เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
ธรรมขาดโลกเสียหายมาก
เรื่องยุ่งยุ่งมากแหละเรา ยุ่งตลอด ก่อนจะไปไหนมาไหน พูดนี้ก็ออกทางวิทยุทั่วประเทศไทย พอพูดอย่างนี้แล้วก็ระลึกได้ เมื่อวานซืนหรือวันไหนที่ไปเกษตรสมบูรณ์ เอาของไปส่งโรงพยาบาลเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ทำให้ระลึกที่ว่ามันยุ่งตลอดเวลา พอออกจากนี้ปั๊บก็ไปเลย พอไปถึงโรงพยาบาลมารุมเลย หลวงพ่อมาจากไหน ตีปากเอานะ เบื่อคนจะตายแล้ว เอาของลง เราไม่ลง ที่เหล่านี้สู้รถเราไม่ได้ ปุ๊บปั๊บๆ เขาเอาของลง ไปละนะ พอออกไปนี้ยังอยู่ในบริเวณโรงพยาบาล พวกแม่ค้าเขาขายของ ว่าไปละนะพูดสองสามคำบึ่งออกมานี้ พอดีมาเห็นพวกผลหมากรากไม้เป็นลังๆ เต็มอยู่นั้น ที่เขานิมนต์ลงไม่ลง ว่าสู้รถไม่ได้ พอไปเห็นผลหมากรากไม้ตกตูมเลยเชียว ลงเองตูม ไปซื้อนั้นๆ ซื้อนี้ ออกเป็นลังๆ คัดมาเลย เอาหมดเลย
พอดีตึกพยาบาลมันก็อยู่ใกล้ๆ เขามองเห็นเขาก็ลงมา ไปขนของไปพวกนี้น่ะ ไปทีแรกว่าตีปากเอานะ ทีนี้เอาแบบนี้นะ เขามาถามมาจากไหน ตีปากเอานะ เอาของลงจากรถ จากนั้นก็ว่าเราไม่ลง พอว่างั้นรถเราก็ออก ไปเจอเอาพวกผลหมากรากไม้มีแต่ของดีๆ ผลไม้อย่างดีๆ ทั้งนั้นๆ พวกลำไยกะโหลก แล้วก็ผลไม้หลายอย่างเป็นลังๆ ให้เขาคัดออกมาหมดเลย ขนเข้าโรงพยาบาลหมด เรียกว่าแม่ค้าวันนั้นยิ้ม จนกระทั่งป่านนี้หายยิ้มหรือยังไม่รู้นะ เขาดีใจ อย่างนั้นละปุบปับๆ เอาออกมาหมดเลยกี่ลังๆ ขนออกมาหมดเข้าโรงพยาบาลเลย ไปที่ไหนก็สงสารจะว่าไง
พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เรื่องสงสารนี้มันพิลึกนะ ไปที่ไหนเรื่องความเมตตาสงสารนี้จะแผ่กระจายครอบไปหมดเลย นี่ถอดออกจากหัวใจ พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เป็นยังไงพระพุทธเจ้าองค์เอก มีแต่เอกตาข้างเดียวอย่างพวกเราเหรอ เอกไม่มีใครเสมอนั่นแปลว่าเอก ธรรมพระพุทธเจ้าเอกขนาดนั้นละ ขอให้เข้าถึงใจเถอะน่ะจะเป็นจิตดวงใหม่ขึ้นมาทันทีเลย เราจึงได้สอนแล้วสอนเล่า ยิ่งจวนจะตายเท่าไรแทนที่จะมาเป็นห่วงเป็นใยกับเจ้าของ บอกไม่มีเลย ว่างั้นเถอะน่ะ เม็ดหินเม็ดทรายก็ไม่มีในตัวเอง แต่มันครอบโลกธาตุด้วยความเมตตาสงสาร
ไปที่ไหนๆ ฟังเสียงปากฟังไม่ได้นะ เอะอะตีปากเอานะ เหล่านี้มีแต่ออกจากความเมตตาทั้งนั้น จึงบอกว่าไม่เป็นภัย กิริยาของร่างกายทุกสัดทุกส่วนออกมาจากใจที่บริสุทธิ์ล้วนๆ เต็มไปด้วยเมตตาแล้ว ออกมาจะเป็นกิริยาใดก็ตาม เป็นกิริยาที่เมตตาสงสารทั้งนั้น โฮกฮากปุ๊บปั๊บเหมือนจะกัดจะฉีก อย่างที่ว่าให้พวกเกษตรสมบูรณ์ ปุ๊บปั๊บมาก็ว่า หลวงตามาจากไหน ตีปากเอานะ ขนของลง คึกคักใส่เขา ครั้นไปนั้นขนของในลังมาให้เขา เป็นอย่างนั้นละ ขนไม่ใช่น้อยๆ นะเป็นลังๆ ขนเข้านั้นหมดเลย พวกแม่ค้ายิ้มแต้ม ป่านนี้มันหยุดแล้วยังไม่รู้นะ อย่างนั้นแล้วมันมีแต่บ๊งเบ๊งเฉยๆ ทางในมันไม่เป็น
เลยอยากให้มีธรรมเข้าสู่ใจ ไม่เข้ามากก็ตามขอให้จิตมีความสงบ รากฐานสำคัญของพุทธศาสนาอยู่ที่จิตตภาวนา พวกกิ่งก้านสาขาดอกใบประดับสวยงาม คือการทำบุญให้ทานรักษาศีล เหล่านี้เป็นกิ่งก้านสาขาดอกใบประดับต้น ต้นนั่นคือภาวนา ภาวนาเป็นหลักดีเท่าไรยิ่งกิ่งก้านสาขาดอกใบสวยงามมากนะ การทำบุญให้ทานเราก็เคยทำเป็นนิสัยของเราอยู่แล้ว พอจิตตภาวนาได้เข้าถึงใจแล้ว การทำบุญให้ทานทุกอย่างจะละเอียดลออทุกอย่าง พินิจพิจารณาทุกอย่าง ละเอียดไปตามๆ กันหมด นี่ละเรื่องใจไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ถ้าธรรมเข้าปั๊บตรงไหนจะสวยงามทันที
ยิ่งจวนตายเท่าไรก็ยิ่งเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องทั้งหลาย แทนที่จะมาเป็นห่วงตัวเองไม่มี การเป็นอยู่กับความตายไปน้ำหนักเท่ากัน แต่เวลาเราแยกออกมาเพื่อประโยชน์แก่โลกถ้ายังมีธาตุมีขันธ์อยู่อย่างนี้ ทางนี้ได้ประโยชน์มากกว่า สงเคราะห์โลกได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นความตายไปจึงไม่มีน้ำหนักเท่าความเป็นอยู่ ความเป็นอยู่มีน้ำหนักมากกว่าด้วยเหตุผลอย่างนี้นะ ถ้าปัดอันนี้ออกแล้วเสมอกันหมดเลย อยู่เมื่อไรตายเมื่อไรได้ ก็มันรู้กันอยู่ชัดๆ ประจักษ์ นี่ละธรรมพระพุทธเจ้าไม่ต้องไปถามใคร พอจ้าขึ้นในจิตไม่ต้องถามใครเลย พระพุทธเจ้าตรัสรู้ปึ๋งขึ้นมาเพียงพระองค์เดียวสอนโลกได้ทั้งสามโลกเห็นไหมล่ะ ท่านไปถามใคร ความจริงอยู่กับใจทั้งหมด ใจเป็นนักรู้ รู้จริงเห็นจริงแล้วก็เป็นอย่างนั้นละออกมา
วันหนึ่งๆ ได้อยู่เมื่อไรเห็นไหมล่ะ ไปโน้นไปนี้ไปตลอด มีแต่อันเดียวพาไปไม่ใช่อะไร ซอกแซกซิกแซ็กไปหมด โรงพยาบาลก็เปิดโกดังไว้แล้ว เปิดโล่งไว้เลย ขนของมาเต็มไว้เลย สำหรับโรงพยาบาลจะมาเอาของในโกดัง เปิดไว้เลย ของที่จัดให้โรงพยาบาลแต่ละโรงๆ เสมอกันหมดส่วนธรรมดา ส่วนให้พิเศษก็ให้พิเศษเสมอกัน เท่ากันๆ จัดไว้นี้ เอ้า พวกมาเอาก็มา เราไปเองของเราก็ไป ไปซอกแซกตามโรงพยาบาลต่างๆ เรื่อยมาอยู่อย่างนี้
การเสียสละเราอยากชี้นิ้วเลย จะเอาวัดไหนมาแข่งมา มาแข่งวัดป่าบ้านตาดเรื่องการสละให้ทานนี้ เราบอกตรงๆ เลย เพราะจิตใจเราเปิดโล่ง แบอยู่ตลอดไม่มีกำนี่นะ นี่ละที่ว่ามีอะไรมาไม่ได้เลย มีอะไรมาออกหมดๆ เลย เพราะอำนาจความเมตตาปัดออกหมด มีอะไรค้างอยู่บนฝ่ามือไม่ได้ ความเมตตาจะกวาดออกๆ ความเมตตามีเท่าไรออกหมดเลย บางครั้งติดหนี้เขาก็มี เมตตาเอาจนติดหนี้เขา บางครั้งติดหนี้ มีความจำเป็น ความจำเป็นเป็นอย่างนั้นๆ พอดีเราไม่มีเงิน เอ้าๆ เอามาเลย ติดหนี้ก็ติด ติดเรื่อยนะ นี่ละเศรษฐีบัวฟังซิ ติดหนี้เขาเรื่อย
เขาต้องร่ำลือว่า วัดป่าบ้านตาดเป็นวัดเศรษฐีมหาเศรษฐี เพราะมีคนเคารพนับถือมาก จตุปัจจัยไทยทานไหลเข้ามาๆ เขาก็เห็นแต่เวลาไหลเข้า ไหลออกเขาไม่ค่อยมาเห็น ทีนี้เวลาไหลออก เช่นเช็คใบหนึ่งนี้เป็นแสนๆ เป็นล้าน เป็นล้านๆ ออกตลอดๆ ทีนี้เขาไม่ทราบซิ เขาก็ตั้งชื่อตั้งนามว่าเศรษฐีบัว ทุคตะเข็ญใจบัวเขาไม่ว่า ความจริงเป็นทุคตะเข็ญใจทางด้านวัตถุที่จะสละให้ทาน แต่ความเมตตาเป็นมหาเศรษฐี พูดให้ชัดเจนเลย มันเต็มไปด้วยจิตเมตตาทั้งนั้นละ ทำอะไรเป็นกิริยาของขันธ์ อยู่กับโลกก็ทำไปอย่างนี้ กิริยาของขันธ์โลกยอมรับกันยังไง สมควรที่จะเป็นประโยชน์แก่โลกขนาดไหนก็ทำไปๆ อย่างนั้น นี่เป็นกิริยาของธาตุของขันธ์ที่มีชีวิตอยู่ ส่วนจิตนี้ผ่านเรียบร้อยแล้วอยู่เหนือโลก นั่นละคือความเมตตาที่ออกมาจากจิตที่เหนือโลก กระจายครอบทั่วประเทศไทย
มาเอง ขอให้จิตกับธรรมเข้าถึงกันเถอะ อ่อนนิ่มไม่มีอะไรเกินจิต อ่อนนิ่มไปหมดเลย ถึงกิริยาจะเป็นยังไงก็ตาม แต่จิตนี้อ่อนนิ่มตลอดเวลา จึงว่าอยากให้พี่น้องทั้งหลายได้สนใจทางด้านธรรมะมากๆ ศาสนาเราถูกเหยียบย่ำทำลายจากมูตรจากคูถ ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง ขี้ราคะตัณหา เหล่านี้เป็นมูตรเป็นคูถทั้งนั้นครอบหัวใจ ธรรมอยู่ในหัวใจโผล่หน้าขึ้นไม่ได้เลย ทีนี้อันนี้เข้ามาครองแล้วเป็นยังไง มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ โลกจะกว้างแสนกว้างก็ตามไฟนี้กระจายไปหมดเลย ไม่เหมือนธรรม ถ้าธรรมไปตรงไหนแล้ว เป็นน้ำดับไฟๆ เย็นฉ่ำไปหมด ต่างกันอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นพระท่านอยู่ในป่าในเขา จะว่าท่านเป็นทุคตะเข็ญใจเหรอ นั้นละผู้ทรงอรรถทรงธรรม ผู้ทรงความสุขความเจริญ เราไปหาในสมัยปัจจุบันนี้คือไปเที่ยวหาความสุขจากพระ เราอยากจะพูด พระในวัดในบ้านในเมืองก็มีแต่ไม่มาก ท่านหลบซ่อนทำอยู่เงียบๆ ไม่มีใครทราบ เพราะพวกนั้นมีแต่ลิงแต่ค่างแต่เปรตแต่ผีเต็มวัดเต็มวา ท่านผู้ทรงอรรถทรงธรรมท่านอยู่เงียบๆ ในวัดหนึ่งๆ มี ไม่ได้ประมาททั่วไปนะ พูดนี้ก็ไม่ได้พูดประมาท พูดตามหลักความจริง ผู้ที่ดีมีอยู่ พระผู้ทรงศีลทรงธรรมอยู่เงียบๆ ในวัดในวาในสถานที่เต็มไปด้วยมูตรด้วยคูถ คือความสกปรกแห่งความประพฤติของพระ แต่ผู้ที่ประพฤติดีปฏิบัติดีในจิตใจของท่านมีอยู่ ท่านอยู่เงียบๆ
ทีนี้แยกออกไป ท่านอยู่ในป่าในเขานั้น นั่นละท่านผู้ทรงอรรถทรงธรรม ทรงความสุขความเจริญ จะเย็นอยู่ในนั้น ที่วุ่นกันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง ประกาศกันลั่นโลก เมืองนั้นเมืองนี้ๆ เจริญๆ มันเจริญด้วยฟืนด้วยไฟ มีแต่กดขี่บังคับกันด้วยวิธีการต่างๆ ใครมีอำนาจมากเท่าไรยิ่งเป็นยักษ์ใหญ่ กินบ้านกินเมืองกินไปหมด ทั่วโลกเป็นแบบเดียวกันหมด กิเลสเป็นอย่างนี้ แล้วจะหาความสุขมาจากไหน
ใครที่วิ่งตามกิเลสได้รับความสุขความเจริญ เอามาประกาศสอนโลกว่า กิเลสนี้มีความดีงามเหนือธรรม ไปที่ไหนมีความสุขความเจริญเย็นฉ่ำไปหมดทั่วโลกดินแดน เอาๆ มาแข่ง กับธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ผางขึ้นมาองค์เดียว ทำโลกให้ร่มเย็นขนาดไหน เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหม อย่าว่าแต่มนุษย์เรานี้เลย เย็นไปตามๆ กันหมด นี่ละธรรมเป็นอย่างนี้ ถ้าธรรมมีในใจไปที่ไหนเย็นไปทั้งนั้น ถ้ากิเลสมีในใจไปที่ไหนร้อนไปหมด ร้อนทั้งเขาทั้งเรา กระเทือนไปหมด เขาก็ร้อนเราก็ร้อน เขาก็ไฟเราก็ไฟ เอาไฟมาเผากันมันก็เหลือแต่เถ้าแต่ถ่าน ลมหายใจยังฝอดๆ แต่ร่างกายและจิตใจเป็นเถ้าเป็นถ่านอยู่ในนั้นแหละ ถูกไฟกิเลสตัณหามันเผาเอาๆ
ตัวเองยังโก้ยังสบาย โอ้อวดประดับหน้าร้านเฉยๆ กิริยาท่าทางที่มาแสดงต่อกัน คือการประดับหน้าร้านของกิเลส ดูเอานะ สิ่งที่ไม่ประดับหน้าร้านคือธรรมภายในใจสง่างาม ไปที่ไหนสง่างามไปหมด ท่านผู้ทรงอรรถทรงธรรมจากการประพฤติปฏิบัติของท่าน เช่น พระกรรมฐานอยู่ในป่า เป็นของเล่นเมื่อไร เราอยู่ในป่าเราทราบด้วยกันหมดแล้ว พระองค์ไหนๆ มีภูมิจิตภูมิธรรมเป็นยังไงรู้ถึงกันหมด แต่เป็นวงภายในของท่านในวงกรรมฐาน ท่านไม่ได้พูดออกมาข้างนอก เฉย เงียบๆ แต่วงภายในของท่านรู้กันหมด องค์ไหนมีภูมิจิตภูมิธรรมเป็นยังไงๆ ท่านรู้กันหมด นี่เป็นวงภายในของท่านพวกกรรมฐานด้วยกัน ไม่มีคนอื่นจะทราบได้แหละ แต่วงภายในคือกรรมฐานด้วยกันทราบกันตลอดๆ
จึงกล้าออกมาพูดที่ว่า ท่านผู้ทรงอรรถทรงธรรมท่านอยู่ในป่านะ เวลามาหากันพูดเรื่องอรรถเรื่องธรรมนี้ โถ ของง่ายเมื่อไร แล้วเพิ่มกำลังจิตใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส เพิ่มกำลังจิตใจให้กันให้มีความอุตส่าห์พยายาม มาพบกันนี้มีตั้งแต่ความดีงาม ทำให้จิตใจเบิกบานยิ้มแย้มแจ่มใส กระหยิ่มต่อความพากเพียร นั่นท่านพบกันท่านพบอย่างนั้น พวกเราไปพบกันมีแต่ฟืนแต่ไฟเผากันตลอดไปหมด ไปที่ไหนก็มีแต่ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ โลกกว้างแสนกว้างก็ตามเถอะ กิเลสคือไฟมันเผาทั่วไปหมด ร้อนไปตามๆ กันหมด ถ้าธรรมอยู่ที่ไหนเย็นไปหมด มันต่างกันนะ
นี่เราพูดถึงเรื่องวงกรรมฐาน ที่ท่านผู้ทรงความสุขความเจริญ โดยโลกไม่ค่อยรู้และไม่รู้ คือวงกรรมฐานที่ท่านมุ่งต่ออรรถต่อธรรม นี่ละท่านผู้ทรงอรรถทรงธรรมทรงมรรคทรงผลตลอดถึงนิพพาน ทุกวันนี้มีน้อยเมื่อไร อยู่ในวงกรรมฐานของเรา แต่ท่านอยู่เงียบๆ อย่างนั้น วงภายในของท่านจะรู้กันเอง เฉพาะอย่างยิ่งเราเป็นจุดศูนย์กลางปิดไม่อยู่ รู้ เพราะฉะนั้นจึงนำมาพูดได้ละซิ นี่ละใจเมื่อได้รับการบำรุงรักษา จะมีความสง่างาม มีคุณค่ามีราคา สง่าราศีขึ้นภายในตัวเอง ถ้าไม่มีธรรมในใจแล้วก็เพียงประดับหน้าร้าน แต่งตัวนี้โก้หรู
บางคนโก้จนเลยโก้ เป็นผู้หญิงก็นุ่งซิ่นนุ่งผ้ามาจนไอ้ดำมันไปสอน ไอ้ดำหูตูบ เขาเขียนไว้ในการ์ตูน วันนี้งัดออกมาเสียบ้าง ใครไม่มีวาสนาไม่ได้ยินละ ใครมีวาสนาคอยฟังนะวันนี้ เขาวาดการ์ตูน ผู้หญิงคนหนึ่งผ้าข้างหนึ่งหนีบหมดจนจะเห็นหีมัน หนีบออกไปนี้เวิบวาบๆ ไอ้ตูบมันคงรำคาญ เดินไปนี้วับๆ แวมๆ ไอ้ตูบมันมองเห็นมันคงจะอะไรไม่รู้ พูดยากๆ นะไปแปลเอา ใครรู้วิชาทางนี้รู้มาไปแปลเอานะ หมาตัวนั้นไอ้ตูบนั่นน่ะ มันก็มางับมาคาบผ้า คือทางนี้ตัดแล้วผ่าแล้ว เห็นหีก็เห็นแล้ว ทางนี้ยังไม่เห็นมันก็มาคาบ ผู้หญิงคนนั้นก็ตบหัวมัน
มาคาบทำไม ผู้หญิงคนนั้นนะ หมาตัวนั้นมาคาบตรงที่ยังไม่ผ่ายังไม่หนีบออก มันไปคาบตรงนั้น แล้วก็ตบหัวมัน มาคาบทำไม ตรงนี้ยังไม่ได้ผ่ายังไม่ได้หนีบ คือให้ไปหนีบตรงนี้เสียจะเห็นหมดทั้งหี เข้าใจหรือเปล่า เปิดให้ชัดเจน นี่ไอ้ดำมันไปสอน พวกเรามันประดับหน้าร้านอย่างนี้ ประดับจนไอ้หูตูบรำคาญ พวกนี้เข้าใจหรือยังพวกไอ้หูตูบรำคาญ ในวัดเรานี้ไอ้ตูบมีอยู่หลายตัว เดี๋ยวมันไล่กัดเอานะ มันไม่คาบผ้ามันจะคาบหีคน มันหน้าด้านเกินไป ไม่รู้เนื้อรู้ตัว
นี่ละเรื่องกิเลสตัณหามันจะไม่รู้จักอาย มีแต่ประดับประดาตกแต่งอวดกัน อวดตั้งแต่เรื่องสกปรกโสมม ความดีงามศีลธรรมไม่อวดกัน การแต่งเนื้อแต่งตัวเป็นความสวยงาม มองเห็นกันแล้วยิ้มแย่มแจ่มใส ชุ่มใจ แต่แต่งมาด้วยแบบนี้มันร้อนเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้กัน ให้พากันจำเอา จนขนาดไอ้ตูบไปสอนมันหมดแล้วนะค่าพวกเรานี่ พวกในศาลาไอ้ตูบไหนไปสอนบ้างหรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้สอนไปเรียกอยู่นั้นมีอยู่สองสามตูบ ถ้ายังไม่ได้สอนให้เขาสอนเสียบ้าง แต่เขาไม่ได้นุ่งผ้านะไอ้ตูบ เขาสอนคนนุ่งผ้าขาดๆ ได้ แต่เขาเองเขาไม่ได้นุ่งผ้าอะไรไอ้ตูบ มันน่าขันไหมล่ะ ไอ้ตูบมันไม่ได้นุ่งผ้า มันไปคาบคนที่นุ่งผ้า พิจารณาซิจำให้ดี
เรื่องศีลเรื่องธรรมมีอยู่กับตัว ให้มันสวยงามซิ การแต่งเนื้อแต่งตัว มนุษย์เป็นผู้มีศีลธรรมต้องมีศีลธรรมประดับด้วย มองเห็นกันชื่นตาชื่นใจ อย่าเอากิเลสตัณหามาเผากันไม่ดี ไม่มีอะไรจะสวยงามยิ่งกว่าธรรม ออกมาสู่สังคม ธรรมออกมาแล้วจะสวยงาม การแต่งเนื้อแต่งตัว การประพฤติเนื้อประพฤติตัวสวยงาม สังคมยอมรับกันทั้งนั้น แต่กิเลสตัณหาตั้งแต่ไอ้ตูบมันก็ไม่ยอมรับ มันยังไปกัดอีก ถ้าไอ้ตูบยอมรับเราก็ยัง เอ้อ คนไม่พอใจก็ตามเถอะแต่ไอ้ตูบยังพอใจอยู่ นี่ไอ้ตูบมันก็ไม่พอใจเข้าใจเหรอ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านั้น
(ผู้กำกับอ่านหนังสือของสถานีวิทยุชุมชน อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี กราบเรียนเรื่อง ขอเข้าร่วมเป็นเครือข่ายเสียงธรรมเพื่อประชาชนของหลวงตา เพื่อเผยแพร่พุทธศาสนา ด้วยระบบ FM คลื่นความถี่ 93 MHz) แล้วแต่พิจารณากันละนะเข้าร่วมกันอย่างไร แต่เราอยากจะขอบิณฑบาต เพราะเราหนักมาก ตั้งวิทยุตรงไหนๆ หาเงินได้เท่านั้นๆ ขาดเงินเท่านั้นเขามาเอากับเราหมด เราเลยจะตาย ฐานกลางของวิทยุเลยจะตาย เพราะฉะนั้นจึงให้พากันหาเองเถอะนะ ถ้าหายังไม่พออย่าด่วนตั้ง หาพอแล้วค่อยตั้งนะ เอาอย่างนั้นดีกว่า ที่ไหนมาก็ที่นั่นก็ตั้งที่นี่ก็ตั้ง หาเงินได้เท่านั้นๆ ขาดเท่านั้นๆ แล้วมาขอหลวงตาบัวหมดเลย เลยจะตายหลวงตาบัว ต้องได้ช่วยกัน
ก็เราทำนี่เราทำเพื่อประโยชน์แก่โลกทั้งนั้น เอาพูดมาตั้งแต่ต้นที่เรานำพี่น้องทั้งหลาย แต่ก่อนก็อยู่ในป่าในเขาเงียบๆ อย่างที่ว่า การเทศนาว่าการบนศาลานี้ เป็นอันดับหนึ่ง แกงหม้อเล็กแกงหม้อจิ๋ว ธรรมะมีแต่ยอดธรรมๆ เด็ดสอนพระ อัดเทปเอาไว้ เรียกว่ายอดธรรมทั้งนั้นที่เทศน์สอนพระ ทางภาคปฏิบัติล้วนๆ ไม่มีใครเข้ามาเจือปน เทศน์ได้เต็มเหนี่ยวเลย เรียกว่ายอดธรรมๆ ออก นี้เก็บไว้เป็นพื้นฐาน แล้ววัดป่าต่างๆ ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าภาคใดติดต่อขอมาไม่ขาดวรรคขาดตอน ทางนี้ส่งให้ๆ นี้เป็นพื้นฐาน
ต่อจากนั้นก็ออกมาช่วยชาติบ้านเมืองจนกระทั่งทุกวันนี้ ธรรมะยิ่งกว้างขวางออกไปมากมาย เป็นธรรมะที่แน่ใจๆ ทั้งนั้น การแสดงธรรมเราไม่ได้แสดงด้วยความสงสัย ลูบๆคลำๆ เราพูดจริงๆ ถอดออกมาจากหัวใจสอนเลย ไม่ว่าธรรมขั้นใดเราแน่ใจทุกขั้นๆ นี่ก็ทำประโยชน์ให้โลกเต็มกำลังความสามารถ ถ้าพูดถึงว่าการช่วยโลกเราก็ช่วยด้วยความสมบูรณ์พูนผล ด้วยความอบอุ่นภายในจิตใจ ไม่มีแง่ที่จะให้เกิดความสงสัย ว่ามีมลทินมัวหมองติดการดำเนินงานของเราเพื่อพี่น้องทั้งหลายหรือเพื่อช่วยชาติ เราไม่มี ไม่ว่าสมบัติเงินทอง ถ้าว่าทองคำก็ร้อยเปอร์เซ็นต์เข้าหมดเลย ดอลลาร์เข้าทีแรก ๑๐ ล้าน ๘ แสนก่อน จากนั้นเราก็แยกเงินนี้ออกมา เป็นความบริสุทธิ์ด้วยกันหมด
ส่วนเงินสดนี้ออกกระจายทั่วประเทศไทย ส่วนที่เราเอาไปซื้อทองคำนั้นเพียงสองพันล้านกว่าบาท เงินสดแบ่งเอาไปซื้อทองคำเพียงสองพันล้านกว่าบาทเข้าคลังหลวง นอกนั้นกระจายออกทั่วโลกเลย เราทำมาด้วยความบริสุทธิ์ แบมือๆ เราก็อบอุ่นในตัวของเราเองว่าพาพี่น้องทั้งหลายดำเนินด้วยความราบรื่นดีงาม นี่ทางด้านวัตถุ ทีนี้ด้านธรรมะเราก็ถอดออกมาจากหัวใจของเราสอน เราจึงไม่มีอะไรสงสัย จนกระทั่งปัจจุบันนี้วิทยุออกกระจายทั่วประเทศไทย มีแต่ธรรมล้วนๆ ที่พระพุทธเจ้าพาสอนโลกมานานตั้งกัปตั้งกัลป์
หากจะมีอุปสรรคก็มีอยู่เวลานี้ในเมืองไทยของเรา มันจะเป็นเพราะเหตุผลกลไกอะไรท่านทั้งหลายพิจารณาเอง ธรรมนี้มีแต่ความราบรื่นดีงามต่อโลก ไม่เคยเป็นข้าศึก ไม่เคยเป็นผู้ต้องหา แต่ระยะนี้รู้สึกจะมีอะไรแฝงเข้ามาให้เป็นข้าศึกให้เป็นผู้ต้องหาแล้วสำหรับธรรม อาจถูกจำจองในแง่ใดแง่หนึ่งก็ได้ ให้พากันพิจารณาสำหรับเราเป็นลูกชาวพุทธด้วยกัน ธรรมนี้ถ้าขาดจากโลกไปเมื่อใดโลกนี้จะทรุดลงๆ จมได้นะ ธรรมขาดโลก อย่างอื่นขาดไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าธรรมขาดโลกเสียหายมากทีเดียว ให้พากันพิจารณา เวลานี้กำลังฟื้นฟูกัน ตั้งสถานีวิทยุที่นั่นที่นี่ เราพอใจ เป็นแต่เพียงว่าเราขอบิณฑบาตอย่างเดียว อย่ามาควักกระเป๋าเรามากเกินไปเราจะตาย ก็มีเท่านั้นละ
เราช่วยเต็มเหนี่ยวแล้วสำหรับโลก เราไม่มีอะไรที่ต้องติ เราเองก็ออกด้วยความภูมิใจ ความบริสุทธิ์สุดส่วนอยู่นี้หมดเลย ส่วนความมัวหมองเราไม่เคยมีในใจ เพราะฉะนั้นจึงว่าเขียนได้เลยประวัติศาสตร์ถ้าจะเขียนว่าเบอร์หนึ่งเลยที่ว่าบริสุทธิ์ เราไม่มีมลทินมัวหมองแม้นิดหนึ่ง ไม่ว่าทางด้านวัตถุ ธรรมะ สอนโลกเราสอนด้วยความเมตตาล้วนๆ ไม่หวังเอาสิ่งตอบแทนใดๆ เอาห้าเอาสิบไม่มี เพราะฉะนั้นวิทยุนี้ควรจะออกโลกตามเยี่ยงอย่างของพระพุทธเจ้าที่ประทานไว้แล้วเรื่อยมา ด้วยความราบรื่นดีงาม ไม่ควรที่จะมีสิ่งใดเข้ามากีดขวางทำลาย
ถ้าอันใดจะไปกระทบกระเทือนกับสมบัติของชาติด้วยกัน ชาติกับศาสนาอยู่ด้วยกัน เช่นอย่างวิทยุนี้อาจจะไปเกี่ยวข้องกับทางฐานการบงการบินบ้าง ของทางการบ้านเมือง เหล่านี้ก็ควรปรึกษาหารือกันได้ ไม่ควรที่จะมากีดกันทำลายแบบเผ็ดๆ ร้อนๆ เฉียบๆ ขาดๆ แบบป่าๆ เถื่อนๆ เพราะโลกกับธรรมอยู่ด้วยกัน ถ้าอะไรมันขัดข้อง ทางบ้านเมืองขัดข้องอย่างไร ก็ปรึกษากันกับทางฝ่ายวิทยุฝ่ายธรรม แก้ไขดัดแปลงเพื่อความเจริญชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา นี้เป็นความชอบธรรม วันนี้เผดียงเพียงเท่านี้ก่อน
(คุณ ณ. หนูแก้ว มากราบถวายปัจจัยหลวงตาเพื่อบูชาธรรม) นี่ ณ. หนูแก้วออกหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย เป็นหูเป็นตาเป็นหัวใจของพี่น้องชาวไทย ซึ่งเป็นชาวพุทธของเรา นี่ละผู้ออกเสมอ พอใจนะ
ทองคำประเภทน้ำไหลซึมถึงวันที่ ๒๖ สิงหาคมนี้ ได้ ๑๖๒ กิโลครึ่ง ๑๓ แท่ง เหลือทองคำยังไม่ได้หลอมอีก ๔๖ บาท ๔๓ สตางค์ รวมทองคำที่หลอมแล้วและยังไม่ได้หลอมเป็นจำนวนทองคำ ๑๖๓ กิโล ๑๓ บาท ๕๔ สตางค์ เอาสาธุพร้อมกัน นี่เป็นประเภทน้ำไหลซึม ส่วนที่เราเอาเข้าคลังหลวง ๑๑ ตันกับ ๓๗ กิโลครึ่งนั้นเรียบร้อยแล้ว อันนี้เป็นประเภทหนึ่งต่างหาก คือประเภทน้ำไหลซึม ถ้าหากว่าไม่มีอันนี้ก็รู้สึกมันไม่สบายใจเรา ในฐานะที่เป็นผู้นำก็อย่างนั้นละซิ จึงต้องออดต้องอ้อนบิณฑบาตขอพี่น้องทั้งหลายมาได้ ๑๖๓ กิโลแล้วเวลานี้ ก็ไม่นานนัก แล้วจะได้ไปเรื่อยๆ เราก็พอใจที่ได้จูงพี่น้องทั้งหลายทุกวิถีทางที่จะอุ้มชาติบ้านเมืองของเราขึ้นได้ในแง่ใด เราพยายามๆ ตลอดมา
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |