คนเราดีอยู่ที่ศีลที่ธรรม
วันที่ 3 สิงหาคม 2548 เวลา 8:10 น. ความยาว 43 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

คนเราดีอยู่ที่ศีลที่ธรรม

 

ก่อนจังหัน

ตะกี้นี้ไปบอกอีผีบ้าลูกอีอั้ว มันแต่งตัวเร่อร่าๆ มา แม่มันเป็นน้องสาวเรา มันแต่งตัวเร่อร่าๆ มาเราจี้หน้าผากมัน เร่อร่าๆ เหมือนเขาจะทอดแหนั่น มันดูไม่ได้นะ คือธรรมดูโลกนี้มันสกปรกเสียจนกระทั่ง..  ถ้าพอถูไถได้ก็ถูไถไป ไม่พอถูไถก็ได้จี้เอาบ้างๆ มันทนดูไม่ได้ นี่ละธรรมกับโลกมันต่างกันอย่างนี้ มันขวางกันจริงๆ นะ โลกไม่มีธรรมจึงเป็นโลกสัตว์ไปหมด ไม่ทราบว่าอะไรดีอะไรชั่ว ถ้าธรรมจับเข้าไปรู้ แบ่งสันปันส่วนๆ คัดเลือก นั่นต่างกันอย่างนั้น อู๊ย จนจะมองดูไม่ได้จะว่าไง เลอะๆ เทอะๆ

พระเรามันเลอะๆ เทอะๆ ภายในใจนะ แต่งตัวโก้หรูมาสีกรัก ภายในใจมันมีแต่มูตรแต่คูถเต็มไม่ได้นะ เราสอนเสมอให้ตั้งอกตั้งใจ อย่าเฉื่อยชานะ อย่าอ่อนแอ กับกิเลสอ่อนไม่ได้ เราอ่อนกิเลสแข็งขึ้นทันที จึงต้องอดกลั้นกันตลอดเวลาด้วยความอดทนพยายามทุกอย่าง กิเลสเหนียวแน่นมั่นคงมาก อำนาจลึกลับก็มี เปิดเผยก็มี มีทุกแบบอำนาจของกิเลส อุบายของกิเลสที่จะกล่อมสัตว์โลกให้จมอยู่ในวัฏวนตายกองกันอยู่นี้ ต้องเอาธรรมมาจับมาแยกมาแยะ ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติตัวให้ดี

ความพากความเพียรเพื่อจะแก้กิเลส ต้องมีสติ มีปัญญารอบคอบๆ แต่นี้ดูกิริยาของเพื่อนฝูงที่อยู่ในวัดนี้มันเหมือนซุงทั้งท่อนๆ ไม่ใช่ดูถูกเหยียดหยามเพื่อนฝูง และเหยียบย่ำเพื่อนฝูง ผมรับเพื่อนฝูงไว้แนะนำสั่งสอน มันบกพร่องตรงไหนๆ ก็รู้อยู่เห็นอยู่ ควรเตือนก็เตือน ควรบอก-บอก ควรดุ-ดุ ดีไม่ดีควรขับ-ขับเลยถ้ามันใช้ไม่ได้จริงๆ ขับ คือจนจะดูไม่ได้นะธรรมดูโลก ต่างกันขนาดนั้นละ มองไปไหนนี่แหม ออกแหมเชียวนะ อำนาจของกิเลสครอบไปหมดๆ ไม่มีอะไรที่จะพอเป็นชิ้นดีได้เลย

ยิ่งเข้าในวงราชการงานเมืองแล้วธรรมไม่มีเลย มีแต่พวกมูมมามๆ เหมือนหมาเข้าถาน นี่ละไม่มีธรรมมีแต่กิเลส มันก็มูมมามๆ ตะกละตะกลาม คว้าได้คว้าเอา อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ กฎป่าๆ เถื่อนๆ เอามาใช้กันกินกันกลืนกันไปอย่างนั้น ธรรมดูมันดูไม่ได้นะ ธรรมนี่เฉลี่ยหมดเลยดังที่พูดตะกี้นี้

อย่างวัดนี้พระฝรั่งมีประเทศไหนบ้างๆ เราแยกสันปันส่วนเมืองนั้นประเทศนั้นๆ แบ่งมาๆ เพื่อประโยชน์แก่ที่นั้นๆ ให้ทั่วถึงกัน แม้แต่เมืองไทยเราก็เหมือนกัน ทุกภาคอยู่ในวัดป่าบ้านตาดนี้หมด เรารับเฉลี่ยเผื่อแผ่เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาติและประเทศต่างๆ เราก็แยกอย่างนั้นเหมือนกัน เฉลี่ยเผื่อแผ่ให้ทั่วถึงกันหมด นี่ละธรรม ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่พรรคแก่พวกของตัว สุดท้ายก็ภาคของตัว นี้เป็นอันตรายมาก ถ้าลงว่าภาคเป็นอันตรายมาก เป็นอันตรายต่อชาติด้วย มีพรรคมีพวกก็ไม่ค่อยเท่าไร ถ้ายกภาคเข้ามาแล้วเป็นอันตรายต่อชาติทันที เพราะฉะนั้นจงอย่าแยกพรรคแยกพวกแยกภาค

ภาคนี่สำคัญมากให้ตีออก ให้มีแต่ชื่อเฉยๆ ว่าภาคนั้นภาคนี้ หัวใจอย่าไปติดภาค ว่าภาคนั้นสูงภาคนี้ต่ำ ภาคนั้นชั่วภาคนั้นเลว ให้ปรับปรุงตัวเองทุกภาคนี่ละถูกต้องดีงาม ธรรมท่านเฉลี่ยอย่างนี้ ถ้าลงเห็นแก่พรรคแก่พวกแก่ภาคแล้ว นั่นละอันตรายอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ของดี ใครจะว่าพรรคของตัว พวกของตัว ภาคของตัวดีก็ตาม นี้คือพวกเลวทราม แล้วทำลายตัวเองอีกด้วย พรรคพวกเดียวกันก็ทำลายกัน ถ้าลงมีพรรคมีพวกมีแบ่งสันปันส่วน แยกส่วนแบ่งส่วนไปในทางไม่ดีแล้วจะกระจายทั่วประเทศไทย เสียหายไปหมด เพราะฉะนั้นจึงอย่าแยกอย่าแบ่ง

ใครดีใครไม่ดีให้เตือนกันสอนกันบอกกัน อันพรรคอันพวก อันพวกอันภาค หมายถึงพวกดี ว่าอย่างนั้นต่างหากนะ ใครดีให้เฉลี่ยถึงกันๆ เลวก็ดีดออกๆ อย่าให้เข้ามาติดตัวและพรรคพวกของตัวเอง และเมืองไทยของเรา พากันแยกกันแยะบ้างซิ ศาสนามีอยู่ เมืองไทยเราทำไมเป็นเหมือนสัตว์เดรัจฉาน มันผิดกันที่ไม่มีหางนั่นละ ถ้าจะไปหาจับหาจองเอาหางหมาตัวไหนมันก็จะไล่กัดเอา ลองไปเอาหางไอ้ปุ๊กกี้ไอ้หยองเราดูซิมันไล่กัดเอาหลงทิศ วัดป่าบ้านตาดนี้แตกหมดเลย ไปแย่งหางมันเอามาใส่หางตัวเอง ใส่หางแล้วก็ไม่เหมือนมันอีกแหละ ไม่เหมือนหมาอีกแหละ แต่ความประพฤติมันเลวไปกว่าหมาใช้ไม่ได้นะ

จิตใจอย่าให้ต่ำ ถ้าจิตใจต่ำเสียอย่างเดียวเลวหมดนะ ให้ฟื้นใจขึ้นมา นี่ละที่ว่าธรรมสอนโลกสอนที่ใจนะ ไม่ได้สอนที่วัตถุเงินทองข้าวของ สิ่งเหล่านั้นมีอยู่ตามธรรมดา ทำให้เสียก็ได้ดีก็ได้มันหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับจิตใจผู้เป็นเจ้าของ ถ้าจิตใจเป็นเจ้าของดีแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้นมาหมด ถ้าเจ้าของเลวเสียอย่างเดียวอะไรๆ เลวไปหมด เป็นฟืนเป็นไฟ เป็นพิษเป็นภัยไปหมดนั่นละ ให้ดูหัวใจเจ้าของ พินิจพิจารณาให้ดี

ในนามว่าเราเป็นชาวพุทธ เมืองไทยเรานี้เรียกว่าเป็นชาวพุทธ ๘๐% แต่การประพฤติปฏิบัตินี้เหมือนเปรตเหมือนผี ๘๐% มันเข้ากันได้ไหมล่ะ พระพุทธเจ้าสอนให้ ๘๐% เหมือนหมาเหรอ พิจารณาให้ดีนะ อู๊ย น่าทุเรศจริงๆ ในวัดก็เก้งๆ ก้างๆ แบบพระ ออกไปข้างนอกเลยพูดไม่ได้ละ ดูไม่ได้เลย มันเลอะๆ เทอะๆ คือไม่มีการบังคับตนเองตรวจตราพาที ไม่มีขอบเขต ไม่มีการรักษาตัวเอง ปล่อยเลยตามเลยตามนิสัย นิสัยเป็นนิสัยของกิเลสก็ต้องเป็นอย่างนั้น เขาเหมือนเรา เราเหมือนเขา เลยเลวไปหมดทั่วประเทศเขตแดน ใช้ไม่ได้นะ ให้นำธรรมเข้าไปปฏิบัติ พิจารณาแยกส่วนแบ่งส่วนเจ้าของเอง วันหนึ่งตื่นขึ้นมาจนกระทั่งถึงค่ำ เราทำดีทำชั่วอะไรบ้าง แยกสัดแบ่งส่วนซิ ไม่งั้นจะเสียไปหมดตลอดเวลา เอาละให้พร

 

หลังจังหัน

ผู้กำกับ        เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสถานีวิทยุเขาแจ้งผลการกระจายเสียง และการรับฟังมาครับ

ฉบับแรกมาจากจังหวัดพะเยาครับ กราบเรียนเรื่องสถานีวิทยุที่พะเยา ผ่านมาทางอินเตอร์เน็ตหลวงตา สถานีวิทยุเครือข่ายพะเยา ได้ติดตั้งดาวเทียมและออกอากาศแล้วในเช้าวันที่ 29 ติดตั้งดาวเทียมแล้ว ทำให้ได้รับฟังวิทยุต่อเนื่องมากขึ้น ส่งผลให้การรับฟังธรรมปฏิบัติแท้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้นด้วยเจ้าค่ะ

ขอกราบรายงานผลการรับฟังสถานีเจ้าค่ะ... ตั้งแต่สถานีวิทยุเครือข่ายพะเยาออกอากาศตั้งแต่เดือนมีนาคม 2548 จนถึงตอนนี้ ผู้ฟังวิทยุส่วนใหญ่เป็นพระนักปฏิบัติ คุณแม่ชี คนชราผู้สูงอายุ ครู ประชาชนที่เป็นผู้ใหญ่เจ้าค่ะ และกำลังเชิญชวนให้โรงเรียนรับฟัง และจากการรับฟังธรรมปฏิบัติแท้ขององค์หลวงตา แม้เพียงไม่กี่เดือนก็ทำให้จิตใจสงบเย็นลงแต่ก่อนมาก (จาก ทิวาพร เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุเสียงธรรมที่จังหวัดพะเยา)

ฉบับที่สอง จากอำเภอเมือง จังหวัดน่าน วันที่ 29 กรกฎาคม 2548

กราบนมัสการองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

ตามที่องค์หลวงตาได้เมตตาจัดตั้งสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน ให้แก่ชาวจังหวัดน่านไปแล้วนั้น บัดนี้สถานีวิทยุดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ที่วัดเขาน้อยเทสก์รังสี (วัดป่าเขาน้อย) อำเภอเมือง จ.น่าน ได้ติดตั้งและออกอากาศ โดยรับสัญญาณดาวเทียมที่ถ่ายทอดจากสถานีวิทยุบ้านตาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลการรับฟังเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง คือในพื้นที่ราบสามารถส่งสัญญาณไกลถึง ๔๕ กิโลเมตร ในพื้นที่หุบเขาส่งได้ประมาณ ๑๕-๒๐ กิโลเมตร พื้นที่บนภูเขาสูงบางแห่งไกลถึง ๖๐ กิโลเมตรก็ยังสามารถรับฟังได้ชัดเจน

ด้วยความซาบซึ้งในเมตตาและพระคุณของพ่อแม่ครูบาอาจารย์เป็นที่สุด ลูกจึงได้กราบเรียนผลการดำเนินงานมาเพื่อโปรดทราบ และได้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ คือในคืนวันเข้าพรรษา ได้มีเด็กหนุ่มวัยรุ่น เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ ๖ ขึ้นไปร่วมปฏิบัติธรรมด้วย ปรกติจะมีแต่คนชราประมาณ ๑๕ คนไปปฏิบัติธรรม จากการสอบถามได้ความว่า เขาได้ยินธรรมะขององค์หลวงตาจากวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน ที่คุณยายของเขาเปิดฟัง จึงเกิดความชอบและได้ตัดสินใจขึ้นไป แสดงให้เห็นคุณค่าของสถานีวิทยุเสียงธรรมที่องค์หลวงตาได้เมตตาให้ความอนุเคราะห์ เพราะเสียงธรรมที่แท้จริงย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเวไนยสัตว์ ได้มีโอกาสไหลเข้าสู่กระแสแห่งนิพพานในอนาคตกาลต่อไป

ส่วนการรับฟังสัญญาณเวลาเช้าที่เป็นการถ่ายทอดสด จะมีเสียงซ่าๆ รบกวนนิดหน่อย จึงกราบเรียนองค์หลวงตามาให้ทราบ (ผู้ดูแลสถานีวิทยุเสียงธรรมจังหวัดน่าน)

หลวงตา       เราแน่ใจในธรรมที่เราแสดงออกทุกขั้นของธรรม จนถึงที่สุดของธรรม สุดความสามารถ ถึงที่สุดของธรรม เข้ากันได้เลย ออกจากหัวใจล้วนๆ  พูดแล้วสาธุ เราก็เคยเรียนมา ภาคปริยัติเรียนไปเท่าไรๆ ไม่หายสงสัย เรียนไปมากไปน้อยจนกระทั่งเรียนถึงนิพพาน ยังไปตั้งเวทีตีนิพพานอีกว่านิพพานมีจริงๆ เหรอ นี่เห็นไหมความจำ คือที่เรียนนั่นมันมีกิเลส ผู้ไปเรียนก็มีกิเลส ในคัมภีร์ท่านเป็นธรรมก็จริง แต่ผู้ไปจดจารึกมานั้นก็มีกิเลส หรือเป็นพระอรหันต์ก็มีแทรกกันมา แต่เราถือเอาความจริงว่า ธรรมเป็นความถูกต้องดีงาม เป็นพื้นฐานอันดีสำหรับผู้ศึกษาเพื่อความดีทั้งหลาย จนกระทั่งถึงมรรคผลนิพพาน

การเรียนมาทั้งหมดมันไม่หายสงสัยนะ อ่านไปเท่าไรเรียนไปเท่าไร ตั้งแต่บาป บุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน ความจำนี้จะค่อยเป็นภัยต่อธรรมทั้งหลายเรื่อยๆ ไป มันไม่ได้เชื่อตามที่ท่านสอนไว้ ความสอนไว้นั้นถูกต้องดีงาม เรียกว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้วๆ ไม่มีผิดมีเพี้ยนเลย แต่กิเลสมันเข้าไปแทรกๆ จำไปตรงไหนกิเลสจะเข้าไปตีไปทำลาย จนกระทั่งถึงนิพพาน เรียนไปถึงนิพพานก็ว่านิพพานมีจริงๆ เหรอ นั่น นี่ละเรื่องความจำ ท่านจึงว่าความจำนั้นเอาออกมาจากปริยัติแล้วให้มาเป็นความจริงคือภาคปฏิบัติ เรียนมาแล้วต้องมาปฏิบัติ ไม่มาปฏิบัติก็เหมือนแปลนบ้านแปลนเรือนเรา มีสักกี่แปลน มีกี่ขนาดของแปลนนั้นๆ ก็ไม่สำเร็จประโยชน์อะไร คงเป็นแปลนอยู่เช่นนั้น ต่อเมื่อเราได้เอาแปลนนั้นออกมากางตามความต้องการหรือความสามารถของเราที่จะปลูกบ้านสร้างเรือนได้แล้ว นำแปลนออกมากางแล้วปลูกสร้างตามแปลนๆ ผลก็เป็นปฏิเวธะ เห็นชัดๆ ขึ้นเป็นลำดับลำดาตามที่เราปลูกสร้างตึกต่างๆ หรือร้านอะไรก็ตามแต่ เต็มกำลังของเรา แล้วผลก็ปรากฏขึ้นเป็นลำดับๆ จนเป็นบ้านเรือนสำเร็จโดยสมบูรณ์ เท่ากับปฏิเวธธรรม รู้แจ้งแทงทะลุโดยสมบูรณ์

ท่านแสดงไว้ว่าปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปริยัติได้แก่การศึกษาเล่าเรียน คือแบบแปลนแผนผังของบาป บุญ นรก สวรรค์ มรรคผลนิพพานนั่นเอง ทีนี้เรานำอันนั้นออกมาปฏิบัติ นำออกมาปฏิบัติ ผลปรากฏขึ้นภายในจิตใจของเราและเป็นสมบัติของเราด้วย เรียกว่าปฏิเวธะ ได้รู้แจ้งเป็นลำดับลำดาขึ้นแล้ว นี่ละภาคปฏิบัติเป็นภาคที่แน่นอน อาศัยแบบแปลนคือปริยัติ เรียนมาแล้วให้ปฏิบัติตามนั้น ผลก็ปรากฏขึ้นมา ตั้งแต่สมาธิสมาบัติ ปัญญา กระทั่งวิมุตติหลุดพ้น บาป บุญ นรก สวรรค์ ทะลุไปหมด จากการปฏิบัตินี้แล เป็นที่แน่ใจด้วย

ไม่ได้เหมือนที่เราเรียนมา จนกระทั่งถึงนิพพาน เรียนถึงนิพพานก็ยังว่า หือ นิพพานมีจริงๆ เหรอ นี่คือความจำ ความจริงพอเจอเข้าที่ตรงไหนแม่นยำๆ ยอมรับๆ ตลอดทั่วถึง จนกระทั่งทะลุถึงพระนิพพาน ปฏิบัติไป นิพพานมีจริงๆ เหรอไม่มีสำหรับผู้ปฏิบัติ ไม่มีเลย มีแต่หมุนติ้วๆ นิพพานอยู่ชั่วเอื้อมๆ ตลอดเวลา จนกระทั่งทะลุถึงนิพพาน ไม่ได้เหมือนปริยัตินะ ปริยัติเรียนถึงนิพพานยังไปลูบไปคลำ ลูบคลำมาแต่บาป บุญ นรก สวรรค์ ถึงนิพพาน ลูบคลำไปตลอด สงสัยไปตลอด นี่คือภาคความจำ

เพราะฉะนั้นจึงต้องหาความจริงมาได้แก่ภาคปฏิบัติ มาตัดสินกัน ให้สิ่งสงสัยเหล่านี้หลุดร่วงลงไป ขาดสะบั้นลงไป ด้วยภาคปฏิบัตินี้เท่านั้น ภาคปฏิบัติจึงเป็นสำคัญ ตัดสินลงสุดยอดก็คือปฏิเวธะๆ ความรู้แจ้งในผลของงานของตนที่ปฏิบัติมาโดยลำดับจนกระทั่งทะลุปรุโปร่งถึงนิพพาน เรียกว่าปฏิเวธธรรม ความรู้แจ้งแทงตลอด นี่คือภาคปฏิบัติ เพราะฉะนั้นการแสดงธรรมที่เราได้แสดงออกทั่วประเทศไทย กลายเป็นทั่วโลกไปเวลานี้ เราถอดออกมาจากหัวใจจริงๆ  หัวใจนี้ถอดออกมาจากภาคปฏิบัติซึ่งสืบเนื่องมาจากปริยัติ

ปริยัติเราก็เรียน ขอคุยสักหน่อยว่าจนเป็นมหา เรียนปริยัตินะนี่ สอบได้ถึงขั้นมหา แต่ก็สงสัยตลอดถึงนิพพาน นิพพานมีจริงๆ เหรอ นั่นเห็นไหมล่ะ พอออกมาปฏิบัตินี้ ภาคปฏิบัติผลได้ปรากฏขึ้นมาตรงไหนแน่นอนๆ สะดุดใจๆ ดูดดื่มเรื่อยๆ และดูดดื่มเข้าไปเรื่อยๆ ทีนี้คำว่าการปฏิบัติ-สมาธิมีจริงๆ เหรอ สมถธรรม-ความสงบมีจริงๆ เหรอ ไม่สงสัยเลย ปรากฏในตัวเองเป็นสมบัติของเราด้วย ออกจากนั้นปัญญาทางภาคปริยัติ ปัญญามีจริงๆ เหรอ อันนี้มันไม่เป็น ปัญญาทะลุๆ  วิมุตติหลุดพ้น นิพพานมีจริงๆ เหรอ ทะลุไปเลย ตั้งแต่ยังไม่ทะลุก็นิพพานอยู่ชั่วเอื้อมๆ ที่จะสงสัยว่านิพพานมีหรือไม่มี นิพพานมีจริงๆ เหรอ ไม่มีเลย

ทางภาคปฏิบัติ ปฏิบัติธรรมะขั้นสูงเท่าไรๆ ยิ่งดูดยิ่งดื่มๆ นิพพานเราไม่เคยเห็นเลยก็กลายเป็นอยู่ชั่วเอื้อมๆ นั่นเห็นไหมล่ะ นี่ละภาคปฏิบัติ เราที่ได้นำมาสอนพี่น้องทั้งหลาย เฉพาะอย่างยิ่งที่ออกช่วยชาติบ้านเมืองนี่ละเปิดเผยจริงๆ แต่ก่อนก็สอนพระ ส่วนมากสอนแต่พระเจ้าพระสงฆ์ที่อยู่ในป่าในเขา สอนอรรถสอนธรรม ธรรมะขั้นสูง ขั้นสูงสุดยอด พระสงฆ์จะได้รับก่อนเพื่อน ภาคปฏิบัติสอนไปเรื่อยๆ ต่อมาก็ค่อยกระจาย จนกระทั่งบ้านเมืองเราระส่ำระสายจะล้มละลาย ก็ต้องเอาธรรมเข้าไปช่วย เราจึงประกาศตนว่าเป็นผู้นำ เราได้ออกเป็นผู้นำ

ทีนี้ออกเป็นผู้นำก็นำทั้งวัตถุที่จะพาชาติไทยของเราให้ล่มจม เพราะจิตใจล่มจม จิตใจต่ำทราม จิตใจลากวัตถุทั้งหลาย  ลากชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จมลงไปด้วยกัน เพราะจิตใจต่ำทราม นี่ก็ได้ฟื้นฟูทางด้านวัตถุสมบัติ เงินทองข้าวของ มีเท่าไรขนเข้าๆ สู่ส่วนรวมมีคลังหลวงเป็นต้น จากนั้นก็กระจายธรรมะออกเทศนาว่าการแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศ นี่ละธรรมะออกกระจายฟื้นจิตใจที่ต่ำทราม มันจะล่มจะจม ธรรมะฟื้นจิตใจขึ้นมา วัตถุก็พลอยได้เป็นการฟื้นไปในตัวด้วยๆ เมื่อจิตใจฟื้นขึ้นมา วัตถุก็ฟื้นขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยดีขึ้นมาๆ จนกระทั่งถึงป่านนี้

เราสอนโลกด้วยนามธรรม วัตถุธรรมก็คือการช่วยโลกด้วยวัตถุต่างๆ มีทองคำเป็นต้น จากนั้นก็เป็นนามธรรม กระจายสอนโลกตลอด เวลานี้ก็ออกทางวิทยุทั่วประเทศไทยแล้ว มีแต่ธรรมทั้งนั้น นี่ละฟื้นใจของโลก เราจะไปฟื้นวัตถุสิ่งของให้มันเจริญๆ มันไม่มีอะไรเจริญถ้าใจไม่เจริญเสียอย่างเดียว ถ้าใจเจริญเสียอย่างเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อยดีขึ้นๆ ดีขึ้นหมด แม้ที่สุดขี้วัวขี้ควายก็เอามาเป็นปุ๋ยได้ เห็นไหมล่ะ นี่ละธรรมเอามาเป็นประโยชน์ได้ มันจะเลวขนาดไหนฟื้นขึ้นมาๆ ให้เป็นของดีคนดีได้

ธรรมที่เรานำมาสอนโลกเวลานี้ เป็นธรรมภาคปฏิบัติ เราเรียนมาแล้วเป็นมหา เป็นแนวทาง ออกมาภาคปฏิบัติ ปรากฏผลขึ้นจากการปฏิบัติของตน ตั้งแต่สมถธรรม คือความสงบใจ สมาธิธรรมคือความแน่นหนามั่นคงของใจ จนกระทั่งปัญญาธรรม ความพินิจพิจารณา กระจัดกระจายทางด้านปัญญา ทะลุๆ ฟาดจนสุดขีดเลย นี่ธรรมภาคปฏิบัติ อยู่ในหัวใจนี้หมดแล้ว ทุกขั้นของธรรมตั้งแต่สมถธรรมขึ้นมาจนกระทั่งนิพพานธรรมเราไม่สงสัยเหมือนที่เรียนว่านิพพานมีจริงๆ เหรอ เวลาปฏิบัติเข้านี้ยังไม่ถึงนิพพาน ก็นิพพานอยู่ชั่วเอื้อมๆ มันสงสัยจะไปเอื้อมทำไม นี้ไม่สงสัยนิพพานอยู่ชั่วเอื้อม จนทะลุถึงเลย หายสงสัย นี่คือภาคปฏิบัติ

ธรรมพระพุทธเจ้าจะประกาศมรรคผลนิพพานขึ้นมาจากภาคปฏิบัติ ที่สืบเนื่องมาจากการได้ยินได้ฟังแล้ว ได้ยินได้ฟังเฉยๆ อ่านมาเฉยๆ จำมาเฉยๆ ไม่สนใจปฏิบัติก็เหมือนหนอนแทะกระดาษ ไม่เกิดประโยชน์อะไร หนอนแทะกระดาษเป็นยังไง พวกเรานี่เรียนมาจำได้มากน้อยเพียงไรก็มาโอ้มาอวดน้ำลายกัน แล้วได้ชั้นนั้นชั้นนี้เข้าไปยิ่งไปใหญ่ กิเลสพอกพูนตัว เรียนเพื่อกิเลสพอกพูนตัว ถ้าเรียนเพื่อจะชำระกิเลส เรียนเท่าไร เข้าใจตรงไหนแก้ออกๆ โดยลำดับ แก้ไปโดยลำดับ จนกระทั่งทะลุถึงนิพพาน นิพพานมีจริงๆ เหรอถามที่ไหนล่ะภาคปฏิบัติ

นี่ก็ปฏิบัติมาอย่างนั้นที่สอนโลกออกมาโดยลำดับ จนกระทั่งเป็นผู้นำ สอนโลกทั่วๆ ไปหมด แกงหม้อใหญ่สอน แกงหม้อเล็กก็สอน แกงหม้อจิ๋วก็สอน แต่แกงหม้อเล็กหม้อจิ๋วมีน้อยมาก ส่วนหม้อใหญ่สอนคนทั่วโลก สอนไปเป็นลำดับลำดา จนกระทั่งเวลานี้ม้วนเข้ามารวมเข้ามาทางวิทยุ วิทยุนี้ออกทางนั้นทางนี้กระจายออกจากธรรมของเราที่แสดงออกมา ส่วนมากไม่ค่อยปรากฏผู้ใดที่มาเทศนาว่าการเพื่อช่วยแบ่งเบาเราไปบ้าง ไม่เห็น ก็มีแต่หลวงตาบัวองค์เดียวเทศนาว่าการอยู่ทุกวันนี้ออกทางวิทยุ

ธรรมเหล่านี้เราเทศน์ด้วยความไม่สงสัย เราหมดความสงสัยทุกสิ่งทุกอย่างแล้วไม่ว่าธรรมขั้นใด เราเทศน์ไปไม่มีความสงสัยในธรรมขั้นนั้นๆ ทะลุปรุโปร่งถึงนิพพานเราไม่สงสัย เพราะฉะนั้นการเทศนาว่าการ ถ้าโลกจะพินิจพิจารณาว่าเป็นการองอาจกล้าหาญก็ใช่ แต่เราไม่มีคำว่ากล้าว่าหาญ เราไม่มีคำว่ากลัว มีแต่ธรรมล้วนๆ ซึ่งเหนือความกล้าความกลัวไปหมดแล้ว แสดงออกมาตามหลักความจริงล้วนๆ และกระจายออกไปเข้าสู่จิตใจของประชาชนชาวพุทธเรา แล้วค่อยรู้เนื้อรู้ตัวขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ล่มจมเพราะจิตใจต่ำทรามลากสิ่งเหล่านั้นให้ล่มจม ก็ค่อยฟื้นขึ้นมาตามๆ กัน เนื่องจากจิตใจฟื้น วัตถุทั้งหลายก็ฟื้นไปตามๆ กัน

เพราะฉะนั้นขอให้ทุกท่านจงได้อบรมจิตใจ จิตใจเจริญรุ่งเรืองเสียอย่างเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างจะเจริญไปตามๆ กัน ถ้าจิตใจต่ำทรามแล้วอะไรจะเจริญที่ไหน เมืองใดเจริญ บ้านใดเจริญก็ตาม พูดแต่ลมปาก ความทุกข์ท่วมท้นหัวใจของทุกคนนั่นแหละถ้าไม่มีธรรม ใครจะเอาอำนาจบาตรหลวง เจริญรุ่งเรือง ชาตินั้นประเทศนี้เจริญ มันเจริญตั้งแต่อิฐแต่ปูนแต่หินแต่ทรายแต่กระดาษไอ้หลังลายเท่านั้น ธรรมไม่ได้เจริญที่ไหนมีแต่ความทุกข์ทั้งนั้น ถ้าธรรมเจริญที่ไหนนั้นละความสุขอยู่ที่นั่น

ขอให้พากันสนอกสนใจเรื่องอรรถเรื่องธรรมนะ ธรรมเจริญที่ใจแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่นดีงาม การซื้อการขายไปมาหาสู่ ไม่เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ไม่มีร้อยเล่ห์ร้อยเหลี่ยม ร้อยสันพันคมต่อกัน โลกก็เป็นสุขทั้งเขาทั้งเรา ซื้อกันด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ขายกันด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโดยความเป็นธรรม ทุกสิ่งทุกอย่างก็ราบรื่นดีงาม นี้คือธรรมครองโลก ครองหัวใจคน แล้วกระจายออกไปประสานซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างมีอรรถมีธรรมก็เป็นความสงบตายใจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้ นี่ละธรรม ให้ท่านทั้งหลายนำไปปฏิบัติ

เราสอนธรรมนี้ตั้งแต่ธรรมขั้นพื้นๆ ถึงที่สุด เราไม่ได้สงสัย ถอดออกมาจากหัวใจสอนพี่น้องทั้งหลาย ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็เป็นกรรมของสัตว์ กรรมของเราเราเต็มเหนี่ยวแล้วอยู่ในหัวใจเรา เราไม่สงสัยว่ากรรมของเราเป็นกรรมประเภทใด สูงต่ำประเภทใด เราหายสงสัยหมดแล้ว นำธรรมที่หายสงสัยนี้มาสอนพี่น้องทั้งหลาย ถ้าได้ปฏิบัติตามนี้ความหายสงสัยจะเป็นขึ้นในใจของท่านผู้ปฏิบัติเสียเอง ไม่ได้เกิดขึ้นจากใครแหละ เกิดขึ้นจากเรา พากันไปประพฤติปฏิบัตินะ เราอุตส่าห์พยายามสอนเต็มกำลังความสามารถแล้ว เป็นเวลา ๕๖ ปีนี้ ตั้งแต่สอนโลกมา ที่มาเปิดเผยจริงๆ ก็ตอนมาช่วยชาติบ้านเมืองได้ ๗ ปีนี้ละ เปิดเผยมากทีเดียวอันนี้ แต่ก่อนก็สอนอยู่ทั่วๆ ไป หากไม่ได้ประกาศตนว่าเป็นผู้นำ ซึ่งนำธรรมออกประกาศด้วย อันนี้เปิดเผยทั่วไปหมด

เวลานี้กำลังออกทางวิทยุ ใครอยู่ที่ไหนๆ ได้ยินเสียงอรรถเสียงธรรม มันจะเหาะเหินเดินฟ้าไปลงนรกที่ไหน เมื่อได้ยินได้ฟังจิตสงบ จิตสงบเย็นๆ ลงไป จิตสูงขึ้นเป็นลำดับในความสงบเย็นของตนจากธรรมที่เป็นน้ำดับไฟ คือกิเลสตัณหาเป็นตัวไฟสำคัญเผาที่หัวใจ เมื่อได้ฟังอรรถฟังธรรมเท่ากับน้ำดับไฟ จิตใจมีความสงบเย็นเป็นลำดับลำดา แล้วก็ค่อยเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา แล้วก็ได้คำนวณละที่นี่ เราเกิดมาตั้งแต่เกิดจนกระทั่งป่านนี้อายุเรามีเท่าไร มีกี่ปี กี่เดือน แต่ก่อนไม่สนใจนะ มีแต่คืบแต่คลานแต่ทะเยอทะยานดีดดิ้น เพื่อความร่ำความรวย เพื่อยศถาบรรดาศักดิ์บ้าๆ บอๆ ไปนั่น จะตายเมื่อไรไม่ได้สนใจตัวเอง พอธรรมเข้าสู่ใจเท่านั้นละ ทีนี้จะบวกลบ คูณ หาร ตัวเองไปเองนะ ไม่ต้องมีใครบอก

บวก ลบ คูณ หาร ตัวเอง ตั้งแต่เราเกิดมาจนกระทั่งป่านนี้ เราได้ทำความดีความชั่วอะไรๆ บ้าง ทีนี้จะทดสอบตัวเอง เมื่อธรรมเข้าถึงใจแล้วจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองได้โดยลำดับ แล้วพิจารณา อ๋อ ตั้งแต่ระยะนั้นมาระยะนี้ เราทำความเสียหายอย่างนั้น บัดนี้เราจะทำความดี ทีนี้พลิกตัวให้เป็นความดีต่อไป ก็เลยกลายเป็นคนดี ดีวันดีคืนจนกระทั่งถึงวันตาย คนนี้ดี นั่น คนที่ลืมตัวตั้งแต่วันเกิดมาจนกระทั่งถึงวันตาย คือคนนี้ไม่เคยสร้างความดีงาม ธรรมไม่เคยเข้าสู่ใจ จึงไม่ได้ บวก ลบ คูณ หาร ตัวเอง ตายไปด้วยความล่มจมมีเยอะนะ

ให้ท่านทั้งหลายเอาธรรมนี้ไปพิสูจน์ ความเป็นอยู่ของเราตั้งแต่เกิดมานี้ อาศัยมืดแจ้งมาจนกระทั่งถึงป่านนี้ต่อไปนี้มันก็จะตาย แล้วตายแล้วร่างกายนี้มันลงไปเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ ใจไม่ตาย บุญบาปอยู่กับใจนี้ละ เราจะสร้างบุญหรือสร้างบาป ถ้าสร้างบาปก็สร้างฟืนสร้างไฟ สร้างเวรสร้างกรรมเข้าสู่ตัวเอง ถ้าสร้างบุญก็สร้างผู้พึ่งเป็นพึ่งตายเข้าสู่จิตใจ เอ้า เลือกเฟ้นตั้งแต่บัดนี้ ต่อนี้ไปเราจะไม่ทำความชั่วช้าลามก จะทำแต่ความดีงามเข้าสู่ใจๆ ใจเมื่อมีความดีงาม คืออรรถคือธรรม บุญกุศลหนุนอยู่แล้ว ตายที่ไหนตายเถอะคนเรา ไม่ได้ว่าบนบก ในแม่น้ำที่ไหน บนฟ้าอากาศตายไปได้ด้วยความดี คนที่มีแต่ความชั่วไปตายอยู่บนอวกาศดาวเทียมก็เถอะ จมทั้งนั้นแหละ มันไม่ได้อยู่กับดินฟ้าอากาศ มันอยู่บุญกับบาปในหัวใจ ติดหัวใจเรา อยู่ตรงนี้ ให้พากันสร้างตรงนี้ให้ดี

วันนี้ก็ได้เทศนาว่าการเตือนพี่น้องทั้งหลายให้ได้เข้าใจ เริ่มต้นมาตั้งแต่เขาประกาศทางวิทยุ ออกทางจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมสอนโลก เราก็เลยนำอันนั้นมาต่อกระจายออกไป ให้ท่านทั้งหลายได้นำไปคิดไปอ่านนะ คนเราดีอยู่ที่ศีลที่ธรรมนะ ไม่ได้ดีอยู่ด้วยชื่อด้วยนาม ตั้งชื่อตั้งนามอย่างนี้ใครตั้งก็ได้ ตั้งฟากจรวดดาวเทียมแต่เจ้าของอยู่ใต้ก้นนรกก็มี เป็นอย่างนั้นนะถ้าไม่ดีเสียอย่างเดียว ตั้งฟากจรวดดาวเทียมก็ตามเถอะ เจ้าของลงจมก้นนรก ถ้าตั้งเจ้าของดีๆ แล้วนายขี้นายตดก็ตามมันขึ้นทีเดียว มันมีแต่ชื่อเฉยๆ ไอ้ขี้ ไอ้ตดนั่น มันมีอยู่กับทุกคน ใครเคยขี้ใครเคยตดไหม ใครเว้นไม่ขี้ไม่ตดมีไหมอยู่ในนี้น่ะ มันมีด้วยกันทำไมจะพูดถึงมันไม่ได้เมื่อมันมีอยู่ ตั้งชื่อตั้งนามอะไรก็ตามเถอะ ขอให้ตัวของเราดี ดีทั้งนั้นละ พากันจำเอา เอาละยุติเพียงเท่านี้ก่อนเหนื่อย

(มาจากกรุงเทพฯครับ) มาจากกรุงเทพฯจะไปไหนล่ะ (เป็นรองเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบกครับ) แล้วมาเยี่ยมเหรอ เป็นยังไงวันนี้ถึงได้มาเยี่ยม มีเหตุผลกลไกอะไร (ระลึกถึงหลวงตาอยู่ตลอดครับ) โถ หลวงตาเก่งเลยได้ระลึกถึง สาเหตุที่ได้ระลึกถึงหลวงตาเพราะเหตุใดนี่อันหนึ่ง มันต้องกางออกไปซิ ก็ดีละเข้าวัดเข้าวา ดี เป็นมงคล การพูดว่าเข้าวัดเข้าวานี้ เราไม่ได้พูดแง่เดียวนะ เพราะหัวใจเราเป็นยังงั้น เรื่องของธรรมก็เป็นอย่างนั้นด้วย คำว่าวัดว่าวา วัดวาเป็นส้วมเป็นถานก็มี ไม่อยากเข้าอย่างนั้น ถ้าวัดวาเป็นวัดเป็นวาเป็นศีลเป็นธรรม พระเป็นพระผู้ทรงศีลทรงธรรมเอาเข้าเถอะ ว่างั้นนะ ถ้าแบบเป็นส้วมเป็นถาน พระเณรเป็นมูตรเป็นคูถอย่าเข้า มันมีทั่วโลกเข้าใจไหม เอาละเพียงเท่านั้นละ ไปวัดไปวาเพื่อศีลเพื่อธรรมอย่างนั้นดี

เอาไปแยกนะถ้าว่าหลวงตาพูดผิด พวกวัดพวกวาเหมือนส้วมเหมือนถาน พระเณรเหมือนมูตรเหมือนคูถมี เลอะเทอะเต็มไปหมดในวัดในวา วัดวาจริงๆ คือท่านผู้ทรงศีลทรงธรรมปฏิบัติเพื่อมรรคเพื่อผลจริงๆ นั่นเข้าเถอะว่างั้นเลย ให้เข้าเถอะ อยู่ที่ไหน เอ้า ซอกซอนเข้าไป เอาละพอ ฟังเทศน์วันนี้เป็นยังไง (รู้สึกซาบซึ้งแล้วก็มีความสุขครับ)

เมื่อวานซืนนี้ก็ข้ามไปเวียงจันทน์ เหตุที่ข้ามคือว่าทางโรงพยาบาลเวียงจันทน์เขามาขอเครื่องมือ เฉพาะอย่างยิ่งตา ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เราสนใจมากอยู่แล้ว เราก็เลยรับคำแล้วก็ไป เมื่อวานซืนไป ไปเราก็ไปช่วยเต็มกำลังของเรานั้นแหละ ไปเข้าโรงพยาบาลเลย ถามเครื่องไม้เครื่องมือขาดอะไรๆ เขาก็บอกมาๆ เรารับปุ๊บๆ จนกระทั่งหมดนะ เครื่องมือตา เขาขาดเท่าไรๆ เอาๆ บอกมา บอกมาจดปุ๊บๆ เรารับหมดเลยนะ รวมแล้วเป็น ๘,๓๘๐,๐๐๐ ไปช่วยนะ เมื่อวันที่ ๑ ไปช่วยพี่น้องทางชาวลาวเราก็ดี ทางนั้นสถานทูตไทยเราเป็นผู้นำ มารอรับตั้งแต่เชิงสะพานเขตลาวเขตไทย ทูตไทยเรามาจากเวียงจันทน์มารับไปเลย เข้าเลย จนกระทั่งถึงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ตามมาส่งจนกระทั่งถึงเขต ได้ช่วยทางนั้น ๘,๓๘๐,๐๐๐ ก็หมด บอกว่าเครื่องตา เขาบอกเขาขาดแคลนมากเครื่องตา

คือเขาไปขอที่นู้นก่อน ที่เราไปกรุงเทพฯ นะ เขาติดต่อไปขอทางนู้น เราจึงเปิดทางให้ เอ้อ ให้เรากลับไปอุดรฯ เสียก่อน แล้วค่อยมาติดต่อทีหลัง เพราะฉะนั้นจึงได้ไปเมื่อวันที่ ๑ ไปแล้วก็ให้เต็มเหนี่ยวเลย ขาดอะไรๆ ให้หมดสำหรับตา ว่าเท่านี้เหรอ เท่านี้ รวมแล้วเป็นราคา ๘ ล้านกว่า ก็กลับมา ทางโน้นก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ทางนี้ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ต่างคนต่างยิ้มแย้ม สถานทูตไทยบริการทั้งวันเลย ทั้งแต่มานี้มารออยู่ที่เขตลาว เขตไทย แม่น้ำโขง รับไปนี้ ออกนี้ยังตามมาส่ง จนกระทั่งถึงเขตนี้เหมือนกัน ทูตไทยเอากันทั้งวันเลย

(หลวงตาไปที่ไหนที่นั่นก็มีความสุขฮะ ใครมาหาหลวงตาก็มีความสุขครับ) ใครมาหาหลวงตาก็มีความสุข ไอ้ปุ๊กกี้หมาหลวงตาที่เลี้ยงไว้นี่น่ะ มันมารังแกกันอยู่ต่อหน้าเรา ไม้เรียวหวดเอาเสียหลงทิศ ไม่ทราบว่าไอ้ปุ๊กกี้จะมีความสุขหรือความทุกข์ไม่ทราบนะ มันฉลาดเหมือนกันนะ พอตีจากนั้นมาแล้วไม่รังแกกันเลย นี่ละสอนหมาก็สอน พอเสียงเว้กว้ากๆ ใส่กัน ไม้เรียวมา ก็จับตัวนี้มาหวดๆ ปล่อยไป แล้วจับตัวนี้มาหวดๆ ตั้งแต่นั้นมาเงียบเลย ไม่เคยรังควานกันเลย เห่อๆ ห่าๆ ไม่มีเลย ตัวไหนมีลักษณะเห่อห่า วิ่งหนี คือกลัวไม้เรียว ไม่มีคนก็ตามนะ เขารู้ผิดนะ หมาไม่ใช่เล่น พอเขาห่าๆ ใส่กันเท่านั้น เขาต้องรีบวิ่งหนี คือไม้เรียวจะลงหลังเขา เออ เข้าท่าดีอยู่ เลี้ยงหมามันก็น่าดูนะ หมาก็รู้ หมาก็มีวินัยเหมือนกัน หมาเรามีวินัยเหมือนกัน ยังไม่ให้พรนะ ทีนี้จะให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก