คำขอร้องของหลวงตา
วันที่ 7 ตุลาคม 2548 เวลา 8:40 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

คำขอร้องของหลวงตา

ก่อนจังหัน

มันเป็นนิสัยฟุ้งเฟ้อเสียพอแล้วเมืองไทยเรา จะพูดอรรถพูดธรรมนี้ดูว่ามันเหมือนเอาฝ่ามือไปกั้นน้ำมหาสมุทร น้ำมหาสมุทรคือความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมในนิสัยของคนไทยเรา พูดจริงๆ นิสัยของคนไทยเราเป็นอย่างนั้น ไม่ค่อยรู้จักประมาณ ต้องการอะไรอันนั้นดีอันนี้ดี ดีไปเรื่อยๆ เจ้าของจมไปๆ แล้วสุดท้ายพาชาติให้จม นี่ละเอาธรรมมาสอนโลกสอนอย่างนี้นะ สอนอย่างตรงไปตรงมา คนทั้งหลายเขาบอกว่าหลวงตาบัวขวานผ่าซากๆ จะผ่าซากอย่างไรพูดตามความจริง หลบๆ หลีกๆ เหลาะๆ แหละๆ ร้อยสันพันคมเป็นเรื่องของกิเลส ต้มโลกมาเท่าไรแล้วให้จมไปๆ ภาษาธรรมนี้เคยจมที่ไหน พระพุทธเจ้าสอนตรงไหนแน่วเลยต่อความดีงาม นี้ก็ไม่ได้สงสัยในคำสอนของตัวเอง เพราะเรียนจากหัวใจอันเดียวกันกับพระพุทธเจ้า ท่านถ่ายทอดมาเอาเข้าหัวใจด้วยภาคปฏิบัติๆ

เวลามันรู้มันเห็นแล้วเป็นแบบเดียวกัน จะคัดค้านพระพุทธเจ้าได้อย่างไร ว่าบาปมีบุญมี นรกมี จะเป็นกี่หลุมก็ตามนรก ท่านบอกไว้เพียง ๒๕ หลุมนรก สวรรค์มี พรหมโลกมี พวกเปรตพวกสัตว์ต่างๆ หลายประเภท เปรตมี ๑๓ จำพวก มี พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ท่านไม่เคยค้านกันเลย เป็นอย่างไรพวกเราพวกตาบอดๆ มันจึงไปค้านพระพุทธเจ้า ว่าบาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี เปรตผีประเภทต่างๆ ไม่มี จนกระทั่งนิพพานไม่มี มันยังกล้าหาญขนาดนั้น มันด้านจริงๆ นะชาวพุทธเรานี้นะ

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่ได้สอนผิดกันเลย เพราะไปรู้ไปเห็นอย่างเดียวกันๆ จะสอนให้ผิดกันไปได้อย่างไร แต่พวกนี้พวกจอมปลอม พวกหูหนวกตาบอด มันแน่นหนาด้วยกิเลสตัณหาปัญญาหยาบ ความสกปรก กระจายออกมานี้ลบล้างคำสอนพระพุทธเจ้า ลบล้างพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ไปหมด มันน่าอับอายเหลือเกินพวกเรา พวกเรานี่ก็เป็นชาวพุทธเสียด้วย ที่ต่อสู้กับพุทธศาสนาอยู่เวลานี้คือชาวพุทธของเรา ไม่ใช่ที่ไหน นี่ละอำนาจของกิเลส คลื่นของกิเลสเหมือนท้องฟ้ามหาสมุทร มันครอบหัวใจสัตว์ ลบล้างอรรถธรรมไปจนจะไม่มีเหลือนะเวลานี้ เมืองไทยเราจะไม่มีเหลือเรื่องธรรมนะ

ธรรม คือธรรมชาติที่เลิศเลอของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่แสดงไว้เลิศเลอ แต่กิเลสไปเที่ยวลบหมดๆ แล้วก็ย่นเข้ามาหาตัวเองซี แต่ละคนๆ ลบธรรมพระพุทธเจ้าไหม ให้ถามดูอย่างนั้นซิ ธรรมพระพุทธเจ้าท่านสอนว่าให้มีความขยันหมั่นเพียรในการงานที่ชอบ ตลอดการกุศลทั้งหลาย ตัวขี้เกียจเข้าไปอยู่ในนั้น นั่นมันลบล้างไหมล่ะ ท่านสอนให้ขยันหมั่นเพียรในความดีทั้งหลาย มันกลับขี้เกียจขี้คร้าน สอนให้งดเว้นในสิ่งชั่วทั้งหลาย มันกลับขยันหมั่นเพียรเป็นบ้ากันหมดโลกอันนี้

เราพูดจริงๆ เราจวนจะตายเท่าไรยิ่งเกิดความสลดสังเวช มันจ้าอยู่ในหัวใจ มันเห็นหมดจะให้ว่าไง หรือนี่มาโกหกท่านทั้งหลายเหรอ นี่เราเอาธรรมจ้ามาสอนพี่น้องทั้งหลาย เราปฏิบัติตามพระพุทธเจ้านะ ไม่ได้ปฏิบัติตามกิเลส กิเลสมันลากลงๆ ธรรมพระพุทธเจ้าสอน เรียกว่าฉุดลากขึ้น เราเอาตามพระพุทธเจ้า ถึงขนาดที่ว่าเฉียดสลบไสลเรื่อยมาตั้งแต่ปฏิบัติ นี่ก็ได้พูดถอดออกจากหัวใจ ถอดออกจากกิริยาการกระทำของตัวเอง สอนโลก นี่ละผลได้จากการที่อุตส่าห์ตะเกียกตะกาย พระพุทธเจ้าว่ายังไง เอา บืนๆ สุดท้ายธรรมที่ปฏิบัติมาตั้งแต่ต้นๆ จนกระทั่งสุดขีดสุดแดนของธรรมถึงขั้นอิ่มพอ จิตจ้าขึ้นแล้วได้เป็นเวลา ๕๕–๕๖ ปี

ท่านทั้งหลายให้ฟังบ้างนะ อย่าฟังแต่เรื่องของกิเลส มีแต่ฉุดแต่ลากลงนะ นี่ปฏิบัติมาแทบเป็นแทบตาย ผลที่แทบเป็นแทบตายกลายมาเป็นบรมสุขในหัวใจ เวลานี้เราพอหมดแล้วนะ เราตะเกียกตะกายสอนโลกอยู่นี้ เราเพื่อโลกทั้งนั้น ทั้งมวลเลย สำหรับเราเองเราไม่เอาอะไร นี่เห็นไหมบิณฑบาต พี่น้องทั้งหลายเอามาบริจาคให้ฉัน ฉันให้ตายก็ได้หลวงตาบัว เพราะอาหารมากต่อมาก ถ้าจะฉันแบบไม่รู้จักประมาณอย่างเมืองไทยเราทำกันนี่นะ พวกนี้พวกไม่รู้จักประมาณ หลวงตาก็อยู่เมืองไทยไม่รู้จักประมาณ ฟาดเอา เขาว่าสะแตก เข้าใจไหม ไทยทานของพี่น้องทั้งหลาย มาตายต่อหน้าต่อตาพี่น้องทั้งหลาย หยาบไหมหลวงตาบัว กินไม่รู้จักประมาณ

นี่ต้องว่ากันบทหนัก สะแตก มันไม่รู้จักประมาณ นี่เรียกว่าบทหนัก ท่านไม่มีละคำว่าความสกปรกโสมมในภาษาของธรรม หรือเจตนาของธรรมไม่มี แต่ยกขึ้นเป็นน้ำหนัก เช่นยกโคตรยกแซ่ ยกนั้นยกนี้ เอาน้ำหนักมาทับกันกับสิ่งที่เป็นข้าศึก ที่มันเบากว่ามันก็พังไป อันนี้มีน้ำหนักมันก็ถึงใจๆ แล้วปฏิบัติอย่างถึงใจเหมือนกัน นี่ละธรรมพระพุทธเจ้า นี่จวนจะตายก็บอกว่าจวนจะตาย แล้วยิ่งมีความเมตตาสงสารมากขึ้นทุกวันๆ ไม่ทราบมันเป็นยังไง มันหากเป็นเองในหัวใจ

สิ่งไม่เคยรู้มันรู้ขึ้นมาจังๆ แล้วยอมรับความรู้ของตนเองนี้ด้วย แล้วความรู้ที่ไปเห็น ใครสอนไว้ กระเทือนถึงพระพุทธเจ้าทั้งหลาย สอนแบบเดียวกันหมด แต่พวกสัตว์ตาบอดมันดันทุรังๆ จะลบล้างหมดทีเดียว นรกถ้าหากว่าเป็นอย่างเรือนจำนี้จะต้องได้ขยายเรือนจำอีก นรกก็ต้องขยายนรกอีก มันไม่พอกับสัตว์ แต่นี้ถึงจะมากขนาดไหนก็เป็นกรรมของสัตว์ อัดแน่นอยู่ในนั้นตลอดเวลา นี่กรรมของสัตว์ อย่าพากันลบล้างนะ

ศาสนาเอกคือพุทธศาสนาเท่านั้น เราบอกตรงๆ เลย ให้ค้นกันในภาคปฏิบัติมันถึงได้ยอมรับพระพุทธเจ้า ที่ท่านว่าไว้ทุกแง่ทุกมุมเวลามันไปเจอมันปฏิเสธได้ยังไง เราก็ยอมรับความรู้ของเราความเห็นของเรา พระพุทธเจ้าสอนไว้แล้วนี่ที่เรารู้เราเห็น กราบราบๆ เราอย่าไปทะนงตัวนะ เวลาตายแล้วไปกองกันอยู่ในนรก เป็นยังไงอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ ร้อยสันพันคมเป็นความฉลาดของตัวเองที่หลอกลวงต้มตุ๋นเพื่อนฝูงด้วยกันให้จมลงไปด้วยความฉลาดของตน ความฉลาดนี้ละมันเอาเราให้จมๆ อย่าว่าแต่สัตว์โลกทั้งหลายจมเพราะความฉลาดของกิเลสเลย ตัวกิเลสตัวคลังกิเลสตัวมันจมก่อนเพื่อนนะ คือตัวทำความชั่วช้าลามก

อย่าอวดนะ อวดธรรมพระพุทธเจ้า เราประกาศกังวานไว้เลย เราหมอบราบแล้วกับธรรมพระพุทธเจ้าด้วยภาคปฏิบัติ พูดให้ยันๆ เลย ใครเชื่อไม่เชื่อก็ตาม ความจริงมียังไงจะออกมาตามความจริง เพราะฉะนั้นการเทศน์ของเรา เราพูดจริงๆ ท่านทั้งหลายให้ฟังเสียนะ การเทศน์แต่ก่อนเทศนาว่าการในที่ทั่วๆ ไปจากภาคปริยัติที่ศึกษาเล่าเรียนมา ไม่ว่าท่านว่าเราทั่วประเทศไทยสอนก็แบบเดียวกัน เพราะพูดไปตามตำรับตำรา เรียนมาจากตำรับตำรา เวลาสอนไปก็ตามตำรับตำราไม่มีบทหนักบทเบา ไม่มีทำให้กระเทือนใจตนเองและผู้อื่นเลย เพียงความจำมาเท่านั้น พอออกมาภาคปฏิบัติการเทศนาว่าการทั้งหลายที่เป็นเหมือนทั่วๆ ไปกลับพลิกตาลปัตรนะ

พอปฏิบัติเข้ามานี่ พอมารู้ธรรมเห็นธรรมในนี้มากน้อยเท่าไร ธรรมนี้เป็นของจริง หลีกเลี่ยงไปไม่ได้ จะหลบหลีกนั้นหลบหลีกนี้ ร้อยสันพันคมเหมือนกิเลสไม่ได้นะธรรม เป็นยังไงพูดตามความสัตย์ความจริง ผิดบอกผิด ถูกบอกว่าถูกไปเลย นี่ละภาษาที่เราเคยเทศน์มาแต่ก่อนตามคัมภีร์ใบลานเหมือนโลกทั่วๆ ไป แต่พอมาเป็นภาคปฏิบัติปรากฏเห็นธรรมขึ้นมาภายในจิตใจนี้ ธรรมนี่เป็นเครื่องบ่งบอกบังคับในตัวว่าธรรมนี้คือความจริง จะพูดจอมปลอมไม่ได้ จะหลีกเลี่ยงไม่ได้

เพราะฉะนั้นการเทศน์จึงเทศน์อย่างตรงไปตรงมา ตามความรู้ความเห็นในธรรมทั้งหลาย ทีนี้ภาษาหรือสำนวนโวหารเลยแปลกต่างกันไปหมด โลกทั้งหลายที่เขาได้ยินกันทั่วไป ว่าหลวงตาบัวนี้เทศน์กระแทกแดกดัน เทศน์ขวานผ่าซาก เราไม่ได้เป็นกระแทกแดกดัน เราไม่เป็นขวานผ่าซาก แต่เราเทศน์ตามความสัตย์ความจริง ตัวที่เราสงวนนักไม่อยากให้กระแทกแดกดันนั้นคือกิเลส มันสงวนตัวของมันไว้ ไม่ให้ธรรมเข้าไปแตะ พอธรรมเฉียดเข้าไปนี้มันฮือฮาออกมาแหละ หาว่าขาดจากพระจากเจ้าไป ตัวมันเองมันขาดจากอะไรก็ไม่รู้ มันดูมันหรือเปล่าไม่รู้นะ ที่มันวิพากษ์วิจารณ์ธรรมของพระพุทธเจ้า นี่ละตัวส้วมตัวถานมันไปวิพากษ์วิจารณ์ทองคำทั้งแท่ง

นี่พูดให้ฟัง สำนวนโวหารของเราที่เทศน์อยู่ทุกวันนี้เราไม่ได้เทศน์ตามตำรับตำรานะ เทศน์ตามตำรับตำราเราเทศน์แล้วเหมือนกับพระทั้งหลายท่านเทศน์ เทศน์เรียบๆ นิ่มนวลอ่อนหวานที่ไพเราะเพราะพริ้ง กิเลสเคลิ้มหลับไปนั้นแหละ แต่พอเทศน์ธรรมะนี้ตีหัวกิเลสละซี ปั๋งๆ เข้าไปตามความสัตย์ความจริง เขาว่าเทศน์ดุด่าว่ากล่าว เทศน์ขวานผ่าซาก พระพุทธเจ้ากว่าจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้ามานั้นสลบถึงสามหน เป็นยังไงหนักไหมพระพุทธเจ้า เป็นขวานผ่าซากไหมฟัดกับกิเลส

พระสาวกบางองค์ฝ่าเท้าแตก เดินจงกรมไม่มีหยุดมีถอย บางองค์จักษุแตก หมอเขาให้นอนหยอดยาไม่ยอมนอน เพราะท่านตั้งความสัตย์ความจริงแล้ว ในพรรษานี้ท่านจะไม่นอน เขาให้นอนเพียงหยอดยาท่านก็ไม่ยอมนอน สุดท้ายตาภายนอกท่านก็แตก ตาภายในด้วยความสัตย์ความจริงท่านก็จ้าขึ้นมาเลย นั้นคือพระจักขุบาล ท่านเป็นยังไง แล้วผู้ที่เดินจงกรมจนฝ่าเท้าแตกนั้นคือใคร คือพระโสณะ นี่ละที่เป็น สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรา ให้ได้ถือเป็นคติตัวอย่าง

นี่เราก็ปฏิบัติมา หลวงตาบัวไม่เป็นสรณะของใครแหละ แล้วแต่จะเอาไปพิจารณา เพราะนั้นเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นส่วนกลาง เราเทศน์นี้เป็นส่วนกลาง ไม่บังคับกดขี่ผู้ใด ไม่บีบผู้ใด เทศน์คำกลางๆ ควรตำหนิต้องตำหนิ ควรชมต้องชม  ควรหนักต้องหนัก ควรเบาก็ต้องเบา นี้เป็นภาษาของธรรม เป็นเรื่องของธรรม แต่ไม่ไปบังคับบัญชาผู้หนึ่งผู้ใด พอที่จะมาหาเรื่องใส่ศาสนาว่าก่อความเดือดร้อนฉิบหายให้แก่โลก ไม่มี มีแต่โลกมันดื้อด้านของมัน มันไม่ยอมฟัง แล้วมันก็โจมตีธรรมเท่านั้นเอง

นี่เราพูดถึงเรื่องการเทศน์ แต่ก่อนเราไม่ได้เทศน์อย่างนี้นะ นี่เทศน์ตามหลักความจริง ถอดออกมาจากหัวใจ ตั้งแต่พื้นถึงพระนิพพานเราเทศน์ได้ตลอด เพราะมันรู้เห็นเต็มหัวใจนี้แล้ว แต่ก่อนแต่โคตรพ่อโคตรแม่ของหลวงตาบัวก็ไม่เคยมีธรรมประเภทนี้ เราเป็นลูกพ่อแม่เหมือนกันแต่ก่อนก็ไม่เคยรู้เคยเห็น เวลามาปฏิบัติเป็นลูกของตถาคตแล้วมันเป็นขึ้นมาอย่างนี้ ลูกตถาคตคือโลกวิทูรู้แจ้งกระจ่างในโลก นี้เรามาปฏิบัติตามธรรม มันก็รู้ขึ้นเต็มนิสัยวาสนาของเรา จนกระทั่งเปิดจ้าไปหมดเลย

เมื่อมันเห็นอยู่มันรู้อยู่ ทั้งผิดถูกชั่วดีประการต่างๆ นรกสวรรค์มันเห็นอยู่รู้อยู่ จะไม่พูดว่าสิ่งเหล่านี้มีได้อย่างไร ไปลบล้างอย่างไร จะลบล้างแบบคนตาบอดไม่ได้นะ คนตาบอดว่าต้นเสาไม่มีแล้วโดนเข้าไปก็หัวคนตาบอดนั่นละ คนตาดีเขาไม่ไปโดนนะต้นเสา มีแต่คนตาบอดเหยียบขวากเหยียบหนาม มีแต่คนประมาท ผู้รักษาระมัดระวังตัวเอง เดินทางไปด้วยกันไม่ค่อยเป็นอันตราย ไม่ตกเหวตกบ่อ ไม่เหยียบขวากเหยียบหนาม แต่คนตาบอดนี้ขวากหนามนี้เป็นมิตรกันเลย เป็นมิตรกับความประมาทของตัวเอง

เมื่อรู้อย่างนั้นจะให้ว่ายังไง เราปฏิบัติเรามาก็รู้อย่างนี้เห็นอย่างนี้ หาที่ค้านไม่ได้ พอใจอย่างเต็มที่ กราบพระพุทธเจ้าอย่างราบเลย แล้วนำธรรมนี้มาสอนโลกด้วยความเมตตา เบื้องต้นเป็นถึงขนาดที่จะว่าสอนใครได้ เราพูดจริงๆ นะ เราตัวเท่าหนูนี่เห็นแต่ในตำรา พระพุทธเจ้าพอตรัสรู้ปึ๋งขึ้นมาเท่านั้นทรงท้อพระทัย จะไม่สั่งสอนโลก ทั้งๆ ที่ทรงปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้ามากี่กัปกี่กัลป์ พอตรัสรู้ถึงความจริงขึ้นมาแล้วไม่ได้เหมือนความคาดความหมายละซิ

พอจ้าขึ้นมาเท่านั้นทรงท้อพระทัย ไม่อยากสั่งสอนสัตว์โลก ทรงทำความขวนขวายน้อย จนกระทั่งท้าวมหาพรหมมาอาราธนาให้เมตตาโปรดสัตว์ ดังที่เรายกขึ้นมา พฺรหฺมา โลกาธิปตี สหมฺปติ อาราธนาพระท่านเทศน์ นี้เอานามเดิมมาจากท้าวมหาพรหมมาทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้โปรดเมตตาสัตว์ทั้งหลาย นั้นละเห็นไหมธรรมนี้ขนาดไหน แต่ก่อนว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าก็ทรงกระหยิ่มยิ้มย่องมาเรื่อยที่จะสั่งสอนสัตว์โลก พอมาเจอของจริงที่เลิศเลอสุดยอดแล้วมองดูโลกนี้ เหมือนว่าไปสอนคนตายแล้วมันสอนได้ยังไง สอนส้วมสอนถานสอนหาอะไร มันจะเป็นอย่างนั้นนะ ท้อพระทัยไม่อยากสอน จนท้าวมหาพรหมมาอาราธนา

อันนี้ก็เป็นอย่างนั้นนี่นะ เราตัวเท่าหนูเราเป็นต้องบอกว่าเป็น เวลามันจ้าขึ้นมานี้ ขึ้นอุทานเลย โอ้โห เลย ธรรมลงถึงขนาดนี้แล้วจะไปสอนใครได้ ไปสอนที่ไหนเขาก็จะหาว่าบ้าไปหมด ทั้งๆ ที่เขาเป็นบ้ากันทั้งโลก ธรรมนี้เป็นของเลิศของเลอ ไปสอนที่ไหนเขาไม่ยอมรับ มีแต่เขาจะโจมตีหาว่าเป็นบ้าๆ โอ๊ย อยู่ไปกินไปวันหนึ่งๆ พอถึงวันเท่านั้นก็พอแล้ว ไปสอนให้เขามาโจมตีว่าบ้าว่าบอไปหาอะไร เพียงเท่านั้น ทีนี้ธรรมอันหนึ่งขึ้นแล้วขึ้นภายในใจนี้เอง ก็เมื่อว่าธรรมนี้เป็นธรรมชาติที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว ไม่มีใครสามารถจะรู้ได้เห็นได้จนกระทั่งถึงท้อใจอย่างนี้แล้ว แล้วเราเป็นเทวบุตรเทวดามาจากไหน เขาเป็นมนุษย์เขารู้ไม่ได้เห็นไม่ได้ สุดวิสัยที่จะสอนเขา เรานี่เป็นเทวบุตรเทวดามาจากไหนถึงมารู้ได้เห็นได้ นั่น

รู้ได้เห็นได้เพราะเหตุใด ไล่ตามสาเหตุมานะ มาถึงวัดป่าบ้านตาดนี่เพราะเหตุใด เพราะมีสายทางเข้ามา อันนี้รู้ได้เพราะเหตุใด เพราะบุญบารมีของแต่ละรายๆ ที่สร้างมาๆ หนุนกันขึ้นๆ ใกล้ชิดติดเข้ามา อย่างทางก็ถึงบ้านตาด อันนี้บุญบารมีของเรา ที่ได้สร้างมามากน้อยหนุนเข้ามาๆ จนกระทั่งถึงมรรคผลนิพพานได้ด้วยกัน จะว่าเป็นธรรมที่สุดวิสัยได้ยังไง ถ้าสุดวิสัยเรารู้ได้ยังไง รู้ได้เพราะเหตุใด เพราะเหตุใดนี่คือว่าบารมีมีด้วยกันทุกคน ผู้ใกล้เข้ามา ผู้ยังไกลเดินเข้ามาเรื่อย ถึงได้ด้วยกัน

ทั้งๆ ที่อ่อนใจเต็มที่นะ พอพูดถึงว่าเราเป็นเทวบุตรเทวดามาจากไหน มนุษย์ มนาเขารู้ไม่ได้ เราถึงรู้ได้ เราเป็นเทวดามาจากไหน เป็นคนพิเศษมาจากไหน เรารู้ได้เพราะเหตุใด พอถึงว่าเพราะเหตุใดมันโดนถึงความจริงอันนี้ เหมือนว่าบ้านนี้ติดกับบันได เช่นอย่างวัดป่าบ้านตาดติดกับสายทางมา อ๋อ รู้ได้เพราะเหตุนี้ มีสายทางเข้ามา ยอมรับทันทีเลยนะ อ๋อ รู้ได้ๆๆ ไม่มากก็ได้ ขึ้นเลยไม่ปฏิเสธ นี่ละก่อนที่จะสอนโลก เราพูดจริงๆ มันเป็นอยู่ในภูเขาแล้วไม่อยากพูดกับใครเลย วันหนึ่งๆ บิณฑบาตกับชาวบ้านเขาในป่าในเขากินไป พอถึงวันเท่านั้นไปแหละ ไม่ยุ่ง เดี๋ยวเขาจะหาว่าบ้า พวกนี้มันจะเป็นบ้ากันทั้งหมด

นี่ละต้นเหตุ ที่ว่ารู้ทีแรกจนท้อใจ เพราะไม่เคยคาดเคยคิดว่าจะรู้อย่างนี้ขึ้นมา จึงท้อใจ จนกระทั่งถึงว่ารู้เพราะเหตุใด นี่มากระตุก ถึงยอมรับ อ๋อรู้ได้ รู้ได้ ไม่มากก็ได้ที่นี่ ปฏิเสธไม่ได้เลย นี่ละจึงได้อุตส่าห์สั่งสอนพี่น้องทั้งหลายมา พูดให้ยันอย่างเต็มตัว ถอดออกมาจากหัวใจที่เป็นความจริงเต็มสัดเต็มส่วน มันจะปลอมไปไหน นอกจากหัวใจผู้รับฟังเท่านั้นมันจะปลอมหมดในหัวใจมัน มันจึงจะรับธรรมเหล่านี้ไม่ได้ ถ้าหัวใจยังมีวาสนาอยู่บ้างพอที่จะรับอรรถรับธรรมได้ ให้ฟังธรรมเหล่านี้ ไม่ใช่ธรรมทำคนให้อาภัพนะ ธรรมทำคนให้ส่งเสริมบารมีของตัวให้มีแก่ใจไปปฏิบัตินะ

นี่เราจวนจะตาย พระทั่วประเทศไทยเราอยากพูด มีท่านองค์ไหนมาเทศน์สอนท่านทั้งหลาย ทั้งดุทั้งด่าทั้งเฆี่ยนทั้งตี ทั้งกระแทกแดกดัน มีองค์ไหน ก็มีแต่หลวงตาบัวเท่านี้ ผิดถูกดีชั่วก็รวมอยู่กับหลวงตาบัว ให้เอาไปพินิจพิจารณากันนะ นี่มันจวนตายเท่าไรแทนที่จะมาห่วงตัวเองไม่ได้ห่วงนะ จวนเท่าไรมองไปทางไหน มองอยู่ในส้วมในถาน ในมูตรในคูถ ในกองฟืนกองไฟ ไม่ว่าฐานะสูงต่ำประการใดนะ มันโอ้มันอวดเฉยๆ กิเลสมันชอบยอ ยศถาบรรดาศักดิ์สูงจรดเมฆเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไป ถ้าว่าสมบัติศฤงคารบริวารเป็นเศรษฐี เหยียบหัวพระพุทธเจ้าที่เป็นผู้มั่งมีศรีสุขทุกอย่างไปได้อย่างหน้าด้านไม่อายนะ

นี่ละเรื่องของกิเลส นี่ต้องขออภัยนะพูดแล้วมันหลงลืมไปเรื่อยนะความจำ เดี๋ยวนี้ไม่ดีนะ ขาดวรรคขาดตอน นี่ละเป็นเครื่องปลุกใจให้ท่านทั้งหลายตื่นนะ นี้ตื่นแล้วนะพูดจริงๆ ตื่นด้วยอรรถด้วยธรรมพระพุทธเจ้านี่ละ เดี๋ยวนี้ตื่นเต็มส่วน ไม่มีอะไรสงสัยแล้ว ในสามแดนโลกธาตุเป็นเอกเทศอันหนึ่งที่เลิศเลอเลยโลกธาตุไปแล้ว นั้นท่านเรียกนิพพาน ครองไว้แล้วในหัวใจ มาโกหกท่านทั้งหลายอย่างไร ครองไว้แล้ว ถ้าว่าจิตก็เป็นจิตเป็นธรรมธาตุ ก็ยังเหลือแต่ร่างกาย ที่หมุนไปหมุนมาเพื่อสมมุติทั้งหลาย เรียกว่าสงเคราะห์มนุษย์ที่เป็นสมมุติด้วยกัน สงเคราะห์สมมุติ ว่างั้นเถอะ

สงเคราะห์เขาก็สงเคราะห์เรา สงเคราะห์เราคือเวลานี้นี่เห็นไหมบาตรตั้งอยู่หน้า นี่ท่านทั้งหลายเอามาให้ทานเป็นการสร้างบารมีโดยการให้ทานแล้ว ก็มาเข้าในบาตรหลวงตาบัว หลวงตาบัวจะสงเคราะห์ตนเห็นไหมนี่ สงเคราะห์ธาตุขันธ์ก็สงเคราะห์เพียงแค่นี้ ถึงวันแล้วมันก็ไปของมัน แต่จิตนี้พอแล้วไปนิพพาน ไม่มีคำว่าเกิดว่าตายหามกองทุกข์อีกเหมือนแต่ก่อนเลย จำให้ดีนะ ธรรมพระพุทธเจ้าแม่นยำ ศาสนาในโลกนี้เป็นคู่โลกสงสารคือพุทธศาสนา จำให้ดี เรามีวาสนาได้นับถือพุทธศาสนาให้ยึดหลักธรรมที่ท่านสอนไว้ให้ดี ที่ท่านสอนไว้อย่างไรนั้นละมหามงคลอยู่ตรงนั้น ถ้ากิเลสสอนมีแต่เรื่องความล่มจม อับไปหมด เป็นคนอัปยศ อับเฉาทุกอย่างนั่นแหละ ฟังให้ดีนะ

พระเราก็ได้พูดได้ยินด้วยกันทุกคนแล้ว พระก็มีหัวใจโยมก็มีหัวใจ ใจนี้ไม่มีเพศหญิงเพศชาย มีบาปมีบุญได้ด้วยกัน ใครทำชั่ว ชั่ว ใครทำดีได้ดีด้วยกัน เพราะฉะนั้นจึงให้พากันตั้งใจปฏิบัติ ฐานที่ตั้งแห่งรากฐานของความดีงามทั้งหลายจากความเพียรคือสตินะ จำให้ดี ใครตั้งสติดีเท่าไร คนนั้นจะตั้งรากตั้งฐานได้ ถ้าสติเผลอแพล็บเดียว  ความเพียรห่างไปแล้ว ถ้าเผลอสติเท่าไรจมไปเลย ไม่มีค่าอะไร

เดินจงกรมเอาสักสิบขามาเดิน ไปยืมขาหมามาด้วยมาเดินจงกรม กูมีสองขากูไม่พอ กูจะไปยืมอีก แล้วไปกวนไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้ปุ๊กกี้ก็มีสี่ขา ไอ้หมีก็มีสี่ขา ไอ้จ้ำดาวก็มีสี่ขา ไอ้อ้วนเตี้ยๆ ก็มีสี่ขา เขาก็พอดีกับเขา ไปยืมขาเขามาเดินจงกรม ยืมเขามาสี่ขามาเดินจงกรมถ้าเผลอสติแล้วไม่มีความหมาย เข้าใจไหมที่พูดนี่ ไปยืมกระทั่งขาหมามาก็ไม่มีความหมาย อย่าว่าแต่ขามนุษย์เลย ถ้ามีสติแล้วอยู่ที่ไหนอยู่เถอะ ยืนเดินนั่งนอนสติจับ จับแล้วกิเลสเข้าไม่ถึง กิเลสเกิดไม่ได้ ขอให้มีสติเถอะน่ะ สตินี่สำคัญมากนะ กั้นคลื่นมหาสมุทรมหาทะเลของกิเลสได้อย่างเหมาะสมที่สุด ให้จำเอานะ สติๆ จำให้ดี เราตั้งรากตั้งฐานมาด้วยสตินี้นะ เอากันอย่างจริงจัง เหล่านี้มาสอนทั้งหลายนี้เราทำมาแล้วทั้งนั้น ได้ผลเป็นที่พอใจโดยลำดับ ขอให้พากันไปปฏิบัติตั้งเนื้อตั้งตัว

ทางฆราวาสก็ให้มีศีลมีธรรม อยู่ด้วยกันอย่าคอยเอารัดเอาเปรียบกัน เป็นโจรเป็นมารคอยฉกคอยลักเอารัดเอาเปรียบเขา อยู่ลับๆ ในจิตใจนั้นแหละ ถ้าเป็นอรรถเป็นธรรมสง่าผ่าเผยต่อกัน ใครมาคบค้าสมาคมกับกันและกันแล้วเป็นความสนิท ติดใจต่อกันและกัน ฝากเป็นฝากตาย ฝากความเชื่อถือกันกระทั่งวันตาย นี้สำหรับชาวพุทธผู้มีจิตเป็นธรรม ไอ้จิตเป็นกิเลสตัณหาได้เท่าไรไม่พอนะ ไม่พอ ตั้งเป็นมหาเศรษฐีก็ไม่พอ ตายทิ้งเปล่าๆ ด้วยความไม่พอของกิเลสชักจูงหรือลากไปนั่นแหละ เอาละให้พร

หลังจังหัน

(ผู้ว่าฯ จารึก ปัญญาพล ได้สนับสนุนเงินงบประมาณในการจัดสร้างระบบการประปา แท็งก์น้ำ ๒,๐๐๐ ลิตรจำนวน ๔ ใบ เครื่องปั๊มพ์น้ำ เครื่องกรองน้ำ พร้อมหลังคา งบประมาณทั้งสิ้น ๙๙,๖๗๒ บาท เพื่อแก้ไขปัญหาอำนวยความสะดวกในการใช้สอยน้ำประปา ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใช้การได้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๔๘  และเนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด ๗ ตุลาคม ๔๘ ขอถวายเช็คสองหมื่นบาท) เออ พอใจๆ วันนี้ท่านผู้ว่าท่านมาถวายวันเกิดท่าน นอกจากท่านช่วยทางแท็งก์น้ำประปางบประมาณ ๙๙,๖๗๒ บาท ยังถวายปัจจัยอีกเป็นเช็ค เราจึงขออนุโมทนา ถ้าเป็นไปได้เราอยากให้ท่านกลับไปเกิดอีก แล้วเราจะขนเอาเงินวันเกิดทั้งวันไม่ต้องไปไหน เราจะไม่ไปไหนวันนี้ นี่ละภาษาตลกมันเป็นเอง

(อีกรายหนึ่งครับ คุณแม่บังอรจากจังหวัดชลบุรี ถวายน้ำตาล ๕,๐๐๐ กิโล จะส่งมาวันนี้แหละครับ) ถ้าเป็นกระสอบละหนึ่งร้อยกิโลจะเป็นกี่กระสอบ (๕๐ กระสอบครับ) นั่นไม่ใช่เล่นๆ นะ คุณบังอรอยู่จังหวัดชล เศรษฐีคนหนึ่งละอยู่นั้น เราไปที่นั้นจะรู้ก่อนเพื่อน ลูกชายบวชอยู่วัดเขาเขียว นี่ส่งมา แล้วเตียงคนไข้มาหลายครั้งนะ ครั้งละห้าเตียงสิบเตียง บางครั้งถึงสิบเตียงก็มี นี่ก็ส่งเงินมาทำบุญให้เขาซื้อน้ำตาลทรายมานี้ น้ำตาลทรายก็เป็นความจำเป็นแบบพื้นฐาน ตามปรกติน้ำตาลเราจะเอาไปแจกวัดนั้นวัดนี้ เวลานี้ความจำเป็นของโรงพยาบาลยิ่งมากขึ้นทุกวัน ที่มาติดต่อขออาหารในโกดังเรา เราให้น้ำตาลรถละ ๕๐ กิโล น้ำตาลหนึ่งถุงเป็นประจำ เดี๋ยวนี้เลยไม่อาจจะส่งไปทางไหนถวายพระได้ละ นอกจากเป็นกรณีพิเศษเราจะนำติดตัวไปด้วยเท่านั้น จะให้แจกทั่วๆ ไปเหมือนแต่ก่อนในบรรดาวัดทั้งหลายนี้แจกไม่ได้แล้ว มอบให้ทางโรงพยาบาลหมด อย่างที่ว่ากี่ร้อยนี่ก็เพื่อโรงพยาบาล

โรงพยาบาลรู้สึกว่าจนตรอกจนมุมมาก ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากจะขอบิณฑบาตจากทางกระทรวงสาธารณสุขบ้าง เราอยากพูดย้ำเข้าอีกว่า ให้มองดูโรงพยาบาลคนไข้ซึ่งเป็นคนจนตรอกจนมุมกว้างๆ หน่อย เราอยากว่าอย่างนั้นนะ ขอบิณฑบาตให้รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขดูโรงพยาบาลทั้งหลาย เราพูดตามความสัตย์ความจริง เฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลภาคอีสานเป็นโรงพยาบาลของคนจนเต็มไปหมด ทางภาคอื่นๆ ภาคเหล่านั้นพอสมบูรณ์พูนผลอยู่ทุกๆ ภาคนะ ที่ภาคจนกว่าเพื่อนก็คือภาคอีสาน จน แต่ไม่ใช่มีอะไรมาบีบบังคับให้จน หากจนโดยหลักธรรมชาติหลักของกรรมก็ไม่ผิด คือภาคอีสานนี้น้ำที่จะไหลผ่านไปมาเพื่อจะได้ทำการเพาะปลูกสิ่งต่างๆ นี้ไม่มี น้ำสำคัญมากนะ มีที่ไหนการปลูกสร้างนี้เขียวปื๋อไปเลยตามสายน้ำ ทางภาคอีสานนี้จนตรอก เป็นภาคคนจน ไม่ว่าจะทำอะไรๆ ทำไม่ได้ คือน้ำเป็นสำคัญมาก

พอทำนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว นู่นละวิ่งเข้าไปภาคกลาง ภาคกลางเป็นพ่อเป็นแม่ของภาคอีสานโดยหลักธรรมชาติไม่ต้องเสกสรร เป็นมาแล้วนะ เพราะภาคอีสานมีแต่ทำนาอย่างเดียว ที่จะทำกิจการงานอย่างอื่นไม่มี ส่วนมากน้ำไม่อำนวยนี่ละทำให้เสียมาก พอทำไร่ทำนาเสร็จแล้วโดดเข้าไปภาคกลาง ภาคกลางเป็นภาคพ่อภาคแม่เลี้ยงภาคอีสานพอเป็นผู้เป็นคนได้ตลอดมา เพราะเอะอะก็ต้องวิ่งเข้าภาคกลาง ไปหาทำการทำงานทางนู้นๆ พอได้เงินได้ทองก็มาเลี้ยงครอบครัวเหย้าเรือนของตนๆ ไปที่ไหนไม่มีทางที่จะรับรองความจำเป็นนี้ได้นอกจากภาคกลาง เพราะฉะนั้นภาคกลางจึงเป็นภาคที่เป็นพ่อเป็นแม่ของภาคอีสานมาดั้งเดิมนะ

เวลานี้ก็มีโรงพยาบาล แล้วบรรดาโรงพยาบาลทั้งหลายได้มาติดต่อขอจากวัดนี้ เราก็ให้เต็มกำลังความสามารถ ส่วนมากเป็นโรงพยาบาลภาคอีสาน ภาคอื่นไม่ค่อยได้มาขอละ ภาคอีสานเป็นที่หนึ่งมาขอนี้ เราจึงหนักมากทีเดียว โรงพยาบาลนี้ไม่ใช่อย่างหนึ่งอย่างเดียวนะ พวกเครื่องไม้เครื่องมือ ตึกหรือพื้นที่ความจำเป็นในโรงพยาบาลมีเยอะนะ เพียงว่าเครื่องมือแพทย์เท่านั้นครอบหมดแล้ว ไหลเข้ามาๆ  ปรกติวันละสามโรงสี่โรง ของที่จัดให้โรงพยาบาลแต่ละโรงๆ นั้นเราจัดให้สม่ำเสมอกันหมด ถ้าโรงพยาบาลเป็นพิเศษ เรากำหนดจังหวัดไว้ อุตรดิตถ์ โคราช อุบล สามจังหวัด ถ้าไกลกว่านั้นไม่มีปัญหาให้เป็นพิเศษทั้งหมด นี่ตั้งเขตเบื้องต้นไว้อย่างนี้

โรงพยาบาลไหนก็ตามถ้ามาจากสามจังหวัดหรือไกลกว่านั้นอีก ก็เหมือนกันกับสามจังหวัดนี้ ให้พิเศษด้วยกันทั้งนั้น นอกจากนั้นก็ให้ธรรมดา ธรรมดาก็เสมอกันหมด ถ้าพิเศษก็เสมอกันหมด เวลาขากลับนี้เติมน้ำมันให้เต็มทุกคันรถๆ เต็มถังทุกคันรถ เป็นอย่างนี้ตลอดมา ท่านเหล่านี้ถ้าหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ไม่มา ใครจะมา คิดดูซิอุบล มาหาอุดรระยะทางไกลขนาดไหน ถ้าพอถูไถได้ท่านเหล่านี้จะไม่มา แต่นี้ทำไมจึงมา จำเป็น ไม่ไหวต้องอาศัยผู้อื่นช่วย เช่นเข้ามาเอาจากวัดนี้ไปๆ นี่ละเราเห็นใจโรงพยาบาล จึงอยากขอบิณฑบาตท่านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ขอให้เฉลี่ยเผื่อแผ่เงินงบประมาณ เพิ่มเติมทางภาคอีสาน ภาคอื่นยังไม่ว่าละ เพราะภาคเหล่านั้นท่านพอเป็นพอไป ภาคอีสานเป็นภาคคนจน ขอให้เฉลี่ยทางคนจนเป็นพิเศษก็ได้ไม่ว่าละ พิเศษกับคนจน ขอให้พิจารณาบ้างเถอะ จนจริงๆ ท่านเหล่านี้ไม่จนไม่เข้ามา

วัดก็เป็นสถานที่ขอทาน ท่านเหล่านี้มาหาอะไร ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่มา แต่นี้ก็มา เลยกลายเป็นว่าวัดนี้เป็นพ่อแม่ของโรงพยาบาลต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งทางภาคอีสาน ไหลเข้ามาๆ  ทุกอย่างที่เราช่วย เรียกว่าช่วยเต็มกำลังความสามารถเลยนะ จนไม่มีเงินติดเนื้อติดตัว แต่ก่อนเราเทศน์ช่วยชาติ เงินช่วยชาติได้มาก็เป็นความสะดวกแก่การช่วยเหลือพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยนี้ แต่พอหยุดการเทศนาว่าการ เงินช่วยชาติก็ไม่มี ก็มีแต่เงินที่พี่น้องทั้งหลายมาบริจาคอย่างนี้ละ เอาจำนวนนี้ละออกช่วยโลกเวลานี้ มันก็ไม่พอ เราจึงอยากขอรบกวนท่านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ขอให้มองมาทางภาคอีสานหน่อยนะ มองผ่านไปหมดภาคอีสานจังหวัดไหนก็เถอะจนด้วยกัน ไม่ทะนงตัวว่าภาคอีสานมั่งมี เพราะจนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

เวลานี้ความจนยิ่งมากขึ้นๆ ความจำเป็นมากขึ้น ทางวัดก็ต้องช่วยเหลือเต็มกำลัง ไม่ใช่ทางวัดนี้เป็นเศรษฐีนะ แต่ต่างคนต่างจนก็ช่วยกันไปอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้นวันนี้จึงขอบิณฑบาตจากกระทรวงสาธารณสุข มีงบประมาณยังไงๆ ก็กรุณาได้แจกจ่ายมาด้วยความเมตตาของกระทรวงด้วย ทางนี้จะขอขอบคุณเป็นอย่างมากทีเดียว ในนามหลวงตาบัวขอบคุณก่อนอื่นนะ เราอยากจะเห็นบรรดาคนไข้ทั้งหลายที่เราเข้าไปเยี่ยมๆ ได้เบาบางลงบ้างในความกังวลใจของเรา เพราะเราไปดูโรงพยาบาลแต่ละโรงๆ เราเข้าไปดูจริงๆ  เข้าไปกระทั่งถึงครัว ครัวโรงพยาบาล ซักไซ้ไล่เลียงเข้าไปๆ ห้องทำการทำงานของโรงพยาบาลต่างๆ เราก็เข้าเป็นห้องๆ ไปเลย ทำอะไรขัดข้องอะไรถามเรื่อย จดมาเรื่อยๆ แล้วสั่ง อย่างนั้นนะ เรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้

ไม่ได้หยุดการช่วยชาติบ้านเมือง เพราะหลวงตานี้เราพูดตรงๆ ดังที่เคยพูดมาแล้ว หลวงตาไม่เอาอะไรเลย ทุกบาททุกสตางค์หลวงตาไม่เคยไปแตะให้เป็นมลทินในจิตใจของตัวเอง พี่น้องทั้งหลายบริจาคมาด้วยความไว้วางใจ จากความรักชาติ จากความรักสมบัติของตัวเองมามอบให้เราซึ่งเป็นที่ไว้วางใจ เราก็ทำให้เต็มเหนี่ยวสมพี่น้องทั้งหลายไว้วางใจเราตลอดมา เราจึงไม่ไปแตะต้องสมบัติส่วนใดที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมา

นอกจากนั้นสมบัติที่เขาถวายมาเป็นส่วนตัวเราก็เป็นอันเดียวกันเลย ไม่มีว่านี้เป็นของท่านของเรา เพื่อเป็นส่วนรวมสำหรับคนจนทั้งนั้นแหละ เพราะฉะนั้นวันนี้จึงขอบิณฑบาตท่านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ถ้าหากว่าไม่แน่นอนก็ให้รัฐมนตรีนี้วิ่งเข้าไปหานายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ นี่เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ไปจับเขย่าเลยนะ ให้ท่านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขไปจับเข่าเขย่าเลย เป็นยังไงชาวบ้านชาวเมืองเขากำลังจะตายอยู่ในโรงพยาบาล นี่พูดถึงเรื่องความจำเป็นในโรงพยาบาล ที่อื่นก็เป็นเหมือนกัน แล้วนอนอยู่ทำไม ว่างั้นนะ ให้ไปพูดกับนายกบอกว่าหลวงตาบัวสั่งมา ให้ไปช่วยคนที่เขาจะตาย ผู้มั่งมีศรีสุขมีแต่มั่งมีศรีสุข กินจนท้องจะแตกก็มีเยอะในเมืองไทยเรา แต่พวกที่เขาอดอยากขาดแคลนท้องไม่มีอะไรจะใส่นี้มีเยอะ เพราะฉะนั้นจึงจับเข่าของนายกรัฐมนตรีเขย่าขอเงินมาช่วยบรรดาพี่น้องทั้งหลาย เฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาล เอ้า ย่นเข้าไปอีกโรงพยาบาลภาคอีสาน เพราะเป็นภาคที่จำเป็นมาก เอาเท่านี้แหละคำขอร้องของหลวงตาบัว

(กราบเรียนครับผม รัฐมนตรีปัจจุบันชื่อนายแพทย์สุชัย เจริญรัตนกุล เขาคงตอบสนองหลวงตาไม่ได้ เขาจะลาออกวันที่ ๓๑ ตุลา นี้แล้วครับ) เราก็เอาคนใหม่แทนนั่นละ คนเก่าที่ผ่านไปแล้วเราไม่เอา กับคนตายเราก็ไม่เอา เราจะเอากับคนเป็น หายสงสัยแล้วเหรอ (ครับ) เอาละพอ บอกให้ไปจับเข่าเขย่านายกรัฐมนตรี ไม่มีใครพูดนี้พูดตลก พูดได้ทุกแบบ มีเท่านั้นละ ทีนี้มีอะไรว่ามา

(เกี่ยวกับสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนของจังหวัดแพร่ครับ ชาวอำเภอร้องกวางจะทำการติดตั้งสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนประจำจังหวัดแพร่ คาดว่าจะดำเนินการในวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ กำลังส่ง ๑๐๐ วัตต์ ในระบบ FM เสาสูงร้อยเมตร ระบบดาวเทียม ซึ่งหากสำเร็จแล้วก็จะถ่ายทอดจากสถานีบ้านตาด และพร้อมถวายเครื่อง ตลอดสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนมายังหลวงตาเพื่อรับทราบ สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้นทางสถานีพอจะช่วยตัวเองได้ไม่ต้องรบกวนหลวงตา) พอใจๆ เราอยากฟังช่วยตัวเองได้นี่ อย่างอื่นเราไม่อยากฟัง ที่ว่าช่วยตัวเองได้นี้เราอยากฟังเหลือเกิน ที่มันน่าโมโหอยู่ก็คือ ไอ้หมีกับไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง ไอ้อ้วน มันช่วยตัวเองไม่ได้พวกนี้ ตอนเช้าก็กินกับพระตอนเย็นกินกับพระน่าโมโห พวกเราช่วยตัวเองได้แล้วนะเข้าใจไหม เราตำหนิอยู่หมา ๔ ตัวนี้เท่านั้นละ เอาละพอ

พูดถึงเรื่องวิทยุเราเวลานี้กระจายออกมากมายนะ มากจริงๆ ดูมันจะทั่วประเทศไทยแล้วมั้งทุกภาคนะ ดูว่าทุกภาค ทางภาคใต้ที่เป็นภาคยืดยาวก็มีเยอะนะ ดูเหมือน ๔-๕ แห่งละมังภาคใต้ ประจวบฯตั้งแต่ขีดของภาคใต้ภาคกลาง ประจวบฯ (พังงา พัทลุง แล้วก็หาดใหญ่ หลายแห่งแล้วครับ) นราธิวาส เอ้อ หลายแห่งแล้วธรรมะนี้ออกกระจาย ก็สมเจตนาเราที่มุ่งไว้ เจตนาเราที่มุ่งไว้ภายในจิตใจอย่างลึกลับและแน่นหนามั่นคงด้วย ว่าที่เราจะนำพี่น้องทั้งหลายช่วยชาติ คำว่าช่วยชาติบรรดาพี่น้องทั้งหลายจะมองไปทางด้านวัตถุเงินทองต่างๆ เป็นสำคัญ ใครที่จะมองเห็นธรรมนี้จะไม่ค่อยมีนะ แต่เราพุ่งสำหรับธรรม

ธรรมเป็นเรื่องใหญ่โตมากยิ่งกว่าด้านวัตถุที่คนทั้งหลายทราบทั่วหน้ากัน แต่ธรรมไม่มีใครทราบ ก็มีแต่เราคนเดียว คราวนี้เป็นโอกาสที่ธรรมจะได้กระจายไปสู่จิตใจของพี่น้องชาวไทยเราซึ่งเป็นชาวพุทธทั่วหน้ากัน แล้วเวลานี้ก็ออกอย่างที่ว่าแล้วใช่ไหมล่ะ กระจายไปหมด นี้ยังไม่หยุดนะ ช่วยชาติทางด้านวัตถุเงินทองก็ค่อยผ่อนกันไปละ ส่วนช่วยชาติทางด้านอรรถธรรมนี้ไปตลอดกว้างขวางมากมาย อย่างนี้ก็ออก ออกทั่วประเทศไทยนะที่เทศน์อยู่นี้ มีอะไรอีก เสร็จแล้วก็จะให้ศีลให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก