คนมีสติกิเลสไม่เกิด
วันที่ 27 กรกฎาคม. 2548 เวลา 8:10 น. ความยาว 34.46 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

คนมีสติกิเลสไม่เกิด

 

ก่อนจังหัน

พระให้ภาวนา อย่าเอางานใดมายุ่งนะ ให้มีแต่ภาวนาเท่านั้น แบบฉบับของพระพุทธเจ้าเป็นยังไง ที่พูดนี้คือแบบฉบับที่พระพุทธเจ้าประทานให้เรียบร้อยแล้ว มรรคผลนิพพานจะอยู่จุดนี้ ไม่ได้อยู่ที่โลเลโลกเลก เป็นบ้าศาสนาทุกวันนี้ น่าทุเรศนะ มันไม่ได้สนใจที่พระพุทธเจ้าสอนตรงไหนๆ ไอ้มูตรไอ้คูถอยู่ตรงไหน นั่นละมันขยี้ขยำชอบเอานักเอาหนา มูตรคูถก็คือกิเลสนั่นเองจะเป็นอะไรไป มันเลอะๆ เทอะๆ ให้ตั้งอกตั้งใจ

เคยพูดเสมอสติเป็นพื้นฐานสำคัญ ถ้าสติไม่ดีแล้วไม่ดีทั้งนั้น สติเป็นพื้นฐาน กิเลสตั้งคลื่นเหมือนทะเลหลวงมาก็มาเถอะน่ะ สติต้านไว้อยู่ทั้งนั้นๆ ไม่มีอะไรเลยสติไปได้ คนที่มีสติกิเลสไม่เกิด เผลอเมื่อไรกิเลสเกิด เอาตรงนี้ละนะ ถ้าไม่เผลอแล้วไม่เกิดกิเลส อยู่ภายในก็ดันกันอยู่นั้นออกไม่ได้ คือออกไปเอาไฟมาเผาเรา สติจึงเป็นของสำคัญมากทีเดียว มันจะหนาแน่นขนาดไหนก็ตาม สตินี้เอาไว้อยู่ทั้งนั้นๆ ไม่มีกิเลสตัวใดที่จะนอกเหนือสติไปได้ ดูเจ้าของเวลากิเลสมันดันออกมา สติเราดีๆ แล้วออกไม่ได้นะ ออกไม่ได้ สุดท้ายก็อ่อนลงๆ สติเป็นสำคัญนะ

ท่านทั้งหลายอย่าข้ามสติเป็นอันขาด ความเพียรต้องสติเป็นสำคัญ ยืน เดิน นั่ง นอน หน้าที่การงานความเคลื่อนไหวไปมาที่ไหนให้มีสติติดตัวๆ ตลอด สติกับสัมปชัญญะมันเกี่ยวโยงกันอยู่ ถ้าแยกไปนี้ก็เป็นสัมปชัญญะ ความรู้สึกตัวอยู่เสมอ สติจดจ่อ เวลาเราประกอบความเพียร เช่นคำบริกรรม สติกับคำบริกรรมติดแนบกัน เราไม่บริกรรม ความรู้ตัวอยู่ภายในตัวของเรานั้นท่านเรียกว่าสัมปชัญญะ ทั้งสองนี้เป็นคู่กันไปๆ ผู้มีสติย่อมจะมีความรู้สึกตัว กระจายออกไปก็รู้ เคลื่อนไหวไปมาที่ไหนรู้ ท่านทั้งหลายตั้งให้ดีนะ พระพุทธเจ้าเป็นยังไง เลิศเลอเพราะอะไร เพราะปล่อยเนื้อปล่อยตัวเหรอ สอนให้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเหรอ เอาให้ดีนะ

พระที่มาอยู่วัดป่าบ้านตาดนี้เป็นแสนนะไม่ใช่ธรรมดา ตั้งแต่เริ่มสร้างวัด เข้าออกๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา มาสร้างวัดที่นี่ ๕๐ ปี พระเราอยากจะพูดว่าเป็นแสน ไม่ใช่น้อยๆ เปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออกเรื่อยๆ จำให้ดีนะ ทำอะไรๆ อย่าลืมตัว ปัดกวาดลานวัดเช็ดถูอะไรๆ ก็ตาม สติสัมปชัญญะให้ติดๆ นี้คือผู้มีความเพียร ไม่ลืมตัว จะทำอะไรเสียไปแล้วๆ งานเสียไปเพราะไปทำงานอันนั้น สติขาดขาดเสียหมด นั่งอยู่เฉยๆ ก็เป็นหัวตอถ้าไม่มีสติ จำให้ดีนะธรรมพระพุทธเจ้าเด็ดขาดที่สุดกับกิเลสด้วยสตินี่สำคัญเป็นอันดับหนึ่งเลยเทียว พากันตั้งใจปฏิบัติให้ดี ในพรรษานี้ยิ่งไม่มีอะไร สำหรับวัดนี้ผมอำนวยความสะดวกให้เพื่อนฝูงได้ปฏิบัติตามอัธยาศัยของตนตลอดไป ไม่ให้มีงานอะไรมายุ่ง พยายามที่สุดที่จะให้ได้รับความสุขความเจริญภายในจิตใจ

ตั้งแต่ความสงบเย็นเท่านี้ก็ไม่ยุ่งแล้ว สบายแล้วพระเรา ไอ้ตัวมันยุ่งคือใจนั่นแหละ มันออกได้ห้าทวีปสิบทวีป มันไปได้หมดทุกทวีปเลยจิตดวงนี้ แล้วก็ไปกว้านเอาฟืนเอาไฟมาจากทุกทวีปนั่นแหละเข้ามาเผาหัวอกเจ้าของ อยู่ที่ไหนจิตไม่สงบๆ จะสงบอะไรเปิดทางให้มันขี้รดหัวเจ้าของไปตลอดเวลา นี่ความเผลอสติ กิเลสขี้รดหัวนะ ถ้ามีสติอยู่แล้วฟาดหัวกิเลสขาดสะบั้นไปเรื่อยๆ เคยพูดให้ฟังเสมอ สติตั้งแต่เริ่มตั้งรากตั้งฐานขึ้นไปเรื่อยเป็นสติปัญญาอัตโนมัติแล้วขึ้นเรื่อยนะ สติอันนี้ละตั้งขึ้นๆ จนเป็นสติปัญญาอัตโนมัติ จากนั้นก็มหาสติมหาปัญญา นี่ละที่จะม้วนเสื่อกิเลสม้วนที่จุดนี้ ตั้งต้นตั้งแต่ตั้งสติไป

มรรคผลนิพพานอยู่ที่หัวใจท่านทั้งหลายนะ อย่าไปมองโน้นมองนี้ เถ่อนั้นเถ่อนี้ พระพุทธเจ้าสอนลงที่จิตนี่ จิตก็สติเป็นผู้ควบคุมรักษา กิเลสตัวใดมาไม่ได้ถ้าสติมีอยู่ กิเลสไม่เกิด ถ้าเผลอเมื่อไรกิเลสเกิดเมื่อนั้น ออกจากสังขาร สังขารเรียกว่าสังขารสมุทัย เป็นสังขารที่เป็นกิเลส ออกมาจากอวิชชา ออกมาจากนั้น อวิชชาดันออกมาๆ สังขารก็ออก สติตีลงๆ ออกไม่ได้ จำให้ดีคำนี้ นี่ผ่านมาหมดแล้วไม่ใช่มาพูดโม้ๆ นะ ที่เทศน์อยู่ทุกวันนี้ ถอดออกมาจากเวทีที่ได้ปฏิบัติมาแล้ว ผลได้ผลเสียมาเป็นครูเป็นอาจารย์สอนเราเรียบร้อยแล้ว เวลานำออกไปสอนหมู่เพื่อนก็คล่องตัวไม่สงสัย จำให้ดี ให้พร

 

หลังจังหัน

เวียงจันทน์นี่เราข้ามไปข้ามมาหากันต้องมีวีซ่าหรือมีอะไรติดต่อเหรอ (ไม่ต้องมีวีซ่าแล้วครับ เขาทำใบอนุญาตผ่านด่านก็ได้แล้วครับ) ที่ว่านี้คือเราอยากไปดูโรงพยาบาลเวียงจันทน์ด้วยตาของเรา ถ้าผ่านไปได้สะดวกเราอาจจะผ่านไป ถ้าขัดข้องอย่างนี้เราไม่ไป ไปเราเข้าดูหมดเลยโรงพยาบาล (ไปง่ายอยู่เจ้าค่ะ) คือไปนี้ไปขออนุญาตแล้วไปได้เลยหรือไง (เจ้าค่ะ แต่ถ้าเอารถไปรถนี้ยังมีปัญหา รถเราไม่มีพรบ.ของฝั่งโน้น เราต้องต่อประกันเขา เขาก็จะอนุญาตให้เข้าไปได้ แต่หลวงตาคงสะดวก เป็นกรณีพิเศษรถยนต์เข้าไปได้)

เราไปนี่ไปในนามประเทศนั่นแหละ คือช่วยประเทศเขา เราสงสารนะ โรงพยาบาลจะขาดมากอยู่ ที่เขาขอมาเขาเกรงใจเฉยๆ บอกว่าขาดแคลนมากเขาว่างั้น แต่เวลาเขาขอขอเพียงสอง เครื่องมือผ่าตัดตา กับเครื่องวัดความดันลูกตา สองอย่าง ๓ ล้าน ๔ แสน หากเป็นโอกาสอันดีวันนี้เราอาจจะข้ามไปดู ไปดูจริงๆ นะถ้าลงได้ไปแล้วไม่เล่นละเรา อะไรเหมือนกันถ้าลงได้ตั้งหน้าไปนี้ละเอียดมากเทียว สงสาร ก็ตาดำๆ ด้วยกัน สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลาย เอาตรงนี้ ครอบหมดเลย จะไปดูไม่ว่าแต่ตา ทุกอย่างที่จำเป็นๆ ควรช่วยได้เราก็จะช่วย จะขาดมากอยู่

ท่านทูตลาวไปหาเราที่สวนแสงธรรม เราได้อนุญาตให้สองอย่างแล้ว ทางโน้นเขาว่าจะมาอยู่ เขาว่างั้น ทางโรงพยาบาลฟังว่าเขาจะมาหาเราอยู่ เราก็บอกถ้ามาก็ให้เขียนรายละเอียดมามีความจำเป็นอะไรๆ ในโรงพยาบาลว่างั้น พม่าก็ให้บ้างไม่มาก ข้ามไปทางโน้นพม่าขอ..ให้ ทางพม่าก็ให้ เอาหมอไทยเราไปติดตั้งให้ นั่นก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน มันสักเท่าไรไม่รู้ นั่นก็โรงพยาบาล โรงพยาบาลนี่เรียกว่าเราช่วยมากจริงๆ รู้สึกจะเป็นอันดับหนึ่งที่ช่วยชาติไทยเรา โรงพยาบาลๆ ขึ้นตรงนี้ก่อน

เมื่อวานก็ไปอยู่วัดโพธิฯ ดูเหมือนร่วม ๔ ชั่วโมงนะ นั่งคอยๆ กลับมาก็จน ๕ โมง ไปตั้งแต่บ่ายโมงพอดี คือเวียงจันทน์มันเป็นเมืองหลวง โรงพยาบาลต้องเป็นโรงพยาบาลสำคัญ ควรจะมีเครื่องไม้เครื่องมือพอถูพอไถกันไป ถูไถก็ไม่น่าจะถึงนั้น ลำบากกว่านั้นอีกเราถึงเป็นห่วง ติดต่อเขาติดต่อยังไงต่อยังไง ก่อนไปนี้ติดต่อยังไงให้ติดต่อได้เลย ถ้าสะดวกเราจะไปเลย บอกว่าท่านตั้งหน้าจะมาดูโรงพยาบาลเวียงจันทน์ ว่างั้น ให้ติดต่อไปเลยได้ความยังไงค่อยบอก เราตั้งหน้าจะไปดูจริงๆ สงสาร

เวียงจันทน์เป็นเมืองหลวง โรงพยาบาลต้องเป็นโรงพยาบาลสำคัญ เราจึงเป็นห่วง มีอะไรๆ ถูไถกันไป พอทุ่มๆ เลย ติดหนี้เขาติดไป หัวใจไม่ได้ติดหนี้ใครนี่นะ หัวใจเมตตาครอบโลกธาตุ เจ้าของจะไปติดคุกติดตะรางไปซิ หัวใจไม่ได้ติด หัวใจมีเมตตา ติดต่อเสียนะ ได้ความตอนไหนก็เอาเราจะเตรียมไป พอเรียบร้อยเราก็ไป ติดต่อไปเวียงจันทน์ บอกความมุ่งหมายของเราว่า ท่านมุ่งหน้าจะไปโรงพยาบาลเวียงจันทน์ ว่าไปช่วยก็ไม่ผิดอะไร คือถ้าเราไปเองแล้วจะซอกแซกทุกมุมทุกเตียงนั่นละเข้าเลย(ตอนนี้เขากำลังประชุมอาเซียน เพื่อความปลอดภัยเขาปิดประเทศจนถึงสิ้นเดือนครับ เขามาประชุมที่เวียงจันทน์) เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาไป เราไปเมื่อไรก็ได้

เขาคงเกรงใจเรามากเขาจึงขอมาเพียงสองเครื่อง กล้องผ่าตัดตากับเครื่องวัดความดันลูกตา มัน ๓ ล้าน ๔ แสน นี่ให้แล้วนะ สั่งแล้วพร้อมกับโรงพยาบาลศูนย์ของเรา โรงพยาบาลศูนย์นี้ ๗ ล้าน ๒ แสน สั่งพร้อมกันเลย เป็นเครื่องมือตาด้วยกัน คือตาสำคัญมาก เราจึงลงจุดนี้ก่อนอื่น หู จมูก ลิ้น กายอะไรนี้ถึงจะไม่สมบูรณ์ วิกลวิการบ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้ตายังดี ถ้าตาเสียเสียอย่างเดียวหมดความหมายคนเรา เป็นมหาเศรษฐีก็ไม่มีความหมายใช่ไหมล่ะ หมดความหมายทันทีตาบอด ถ้าตายังดีอยู่คืบคลานไปได้ ตายังเห็น อย่างนั้นนะ สำคัญที่ตา เราจึงได้พยายาม

โรงพยาบาลศูนย์นี่เรียกว่าทุ่มกันเลยไม่ใช่ธรรมดา คิดดูซิเขาขอมา ๗ ล้าน ๒ แสน ให้ทันทีเลย นั่น ทั้งที่แต่ก่อนเราก็เคยให้แล้ว และเปิดทางให้เขา อันนี้ธรรมดาแล้วเขาก็จะสั่งเลยละตามคำของเรา เราเอามือเขียนมือลบ คือเราเปิดโอกาสให้แล้วทางโรงพยาบาลศูนย์ สำหรับตาแล้วเรารับรองร้อยเปอร์เซ็นต์ หากว่ามีความจำเป็นเกี่ยวกับเครื่องมือที่ควรจะซ่อมให้รีบซ่อม ซ่อมไม่ได้ให้รีบสั่งไป เราว่างี้นะ แล้วเครื่องมือตามีความบกพร่องอะไรให้สั่งได้เลย ให้สั่งซื้อเลยไม่ต้องมาขออนุญาตจากเรา ครั้นซื้อมาแล้วหมอรับรองคุณภาพของเครื่องมือเรียบร้อยแล้วส่งบิลเข้าไป เราจะจ่ายให้บริษัท

เพราะบิลก็คือบิลบริษัทนั่นแหละ อันไหนๆ ราคาเท่าไรเขาจะบอก เราจ่ายทางเช็คเข้าถึงบริษัทๆ ตลอดมาไม่มีอะไรขัดข้องเลย อันนี้เขาควรจะทำอย่างนั้นตามที่เราพูดไว้ แต่เขาคงคิดเห็นว่ามันแพงมากไป เกรงใจจึงต้องมาขอ ขอก็ให้เลยทันที ตานี่สำคัญมาก เอา สมมุติถ้าว่าไม่สำคัญ เอา แก้ปัญหาเราซิเราจะถาม คนตาบอดทั้งหมดนี้ในศาลานี่ ยกเว้นหลวงตาบัว คือตายังดีเพื่อจะได้ตรวจตราเหตุการณ์ ถ้าเราตาบอดดูคนไม่ได้เข้าใจไหมล่ะ เราต้องตาดี พวกนี้ตาบอดทั้งหมด เอ้าที่นี่ไป กลับบ้าน ไล่เลย แล้วมันจะไปไหนก็ชนต้นไม้ตูมตามๆ ชนต้นนั้นชนต้นนี้ เราคิดอย่างนี้เอง

ยกหลวงตาบัวตาดีคนเดียวสำหรับจะตรวจเหตุการณ์ใช่ไหมล่ะ ไม่งั้นไม่เห็นเหตุการณ์ เอา ให้บอดเสียทั้งหมด ยกภาพพจน์ขึ้นมา พวกนี้ตาบอดทั้งหมด เราตาดีคนเดียว บอกไปๆ กลับ เราไล่ตีด้วยนะ ไล่ตีคนนั้นตีคนนี้ มันจะชนต้นเสา ชนไปหมดเลย แล้วดูได้ไหมล่ะ นี่ละคนตาบอด เข้าใจไหม เราเห็นความสำคัญอย่างนี้จึงได้อุตส่าห์พยายาม ตาดีคืบคลานก็ได้ ง่อยเปลี้ยเสียแข้งเสียขาอะไรไปได้ถ้าตาดี ถ้าตาบอดเสียอย่างเดียว โหย อย่าเลย ไม่มีความหมาย เป็นมหาเศรษฐีก็หมดความหมาย คนนั้นหมดความหมาย อยู่ไปอย่างนั้นละงูๆ ปลาๆ ไป เพราะฉะนั้นเราจึงได้จดจ่อในจุดนี้มากทีเดียว

เครื่องมือผ่าตัดในโรงพยาบาล เฉพาะโรงพยาบาลศูนย์อุดร เครื่องมือผ่าตัดภายในของหมอเราให้หมดนะ อันไหนสำคัญๆ ให้หมด นับแต่เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ลงมาให้หมด อุลตราซาวด์ สองเครื่องๆ ละ ๓ ล้านให้หมด เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ยิ่งแพงให้ๆ อันไหนสำคัญๆ ให้หมดในอุดร รถยนต์ดูเหมือนให้ ๔ คัน ก็อย่างนั้นแหละ พอเห็นเราไปนี้ โอ๋ย อยู่ที่ไหนรุมมาๆ ทำงานห้องไหนๆ รุมมา มีแต่มาขอ เราโมโห ต่อไปนี้เราต้องเตรียมไม้ไปด้วย ตีโน้นตีนี้ มันจะมาขอตีเสียก่อน มันเจ็บแล้วมันก็ไม่ขอ ต้องอย่างนั้นซี

เป็นยังไงตั้งภาพพจน์มานี่ถูกต้องไหม เช่นอย่างคนตาบอด ไล่เลย เราตาดีคนเดียวคอยดูเหตุการณ์ พวกนี้พวกหัวชนนั้นชนนี้ ดีไม่ดีขี้ทะลักออก ทีนี้ศาลาเลยเป็นส้วม พูดนี้เป็นยังไง ตั้งภาพพจน์ขึ้นมา โทษแห่งความตาบอดเป็นอย่างนี้ ขบขันดี พูดอย่างนี้ไม่มีใครพูด แต่เราพูดได้ ยกภาพพจน์ขึ้นมาประกอบกับเหตุการณ์ต่างๆ รวมกันเข้า นั่นละสำคัญตรงนี้ตา ตาสำคัญอย่างนี้ จึงต้องให้มี ให้ได้

เวียงจันทน์ถ้าเขาเป็นอย่างนั้นเราก็ยังไม่ไปละ เขาก็บอกเขาจะมาอยู่นะ พวกหมอเขาจะมาเอง วันนี้น่าจะได้ไปไกลอยู่ สงสาร มีแต่ความสงสารไปนะ ไปนี่ใส่รถเต็มเอี๊ยดๆ รถเรามันรถแข็งแรงมากไม่ได้เหมือนรถธรรมดา ดูเหมือนคันหนึ่งตั้งสองล้านกว่า แข็งปึ๋งเลย นี่เขาเอาออกไปแล้วสองคัน เขาเอาหนีไปแล้วเอาคันหนึ่งมาแทน มันอย่างนั้นนะ เราก็เคยพูด ทีแรกเขาจะซื้อรถยนต์มาถวายเรา เราบอกไม่เอา เราไม่ได้บวชมาหารถยนต์ เราบวชมาหาธรรม ตัด

ทีนี้เขาก็หาแง่ใหม่มา ทะเบียนบัญชีรถอยู่กับเขา แล้วเขาเอารถมาให้ใช้ นี่ละมันใช้แบบนี้นะ จะซื้อมาถวายเราเราบอกไม่เอา ไม่เอาจริงๆ นะไม่ได้พูดเล่น เทียบเหตุผลอรรถธรรมซิ เราบวชมาหาอรรถหาธรรมไม่ได้บวชมาหารถยนต์ ไม่เอา จากนั้นเขาก็พลิกใหม่อย่างนี้ละ รถเราขี่อยู่นี้ทะเบียนบัญชีอยู่กับเขา เขาเป็นเจ้าของ เราขี่ฟรีไปเลย สงเคราะห์โลกสงเคราะห์ไม่หยุดนะ สงเคราะห์จนตายเลย

(วันนี้ได้ทอง ๒ บาทครับผม) เอ้อเอาละ ๒ บาทก็ ๒ บาทเถอะ มันขาดเท่าไรเมื่อวานนี้ ไม่เต็มบาท วันนี้เต็มบาทแล้ว ได้ ๒ บาทเอาละได้วันละเล็กละน้อย เพราะทองคำนี้เป็นประเภทซึมซาบ อันนี้เราก็คิดไว้นี่ เห็นไหมล่ะ ทองคำประเภทซึมซาบนี่ เราคิดไว้แล้วเราไปดูคลังหลวงเอง นี่ละอะไรที่เราได้เห็นด้วยตาของเราพูดได้จะแจ้งนะ ไปดูทองคำ ก็หัวหน้าเขาก็ฉลาดนี่ เพราะวันนั้นเป็นวันที่เรามอบทองคำและดอลลาร์มากด้วยนะ พอเสร็จแล้วหัวหน้าเขามานิมนต์เราเข้าไปดูทองคำ นั่นเขามีความหมายแล้วนะ เราทราบทันที เราก็เข้าไปดู พอเดินเข้าไปแล้ว ที่นี่ได้มาเห็นสองท่าน ได้มาดูนี้สองท่านเท่านั้น คือใครบ้างเราว่า สมเด็จพระเทพฯ กับหลวงตานี้เท่านั้น นอกนั้นไม่มีใครมายุ่งได้เลย

เราเข้าไปดูก็ดูละเอียดลออมากทีเดียว พอออกมาก็ถาม ตรงเป๋งๆ ตามที่เราคิดไว้ๆ นั่นละออกมามันถึงได้ลั่นล่ะซิทองคำ ตีกระเป๋านั้นตีกระเป๋านี้ ได้ทองคำมาตั้ง ๑๑ ตัน ๓๗ กิโลครึ่ง เข้าแล้วนะนี่ ที่ว่านี้เข้าแล้ว จากนั้นเราก็ยังไม่จุใจ มันไปเห็นเองนี่นะ จึงต้องมาออดอ้อนขอบิณฑบาตจากพี่น้องทั้งหลาย ด้วยออดอ้อนด้วย เพื่อประเภททองคำซึมซาบ มันจะค่อยไหลซึมเข้าไป ถ้ามีเพียงเท่านี้รู้สึกว่าจิตใจเราไม่สบายเลย จึงต้องได้หาอุบายวิธีนี้ เพื่อชาติไทยของเราลูกหลานไทยของเราจะอยู่กับอะไร นั่น ต้องอยู่กับสิ่งนี้เป็นรากฐานของชาติของตนเอง เป็นเครื่องประกันชาติตัวเอง มีหน้ามีตาศักดิ์ศรีดีงามอยู่ในนี้หมด เราคิดหมดแล้วนะ เพราะฉะนั้นเราจึงได้มาบิณฑบาตแล้วออดอ้อนพี่น้องทั้งหลาย เพื่อทองคำจะได้ซึมซาบเข้าไป นี่ก็ได้มากแล้วนี่ หรือมันได้ร้อยเท่าไรแล้วเหอ ( ๑๔๗ กิโล)

นี่ละผลแห่งความซึมซาบของทองคำ ๑๔๗ ถ้าไม่พูดนี้ไม่ได้เลยนะ นี่ก็ค่อยไหลมาเรื่อยๆ เราคิดเห็นหัวใจของชาติอยู่จุดนี้ เราจึงต้องพยายาม เวลายังพอเป็นไปได้อยู่นี้เราจะพยายามเต็มกำลัง นอกจากตายไปแล้วมันไม่ได้นะ แล้วคนอื่นจะมาทำงานเหมือนเรานี้ ก็ไม่สนิทใจทั้งผู้ที่จะมาทำงาน ทั้งผู้ที่จะปฏิบัติตาม มันหากเป็นอยู่ในลึกๆนั่นละ ใครก็เข้าใจเองใช่ไหมล่ะ มันเกี่ยวกับเรื่องนิสัยวาสนาหรืออะไรๆ ทุกอย่างมันรวมอยู่ในนั้น มันไม่เกี่ยวโยงกันมันไม่ลงกันนะคนเรา ถ้าเกี่ยวโยงกันแล้วมันก็ลง

ยกตัวอย่างเช่นพระพุทธเจ้าท่านเสด็จไป นี่ท่านถือพระองค์เมื่อไร ท่านไม่ถือพระองค์ ท่านถือเหตุผลหลักธรรมเป็นเกณฑ์ พอท่านเสด็จไปนี้พวกแม่ค้าเขาหาบของมาเป็นแถวเลยทีเดียว พอเขาผ่านไปแล้ว คือพระกัสสปะตามหลังตามเสด็จพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าออกมาก่อน พอเขาผ่านไปหมดแล้วก็ เอ้า อานนท์ ปูผ้าที่นี่รอ พวกแม่ค้าทั้งหมด เห็นไหมพระญาณ พวกแม่ค้าทั้งหมดนี้เขาเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ เขาไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของเรา เพราะฉะนั้นเขาเห็นเราเขาถึงเฉยเลย ไปถึงนี้ไปหากัสสปะทางนั้นจะทุ่มลงนั้นหมดเลย แล้วพระกัสสปะจะพาพวกนั้นมาหาพวกเราเราคอยฉันอยู่ที่นี่แหละ นั่นเห็นไหมล่ะ นี่ละสายกรรมเข้าใจเหรอ

พระองค์ตรัสรับสั่งอย่างตรงไปตรงมา ไม่นานนักพระกัสสปะพาพวกนั้นไหลมาเลย หมดเลยแม่ค้าทั้งหมด นั่นลูกศิษย์ของท่าน เป็นอย่างนั้นนะ พระพุทธเจ้าได้เสวยพระทั้งหลายก็ได้ฉัน นี่ละมันมาตามสายกรรม ทุกอย่างๆ เป็นตามสายบุญสายกรรม ไม่ใช่อยู่ๆ จะทำ ไม่ได้นะ เรื่องลึกลับอยู่ภายในนั่น อย่างพระพุทธเจ้ารับสั่งมา ไม่งั้นใครจะรู้ได้ยังไงว่าพวกนี้เป็นยังไงๆ ใช่ไหมล่ะ เดินสวนทางพระพุทธเจ้าเฉยเลยไม่สนใจ พอไปถึงพระกัสสปะแล้วทุ่มลงหมด ท่านก็รับสั่งไว้เรียบร้อยแล้วเดี๋ยวพระกัสสปะก็จะพาพวกนี้กลับมานี้ ก็เลยมานี้ ได้ฉันทั้งพระพุทธเจ้า ฉันทั้งพระกัสสปะ ถ้าเราอยู่ในนั้นเราจะฉันด้วยคนหนึ่ง เอ้ามันต้องอย่างนั้นซิ เราเสียดายไม่ได้อยู่ที่นั่นเลยท้องแห้ง เอ้าท้องแห้งก็ตามมาเต็มตอนเช้านี้เอาอีกแหละ เอาตรงนี้เลย แห้งตรงโน้นก็มาเต็มตรงนี้พอ เอาละ พูดไปพูดมาเดี๋ยวพวกนี้มันจะอ้าปากไม่งับ งับปาก เราจะหยุด เราจะให้พร

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก