เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
ความเมตตาเหลือล้นพ้นประมาณ
ก่อนจังหัน
วันว่างทางราชการงานเมืองหรือทำมาหาเลี้ยงชีพต่างๆ มาว่างวันเสาร์ วันอาทิตย์นี้ แล้วมารวมความดีเข้าสู่ใจ เหมาะสมแล้วนะ อย่าให้มีแต่วุ่นตลอดเวลา เช้ายันค่ำๆ วุ่นไปกับท้องกับปากเท่านั้น แล้วก็วุ่นไปเพื่อกิเลสตัณหาได้ไม่พอๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สาระนะ สิ่งที่เป็นสาระดังพี่น้องทั้งหลายมาบริจาคทาน นี่ละศาสดาองค์เอกได้เป็นผู้ถึงความเลิศเลอเพราะการให้ทาน ไม่ใช่เพราะการสั่งสมนั้นสั่งสมนี้ใส่พุงท้องป่อง ตายแล้วเน่าเฟะหมดทั้งพุง ไม่มีอะไรเหลือติดตัว ส่วนงานการกุศลที่ท่านทั้งหลายมาบริจาคนี้ละเป็นสิ่งที่เลิศเลอสุดยอด หนุนขึ้นถึงนิพพานคืออันนี้เอง จำให้ดีนะ นอกนั้นไม่ละ แต่มันจำเป็นก็อาศัยเขาไป แต่นี้มันเลยความจำเป็น ถือเอาสิ่งภายนอกซึ่งไม่ใช่สาระมาเป็นสาระเสียหมด แล้วปัดสิ่งที่เป็นสาระนั้นออกจากหัวใจ คือการทำบุญให้ทานไม่มี
เราวิตกวิจารณ์นะ จวนจะตายเท่าไรยิ่งคิดมาก เราหมุนติ้วๆ วันหนึ่งๆ เป็นเพราะอะไร ก็จากเมตตานี้ละไม่ใช่อะไร ไม่ได้อยู่วันหนึ่งๆ มันครอบโลกธาตุ ท่านทั้งหลายเคยเห็นไหมความเลิศเลอ พระพุทธเจ้าเป็นผู้เสาะแสวงหาธรรมเลิศเลอ สาวกทั้งหลายเลิศเลอ นี่เรียกว่าเลิศเลอ เลิศเลอตลอด ว่านิพพานเที่ยง นั่นละเที่ยง เที่ยงตลอดไปเลย เพราะการบุญการกุศลที่เราบริจาคนี้ละ หนุนเข้าๆ ถึงความเที่ยง ไม่ต้องมาวกเวียนเกิดตายกองกันอยู่นี้ จำให้ดี
เราพอใจเห็นพี่น้องทั้งหลายมาเข้าวัดเข้าวาฟังธรรมจำศีล ทำความสงบใจ เหล่านี้เป็นเรื่องธรรมอันเลิศๆ เข้าสู่ใจทั้งนั้น ส่วนภายนอกเราก็ต้องอาศัยเป็นความจำเป็น แต่นี้ภายนอกถือเป็นความจำเป็นมากกว่าภายใน นี่ละโลกทั้งโลกเป็นอย่างนั้น จึงน่าวิตกวิจารณ์ ดังพระพุทธเจ้ารับสั่งกับพระอานนท์ ที่พระอานนท์ทูลถามว่า คนที่จะไปสวรรค์นิพพานกับคนจะลงนรก ทางไหนมากกว่ากัน ท่านรับสั่งว่า อานนท์ โคตัวหนึ่งขนมากเท่าไร เขามากเท่าไร ผู้ที่จะไปสู่ความดีงามถึงสวรรค์นิพพานเท่ากับเขาโคเท่านั้น แต่คนที่จะหลั่งไหลลงสู่ความต่ำจนกระทั่งถึงนรกอเวจีเท่ากับขนโคทั้งตัว นั่นเห็นไหมผู้ที่จะหลั่งไหลลงไปนรกเท่ากับขนโค ผู้ที่จะบืนขึ้นสู่ความดีงามจนกระทั่งถึงมรรคผลนิพพานนี้เท่ากับเขาโค
เราจะเป็นเขาโคหรือจะเป็นขนโค เอาไปปรึกษาตัวเองนะ ให้ดูตัวเองถามตัวเอง เราจะเป็นขนโคหรือเป็นเขาโค ถ้าเป็นเขาโค เอา เสาะแสวงหาความดีงามให้มากๆ เข้าสู่ใจ ธาตุขันธ์ก็พอเป็นไปวันหนึ่งๆ ท่านเหมือนเราเราเหมือนท่าน สัตว์เขาก็กินเหมือนกัน ไม่ค่อยจำเป็นอะไรมากนักยิ่งกว่าหัวใจที่สมบุกสมบันที่จะไปเกิดในภพต่างๆ ไม่มีสิ้นสุด ภพของสัตว์นี้ไม่มีสิ้นสุด ตามแต่กรรมของเจ้าของทำหนักเบามากน้อยกว้างแคบขนาดไหนจำนวนเท่าไร จะรวมอยู่ในหัวใจหมด กรรมดีกรรมชั่วไม่หนีจากใจนะ ส่วนสิ่งเหล่านั้นพังทั้งนั้นเต็มอยู่นี้ พังๆ ทั้งหมด เราพังเขาพัง บางทีเรายังไม่พังเขาพังก่อน เอาอีกแหละที่นี่เขายังไม่พังเราพังก่อน นั่น ส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไม่พัง ติดๆ
ไม่มีใครจะพูดแม่นยำยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก แล้วตักตวงเอามรรคผลนิพพานคือความเลิศเลอมาประกาศธรรมสอนโลกมานี้ทุกๆ พระองค์ของพระพุทธเจ้า นี้ท่านผู้ที่เชื่อถือได้ตายใจได้นะ เรื่องความคิดความเห็นของเราที่ออกไปจากกิเลสหลอกมาตลอด มีแต่เรื่องต้มเรื่องตุ๋นเสียมากต่อมาก ที่ว่าเขาโคกับขนโคให้ท่านทั้งหลายพิจารณานะ
เรายิ่งจวนจะตายเท่าไรน่าจะมาวิตกวิจารณ์กับหัวใจเจ้าของชีวิตเจ้าของ เราบอกตรงๆ ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีเลย มีตั้งแต่ความห่วงใยประชาชนทั้งหลาย สัตว์โลกทั้งหลาย วันนี้ไปนั้น วันนั้นไปนั้นๆ เพราะอำนาจแห่งความเมตตาไม่ใช่เพราะอะไร ที่มันร้อนมันร้อนจริงๆ ที่เย็นเย็นจริงๆ ที่ทุกข์ทุกข์จริงๆ ที่สุขสุขจริงๆ มีเครื่องเทียบเครื่องวัดกันอยู่ สุขจริงๆ ก็คือทางด้านอรรถธรรม บุญกุศลทั้งหลายที่เราทำมานี้ นี้ละพวกที่จะเย็น ถึงเย็นจริงๆ เป็นบรมสุข ไอ้ความชั่วช้าลามกที่ทำไปตามกิเลสหลอกลวงนั้นละจะพาให้จมๆ จำให้ดีนะท่านทั้งหลาย
ธรรมของใคร คำพูดของใคร จะแม่นยำยิ่งกว่าคำพูดของพระพุทธเจ้า ในสามแดนโลกธาตุนี้ไม่มี มีคำพูดของพระพุทธเจ้าเท่านั้นเองที่พูดแล้วแม่นยำๆ หนึ่งไม่มีสอง คือพระวาจาของพระพุทธเจ้าที่รับสั่งออกมาคำใดไม่มีสอง เอกนามกึ หนึ่งไม่มีสองคือพระญาณหยั่งทราบ หยั่งทราบอะไรแม่นยำๆ ไม่มีเคลื่อนคลาดได้เลย นี่เป็นสิ่งที่หายาก ก็ออกมาจากพระพุทธเจ้ามาประกาศธรรมสอนโลก เพียงพระองค์เดียวสอนโลกให้ได้รับความสุขความเจริญมากมาย แม้เช่นนั้นก็ยังสู้ขนโคไม่ได้อยู่นั้นแหละ ขนโคมันยังมากกว่านั้นที่จะแหวกว่ายเล็ดลอดออกไปจากตาข่าย คือพระญาณหยั่งทราบของพระองค์ มันออกไปของมัน มันจมไปของมันมีมากพวกขนโคนะ พวกเขาโคมีน้อย
ให้พยายามนะท่านทั้งหลาย เรานี่วิตกวิจารณ์กับชีวิตของแต่ละคนๆ คือจิตใจดวงนี้ละ มันไม่ได้อยู่นะจิตใจดวงนี้ พอออกจากนี้ปั๊บเข้าร่างนั้นร่างนี้ ร่างนั้นร่างนี้เป็นบุญหรือบาปติดไปด้วยนั่น ถ้ามีบาปมากก็เข้าร่างบาป มีบุญมากเข้าร่างบุญ ร่างบุญคือไปทางความดี เช่น เทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม ถึงนิพพาน นี่ร่างดี ถ้าร่างชั่วลงจากนี้ฟาดถึงนรกอเวจี ให้พิจารณาใคร่ครวญตัวเอง บวกลบคูณหารตัวเองเสียตั้งแต่บัดนี้นะ ตายแล้วนิมนต์พระมา กุสลา ธมฺมา มันน่าตีปากผู้มานิมนต์ แทนที่จะไปกุสลาให้ มานิมนต์ไป กุสลา ให้คนตาย ตั้งแต่มันเกิดมาไม่เคยสนใจกับอรรถกับธรรม เวลาตายแล้วไปลากพระไป กุสลา ธมฺมา ถ้าเป็นหลวงตาบัวจะตีปากเอาเลย มานิมนต์หาพ่อหาแม่มึงอะไร เข้าใจไหม
คำว่าพ่อว่าแม่อย่างนี้เหมือนเป็นคำหยาบนะ แต่เป็นน้ำหนักของธรรมต่างหาก เราไม่มีเจตนาที่ว่าเป็นคำหยาบโลนต่อโลก ธรรมท่านไม่มี เป็นแต่เพียงน้ำหนัก อะไรที่จะเป็นน้ำหนักมาก เน้นหนักลงในจุดนั้นให้พอกันกับสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่มีน้ำหนักมากต่างหากนะ เดี๋ยวจะว่าท่านพูดสกปรกลามก นั้นเป็นเรื่องของกิเลสมันเข้าตัวเสมอ ตัวมันสกปรกมาก แต่ไม่ให้ใครไปแตะว่ามันสกปรก เอะอะก็ว่าสกปรกๆ ตัวมันสกปรกไม่ได้มองดูตัวมัน ธรรมท่านเป็นน้ำหนักชำระล้าง ให้พากันจำเอาๆ
สำหรับพระเราก็เหมือนกัน ให้เร่งความพากความเพียร พูดแล้วพูดเล่าสติเป็นสำคัญ สติเป็นสำคัญมากตั้งแต่พื้นถึงนิพพาน ขอให้มีสติเถอะน่ะ ยิ่งเป็นผู้ประกอบความเพียรเพื่อมรรคผลนิพพานจริงๆ แล้ว สตินี้เป็นพื้นฐานติดแนบกับตัว มีเว้นหลับเท่านั้นนอกนั้นติดกันเลยๆ กิเลสจะหนาแน่นขนาดไหนก็ตามเถอะสู้สติไม่ได้นะ สตินี้เป็นกำลังใหญ่โตที่สุด สติธรรมๆ ขอให้ท่านทั้งหลายนำธรรมพระพุทธเจ้าไปปฏิบัติ ฝึกหัดดัดกายวาจาใจ ความประพฤติ หน้าที่การงานของตน ให้ถูกต้องตามเหตุตามผลดีงามทั้งหลาย อย่าปล่อยเลยตามเลย เถลไถลจนเป็นนิสัย ไม่มีการหักห้ามตนเองด้วยเหตุผลกลไกว่าควรหรือไม่ควร
อยากทำอะไรทำอันนั้นๆ แล้วก็จมไปเรื่อยๆ ไม่รู้ตัว ธรรมฉุดลากอยู่นี้มันก็ไม่ฟัง นี่ละธรรมพระพุทธเจ้า จะนำโลกให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งหลายได้คือธรรมเท่านั้น กิเลสไม่มีทาง แต่คนก็จมไปกับกิเลส พอใจกับกิเลส ทุกข์ยากลำบากขนาดไหนไม่มีเข็ดหลาบอิ่มพอคือกิเลสหลอกสัตว์โลกผู้โง่เขลา จำเอานะ เอาละให้พร
หลังจังหัน
(โรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย มาขอความเมตตาอนุเคราะห์เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้า) นี่กำลังพิจารณาเรื่องทางเวียงจันทน์ ประเทศลาว อันนี้เวลานี้จุดจะลงอยู่นั้นหนัก จิตไปจ่ออยู่นั้นหนักอยู่ ทางอื่นจึงพักไว้ๆ ก่อน จะคอยฟังเรื่องโรงพยาบาลเวียงจันทน์ เพราะนี้เป็นโรงพยาบาลของเมืองหลวงประเทศลาว ที่ไปติดต่อขอเวลาที่เราไปพักอยู่สวนแสงธรรมนั้น ว่าขาดแคลนมาก แต่เวลาขอขอเพียงสองอัน เครื่องผ่าตัดตาและเครื่องวัดความดันลูกตา ราคา ๓ ล้าน ๔ แสน นี่ตกลงแล้วกำลังสั่ง เรายังเปิดทางไว้ เราไม่สนิทใจ ขาดแคลนมากมายแต่เวลามาขอขอเพียงสองอัน คงจะเกรงใจมาก เราคิดอย่างนั้น เราจึงเปิดทางไว้ เวลานี้ดูเหมือนเกี่ยวข้องกับอะไรที่ผ่านไปมาลำบาก วันที่เท่าไรๆ ที่มันเกี่ยวข้องกันหมด ยังติดต่อไม่ได้(เขาจะมาภายในวันนี้พรุ่งนี้แหละครับ แล้วจะกราบเรียนให้ทราบครับ) คือจุดใหญ่เรารออยู่จุดนี้ เพราะฉะนั้นจึงให้พวกเรารอไว้ก่อน เพราะพวกเราก็ได้มากต่อมากแล้ว อันนี้เป็นประเทศลาว พี่น้องแขนซ้ายแขนขวา
เมืองไทยเมืองลาวนี่คือแขนซ้ายแขนขวา เราดูพงศาวดารนะ ไม่ได้มาพูดมาด้นมาเดา มันกอเดียวกัน มานี้เป็นพรรคเป็นพวก แล้วมีหัวหน้าหัวตา เราดูพงศาวดารอย่างชัดเจนนะ เพราะฉะนั้นเราจึงพูดและสนิทใจด้วยกันว่า เมืองไทยกับเมืองลาวคือแขนซ้ายแขนขวา ออกมาจากกอเดียวกัน เป็นแต่เพียงว่าหัวหน้าทะเลาะกัน หัวหน้าทะเลาะกันก็รบกัน คนนั้นแพ้ คนนี้ชนะ ไทยชนะ ลาวแพ้ หัวหน้ารบกัน มันเอาพวกนี้แยกกันออกต่างหาก แขนซ้ายแขนขวา มันก็ติดอยู่ในร่างกายคือกอเดียวกันนั่นแหละ เราดูแล้วพงศาวดาร จึงว่าเป็นอันเดียวกันมันแยกไปได้ยังไง แขนซ้ายแขนขวาแยกจากร่างกายได้ไง กอเดียวกัน แขนซ้ายแขนขวาออกจากกอเดียวกัน
นี่กำลังพิจารณาอยู่ แล้วขาดอะไรที่จำเป็นจริงๆ เวลานี้ (เครื่องกระตุ้นหัวใจค่ะ) เอา ให้ แล้วให้หมออ้วนสั่งเลย แต่ทางเวียงจันทน์เราจะรอทางโน้นมาก่อน คือฟังแล้วรู้สึกเขาเกรงใจเรามาก ว่าขาดแคลนมาก แล้วก็โรงพยาบาล เวียงจันทน์เป็นเมืองหลวงว่าไง ว่าขาดแคลนมาก เวลามาขอขอเพียงสองอย่าง เราก็ให้ทันทีเลย มีเงื่อนต่อกันอยู่ว่า เวลาว่างให้มาติดต่อกัน ทางนี้กับทางเวียงจันทน์ จึงรอ เวลานี้ดูเหมือนเขามีงานอะไรๆ อยู่ ก็คงไม่นานจะมาหาเรา อันนี้อันหนึ่งที่เราจ่ออยู่เวลานี้ที่จะช่วยเต็มกำลังความสามารถของเรา อะไรจึงต้องพักๆ พวกเราก็ได้รับการสงเคราะห์สงหาจากกันและกันมามากต่อมากแล้ว อันนี้แขนซ้ายเข้ามาอาศัยแขนขวา แขนขวาจะมีกำลังมากน้อยยกขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ไม่รู้แหละ นี่ละเรื่องราวมัน คอยฟังก่อน คิดว่าจะไม่น้อยละ
โห อำนาจความเมตตานี้แหม พิลึกนะ มันแบกสามโลกธาตุไม่ใช่ธรรมดานะ ตัวเท่าอึ่งมันเป็นอยู่ในหัวใจจะว่าไง ไปนั้นไปนี้หยุดโน้นหยุดนี้เพราะอะไร ก็เพราะเมตตา ไม่ใช่เพราะอะไรนะ โห พิลึกพิลั่น เออ เครื่องกระตุ้นหัวใจมอบให้หมออ้วนเป็นคนสั่ง หมออ้วนเป็นผู้รับภาระในการสั่งเครื่องมือแพทย์อะไรๆ เพราะเป็นหมอ เพราะฉะนั้นโรงพยาบาลโนนสะอาดจึงได้พิเศษ ไม่พิเศษยังไง เห็นไหมตึกหลังนี้ ๒๒ ล้าน มีอำเภอไหนได้ นี่ได้ ๒๒ ล้าน อีกหลังหนึ่ง ๘ ล้าน เป็น ๓๐ ล้าน นี่หมายถึงตึก ส่วนเครื่องอะไรๆ เราให้
แต่เขาเกรงใจเรามาก ถึงขนาดเราต้องเข้าไปห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลแต่ละห้องๆ เข้าเลย ถามอะไรก็พอเป็นไปๆ เราก็ดู หลายครั้งหลายหนเข้าทีนี้เลยไปหมดทุกห้อง เราไปเองนะ บึ่งเข้าเลยห้องนั้นห้องนี้ ห้องนี้มีอะไรจำเป็นๆ ไล่ไปหมดทุกห้อง ทีนี้ไล่เบี้ยมาบังคับให้หมออ้วนจดเลย สั่งนั้นๆ ให้ตลอด ย้ำเข้าอีกๆ ตกลงเลยได้ตึกใหญ่ ๒๒ ล้าน แล้วอีกตึกหนึ่ง ๘ ล้าน กำแพงเราก็ให้เลย เห็นว่าโรงพยาบาลโรงนี้รับภาระมากที่สุด เราสั่งอะไรในโรงพยาบาลทั่วประเทศไทย หมออ้วนจะเป็นคนรับรองสั่งหมด เพราะฉะนั้นจึงควรจะได้เป็นกรณีพิเศษบ้าง สมชื่อสมนามว่ารับใช้พวกโรงพยาบาลทั้งหลาย เรื่องราวเป็นอย่างนั้น
เรื่องการช่วยชาติช่วยอะไรๆ นี้ ถ้าเรามีเงินกองเท่าภูเขาจะชั่วระยะสัก ถึง ๕ ชั่วโมงเหรอ หมดเลยเกลี้ยงเลย ไถราบเลย อำนาจความเมตตานี้มันรุนแรงมาก เข้าใจไหม มันจะเป็นเครื่องมืออันใหญ่โตเลยทีเดียวเมตตานี่ กองเท่าภูเขาก็มาเถอะสมบัติ เมตตานี้ไถทีเดียวขาดสะบั้นไปเลย เป็นอย่างนั้นนะ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มีเงิน จะมีมายังไง ความเมตตาเหลือล้นพ้นประมาณ มีเท่าไรออกหมดๆ คิดดูซิช่วยชาติบ้านเมือง บาทหนึ่งเราไม่เคยแตะ ฟังซิ แตะได้ยังไงความเมตตาครอบ มาอันใดปัดออกๆ จะเอาอะไรมาเก็บ เป็นอย่างนั้นละ เราถึงพูดได้เต็มปากในการช่วยชาติบ้านเมือง ช่วยด้วยความเป็นธรรม ไม่ได้มีเรื่องกิเลสที่จะมาแฝงแม้เม็ดหินเม็ดทรายว่างั้นเลย ในหัวใจเรา ด้วยเหตุนี้จึงบริสุทธิ์สุดส่วนทุกอย่างที่ปฏิบัติต่อโลก
เราก็พูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยตามอรรถตามธรรมเหมือนกัน ไม่สะทกสะท้าน พูดตามหลักความจริง ใครผิดผิด ใครถูกถูก เอาอย่างขาดสะบั้นไปเลยได้เหมือนกัน น้ำหนักของธรรม น้ำหนักของความชั่ว น้ำหนักของธรรมเป็นความสะอาดชะล้างกัน สกปรกมากความสะอาดคือน้ำก็ต้องเทลงจ้ากๆ ละซี เป็นอย่างนั้นละ ที่จะไปเกรงคนนั้นคนนี้ ธรรมไม่มี เหนือโลกสงสาร ครอบโลกสงสารด้วยความเมตตาอีกด้วย ถึงจะแผดเป็นฟ้าผ่าฟ้าร้องขาดสะบั้นมาก็ตาม...เสียงนะ แต่ฝนตกมาเย็นไปหมด นั่นเห็นไหมล่ะ พอฟ้ากระหึ่ม อ้าว นี่ฝนจะตกแล้วนะ ไปหาอะไรมารองน้ำ เห็นไหมล่ะ
อันนี้ก็เหมือนกัน เปรี้ยงๆ มีแต่เสียงฟ้าฝนจะตกทั้งนั้น เราพูดจริงๆ เราอยากให้ดูหัวใจเรานี่ ดูกิริยาที่พูดออกมาด้วยอำนาจพลังของธรรมทั้งนั้นนะ จะมาว่าเราดุเหรอ ความดุของกิเลสกับความเด็ดเดี่ยวของธรรมมีน้ำหนักเท่ากัน ไม่งั้นแก้กันไม่ตก ถึงเวลาเด็ดเด็ดเต็มที่ธรรม ธรรมไม่เด็ดไม่ได้กิเลสไม่พัง กิเลสเอาธรรมพัง ถึงเวลาเด็ดๆ แต่เป็นธรรมล้วนๆ เลย ไม่มีคำว่าพิษว่าภัย ขนาดไหนก็ตาม เราจึงพูดได้เต็มปากว่า กิริยาของเราที่แสดงออกต่อโลกทั้งมวล เรียกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นคุณค่าทั้งนั้นไม่ผิด แน่ไปเลยๆ เพราะพิจารณาเต็มส่วน ออกจากความถูกต้องๆ ไปทุกสัดทุกส่วน ไม่ว่าเด็ดเผ็ดร้อนอะไรก็ตาม นิ่มนวลอ่อนหวานก็ตาม จะออกไปตามจังหวะๆ ที่ควรจะออกของธรรมๆ ที่จะให้กิเลสมาแทรกไปโมโหคนนั้นจะฆ่าคนนี้ไม่มีเลย มีแต่ธรรมล้วนๆ ท่านทั้งหลายให้จำเอา
จึงว่าอยากให้ได้มาดู ไม่ได้ดูที่ไหน จะว่าเราคุยหรือโม้ก็ตาม อยากให้ดูหัวใจเราว่างี้เลยที่มีต่อโลกขนาดไหน พระพุทธเจ้าเป็นยังไง นี่ตัวเท่าหนูเท่านี้มันยังกล้าพูดได้ป้างๆ เพราะอะไร เพราะมันเต็มอยู่ในหัวใจไม่พูดได้ยังไง นี่น่ะ เปิดออกมันก็เห็นอยู่อย่างนี้ หัวใจพระพุทธเจ้าเป็นยังไง หัวใจสาวกก็เหมือนกัน ลดลงมาๆ แต่จ้าเหมือนกัน พระพุทธเจ้าเป็นที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นจึงสามโลกธาตุพระพุทธเจ้าสอนได้หมดเลย พระสาวกผู้เชี่ยวชาญเป็นบางองค์ ลดกันลงมาการสอนโลก
พระพุทธเจ้าเรียกว่าเอกแล้วละ สอนได้ทั้งสามโลกธาตุ เปรต ผี นรกอเวจี เข้าถึงหมดเลย พระญาณหยั่งทราบได้หมดไม่มีอะไรปิดกั้น พระญาณหยั่งเข้าไม่ถึงไม่มี พระญาณของพระพุทธเจ้า สมควรแล้วที่ว่าเป็นศาสดาเอกของโลก ถ้าเราไม่เชื่อพระพุทธเจ้านี้เราจะไปเชื่อใคร ก็หัวใจใดมีแต่กิเลสเครื่องหลอกลวงต้มตุ๋นเจ้าของทั้งนั้น เป็นภัยต่อเจ้าของยังไม่รู้ตัว ธรรมท่านชี้บอกตรงไหน ให้ชะล้างตรงไหน ยังไม่ยอมฟังเสียงนะ ไปคว้าหามูตรหาคูถมาใส่ตัว คนทั้งคนเห็นแต่มูตรแต่คูถ ไม่เห็นอรรถเห็นธรรมติดตัวบ้างเลยดูได้ไหมมนุษย์เรา มีค่าที่ไหน มันไม่มีถ้าเป็นอย่างนั้น
กิริยาที่ทำต่อโลกก็อย่างที่ท่านทั้งหลายเห็นนี่แหละ กิริยาอะไรสูงต่ำดำขาวพอเข้ากันได้กับโลกก็เอามาใช้กับโลกอันนี้ ถึงอย่างนั้นมันยังมีผาดโผนกว่าโลกไปอีกก็ยังมี เวลามันรุนแรงของธรรมเป็นได้นะ นี่ละกิริยาที่เอามาใช้ต่อโลก เรียกว่าโลกยอมรับกัน กิริยาการแสดงออกอันใดที่โลกพอยอมรับกันได้ก็เอาออกตามนั้นๆ เลยจากนั้นแล้วโลกไม่รู้ นั่นละธรรม ไม่งั้นจะเรียกว่าเลิศเลอได้ยังไง เพียงหัวใจเดียวนี้เท่านั้นยังอยากประกาศ อยากให้ท่านทั้งหลายมาดู หัวใจดวงนี้เป็นยังไง อยากว่างั้น ฟังซิน่ะ
เป็นยังไงถึงพูดได้ขนาดนั้น เกิดมาแต่โคตรพ่อโคตรแม่ของหลวงตาบัวไม่เคยรู้เคยเห็นมันก็มารู้ขึ้นที่นี่ เมื่ออยู่ในกำมือของเราแล้วแบออกมาจะไม่เห็นยังไง นี่น่า ว่างั้น แต่ก่อนไม่มีอะไรจะแบก็มีแต่มือเปล่าๆ ทีนี้เวลามันมีอันนี้อยู่แบออกก็เห็นไหมนี่ นั่น อรรถธรรมที่เป็นในหัวใจก็เหมือนกันนั่นแหละ เปิดออกนี้จ้าไปเลย เอาธรรมสอนโลกนี่สอนโกหกเมื่อไร จริงจังทั้งนั้นๆ จะว่าอะไรก็ตาม ตำหนิติเตียนขนาดไหนก็ตาม ถูกทั้งนั้นๆ ส่วนเขาจะปฏิบัติตามหรือไม่ตามเป็นเรื่องของเขา ส่วนธรรมนี้ถูกต้อง ไปเก็บไว้ในลิ้นชักก็ถูกต้องสง่างามอยู่ในนั้น
ไอ้มูตรคูถๆ ออกประกาศโลกโฆษณาว่าเป็นของดิบของดี มันก็เหม็นคลุ้งอยู่ทั่วโลก ส่วนธรรมจะเอาไว้ในลิ้นชักไม่เอาออกมา ก็หอมหวนชวนชมอยู่ในลิ้นชัก ธรรมเป็นอย่างนั้นนะ ธรรมพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นการแสดงธรรม พูดด้วยความถูกต้องแม่นยำ ใครจะเอาไม่เอาก็แล้วแต่ใคร ใครจะเอาอันไหนก็ให้แล้วแต่ มูตรคูถมันก็มี ธรรมก็มี ให้เลือกเอา ก็มีเท่านั้นเอง นี่ก็ไม่นานจะติดต่อทางเวียงจันทน์มา ถ้าหากว่าพอไปได้เราก็จะไป เราก็เคยพูด ถ้าพอไปได้เราไป นั่นละไปแล้วซอกแซกหมดทุกห้องเลยละโรงพยาบาล เข้ากระทั่งครัว ถ้าลงได้ไปที่ไหนแล้วเป็นอย่างนั้นละ ละเอียดลออ ได้นั้นมาแล้วทีนี้ทำได้โดยถูกต้อง คนอื่นเล่าให้ฟังอะไรเรายังไม่แน่ใจ ถ้าเป็นเรื่องของเราไปเจอเองนี่แม่นยำทุกอย่าง
นี่ก็คอยฟังเวียงจันทน์เรา เวียงจันทน์กับประเทศไทยเราก็เป็นแขนซ้ายแขนขวาแยกกันออกเมื่อไร เราดูมาตั้งแต่พงศาวดาร ว่าไม่ได้ดูหรือพงศาวดารหลวงตาบัว ดูเหมือนกันนี่นะ ต้นตอมันมาจากไหนๆ แรกก็ออกมาจากเมืองจีนเมืองนั้นเมืองนี้ เดี๋ยวนี้เราจำไม่ค่อยได้ แต่เอาเรื่องความจริงมาพูดจากที่ดูมาตลอด มันเป็นอันเดียวกัน เพียงแต่เป็นแขนซ้ายแขนขวา กออันเดียวกัน ออกมาจากโน้นด้วยกัน เท่านั้นเอง ครั้นมาหัวหน้าก็มาแยกเป็นหัวหน้าทางนั้นๆ ทางนี้เป็นหัวหน้าทางนี้ หัวหน้าทะเลาะกัน ทะเลาะกันก็คนนั้นแพ้คนนี้ชนะ เช่นอย่างไทยชนะ ลาวแพ้ ก็หัวหน้ามันนั่นเองพาให้เป็น ไอ้พวกลูกน้องมันจะไปแพ้ไปชนะที่ไหนใช่ไหม มันก็อย่างเดิม หัวหน้ามันต่างหากทำให้แตกให้แยก ก็เลยถือกันว่าประเทศนั้นประเทศนี้ไปเสีย สำหรับธรรมเราเราไม่ถือ ด้วยเหตุนี้จึงเสมอกันหมดเลยธรรมเป็นอย่างนั้น โลกมันถือมันแยกมันแยะ ดูถูกเหยียดหยามยกยอปอปั้นกันไปอย่างนั้น ธรรมไม่มี
วันนี้ก็มีเท่านั้นแหละ เอาแค่นั้นก่อนนะเรากำลังหนัก อยู่ทางนอกก็พักไว้มีเยอะนะ ไม่ว่าแต่เวียงจันทน์นะ อยู่ข้างนอกพักไว้เยอะอยู่ คือมันเหลือกำลังเรา ไอ้เรื่องเงินมีเท่าไรก็ฟังเอาเถอะ หมดไม่มีเหลือ ไม่มีใครจะทุกข์จนยิ่งกว่าเรา แต่ไอ้พวกที่มาขอมาขอกับทุคตะเข็ญใจ เศรษฐีเต็มบ้านเต็มเมืองมันไม่ไปขอนะ มันมาหาขอกับคนที่ทุกข์ๆ จนๆ นี่นะ มันก็แปลกอยู่ หือปั๊กว่าไง (เจ้าค่ะ ขอเศรษฐีไม่แน่นอน ไม่แน่ใจ ขอหลวงตานี้แน่นอนอยู่แล้วเจ้าค่ะ) โธ่ๆ เข้าท่าเว้ย ตอบเข้าท่าดี (ก็เพราะหลวงตาเมตตาครอบโลกธาตุ) เอาละๆ ผ่านได้ เรียกว่าผ่านได้ เหตุผลเข้ากันได้แล้ว ใครมาขอมันก็ได้อย่างนี้ละเห็นไหมล่ะ ก็ได้ไปแล้วเอาจนได้ว่างั้นเถอะ ไปขอเศรษฐีเขาไม่ให้
(เพราะมันขาดแคลนจริงๆ ถึงได้มากราบขอหลวงตา) ก็ย้อนมาอีกบ้างซิ ทีนี้เราก็จนจริงๆ ดูบ้างซิน่ะ มีแต่ขาดแคลนๆ ไอ้คนที่จนจริงๆ ไม่ดูกัน อันนี้ซิมันจึงยุ่งเข้าใจไหม ค่อยเฉลี่ยไปนี้ละไม่ไปไหน เงินพี่น้องทั้งหลายมานี้ไม่มีของใครนะ มีเพื่อโลกเท่านั้น ที่เขาถวายเราเท่าไร ไม่มีความหมายนะ แบบเดียวกันหมด เขาถวายเราเท่านั้นเท่านี้ไม่มี เรื่องความหมายไม่มีเราไม่เคยสนใจ ลงทุ่มไปด้วยกันหมดเลยทั่วโลก เป็นอย่างนี้ตลอดมาตั้งแต่เริ่มสร้างวัด ไม่เคยเก็บสั่งสมอะไรเลย ปัจจัยช่วยโลกตั้งแต่โน้น สถานสงเคราะห์ละทีแรก มาสร้างวัดทีแรกเขาก็มาขอนั้นขอนี้ให้ โรงเรียนหลังนั้นหลังนี้ๆ แล้วก็ก้าวเข้าสู่โรงพยาบาล ทีนี้เลยไปทั่วโลก เป็นอย่างนั้นละ ไม่เคยเก็บ เก็บอะไร อะไรเลิศยิ่งกว่าธรรม ธรรมพอหัวใจแล้วพอหมด ไม่มีอะไรที่เหนือธรรมพอที่จะมาปัดธรรมออก เอามูตรคูถเข้ามาบรรจุ ไม่ได้ เอาละนะเท่านั้นละ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |