ธรรมเฉียดสลบ
วันที่ 25 กันยายน 2548 เวลา 8:20 น. ความยาว 59 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๘

ธรรมเฉียดสลบ

ก่อนจังหัน

เสียงธรรมพระพุทธเจ้ากระเทือนทั่วแดนโลกธาตุ ท่านบอกว่า ทสสหสฺสี โลกธาตุ สิบโลกธาตุกระเทือนหมดเลย แสดงไว้ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อยญฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ, สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ สะเทือนสะท้านไปหมดเลย พวกเทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมตั้งหมื่นโลกธาตุ เราอย่าเข้าใจว่าน้อยๆ นะ กระเทือนไปหมด พวกเราชาวพุทธ วันหนึ่งๆ ให้มีธรรมเข้ากระเทือนจิตใจบ้าง สะกิดใจๆ ระลึกถึงธรรมบ้าง

เราสลดสังเวชจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดา นั่งอยู่ในท่ามกลางหมู่เพื่อนมนุษย์มนาทั้งหลายมันอดไม่ได้มันเป็น ที่ทำให้คิด ตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยคาดเคยคิด แต่มันก็เป็นขึ้นในปัจจุบันจากธรรมของพระพุทธเจ้าที่สอนโลก สะเทือนสะท้านไปหมดนั้น เรามีส่วนบ้างไหมในหมื่นโลกธาตุ สักรายหนึ่งเรามีส่วนในหมื่นโลกธาตุนั้นไหม ให้ถามตัวเรานะ วันหนึ่งๆ มีแต่มอมแมมๆ ขยี้ขยำกับมูตรกับคูถกับความสกปรก คำว่ามูตรคูถกับความสกปรกกับกองทุกข์มันไปด้วยกัน มันมีแต่อย่างนี้ละเหรอ ให้ว่างั้นนะ

ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นของเล่นเมื่อไร โธ่ๆๆ ว่างั้นเลย ให้กระเทือนขึ้นที่หัวใจซี นี่ได้พูดให้ฟังอย่างชัดเจน ใครว่าเราอวดหรือไม่อวด หรือจะให้เราขาดจากพระเหรอ พิจารณาซิ เราพูดธรรมพระพุทธเจ้า มันเป็นอยู่ในหัวใจเรานี้ พูดให้ชัดเจนเสียนะ กระเทือนไปหมดแดนโลกธาตุ มันเป็นยังไงพระพุทธเจ้าทรงปรารถนาว่าจะสั่งสอนสัตว์โลก แล้วปรารถนาพุทธภูมิเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้ามามากแสนมาก ๔ อสงไขย สูงสุดก็คือ ๑๖ อสงไขย แสนมหากัป ๘ อสงไขยแสนมหากัป ๔ อสงไขยแสนมหากัป นี่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้ามี ๓ ขั้นของศาสดา

พอได้ตรัสรู้ผึงขึ้นมาเท่านั้นทรงท้อพระทัยเลย ฟังซิน่ะ ความปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า ตอนนั้นเป็นความคาดความคิด จะเป็นพระพุทธเจ้าสั่งสอนสัตว์โลก แต่พอสำเร็จสมบูรณ์แล้ว ตรัสรู้ปึ๋งข้นมานี้มองดูสัตวโลกทรงท้อพระทัย ดังที่เราได้ยินว่า พฺรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปติ นั้นละ ท้าวมหาพรหมมาอาราธนาพระพุทธเจ้า ขออย่าทำความขวนขวายน้อย บรรดาสัตว์โลกผู้มีมลทินอันเบาบางยังมีอยู่มาก ขอให้พระองค์ทรงเมตตาสั่งสอนสัตว์โลกไป นอกจากพระพุทธเจ้าแล้วจะไม่มีผู้ใดมาสั่งสอนสัตว์โลกนี้เลย พระพุทธเจ้าสมควรแก่การโปรดสัตว์โลกอย่างยิ่ง จึงขออารธนาพระพุทธเจ้า นั่นฟังซิน่ะ ท้าวมหาพรหมนะนี่

ที่นำมาแสดงทุกวันนี้ก่อนพระจะเทศน์ว่า พฺรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปติ กตฺอญฺชลี อนฺธิวรํ นี่น่ะ ท้าวมหาพรหมมาอาราธนา ฟังซิถึงขั้นเป็นศาสดา ตอนปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าทรงกระหยิ่มยิ้มย่องทีเดียวว่าจะสั่งสอนสัตว์โลกมาตลอด พอได้บรรลุธรรมที่เลิศเลอผิดคาดผิดหมายขึ้นมาในพระทัยแล้ว กลับท้อพระทัยจะไม่สั่งสอนสัตว์โลกเลย เพราะธรรมที่ปรากฏอยู่ในพระทัยเวลานี้กับสัตว์โลก เทียบกันมันเข้ากันไม่ได้เลย ประหนึ่งเข้ากันไม่ได้เลย จึงทรงท้อพระทัย นั่นฟังซิเลิศขนาดไหน

นี่ก็ธรรมพระพุทธเจ้าอันเดียวกัน เราปฏิบัติมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตกนรกทั้งเป็นมาเป็นเวลา ๙ ปี พูดให้มันชัดเจน เราก็ไม่เคยคาดเคยคิดว่าธรรมประเภทที่ว่าท้อใจนี้เกิดขึ้นเดี๋ยวนั้นเลยนะ พอผางขึ้นมานี้มันไม่ได้เหมือนอะไรๆ ในสามแดนโลกธาตุ จึงมองลงไปนี้ โหย จะสอนกันได้ยังไง เป็นจริงๆ นะนี่ไม่ใช่ธรรมดา ถ้าลงถึงขนาดนี้แล้วจะไปสอนใครได้ในโลกอันนี้น่ะ อยู่ไปกินไปวันหนึ่งพอยังมีชีวิตอยู่แล้วไปเสียเท่านั้น ดีกว่าที่จะไปสั่งสอนสัตว์โลก แล้วเขาก็จะหาว่าเป็นบ้ากันทั้งโลก ทั้งๆ ที่เขาเป็นบ้ากันทั้งโลกนั้นแหละ ว่างั้นนะ อยู่ไปกินไปดีกว่า

แล้วธรรมอันหนึ่งจึงเตือนขึ้นมา ก็แบบท้าวมหาพรหมมาทูลอาราธนาพระพุทธเจ้า นี้ธรรมอันหนึ่งเตือนขึ้นมาในหัวใจเราเองนะ ก็เมื่อว่าธรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่สุดวิสัยที่โลกจะรู้ได้เห็นได้แล้ว เราเป็นเทวดามาจากไหนจึงรู้ได้เห็นได้ นั่นฟังซิน่ะ รู้ได้เพราะเหตุใด นี่ละคำว่าเพราะเหตุใด คือสายทางเข้ามา เหมือนอย่างมาวัดป่าบ้านตาด มาถึงวัดป่าบ้านตาดได้เพราะเหตุใด มันมีสายทางมา รู้ได้เพราะเหตุใดก็ทราบปั๊บ เพราะธรรมชาตินี้มันก็มีสายหยั่งมา ด้วยอำนาจบุญบารมีมากน้อยเป็นสายทางหยั่งเข้ามา หนุนเข้ามาจนกระทั่งถึงที่นี่แล้ว ยอมรับนะ

ทีแรกว่าจะไม่มีใครจะรู้ได้เห็นได้ อยู่ไปกินไปวันหนึ่งๆ ไปเสียเท่านั้นดีกว่าที่จะมาสั่งสอนสัตว์โลก ให้เขาโจมตีว่าเป็นบ้าเป็นบอ นี่ละเรียกว่ามันท้อใจที่จะสั่งสอน แล้วธรรมอันหนึ่งก็เตือนขึ้นมา โดยที่เราคิดว่าโลกอันนี้ไม่มีใครจะรู้ได้แหละธรรมประเภทนี้ เลิศเลอสุดขีดสุดแดนนี้แล้ว จะไปสอนใครเขาจะเชื่อถือได้ ปฏิบัติตามได้ล่ะ อยู่ไปกินไป พอถึงวันก็ไปเสียเท่านั้น นี่เรียกว่ามันเข้าถึงขั้นทอดอาลัย จะไม่สอนใครเลย แล้วธรรมก็กระเทือนขึ้นมาในจิตใจเลยอย่างแรง ก็เมื่อว่าธรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลิศเลอสุดยอด ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้เห็นได้ เราเป็นเทวดามาจากไหนจึงรู้ได้เห็นได้ เขาก็มนุษย์เหมือนกัน เราก็มนุษย์เหมือนกัน ทำไมถึงรู้ได้เห็นได้ รู้ได้เพราะเหตุใด

คำว่ารู้ได้เพราะเหตุใด ก็คือสายบารมีของเราแต่ละคนๆ ซึ่งได้สั่งสมอบรมมามากน้อยกี่กัปกี่กัลป์ก็ตามหนุนมา พอแล้วก็ถึงได้ ผู้ยังไม่พอก็หนุนเข้ามาๆ อ๋อ รู้ได้ นั่นยอมรับนะ อ๋อ รู้ได้ เพราะมีสายทาง เราเอาตัวของเราเป็นพยาน ที่นี่เป็นสายทางออกไปโน้น มาวัดป่าบ้านตาดมีสายทางเข้ามาได้ นี่คือสายบารมี มีมาได้ จึง โอ๋ ได้ ไม่มากก็ได้ นั่น ลงใจที่จะสอน ต่อจากนั้นไปก็เริ่มสอนหมู่เพื่อน แต่ก่อนอยู่ในป่าในเขา พระเณรรุมตามตลอดเวลา หลบหลีกพระเณรเหมือนผู้ต้องหาหลีกโทษอาญานั่นแหละ ไปที่ไหนพระเณรก็ติดตามๆ ตลอด จนกระทั่งมาทุกวันนี้เป็นยังไง หลวงตาบัวเลยจะตายเพราะการสอนโลกไม่มีหยุดมีถอย

อยู่ในท่ามกลางแห่งขวากแห่งหนามแห่งฟืนแห่งไฟ ไปที่ไหนเขาก็โจมตีหลวงตาบัวเป็นอย่างนั้น หลวงตาบัวเป็นอย่างนี้ นี้คือปากอมขี้ เข้าใจไหม มันลงใจได้แล้วนะ นี่ปากอมขี้ ปากอมธรรมที่เราสอนอยู่เวลานี้ พระพุทธเจ้าปากอมธรรม สาวกทั้งหลายปากอมธรรม ท่านสอนนี้รื้อขนสัตว์โลกขึ้นได้มากน้อยขนาดไหน ไอ้ปากอมขี้มันอมมาสักกี่ปากๆ มีใครวิเศษวิโสปากอมขี้ ได้ยกซึ่งกันและกันให้หลุดพ้นจากทุกข์ ไม่มีแม้แต่ปากเดียว แต่ปากพระพุทธเจ้า ปากสาวกทั้งหลาย เป็นปากอมธรรม รื้อขนสัตว์ออกได้มากมายก่ายกอง นี่ละจึงทนเอานะเราทน

เราช่วยโลกสงสารเราทน เราไม่เอาอะไร พูดให้มันเต็มเม็ดเต็มหน่วย สตางค์หนึ่งเราไม่เคยสนใจ ที่ได้มามากน้อยเพื่อพี่น้องทั้งหลายชาติไทยเราทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังเมืองนอกเมืองนาที่ไหน พอที่จะช่วยได้ที่ไหน เอา เอื้อมไปๆ ช่วยกันไปอย่างนี้แหละ เราพยายามช่วย ท่านทั้งหลายให้พิจารณาเสียนะ เวลานี้ยังมีชีวิตอยู่อย่าเพลินเป็นบ้าไปกับเขา อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี เอากองขี้มาอวดทองคำมีอย่างเหรอ พวกเรานี่พวกเอากองขี้มาอวดทองคำนะ อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี อะไรดีหมดถ้าเป็นกองมูตรกองคูถดีหมด ถ้าเป็นทองคำขยะแขยงไม่อยากสนใจ เห็นเป็นของไม่มีค่ามีราคา เหมือนหนึ่งว่าตุ๊กตาเครื่องเล่นของเด็กไปเลยแล้ว

เวลานี้ศาสนากำลังเป็นตุ๊กตาเครื่องเล่นของเด็ก ในชุมนุมชนแห่งชาวพุทธของเราทั่วประเทศไทยนี้ กำลังเห็นธรรมเป็นตุ๊กตาเครื่องเล่นของเด็ก เห็นมูตรเห็นคูถเป็นทองคำทั้งแท่งไปนะเวลานี้ ให้รู้ตัวเสียนะถ้าจะรู้ การสอนนี้เรายันออกมาจากหัวใจเรามาสอน ท่านทั้งหลายยังว่ามาอวดมาโอ้เหรอ นี่ละเอาอีกละนะปากอมขี้ โอ๋ย อวดอย่างนั้นอย่างนี้ นี่ละปากอมขี้ เข้าใจไหม พระพุทธเจ้าสอนโลกเป็นยังไง ปากอมธรรมทั้งนั้น นี้เรารอดเป็นรอดตายมา ปฏิบัติเอาอย่างถึงพริกถึงขิงเป็นเวลา ๙ ปีเอาธรรมมาสอนโลก นี้ปากอมธรรมนะ ท่านทั้งหลายจะเชื่อหรือไม่เชื่อให้พิจารณาเสียนะตั้งแต่บัดนี้

ตายแล้วจึงนิมนต์พระมา กุสลา ธมฺมา นิมนต์มาหาสะแตกอะไร พูดให้มันเต็มยศนี่มันถึงใจนะ ถึงใจด้วยความเมตตา ท่านทั้งหลายยังจะว่า โอ๋ย ท่านดุท่านด่าไปอีกนะ กองขี้น่ะ มันจะว่า ท่านดุท่านด่า แล้วก็เกิดความไม่พอใจ นี่อันหนึ่งกองขี้มันขวางธรรมๆ หาทางก้าวเดินไม่ได้ ให้พิจารณา

สำหรับพระเราเหมือนกัน ให้ตั้งหน้าตั้งตานะ พระนี้สวยงามจากศีล สมาธิ ปัญญา ข้อวัตรปฏิบัติทุกอย่าง เป็นเครื่องประดับพระ ความเป็นอยู่ของพระต้องเต็มไปด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา บวชเข้ามาไม่ได้ทรงศีลทรงธรรม ไม่ได้ทรงมรรคทรงผลนี้หนักศาสนาของพระพุทธเจ้า พวกเรานี่พวกหนักศาสนาพระพุทธเจ้า เอาให้พระพุทธเจ้าทรงเบาพระทัยบ้างซิ มองดูที่ไหนๆ มีสติสตัง มีความพากความเพียร มีความระมัดระวัง นี่เรียกว่าลูกศิษย์ตถาคต ไม่ได้เลินเล่อเผลอสติสตังไปจนลืมเนื้อลืมตัว เอาผ้าเหลืองห่อคลุมหัวโล้นแล้วก็ว่าตัวนี้เป็นพระ เป็นชั้นนั้นชั้นนี้ เป็นปลัด เป็นสมุห์ เป็นใบฎีกา เป็นพระครู เป็นเจ้าฟ้าเจ้าคุณ แล้วก็เป็นสมเด็จ

มันหลงเป็นบ้าไปอย่างนั้นนะ ไอ้นั้นมันเป็นชื่อต่างหาก ศีลธรรมถ้าลงเข้าอยู่ในจิตใจแล้วจ้าเลยนะ พูดได้ๆ อย่างที่พูดนี้ นี่ละธรรมชาติที่แท้จริงเป็นสมบัติของตนแท้ มรรคผลนิพพานแท้ อันนั้นลมปาก เป็นชั้นนั้นชั้นนี้ เป็นจนกระทั่งถึงสมเด็จเลยเป็นบ้าไปเลย มีแต่สมเด็จบ้าทุกวันนี้เต็มวัดเต็มวา เอาชื่อเอาเสียงมาเป็นมรรคเป็นผลเป็นนิพพานเป็นได้ยังไง มันเป็นได้จากข้อปฏิบัติต่างหากนะ ไอ้ชื่อเสียงก็ประโคมกันไปอย่างนั้น เป็นบ้าแต่ลมปากเท่านั้น พวกเรานี่พวกบ้าลมปาก ตื่นลมตื่นแล้ง ตัวจริงไม่เอา พากันตั้งอกตั้งใจนะ

วันนี้พูดเสียบ้างมันทนไม่ไหว อายุขนาดนี้แล้วจะไปวันใดก็ได้ แต่ที่คืบคลานอยู่กับมูตรกับคูถนี้มันไม่ยอมถอยนั่นซิ จับหางมันดึงออกมา มันมีหางไหมมนุษย์เรานี่ ถ้ามีหางจะจับดึงออกมา หางขาดมันยังจะบืนเข้ากองมูตรกองคูถ มันไม่ยอมออกนะหางขาดก็ตาม เพราะสิ่งเหล่านั้นดึงมัน ความหนักแน่นอยู่ในมูตรคูถทั้งหลายเหล่านั้น จึงลืมเนื้อลืมตัวมนุษย์เรา พากันฟังทุกคนๆ นะ วันนี้เปิดเสียบ้างละ เราปฏิบัติเต็มกำลังความสามารถของเรา ถึงขั้นจะสลบไสล เฉียดๆ มีตลอดจากการปฏิบัติของเรา นี้ละธรรมออกมาจากภาคอันนี้เอง ภาคสลบไสล ได้มาสอนพี่น้องทั้งหลาย ยังจะว่าหลวงตาบัวนี้อวดๆ อยู่เหรอ พวกปากอมขี้มันก็จะว่าอย่างนั้น ถ้าปากอมธรรมก็เอาไปปฏิบัติซิ พระพุทธเจ้าโกหกโลกจริงๆ เหรอ ธรรมนี้โกหกโลกจริงๆ เหรอ กิเลสมันโกหกโลกให้จมอยู่ในวัฏสงสาร มันเป็นของดีอย่างนั้นเหรอ จำให้ดี เอาละจะให้พร

หลังจังหัน

เดือนหนึ่งๆ ปลายเดือนๆ เขาจะไปส่งอาหารที่วัดภูวัว เมื่อวานพอดีไปติดไฟแดงที่หนองหาน จึงได้เห็นรถเขา คันหนึ่งมาแล้วมาพบกันที่ไฟแดง คันหลังก็ตามๆ กันมา ถึงได้รู้ว่าเขาไปส่งอาหารภูวัวเมื่อวานนี้ ส่งอาหารภูวัวนี้ครั้งละ ๔ คันรถ ปิกอัพ ๓ คัน ๖ ล้อคันหนึ่ง เป็น ๔ คัน บองขึ้นสูงๆ เลย ของเต็มหมดเลย อย่างนั้นเป็นประจำ เรายังเปิดไว้อีก ถ้าของยังไม่พอแล้วเอาอีก รถให้เอามาอีก เขาบอกว่าพอ เต็มเหนี่ยวๆ นี้พอดีๆ พระดูว่าปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า ๓๐ ในพรรษา แต่ปีนี้เรายังไม่ทราบนะว่าเท่าไร เขาไปส่งอาหารเขาถามพระหรือเปล่าก็ไม่รู้ ๓๐ องค์เป็นพื้นฐาน ลดลงบ้างขึ้นบ้าง บางทีก็ขึ้นถึง ๔๐ ออกพรรษาแล้วนะ

วัดนี้เป็นวัดสำคัญมาก เราได้ไปดูทุกแง่ทุกมุมบนหลังเขา พอลงรถแล้วไปเลยเที่ยวเลย แต่ก่อนแข็งแรงอยู่ ไปดูที่ไหนเหมาะๆ เลยทำให้เพลินในการดูนะ ดูสถานที่บำเพ็ญภาวนาของพระ มันเพลินเองนะ ดูนั้นก็น่าดู ดูนี้ก็น่าดู ไปเรื่อยเลย ดูเสียจนเต็มที่แล้วกลับมา นี่ละต้นเหตุที่จะได้ตกลงกับเจ้าอาวาสวัดภูวัว คือท่านอุทัย ไปเห็นที่ไหนมันจุใจๆ พอใจ เพราะเราเคยเที่ยวเคยอยู่มาแล้วภูเขาๆ ภูเขาลูกนี้เป็นอันดับหนึ่งเลย เอกว่างั้นเถอะ เราเคยเที่ยวที่ไหนๆ มาก็ไม่ใช่ภูเขาอย่างนี้ อันนี้เป็นหินดานกว้างขวาง ที่เราไปหินดานมีแต่ไม่กว้าง ภูเขาๆ แหละไปเที่ยวบำเพ็ญมา แต่อันนี้กว้างขวางมากทีเดียว

พอไปดูมาแล้วก็ประกาศเลยเทียว บอกว่า เอ้าที่นี่ผมไปดูมาแล้ว พอใจที่สุดแล้วที่นี้ แต่ก่อนท่านรับพระได้สององค์สามองค์เท่านั้น เนื่องจากที่โคจรบิณฑบาตไม่มี พวกชาวบ้านเขามีสองสามหลังคาเรือน เขาก็จนตรอกจนมุม เขาก็อยู่อย่างนั้นแหละ ทีนี้ทางนี้บำเพ็ญ เขาก็พอใจ ครั้นจะหนีไปไหนเขาก็ไม่ให้หนี ถึงจนน้ำใจไม่จน เขาว่างั้น ก็ต้องอยู่กับเขา มีสองสามหลังคาเรือนเท่านั้นแหละ ท่านก็ไปพักที่นั่น จะไปไหนเขาไม่ให้ไป ถึงจนก็มีหัวใจ ถ้าเขาไม่ตายพระไม่ตาย เขาบอก เขานิมนต์พระอยู่ที่นั่น นี่ละท่านอุทัยท่านถึงได้อยู่เพราะเกรงใจเขา เขาลำบากลำบนอยู่ในป่าในเขา

ท่านไปอยู่นานๆ ก็เกรงใจเขา ครั้นเวลาจะไปเขาไม่ยอมให้ไป นั่นเห็นไหมล่ะหัวใจคน ถึงจนก็จนเถอะหัวใจไม่จน เอ้า พวกผมไม่ตายท่านไม่ตาย นิมนต์ท่านอยู่อย่าไปไหน คือมันว้าเหว่ เขาว่างั้น ตื่นตามาเช้ามองเห็นพระนี้จิตใจยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีอะไรก็ตาม ได้เห็นพระได้กราบไหว้บูชาพระเช้าหนึ่งวันหนึ่งเขาบอกเขาพอใจ เป็นเศรษฐีกุฎุมพีอย่างที่เขาเป็นมานั้น ไม่สนใจยิ่งกว่าได้เห็นพระเจ้าพระสงฆ์ตอนเช้าตอนอะไรหรือเวลาไหนก็ตาม ท่านอยู่นี้เป็นสิริมงคลมาก เขาว่างั้น เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ยอมให้ท่านหนี ท่านก็เกรงใจเขานั่นละเขาจน เราก็ภาวนาดี คิดอยากอยู่ก็ต้องอาศัยเขา เวลาจะไปเขาไม่ยอมให้ไป มีสองสามองค์เป็นประจำ ถ้ามากกว่านั้นเขาก็ไม่มี นี่ก็อยู่ด้วยน้ำใจด้วยกัน

ประชาชนเขาก็ทุกข์จน แต่เขาไม่ยอมให้พระหนี เอ้าจนก็จน เป็นตายไปด้วยกัน เขาว่างั้น พวกผมไม่ตายท่านไม่ตายแหละจะขวนขวายหามาจนได้นั่นแหละ ท่านก็เลยอยู่กับเขาไป ทีนี้พอเราไปดูแล้วถึงใจนะ จึงได้บอกกับท่านอุทัยตั้งแต่บัดนั้นมา บอกเลย พระจะมาเท่าไรให้มา เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อมรรคผลจริงๆ แล้ว เอาๆ ให้มาบอกตรงๆ เลย พูดเด็ดเหมือนกันนะเราก็ดี เราไปเห็นทุกอย่างถึงใจๆ เวลามาพูดก็พูดแบบถึงใจเทียว เอ้า ตั้งแต่นี้ต่อไปพระท่านจะมาพักอยู่กับท่านเท่าไร เอ้า มาเถอะผมจะจัดของส่งมาให้ ไปนี้จะจัดมาเลยเราบอกงั้น

ตั้งแต่นั้นมาเราก็จัดอย่างว่า มีพระมากเท่าไรจัดขึ้นโดยลำดับ เดี๋ยวนี้ก็จะอยู่ในประมาณ ๓๐ เป็นจุดศูนย์กลาง ลดบ้างขึ้นบ้างอยู่เป็นประจำ ถึงจะมามากน้อยเท่าไรเราก็บอกไว้แล้ว ท่านไม่ต้องกลัวว่าพระมีมากไปจะเป็นที่หนักใจผม ผมไม่ได้หนักใจนะ จึงบอกว่ามาเท่าไรให้มา ผมพอใจกับพระ เราว่างั้นแหละ ตั้งแต่บัดนั้นมาก็ทุ่มกันเลยเทียวจนกระทั่งทุกวันนี้ บอกอย่างเด็ดขาด เอ้า ถ้าหากว่าผมรับไม่ได้แล้วผมยอมแพ้แล้วผมจะบอกมา ก็ไม่เคยยอมแพ้เลย ลงได้เอาขนาดนี้มันถอยเมื่อไรอีตาบัวนี่พูดจริงๆ  ทำอะไรเป็นอย่างนั้นนะ ทำเหยาะๆ แหยะๆ ไม่เป็นเรา ถ้าลงได้ทำแล้วขาดสะบั้นไปเลยไม่ว่าอะไร

พอพูดอย่างนี้แล้วก็ทำให้ย้อนคิดตั้งแต่อยู่ในท้องนู่น แม่วิ่งร้องไห้มาหาพ่อ เพราะพ่อมีลูกสาวคนเดียว แม่ตายจากแต่เล็ก ผู้เฒ่าเลี้ยงมา รักมากรักลูกสาวคนนี้ คือโยมแม่ของเรานี่ละ พูดถึงเรื่องเด็ด อยู่ในท้องนี่แหม มันอาละวาดแม่ ของง่ายเมื่อไร มันเอาจนแม่วิ่งหาพ่อ ให้พ่อมาคลำดูท้องให้ คลำอะไร มันก็อยู่ในท้องด้วยกันทั้งโลกเขานั่นแหละ คลำอะไรผู้เฒ่าว่า ไม่เป็นไรแหละ คือเวลามันดีดมันดิ้นเหมือนท้องจะระเบิด เจ็บปวดภายในท้องว่างั้น เวลามันดีดมันดิ้นนี้เอาจริงเอาจังมากจนวิ่งหาพ่อ ทีนี้พ่อก็มีลูกสาวคนเดียว ผู้เฒ่าก็รักของผู้เฒ่า เลี้ยงมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น เอะอะก็วิ่งหาพ่อๆ มันแสดงอยู่ตลอดในท้อง

ครั้นเวลามันเงียบ เอาอีกแล้วที่นี่ มันไม่ตายแล้วหรือ เอาอีกแล้ว เงียบไปเลยๆ มันไม่ตายแล้วหรือ มันไม่ตายแหละ จากนั้นมาจนกระทั่งถึงจะคลอด จะคลอดมันไม่ยอมคลอดง่ายๆ นี่ละแม่จะตายอยู่ตลอดเวลา ลูก ๑๖ คนมีคนเดียวนี้ที่สร้างเหตุการณ์หนักหนาให้แก่โยมแม่ พ่อจึงทำนาย กูจะทำนายนะ เดกคนนี้กูเชื่อมั่นว่าเป็นผู้ชาย กูแน่ใจเลยว่าเป็นผู้ชาย ไอ้เด็กคนนี้ถ้ามันไปทางไหนแล้วขาดสะบั้นไปเลยนะสู ถ้ามันเป็นโจรนี้เขาจะมาจับได้ใส่คุกมันไม่มีทาง ต้องตายนอกคุก คือเจอกันที่ไหนมันจะฟัดกันเลย ให้ถอยมันไม่ถอยแหละ ทีนี้ก็ถูกเขาฆ่าตายนอกเรือนจำ ไม่ได้จับเข้ามาใส่คุกแหละไอ้คนนี้น่ะ ต้องตายกับการต่อสู้ นี่พูดถึงเรื่องทางชั่ว ชั่วขนาดนั้นแหละ ถ้าไปทางดีมันก็แบบเดียวกัน แต่ทางดีผู้เฒ่าไม่พูดมาก ไปทางดีมันก็แบบเดียวกันแหละสูคอยดู

พอตกออกมานี้รกพันคอ รกพันคอแปลได้สามอย่าง

๑.โซ่พันคอ

๒.สายบาตรพันคอ

๓.สายสะพายปืนพันคอ

คืออย่างหนึ่งเป็นนายพราน เด่นทางเป็นนายพราน อันที่สองเป็นทางนักเลงโต โซ่พันคอ อันที่สามสายบาตร เรียกว่าบวช มีได้สามทาง พอตกคลอดออกมา อู๋ย นี่สายบาตรสู สายบาตร ให้มงคลอันดีเลยนะ นี่สายบาตร สูสายบาตร นั่นละเรื่องราวเป็นอย่างนั้น ที่พูดถึงเรื่องว่ามันเป็นมาตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว ถ้าเป็นทางชั่วมันไม่ได้ตายในคุกในเรือนจำแหละสู มันจะตายอยู่ในป่า มันฟัดกันกับเจ้าหน้าที่เขา มันตายอยู่โน่นแหละ จะยอมให้เขาจับมานี้ไม่มีทาง แล้วก็เป็นมาอย่างนั้น จึงว่าจริงจังทุกอย่าง อย่างการทำอะไรจริงจังทุกอย่าง ถ้าลงได้ลงใจปุ๊บตรงไหนแล้วขาดสะบั้นไปเลย จิตดวงนี้ไม่มีแยกมีแยะไปไหน ตรงเป๋งเลยทีเดียว เป๋งเลยทุกอย่าง

นี่พูดถึงเรื่องไปเห็นวัดภูวัว ลงใจทันทีเลย มาประกาศเลย เอา เรียกว่าสู้กัน เอา พระเท่าไรให้มาผมจะรับเลี้ยง ถ้าว่าผมเลี้ยงไม่ได้แล้วผมยอมแพ้ผมจะบอก เอ้า มีเท่าไรให้มาพระ แต่พระที่โกโรโกโสให้ไล่ลงภูเขาให้หมด อย่าให้อยู่ในภูเขาลูกนี้มันเสียศักดิ์ศรีของภูเขาลูกนี้ ว่างั้นเลย ถ้าเป็นพระตั้งอกตั้งใจให้มาเราบอก เราจะรับเลี้ยงทั้งหมดว่างี้เลย ก็เอามาจนกระทั่งป่านนี้ได้ ๒๐ กว่าปีมาตลอด พระท่านก็รู้จักประมาณเอง ท่านอุทัยท่านก็รู้นะ อยู่ในจุดศูนย์กลางก็ประมาณสัก ๓๐ ขึ้นบ้าง ๓๐-๔๐-๒๗-๒๘ อยู่ในย่านนี้ จนกระทั่งป่านนี้ละ นี่ก็ไม่ได้บอกเขาแหละเพราะได้กำหนดตายตัวไว้แล้ว ให้ไปส่งทุกเดือนๆ สั่งขาดไว้แล้ว ถึงเวลาเขาจัดการของเขาเอง ของที่จัดการไปนั้นเอาให้เต็มเหนี่ยว ถึงบอกว่ารถถ้าไม่พอ ๔ คัน เอามาห้าคันหกคัน เอามาเลย เขาก็บอกว่าพอแล้วเท่านี้ เทลงนี้เหมือนกองเท่าภูเขา

อาหารมีหลายประเภท อาหารสดจะได้ไปตั้งแต่มีกินไม่กี่วัน อาหารยาวนี้มาก เช่นอย่างพวกกุนเชียง เป็นต้น ประเภทต่างๆ ให้เป็นอาหารยาวไปเรื่อยๆ นอกนั้นพวกน้ำตาล น้ำตาลกระสอบเดือนละ ๒๕ กระสอบๆ ละร้อยกิโล ส่วนข้าว ๓๐ กว่ากระสอบๆ ละร้อยกิโลเหมือนกัน พวกน้ำปูน้ำปลาน้ำมันกุ๊กดูเหมือนเดือนละ ๓๐-๔๐ เอาอย่างนั้น พวกเครื่องกระป๋องอีกนะ ดูเหมือน ๖๐-๗๐ ลังต่อเดือนๆ ไว้เป็นประจำ ส่วนปลาย่างนี้เราสั่งทางเขมร เขาสั่งทางเขมรเลย ทางโคราชเขาเป็นขาติดต่อกัน ส่งมาทางนี้เดือนละ ๘๐ กว่ากิโล ปลาย่างปลาอย่างดีนะ บอกให้เอาอย่างดี ราคาเท่าไรถึงไหนถึงกันเลย ถ้าลงจะเอาแล้วเป็นอย่างนั้น จนกระทั่งทุกวันนี้ เราไปเจอเขาเมื่อวานจึงระลึกได้ อ้าว วันนี้เขาไปส่งของ เพราะเราสั่งตายตัว ถึงวันเขาไปของเขาเอง

ทำอย่างนี้แหละ ทำเหยาะๆ แหยะๆ ไม่เป็น จะว่าเป็นนิสัยก็ถูก หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ มันหากเป็นอยู่ในจิตใจ ถ้าลงได้ทำอะไรแล้วเหลาะแหละไม่เป็น ถ้าเวลาเล่นก็จริงไม่มี เวลาจริงเล่นไม่มี พลิกไปทางไหนไปทางนั้นเลยเทียว เป็นอย่างนั้นละ เราอยากจะให้พระได้ทรงมรรคทรงผลตามที่พระองค์ท่านอุตส่าห์พยายาม ทรงสร้างบารมีมาแทบเป็นแทบตายมากี่กัปกี่กัลป์ ได้มาเป็นพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้สั่งสอนสัตว์โลก ได้ธรรมอันเลิศเลอมาสอนสัตว์โลก ธรรมนี้เราไม่อยากจะให้มุดมอดจมดินจมทรายไปเสีย จมมูตรจมคูถไปเสียโดยถ่ายเดียว ทั้งๆ ที่คนไทยเรามีหัวใจด้วยกัน

ปู่ย่าตายายพาเทิดทูนพุทธศาสนามานมนาน ทำไมถึงมาชาติไทยเราปัจจุบันนี้ จะกลายตั้งแต่มีมูตรมีคูถไปแทนธรรมเสียทั้งหมด คนเรามันกลายเป็นมูตรเป็นคูถแล้วนะทุกวันนี้ เราดูด้วยความเป็นธรรม เราไม่ได้ดูด้วยการดูถูกเหยียดหยาม เราพูดเป็นธรรม ควรตำหนิตำหนิ ควรชมชม ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก เวลานี้อยู่ในย่านนั้นละ พี่น้องชาวไทยเราชาวพุทธตั้งแต่วงราชการลงมาเลอะเทอะเหมือนกันหมดเลย ยิ่งวงราชการใหญ่โตเท่าไร ยิ่งสร้างแต่ส้วมแต่ถานแต่ฟืนแต่ไฟเผาประชาชนทั่วประเทศเขตแดน อันนี้น่าสลดสังเวชมาก

วงราชการของพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ๆ ปกครองบ้านเมืองนั้น ควรจะรู้สึกตัวบ้างนะ ประชาชนเขาเดือดร้อนขนาดไหนๆ เรายังจะเต๋งเหม็งอวดก้ามของตัวเองอยู่เหรอ ทั้งๆ ที่เงินเดือนก็กินกับประชาชน ทุกอย่างอาศัยประชาชน เขายกขึ้นให้เป็นผู้นำ เขาไว้ใจเขาให้เป็นผู้นำ เราเลยเป็นเปรตเป็นผีเป็นยักษ์เป็นมารกินตับกินปอด กดขี่บังคับประชาชนในแง่ต่างๆ หาประมาณไม่ได้ นี้เรียกว่าข้าราชการเลวที่สุด ทำลายหัวใจประชาชน นับแต่องค์พระมหากษัตริย์ลงมา เวลานี้กำลังถูกทำลาย พระมหากษัตริย์เราก็กำลังถูกทำลายด้วยแง่วิธีการต่างๆ จากพวกเปรตพวกผีนี้ มันจะทำลาย มันจะฆ่าพ่อฆ่าแม่ให้ตายหมด มีแต่ลูกยั้วเยี้ยๆ เขาจะครองบ้านครองเมืองด้วยความร่มเย็นเป็นสุขจากพ่อแม่ตายไปแล้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า คือพ่อแม่ของแผ่นดินไทย ท่านปกครองบ้านเมืองมาให้ได้รับความร่มเย็นขนาดไหน ฟังซิน่ะ ประชาชนเทิดทูนท่านมาตลอด ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ถ้าเห็นรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าแล้ว เขากราบทันทีๆ ไม่ว่าผู้ใหญ่ผู้น้อย แล้วพวกวงราชการเขากราบใคร ฟังซิน่ะ มันน่าคิดนะเดี๋ยวนี้วงราชการเรา มันทำไมถึงลืมเนื้อลืมตัวเอานักหนา พวกนี้เป็นพวกที่ลืมเนื้อลืมตัวมาก เห็นแก่ยศแก่ลาภแก่ความได้ความมีดีเด่น ท้องป่องๆ

ทำงานอยู่ในวงราชการก็คือทำงานอยู่ในส้วมในถานนั่นละ ไม่ยอมอิ่มยอมพอ เรียกว่าทำงานอยู่ในส้วมในถาน กินตับกินปอดประชาชนอยู่ในนั้น มันน่าสลดสังเวชนะวงราชการเรา ขอให้พากันคิด หลวงตาบัวนี้ได้สร้างความดีมาตั้งแต่วันบวชเป็น ๗๒ พรรษานี้แล้ว สร้างแต่ความดีงามทั้งหมด เฉพาะอย่างยิ่งออกมาช่วยชาติบ้านเมือง ฟังซิว่าบาทหนึ่งหลวงตาไม่เคยแตะ กับที่ว่าวงราชการเลอะๆ เทอะๆ ยิ่งกว่าส้วมกว่าถาน มันเข้ากันได้ไหม นี่ละธรรมสอนโลก จึงเป็นตัวอย่างที่ควรจะได้นำไปพินิจพิจารณาได้ อย่ามาหาว่าหลวงตานี้เป็นภัยต่อชาติ ต่อศาสนา พระมหากษัตริย์ เราบอกเราไม่มี เราเทิดทูนทั้งนั้น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราอุ้มเราเทิดทูนเอาหัวใจเราคอขาดไปตามเลยไม่เสียดาย

เพราะฉะนั้นเรามาเห็นความสกปรกนี้ จึงอดตำหนิติเตียนกันไม่ได้ ตำหนิก็คือว่าตำหนิเพื่อแก้ไขดัดแปลง ธรรมสอนโลกเป็นอย่างนั้น ไม่ได้ตำหนิเพื่อทำลายนะ ตำหนิเพื่อยกขึ้นแก้ไขดัดแปลง นี้เราก็พยายามทำมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตั้งแต่สร้างความดีมา ตั้งแต่นั้นมาเราไม่เคยสร้างความชั่วด้วยเจตนาไม่มี เราพูดจริงๆ ทีนี้ถึงกาลเวลาที่จำเป็นจริงๆ ชาติไทยเราจะล่มจะจม หัวหมู หัวหมา หัวเป็ด หัวไก่ หัวผู้หัวคน จ่อลงทะเลแห่งความล่มจมกันทั้งนั้นว่างั้นเลย แล้วทำไง เราก็เกิดมาในท่ามกลางประเทศไทย เราอยู่ได้หรืออยู่เฉยๆ อย่างนี้ทั้งๆ ที่ชาติไทยของเราจะจมกันนี้

นั่นละถึงได้ร้องโก้ก เอ้า จะนำ จะได้กำลังมีเท่าไรก็ตาม แต่ความคิดในใจนี้มันเต็มเหนี่ยวแล้ว ว่าจะช่วยนำนี้เรียกว่าเอาออกเต็มที่เลย หัวใจเด็ดขาดออกแล้ว จึงได้ออกปากพูดว่า เอ้า จะเป็นผู้นำ เพราะเรื่องเหล่านี้ได้ประมวลมาแล้ว ไอ้เรื่องความล่มจมฉิบหายของชาติไทยเราที่จะพากันล่มจมลงในทะเลหลวงนี้ไม่มีใครมาทำ และคิดถึงประเทศชาติบ้านเมืองอื่นๆ ที่เขามารังแกมาบีบบังคับมาโจมตีเรา มาทำชาติไทยของเราให้ล่มจมก็ไม่มีใคร เวลานี้ก็มีแต่คนไทยทั้งชาตินั่นแหละ ต่างคนต่างทำชาติของตนให้ล่มจมๆ ลงไป ด้วยความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมลืมเนื้อลืมตัว การจับการจ่ายการอยู่การกินไม่มีหลักมีเกณฑ์ เอานิสัยเข้าว่าๆ นี่ละเมื่อถึงขีดแล้วมันจะทำให้ชาติล่มจม

ทีนี้เอาเราจะเป็นผู้นำ การประพฤติตัวให้พลิกเสียใหม่ การอยู่การกินใช้สอยอย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ให้รู้จักประมาณ แล้วขนเงินเข้ามาสมบัติเข้ามาสู่คลังหลวงของเรา คลังหลวงของเราคือหัวใจของชาติ เอาๆ ให้พากันขนเข้ามา เราจะเป็นผู้นำ แล้วก็สมชื่อสมนามจริงๆ ว่าเป็นผู้นำ บาทหนึ่งเราไม่เคยแตะ พี่น้องทั้งหลายฟังซิ ในประเทศไทยเรานี้ว่างั้นเลย เอาใครเป็นผู้นำไม่ห้าก็สิบไปกินกันอยู่นั้น สำหรับเราบอกไม่มีเลย นี้เราจึงกล้าพูดได้ทุกอย่างให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายทราบว่า เราปฏิบัติความดีดีมาตลอด การนำพี่น้องทั้งหลายก็นำด้วยความดีงามมาตลอด ไม่ทำให้บกพร่องหรือด่างพร้อยภายในจิตใจและความประพฤติของเราไม่มี เราให้หมด อะไรหมด

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจะมายึดว่าเป็นของเรา เรามองหาในหัวใจเราไม่มี จึงว่าโล่งไปหมดหัวใจของเราที่ช่วยพี่น้องทั้งหลายด้วยความเมตตาสุดส่วน เอาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็เป็นเวลา ๗ ปีนี้แล้ว และสมบัติเงินทองที่พี่น้องทั้งหลายฝากความไว้วางใจกับเราสมใจทุกอย่าง เราออกให้เป็นไปตามเจตนาของพี่น้องทั้งหลายที่รักชาติ รักศาสนา รักพระมหากษัตริย์ บริจาคมาเราก็ทุ่มลงไปตามจุดนี้ๆ อย่างทองคำนี้เราก็ทราบกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเวลานี้ที่เข้าคลังหลวง ๑๑ ตันกับ ๓๗ กิโลครึ่งเรียบร้อยแล้ว ดอลลาร์ ๑๐ ล้าน ๘ แสนกว่า นี่เข้าคลังหลวงเรียบร้อยแล้ว สำหรับทองคำจะเข้าอย่างนี้ตลอดไม่มีคำว่ารั่วไหลไปไหนเลย

ส่วนดอลลาร์นั้นเราก็ประกาศไว้แล้วตั้งแต่มอบดอลลาร์ ๑๐ ล้านกว่านั้นแล้ว ต่อไปนี้ดอลลาร์จะไม่แน่นะเราบอก ไม่แน่แล้วไปไหน เราจะได้แปรสภาพของดอลลาร์นี้เข้าช่วยเงินไทยเรา เพราะเงินไทยเราตั้งแต่หยุดช่วยชาติมาแล้วเงินไทยก็ร่อยหรอๆ ไป แต่คนที่มาติดต่อขอความช่วยเหลือนั้นมากขึ้นทุกวันๆ จะไม่มีเงินอะไรช่วยเหลือเขา จึงต้องเอาเงินดอลลาร์นั้นหมุนเข้ามาช่วยเงินไทย ทุกวันนี้เป็นอย่างนั้น จะให้เข้ามาหาเราเรายืนยันได้เลยบาทหนึ่งไม่มี ขนาดนั้นได้ทำความบริสุทธิ์แก่พี่น้องทั้งหลาย

ทีนี้การตักเตือนชาติบ้านเมือง ตั้งแต่วงรัฐบาลมาเราตักเตือนด้วยความเป็นธรรม เราเป็นตัวอย่างอันดีมาแล้วทำไมจะเตือนไม่ได้ พระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่างอันดีเลิศแล้วทำไมสอนโลกไม่ได้ สอนได้สามโลกธาตุพระพุทธเจ้า ไอ้เรานี้ก็สอนเพียงในนี้ละ พวกงูๆ ปลาๆ อยู่ด้วยกันนี้ละ เราก็สอนเต็มเม็ดเต็มหน่วยของเรา ไม่มีอะไรข้อต้องติเรา ควรจะเป็นตัวอย่างนำไปเป็นคติเครื่องเตือนตน แก้ไขดัดแปลงที่ไม่ดีทั้งหลาย

เฉพาะอย่างยิ่งวงราชการอย่าดื้ออย่าด้านทุกสิ่งทุกอย่าง เวลานี้ประชาชนชาติไทยเราทั่วประเทศเขาตำหนิติเตียนมาหาหลวงตาบัวนี้แหละไม่ไปไหน เขาเป็นที่ไว้วางใจกับหลวงตา เขาก็มาเล่าให้ฟังทุกแง่ทุกมุม นอกจากเรานำมาไม่หมดเท่านั้น เราก็นำมาแต่แง่ใดที่ระลึกได้และเป็นจุดสำคัญๆ เราก็นำมาเพื่อเตือนวงราชการต่างๆ ตลอดถึงรัฐบาล ให้พากันตั้งเนื้อตั้งตัวพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงความชั่วทั้งหลายที่มอมแมมมานั่นน่ะ ให้เป็นความดีพอประชาชนทั้งหลายเขาจะไว้ใจได้บ้าง ให้พากันตั้งเนื้อตั้งตัว

คำสอนของเรานี้เป็นคำสอนที่ตายใจได้แล้ว ออกมาจาก ๑. ความประพฤติของเราบริสุทธ์เต็มที่ เราไม่มีอะไรที่ตำหนิติเตียนตนเอง ๒. ธรรมของเราก็บริสุทธิ์เต็มหัวใจ สามารถที่จะสอนได้สามแดนโลกธาตุเช่นเดียวกัน ตามกำลังวาสนาของเรา จึงเป็นความแน่นอนทุกอย่างที่เรานำมาสอนโลก โลกควรจะได้ถือเป็นคติตัวอย่างอันดีงามที่เราพาดำเนินมา ไม่มากก็ให้บ้างนะ ยังดี อย่าเป็นบ้ากันอยู่ตลอดเวลา บ้ายศ บ้าลาภ บ้าอำนาจบาตรหลวงจนไม่ฟังเสียงใคร คนในโลกอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเราคนเดียวๆ แล้วเอาฝ่าเท้าเหยียบคนทั่วประเทศไทย ด้วยอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ ของเรามันดูไม่ได้นะ

วงราชการ เฉพาะอย่างยิ่งวงรัฐบาลที่เด่นๆ ที่สุด ตัวทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่นั้นมีไม่กี่ตัวอยู่ในนั้น เขามาบอกมากล่าวเราให้ทราบหมดนะ แต่เราไม่เคยพูด นอกจากถึงเวลาที่จะพูดก็พูด เพื่อเตือนให้กลับเนื้อกลับตัวให้เป็นคนดี อย่าเห็นแก่เงินแก่ทองว่าเป็นของเลิศเลอยิ่งกว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ที่อยู่ร่วมกันทั้งชาตินับแต่พระมหากษัตริย์ลงไป นี้เราอยู่ด้วยกันนะ เงินทองข้าวของเรียกว่าไอ้หลังลายเพียงเป็นเครื่องอาศัยเท่านั้น ไม่ได้ให้ติดพันจนกระทั่งทำลายคนอื่นด้วยอำนาจแห่งไอ้หลังลายนี้ไม่ถูก ไอ้หลังลายเป็นเครื่องใช้สอย ทุกครัวเรือนทุกคนมี แม้แต่เด็กเขาก็ยังมี ก็ใช้สอยไปตามกำลังที่มี แต่อย่าถึงกับให้มันมีกำลังเหยียบย่ำทำลาย เพราะความโลภของตนเองป่าเถื่อนๆ อย่างนั้นก็แล้วกัน อันนี้ละไอ้หลังลายพาให้เดือดร้อนมาก

ท่านผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์นะ สำหรับใช้สอยอะไรๆ ให้สะดวกสบาย ไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อให้คนเป็นบ้ากับไอ้หลังลายนะ ให้พากันทราบ ผู้ผลิตธนบัตรเงินทองขึ้นมานี้ ผลิตมาเพื่อเป็นความสะดวกสบายแก่มนุษย์ที่อยู่ร่วมกัน ไม่ได้ผลิตมาเพื่อให้ไอ้หลังลายมีอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ ด้วยความโลภของคนป่าคนเถื่อนนั้นแหละ พวกนี้เป็นคนป่าเถื่อนที่สุด ได้แต่ยกตัวว่าเป็นข้าราชการเป็นผู้ใหญ่ยศนั้นยศนี้ ยศขี้หมามันอะไรเราก็ไม่รู้ นี่เอาธรรมเข้าจับ คำที่ว่าเสกสรรปั้นยอกับความจริงมันเข้ากันไม่ได้ จึงเรียกว่ายศขี้หมาอะไรมันเข้ากันได้นะ ยศเหล่านี้ทำคนให้เสียทั้งประเทศ บอบช้ำไปหมดทั่วประเทศไทย

เขามาร้องเรียนต่อเรา เฉพาะอย่างยิ่งในวงรัฐบาลชุดปัจจุบัน เขาเดือดร้อนกันมากทีเดียว มันเป็นอะไรวงรัฐบาลเรา มันไปเรียนวิชายักษ์ วิชาผี วิชาหมู วิชาหมา มาจากไหนมาปกครองชาติไทยของเรา ชาติไทยเป็นคน หมามีเขาก็เลี้ยงไว้ไม่ได้ใหญ่กว่าคนนะ หมาเหล่านั้นไม่ได้ใหญ่กว่าเจ้าของ แต่วิชารัฐบาลที่เรียนมานี้มันใหญ่กว่าชาติบ้านเมืองนะ เรียกว่าหมาใหญ่กว่าเจ้าของ เรียนมานี้มันใหญ่กว่าคนทั้งชาติละนะเดี๋ยวนี้ เที่ยวเหยียบหัวคนนั้นเหยียบหัวคนนี้ ตั้งกฎนั้นตั้งกฎนี้ตั้งกฎหมาย แล้วก็ตั้งกฎหมอย แล้วก็ตั้งกฎหมา แล้วก็ตั้งกฎหมัดขึ้นมา เหยียบบ้านเหยียบเมืองกันทั้งนั้น เขาเดือดร้อนกันทั้งประเทศนะเวลานี้

หลวงตาบัวผู้อยู่จุดศูนย์กลางจะตายแล้วนะ ฟังความเดือดร้อนของเขาที่เขามาร้องเรียน เพราะฉะนั้นรัฐบาลของเราควรจะพลิกจิตใจของเราเข้าสู่ประชาชนได้บ้าง อย่าเห็นว่าเรานี้มาจากโลกไหนๆ มาเหยียบหัวประชาชนได้อย่างสบาย โดยไม่มีใครต่อสู้ หรือไม่มีคัดค้านต้านทาน มันเกินไป เขาจะต้านทานได้ยังไงมันเลวเกินไปกว่าที่จะมาแนะนำสั่งสอนแล้ว มันเลยเถิดแล้ว รัฐบาลนี้กำลังเลยเถิดนะเดี๋ยวนี้ ให้ดูตัวให้อยู่ในเขตความพอดีกับประชาชนทั้งประเทศที่ปกครองเขา จะพอเหมาะพอดี ถ้าเป็นอย่างนี้อยู่แล้วเมืองไทยนี้ล่มจมแตก

แล้วชอบจะทำลายชาติ ทำลายศาสนา ศาสนาเราไม่ค่อยปรากฏว่าพวกนี้มีการส่งเสริมศาสนาท่านั้นท่านี้ มีแต่การเหยียบย่ำทำลายทางตรงทางอ้อมไปโดยลำดับ แล้วก็คืบคลานเข้าไปหาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เอะอะๆ ก็เฉียดเข้าไปๆ ที่จะทำลายพระราชบัลลังก์ อันนี้มันน่าสลดสังเวชนะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือหัวใจของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ได้เว้นใครเลยละ กราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจมาตลอด บ้านไหนๆ เขามีพระรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ เขากราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจ นี้ก็กำลังคืบคลานเข้าไปจะทำลายแบบนั้นทำลายแบบนี้ ดูเอาซิประชาชน นี่เอาธรรมมาสอน

ให้ท่านทั้งหลายพิจารณานะ ไม่ควรทำ ให้ถอยตัว ถ้ากำลังทำซึ่งเป็นอัปมงคลอยู่เวลานี้ เช่นคุณหญิงจารุวรรณนี้ เป็นเรื่องที่เป็นมหามงคลอย่างยิ่งแล้ว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งเอง แล้วมาทำลายพระองค์หาอะไร ด้วยแง่นั้นแง่นี้ กำลังหาวิชาที่จะเหยียบหัวพระเจ้าแผ่นดินของเราลงอยู่นี้ ไม่ให้มีพระเจ้าแผ่นดินเหลืออยู่ในชาติไทย ให้มีแต่หมาล้วนๆ ปกครองกัน หมาปกครองกันก็มีแต่กัดกันเท่านั้น เราอยากจะเป็นหมากัดกันหรือให้มีเจ้าของคอยดุคอยด่าบ้างล่ะ พิจารณาซิ ลูกไม่มีพ่อมีแม่ ลูกกำพร้ามีแต่กัดกันดีไหม กับลูกมีพ่อมีแม่ปกครองรักษา

ใครจะทำความร่มเย็นได้อย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระนางเจ้า ให้แก่ประเทศไทยเราทั้งชาติ ไม่เคยทรงทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใด แต่พวกเราที่เป็นลูกนี่ซิมันกัดกันๆ เดี๋ยวจะไปฆ่าพ่อด้วยกัดพ่อด้วย เวลานี้มันทุเรศไหม พิจารณาซิวงราชการ อย่าไปแตะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ไม่สมควรอย่างยิ่ง ซึ่งเท่ากันกับไปฆ่าพ่อฆ่าแม่ของคนทั้งแผ่นดิน ไม่สมควรอย่างยิ่งเลย ให้พลิกไป ความรู้เหล่านี้ไม่เกิดประโยชน์ จะทำชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ล่มจมเสียหาย ให้พลิกทันที ถ้าเราจะเป็นผู้ปกครองบ้านเมือง ให้ปกครองบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรมๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสูงสุดยอดแล้วในเมืองไทยเรา อย่าไปแตะ ซึ่งเป็นการทำลายพ่อแม่ที่เป็นบาปกรรมหนักที่สุด ให้พากันพินิจพิจารณา

วงราชการไม่เหนือธรรม ธรรมจึงสอนได้พูดได้ทุกอย่าง นี้เป็นธรรมมาสอนโลก คนไหนไม่ถูกไม่ดีควรจะฟังเสียงกันซิ มนุษย์อยู่ด้วยกัน จะเลิศเลอแต่เราคนเดียว มาอาศัยมนุษย์อยู่มันเลวยิ่งกว่าเขาอีกเท่าไรล่ะ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้

โยม กราบขอโอกาสเจ้าค่ะ มีคุณยายคนหนึ่งอายุ ๗๖ ปี ชื่อคุณยายวุ้ง นามสกุล ศรีสวัสดิ์ อยู่จังหวัดขอนแก่นค่ะ ฝึกสมาธิมาตั้งนานแล้วก็ ตอนนี้เกิดปัญหาสมาธิเสื่อมไม่เหลืออะไรเลย สติตั้งแล้วก็ล้ม ไม่เหลืออะไรเลย แล้วก็ลืมหมดเลย จะให้สงบยังไงจิตไม่ยอมรวมค่ะ รอฟังอยู่ที่ขอนแก่นเจ้าค่ะ

หลวงตา   เขาภาวนายังไง เบื้องต้นเขาภาวนาอะไรเป็นอารมณ์

โยม   ไม่ทราบค่ะ คุณยายขา หลวงตาถามว่า คุณยายภาวนาอะไร ใช้คำบริกรรมอะไรเป็นอารมณ์

หลวงตา   เอาอย่างนี้นะ จำไม่ได้ก็ตาม เขาภาวนาทีแรก เขาเอาคำไหนเป็นคำบริกรรม เช่นพุทโธหรือธัมโม เป็นต้นนะ หรือธรรมอื่นก็ตาม เรียกว่าเขาภาวนาเริ่มต้นด้วยธรรมบทนี้ แล้วทีนี้มันจะเสื่อมไปไหนให้เสื่อมเถอะน่ะ ทีนี้มาตั้งต้นธรรมบทนี้ใหม่ เช่นอย่างว่าพุทโธๆ ให้อยู่กับพุทโธ เรื่องความเสื่อมความเจริญอย่าไปกังวลกับมัน อันนี้เป็นตัวอย่างอันดีและหลวงตาเป็นแล้ว คือว่าจิตเสื่อมนั้นปีหนึ่งกับห้าเดือน โอ๋ย อกจะแตกนะเรื่องจิตเสื่อม ไม่มีอะไรทุกข์มากยิ่งกว่าจิตเสื่อม หาอยู่ที่ไหนไม่มีเลยมันเผาอยู่ภายในหัวอก คือเสียดายที่จิตเสื่อม อยากได้คืนมา แต่มันไม่ได้ ไม่ได้มันก็ร้อนเป็นไฟเลย

ที่นี่เราจึงมาตั้งต้นใหม่ พิจารณาด้วยเหตุด้วยผลเรียบร้อยแล้ว เอ้า มันเสื่อมไปก็เสื่อมไปอะไร เราเป็นทุกข์เดือดร้อนจะเอามันคืนมามันก็ไม่คืน อยากให้มันคืนมา เอาๆ เอาปฏิบัติตั้งใหม่ มันเจริญขึ้นด้วยคำบริกรรมอันนี้ เอาอันนี้ติดเลยที่นี่ ให้จับคำบริกรรมนี้ไว้ อย่าไปกังวลที่มันเสื่อมไปแล้ว อะไรก็แล้วอย่าไปกังวล ให้ตั้งลงปัจจุบันเช่นอย่างพุทโธให้ตั้งใหม่ ไม่ต้องไปคิดกังวลกับเรื่องความเสื่อมความเสียของจิต มันจะเพิ่มความทุกข์เข้าไปอีก เราเคยเป็นมาแล้ว เอาละให้ตั้งใหม่ดังนี้ ถ้าเชื่อหลวงพ่อ อย่าไปเชื่อความเสื่อมเป็นบ้ากับความเสื่อมเข้าใจไหม ให้เชื่อหลวงพ่อ หลวงพ่อเคยเสื่อมมาแล้ว ตั้งตัวได้เพราะเหตุดังที่สอนนี่ละเข้าใจเหรอ เอาอันนี้ให้รางวัล

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก