย่างนั้นละ เอาละให้พร…

วันนี้ก็มีเทศน์บ้างนิดหน่อย ออกทางกิเลสเหมือนกัน เรื่องความเมตตานะออกเป็นพื้นฐานไปเลย แล้วก็เป็นคำสอนได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่นว่า ความเมตตาเสียสละ อันนี้ก็เป็นคติแล้วนี่ อันนี้ก็เป็นตามนิสัยของคนตกแต่งเอาลำบากนะ มันเป็นในเจ้าของเอง ไม่มีใครบอกมันก็ดึงก็ดูดกันไปเอง เช่น ความตระหนี่ถี่เหนี่ยวความเห็นแก่ตัวนี้มันก็ดึงก็ดูดไป สำหรับบุคคลนั้นไปไหนเห็นแก่ตัว คนเห็นแก่ตัวกับเห็นแก่ได้มันไปด้วยกัน เอารัดเอาเปรียบไปด้วยกัน ความเห็นแก่ตัวคับแคบตีบตันแล้วยังเห็นแก่ได้ และเอารัดเอาเปรียบด้วย ไปที่ไหนไม่ค่อยมีเพื่อนฝูง คนที่มีอัธยาศัยใจคอกว้างขวางแม้แต่เด็กเพื่อนฝูงก็เยอะนะ เป็นอย่างนั้นนะ แล้วยิ่งเป็นผู้ใหญ่เท่าไรก็ยิ่งเพื่อนฝูงมาก ยิ่งเป็นเจ้าเป็นนายอันใหญ่โตยิ่งเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรใหญ่หลวง ไปที่ไหนบริษัทบริวารรักเคารพมาก เป็นอย่างนั้นนะ มันต่างกัน

เมื่อวานนี้ไปนู้นวัดดงศรีชมภู เอาของไปส่งเฉย ๆ ไม่มีอะไรนะเมื่อวานนี้ ทางนี้ไม่ได้ไปนาน เอาของไปส่งให้ ของก็ไม่มากแหละเอาไปรถเดียว รถตู้เดียวเอาให้เต็มเอี๊ยดเลย ตีตลาดไปตามทางเรื่อย ๆ ตั้งแต่ออกจากอุดรฯ ไปนี้พวกไก่หมุน มีเท่าไรเหมาเลย ๆ ฟาดเต็มรถ ไปนั้นก็ไปเข้าตลาดปากคาดตีตลาดปากคาดตกแม่น้ำโขง เราโดดเข้าปากคาด ตีตลาดปากคาดตกแม่น้ำโขงเมื่อวานนี้ ของไปเอานั้นอีก จนกระทั่งเต็มรถแล้วก็ไป กลับมาแต่วานพอดี ๓ โมงเป๋งพอดีมาถึงนี่ จากวัดศรีชมภูมานี้ ๒ ชั่วโมงพอดีเลยนะ แต่นี้ก็ขึ้นอยู่กับทาง ทางก็จวนจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้น่าจะไม่ถึง ๒ ชั่วโมงจะไปถึงปากคาดวัดศรีชมภู เมื่อวานนี้ ๒ ชั่วโมงเต็มเป๋งพอดีเลย เข้าถึงวัด ต่อไปจะไม่ถึง ๒ ชั่วโมง ทางดีเข้าเรื่อย ไปละ

 

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร

www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก