อ่านตัวเองบ้าง
วันที่ 19 สิงหาคม 2548 เวลา 8:10 น. ความยาว 43 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :
 

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

อ่านตัวเองบ้าง


อยากได้คนดีๆ แหละเข้าสภา เข้าเป็นแกนนำๆ ในหน่วยราชการต่างๆ ถ้าได้คนดีไปเป็นแกนนำๆ แล้วบ้านเมืองจะเจริญ ประชาชนจะสงบร่มเย็นไม่เดือดร้อน แกนนำมีแต่ยักษ์แต่ผีนั่นซิสำคัญ ใครเข้าไปแล้วอย่างที่เคยเทศน์นั่นแหละ เช่นอย่างคนชั่วเข้าไปเป็นพวกรัฐบาลอะไรเหล่านี้ ฟังเดี๋ยวนี้รัฐบาลเป็นข้าศึกต่อประชาชนมากมายนะ มิหนำซ้ำยังโผล่ขึ้นมาเรื่อยจะมาทำลายศาสนาด้วยวิธีการต่างๆ ตัวสำคัญมันอยู่ในวงรัฐบาล อันนี้สำคัญมากนะ ใครเป็นผู้ใหญ่ๆ เข้าไปแล้วเป็นตัวแสบๆ ทำลายชาติของตัวเอง พวกประชาชนเขาถึงเอือมระอา

ถ้าได้คนดีเข้าไปเป็นแกนนำๆ แล้วดีทั้งนั้นแหละ เช่นวัดอย่างนี้ลองดูซิ ถ้าเอาพระอันธพาลมาเป็นผู้นำของวัดนี้แตกหมดเลยวัด ไม่ว่าวัดไหนก็ตาม วัดนั้นได้ชื่อใหม่ขึ้นมาทันที วัดไหนก็ตามถ้ามีตัวแสบตัวอันธพาลเข้าไปเป็นสมภารเจ้าวัดแล้ว วัดนั้นต้องกลายเป็นส้วม พระเณรทั้งหลายที่อยู่ใต้ปกครองของพระอันธพาลนั้นก็เป็นมูตรเป็นคูถไปหมดเลย นั่นเห็นไหมล่ะ มันขึ้นอยู่กับหัวหน้าๆ นะวัด ประชาชนก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าเหมือนกัน ถ้าได้หัวหน้าตัวเลวๆ ตัวแสบๆ เข้าไปแล้ว ไม่มีใครได้รับความสงบเย็นใจละ เดือดร้อนวุ่นวาย

อย่างเวลานี้ทางรัฐบาลเรานี้ถูกตำหนิมากต่อมากนะ ประชาชนตำหนิวงรัฐบาลเรา รัฐบาลนี้ตั้งมากี่ยุคกี่สมัยแล้วก็ฟังกันมาอย่างนั้นๆ ไม่เด่น มารัฐบาลชุดนี้ หูเราหูคน ปากก็ปากคนมาพูดให้ฟัง แล้วปากเหล่านี้ไม่ใช่ปากที่จะมาประจบประแจงหาอุบายวิธีการต่างๆ หลอกลวงเราให้เราพูด แล้วทำลายหลักอันดีงามทั้งหลาย เช่นรัฐบาลเป็นต้นนี้ไม่มี เขามาพูดเรื่องไหนเป็นความจริงๆ ทั้งนั้นแหละ เขาตำหนิรัฐบาลเราเวลานี้

ยิ่งหนักเข้าไปก็เข้ามาทางศาสนา ประชาชนซึ่งนับถือพุทธศาสนาสักกี่เปอร์เซ็นต์ในประเทศไทยเรา นับถือพุทธศาสนา หัวใจอยู่กับพุทธศาสนาก็คือธรรมนั่นเอง ใหญ่โตมาก นี่เขาตำหนิติเตียนว่า รัฐบาลเวลานี้กำลังจะทำลายศาสนา หาอุบายวิธีทำลายแง่ต่างๆ เขาว่าอย่างนั้นนะเวลานี้ ออกไปทางวิทยุนี่สำคัญ เขาออกกันทั่วไปหมดเลยว่า ประชาชนเขาไม่พอใจ ว่ารัฐบาลมีอุบายวิธีกีดกันหรือทำลายต่างๆ เรื่องอรรถเรื่องธรรมทางวิทยุเป็นต้น อันนี้เราก็หูคน เขาผู้มาบอกเขาก็ปากคน เราเป็นศูนย์กลางเป็นธรรมเราก็ฟัง ไม่เอียงหน้าเอียงหลัง

เวลานี้กำลังหนาหูขึ้นมาแล้ว เขาตำหนิรัฐบาล รัฐบาลทำไมจึงต้องมาทำลายศาสนาซึ่งเป็นหัวใจของคนไทยทั้งชาติได้ลงคอ เขาว่าอย่างนั้นนะ เวลานี้เป็นอย่างนั้น แล้วเป็นยังไงรัฐบาลเรานี้ได้ทำอย่างเขาว่าหรือไม่ ให้อ่านตัวเองพิจารณาตัวเองนะวงรัฐบาลที่เป็นผู้นำของชาติบ้านเมือง อย่าหลับหูหลับตาหน้าดื้อหน้าด้านใช้อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ มาบีบบังคับประชาชนคนทั้งประเทศ

เฉพาะอย่างยิ่งผู้นับถือพุทธศาสนานี้เจ็บแสบมากนะ ทำลายพ่อทำลายแม่ของเขากับทำลายพุทธศาสนามันพอๆ กัน แล้วตัวรัฐบาลก็มีพ่อมีแม่ทุกคน ถ้ารักพ่อรักแม่ตัวเองก็ต้องเห็นใจประชาชนที่เขามีพ่อมีแม่ เขารักพ่อรักแม่ของเขา ศาสนานี้เป็นพ่ออันยิ่งใหญ่ พ่อแม่ของเขายังกราบไหว้ศาสนาอีก ยังสูงกว่าพ่อแม่ของเขา แล้วทำไมจึงไปหาเบียดเบียนทำลายในสิ่งที่สำคัญๆ ที่ประชาชนเคารพนับถืออย่างมากมาย เท่ากับทำลายจิตใจของคนทั้งประเทศไม่สมควร เวลานี้เราได้ยินอย่างนั้น ได้ยินหนาหูเข้ามา ออกมาจากวงรัฐบาลนะเวลานี้ มากีดกันท่านั้นท่านี้

นี่ทราบว่าทางวิทยุนะ จะตัดทางนั้นลงตัดทางนี้ลง วิทยุไปทำความเสียหายแก่ผู้ใด วิทยุนี่ก็คือเสียงของอรรถของธรรมสั่งสอนประชาชนให้เป็นคนดี แล้วเป็นความเสียหายอะไร กระทบกระเทือนอะไรก็แก้ไขดัดแปลงในนามเราเป็นรัฐบาล ซึ่งเป็นลูกแห่งชาวพุทธด้วยกัน ก็ให้ดัดแปลงกันซิ หาวิธีการตัดทอนอย่างนั้นตัดทอนอย่างนี้ ลุกลามไปในที่ต่างๆ โดยอาศัยอำนาจของตน ไปบีบบังคับในราชการหน่วยต่างๆ หน่วยไหนที่มีอำนาจมากแล้วจะไปบีบบังคับหน่วยนั้น ให้ทำตามความคิดความเห็นการกระทำของตนเอง เวลานี้กำลังเป็น

รัฐบาลนี้กำลังสอดแทรก เป็นรัฐบาลที่สอดแทรก หาทำลายจิตใจของประชาชน หาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ประชาชนรักสงวนมากขึ้นๆ ทุกวัน หูเรามันหูกลางๆ ได้ยินหมด เฉพาะอย่างยิ่งวิทยุเวลานี้ หาอุบายวิธีกีดกันท่านั้นท่านี้ วิทยุนี้ก็เป็นเสียงธรรม ธรรมนี้สั่งสอนโลกมาตั้งกัปตั้งกัลป์แล้ว เป็นภัยแก่ผู้ใดก็ไม่เคยมี ผู้ที่มากีดกันทำลายธรรมที่สอนโลกด้วยความถูกต้องนี้ต่างหากเป็นผู้ผิด นี่เราก็กำลังได้ยิน พวกรัฐบาลเราให้คิดนะข้อนี้ เราเป็นธรรมเรานำธรรมมาสอน เพราะฉะนั้นจึงสอนได้ทุกแง่ทุกมุม

รัฐบาลก็อยู่ใต้อำนาจของธรรม อำนาจของธรรมคือความดีงามครอบไว้หมดแล้ว ขอให้เอาไปพิจารณานะ อย่ายิ่งใหญ่กว่าธรรม มาเหยียบย่ำทำลายธรรมเหยียบหัวธรรมไม่ถูกต้อง เวลานี้กำลังออกสั่งนั้นสั่งนี้กดขี่บังคับประชาชนทางวงราชการต่างๆ ถือว่าอำนาจตัวนี้ใหญ่โตมาก อำนาจใหญ่มันอำนาจยักษ์หรืออำนาจผีอะไรก็เอาไปพิจารณาเอา ถ้าหากไม่น่าตำหนิเขาไม่ตำหนิ ประชาชนเขาเป็นคนเหมือนกันกับเราที่ว่าตัวยิ่งๆ ใหญ่ๆ นั้นแหละ ให้รู้ตัวนะ อ่านตัวเองบ้างรัฐบาล เวลานี้ตัวแสบๆ อยู่ในวงรัฐบาลมันสั่งการออกมาแง่นั้นแง่นี้ ประชาชนเขาชี้เลยนะแต่เรายังไม่ระบุชื่อ เขาชี้ออกมาๆ ตัวแสบๆ คือใคร ตัวไหนบ้างๆ เขาบอกมาหมดนะที่ทำลาย เฉพาะอย่างยิ่งทำลายศาสนาเวลานี้ ตัวไหนแสบๆ อยู่ในวงรัฐบาลเวลานี้

ขอให้อ่านตัวเองบ้าง อย่าอวดดีอวดเด่นว่าตัวเฉลียวฉลาดกว่าคนทั้งโลก กว่าคนทั้งประเทศไม่ถูก ผิดทั้งเพทีเดียว ครั้งพุทธกาลก็เทวทัตทำลายพระพุทธเจ้า เทวทัตยังเห็นโทษ นี้ความคิดที่อยู่ในหัวใจของเราก็เป็นโทษของเรา ควรจะดูโทษของเราในหัวใจเราบ้างซิ เราฟังไม่ได้นะ เราอุตส่าห์พยายามช่วยโลกมานี้ไม่เอาอะไรนะเรา อย่างที่ว่าวิทยุนี้ก็เสียงธรรม เสียงใครก็เสียงเรานั่นแหละที่เทศน์อยู่เวลานี้ทั่วประเทศไทย ยังออกนอกประเทศอีกด้วย เราสอนด้วยความเมตตาสงสารดังพระพุทธเจ้าท่านสอนโลก สาวกทั้งหลายท่านสอนโลกมาไม่ผิดกันเลย

เราพูดจริงๆ เราไม่ได้วัดรอย คือเราไม่ได้หวังอะไรๆ จากการแนะนำสั่งสอน มีแต่ความเมตตาล้วนๆ สั่งสอนโลก สั่งสอนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดีดดิ้นอยู่ทุกวันนี้ดีดดิ้นหาอะไรพิจารณาซิ เราดีดดิ้นทุกวันนี้เพื่อพี่น้องชาวไทยเรา เฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวไทยเรา และนอกจากนั้นยังจะกระจายไปทั่วโลก เราก็ดีดดิ้นไปเพื่อทั่วโลกให้ได้รับความสุขความเจริญด้วยกัน เราไม่ได้เอาอะไรมาเป็นที่ให้เกิดความมัวหมองแก่จิตใจของเรา เราไม่เอาอะไรนะ อย่างธรรมนี้ถ้าคนชั่วไม่มีธรรมก็ไม่มี ความสกปรกมีต้องหาสิ่งสะอาดคือน้ำมาชะล้างกัน ถ้าปล่อยให้แต่โลกสกปรกเป็นส้วมเป็นถานอยู่ตลอดเวลามันจะเหม็นคลุ้งไปหมด โลกนี้ก็เป็นโลกส้วมโลกถาน ผู้คนทั้งหลายที่อยู่ในโลกนี้ก็จะเป็นมูตรเป็นคูถไปตามๆ กันแล้วมันน่าชมไหม ต้องมีสิ่งชำระล้างกันมันถึงได้นะ พออยู่ได้

อย่างตัวของเราสกปรกด้วยความประพฤติในหน้าที่การงาน ประพฤติตัวอย่างไรบ้าง ก็ให้แก้ไขดัดแปลงตัวเองด้วยน้ำคืออรรถคือธรรมชะล้างลงไป ก็เป็นคนดีขึ้นมาๆ เราอย่าเข้าใจว่าเกิดขึ้นมาแล้วดีเลย เกิดขึ้นมากับกิเลส กิเลสเป็นตัวสกปรก ตัวสกปรกเกิดขึ้นมาพร้อมกันกับตัวของเรา เพราะฉะนั้นตัวของเราจึงเป็นตัวสกปรกก่อนอื่นเมื่อธรรมยังไม่ได้ชะล้างกัน ทีนี้เวลาได้ยินได้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ได้ดูได้อ่านเรื่องธรรมเรื่องธรรมทุกแง่ทุกมุมแล้วก็เป็นน้ำดับไฟๆ หนึ่ง แล้วก็เป็นน้ำที่สะอาดชะล้างสิ่งสกปรกโสมมให้กลายเป็นบุคคลที่สะอาดขึ้นมา เป็นคนดีงามขึ้นมาจากอรรถจากธรรม ควรจะคิดเรื่องเหล่านี้นะ

ให้ดูหัวใจประชาชนคนทั้งประเทศ เรื่องศาสนาเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว คือหัวใจของคนทั้งประเทศ เฉพาะชาติไทยของเรานี้เป็นเมืองพุทธ นับถือพุทธศาสนาไม่น้อยกว่า ๘๐% ให้ดูหัวใจ ๘๐% นี้อย่างน้อย ถ้าไม่ดูกว้างกว่านี้ให้ดูหัวใจ ๘๐% นี้เป็นยังไง หัวใจแต่ละดวงๆ เขามีคุณค่าขนาดไหน หัวใจเราเสียอีกเป็นยักษ์เป็นมารทำลายศาสนา เป็นหัวใจที่เลวทรามที่สุด ให้ดูหัวใจตัวเองบ้างนะ อย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้าถือว่าตนมีอำนาจ อำนาจอะไรก็ตามไม่เหนือกรรม อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ก็กรรมป่าๆ เถื่อนๆ จะบีบหัวตัวเองนั่นแหละ

เรื่องศาสนาควรจะได้มีการยกย่องเชิดชูเทิดทูนถึงจะถูก ยิ่งกว่าการมาทำลายป่าๆ เถื่อนๆ อย่างนี้ สัตว์เขาก็ไม่มาทำลายศาสนา คนแท้ๆ ยกให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา กลับมาทำลายศาสนา เป็นเพชฌฆาตของศาสนาใช้ไม่ได้เลย เป็นราชการเป็นผู้ใดก็ตาม หน่วยใดก็ตาม ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเป็นหน่วยที่เป็นภัยต่อชาติต่อศาสนา พระมหากษัตริย์ทั้งนั้น ไม่เป็นของดีเลย

ที่เราสอนโลกอยู่เวลานี้เราพิจารณาเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราไม่ได้หาเรื่องหาราวใส่ผู้ใด เราเองพิจารณาในหัวใจของเราก็พิจารณาเต็มสัดเต็มส่วน นอกจากนั้นบรรดาประชาชนทั้งหลายที่เขามีความเคารพในพุทธศาสนา อะไรที่เข้ามากระทบกระเทือนพุทธศาสนามากน้อย มาจากใคร หน่วยใด ราชการไหน เขาก็ต้องมาเล่าให้ฟัง เมื่อเล่าให้ฟังแล้วควรที่จะนำออกแจงให้รู้เนื้อรู้ตัวกัน เราก็นำออกแจงในฐานะที่เราเป็นอาจารย์สอนคน ธรรมของพระพุทธเจ้าสอนโลก ธรรมนี้ก็สอนโลกเหมือนกัน เราไม่ได้มีสัดมีส่วนว่าฝ่ายนั้นฝ่ายนี้กับผู้ใด เราสอนโลกให้ตั้งอยู่ในความเป็นธรรมเท่านั้น จึงควรพิจารณาทุกคน

เรื่องพุทธศาสนาเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อไร ให้ได้ธรรมเข้าสัมผัสใจดูซิน่ะ ที่จะมาพูดป้างๆ เวลานี้ก็ออกมาจากการปฏิบัติธรรม แต่ก่อนความรู้ความเห็นภายในจิตใจก็เหมือนเราๆ ท่านๆ นี่บอกว่าไม่เหมือนว่างั้นเลย พูดตรงๆ ไม่เหมือน ทำไมจึงว่าไม่เหมือน ธรรมเข้าสู่ใจแล้วจะแปลกต่าง เปลี่ยนแปลงจิตใจที่เต็มไปด้วยความโสมมคือกิเลสทั้งหลาย ชำระกันๆ ออกไปเรื่อยๆ ธรรมนี้จะกระจ่างออกไปๆ จิตใจนี้จะมีความแปลกประหลาดอัศจรรย์ขึ้นในใจของผู้ปฏิบัติธรรม ธรรมเป็นของประเสริฐเลิศเลอขนาดไหนฟังซิ พระพุทธเจ้าเลิศเลอด้วยธรรม แต่ก่อนที่เป็นสิทธัตถราชกุมารท่านก็ยังไม่วิเศษ เอาตรงนี้เลย พอท่านมาบำเพ็ญธรรม ตรัสรู้ธรรมขึ้นมานี้ ศาสดาองค์เอกอยู่ในนั้นหมด ธรรมเอกอยู่ในนั้น กลายเป็นศาสดาองค์เอก สอนโลกมาสักเท่าไร

เรื่องธรรมเข้าไปหัวใจใดก็เถอะ หัวใจนั้นจะมีฤทธิ์มีเดชขึ้นโดยหลักธรรมชาติ เป็นความสุขความเจริญแก่โลก กระจายออกไปทั่วโลก นี่เราปฏิบัติธรรมมาแทบเป็นแทบตาย แต่ก่อนเราก็ไม่เคยสนใจจะสั่งสอนผู้ใดแหละ ความรู้วิชามากน้อยทุ่มเข้ามาหาหัวใจแก้กิเลสๆ เวลาแก้กิเลสตัวมัวหมองมืดตื้อลงไป จิตมันค่อยสว่างขึ้นๆ แปลกประหลาดขึ้นอัศจรรย์ขึ้น ดีไม่ดีอัศจรรย์ตัวเอง เราเคยพูดให้ท่านทั้งหลายฟังแล้ว ไปอยู่ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ เดือนกุมภา เผาศพหลวงปู่มั่นเสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นไป เพราะตอนนั้นจิตกำลังหมุนเป็นธรรมจักร หมุนจะออกจากทุกข์ พูดง่ายๆ พูดให้มันชัดๆ อย่างนี้ ไม่มีวันมีคืน หมุนติ้วๆ มีแต่จะพุ่งๆ ให้หลุดพ้นจากทุกข์โดยถ่ายเดียว

ทีนี้เวลาบำเพ็ญไปผลก็ตามเข้ามาๆ จิตใจตอนนั้นเป็นความสว่างจ้าไปหมด โลกนี้ว่างไปแล้ว ต้นไม้ภูเขาความว่างนี้ทับหมดเลย ต้นไม้ภูเขาดินฟ้าอากาศที่เราเหยียบแผ่นดินทั้งแผ่นนี้ อำนาจของจิตที่มันว่างในจิตนี้มันทับหมดเลย ไม่มีต้นไม้ภูเขาดินฟ้าอากาศทั้งหลาย ไม่มีในหัวใจ เป็นหัวใจที่ว่าง เป็นแต่เพียงว่ายังไม่ว่างในตัวเอง ส่วนความว่างกระจายออกไปภายนอกว่างไปแล้ว ตัวเองยังไม่ว่าง คือยังมีตัวมีตนอยู่ในจิตนั้น มันยังไม่ว่าง ทีนี้ก็เกิดความอัศจรรย์ ฟังเสียนะท่านทั้งหลายออกจากภาคปฏิบัตินะนี่

เวลาเดินจงกรมอยู่ตอนเช้ามืดนั่นน่ะ กำหนดไปที่ไหนจิตมันว่างหมดเลย วัตถุอะไรนี้มันผ่านหมดแล้ว กรรมฐานเกี่ยวกับเรื่องอสุภะอสุภัง ทุกฺขํ อนิจฺจํ อนตฺตา ผ่านหมดเหยียบไปหมดแล้ว ผ่านไปแล้ว ยังเหลือแต่ความว่างที่นี่ ทีนี้ความว่างเหมือนหนึ่งว่าไม่มีอะไร แต่ตัวเองยังมี มันก็อุทานขึ้นมา โอ้โห จิตของเรานี้ทำไมถึงได้อัศจรรย์เอานักหนา ว่างก็ว่างเอาจนไม่มีประมาณ แล้วความแปลกประหลาดอัศจรรย์ก็อัศจรรย์ไม่มีประมาณ จิตใจของเราทำไมถึงอัศจรรย์เอานักหนา นี่ขึ้นอุทานในใจ ยืนรำพึงอยู่นี่

พูดอันนี้ก็พูดตามความจริงที่ตนรู้ตนเห็นทั้งหลาย สิ่งที่มันปลอมมันเหนือจากนั้นยังไม่รู้นะ ธรรมท่านก็เตือนขึ้นมาว่า ถ้ามีจุดมีต่อมแห่งผู้รู้อยู่ที่ไหน นั้นแลคือตัวภพ นี่เรียกว่าว่างจริงว่างภายนอก แต่หัวใจยังไม่ว่างจากอุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นในจิตตัวเอง นั่น มันไม่ว่างตรงนี้ ธรรมท่านจึงจี้เข้าไปตรงนี้ ถ้ามีจุดมีต่อมแห่งผู้รู้อยู่ที่ไหน นั้นแลคือตัวภพ ผู้รู้ที่ว่าว่างๆ สิ่งทั้งหลายว่างแต่ผู้รู้ยังไม่ว่างตัวเอง ยังไม่วางตัวเอง ยังไม่ปล่อยตัวเอง ธรรมท่านจึงเตือนขึ้นมานี้ เราก็งงอีกแทนที่จะแก้ได้ให้ตกไม่ได้ แบกปัญหานี้ไป ว่ามีจุดมีต่อมแห่งผู้รู้อยู่ไหน นั้นแลคือตัวภพ จุดที่ไหนต่อมที่ไหนนะ มองข้ามจุดที่สว่างกระจ่างแจ้งนั่นไป ธรรมท่านจึงเตือนขึ้นมา

แล้วก็แบกปัญหานี้ไป นู่นพูดให้มันชัดเจน เข้าในป่าในเขาทางอำเภอบ้านผือ ศรีเชียงใหม่ ถ้ำผาดักแผแด็กอะไรไปเที่ยว มีแต่ไปคนเดียว แก้ปัญหานี้ยังไม่ตก กลับมาวัดดอยธรรมเจดีย์ เดือนหกนั่นแหละที่นี่ ไปตั้งแต่ตอนเดือนกุมภา ไปได้สามเดือน กลับมาวัดดอยธรรมเจดีย์ ขึ้นมาภูเขาลูกนี้แหละ ทีนี้มาพิจารณาอันนี้ละที่นี่ ไอ้ความว่างที่ว่ามีจุดมีต่อมมันก็ติดปัญหาอยู่ที่นี่ แล้วกลับมามันก็มาปลงกันที่นี่ ปล่อยกันที่นี่ พอถึงวันดังที่กล่าวแล้วนั้น วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ เป็นเวลา ๕ ทุ่มพอดี ประมวลแห่งความรู้ทั้งหลายที่ว่าเป็นจุดเป็นต่อมนั้นน่ะ จะมาลงปลงกันในเวลานั้น

เวลาพิจารณาเข้าไปๆ ไปถึงที่ว่าจุดต่อมอันนั้น มันก็พังจุดต่อมแห่งผู้รู้นั้นเสีย ขาดสะบั้นลงไปจิตนี้จ้าขึ้นมา ประหนึ่งว่าฟ้าดินถล่มเลยเชียว โอ้โห เป็นอย่างนี้เหรอ ทีนี้คำว่าความสว่างไสวที่ว่าเป็นของอัศจรรย์นั้นน่ะ มาเทียบกันกับความสว่างที่เกิดขึ้น เป็นหลักธรรมชาติซึ่งถูกปิดบังเอาไว้นี้ จ้าขึ้นมานี้เท่านั้นละ อันความสว่างของเราที่ว่าอัศจรรย์แต่ก่อน เป็นเหมือนกองขี้ควาย เทียบดูซิน่ะ ที่เราอัศจรรย์ในเบื้องต้น จนกระทั่งธรรมท่านเตือนว่า ถ้ามีจุดมีต่อมแห่งผู้รู้อยู่ที่ไหน นั้นแลคือตัวภพ นั่นธรรมท่านเตือนนะมันติดแล้วจุดนั้น จุดต่อมนั้นมันติด เวลาจุดต่อมนี้พังลงไปแล้ว ตามที่ธรรมท่านเตือนนั้น ในคืนวันนั้นมันถึงรู้ได้ชัด จ้าขึ้นมาเลย

นี่ละเรื่องจิตเรื่องใจธรรมอัศจรรย์ขนาดไหน อัศจรรย์อยู่ในหัวใจนี่นะ เรากล้าพูดทุกอย่างไม่เคยสะทกสะท้านในสามแดนโลกธาตุนี้ ว่าใครจะว่าอะไรกับเราเราไม่ว่า เป็นธรรมทั้งแท่งในจิตดวงนี้ เป็นจิตที่เป็นธรรมล้วนๆ แล้ว จึงไม่มีคำว่าถืออะไรๆ ทั้งนั้น ด้วยความปล่อยวางโดยประการทั้งปวง กิริยาท่าทางอาการอะไรจะแสดงแผดเผาขนาดไหน เป็นพลังของธรรมทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราถึงกล้าพูดได้ว่า กิริยาการแสดงออกของธาตุของขันธ์อันนี้ ซึ่งออกมาจากหัวใจที่บริสุทธิ์นี้เป็นคุณทั้งนั้น ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อผู้ใด เพราะฉะนั้นการเทศนาว่าการจึงไม่มีเอียง ควรตำหนิๆ ควรชมๆ ไม่มีข้างนั้นข้างนี้ ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ใจอันนี้เป็นธรรมล้วนๆแล้ว เราจึงกล้าสอนโลกเต็มเม็ดเต็มหน่วย เต็มตามกำลังความสามารถของเราที่สอนได้ตลอดมา

นี่ก็เป็นเวลา ๕๕ ปีแล้วที่สอนโลก ที่มากมาโดยลำดับ มากที่สุดก็คือเวลาช่วยโลกเป็นเวลา ๗ ปีนี้ละ ธรรมะถึงได้กระจายออก แต่ก่อนไม่ออก อยู่บนศาลานี่ ธรรมะมีแต่ยอดธรรมๆ เทศน์สอนพระ เอาเทปอัดเอาไว้อยู่บนศาลา อันนี้มีแต่ยอดธรรมๆ สอนพระต้องเด็ดๆ พุ่งๆ เลย เทปเหล่านี้ละได้ออกไปกระจายทั่วประเทศไทยเหมือนกัน ไปตามวัดป่าต่างๆ วัดป่าต่างๆ อยู่ทุกภาคท่านมาขอเทป ทางนี้ส่งให้ๆ ตลอด จนกระทั่งทุกวันนี้ เทปเหล่านี้กับเทปทั้งหลายที่เทศน์สอนโลกก็ไปด้วยกันเลย จึงออกทางวิทยุกระจายเสียงทั่วประเทศไทย ทุกวันนี้ออกทั่วประเทศ ออกไปจากธรรม ออกไปจากใจดวงนี้ที่ได้ปฏิบัติ

ธรรมะที่เราเทศน์ทั้งหมดนี้ ไม่ว่าธรรมะขั้นใดเรียกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ๆ ไม่มีความสงสัยถูกต้องแม่นยำทั้งนั้นๆ ออกจากหัวใจที่ถูกต้องแม่นยำแล้ว จึงกล้าสอนโลก คำว่ากล้ามันก็ไม่มีอีกละ กลัวก็ไม่มี มันเลยนั้นไปเสียจิตดวงนี้ เราสอนโลกด้วยความเมตตาสงสาร จึงขอให้พากันพินิจพิจารณาทุกคน อย่ามาถือว่าหลวงตานี้เป็นภัยต่อผู้ใด ไม่เป็น ใครผิดบอกว่าผิด ใครถูกบอกว่าถูก อย่างตำหนิและชมอยู่ทุกวันนี้ ก็ตำหนิตามความจริงนั้นละ ชมตามความจริง ขอให้พากันพินิจพิจารณา

เราเกิดในชาติเป็นผู้นำของชาติ อย่าทำลายชาติ อย่าทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งสามพระองค์นี้เป็นธรรมชาติที่เลิศเลอ ที่เราได้อาศัยเป็นความร่มเย็นอยู่ อย่าพากันทำลายชาติ จะเท่ากับตัดแข้งตัดขาตัดคอของตัวเองนั้นแหละ จะเอาความเจริญจากการทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่มีทาง เท่ากับบุคคลสิ้นท่าแล้ว มาตัดแข้งตัดขาตัดคอตัดอวัยวะตัวเองให้ฉิบหายเท่านั้นเอง คนประเภทนี้ ประเภททำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือคนประเภททำลายตนสังหารตนให้ขาดสะบั้นลงไป ไม่ใช่ผู้อื่นผู้ใด คือเราเป็นตัวภัยต่อเราเอง เทียบกันอย่างนี้นะ พากันจำทุกคน

เรานี้จวนจะตายแล้ว ยิ่งจวนจะตายเท่าไรก็ยิ่งเป็นห่วงบรรดาพี่น้องทั้งหลาย แทนที่จะเป็นห่วงตัวเอง กลัวตาย ธรรมดาโลกเป็นอย่างนั้น แก่ชราเข้าไปเท่าไรยิ่งเป็นห่วง คิดเรื่องอดีตอนาคตเข้ามาหมุนอยู่ตัวเองเป็นไฟเผาตัวเองตลอด แต่นี้ไม่มี บอกว่าไม่มี อดีตจะเป็นมาอะไรผ่านมาหมดขาดสะบั้น อนาคตตัดขาดแล้วขาดสะบั้น ปัจจุบันก็เป็นสมมุติปล่อยวางหมดโดยประการทั้งปวง เหลือก็เหลือแต่ธรรมชาติที่ว่าเป็นธรรมทั้งแท่ง ธรรมธาตุนี้เท่านั้นเอง สอนโลกเราจึงสอนได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีข้องมีแวะกับผู้ใด ทั้งดีทั้งชั่วไม่ข้องไม่แวะทั้งนั้น เอาธรรมออกสอน ขอให้นำไปพินิจพิจารณา

เฉพาะวงราชการนี้เขาตำหนิมากเวลานี้ ที่เขาตำหนิมากก็คือมาเสียดสีมากระทบกระทั่ง มาบีบบี้สีไฟด้วยวิธีการต่างๆ ต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหัวใจของประชาชน เขาจะไม่เสียใจไม่กระทบระเทือนเขายังไง อันนี้ละอันหนึ่งรัฐบาลเรา มีหรือไม่มีเขาตำหนิเข้าไปวงรัฐบาล วงรัฐบาลนั้นใครเป็นตัวแสบทำลายศาสนาอยู่เวลานี้ บงการออกมาด้วยวิธีป่าๆ เถื่อนๆ เป็นใครอยู่ในวงรัฐบาล นี้เขาบอกแล้วนะ หน่วยราชการต่างๆ ผู้เป็นคนดีนะบอกไม่ใช่ผู้ใด ท่านเหล่านี้เป็นผู้ที่เข้าใจได้ดีในวงราชการ และข้าราชการต่างๆ ใครทำดีทำชั่วผิดถูกประการใด พวกที่อยู่ในวงราชการต่างๆ จะนำเรื่องเหล่านี้มาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

แล้วเรื่องเหล่านี้ละมาหาหูเรา มาเข้าหูเรา เราจึงกระจายออกไปเตือนให้รู้เรื่องรู้ราว เดี๋ยวนี้เขาตำหนิว่าวงราชการ เฉพาะอย่างยิ่งวงรัฐบาลนี้เริ่มเป็นเพชฌฆาต ขึ้นใหญ่ก็คือต่อศาสนา ต่อชาติ ต่อพระมหากษัตริย์ แล้วรัฐบาลนี้สมควรหรือ ตั้งมารัฐบาลไหนเป็นรัฐบาลที่จะมาทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีหรือ แต่รัฐบาลไทยเราเวลานี้กำลังจะเป็นอย่างนั้น เริ่มเป็นมาอยู่แล้วเขาว่างั้น เอาไปพิจารณานะวงรัฐบาลเรา ใครตัวแสบๆ อยู่ข้างในนั้น เขาระบุชื่อมามากต่อมากแล้วนะ แต่เรายังไม่ได้ออก ระบุชื่อตัวแสบๆ มันอยู่ลึกๆ นะ มันเอาผู้ใหญ่ผู้โตผู้ใดละเป็นเครื่องมือ ทำลายๆ เอะอะๆ ก็นายกฯ เอะอะๆ ก็นายกฯ ตัวแสบๆ เหยียบคอนายกฯอยู่นั้นคือใครเวลานี้ เขาบอกมาหมดแล้วนะ ตัวแสบๆ มันอยู่ในนั้นน่ะเวลานี้

แล้วตัวแสบๆ นี้มาเหยียบย่ำทำลายศาสนาขี้รดหัวพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ขี้รดหัวประชาชนคือตัวแสบๆ นี้เขาก็บอกเหมือนกัน เราพูดตามความจริงตามนี้ละ เพราะฉะนั้นธรรมจึงไม่มีเอนมีเอียงพูดตามหลักความจริง เอา ใครจะเอาคอเราไปตัดตัดเลย เราไม่เคยเสียดายคอยิ่งกว่าธรรม ธรรมนี้เรากราบสุดยอด หัวใจขาดขาดไปกับธรรม ไม่ได้ขาดไปกับเรื่องสกปรกมอมแมมเหล่านี้นะ ขอให้พากันพิจารณาวงราชการเรา โฮ้ เลอะเทอะเข้าไป ยิ่งลุกลามเข้ามาทำลายพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหัวใจของคนทั้งชาติไทยเรานี้ด้วยแล้ว ใครจะอยู่เป็นสุขได้ ต้องเป็นเดือดเป็นแค้นสุดขีดละคนเรา เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้ละ เอาละพอ

วันนี้วันโกนแล้วนะ ขึ้น ๑๔ ค่ำวันโกน ๑๕ ค่ำก็วันเพ็ญ วันพรุ่งนี้ก็วันเพ็ญวันพระใหญ่ วันเปิดโอกาส ศาสนาท่านเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวพุทธเราได้บำเพ็ญ ศีลธรรมเข้าสู่ใจในวันเช่นนี้มากกว่าวันทั้งหลาย เพราะงานการของเรามากต่อมากยุ่ง สองวันนี้ท่านให้เป็นโอกาสบำเพ็ญธรรมเข้าสู่ใจ อาหารเข้าสู่ท้อง รายได้เข้าสู่ความโลภนั้นมันดิ้นกันทั้งโลก แต่ธรรมเข้าสู่ใจไม่ค่อยมี จำนะ ให้หาธรรมเข้าสู่ใจ นี่ดีดดิ้นมานี้เห็นไหม ไม่มองดูผัวดูลูกเลยมานี้ก็เพราะหาธรรมเข้าสู่ใจ เอ้า ดิ้นก็ดิ้น คิดถึงก็คิดถึง ห่วงก็ห่วง ทางนี้ธรรมะก็ห่วง เลยมาทางนี้ก่อน แล้วพวกนั้นก็ตามมาทีหลัง ลูกๆ ผัวๆ เขาจะตามมาทีหลัง เราโดดก่อน เอะอะโดดก่อนแล้ว


รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก