เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
ปล่อยหมาเข้าถาน
ก่อนจังหัน
เรื่องสอนพระก็ได้สอนเน้นหนัก แล้วบางรายทางในครัวเขียนจดหมายมาเล่าเรื่องผลของการภาวนา ขึ้นพุทโธๆ ถี่ยิบ สักเดี๋ยวเท่านั้นจะได้ครึ่งวินาทีเหรอ จดหมายมาหาเรา ท่องพุทโธๆ ถี่ยิบ จากนั้นก็กระจายออกไปเป็นบ้าถี่ยิบไปเลย สุดท้ายลงเป็นมหาบ้า จำเอานะจดหมายของใครที่ส่งมาหาเรา บอกแล้วมันไม่ได้ฟังนี่ บอกว่าพุทโธถี่ยิบ คือสังขารมันออกช่องเดียวกัน อวิชชาดันออกมาให้สังขารอยากคิดอยากปรุงอยากเป็นกำลัง นี่ละตัวกิเลสมันอยู่ในใจ อวิชชาอยู่ในใจมันดันออกมาอยากให้คิด
ทีนี้เอาธรรมเช่นอย่างคำบริกรรมพุทโธ หรือคำใดก็ตามขอให้เป็นคำบริกรรมที่ติดแนบอยู่กับจิตเป็นธรรม แล้วสติติดอยู่ตรงนั้นเลย มันจะเป็นคลื่นทะเลหลวงมาก็ตามกิเลสนั่นน่ะ ไม่เหนือสติปัญญาไปได้ สติปัญญาตั้งให้ดีๆ อกจะแตกนู่น ขนาดนั้นนะ ก็เราทำมาแล้วนี่ เราพูดให้ฟังด้วยเหตุผลของเราที่ทำมาแล้ว ฟังซิที่ว่าระฆังดังเป๋ง นักมวยต่อยกัน คือเลขลงตัวเรียบร้อยแล้วด้วยการพิจารณา จิตเราเสื่อมได้ปีกับห้าเดือน ๑๔-๑๕ วัน ขึ้นได้สองคืนสามคืนลงตูมเลย ไม่รอไม่ฟังใครทั้งนั้น หัวเราก็แตกไปเลย มันทับเอาอำนาจของความเสื่อม กิเลสนะ
จึงได้มาทบทวนไปมาว่ามันจะขาดคำบริกรรมนี่ละ ตั้งสติใส่จิตเฉยๆ มันมีเวลาแฉลบออกไปได้กิเลส จิตของเราจึงเสื่อมได้ เอาคราวนี้เราจะเอาคำบริกรรมติดกับจิต สติติดแนบไปปิดทางช่องเดินของสังขารออกจากอวิชชา มันดันออกๆ ทีนี้ก็เอางานของธรรมคือคำบริกรรมปิดกึ๊กเลย สติติดแนบลงนั้น เอา ระฆังดังเป๋งจับปุ๊บเลย ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับไม่มีขณะใดเลยเราจะเผลอ ฟังซิน่ะ ระฆังดังเป๋ง คือต่อย นักมวยเข้าวงในกัน วันแรกนี้เหมือนอกจะแตกนะ ตายก็ตาย เอาตายสู้กันเลย ดูกันมันจะเป็นยังไง เราทำมาทุกอย่างแล้วยังเหลืออยู่อันนี้ช่องเดียว
เรื่องความเสื่อมความเจริญอย่ามายุ่ง ว่างั้นเลย เอ้า เสื่อมไป เจริญไปไหนก็เจริญไป คือเราชอบพุทโธติดนิสัยของเรา แต่คำบริกรรมกับสตินี้จะไม่ปล่อย เอ้า ตายลงนรกอเวจีก็จะเอาพุทโธนี้ติดไปด้วย ไปนรกด้วยกัน ซัดนี้คืนแรก ฟังซิท่านทั้งหลาย เอาตัวอย่างอันแท้จริงมา เหมือนอกจะแตกนะมันดันๆ มันอยากออก สติกับคำบริกรรมปิดไว้ๆ หนัก นี่ละที่เราได้มาพูดว่า เอ้า กิเลสมันจะหนาแน่นเป็นคลื่นทะเลหลวงมาก็เถอะ พ้นอำนาจของสติไปไม่ได้ สติจับปุ๊บนี่ต้านกันแหลก พอวันหลังค่อยเบาลงๆ จากนั้นเบาลงๆ แต่สติไม่มีถอย นี่ละผลของการตั้งสติ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ เอา มันจะตายให้ตายสักหน่อยเถอะน่ะ เราทำมาแล้วไม่ตาย ได้ผลมาพูดให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายฟัง
กิเลสมันเก่งขนาดนั้นนะ เรื่องธรรมก็เก่งขนาดเดียวกัน เอามาใช้นี่พังเลยกิเลส ความที่มันดีดมันดิ้นมันอยากคิดอยากปรุง สงบลงๆ ทั้งๆ ที่วันแรกเหมือนอกจะแตกจริงๆ แต่ไม่ถอย ทีนี้วันหลังก็เบาลงๆ แล้วก็พุ่งเลย เรื่องเจริญแล้วเสื่อมๆ ข้ามหัวมันไปเลยที่นี่ นั่นแหละเป็นคติตัวอย่าง
เพราะฉะนั้นนักปฏิบัติทั้งหลายใครก็ตาม ขอให้จับอันนี้ไว้ให้ดี สอนนี้สอนแม่นยำเสียด้วย ไม่ได้สอนลูบๆ คลำๆ สอนด้วยเราผ่านมาแล้ว ผิดถูกเป็นครูสอนเรามาแล้ว เราก็นำมาสอนโลกทั่วๆ ไปให้พากันจำ นักปฏิบัติอย่าเหลาะๆ แหละๆ นะให้จริงให้จังทุกอย่าง พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่จริง จริงทุกอย่างเลยเทียวไม่มีเหลาะแหละ ให้พากันไปปฏิบัติ อย่าสนใจกับสิ่งใด ไม่มีสิ่งใดเป็นภัยต่อเรา มีแต่กิเลสที่หัวใจเรานี้เป็นภัยต่อเรา และมีธรรมเท่านั้นจะปราบกิเลสได้ มีสติธรรม ปัญญาธรรม เอาวิริยธรรมหนุนกันเข้าไป ขันติธรรมบีบเข้าไป บีบกิเลสเข้าไป มันจะยอมนะ จำให้ดีทุกคนๆ
ศาสนาพุทธกระเทือนโลกมาสามแดนโลกธาตุ เป็นเวลา ๒๕๐๐ กว่าปี ผู้ผ่านพ้นไปได้ตามเสด็จพระพุทธเจ้าด้วยความจริงจังไปได้ก็เยอะ ผู้ที่จมลงไปเลยๆ ก็เยอะ เราจะเอาแบบจมไปเลยเยอะ หรือจะเอาตามพระพุทธเจ้าไปก็เยอะ เอาแบบไหนดูตัวของเรา เวลานี้ยืนอยู่ทางสองแพร่ง มันจะไปแยกไหน แยกนรกอเวจีหรือจะแยกสวรรค์นิพพาน ดูตัวเราเองนะ เอาละให้พร
หลังจังหัน
(โรงพยาบาลศูนย์อุดรมาขอเครื่องแอร์ ๖-๘ ตัว ประมาณ ๕ แสนเพื่อติดในตึกรวมเมตตามหาคุณ) เออ ให้ มีแต่ให้ๆ เงินยังไม่มีสักแปนะ จะค่อยหาเอานั่นแหละ หาเอาตามนี้ บอกเขาแล้วบางทีดุ ว่าเศรษฐีกุฎุมพีมีเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มประเทศไทยเราทำไมจึงไม่ไปขอ หลวงตาบัวจนจะตาย หลั่งไหลมาขอหาอะไร มาขอเขาได้อย่างนี้เขาก็มาซี นี่ ๕ แสนให้แล้วค่าแอร์ ตึกนี้เราก็สร้างให้ เขามีแบบแปลนมาสองชั้น เราก็สร้างให้สองชั้นเลย ๓ ปีกลับมาอีกแล้วมาขอชั้นสาม เพิ่มชั้นเข้าไปอีก เราว่าให้ไปถามช่างเขาดูก่อน สถาปนิกหรืออะไร เขาบอกว่าได้แค่นั้น เพราะกำหนดสองชั้นเพียงเท่านั้น ถ้าสามชั้นพัง เขาบอก ตกลงจึงได้สองชั้น ทีนี้เราก็ช่วยข้างนอก เอ้า จะสร้างตึกอะไรขึ้นมาเราจะให้ คือต่อสามชั้นไม่ได้ อย่างนี้ละที่ว่านี่ ที่ว่าแอร์ๆ อาๆ นี่ ห้องพิเศษดูเหมือน ๑๑ ห้องถ้าเราจำไม่ลืม สองชั้น เป็นตึกอุบัติเหตุ ไหลเข้ามานี้ นี่ก็ ๕ แสนว่าไง ๗ ล้าน ๒ แสนยังไม่ได้ผ่านเลย ๕ แสนมาอีกแล้ว มันจะเอาให้ตายจริงๆ นะโรงพยาบาลศูนย์นี่น่ะ โมโหนะเรา
ทางเวียงจันทน์ก็ยังไม่มาติดต่อนะ (คงวันที่ ๑ ล่วงไปแล้วครับ ตอนนี้เขาปิดประเทศประชุมอาเซียน) ก็จะมานี่ละเวียงจันทน์ นี่ก็จะได้ดูให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนกัน พอถูไถได้ถูไถให้ เอารายละเอียดจากหมอมา จะทราบกันชัดเจนตอนรายละเอียดที่หมอทางเวียงจันทน์มาเอง เราไปไม่สะดวกเราก็ไม่ไป ถ้าเราไปได้ก็ยิ่งสะดวก ไปดูสภาพความเป็นอยู่ทุกอย่าง ถ้าได้ไปแล้วมันเข้าทุกห้องทุกหับนะเราไม่เหมือนใคร จนกระทั่งครัวคนไข้ในโรงพยาบาลต่างๆ เราเข้าไปหมด เวียงจันทน์ยังไม่ได้ไป ขอให้ท่านทั้งหลายนำธรรมเข้ามาต้านทานกับกิเลส ซึ่งพาสัตว์ทั้งหลายให้ต่ำลงๆ จนหมดราค่ำราคามี กิเลสเท่านั้น ที่ทำคนให้เสียคนจนกระทั่งถึงหมดราค่ำราคา มีกิเลสเท่านั้น ธรรมไม่มี ธรรมมีแต่เสริมขึ้นโดยลำดับ ให้เอาธรรมมาเสริมนะ ถ้าปล่อยตามกิเลสแล้วจะแหลกไป
เฉพาะอย่างยิ่งในวงราชการต่างๆ ซึ่งเป็นผู้ปกครองตามหน่วยต่างๆ นั้น ควรจะมีอรรถมีธรรม หัวหน้าๆ ควรจะมีธรรม อย่างน้อยหัวหน้ามีธรรม บริษัทบริวารก็ให้มีอรรถมีธรรมด้วยกัน จะมองกันทั่วถึง หัวหน้ามองบริษัทบริวารในวงงานของตนทั่วถึงถ้ามีธรรม ถ้าไม่มีธรรมจะมองแต่พุงตัวเอง มองแต่ความเย่อหยิ่งจองหอง นี่ละกิเลสออกไปไหนมักเย่อหยิ่งจองหองพองตัว ตัวเท่าอึ่งนี่ก็พอง
เราเข้ามาศาสนานี้ เฉพาะอย่างยิ่งขึ้นเวทีกรรมฐาน เวทีปฏิบัติธรรมล้วนๆ เลย นี่ละได้ดูเรื่องภายนอกได้ชัดเจน เรียนก็เรียนมาแต่ไม่ได้ดูไม่สนใจ มีแต่เรียนอย่างเดียว แต่เวลาได้นำการศึกษานั้นมาเป็นแถวทางเดินเป็นภาคปฏิบัติ ทีนี้มันกระจายออก พูดชัดๆ อย่างนี้ละ มันดูไปหมดทุกอย่างนะนอกจากไม่พูดเฉยๆ เวลาพูดก็พูดพอที่จะเป็นไปได้ เราก็นำมาพูดให้ฟังเพื่อตะเกียกตะกายกันไปตามอรรถตามธรรม แล้วจะมีความสงบร่มเย็น เฉพาะอย่างยิ่งวงราชการทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อยจะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข
ผู้น้อยแต่ละคนๆ ได้รับความดีจากผู้ใหญ่ กระจายออกไปก็เป็นคนดีมากขึ้นไปโดยลำดับนะ ถ้าผู้ใหญ่พาเสียผู้น้อยก็เสียไปตามๆ กันหมด มันเสียตรงนี้ การปกครองบ้านเมืองจึงต้องอาศัยธรรม ไม่มีธรรม เอากิเลสเข้าไปเป็นเจ้าหน้าเจ้าตาเจ้ากี้เจ้าการอะไรอยู่ในนั้นหมดนั่นแหละ กิเลสนี้กางออกไปเรื่อยท้อง ไม่มีระเบิดไม่มีแตกนะท้อง กางออกไปเรื่อย ได้เท่าไรไม่พอๆ ความได้ลาภได้ยศก็ไม่พอ ความได้โลกามิสสินจ้างรางวัลบนโต๊ะมีน้อย ใต้โต๊ะนั่นมันมากนะ มันกินกัน กิเลสเอาไปกินอยู่ใต้โต๊ะ ข้างบนอย่างเปิดเผยมีน้อย อยู่ใต้โต๊ะละมาก เงินเดือนเพียงเท่านี้เงินดินมากขนาดไหน มันเอามากินกันๆ
มีแต่กิเลสทั้งนั้นนะทำอย่างนี้ ธรรมทำไม่ลง ทำไม่ลงเลย มันขวางอยู่ในจิต นั่นละธรรมขวางจิต นี้จึงพูดได้อย่างชัดเจนเลย อะไรถ้าขวางแป๊บว่าผิดนี้ปัดทันที มันเป็นเองนะมันจะไม่เข้ามายุ่งกันเลย ยุ่งไม่ได้เลยกับธรรม เรื่องสกปรกนี้ยุ่งไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจึงกล้าพูดได้เต็มปากว่า เราช่วยชาติบ้านเมืองยกนิ้วได้เลยว่าบริสุทธิ์สุดส่วน เราไม่มีอะไรกับสมบัติเงินทองข้าวของ ที่ได้นำพี่น้องทั้งหลายมานี้ สมบัติเงินทองเป็นของรักของสงวนของทุกคนๆ เป็นหัวใจของทุกคน สละออกมาทำไม ก็สละออกมาเพื่อส่วนรวมนั่นเอง ผู้จะรับส่วนรวมนั้นคือใคร นั่น นี่ละตรงนี้ละตรงที่คิด
มันเป็นธรรมอยู่แล้วในหัวใจนี้ เพราะฉะนั้นได้มาเท่าไรๆ จึงเข้าจุดส่วนรวมหมดไม่มีที่จะรั่วไหลแตกซึมไปไหน เราบอกตรงๆ สำหรับเราบอกว่าไม่มีเลย บริสุทธิ์ขนาดนั้นละนำพี่น้องทั้งหลาย ไม่ใช่นำธรรมดานะ นำด้วยธรรมล้วนๆ ด้วยความเมตตาครอบไปหมดเลย จึงไม่มีอะไรที่จะมาหยิบเอานั้นเอานี้ ปัดออกหมดเพื่อส่วนรวม แม้ที่สุดของตัวเองก็แบบเดียวกันหมด เราไม่เคยสนใจกับว่า นี่เขาถวายเรานะ ไม่เคยสนใจ ออกเหมือนกันหมดไม่มีอะไรติดตัวเลย จึงว่ามหาจนคือเรา
จิตมันเบิกกว้างอยู่ด้วยความเมตตาครอบโลกธาตุ จะมาว่าอะไรเพียงคนสองคนเท่านั้น มีมากเท่าไรมันกระจายออกหมดครอบโลกธาตุนู่น มีเท่าไรก็สงเคราะห์กันไปตามเกิดตามมีเท่านั้นเอง นี่ละที่เรานำชาติเรานำด้วยความเปิดเผย พูดได้ทุกบททุกบาทไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว ว่าเรามีอะไรๆ อยู่ภายใน ถ้าพูดก็จะมากระเทือนอันนี้ ไม่มี เราเปิดได้หมดเลย ทุกอย่างเปิดได้หมด สรุปความลงแล้ว การอยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อนก็ต้องมีหัวหน้าๆ หัวหน้านั้นควรจะเป็นหัวหน้าที่มีธรรมในใจ การปกครองบ้านเมืองจะสงบร่มเย็น ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากส่วนรวมจะกระจายออกไปหาส่วนรวมนั่นแหละ กระจายออกไปๆ บ้านเมืองของเราจะสงบร่มเย็น ผู้น้อยก็สงบร่มเย็น ผู้ใหญ่ก็เป็นธรรม
ถ้ามีผู้ใหญ่แล้วเป็นยักษ์เป็นผีขึ้นมานี่แหม น่าทุเรศนะ ตั้งหัวหน้าขึ้นมาคนใดๆ ขึ้นจนกระทั่งถึงวงรัฐบาล ตั้งเป็นหัวหน้าใหญ่เข้าไปๆ พวกนี้น่ะพวกหมาเข้าถาน ปล่อยหมาเข้าถานไม่มีวันออก ท้องป่อง ขี้ในถานนั้นเลย ปล่อยหมาเข้าถานมันก็ขี้ในถานด้วย ไม่มีคำว่าออกนอกถานละ อิ่มพอไม่มีพวกนี้ เตะลงเก้าอี้มันยังปีนขึ้นเก้าอี้อีก เขาเอาเลื่อยไปเลื่อยขาเก้าอ้งเก้าอี้เห็นไหม ก็คือเลื่อยขาหมามันเข้าถานนั่นเอง มันเข้าถานไม่ยอมออก นี่ละเรื่องกิเลสมันทำความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นได้อย่างนี้เอง
ใครจึงอยากปีนขึ้นอยากเป็นผู้ใหญ่ๆ ใหญ่เพื่อเรา ใหญ่เพื่อพุงของเรา ทุกอย่างให้อยู่กับเราหมดเลย ภายนอกไม่สนใจ ผู้ใหญ่แบบนี้ผู้ใหญ่ยักษ์ เป็นยักษ์เป็นผี วงราชการแต่ละหน่วยๆ ก็เป็นยักษ์เป็นผีไปโดยลำดับ จนกระทั่งถึงวงรัฐบาลก็เป็นยักษ์ใหญ่กินบ้านกินเมือง กลืนตับกลืนปอดประชาชนด้วยความไม่มีธรรมในใจ ถ้ามีธรรมแล้วกลืนไม่ลง ได้มาเท่าไรเฉลี่ยออกหมดๆ เจ้าของจะจนให้จน
นี่เรายังไม่เคยมี ที่ว่าวงราชการเราใครเข้าไปทำในวงราชการแล้วอดอยากขาดแคลนกันออกมา ให้ประชาชนทั้งหลายได้ทราบว่าคนนี้เขาทุกข์เขาจน เขาไปทำงานราชการแล้วเขาไม่มีอะไรจะอยู่จะกินจะใช้จะสอย ต้อง อาศัยประชาชนให้อยู่ให้กิน ไม่เคยมี มีตั้งแต่ท้องป่องๆ ปล่อยหมาเข้าถาน กินอิ่มแล้วขี้แตกอยู่ในนั้นเลย ในถานนั้นแหละ พวกนี้พวกหมาเข้าถาน กินไม่อิ่มไม่พอ กินแล้วขี้แตกในถานด้วยมันน่าทุเรศนะ วงราชการของเรานี้ตัวแสบ พูดให้มันชัดเจนตามภาษาของธรรม ตาสีตาสาเขาไม่ทำความเดือดร้อนแก่ส่วนรวมมากยิ่งกว่าวงราชการ เป็นวงๆ ไปจนกระทั่งถึงผู้ใหญ่ ใหญ่สุดกินสุด กินสุดขีดเลย
ใครจึงอยากเป็นแต่ผู้ใหญ่ เป็นแต่เจ้าแต่นายของคน มันอยากขึ้นขี่คอคนแล้วกินตับกินปอดเขาด้วย ขึ้นขี่คอเขาไปด้วย กินตับกินปอดเขาไปในตัวเลยพวกนี้น่ะ พวกไม่มีธรรม คนมีธรรมทำไม่ลงนะ มันหากเป็นอยู่ในจิต นี่ละธรรมทำโลกให้ร่มเย็นได้อย่างนี้เอง ฟังไหมล่ะปล่อยหมาเข้าถาน เวลานี้มีแต่หมาเต็มถานในวงราชการต่างๆ ปล่อยตัวไหนเข้าไปจับหางดึงออกมา หางขาดมันไม่ยอมออกนะ ตัวมันยังบืนเข้าไปหาถาน จับหางดึงออกมาหางขาด มันไม่ยอมออก มันไม่เสียดายหางยิ่งกว่าพุงใหญ่ของมันที่จะไปกินไปกลืนในถานนั้นน่ะ กินไม่อิ่มพวกนี้
เราพูดเฉพาะเรื่องคนชั่วมันมีมากต่อมากอย่างนี้ คนดีเราชมเชยเสมอ เราไม่ได้ราดไปหมดนะ คนดีก็ยกไว้ให้เป็นคนดี แต่มีน้อยมาก คนดีก็เลยสู้คนชั่วไม่ได้ ตกลงผู้ดีเสียจริงๆ แล้วเลยหลบหลีกออกมาจากวงราชการ อยู่ไม่ได้มันขวางหูขวางตา มองไปที่ไหนมีแต่กินแต่กลืนรอบตัวเอง รอบเก้าอี้ รอบทุกอย่างไปหมดเลย มีแต่กินแต่กลืน คนที่ดีมีศีลมีธรรมดูไม่ได้ เขาลาออกจากวงราชการมีเยอะ คือเขาทนดูไม่ได้ ทนดูหมาเข้าถานกินมูตรคูถในส้วมในถานไม่ได้ เขาออกมา พวกนี้สมัครใหญ่นะ
นี่ละความลามกของจิตใจมันชอบแต่ส้วมแต่ถานทั้งนั้น เรื่องอรรถเรื่องธรรมมันไม่ชอบ โลกถึงได้เดือดร้อน เราอยากให้มีผู้ใหญ่เป็นหัวหน้าวงราชการต่างๆ บ้านเมืองจะมีความสงบร่มเย็น อย่าเห็นแก่ปากแก่ท้องจนเกินไป ใครเกิดมามีปากมีท้องเหมือนกัน แม้หมูหมาเป็ดไก่เขาก็มีปากมีท้อง อย่าว่าแต่มนุษย์ตัวเท่ากำปั้นนี้เลยว่ามีปากมีท้อง สัตว์ทั้งหลายเขามี เราก็ควรจะคิดเฉลี่ยไปถึงมนุษย์ทั่วโลก ไม่ถึงสัตว์ก็ตาม ให้คิดถึงมนุษย์เถอะ เมื่อมนุษย์มีความสุขความดีแล้ว สัตว์ที่อยู่ในครอบครองของเขาเขาก็ดูแลของเขาได้
อันนี้ไม่มีอะไร มีแต่จะกินจะกลืน มีแต่ท้องป่องๆ ในพวกเข้าส้วมเข้าถาน มันน่าทุเรศเหลือเกินนะวงราชการ เฉพาะอย่างยิ่งวงราชการเมืองไทยเรานี้เด่นมากเรื่องกินเรื่องกลืน ใครไปอะไรก็เพื่อกินเพื่อกลืนทั้งนั้น ที่จะทำชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองเห็นชัดเจนนี้มีน้อยมาก เรื่องกินเรื่องกลืนมีลึกลับมากที่สุดเลย น่าทุเรศนะ ธรรมกับโลกจึงเข้ากันไม่ได้ ธรรมสะอาดมากทีเดียว โลกสกปรกมาก มันเข้ากันไม่ได้ เพราะฉะนั้นใครมาเกี่ยวข้อง เราพูดจริงๆ กับเรา อย่าเอาความเป็นใหญ่เป็นโตเป็นเศรษฐีกุฎุมพีมาเป็นใหญ่ในวัดนี้ เราพูดตรงๆ
เรารักษาธรรมมาตั้งแต่วันบวช สละชีวิตจิตใจทุกอย่าง จนกระทั่งจิตใจเป็นธรรมล้วนๆ แล้ว อย่าเอาอะไรเข้ามาเหยียบย่ำทำลายธรรม จะเป็นเหมือนกับขับรถชนภูเขานั่นละ ธรรมะคือภูเขา วัดนี้จะไม่เห็นแก่สินจ้างรางวัล เห็นแก่อามิส เห็นแก่รายได้รายรวย ว่าเขามาเคารพนับถือ กระเป๋านั้นใหญ่ กระเป๋านี้ใหญ่ เราจะเห็นกระเป๋ายิ่งกว่าธรรมไม่ได้นะ ธรรมนี่เลิศเลอสุดยอด นำคนให้สู่สวรรค์นิพพาน ปลดทุกข์เปลื้องทุกข์ออกจากใจได้โดยสิ้นเชิง แต่สมบัติเงินทองข้าวของถ้ารักษาไม่ได้หรือรักษาไม่เป็น สมบัติเงินทองกลายมาเป็นฟืนเป็นไฟเผาหัวตัวเองก็ได้ ส่วนธรรมไม่มีคำว่าเผา เราจึงเทิดทูนที่สุดในธรรม
มาวัดนี้บอกตรงๆ เลย เห็นไหมเขียนติดไว้ข้างหน้า ที่นี่เป็นวัดเป็นสถานที่ภาวนาเพื่อความสงบใจ ไม่มีธุระจำเป็นไม่ควรเข้ามาเที่ยวเพ่นพ่าน ก็บอกไว้แล้วนั่น มาเพ่นพ่านหาอะไร ตอนเย็นเมื่อวานนี้ก็ค่ำๆ แล้วนะ จนค่ำจริงๆ แล้ว ส่วนมากเราออกมาตอนเย็นๆ คนขาดไปแล้ว เราจะด้อมออกมา จะไปดูอะไรก็ไม่ทั่วถึงแหละมันค่ำแล้ว ถ้ามาแต่วันกว่านั้นไม่ได้ มันยุ่งมากขนาดนั้นละ ทีนี้เวลาออกมาก็มาเจอผู้หญิงสองคนพะรุงพะรัง ค่ำแล้วนะกำลังจะมืด ออกจากศาลานี้ไปนั่น เราก็ออกมาจากนั้นพอดี มาก็ไล่กันเลย เขาจะมาพูดอะไรให้ฟัง ทราบภายหลังว่าเขาอยากจะมาค้างที่วัด พอดีเราไล่ไม่รับรอง ไม่รับฟังทั้งนั้น ให้ออกเดี๋ยวนี้บอกเลย
เราเป็นคนไล่เอง ไล่ออกเดี๋ยวนี้เลย จะมาพูดอะไรๆ เราไม่ฟัง เวลานี้ไม่ใช่เวลาฟัง เป็นเวลาที่ขับคนไม่มีหลักมีเกณฑ์โกโรโกโสมาเท่านั้นเอง ไปเดี๋ยวนี้ ไล่เลย แล้วพวกอยู่ข้างนอกก็รุมกำลังจะเข้ามา ทางนี้ออกไปเล่าให้เขาฟังแตกกลับไปหมด มันถึงขนาดนั้นนะ เราเองเป็นผู้ทำ เป็นผู้ขับผู้ไล่ คือมันทนไม่ไหวจริงๆ ผู้รักษาท่านรักษาแทบเป็นแทบตาย รักษาข้อวัตรปฏิบัติ ให้เป็นความดีงามแก่วัดแก่วาแก่ประชาชนทั่วประเทศไทยที่เป็นชาวพุทธด้วยกัน ให้ได้นำระเบียบกฎอันนี้ไปปฏิบัติตนเอง นี้มาจุ้นจ้านๆ ไม่รู้จักเวล่ำเวลา จนจะมืดแล้วนะเมื่อวาน เราจึงไม่ยอมวินิจฉัยอะไร มาพูดอะไรเราไม่ฟัง ไล่ออกเดี๋ยวนี้บอกงั้นเลย เราบอกอย่างงั้นเลย ให้ออกเดี๋ยวนี้ ไล่เดี๋ยวนั้นเลยให้ออก
เราไม่วินิจฉัยคำใดทั้งนั้นอย่ามาพูด เวลานี้ผิดเวล่ำเวลาเสียจนเกินเหตุเกินผลแล้ว เกินกว่าที่เราจะรับฟัง ไล่ออกไป พวกนั้นก็กำลังจ่อมา กำลังจะเข้ามาอีก ขนาบพวกนี้ไปคงไปเล่าให้กันฟังแตกฮือกลับไปบ้าน เป็นอย่างนั้นนะ มันเห็นชัดๆ นี่ตาของเราเห็น ถ้าตาของเราเห็นเองเชื่อทันที เราไปเจอเอง ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยธรรม เราจะไม่มีเอนเอียงไปไหนเลย จะเป็นไปด้วยธรรมเท่านั้น ควรดุดุ ดุเพื่อดีเป็นอะไร ดุตีเข้ากฎเข้าระเบียบอันดีงามเสียหายที่ตรงไหน ผู้รักษาท่านรักษาแทบเป็นแทบตาย ไอ้ผู้ทำลายมาทำลายหาอะไร ได้ประโยชน์อะไร นี่ละมันเห็นชัดๆ อยู่อย่างนี้ละ
ในวัดป่าบ้านตาดคนก็ยิ่ง มาที่ไหนต่อที่ไหน โกโรโกโสตื่นข่าวกันมา วัดป่าอย่างนั้นวัดป่าอย่างนี้ก็อยากมาดูมาเที่ยว มันมาชมอะไรไม่รู้ มันมาทำลายมาขี้รดวัด ไม่ได้ว่ามาชมละนะ เห็นกันอยู่อย่างนี้ละ นี่ละความเลอะเทอะ คนไม่มีขอบเขตไม่มีข้อบังคับ ไม่มีศีลธรรมภายในใจ ไปด้วยความเลอะเทอะ อยู่ด้วยความเลอะเทอะ กิริยาทุกอย่างเต็มหัวใจเต็มนิสัยเลอะเทอะทั้งนั้น ออกไปที่ไหนระบาดสาดกระจายแต่ความเลอะเทอะไปหมด นั่นซิจึงหาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้เมืองไทยเรา มันเป็นอย่างนี้ละ เขียนประกาศมันฟังเมื่อไร ดูซิน่ะ เมื่อไม่ฟังอันนั้นตัวหนังสือมันไม่ได้ผลแล้ว ตัวหนังสือใหญ่ก็ออกละซิ
เมื่อวานขนาบเอาเลย ไล่แตกฮือ ไม่ยอมฟังไม่ยอมวินิจฉัยทั้งนั้น ไล่ออกเดี๋ยวนั้นเลย ผิดเวลา กำลังมืดนะ จนจะมองดูหน้าคนไม่ชัดเจน มันยังไหลเข้ามาอยู่นี่ เราก็มาเจอเสียเอง เป็นเวลาที่เราจะออกไปดูนั้นดูนี้ เพราะเวลานอกนั้นไม่ได้นะมันรุมมันยุ่งทุกอย่างนั่นแหละ ถึงขนาดที่ว่าออกไม่ได้ว่าไง มักจะออกตอนเย็นๆ ค่ำๆ หรือเช้าก็ต้องเช้ามืด พอสว่างแล้วออกไปดูนั้นดูนี้ออกก็ดีไม่ใช่ไปอะไร มาแล้วก็มาสั่งมาเสียอะไรไม่ดียังไงๆ สั่งเสียให้ทำอย่างนั้นๆ มันออกไม่ได้ มันเลอะเทอะขนาดนั้นนะ
เวลานี้ศาสนาพุทธมีที่ไหนเมื่อไร ยิ่งไปหาในวงราชการ มันถามถึง พุทธ ธรรม สงฆ์ ที่ไหน ถามหาแต่ลาภแต่ยศคำสรรเสริญเยินยอ ถามหาแต่ส้วมแต่ถานเท่านั้นละพวกนี้ มันไม่ได้ถามหาศีลหาธรรมนะ ถามหาแต่ส้วมแต่ถานที่จะโดดเข้าไปส้วมไปถาน ไปกินไปกลืนอยู่ในนั้น จับหางดึงออกมาหางขาดไม่ยอมออก พวกนี้มันหน้าด้านขนาดนั้น นี่ละคนเราเมื่อหมดศีลธรรมแล้วหน้าด้านที่สุดคือมนุษย์เรา ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ยิ่งหน้าด้านมากทีเดียว ไม่ยอมฟังเสียงใคร เอาแต่อำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ ไปปีบบังคับประชาชน ซึ่งหัวใจของคนเราทุกคนไม่ใช่หัวใจหมา ผิดถูกดีชั่วก็รู้ด้วยกันทุกคน แล้วทำไมจึงเอาอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ไปบังคับประชาชนคนทั้งประเทศ มันน่าดูไหมพิจารณาซิ
อำนาจป่าเถื่อนก็คือว่าตัวเป็นเจ้าอำนาจ หน้าที่การงานอย่างนั้นทำตามหน้าที่ หน้าที่ขี้หมาอะไร หน้าที่มีแต่หน้าที่ส้วมหน้าที่ถาน ใครจะอยากดูส้วมถาน นอกจากปวดขี้ก็โดดเข้าไปขี้ป้าดออกมาแล้วก็หนีเลยเท่านั้น นี้ยังไปคลุกคลีตีโมงฟัดส้วมฟัดถานจนไม่มีเหลือ ท้องป่องยังไม่ยอมออก จับหางดึงออกมันไม่ยอมออก พวกหน้าด้าน วงราชการที่หน้าด้านที่สุด บอกตรงๆ วงราชการไม่มีศีลมีธรรมหน้าด้านทั้งนั้นละ ดูไม่ได้นะ เย่อหยิ่งจองหองอยู่ในนั้นหมด อำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ อำนาจของส้วมของถานนั่นละมันเอาออกมาโปะทองคำทั้งแท่ง คือธรรม เหยียบไปหมด
เวลานี้ธรรมจะไม่มีในโลก ธรรมเป็นของเศษของเดนเป็นตุ๊กตาไปนะ กิเลสเป็นใหญ่เป็นโตแผ่อำนาจครอบธรรมทั้งหลายไป เพราะฉะนั้นคนเราจึงสกปรกมาก ทุกข์มาก ยุ่งเหยิงวุ่นวายไปทั่วโลกดินแดน เพราะปล่อยให้ส้วมให้ถานออกเหยียบหัวคนปกครองบ้านเมือง ด้วยความเป็นส้วมเป็นถาน ไม่ได้เอาธรรมออกปกครองบ้านเมือง ถ้าเอาธรรมออกปกครองบ้านเมืองจะเย็นไปหมดทีเดียว นี่ก็พากันพินิจพิจารณา เราวิตกวิจารณ์จวนจะตายเท่าไร มันรู้อยู่หมดในหัวใจนี้นอกจากจะพูดหรือไม่พูด พูดหนักเบามากน้อยเพียงไรจะพูดออกมาเท่าที่ฟังกันได้เท่านั้น ที่ละเอียดกว่านั้นเต็มอยู่ในหัวใจนี้หมด ไม่ถึงกาลเวลาก็ไม่ออกไม่พูด เพราะไม่ดันไม่กดเหมือนอะไร ธรรมเป็นอย่างนั้น รู้เหมือนไม่รู้ เห็นเหมือนไม่เห็น เมื่อถึงเวลาที่จะออกหนักเบามากน้อยจะออกไปตามจังหวะของธรรม ไม่ได้ออกไปด้วยความโมโหอัดอั้นตันใจ ไม่มีอย่างนั้นในธรรม มีแต่ความพอเหมาะพอดีเท่านั้น
เราจึงวิตกวิจารณ์มากนะ เมืองไทยเราเป็นเมืองชาวพุทธแท้ๆ ผู้ที่จะรักษาพุทธศาสนาให้ยืนยงคงถาวร ก็หนึ่งวงรัฐบาล พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์หาที่ต้องติไม่ได้นะ แต่วงราชการต้องติมาตลอดเวลา เข้าไปวงราชการเหมือนปล่อยหมาเข้าถาน ธรรมเข้าไม่ได้ในวงราชการ ยิ่งเข้าในวงรัฐบาลไม่มีธรรมนะ เราอยากจะพูดว่าไม่มีธรรม มีก็คนสองคนมันทนไม่ไหวมันโดดออกหนี พวกนอกนั้นมีแต่พวกหมาเข้าถานเต็มอยู่ในวงรัฐบาลเต็มอยู่เวลานี้ เอ้า เอาหลวงตาบัวไปฆ่าเสีย ถ้าหลวงตาบัวพูดนี้ผิดไป ได้พิจารณามานานแล้ว เรื่องเหตุผลกลไกดีชั่วกระทบกระเทือนทั่วประเทศไทยมานานเท่าไร นี่หูมีตามี
ยิ่งเข้ามาปฏิบัติธรรม ธรรมเป็นของละเอียดยิ่งรู้ไปหมดนั่นแหละ ปิดไม่อยู่ๆ นอกจากไม่พูดเท่านั้น เมื่อถึงกาลเวลาที่จะพูดก็พูดเสียบ้างดังที่พูดวันนี้ ก็พูดเตือนพวกเราพวกหมาเข้าถานนั่นละ ความโลภ ความโกรธ ความหลง พิลึกพิลั่น เป็นบ้าอำนาจบาตรหลวงต่างๆ เต็มไปหมด ยศถาบรรดาศักดิ์มันเอามาเผาหัวมันอะไรก็ไม่รู้นะ เกิดมากับพ่อแม่ท่านก็เอาอาหารการกินให้กินๆ ไม่ให้มาเป็นบ้าอย่างนี้ นี้มันออกมาแล้วมันมาเป็นบ้า เอาความสกปรกโสมมเข้าไปโปะหัวพ่อหัวแม่ให้ฉิบหายไปหมดตามๆ กัน มันน่าทุเรศนะ วงราชการเราควรจะหันหน้าเข้าอรรถเข้าธรรม เพื่อความสงบร่มเย็นของชาติบ้านเมืองของเรา เอ้า มันครึมันล้าสมัยด้วยธรรมเป็นเครื่องปกครองให้เห็นสักทีน่ะ เมืองไทยเราเวลานี้มันครึมันล้าสมัยมันจะจมลงในทะเลหลวง เพราะกิเลสปกครอง กิเลสเป็นเจ้าอำนาจนั้นแหละ ธรรมปกครองไม่เป็น ให้พากันจำทุกคนนะ วันนี้เทศน์เพียงเท่านี้ละพอ ตอนบ่ายโมงนี้ท่านเจ้าคุณฯ ท่านก็จะมา มีประชาชนก็เข้ามาเยอะ ประชาชน พระเณรจะมากันมาก
(หลวงตาครับ สถานีวิทยุที่แม่อายเขาติดเป็นดาวเทียมแล้วครับ ออกอากาศวันนี้เสียงชัดเจนดีครับ ที่แม่อายครับ) อ๋อ ออกวันนี้เหรอ เสียงชัดเจนดี ก็ดีแล้ว เวลานี้สถานีวิทยุกำลังกระจายออกทั่วไปหมด ออกรวดเร็วเสียด้วย ออกอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ขยายไปทุกภาคเวลานี้ ค่อยๆ ไป เราก็พอใจ เพราะธรรมจะได้เข้าสู่จิตใจของประชาชนในระยะนี้แหละ ระยะที่เราช่วยชาติ วัตถุนั้นคนรู้กันทั่วโลก ว่าจะช่วยชาติก็คือด้านวัตถุ แต่ธรรมะเขาไม่คิด เราคิดเต็มหัวใจ ว่าคราวนี้คราวที่จะได้ฟื้นฟูจิตใจ
ที่พาให้ประชาชนคนทั้งประเทศล่มจมคือใจ ทีนี้จะได้ฟื้นจิตใจแล้วทุกสิ่งทุกอย่างสมบัติเงินทองจะฟื้นไปตามๆ กัน เมื่อใจที่เป็นเจ้าของได้รับอรรถรับธรรมแล้วจะรู้ตัว เข้าใจไหมล่ะ ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมจะลดลงๆ ความรู้จักประมาณจะค่อยดีขึ้นจากธรรมที่ได้ยินได้ฟังไป คราวนี้ธรรมจะออกช่วยโลกไปพร้อมกันกับการเป็นผู้นำช่วยชาติ ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วการนำนี้ด้านวัตถุก็เรียกว่าค่อยเบาลงๆ ก็มีแต่ประเภทซึมซาบๆ ไปอย่างนี้ไม่มากนัก แต่อรรถธรรมที่ออกทุกด้านทุกทางนี้กระจายออกไปเรื่อยๆ เช่นวิทยุนี้ออกทั่วไปหมดเวลานี้ นี่ละธรรมเข้าสู่ใจ จะได้รู้เนื้อรู้ตัวเสียบ้างคนเรา เสร็จแล้วก็จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |