เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
ศาสนาไม่ได้เป็นภัย
ผู้กำกับ จากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย คอลัมน์วิจารณธรรม วันจันทร์เช้านี้ครับ หัวข้อเรื่องว่า "คลื่นเสียงธรรมกวนวิทยุการบิน??
ได้ยินได้ฟังคนของรัฐบาลใช้สื่อของรัฐบาล (ช่อง ๑๑) ออกมาแถลงข่าวในเชิงขู่เข็ญประชาชนอยู่บ่อยครั้งว่า จะเอาจริงกับวิทยุชุมชนทุกสถานีที่ส่งสัญญาณรบกวนคลื่นวิทยุการบิน แล้วก็เป็นจริงดังคำขู่ เพราะมีหลายสถานีด้วยกันที่ถูกคนของรัฐบาลบุกเข้าจับกุม ยึดอุปกรณ์เครื่องส่ง ห้ามออกอากาศอีกโดยเด็ดขาด
สถานีที่ถูกปิดก็ล้วนแต่จวกรัฐบาลทั้งนั้น
เมื่อวันก่อน(วันเขียนต้นฉบับ) ได้ยินเสียงของ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" เทศนาว่าการออกอากาศทางสถานีวิทยุชุมชน คลื่นความถี่ FM 103.25 Mhz ในรายการ "เสียงธรรมเพื่อประชาชน" ว่า รัฐบาลนี้กำลังสอดแทรกทำลายจิตใจของประชาชน อย่างวิทยุเวลานี้ก็หาอุบายวิธีกีดกันท่านั้นท่านี้ วิทยุนี้ก็เป็นเสียงธรรม ธรรมนี้สั่งสอนโลกมาตั้งกัปตั้งกัลป์แล้ว ไม่เคยมีผู้ที่มากีดกันทำลายธรร อย่างที่ว่าวิทยุนี้ก็เสียงธรรม เสียงใครก็เสียงเรานั่นแหละที่เทศน์อยู่เวลานี้ แล้วตัวแสบๆ นี้มาเหยียบย่ำทำลายศาสนา ขี้รดหัวพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ขี้รดหัวประชาชนทำไม เอ้า ใครจะเอาคอเราไปตัด ตัดเลย เราไม่เคยเสียดายคอยิ่งกว่าธรรม ธรรมนี้เรากราบสุดยอด หัวใจขาด ขาดไปกับธรรม ให้พากันพิจารณาวงราชการเรา โฮ้ เลอะเทอะ ยิ่งลุกลามเข้ามาทำลายพุทธศาสนา ใครจะอยู่เป็นสุขได้
ครับ....สดับธรรมได้ว่า เวลานี้หลวงตาท่านเข้าใจว่าคนของรัฐบาลข่มขี่รังแก และกำลังพยายามที่จะเอาผิดกับวิทยุที่ถ่ายทอดพระธรรมเทศนาออกไปทั่วประเทศ ฟังแล้วก็ได้แต่สลดหดหู่ใจ กับการที่หลวงตาท่านบอกว่า ยอมถูกตัดคอเสียดีกว่าที่จะยอมให้คนของรัฐบาลปิดวิทยุเสียงธรรม
จะยอมให้หลวงตาท่านถูกตัดคอก่อนงั้นหรือ?
คำอ้างของคนรัฐบาลที่ว่า คลื่นวิทยุชุมชนรบกวนคลื่นวิทยุการบิน ซึ่งอันที่จริงนั้นคลื่นวิทยุการบินกับคลื่นวิทยุชุมชนมันคนละคลื่นกัน แล้วมันจะไปรบกันกัดกันดังที่อ้างได้อย่างไร
"ณ.หนูแก้ว" เคยมีประสบการณ์ในการใช้วิทยุสื่อสารมาพอสมควรขณะทำหน้าที่หนึ่งเมื่อหลายปีก่อน เคยถูกปล่อยลงในพื้นที่ป่าดงติดต่อโลกภายนอกไม่ได้ ต้องตัดลำไผ่ขนาดยาวมาทำสายนำสัญญาณคลื่น ซิงเกิ้ล ไซด์แบนด์ ซึ่งติดต่อได้ไกลนับพันๆ กิโลเมตร
ดังนั้นจึงพอจะรู้แบบงูๆ ปลาๆ อยู่บ้างว่า อันวิทยุการบินเพื่อควบคุมการจราจรทางอากาศนั้น เขาใช้คลื่นความถี่ที่ 118.1-137.MHz ซึ่งเป็นย่านความถี่สากลที่ "สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ" หรือ ITU กำหนดให้ทุกประเทศทั่วโลกใช้ช่วงคลื่นเดียวกันทั้งหมด ส่วนวิทยุกระจายเสียงที่กำหนดให้ใช้ในประเทศไทยนั้นเป็นคลื่น FM ความถี่ระหว่าง 87.5-108.0 Mhz จะกระทบบ้างก็เพียงการสั่นของคลื่นในช่วงวินาทีสั้นๆ เท่านั้น
การกำหนดคลื่นความถี่ของแต่ละช่วงคลื่นและแต่ละชนิด มันไม่ใช่อยู่ที่ความพอใจของคนในรัฐบาลนี้ดอก แต่มันอยู่ที่ข้อกำหนดของสากล ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกๆ ประเทศทั่วโลก ถ้าคลื่นความถี่ของสถานีวิทยุชุมชนสามารถรบกวนคลื่นความถี่ของวิทยุการบินได้ บรรดาประเทศมหาอำนาจทั้งหลายก็คงไม่ต้องผลิตอาวุธสงครามใดๆ ออกมารบกันอีกแล้ว เพียงใช้คลื่นวิทยุชุมชนเข้ารบกวนขณะบินขึ้นลงเท่านี้ก็เจ๊งแล้ว
มีนักวิทยุท่านหนึ่งให้ข้อสังเกตว่า ข้ออ้างคนของรัฐบาลดังกล่าวนั้นมีเจ้าทุกข์หรือไม่ มีชื่อนักบินหรือไม่ เหตุเกิดในขณะบินอยู่ท้องที่ใด ใช้วิทยุการบินช่วงความถี่เท่าไร ใช้คลื่น FM VHF/FM AM. MW. SW.หรือใช้ช่วงความถี่เท่าไรในการติดต่อ?
ถ้าไม่มีตัวตนจริง ไม่มีนักบินที่ประสบเหตุจริง ก็เท่ากับเป็นการอ้างเอาโจทก์ปลอมๆ ขึ้นมา เพราะไม่มีการพิสูจน์ได้ว่าปัญหานี้ได้เกิดขึ้นจริง เพียงแต่อ้างเพื่อต้องการเอาผิดกับคนที่ไม่รู้ อยากจะเอาผิดกับองค์หลวงตาที่มีสถานีวิทยุในเครือข่ายกว่า ๓๐ สถานีทั่วประเทศ
เทวดายังฟังธรรมได้ แต่พวกเปรตอสุรกายมันกลัวเสียงธรรม
ณ.หนูแก้ว
หลวงตา ที่เขาชี้แจงก็เป็นธรรมแล้ว คือเราสอนโลกก็เป็นธรรมที่เป็นคุณมหาคุณต่อโลก ไม่มีอะไรเป็นภัยต่อธรรมที่นำมาแสดงให้พี่น้องชาวไทยได้ยินได้ฟังทั่วหน้ากัน เป็นธรรมของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ที่เลิศเลอมาตั้งกัปตั้งกัลป์แล้ว แต่ที่มีอุบายคัดค้านต้านทานโดยหาเหตุหาผลอย่างแท้จริงไม่ได้นี้ เป็นภัยอย่างร้ายแรงของประชาชน ของธรรมทั้งหลาย เราพูดตรงๆ นี่ละภัยอย่างร้ายแรงที่กำลังหาอุบายวิธีกีดกัน คือภัยอย่างร้ายแรงนะ ไม่ใช่ธรรมเป็นภัยดังที่ถูกกีดกันอยู่เวลานี้ ความกีดกัน ผู้กีดกัน อุบายวิธีการกีดกันนี้แลเป็นมหาภัย ไม่ใช่อะไรเป็นมหาภัย
ศาสนานี้เคยให้ความร่มเย็นแก่โลกมาไม่ใช่แต่เพียงมนุษย์ เทวดาอินทร์พรหมทั้งหลายในสามแดนโลกธาตุนี้ ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขเบาบางทางด้านทุกข์ บรรเทาทางด้านทุกข์ได้ ก็เพราะธรรมทั้งหลาย ไม่เคยเห็นธรรมเหล่านี้ไปเหยียบย่ำทำลายจิตใจของโลก หรือความทุกข์ของโลก ซ้ำเติมเข้าไป หนักเข้าไปอย่างนั้นไม่เคยมี ก็มีแต่บรรเทาๆ และกำจัดจนกระทั่งทุกข์ดับไป ตามกำลังของผู้ที่จะปฏิบัติตนแก้ไขตนออกจากทุกข์ได้
หลวงตาที่มาเทศน์สอนโลกนี้เทศน์ด้วยความเป็นธรรม เราบวชมาในวงพุทธศาสนา มีศีลเป็นรั้วกั้นความประพฤติ กิริยาแสดงออกที่จะเป็นภัยต่อตน ธรรมเป็นทางเดินเพื่อความสงบร่มเย็น เราก็ดำเนินมาโดยตลอด การปฏิบัติธรรมเราก็ปฏิบัติเต็มกำลังความสามารถของเรา ที่ปฏิบัติเหล่านี้ก็เอาแบบฉบับของพระพุทธเจ้าที่ปฏิบัติมาเพื่อกำจัดกิเลสตัวสร้างทุกข์ทั้งหลาย ให้สิ้นลงไปจากหัวใจตนเองดังจากพระทัยพระพุทธเจ้า เราก็ดำเนินมาแบบเดียวกัน ผลที่รู้ก็รู้ขึ้นมาจริงๆ ตามธรรมที่พระองค์สอนไว้ รู้ยังไงๆ ธรรมดาธรรมมีมากมีน้อยเป็นความนิ่มนวล เป็นความอ่อนโยน เข้ากับสัตว์ได้ทุกประเภท
ธรรมเมื่อเข้าถึงใจแล้ว มันจะแข็งแกร่งขนาดไหนเป็นยักษ์เป็นผี ก็อ่อนลงได้ๆ เมื่อธรรมเข้าถึงใจ เราก็นำธรรมนั้นมาปฏิบัติ เข้าถึงใจโดยลำดับลำดา จนกระทั่งสิ่งที่เลวร้ายเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้อยู่ที่หัวใจมาตั้งกัปตั้งกัลป์ในหัวใจดวงนี้ ได้ขาดสะบั้นลงไปด้วยอำนาจแห่งธรรมเป็นเครื่องกำจัดปัดเป่ากองทุกข์ด้วยฟืนไฟทั้งหลายเหล่านี้ แล้วนำธรรมเหล่านี้มาสอนโลก ก็เป็นธรรมอันเดียวกันกับพระพุทธเจ้า ไม่ปรากฏว่าเป็นภัยต่อผู้หนึ่งผู้ใดหรือสามแดนโลกธาตุ ไม่เคยปรากฏว่าธรรมนี้เป็นข้าศึกต่อผู้หนึ่งผู้ใดเลย แต่ทำไมมาสมัยปัจจุบัน ในเมืองไทยเรานี้เป็นเมืองพุทธ ถึงมาแสดงเรื่องพิษเรื่องภัยขึ้นมาในวงศาสนา เลยกลายเป็นว่าศาสนาเป็นโจรเป็นมารเป็นผู้ต้องหาไปแล้ว ต้องถูกกีดถูกกันถูกบีบบังคับท่านั้นท่านี้ไปทุกแบบทุกฉบับแล้วเวลานี้
พุทธศาสนาในเมืองไทยเรา เมืองไทยเป็นจุดศูนย์กลาง ผู้รักษาพุทธศาสนาคือใคร ก็ไม่พ้นจากรัฐบาล แล้วรัฐบาลมีอุบายอะไรที่จะมาส่งเสริมธรรมให้ถูกต้องดีงาม ให้สูงส่งขึ้นไปเป็นลำดับ เพื่อเป็นที่น่าอนุโมทนาของประชาชนชาวพุทธทั้งประเทศที่เขาหย่อนบัตรให้รัฐบาล คนทั้งประเทศนะหย่อนบัตรให้เป็นรัฐบาลขึ้นมาได้ รัฐบาลนี้จึงเป็นรัฐบาลของประชาชน แล้วรัฐบาลนี้ก็เป็นพุทธมามกะลูกศิษย์ตถาคตทั้งนั้น เราก็ไม่เคยคิดเคยอ่านเลยว่า รัฐบาลนี้จะมีแง่ใดๆ เข้ามาเป็นภัยต่อพุทธศาสนาของเรา แล้วก็เริ่มปรากฏขึ้นมา คือทางวิทยุนี่สำคัญ กีดกันแบบนั้นกีดกันแบบนี้ ได้ยินมาโดยลำดับ มันเป็นยังไงรัฐบาลของเรา
รัฐบาลก็ว่าเป็นหัวใจของประชาชน ทำไมจึงเป็นข้าศึกศัตรูหรือเป็นเพชฌฆาตของประชาชนในแง่ต่างๆ โดยลำดับลำดามา การแสดงทั้งนี้เราไม่ได้แสดงเพื่อยกทัพยกพวกยกคนนั้นคนนี้มาตีกัน เราแสดงโดยความเป็นธรรม ผิดถูกชั่วดีอะไรก็นำอันนั้นมาแสดง ดังที่เทศนาว่าการให้พี่น้องทั่วประเทศแหละฟัง เราก็แสดงตามเหตุตามผลตามหลักความจริง ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก จะพูดอย่างอื่นไปไม่ได้ไม่เรียกว่าธรรม ธรรมต้องตรงไปตรงมา นี่เราก็นำมาปฏิบัติ ที่ทำเหล่านี้เป็นความเสียหายแก่ผู้ใด เฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทยเรา จึงต้องถูกกีดกันท่านั้นท่านี้
ถ้าว่าเป็นภัยต่อทางอากาศเขาก็ชี้แจงให้ทราบแล้วทางการบงการบิน ทั้งนี้ถ้าต่างคนต่างคิดจะทะนุถนอมบำรุงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของตนแล้ว เป็นเรื่องที่จะพูดกันได้ตกลงกันได้ระหว่างการบินกับธรรม ธรรมกับการบินเป็นยังไง การบินเป็นลูกศิษย์ของใคร ส่วนมากมีแต่ลูกศิษย์ของตถาคต เป็นพุทธมามกะ เป็นลูกชาวพุทธทั้งนั้น แล้วกับธรรมซึ่งเป็นพ่อเป็นแม่อันใหญ่หลวงนี้ กับพวกการบินซึ่งเป็นลูกเต้าหลานเหลนนี้ ควรจะปรึกษาหารือกันได้ในทางที่ถูกที่ดีที่จะส่งเสริมธรรมให้เจริญรุ่งเรือง แล้วก้าวเดินต่อไปด้วยความสงบร่มเย็นต่อโลก ก็ควรจะพูดกันได้ ไม่ควรจะมีแง่ต่างๆ มาบีบบังคับท่านั้นท่านี้อันเป็นแง่ของมหาภัยทำลายศาสนา พร้อมกันกับการทำลายหัวใจของคนทั้งประเทศซึ่งเป็นลูกแห่งชาวพุทธด้วยกัน จึงไม่สมควร ขอให้พิจารณานะ
รัฐบาลนี้ก็ตั้งมานานๆ ก็ไม่เคยปรากฏว่ามาเป็นเสี้ยนเป็นหนามต่อกันระหว่างธรรมคือศาสนากับรัฐบาล ก็ไม่เคยมี มาคราวนี้ปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ เราพูดนี้เราพูดด้วยความเป็นธรรม ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก ธรรมสอนโลกด้วยความถูกต้องแม่นยำตลอดไป มีแง่ใดที่จะมาเป็นภัยต่อส่วนรวมคือธรรม ซึ่งเป็นส่วนรวมของจิตใจทั่วโลกว่างั้นเถอะ เราไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เราทะนุถนอมตลอดเวลา ควรที่จะแก้ไขดัดแปลงตัวเอง
ผู้ที่ออกอุบายวิธีการต่างๆ มานั้นเป็นคลังกิเลส เป็นคนมีกิเลส ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมที่บริสุทธิ์ผุดผ่องหาที่ต้องติไม่ได้ แล้วไปเป็นภัยต่อผู้ใด จึงต้องมากีดกันหวงห้ามท่านั้นท่านี้ ดีไม่ดีจะริบหรือจะยึดไปอะไรต่างๆ ยิ่งหยาบโลนไปโดยลำดับลำดามันฟังไม่ได้นะ หูธรรม สายตาของธรรมฟังไม่ได้ มันเป็นเรื่องคลังกิเลส คลังมหาภัยต่อธรรมทั้งหลาย พี่น้องทั้งหลายซึ่งเป็นชาวพุทธเรียกว่าเป็นฝ่ายธรรม ถูกกระทบกระเทือนไปหมดทั่วประเทศเขตแดน จึงควรพิจารณารัฐบาลเรา
คำว่ารัฐบาลๆ นี้ ก็ธรรมอยู่เหนือรัฐบาล การพูดเวลานี้ก็เอาธรรมมาสอน จึงสอนได้ทั่วโลกดินแดน ไม่ว่าแต่รัฐบาลไทยเรา เหนือนี้ก็สอนได้ธรรม เพราะเป็นธรรมสอนโลก ไม่ได้เป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ไม่ได้เป็นข้าศึกศัตรูมาต่อต้านใครต่อใคร พูดเป็นหลักธรรมเป็นความจริงล้วนๆ นี่เรียกว่าธรรมสอนโลก เวลานี้รัฐบาลเราถูกตำหนิติเตียนมากต่อมาก เราก็เคยเตือนรัฐบาลเสมอ เฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องศาสนานี้ละ เรื่องกินเรื่องกลืนเรื่องรีดเรื่องไถนี้ก็เคยพูดมาแล้ว ประชาชนเขาไม่พอใจเลย รัฐบาลชุดนี้รู้สึกว่าเป็นรัฐบาลอะไรแปลกๆ ถ้าภาษาของโลกเขาจะพูดว่า รัฐบาลแหวกแนว รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลแหวกแนว ไปทำลายสิ่งที่ควรส่งเสริมให้ดีงามขึ้น คือไปทำลายสิ่งที่ไม่ควรทำลาย ไปส่งเสริมสิ่งที่ไม่ควรส่งเสริม เป็นรัฐบาลแหวกแนว ขอให้รัฐบาลเราพิจารณาให้ดี นี้เป็นธรรมสอนโลก เราไม่เป็นภัยต่อผู้ใด เป็นความเห็นถูกต้องของประชาชนแล้วที่เขาตำหนิรัฐบาล
เฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องศาสนา เป็นหัวใจของชาติไทยเรา เกือบว่าทั้งชาติเลยทีเดียว ไม่ควรจะมาแตะต้องทำลาย เพราะไม่มีความผิดพลาดประการใดเลย ศาสนาที่พี่น้องชาวไทยเรายึดถือและปฏิบัติกันมา ก็ร่มเย็นกันมาโดยลำดับลำดา ไม่ควรที่จะมาทำลาย ให้ทำลายตัวเสนียดจัญไรที่กำลังก่อกวนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อยู่นี้มันอยู่จุดไหน ให้ทำลายจุดนี้ดีกว่า อันนี้เป็นภัย ศาสนาไม่ได้เป็นภัย ควรจะนำไปพิจารณานะ วันนี้ขอฝากธรรมะไว้กับบรรดาพี่น้องทั้งหลายนับแต่วงรัฐบาลลงมา ในฐานะธรรมเป็นธรรมสอนโลกโดยลำดับมา เอาละ เพียงเท่านี้ก่อน มีอะไรอีกล่ะ
ผู้กำกับ มีจดหมายจากพระกราบเรียนมาถามเรื่องไม้กฤษณาดังนี้ครับ
ด้วยมีคณะศรัทธาญาติโยมได้นำไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้หอมและเป็นไม้เศรษฐกิจมาถวายให้กับทางวัดจำนวน ๒,๐๐๐ ต้น เพื่อให้ปลูกรักษาสภาพป่ารอบวัด แต่ทั้งนี้ไม้กฤษณาจัดเป็นไม้เศรษฐกิจประเภทหนึ่ง กล่าวคือเมื่อไม้โตประมาณ ๔-๕ ปี ก็สามารถที่จะเจาะรูลำต้นไม้กฤษณา เพื่อเอาน้ำมันจากไม้กฤษณาไปทำน้ำมันหอม เรียกน้ำมันกฤษณา ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง
เนื่องจากคณะศรัทธาญาติโยมที่นำไม้กฤษณามาถวายนั้น ได้มองเห็นการณ์ไกลว่า นอกจากจะเป็นไม้ที่ให้ร่มเงารักษาสภาพป่าและมีกลิ่นหอมแล้ว ยังสามารถทำรายได้ให้กับทางวัดทุกปี เพื่อทางวัดจะได้นำรายได้ส่วนนี้ไปบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะสงฆ์ และเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในวัด เพราะไม้กฤษณานี้ยิ่งโตขึ้นก็จะยิ่งให้น้ำมันหอมกฤษณามาก และสามารถให้น้ำมันหอมไปได้เป็นสิบยี่สิบปี โดยที่ทางวัดไม่จำเป็นต้องตัดต้นขาย ซึ่งต่างจากต้นสักทอง หรือไม้เศรษฐกิจประเภทอื่นๆ ซึ่งส่วนมากปลูกไว้เพื่อตัดต้นขาย
หลวงตา แล้วไม้ในวัดป่าบ้านตาดเราล่ะ จะไม่ตัดต้นขายหรือ ถ้าตัดต้นขายก็ตัดคอพระขายอีกด้วย ถ้ามีอะไรมาแฝงอย่างนี้เราไม่อยากเล่นด้วยนะ การซื้อการขายเป็นการกระทบกระเทือนระหว่างโลกกับธรรม ศาสนาไม่กระเทือนใครนะ ต้นไม้กฤษณงกฤษณานี้รู้สึกว่าเป็นเรื่องของโลกอยู่ ถ้าเอาเข้ามาในวัด วัดก็จะกลายเป็นโลก โลกกับธรรมก็จะรบกัน ไม่เหมาะ
ผู้กำกับ แต่ทั้งนี้ได้มีโยมบางท่านท้วงติงขึ้นมาว่า หากวัดปลูกไม้เศรษฐกิจและมีรายได้ทุกปีจากไม้เศรษฐกิจ ต่อไปภายภาคหน้า อาจจะเป็นเหตุให้ญาติโยมไม่อยากมาทำบุญกับวัด เพราะเห็นว่าวัดมีรายได้จากไม้กฤษณาทุกปี
หลวงตา ขอแทรกหน่อยหนึ่ง อย่าเอาไม้กฤษณามาขวางเลย ปรกติมันก็ไม่อยากทำบุญให้ทานอยู่แล้ว ยิ่งทำอย่างนี้มันก็ยิ่งเสริมมันไปใหญ่เลยละ เอาอ่านต่อไป
ผู้กำกับ โดยเฉพาะไม้กฤษณาเมื่อโตมากอายุสิบยี่สิบปี บางต้นที่ให้น้ำมันหอมมาก อาจจะมีมูลค่าหลายแสน หรืออาจจะเป็นหลักล้านก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าอาวาสในขณะนั้นอาจจะเปลี่ยนใจไปตัดต้นขาย เพื่อนำปัจจัยไปบูรณะปฏิสังขรณ์โบสถ์ วิหาร หรือเสนาสนะสงฆ์ก็ได้ แล้วการตัดต้นไม้จะไม่เป็นการผิดวินัยหรือ?
หลวงตา ฟัง เรื่องวินัยมันเรียนมาจากคัมภีร์ไหน เราตั้งแต่วันบวชมาเราก็ยังไม่ทราบว่าการตัดต้นไม้นี้ผิดวินัย แล้วตัดต้นอื่นๆ มาปลูกกุฏิกุฏังเต็มวัดเต็มวาเต็มศาลา จนกระทั่งไปที่ไหนหรูหราฟู่ฟ่า มีแต่เอาต้นไม้มาทำส่วนมากนะ แล้วมันเป็นยังไงที่นี่ มันไม่เป็นอาบัติเหรอ มันน่าคิด ผู้ถามอยากให้มันเรียนคัมภีร์วินัยสักหน่อยน่ะ มาสอนพระนี่นะ พูดถึงวินัยเราเรียนมากจริงๆ ถึงเข้าขั้นละเอียดก็ได้ เพราะเรารักวินัย อ่านจริงๆ ทบทวนมากที่สุดคือพระวินัย เพราะฉะนั้นใครพูดแง่ไหนจับปุ๊บได้เลยๆ อันนี้มันเอาคัมภีร์ไหนมาสอน มันเป็นอาบัติเพราะตัดต้นไม้ อย่างนี้มันก็เอามาพูดประสาตัดต้นไม้ เขาตัดกันทั่วแผ่นดิน จะมาเป็นโทษเฉพาะตัดต้นไม้ มันเป็นโทษที่ผิด เรื่องราวมันเกิดมายังไงจึงเอาต้นไม้นี่มาปลูก มันจะกระทบกระเทือนเป็นความเสียหายอย่างไรบ้าง ควรจะคิดเรื่องเหล่านั้นมากกว่าการตัดต้นไม้เป็นอาบัติ (เขาว่าตัดต้นไม้จะไม่เป็นการผิดวินัยหรือ) นั่นละวินัยคืออาบัติ เอาอ่านไป
ผู้กำกับ โดยโยมที่คัดค้านก็ให้เหตุผลว่า วัดไม่ควรจะหารายได้จากไม้เศรษฐกิจ โดยนำไม้เศรษฐกิจมาปลูกในวัดเพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ และหากวัดมีรายได้เช่นนี้ ต่อไปวัดก็ไม่ต้องพึ่งพาญาติโยมมาทำบุญ ซึ่งเป็นการมองต่างไปจากเจ้าภาพที่มาถวาย เพราะต้องการปลูกเพื่อร่มเงาและรักษาสภาพป่าเป็นหลัก ส่วนรายได้จากการเจาะเพื่อเอาน้ำมันกฤษณาเพื่อมาบำรุงเสนาสนะสงฆ์นั้นถือว่าเป็นผลพลอยได้ เสมือนหนึ่งว่าไม้กฤษณานี้ได้ทำบุญแทนโยมผู้ถวายไปตลอด
หลวงตา ใครอยากได้บุญตลอดพวกนี้น่ะ มันน่าถามก็ถามซิ มีแต่เรื่องขบขัน เอาละ นี่เขาพูดอยู่นอกวัด เขาไม่ได้พูดภายในวัด มาทำภายในวัด เป็นเรื่องของเขาโต้กันนอกวัด เราเป็นเพียงฟังเฉยๆ ไม่ผิดไม่ถูกอะไรสำหรับวัด ความผิดถูกชั่วดีก็เป็นเจตนาของเขาทั้งสองฝ่ายที่มีเจตนาด้วยกัน แต่เขาจะฟาดปากกันเราไม่ทราบ เอาว่าไป
ผู้กำกับ เสมือนหนึ่งว่าไม้กฤษณานี้ได้ทำบุญแทนโยมผู้ถวายไปตลอด แม้ว่าจะตายจากลาโลกนี้ไปแล้วก็ตาม และโยมผู้ถวายมองการณ์ไกลว่า ต่อไปภายหน้าหากถึงยุคที่ผู้คนไม่ค่อยทำบุญทะนุบำรุงพระศาสนา โดยเฉพาะวัดในท้องถิ่นทุรกันดารที่ยากจน อย่างน้อยจะได้มีไม้กฤษณานี้นำรายได้เข้าวัด เพื่อจะได้บำรุงซ่อมแซมเสนาสนะสงฆ์ และเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในวัดสืบไป
กระผมจึงกราบเรียนมาเพื่อขอความเห็นจากพระคุณอาจารย์หลวงตา ช่วยได้กรุณาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย (พระเมธิโน)
หลวงตา อยู่วัดไหนเราอยากถามถึงเรื่องวัดด้วย (ไม่ลงมาครับ) ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องลงว่าอยู่ที่ไหน ปัดออกให้หมดเรื่องทั้งสองนี้ เรื่องส่งเสริมหรือเรื่องคัดค้านต้นกฤษณานี่นะ ปัดออกให้หมด ทางนั้นเขาไม่ลงชื่อ เราก็ไม่ลงชื่อ ไม่ทราบว่าใครพูดมาจากไหนละแต่ปัดออกทั้งหมดอย่ามายุ่ง ไม่จำเป็น หาเรื่องมายุ่งทำไม ศีลธรรมเป็นของจำเป็นสำหรับพระที่จะบำรุงรักษากัน สิ่งเหล่านั้น ต้นไม้ ภูเขา พระองค์ก็สอนไว้แล้ว อยู่ที่ไหนอยู่ เป็นคุณอย่างเดียวไม่เป็นโทษ อันนี้เป็นเรื่องเจือปนไปด้วยโทษด้วยภัยเข้ามา พระไม่พิจารณาใครจะพิจารณา ใครจะละเอียดลออยิ่งกว่าพระ พระในหลักพุทธศาสนานะ ต้องเป็นผู้สุขุมมากทีเดียว ใช้ความพินิจพิจารณาทุกแง่ทุกมุม อย่างที่เขาพูดมานี้เป็นความกระทบกระเทือนเกี่ยวกับโลกแล้วเสียหายทางวัด เสียหายทางศาสนา เพราะฉะนั้นจึงว่าปัดออก มีเท่านั้นละ
เราพูดแล้วด้วยความเป็นธรรม คือธรรมนี้เป็นธรรมสอนโลก เราไม่ได้มีข้างนั้นข้างนี้ เหนือทุกอย่างไปแล้ว...ธรรม เพราะฉะนั้นจึงสอน อะไรไม่ดีงามอย่างไร ให้พากันพินิจพิจารณาก็แล้วกัน อย่ามาถือว่าผู้สอนนี้เป็นภัยต่อผู้หนึ่งผู้ใด ไม่เป็น ไม่มี เฉพาะอย่างยิ่งตัวของเราทั้งหมด ในกิริยาอาการที่แสดงออกนี้ออกมาจากใจ ใจบริสุทธิ์สุดส่วนเต็มที่แล้ว จึงไม่มีกิริยาอะไรที่จะเป็นภัยต่อโลก ผิดบอกว่าผิดก็ไม่ใช่เป็นภัย เตือน มันผิดอย่าทำ แน่ะก็เป็นคุณแล้ว ถ้าอันใดที่ถูกต้องก็ให้ส่งเสริมสิ่งนั้นมากขึ้น นี่ก็เป็นธรรมแล้ว ธรรมไม่เป็นภัยต่อผู้ใด เพราะฉะนั้นการสอนโลกจึงเป็นเรื่องของธรรมล้วนๆ ที่จะสอนได้ทั่วไปหมดเลย สามแดนโลกธาตุพระพุทธเจ้าสอนได้หมด สาวกท่านสอนได้หมด ธรรมเข้าอยู่ในผู้ใดผู้นั้นนำออกสอนได้ สอนตัวเองได้ สอนคนอื่นได้ เอาละพอ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |