เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๘

เทวทัตยังรู้โทษ

         ผู้กำกับ มีผู้หลักผู้ใหญ่บางคนเขาว่าเดี๋ยวนี้หลวงตามายุ่งกับการเมือง

หลวงตา การเมืองอะไร กองขี้อยู่ในการเมืองนั้น เวลานี้ส้วมถานอยู่ในการเมือง ยักษ์ใหญ่อยู่ในการเมือง เปรตผีอยู่ในการเมืองว่าไง นี้เราไปชำระล้าง เราจะตายแล้วนะ อกเราจะแตกแล้วนะ เราช่วยพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยมาเป็นเวลา ๗ ปี เป็นตายชีวิตเรามอบเลยกับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราไม่มีอะไรเสียดายในตัวของเรา นอกจากมีความเสียดายและเป็นห่วงพี่น้องทั้งหลายเท่านั้น มันยังมาหาเรื่องว่าเราเล่นการเมือง

มันกินขี้อยู่มันจะลากเราไปกินขี้เราไม่กิน เข้าใจเหรอ โอ๊ย เราสลดสังเวชนะ พอดีออกมานี้เราก็ได้พูดเสียบ้าง ถ้าพูดภาษาโลกก็ว่าเราแค้นที่สุดเลย แค้นให้รัฐบาลชุดนี้ ไม่เคยมี รัฐบาลตั้งมากี่ชุดๆ ก็หากมีเป็นธรรมดาๆ เรียกว่าพอทนได้ๆ  อันนี้ไม่ทราบว่าจะทนได้หรือไม่ได้ ออกแง่ไหนๆ มีแต่เรื่องเหยียบหัวประชาชนๆ และกินตับกินปอดประชาชน กวาดเข้าพุงของตัวเองๆ ในวงนี้ อย่างน้อยเรียกว่าส้วมใหญ่ถานใหญ่ มากกว่านั้นเรียกว่านรกอเวจีอยู่ในนั้นเลย เราเห็นแล้วสลดสังเวช

พระพุทธเจ้าว่าบาปมี บุญมี นรก สวรรค์ มี มันยอมรับร้อยเปอร์เซ็นต์เลย กับที่มากีดขวางนี่มันสลดสังเวชนะ สลดสังเวชแทนประชาชน ไอ้พวกนี้จะกินตับกินปอดประชาชน ตั้งคนไหนขึ้นมาเพื่อให้เป็นผู้นำๆ ของชาติ หย่อนบัตรนี้เว้นได้เมื่อไร คนทั่วประเทศไทยไม่หย่อนไม่ได้ บังคับให้ไปหย่อน ฟังซิ ครั้นหย่อนมาแล้ว ความมุ่งหมายว่าไง ก็เพื่อหาผู้นำที่ดี เพื่อจะอุ้มชาติบ้านเมืองขึ้นไป ครั้นได้มาแล้วมันก็เป็นอย่างนี้ เป็นยักษ์เป็นผีเป็นมาร ที่เขาฟ้องร้องมานี้มากต่อมาก วันนี้จะเปิดออกบ้างไม่มาก

เขาฟ้องร้องมา นายกทักษิณ กับนายวิษณุ และกับอีกสองคนเราจำไม่ได้ นี้คือตัวยักษ์ใหญ่ ตัวอำนาจใหญ่ อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ จะกินบ้านกินเมืองกัดตับกัดปอด มุ่งใส่ประธานาธิบดี ว่างั้นนะ เราเอาธรรมจับเข้าไป ประธานาธิบดีหีพ่อหีแม่มึงอะไร เกิดมาไม่เคยมีประธานาธิบดี เมืองไทยเราครอบครองกันมาด้วยความสงบร่มเย็น เราอยากถามว่าอย่างนั้น เข้าใจไหม ประธานาธิบดีหีพ่อหีแม่มึงอะไร นี่ละมันจะเอาไฟเผาบ้านเผาเมืองเวลานี้ มันไม่ยอมฟังเสียงเลยนะ ยึดอำนาจบาตรหลวงไปทุกซอกทุกมุม วงราชการต่างๆ เจ้าอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ นี้เข้าไปยึดอำนาจๆ ไว้หมดในวงราชการ ตีออกไปหาตำรวจ ทหาร ให้เป็นเจ้าอำนาจๆ มาบีบบังคับคนทั้งชาติ

แล้วตำรวจทหารก็มีพ่อมีแม่ ฟังซิน่ะ ตำรวจทหารจะมาทำงานตามอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ นั้น แล้วเหยียบหัวพ่อหัวแม่ของตนมาทุกคนๆ ตำรวจทหารทุกคนๆ หน่วยวงราชการต่างๆ ทุกคนๆ เป็นลูกมีพ่อมีแม่ ตำรวจคนหนึ่งมีพ่อมีแม่ ทหารคนหนึ่งมีพ่อมีแม่ แล้วจะเอาตำรวจทหารมาเหยียบหัวพ่อหัวแม่ ให้เป็นไปตามอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ ซึ่งจะเอาไฟเผาโลกของตนมาใช้เวลานี้ พ่อแม่ของตำรวจทหารนั้นเวลานี้กำลังเดือดร้อนจะเป็นจะตาย แล้วตำรวจทหารที่อยู่ในอำนาจของอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ นี้คิดว่ายังไงบ้าง ให้พากันพิจารณานะ

นี่เราทราบมาเต็มหูเต็มตาเต็มใจของเรานะที่เรามาพูดนี่น่ะ มันออกทุกแง่ทุกมุมเลย ป่าๆ เถื่อนๆ นี่น่ะ มีตั้งแต่สิ่งที่จะเผาเป็นฟืนเป็นไฟ มุ่งหน้าต่อประธานาธิบดีชัดเจนแล้วเดี๋ยวนี้ พระมหากษัตริย์เหยียบลง ศาสนาเหยียบลง ชาติเหยียบลง ด้วยอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ในคนไม่กี่คนในวงรัฐบาล นั้นละวงยักษ์วงผีวงเปรตวงมารอยู่ในนั้นหมด เราทนไม่ไหวถ้าว่าทน แต่เราก็ไม่คิดว่าจะทน เราก็ฟังไปๆ ทุกอย่าง เพราะพูดง่ายๆ เราไม่ได้อยู่ในโลกสกปรกนี้ การมาเทศน์สอนธรรมนี้ เราเอาธรรมที่สะอาดจ้าสาดลงมาๆ แล้วมันยังหาว่าเรามาเล่นการบ้านการเมือง การบ้านการเมืองมูตรคูถใครจะไปเล่นกับมัน ให้มันเล่นแต่พวกมัน เข้าใจไหมล่ะ

เราสลดสังเวชนะรัฐบาลชุดนี้ เฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรีเราช่วยเต็มเหนี่ยว เพื่อจะยกท่านผู้นี้ว่าจะเป็นคนดิบคนดี จะยกชาติไทยขึ้น เราช่วยเต็มกำลังความสามารถ เพราะเราหาคนดีมันหาไม่ได้ หาเจอตรงไหนๆ มีแต่ยักษ์แต่ผีจะกินบ้านกินเมือง ประชาชนนอนตาไม่หลับ ความทุกข์ยากลำบากเป็นฟืนเป็นไฟเผาในใจ เราจึงพยายามยกนี้ให้เป็นนายก บรรดาประชาชนทั้งหลายเขาก็พร้อมหน้าด้วย ต่างคนต่างพร้อมหน้ากันยกให้เป็นนายกขึ้นมาเห็นไหม ครั้นเป็นนายกขึ้นมานี้แล้ว มันไม่ได้หันหน้ามามองดูอาจารย์มันเลย อาจารย์มันอีตาบัว หลวงตาบัว มันมองหาตั้งแต่ก๊กแต่เหล่าแต่พรรคแต่พวกที่จะยึดอำนาจ กวาดเอาสมบัติเงินทองมาเป็นเศรษฐี เลยมหาเศรษฐีเข้าไปอีก แล้วมันก็ตายกองกันอยู่ในสมบัตินั่นแหละไม่เกิดประโยชน์อะไร

เพราะฉะนั้นเราสลดสังเวช เราจึงจี้เข้าไปนั้น ป่าช้ามีหนา พระพุทธเจ้าสอนไว้ทุกพระองค์ไม่มีใครค้านกันเลย แม้ที่สุดหัวอกเรานี้ก็จ้าไปหมดเรื่องบาป บุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน เราหาที่สงสัยไม่ได้ จึงได้กราบพระพุทธเจ้าอย่างราบเลย เอ้า ถ้าใครเก่งกว่าพระพุทธเจ้า เก่งกว่าธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ที่เรากำลังสอนโลก เก่งกว่าหลวงตาบัวที่สอนโลกเวลานี้ ให้มาเหยียบหลวงตาบัวเสีย แล้วก็ไปเหยียบไฟนรก ไม่ว่านรกหลุมใดที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ พวกนี้มันเก่งกว่าศาสดา มันไปเที่ยวหาลบไปหาทำลายบาปบุญคุณโทษนรกสวรรค์ไปหมด มันจะไปครองหัวพ่อหัวแม่มันที่ไหนเราก็ไม่รู้นะ หัวพ่อหัวแม่มันนั่นหรือจะให้มันเป็นที่ครอง ขี้รดหัวพ่อหัวแม่

เห็นไหมเวลานี้เกณฑ์ตำรวจเกณฑ์ทหารให้อยู่ในเงื้อมมือของตนๆ ตำรวจทหารแต่ละคนๆ เขามีพ่อมีแม่ พ่อแม่เขาอยู่ในที่ต่างๆ เมื่อพ่อแม่มีความเดือดร้อนวุ่นวาย ทหารยังมีแก่หน้าแก่ตามาเหยียบหัวพ่อหัวแม่อยู่เหรอ เราอยากเอาปัญหานี้ไปถามตำรวจถามทหาร แล้วย่นเข้าไปถามตัวใหญ่ๆ โตๆ บังคับเขาหาอะไร อยากว่าอย่างนั้นนะ เป็นรัฐบาลมาเขาไม่ได้เป็นรัฐบาลที่จะมาเหยียบบังคับอย่างนี้ เอาๆ เอาหัวหลวงตาบัวไปตัดเลยถ้าหลวงตาบัวพูดผิด นี่ได้พินิจพิจารณามาโดยตลอดตั้งแต่บรรดาพี่น้องทั้งหลาย ที่ผู้ได้รับความทุกข์ความลำบาก ส่วนคนชั่วมันไม่มาหาเราแหละ คนดีเขาก็ต้องวิ่งมาพึ่งครูบาอาจารย์ เพราะธรรมเป็นที่พึ่งเป็นพึ่งตายมากี่กัปกี่กัลป์จากพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เวลานี้เขาก็กำลังพึ่งเราในนามของธรรมมาสอน แล้วเราก็จะไม่สอนให้ผิดให้พลาดไปเป็นอันขาด ตั้งแต่ต้นมาจนกระทั่งป่านนี้เราไม่มีคำว่าสอนให้ผิดพลาดไป มีแต่ความถูกต้องแม่นยำ

ตัดคอของเราไปได้เลย แทนพระพุทธเจ้า ศาสนา แทนประชาชน แทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สิ่งใดที่เป็นฟืนเป็นไฟที่จะเผาไหม้ทั้งสามพระองค์นี้ เราไม่อยากให้เข้ามายุ่ง เวลานี้กำลังเข้ามายุ่งไปหมด พวกเปรตพวกนี้ซอกแซกซิกแซ็กไปวางอำนาจไว้หมดนะ ในหน้าที่การงานในศงในศาล มันไปวางอำนาจมากๆ ไว้หมด เราทราบหมด วันนี้เราจะพูดเสียให้ชัดเจน ตัวเก่งๆ เป้งๆ เราก็ทราบชื่อของมัน นี้ละตัวยักษ์ตัวผีตัวทำลายชาติ มันเอาตัวของมันยกขึ้นเป็นทองคำทั้งแท่ง แล้วเหยียบประชาชน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้เป็นมูตรเป็นคูถลงไปเดี๋ยวนี้ นี่เราเห็นชัดเจน เราสลดสังเวชนะ

นายกของเราก็ดี ใครก็ดี แล้วคนที่เขาบ่งมากที่สุดก็คือนายกกับวิษณุ คนทั้งประเทศนี่แหม เราฟังไม่ได้เลย ให้รู้เนื้อรู้ตัวนะ วิษณุเป็นคนของประชาชน ลูกของประชาชนในเมืองไทยเรา นายกรัฐมนตรีก็เป็นลูกของประชาชนในเมืองไทยเรา ขอให้ตั้งใจปฏิบัติตัว ความเรียนรู้มาเหล่านั้นเรียนรู้มาเพื่ออะไร ความบ่งบอกของความรู้วิชาก็เพื่อมาพยุงชาติบ้านเมืองและหน้าที่การงานของตนให้เจริญรุ่งเรือง ไม่ใช่เรียนมาเพื่อเหยียบย่ำทำลายคนทั้งประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้แหลกไปนะ ให้พลิกเสียใหม่ความเรียนมานี้ ว่าดอกเตอร์ดอกแต้ ดอกเตอร์ขี้หมาอะไรใช้ไม่ได้นะนี่

คนทั้งประเทศไทยกำลังร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ มันยังหยิ่งในความรู้ดอกเตอร์ดอกเต้นั่นอยู่หรือ ความรู้อันนี้เป็นความรู้มหายักษ์มหาภัย เด็กเขาก็ไม่ไปเรียนความรู้แบบนี้ เขาไม่ไปเรียนเขาก็ไม่มาปฏิบัติเด็กที่เป็นเด็กดี ถ้าเด็กของพวกนี้แล้วดีเป็นแบบเดียวกันกับพ่อกับแม่มันแหละ ให้พากันพิจารณานะ เราสลดสังเวชจริงๆ เอาคอหลวงตาบัวตัดเลย หลวงตาบัวไม่มีคำว่ากล้าว่ากลัวว่าสะทกสะท้าน เพราะธรรมเหนือหมดแล้ว เรียกว่าธรรมนี้เหนือโลกไปหมดแล้ว กล้าเราก็ไม่มี กลัวเราก็ไม่มี มีแต่ธรรมทั้งแท่งอยู่ในหัวใจ แยกออกไปตรงไหนไม่ผิด

ที่ว่าเวลานี้ก็เตือนรัฐบาล เพราะรัฐบาลจะพาคนทั้งประเทศนี้ผิด เพราะอาจเอื้อมเอาเหลือเกินจะเป็นประธานาธิบดี ไม่บอกมาก็ตาม เรื่องชัดเจนๆ มาแล้วบรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศไทยไม่ใช่คนหูหนวกตาบอด เขารู้เหมือนกัน ทำไมจะไปเก่งตั้งแต่คุณทักษิณกับวิษณุนี้อย่างเดียว กับคนในวงนี้ มันเก่งแบบไหน ไปเรียนวิชามาแบบไหน วิชาแบบนี้ในเมืองไทยเราไม่เคยมี วิชาแบบจะกลืนโลกกลืนสงสาร กลืนชาติ กลืนศาสนา กลืนพระมหากษัตริย์ วิชาของเมืองไทยที่เราเคยเรียนมาไม่มี มันก็มีแต่วิชาสามสี่กษัตริย์ที่อยู่ในวงรัฐบาลเวลานี้ กำลังเบ่งนะ จะเบ่งไปถึงไหนก็ไม่ทราบ คนสองสามสี่คนอยู่ในวงรัฐบาลนี้ไม่มีป่าช้าเหรอ ถามดูซิน่ะ เวลาตายแล้วก็จะถูกเผาไฟเหมือนกัน แต่เมืองไทยเขานิยมพระไป กุสลา ธมฺมา ถ้าหากว่าไม่แก้ตัวแล้วอย่ามานิมนต์หลวงตาบัวไป กุสลา ธมฺมา มองดูไม่ได้แล้วยังจะนิมนต์ไป กุสลา ธมฺมา อยู่หรือ

เรา กุสลา ธมฺมา กับไอ้ปุ๊กกี้เรานี้ดีกว่าให้ความฉลาดมัน คำว่า กุสลา ธมฺมา แปลว่าธรรมยังบุคคลให้ฉลาด ยังสัตว์ให้ฉลาดอย่างนี้ต่างหาก อย่าเอาไปนะ มันพิลึกพิลั่นเหลือเกินวงรัฐบาลชุดนี้ออกเด่นมากทีเดียว เป็นตัวมหาภัยป่าๆ เถื่อนๆ อย่างไม่มองดูหน้าใคร มีแต่หน้าเราคนเดียวเก่งกว่าโลกทั้งโลก เหยียบไปหมดนะเวลานี้ ขอให้รัฐบาลถ้าจะเป็นมนุษย์มนากับประชาชนในชาติไทยทั้งหลายของเรา สมว่าเป็นผู้นำเพื่อเมืองไทยเราแล้ว ก็ขอให้นำความรู้เหล่านี้ไปพินิจพิจารณา ความรู้เหล่านี้ออกมาจากศาสดา พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ขนสัตว์โลกให้พ้นจากทุกข์เป็นลำดับลำดาไป แต่วิชาของเราเรียนมานี้ขนไปไหน เวลานี้เรียนมานี้ขนไปไหน มันจะลงนรกอเวจีสดๆ ร้อนๆ ทั้งเป็นนะเวลานี้ ร้อนไปหมดทุกหย่อมหญ้า

เราฟังซอกแซกซิกแซ็ก เข้าไปบังคับบัญชาไว้หมดนะ พวกหน่วยราชการต่างๆ พวกตัวเปรตนี่ละมันเอาอำนาจบาตรหลวงแทรกเข้าไปให้มาบังคับบัญชา ศาลไม่เป็นศาล สภาอะไรไม่เป็นทั้งนั้น ที่เป็นที่เคารพนับถือมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เช่น สภาหรือศาลเหล่านี้ ศาลนี่เป็นสำคัญมาก มันเข้าไปเหยียบหัวศาลเอาไว้นะ บังคับศาลไม่ให้ตอบหรือตัดสินความตามความยุติธรรมที่โลกเขาต้องการ ให้ตัดสินตามมันเลย ตามเปรตสามสี่ตัวอยู่ในวงรัฐบาลนี่ วงรัฐบาลนี้คือเปรต คือยักษ์ คือมหาภัย อยู่ในรัฐบาลนี่ ให้คิดเสียนะ ถ้าว่าหลวงตาบัวเป็นภัยต่อรัฐบาล เอาๆ คอหลวงตาบัวไปตัด ถ้าเป็นภัย เพราะพูดผิดนี่น่ะ

เรานำโลกมาแทบเป็นแทบตาย อะไรๆ เราไม่เคยแตะเลย มีความมุ่งหวังต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วทำไมจะมาทำลายทั้งชาติ ทั้งศาสนา ทั้งมหากษัตริย์ต่อหน้าต่อตาเราที่กำลังอุ้มชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อยู่นี้ มันจะกระอักเลือดตายแล้วนะ จึงรีบเตือน เรื่องชีวิตหลวงตาบัวไม่เสียดาย เอ้า ถ้าหากว่าเป็นความถูกต้อง เอ้า มาตัดเลยคอหลวงตาบัว ตัดคอหลวงตาบัวก็เท่ากับตัดคอพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์นั่นแหละ เพราะเอาธรรมอันเดียวกันมาสอนโลก ให้เกิดความร่มเย็นด้วยกัน และธรรมเหล่านี้ให้ความร่มเย็นแก่โลกมานานสักเท่าไร ก็ปรากฏเด่นชัดมาอย่างนี้

เวลานี้กำลัง.. นี่คำว่าเทวทัตแทรกธรรม เทวทัตทำลายพระพุทธเจ้า นี้ก็กำลังเข้ามา เทวทัตยังรู้โทษ เทวทัตเป็นข้าศึกศัตรูต่อพระพุทธเจ้า เวลาพระเทวทัตแยกตัวออกไปเป็นศาสดาองค์เอกขึ้นมาแข่งพระพุทธเจ้า เขามาบอก พระอานนท์ก็นำมาทูล บอกว่า เวลานี้พระเทวทัตแยกตัวจากพระองค์แล้วไปเป็นศาสดาองค์ใหม่แทนพระองค์ หรือจะว่าแข่งพระองค์ก็ได้ พอพระองค์รับทราบแล้วก็ว่า เอ๊อ ภาษิตนี้เราก็ไม่ลืม เพราะเป็นภาษิตที่สะดุดใจอย่างแรงกล้า ที่พระเทวทัตไปทำลายพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงปลงธรรมสังเวช เออ ท่านว่างั้น

สุกรานิ อสาธูนิ       อตฺตโน อหิตานิ จ,

ยํ เว หิตญฺจ สาธุญฺจ ตํ เว ปรมทุกฺกรํ.

สิ่งที่เลวร้ายทั้งหลาย ทั้งไม่เป็นประโยชน์แก่ตนและไม่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมด้วย สัตว์ที่ชั่วช้าลามกทำได้ง่าย ส่วนกรรมใดงานการใดที่เป็นประโยชน์แก่โลกแก่ตนด้วยแก่ผู้อื่นด้วย ดีด้วย งานนั้นสัตว์ประเภทนี้ทำได้ยากอย่างยิ่ง นี่พระพุทธพจน์ พระองค์แสดงไว้แล้ว

พระเทวทัตยังดีนะ กลับมาถวายคางกรรไกร เห็นโทษเห็นภัยกราบทูลพระพุทธเจ้า พระองค์ก็รับสั่งว่า “เอ้อ เราก็เสียดาย แต่มานี้หลักธรรมชาติ คือความชั่วของตัวเองนั้นแหละเป็นไปเอง ไม่มีใครที่ควรจะไปตำหนิเขา กรรมของตัวเองทำ แล้วก็จะบังคับตัวเอง นี่จะมาหาเราตถาคตนี้ มาถึงเพียงหน้าวัดเท่านั้น ไม่เข้าถึงเราก็จะถูกแผ่นดินสูบ ท่านว่าอย่างนั้น แล้วเทวทัตก็มาถึงนั่นจริงๆ หามกันมาลงที่สระหน้าวัด บรรดาลูกน้องทั้งหลายลงอาบน้ำ พระเทวทัตก็จมลงไป แล้วไม่ได้อะไรที่นี่จนตรอกเต็มที่แล้ว ว่าจะขอขมาโทษจะถวายบูชาด้วยความเห็นโทษของตัวเองก็ไม่ทัน

พอแผ่นดินสูบลงไปถึงคางกรรไกร เลยขอถวายคางกรรไกรเป็นวาระสุดท้ายแล้ว เห็นโทษตัวเองอย่างเต็มเหนี่ยว แล้วยกพระพุทธเจ้าขึ้นเป็นคุณอย่างสุดยอด  ขอถวายคางกรรไกรนี้เป็นพุทธบูชาแก่พระองค์ แล้วก็จมลงไป พระพุทธเจ้าก็ทรงยิ้มละที่นี่ เอ้อ ไม่มีทางตำหนิแหละ ท่านว่าอย่างนั้น กรรมชั่วก็พาให้คนชั่วดังที่เทวทัตเป็นอยู่นี้ที่เขาถูกแผ่นดินสูบ นี้คือกรรมชั่วของเขาทั้งนั้น ไม่ลำเอียง เขาก็จำต้องลงไปนรกตกอเวจีเป็นธรรมดา แต่กรรมดีของเขายังมีคือความเห็นโทษ เฉพาะอย่างยิ่งท่านย่นมาคือความเห็นโทษ แล้วถวายคางกรรไกรต่อเราตถาคตเพื่อเป็นการบูชา ชะล้างสิ่งที่เป็นโทษของตน

อันนี้ ถึงเขาจะไปตกนรกอยู่เพราะความชั่วของเขาก็ตาม แต่กรรมดีอันสุดยอดนี้จะสนองเขาภายหลัง ที่ถวายคางกรรไกรนี้คือกรรมดี เขาพ้นจากนรกอเวจีนี้แล้ว เขาจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ชื่ออัฏฐิสาระ กระดูกเป็นแก่นสาร เข้าใจไหม หรือกระดูกเป็นเครื่องระลึกให้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า จากนั้นแล้วก็จะหมดบุญหมดกรรม เมื่อถึงขั้นเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วเหนือโลกแล้ว ไม่มีกรรมใดจะติดตามได้เลย เพราะนี้เหนือโลกแล้ว

นี่ละพระเทวทัตท่านก็ยังเห็นภัย แล้วท่านได้สนองคุณแห่งความดีของตัวเอง จะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ไอ้เราที่ความผิดความพลาดถ้าเห็นโทษมันก็ผ่านไปได้ ชะล้างกันไปได้ นี้เป็นอย่างไรในเมืองไทยเราปกครองกันแบบไหน ยังจะหาว่าแต่หลวงตาบัวนี้มาเล่นการบ้านการเมือง การบ้านการเมืองขี้หมาอะไร มีแต่มูตรแต่คูถเต็มบ้านเต็มเมือง เราเอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาชะมาล้างให้รู้เนื้อรู้ตัว รู้ผิดรู้ถูก ในฐานะที่ว่าเราเป็นถึงรัฐบาล พวกนี้โลกเขายกยอให้ว่าเป็นคนฉลาด แต่อย่าฉลาดลงส้วมลงถาน อย่าฉลาดเอาไฟมาเผาหัวคนทั้งประเทศ ตั้งแต่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ลงมา พวกนี้จะเอาไฟเผาถ้าไม่ยอมรับความจริง เราจึงสลดสังเวชนะเรื่องเหล่านี้ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน นอกจากเหตุการณ์มันจะมาสัมผัสอะไร มีเท่าไรก็เหมือนไม่มี เราไม่อัดอั้นตันใจ ไม่อยากพูดอยากคุย แต่ความสลดสังเวชความเมตตาโลกนี้เป็นเต็มหัวใจ อย่างเราพูดบาป บุญ นรก สวรรค์ เอาคอหลวงตาบัวไปตัดเสียถ้าหลวงตาบัวปฏิเสธที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ทุกพระองค์ ฟังซิน่ะ ว่าบาป บุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน เปรตผีประเภทต่างๆ มี ยอมรับว่ามีทุกพระองค์ แล้วยังจะแหวกแนวพระพุทธเจ้าว่าไม่เชื่อ เอาคอไปตัดทิ้งเสีย ความเชื่อนี้ฝังตาย ถึงจะตัดคอเราด้วยว่า เอ้าให้เชื่อเราตัดคอ เอาตัดเลย นั่น เราแน่ขนาดนั้น มันเป็นอยู่ในหัวใจ ขึ้นเวทีนี่มันชัดเจนมากนะ

วันนี้เลยพูดเวทีฆ่ากิเลสฆ่าตัณหาฆ่าความมืดบอด ให้ท่านทั้งหลายได้ฟังเสียวันนี้ มาสักกี่ปี ๕๕ ปี จนกระทั่งถึงวันนี้ เปิดแต่กิเลสๆ ที่มันปกคลุมหุ้มห่อจิตใจไว้ คือใจนั้นเป็นเหมือนดวงไฟที่อยู่ในนั้น แก้วครอบเป็นแก้วครอบดำ ครอบดวงไฟไว้ไม่ให้มีแสงสว่าง ก็มีแต่ความมืดบอดเต็มโลกเต็มสงสารจากหัวใจที่กิเลสปกคลุมนี้ ทีนี้เวลาพิจารณาไปมันค่อยเบิกออกๆ ไม่ใช่ว่ามาเบิกทีเดียวนะ มันค่อยเบิกออกเรื่อยตามวาสนาหรือตามกำลังศรัทธา ตามกำลังความสามารถของใจที่ได้ชำระมา

เราเชื่อบาปเชื่อบุญเชื่อนรกสวรรค์ว่าเปรตว่าผี ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้นั้นแล้วค่อยเปิดออกๆ เห็นชัดเข้าๆ จนกระทั่งถึง ที่เราไปเรียนนั้นถึงขั้นนิพพาน พระพุทธเจ้าแสดงไว้ทุกพระองค์ว่าบาปบุญนรกสวรรค์นิพพานมี แล้วส่วนใหญ่ใจเราก็ยอมรับว่ามี แต่ส่วนย่อยที่เปรตที่ผีมันแทรกเข้าไปว่านิพพานมีจริงๆ เหรอ คือมันไม่ให้มี นี่พวกเปรต ส่วนใหญ่ใจของเราดวงเดียว เชื่อบาปบุญนรกสวรรค์มี แต่ส่วนย่อยมันไปแบ่งเอา มีหรือไม่มีน้า มันก็อยากจะบอกว่าไม่มี

นี่เวลาอ่านหนังสือไป บทเวลามาปฏิบัติที่นี่นะ ทีแรกพุ่งใส่พ่อแม่ครูจารย์มั่นก่อน พอได้ธรรมจากนี้แล้วทีนี้ออกฟัดกันเต็มเหนี่ยวเลย ทีนี้เปิดออกแล้วนะ เปิดออกๆ ธรรมค่อยสว่างออก ที่มัวหมองดำมืดตื้อค่อยกระจายออกๆ พุ่งขึ้นๆ บาปบุญนรกสวรรค์เปรตผี ไม่มีได้ยังไงมันจ้าอยู่ในหัวใจ ปฏิเสธได้ยังไง เอ้าที่นี่ขอยกตัวอย่างนี้ก่อนพอเป็นคติแก่พี่น้องทั้งหลาย มีพระกรรมฐานสององค์อยู่ในปัจจุบันนี้นะ ท่านไปภาวนา ความรู้ของท่านเป็นแบบเดียวกัน

ทีนี้พอไปภาวนาในถ้ำ องค์หนึ่งไปในถ้ำหนึ่ง ไปนี้ได้สามคืนองค์แรกก็ไปเจอเอาเปรต มันเอาตีนมันนี่เกาะบนเพดาน มันเอาตัวของมันหย่อนลงมาหาท่าน แล้วท่านภาวนา บอกบุญมันไม่รับ มันมีแต่เอาท่าเดียวๆ เอาตามใจของมัน ทนไม่ไหว หลับตาก็จ้าอยู่กับเปรตตัวนี้ๆ ลืมตาก็จ้า อู๊ย เรามาหาอรรถหาธรรมมีแต่สิ่งรบกวน อยู่ไม่ได้แล้ว อยู่ได้สามคืนท่านกลับไป ไปก็ไปเล่าให้พระท่านฟัง ว่าจะอยู่เท่านั้นวันเท่านี้วันแล้วกลับมาหาอะไรล่ะ ไม่กลับมาได้ยังไง ถูกรบกวนเอาเหลือประมาณ ทนได้สามคืน แล้วก็เล่าเรื่องสิ่งรบกวนให้ฟังคืออะไรๆ เอ้าถ้างั้นผมไปเอง กล้าหาญนะ ผมจะไปเอง

พอองค์นี้ไปอยู่ที่ถูกรบกวน ไปทดลองดูเป็นอย่างไร องค์นี้อยู่ได้สองคืน ทนไม่ไหว แบบเดียวกัน โดนเอาแบบเดียวกัน มันรู้มันเห็น เกาะเกี่ยวพันกันอยู่อย่างนั้น มันรู้กันอย่างนี้ปฏิเสธได้อย่างไร ในเมื่อเป็นอย่างนี้จะว่าบาปบุญนรกสวรรค์มันเกี่ยวพันกันอยู่กับความรู้นี้เต็มกระจ่างอยู่นี้ จะปฏิเสธได้อย่างไรว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มี ตั้งแต่เปรตตัวนั้นกับพระสององค์นี้ท่านก็ยังเผ่น ฟังเอาซิน่ะ ท่านวิเศษวิโสยิ่งกว่าพระพุทธเจ้ามาจากไหน แล้วท่านยังยอมเผ่นเพราะเชื่อพระพุทธเจ้าเชื่อเหตุการณ์ที่เป็น

ทีนี้เวลาภาวนาเข้าไป เอาที่นี่เปิดแล้วนะ มองไปที่ไหนมันเห็นนี่ แต่เรื่องธรรมไม่เหมือนโลก ไม่มีกดมีถ่วง ไม่มีผลักมีดัน อยากให้พูดให้จา อยากให้โม้ให้คุยไม่มีธรรม นอกจากเหตุการณ์เข้ามาสัมผัสแล้วนำออกๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่โลก ถ้าไม่เป็นแล้วอย่างไรก็ไม่ออกเหมือนกัน เหมือนไม่มี พากันพิจารณา เรื่องเหล่านี้ยอมรับหมด บาปบุญนรกสวรรค์พรหมโลก พวกเปรตพวกผีต่างๆ เวลามันเป็นขึ้นมาภาคปฏิบัติจิตตภาวนา มันจ้าขึ้นมาๆ จนกระทั่งเต็มเหนี่ยวถึงนิพพาน ดับพรึบหมด กิเลสตัวมืดบอดขาดกระจายออกไปมีแต่ธรรมชาติที่วิสุทธิธรรม วิมุตติธรรม ธรรมธาตุ จ้าขึ้นเต็มดวง ยอมรับพระพุทธเจ้า กราบไหว้

คืนวันนั้นเราไม่นอน ฟังซิน่ะ นั่งอยู่เหมือนผีบ้า พูดง่ายๆ นั่งชมอัศจรรย์ธรรมทั้งหลายที่เต็มอยู่ในหัวใจ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยคาดเคยคิดว่าจะเป็นจะเห็นจะรู้ แต่มันรู้ขึ้นมาแล้วเวลานี้ เกิดความสลดสังเวชในภพชาติของตัวเองเป็นมาอย่างไร ที่ว่าเกิดในภพนั้นภพนี้ ตกนรกอเวจี ตัวเราเป็นตัวประกันอยู่แล้ว มันเคยเกิดเคยตกมาแล้ว แล้วจ่อเข้าหาเจ้าของ คือเจ้าของเองตกนรกหลุมนั้นๆ เป็นเจ้าของเองๆ ไปสวรรค์ชั้นนั้นไปสวรรค์ชั้นนี้ เจ้าของเอง มันขึ้นมันลงเหมือนขึ้นบันไดลงบันไดจากบ้านนั่นแหละ

ทีนี้เวลามันรู้มันย้อนเห็นหมดน่ะซิ นรกอเวจีก็เราเองเป็นคนหนึ่งเป็นผู้เหมามาแล้ว แต่ไม่รู้เฉยๆ ทีนี้มันรู้แล้ว ไปสวรรค์ชั้นพรหมก็ตัวเราเองเป็นผู้เหมา ขึ้นไปลงมาแล้ว จนกระทั่งกระจ่างแจ้งถึงสัตว์เปรตทั้งหลาย แบบเดียวกันหมดเลย จะไปหาพยานมาจากที่ไหนก็มันจ้าอยู่อย่างนี้แล้ว ยอมรับ ฟาดถึงนิพพาน นิพพานอยู่ที่ไหน ที่ว่านิพพานมีจริงๆ เหรอ ไปหาพ่อแม่ครูจารย์มั่นออกมาปฏิบัติ พอถึงขั้นที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ความเร่งในความเพียร สติปัญญาอัตโนมัติที่จะพุ่งตัวเองให้พ้นจากทุกข์โดยถ่ายเดียว แล้วนิพพานเลยกลายมาเป็นอยู่ชั่วเอื้อมๆ ทีนี้นิพพานมีหรือไม่มีนาเลยลืมหมด นิพพานอยู่ชั่วเอื้อมๆ เห็นไหมล่ะ ความจริงทับเข้าไปตรงไหน ความจอมปลอมทะลายออก

ท่านทั้งหลายฟังเสีย นี้ได้เปิดอีกแล้ว เพราะเราสลดสังเวชในวงราชการงานเมืองของเราที่เอามูตรเอาคูถไปแข่งธรรมพระพุทธเจ้า ตะกี้นี้ก็ว่าเราไปเล่นกับการบ้านการเมือง พวกสกปรกพวกบุ้งพวกหนอนมันกลืนอยู่ในมูตรในคูถนั้น มันขัดมันแย้งหาว่าเราไปเล่นกับการบ้านการเมือง เราเอาน้ำไปชะต่างหาก มันก็เป็นมาอย่างนี้ ให้ท่านทั้งหลายพิจารณาทุกคนนะ วันนี้เปิดละ  เรื่องบาปบุญนรกสวรรค์จับให้ดีนะ พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนโลกด้วยความโกหกหลอกลวง แต่กิเลสทั้งพ่อทั้งแม่โคตรแซ่ของมันหมด ตัวหลอกลวงโลก พระพุทธเจ้าไม่มี จริงทั้งนั้นที่เรียกว่าสวากขาตธรรมๆ

เราปฏิบัติมันก็เห็นประจักษ์แล้วยอมรับ อย่างพระสององค์ องค์หนึ่งไปอยู่ได้สามคืนทนไม่ไหว พวกเปรตมันลงมากวนท่านมาก อยู่ได้สามคืนท่านโดดหนี แล้วองค์เป็นเพื่อนกัน แล้วทำไมไปอยู่นั้นบอกว่าจะอยู่เท่านั้นวันเท่านี้วัน แล้วทำไมถึงเผ่นมาเสียล่ะ อู๊ยไม่เผ่นได้อย่างไร ถูกรบกวน ท่านก็เล่าให้ฟัง เอ้าถ้าอย่างนั้นผมจะไปเอง เอาไปลองดูซิน่ะ ไปอยู่ได้สองคืนทนไม่ไหว เผ่นเลย นั่นตัวจริงมันอยู่ในนั้น ค้านได้ไหมตัวจริง นี่ละให้จำเอานะ เปรตตัวนี้เราไม่พูด เปรตตัวนี้มันมีสาเหตุ บอกสาเหตุมาพอตายแล้วจึงมาเป็นเปรต บอกชัดเจน แต่เราไม่พูด เราพูดย่อๆ เอาเลย เพราะมันเป็นความหยาบโลนมาก ถ้าไม่ถึงขั้นจะฟังความหยาบโลนอย่างนั้นเราก็ไม่อยากพูด ถ้าพอถึงขั้นความหยาบโลนหรือธรรมทะลุความหยาบโลน เราจะยกโคตรแซ่หลวงตาบัวมาพังความหยาบโลนนี้ออกหมดเลย เข้าใจไหม เอาละนะวันนี้พูดเพียงเท่านั้น

เราขอบิณฑบาตกับรัฐบาลตั้งแต่นายกรัฐมนตรี คุณวิษณุ เครืองาม มาเป็นผู้นำชาติ อย่าเอาชาติมาเป็นอาหารว่างยำกันกินเลี้ยงประชาชนทั้งประเทศ นับแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชาติ ศาสนาลงมานะ เราเป็นนายกฯเพื่อจะให้เป็นที่เทิดทูนของคน สมกับที่เขาไว้ใจ อย่าไปทำความชั่วช้าลามกที่เป็นฟืนเป็นไฟต่อชาติต่อศาสนา ต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่เป็นที่ประสงค์ของประชาชนทั้งประเทศเลย เอาละไม่ต้องเอวัง พอ

โยม   หนูฟังเทศน์แล้วหนูเข้าใจอย่างนี้ถูกไหมคะ บอกว่าคนที่เกิดมาเพื่อทำกรรมชั่วของตนเอง เกิดมาก็ชอบที่จะทำความชั่วอีก สิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเองต่อผู้อื่น แม้เป็นสิ่งที่ดีสัตว์ประเภทนี้ทำได้ยาก ถูกต้องไหมคะ

หลวงตา   อันนี้เป็นพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าทรงรับสั่งด้วยความสลดสังเวชนะ ที่เขาบอก พระอานนท์มากราบทูล ว่าเวลานี้พระเทวทัตจะแยกตัวออกจากศาสดาแล้ว เขาเป็นศาสดาองค์ใหม่ว่างั้น พระองค์ก็ เอ้อ สลดสังเวชอย่างแรงนะ ท่านจึงออกมาเป็นภาษาบาลีที่ว่าพุทธพจน์นะ ท่านก็บอกมาเป็นภาษาที่เรายกมาพูดตะกี้นี้ สุกรานิ อสาธูนิ อตฺตโน อหิตานิ จ, สิ่งที่ชั่วช้าลามกทั้งหลาย ทั้งไม่เป็นประโยชน์แก่ตนและส่วนรวมด้วย สัตว์ทำได้ง่าย ยํ เว หิตญฺจ สาธุญฺจ, ตํ เว ปรมทุกฺกรํ แต่กรรมดีที่เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตัวเองและส่วนรวมนั้น สัตว์ทำได้ยากมาก นั่นฟังซิน่ะ พระองค์ทรงปลงธรรมสังเวช เดี๋ยวนี้มันลืมแล้ว ก็เรียนมานานแล้ว นี้มาจากเรียน จากเรียนจำได้มาๆ

ทีนี้พอจากภาคปฏิบัติ เอาความจำนั้นมาเปิด มันเป็นความจริงขึ้นมายอมรับปริยัติๆ ที่เรียนมา เพราะปริยัติท่านพูดไว้ด้วยความถูกต้อง เวลาเอาภาคปฏิบัติมาจับเข้าไปยอมรับกันเป็นพยานกัน อย่างที่พูดตะกี้ว่านรกขุมไหนๆ ก็ดี เปรตอยู่ในที่ต่างๆ ทั่วแดนโลกธาตุก็ดี พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ยอมรับกันทั้งหมด แต่พวกเราพวกเหมานรกนี้มันไม่ยอมรับ เช่นอย่างอีตาบัวนี่ มันไม่ยอมรับ มันยังมีส่วนแบ่งว่า นิพพานมีจริงๆ เหรอ มันยังว่าหือ เวลาอ่านหนังสือไป ส่วนใหญ่มันเชื่อ แต่ส่วนย่อยมันไปแบ่งกิน ว่านิพพานมีจริงๆ เหรอ

บทเวลาปฏิบัติเข้าไปพุ่งๆ ธรรมกับใจมีกำลังเต็มที่แล้วพุ่งใหญ่เลย นิพพานมีหรือไม่มีนะ ไม่ถามเลย นิพพานอยู่ชั่วเอื้อมๆ พุ่งใส่ปึ๋งนิพพานมีหรือไม่มีไม่พูดเลย นึกย้อนสลดสังเวชในภพชาติของตัวเอง โอ๊ย มันไปเที่ยวเหมาไว้หมด นี่ตัวเหมาภพเหมาชาติ มันมีหรือไม่มีนะ เมื่อเห็นแล้วจะไปค้านได้ยังไง มีหรือไม่มีนะ เรื่องนิพพานมีหรือไม่มีนา ไม่ถามเดี๋ยวนี้ แน่ะ เข้าใจไหม เปรต อสุรกาย นรกมีหรือไม่มีไม่ถามมันผ่านมาหมดแล้ว ขึ้นสวรรค์ชั้นพรหม ลงนรกอเวจีตัวนี้ตัวรับเหมา เวลามันเปิดสายทางที่เป็นมาของตนแล้วมันยอมรับหมด นั่นละใครจะไปฝืนพระพุทธเจ้าได้ยังไง ว่าบาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพานไม่มี อย่านะๆ จะสร้างความชั่วช้าลามก แล้วจะไปลงในที่ว่าไม่มีนั่นละ ทีนี้มีแต่กองทุกข์ สิ่งที่มีคืออะไร เอาละสายแล้ว ให้พรที่นี่

วันนี้เปิดเสียบ้าง นี่ละรู้สักเท่าไรแล้วที่รู้มาเหล่านี้ เหมือนไม่รู้ไม่ชี้นะ คือมันไม่กดไม่ดัน มีเหมือนไม่มี พอเขาเข้ามาเกี่ยวข้องสัมผัสแล้วเปิดออกเลยๆ อย่างวันนี้สัมผัสที่ควรจะเปิดขนาดนี้ก็เปิด หรือมันจะเป็นหนักกว่านี้ก็ไม่ทราบละ คอยดูก็แล้วกัน คอหลวงตาบัวขาด ขาดไปเลยฟังซิ เมื่อถึงขั้นที่ควรจะสละแล้วเป็นอย่างนั้น เราเทิดทูน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์สุดหัวใจของเรา ที่ว่าหัวใจของเราคือออกมาจากธรรมทั้งหลาย ออกมาจากพระพุทธเจ้า เราไม่ได้สงสัยในกิริยาอาการทุกอย่างที่แสดงออกเพื่อโลก เราไม่สงสัยว่าผิดไป ไม่มี

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz