เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๘
ธาตุขันธ์ จิตใจมีความจำเป็นเท่ากัน
ก่อนจังหัน
เออ ในครัวที่เข้าออกๆ ในครัว เข้าออกทุกเวลาไม่ได้นะ เราเดินมาตอนค่ำๆ เห็นเข้าออกๆ ค่ำๆ อย่ามาทำเกะกะอย่างนี้นะ เที่ยวหาขี้รดวัดรดวาไป ขี้ใส่ในบ้านในหัวเจ้าของไม่พอแล้วจะมาขี้รดวัดอีกไม่ได้นะ เข้ามาในวัดนี้ต้องดูกฎดูระเบียบของวัด ท่านมีกฎมีระเบียบ ไม่เลอะๆ เทอะๆ เหมือนพวกส้วมพวกถานอยู่ในบ้านนะ ให้ดูให้ดี เราได้เคยมาดุ ดุแล้วไล่ด้วยไม่รู้กี่ราย ถ้าเรามาเจอเองไม่เป็นไร ใส่ตูมเดียวไปเลย ป่านนี้ยังไม่หยุดละวิ่งป่าราบ เราไม่ได้ดูซีมันเลอะๆ เทอะๆ เท่าไรมันก็เคยอย่างนั้นแล้ว ดูไม่ดู เห็นไม่เห็น มันก็เคยเป็นอย่างนี้ นั่นละมันบอกชัดเจนย้อนหน้าย้อนหลังเหมือนนี้ละ
อยากมาเมื่อไรก็มา อยากไปเมื่อไรก็ไป มันยังไงกัน เราอกจะแตกแล้วนะดูแลวัดนี้ มันเลอะขนาดนั้น อู๋ย เราไม่เคยคิดเคยคาดว่าเราจะได้แบกได้หามถานขี้ ว่างั้นนะ เหมือนถานขี้ ความสกปรกในตัวคนมันเหม็นยิ่งกว่าถานขี้ ขี้เทลงนั้นก็แล้ว อันนี้มันติดตัวไปเลย ทุกคนสกปรกเหมือนกันยิ่งกว่าถานขี้ ชำระถานขี้บ้างนะพวกนี้น่ะ มันพิลึกนะ โอ๋ย มันจะดูไม่ได้จริงๆ ศาสนาจะไม่มีเหลือนะเมืองไทยเรา มีแต่ความเลอะๆ เทอะๆ ในวงราชการงานเมืองวงไหนๆ มีแต่ความเลอะเทอะอยู่ในวงนั้นเป็นส้วมเป็นถาน แย่งกันกินเหมือนหมา วงราชการทุกหน่วย รวมเข้าไปจุดรัฐบาล
หน่วยไหนๆ ก็ตามมีตั้งแต่พวกส้วมพวกถานแย่งอยู่แย่งกินกันในตำแหน่งๆ ตำแหน่งอะไรก็ไม่ทราบ มีแต่สะแตกกันอย่างนั้น เราพูดตรงๆ การมันทำมันทำความเดือดร้อนแก่โลกมากมาย เราว่าสะแตกนี้เดือดร้อนแก่ใครล่ะ ที่มันทำความเสียหายนี่ จึงบอกว่าสะแตกพอดีกัน เข้าใจไหม ให้ว่าอย่างอื่นไม่ว่า เช่นอย่างเหยียบหัวพระพุทธเจ้านี่ ก็เข้ารับกับพวกสกปรกที่สุด พระเศียร เลยปลดไปตอนนั้น เอาหัวให้พวกนี้เหยียบ เข้ารับกัน มันเลอะเทอะขนาดนั้นนะ
ให้พากันคิดกันอ่านบ้างอย่าเห็นแก่ได้แก่กินทุกสิ่งทุกอย่าง นี่ละมันเลอะเทอะในบ้านเมืองของเรา ให้ไปดูในวงราชการถ้าอยากเห็นความเลอะเทอะมาก มากที่สุดเลย เราจึงดูไม่ได้ เราปฏิบัติตัวเราก็สะอาดมาเรื่อยๆ จนกระทั่งออกช่วยโลกช่วยสงสาร เงินบาทเดียวเราไม่เคยแตะ ฟังซิน่ะ กับความกินงาบๆ กินตามหน่วยราชการต่างๆ มันเข้ากันได้ไหม นี่ละมันดูไม่ได้นะ
คิดดูเงินพี่น้องทั้งหลายบริจาคเราสักเท่าไรทั่วประเทศไทย เราเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียว แล้วทำออกด้วยความบริสุทธิ์หมด นับตั้งแต่ทองคำ ดอลลาร์ลงมาหาเงินสด เราคิดถึงเรื่องว่าเรามีความมัวหมองอะไรในหัวใจนี้ แม้บาทหนึ่งเราไม่มีนะ จึงเห็นพวกส้วมพวกถานอยู่ในวงราชการต่างๆ มันถึงดูไม่ได้ แหมเลอะเทอะมากจริงๆ ผู้ใหญ่เท่าไรใหญ่ด้วยความเลอะเทอะ ไม่ได้ใหญ่ด้วยความชุ่มเย็นเป็นสุขนะ ใหญ่ด้วยความเลอะเทอะ มูมมามๆ ตะกละตะกลามพวกนี้ เข้าไปตำแหน่งไหนก็ตะกละตะกลาม อู๊ย พิลึกพิลั่นนะ น่าสลดสังเวชจริงๆ
เราพูดอย่างนี้เป็นยังไง พวกนั้นมันจะเอาเราไปฆ่า ฆ่าเท่าไรก็ไป ให้ยกโคตรมาฆ่าเราเราก็ไม่ว่า ขอให้เราได้ทำความดีแก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี้เราพอใจแล้ว ร่างกายนี้หนังห่อกระดูกเหมือนกันหมดไม่เห็นมีคุณค่า มีคุณค่าอยู่กับความดีที่ทำต่อกันนะ ให้จำเอา ให้พร
หลังจังหัน
ราววันที่ ๒๖-๒๗ เขาเคยไปส่งอาหารภูวัว จวนสิ้นเดือนๆ ส่งให้ทั้งวัดเลย เราเป็นผู้รับเลี้ยงวัดภูวัว ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะมาเท่าไร เอา มา มาวัดภูวัวนี้ มาเท่าไรเอามาเราจะรับเลี้ยงทั้งหมด แต่ก็มีอีกข้อหนึ่งแต่เป็นพระโกโรโกโสไล่ลงภูเขาให้หมด มันเสียศักดิ์ศรีภูเขา นี่พูดถึงว่าส่งอาหารภูวัว พระแถวนั้นท่านก็ได้อาศัย คือในบริเวณใหญ่ๆ นี้ ที่แอบอยู่ข้างๆ มี ท่านภาวนา มีสององค์บ้างสามองค์บ้าง ท่านมาติดต่อขอจากนี้ไป เอาตาปะขาวมา เอาเณร เอาโยมมาก็มี ทางนี้ก็จัดให้ เราบอกไว้เลย เอาให้ท่านไป หากว่าบกพร่องให้บอกไปเราจะส่งมาทันทีเราว่างั้น
พระจำนวนเท่าไรให้มา ถ้าเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มาเท่าไรเราจะรับเลี้ยงทั้งหมด หากว่าเราไม่สามารถเราจะบอกว่าเรายอมแพ้ นี่ยังไม่เคยเห็นปรากฏว่ายอมแพ้ แต่ท่านจะถือจุดศูนย์กลาง ๓๐ เป็นสำคัญ เราสังเกตดูถึง ๓๐-๔๐ แล้วก็ลดลงมา ๒๕-๒๖ แล้วก็ไป ๓๐-๔๐ อยู่ในจุดนี้ เราเปิดไว้แล้วนี่ จะมามากมาน้อยเท่าไรถ้าตั้งใจปฏิบัติ เอาๆ มา เราจะรับเลี้ยงทั้งหมด ไม่ให้มีความกังวลเรื่องอาหารการบิณฑบาตทุกอย่าง เราจัดให้พร้อมหมดเลย แล้วไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้น
เราก็เคยสอบๆ ถามๆ ดูเหมือนกัน ถามพระดู ที่อยู่ที่นี่มีผู้เคยรวมศรัทธาสามัคคีกัน เช่น อำเภอนั้นๆ หรือตำบลใดก็ตาม รวมสามัคคีธรรมกันจัดอาหารบิณฑบาตมาถวายวัดนี้เป็นชิ้นเป็นอันบ้างมีไหมเราถาม ไม่มี ทางนั้นก็มีหลายอำเภอ เซกา โขงหลง ไปถึงบ้านแพง นี่เราถามเฉยๆ นะเราบอก เรื่องที่เราจัดมาให้ไม่มีวิตกวิจารณ์แล้วแหละ เราถามดูคนเหล่านี้เป็นยังไง เขาก็อยู่ก็กินได้ไม่ตายกัน เขาไม่พอที่จะเลี้ยงพระได้บ้างเหรอ ถ้าจิตใจไม่จืดชืดดำปี๋เสียอย่างเดียวเท่านั้น เห็นแก่พุงของตัวเอง ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันว่าไม่มีแหละที่จะมา ตั้งแต่อยู่ในพุงก็ไม่พอ มาหาใส่พุงก็ไม่พอ แล้วจะไปแบ่งไปอะไรให้คนนั้นคนนี้ เช่นแบ่งไปวัด ใช่ไหมล่ะ เราถามไปอย่างนั้นแหละ ถามพระโดยเฉพาะ ที่ตั้งวัดนี้มานาน มีผู้ศรัทธาบริจาครวมหัวกัน จะได้มากได้น้อยก็ตาม เป็นส่วนรวมขึ้นมาเป็นชิ้นเป็นอันมาถวายในวัดนี้ มีบ้างไหม ว่าไม่มี บอกว่าไม่มีมาตลอด
ก็ทำให้เราคิดเหมือนกัน คิดถึงเรื่องจิตใจกับเรื่องธาตุเรื่องขันธ์ เรื่องกิเลสตัณหา การอยู่การกินล้นปากเหลือคอไปทางกิเลสตัณหาเสียมากต่อมาก ที่จะแบ่งเข้ามาสู่จิตใจซึ่งเป็นตัวสมบุกสมบันที่สุดเลย คือใจ ไม่ค่อยมีแบ่งมา นี่ละเราเอามาพิจารณา คือจิตนี่เป็นสำคัญมากทีเดียว ใครจะมีอะไรมากน้อยก็ตาม จิตมีอะไรบ้าง นั่น ตัวนี้ละตัวจะยืนโรง ตัวที่จะไป
ไม่มีใครฉลาดแหลมคมและรู้แจ้งแทงทะลุเหมือนศาสดาองค์เอก ที่เป็นเจ้าของพุทธศาสนานี้เลย พระองค์ทรงทราบตลอดทั่วถึงหมด เพราะฉะนั้นท่านถึงสอนให้รู้จักทั้งทางธาตุขันธ์ ทั้งทางจิตใจ มีความจำเป็นเท่ากันตามส่วนของมัน ธาตุขันธ์ก็มีความจำเป็นในเวลามีชีวิตอยู่ ต้องได้อาศัยการกินอยู่หลับนอนเป็นธรรมดาสำหรับธาตุขันธ์ ส่วนบุญส่วนกุศลเป็นธรรมที่สำคัญ หรือว่าอาหารที่เลิศเลอที่สุดสำหรับใจนี้มีหรือไม่ นี่ละตรงนี้สำคัญ ต้องให้มี ถึงจะจนตรอกจนมุมยังไง สำหรับบุญกุศลที่จะเข้าสู่ใจต้องมีๆ เป็นแบบบังคับอยู่ในตัว
เลือกเกิดเอาไม่ได้นะเรา เหล่านี้ใครเลือกเกิดได้ เอามาอวดบ้างซิว่าไปเลือกเกิดที่ไหนมาตัวยุ่งนั่นน่ะ ไปหาเลือกเกิดที่ไหนมา มาอวดพระพุทธเจ้า อวดธรรมพระพุทธเจ้า ไปหาเลือกเกิดได้มาอวดพระพุทธเจ้ามีไหม สพฺเพ สตฺตา ท่านบอกแล้ว สัตว์ทั้งหลายทั่วโลก ท่านบอกว่าเป็นไปด้วยบุญและกรรมทั้งนั้น แต่งเอาไม่ได้ สัตว์ทั้งหลายมีความประณีตเลวทรามต่างกัน เพราะกรรมเป็นเครื่องจำแนกแจกสัตว์ นั่นฟังซิน่ะ
กรรมคือการกระทำของตัวเอง กระทำดีกระทำชั่ว ผลขึ้นมาก็เป็นดีเป็นชั่วขึ้นมา เป็นของเจ้าของ ถ้าเป็นบุญกุศลเป็นสมบัติอันพึงใจของเจ้าของ ถ้าเป็นส่วนชั่วก็เป็นมารทำลายเจ้าของ จะไปที่ไหนๆ ไม่พ้นอันนี้ ใครจะไปแต่งเกิดได้ที่ไหนๆ ถ้าแต่งเกิดได้ศาสนาไม่มี กิเลสมันแต่งให้เกิดได้สะดวกสบาย แต่นี้มันไม่มีซี พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
เราเกิดมานับว่าเรามีวาสนานะ ใครจะเกิดได้ง่ายๆ กับพุทธศาสนา มีศาสนาเดียว เอ้าพูดให้ตรงเป๋งเลย ค้นกันในหลักจิตตภาวนา นักปราชญ์จอมปราชญ์ทั้งหลายท่านเป็นขึ้นมา พระพุทธเจ้าเป็นจอมปราชญ์ศาสดาเอก ก็ออกมาจากจิตตภาวนา รู้แจ้งทะลุไปหมด บรรดาสาวกทั้งหลายรู้แบบเดียวกัน รู้อย่างแม่นยำๆ เราจึงได้ โถ ศาสนานี่ ที่ไหนก็ว่าศาสนาๆ พิจารณาดูๆ ศาสนาแปลว่าคำสอน ศาสนธรรม เป็นคำสอนของธรรม เช่นพระพุทธเจ้าเราสอนโลก นำธรรมไปสอนโลก เรียกว่าศาสนธรรม เป็นธรรมของผู้สิ้นกิเลสแล้ว สอนโลกอย่างแม่นยำๆ ไม่มีผิดพลาดเลย คือศาสดาองค์เอก จากนั้นรองลำดับนั้นมาคือพระอรหันต์ท่านสอนอย่างแม่นยำๆ เพราะท่านรู้ท่านเห็น เอาออกมาจากความรู้ความเห็นของท่าน เต็มภูมิของท่านออกมาเลย และศาสดาก็เป็นพุทธวิสัย เต็มภูมิของศาสดา สอนโลกได้อย่างกว้างขวางลึกซึ้ง นอกจากวาสนาของโลกจะมีได้แค่ใด ก็เอาวาสนานั้นรับออกมา ได้มากได้น้อย
ศาสนาพุทธของเราเลิศที่สุดแล้ว ศาสนธรรม แยกจากศาสนธรรมก็ศาสนกิเลส คำสอนของกิเลสมันบงการได้ทุกแบบทุกฉบับ คำสอนของธรรมจะมีแต่ผู้สิ้นกิเลส คำสอนพระพุทธเจ้าเป็นคำสอนที่แม่นยำที่สุด ใครอย่าอวดดีกว่าพระพุทธเจ้า ไปเหยียบหัวพระพุทธเจ้าเหยียบเพื่อจะโดดลงนรกนะ อย่าอวดดี เวลานี้กิเลสตัณหามันเย่อหยิ่งจองหอง เก่งกว่าพระพุทธเจ้า เก่งกว่าธรรมเดี๋ยวนี้ กิเลสกำลังพองตัว โลกชาวพุทธเรานี้แหละเวลานี้ไม่ใช่ชาวพุทธเสียแล้ว มันเป็นชาวเปรตชาวผีไป
พุทธ แปลว่าผู้รู้ รู้ด้วยเหตุด้วยผลด้วยอรรถด้วยธรรมดังพระพุทธเจ้ารู้ เรียกว่า ศาสนธรรม ท่านสอนด้วยความถูกต้อง เวลานี้ค่อยหมดเข้ามาๆ จะไม่มีนะพุทธศาสนา เราเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือวงราชการต่างๆ มีธรรมอย่างนั้นไหมในวงราชการต่างๆ มีแต่กิเลส เพราะฉะนั้นเวลามันไปรวมตัวกันแล้ว ผลิตผลออกมาก็มาเป็นมูตรเป็นคูถ จากส้วมจากถานในวงงานนั้นๆ นี่เพราะคนมีกิเลสต้องมีแต่ความโลภ ความอยากได้อยากมีอยากดีอยากเด่นแล้วชิงกันไป ว่าชิงดีชิงเด่นชิงอะไร มันชิงเปรตชิงผีชิงนรกอเวจีนั้นถูกต้อง เดี๋ยวนี้เลอะขนาดนั้น
คำสอนที่สอนออกไปนี้เป็นของแปลกประหลาด กิเลสหัวเราะๆ ขนาดนั้นเวลานี้ กิเลสกำลังหัวเราะเยาะเย้ยธรรม กำลังหัวเราะเยาะเย้ยศาสดาองค์เอกคือพระพุทธเจ้าของเรา กำลัง อยู่ในเมืองไทยเรานี้ เวลานี้กำลังเย่อหยิ่งจองหองพวกกิเลส ที่ว่าชาวพุทธๆ มันพลิกเข้ามาเป็นชาวเปรตชาวผีแล้วเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปแล้วนะเวลานี้
ให้พากันคิดนะ พูดเหล่านี้คิดทั้งนั้น ผู้ที่รับเคราะห์รับกรรมดีชั่วก็คือตัวของเราเอง คำสอนท่านวางแบบฉบับไว้อย่างถูกต้อง ถ้าใครก้าวเดินตามนี้หวังผลๆ จะพ้นทุกข์ ถ้าใครฝืนก็จมเลยๆ ใครจะอวดดีอะไรไม่ได้ ไม่มีทาง ศาสดาองค์เอกตรัสไว้ชอบแล้ว นอกนั้นผิดไปหมดเลย ให้พากันคิดให้ดี เอาละพูดพอสมควร หากมีเรื่องอะไรก็ต่อกันไปอีก
เราเป็นเจ้าของประเทศ สมบัติในประเทศเป็นของพี่น้องชาวไทยทั้งหมด อย่าให้เปรตให้มารมายึดอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ต่อไปนะ เราเป็นคนทุกคน ชาติไทยทุกคน ชาติไทยต้องกล้าหาญรักษาสมบัติของตน อย่าเป็นเต่าหดหัวอยู่ในกระดองจะจมกันทั้งหมด จำให้ดีคำนี้ หลวงตาบัวที่นำพี่น้องทั้งหลายเวลานี้ นำด้วยความเป็นธรรมล้วนๆ ความไม่เป็นธรรมเราไม่มีในหัวใจของเรา เพราะฉะนั้นเราถึงกล้าพูดทุกอย่าง คอขาดขาดไปเลย ธรรมนี้ขาดไม่ได้ เราเคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรมเคารพขนาดนั้น เพราะฉะนั้นเราถึงกล้าพูดทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจและความเป็นธรรม
ใครจะว่าอะไรก็ตาม เช่นอย่างเขาว่าหลวงตาบัวนี้ขาดเป็นพระ เพราะไปวิจารณ์รัฐบาล เอ้า ว่าไป ให้ยกโคตรมาว่าเราก็ว่าไป เราก็มีโคตรเหมือนกัน เราจะยกโคตรฟัดกันเลยเหมือนหมากัดกัน เขามีหมาเราก็มีหมา เขามีโคตรเราก็มีโคตร โคตรเขาเป็นหมา โคตรเราก็เป็นหมา ฟัดกัน หมากับหมาไม่เป็นไร หลวงตาบัวเป็นเจ้าของหมา อย่ากัดกัน ให้พิจารณาดูเหตุผลต้นปลายว่าใครผิดใครถูก ให้ยอมรับกันตรงนั้น เข้าใจไหม เจ้าของหมาตัดสิน
ท่านทั้งหลายให้ฟัง เรื่องธรรมไม่มีที่อ่อนแอท้อแท้เหลวไหลนะ เรื่องธรรมต้องเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดตลอด ให้จำเอานะเรื่องธรรม สิ่งใดที่ชั่วช้าลามกเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดใส่กันเลยเข้าใจไหมล่ะ ธรรมไม่มีอ่อนแอ อ่อนแอเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้ อ่อนแอเป็น สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ คืออรหันต์เป็นสาวกของพระพุทธเจ้านั้น เป็นสรณะของเราไม่ได้นะ มีแต่เด็ดๆ ทั้งนั้นท่านผู้มาเป็นสรณะของเรา เพราะฉะนั้นเราเป็นลูกศิษย์ลูกหาของท่านต้องเด็ด ขวากหนามมาที่ไหนฟาดมันลงไปเข้าใจเหรอ เหยียบลงไป ระวังนะเดี๋ยวเหยียบถูกหนามแท่งเดี๋ยวตายจะว่าไม่บอก มันต้องมีพลิก เห็นอะไรๆ ก็จะเหยียบๆ ดะไป เอาละพอ
(โรงพยาบาลเขาสวนกวางครับ) เขาสวนกวางเป็นอะไร โรงพยาบาลนี้ยุ่งทุกวัน เมื่อวานนี้ก็มายุ่งอะไร แล้วยุ่งตลอด (โรงพยาบาลจะขยาย แต่ว่ามันเป็นหลุมตามโรงพยาบาลเยอะน่ะครับ ว่าจะถมที่น่ะครับ จะขยายสร้างตึกแล้วไม่มี) นั่น พวกจอบพวกเสียมอยู่ข้างนั้น ไปๆ เลย พระเก็บจอบเสียมอยู่ตรงไหนให้เลยเอาไปถมที่บอกงั้น ทางโรงพยาบาลเขาสวนกวางจะเอาไปถมที่ให้เลย ไม่ต้องตระหนี่พวกเรา (จะขยายโรงพยาบาล แล้วก็มันมีที่เป็นหลุมเป็นบ่ออยู่ต้องถมก่อน ถึงจะสร้างได้ครับ ก็เลยมาขอ) ขออะไร (ขอดินไปถมที่ครับ) ดินที่ไหนล่ะ (ซื้อเอาซิครับ) โอ๊ย ไม่ไหวแล้วเราจะตาย พักไว้ก่อนนะเรา เราจะตายจริงๆ โรงพยาบาลเป็นอันดับหนึ่งที่เราช่วยตลอดนะ หนักมากเชียว
นี่ก็ทราบว่าทางกระทรวงสาธารณสุข กำลังแย่งกันกินตำแหน่งยุ่งไปหมด ปล่อยให้โรงพยาบาลแห้งแล้งท้องจะไม่มีเหลืออะไรในอาหารนะ คนไข้เลยจะตาย พวกนั้นแย่งกัดกินด้วยตำแหน่งหน้าที่ สมบัติเงินทองยศลาภกำลังแย่งกันอยู่ เราทราบชัดเจนพวกสาธารณสุขนี้พิลึกมาก สกปรกมากผู้ใหญ่โต ผู้ใหญ่ผู้โตละสกปรกมาก เขาบอกมาชัดเจนอย่างนี้นะ แล้วพวกลูกน้องทั้งหลายโรงพยาบาลต่างๆ เลยจะตาย สุดท้ายก็วิ่งเข้ามาหาวัด เราบอกว่าเราสู้ไม่ไหว พวกนั้นอย่ามัวแต่แย่งกันกินๆ ในกระทรวงสาธารณสุข ให้มองดูประชาชนบ้าง เอาละเอาย่อๆ เท่านี้ คอยฟังนี่กำลังกระตุกเข้าไปข้างใน เขาจะให้อะไรมาค่อยเอานะ พวกจอบพวกเสียมเราเก็บไว้เสียก่อนเรายังไม่ให้เข้าใจ กระตุกทางกระทรวงเสียก่อน
เพราะมันเหลวแหลกจริงๆ กระทรวงสาธารณสุข ถึงวาระที่จะพูดเราพูด เราเก็บไว้ในลิ้นชักหมด เรื่องทุกอย่างๆ เข้าในนี้ๆ เราเก็บไว้ในลิ้นชัก สมควรที่จะออกมากน้อยเพียงไรออก วันนี้มีสัมผัสปั๊บออกเลย กระทรวงสาธารณสุขสกปรกมากทีเดียว กระทรวงอื่นๆ ก็สกปรก แต่กระทรวงสาธารณสุขมาเกี่ยวข้องกับเรามากมาย เอะอะพวกโรงพยาบาลต่างๆ วิ่งมาหาๆ วันนี้ก็มาหาจอบหาเสียมไปถมดิน เราก็ยังไม่ให้จอบเสียม ทางเขาสวนกวางไม่มีหรือจอบเสียมนั่นน่ะ ถ้าไม่มีจริงๆ เราจะยกให้ทั้งหมด
นี่มาเดือดร้อนถึงวัดนะกระทรวงสาธารณสุข เราช่วยโรงพยาบาลมากขนาดไหน พวกนี้มีแต่แย่งกันกินๆ ตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ไหนว่าไง (เขาบอกเขาเป็นผู้น้อยเขาเดือดร้อน ผู้หลักผู้ใหญ่ข้างในก็แย่งกันไปไม่เดือดร้อน) ไม่เดือดร้อนยังไงกำลังกัดกันหมาใหญ่กัดกันอยู่ข้างใน พวกนี้พวกเดือดร้อนมาก พวกกระทรวงใหญ่ๆ กัดกันใหญ่ เข้าใจหรือเอาละพอ ไปๆ
ไม่ร้อนแต่เราเราพูดจริงๆ เราไม่ร้อน พูดเปิดเผยเลย ไม่มีทุกข์แม้เม็ดหินเม็ดทรายที่จะเข้ามาสัมผัสหัวใจเราได้ เพราะฉะนั้นเราจึงเอาธรรมนี้สอนโลก จากบรมสุขสอนโลก สอนด้วยความเมตตาล้วนๆ เราไม่มีทุกข์ ใครจะทำอะไรก็ไม่มีทุกข์ ถึงที่สุดแล้วความทุกข์ดับ ขาดสะบั้นลงไปตั้งแต่ปี ๒๔๙๓ จนกระทั่งป่านนี้ ไม่ปรากฏว่าทุกข์ได้โผล่หน้ามาเลย เพราะทุกข์นี้เป็นผลของกิเลส กิเลสไม่มีทุกข์ก็ไม่มี ดับ เราจะว่าอะไรๆ ก็ตาม มันจึงไม่มีอะไรละ ดุขนาดไหนก็ตาม เช่นอย่างกำลังเทศน์เรายังไม่ลืมนะ กำลังฟัดกันอยู่นี้ จะกัดจะฉีกพวกลูกศิษย์ลูกหา พอดีไอ้ปุ๊กกี้มันวิ่งมานี้จับหางไอ้ปุ๊กกี้ ทีนี้เลยหยุดเทศน์ ฟัดกับไอ้ปุ๊กกี้ จับหางมันดึงมันจะไปมันก็บืน จับหางทีนี้เทศน์เลยลืมก็อย่างงั้นจะให้ว่ายังไง เอาละพอ
(ผมมาจากโรงพยาบาลขอนแก่นครับ) ก็ยังงั้นแล้ว จอบก็หมดเสียมก็หมด ฟังซิ มาขอจอบขอเสียม ให้จอบให้เสียมไปหมด เวลานี้ก็ยังเหลือแต่สันพร้า มันไม่มีอะไรจะให้ก็เอาสันพร้าให้ไปก่อน แล้วขอนแก่นเป็นอะไร(ผมภาณุมาศ เป็นหมอผ่าตัดสมอง) เอ้อ แล้วมันเป็นอะไรที่นี่ มาหาเราเพราะอะไร (คือตอนนี้ที่โรงพยาบาลขาดเครื่องมือเกี่ยวกับการผ่าตัดสมองอยู่) ก็นั้นซิ แล้วเครื่องมือเครื่องหนึ่งเท่าไรล่ะ (มีสองอย่างครับ คือเครื่องเปิดกะโหลกศีรษะ เลื่อยตัดกะโหลก กับเครื่องนำวิถีในการผ่าตัดสมอง รวม ๙ ล้านบาท) เอาละๆ ให้พักไว้เสียก่อน เราเต็มที่แล้ว พักไว้เสียก่อน มีแต่โรงพยาบาลเป็นส่วนมากเข้ามาๆ เพราะฉะนั้นเราถึงกระตุกทางกระทรวงสาธารณสุขบ้าง มันมัวแต่แย่งเก้าอี้กันอยู่นั้นเหรอ ประชาชนตามโรงพยาบาลต่างๆ กำลังจะตายมันรู้ไหมเราว่างั้น เอาเท่านั้นก่อนละนะ ให้พักไว้ก่อน
เราหนักจริงๆ คือเงินรายได้แต่ก่อนเราเทศนาว่าการนี้ เงินได้มาจากการเทศนาว่าการก็ช่วยชาติๆ มานะ ที่เทศน์ช่วยชาติ ออกไปทางช่วยชาติหมด ทีนี้เราหยุดจากการเทศนาว่าการนั้นแล้วเงินไม่มีมา แต่เขามาถวายอย่างที่เห็นนี่ ทีนี้คนมาขอไม่ได้ลดละนะ มากต่อมากวันนี้ ๙ ล้านเห็นไหมล่ะ นั่นซิ แล้วจะเอาอะไรมาจากไหน นี่มันจะตายนะเราน่ะ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz