อำนาจไม่เหนือกรรม
วันที่ 6 กรกฎาคม. 2548 เวลา 19:10 น.
สถานที่ : กุฏิกลางน้ำ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ กุฏิหลวงตา สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อค่ำวันที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

อำนาจไม่เหนือกรรม

          (เฉพาะบางส่วน)

          เราจึงพูดได้เต็มปากทุกอย่างด้วยความเป็นธรรมๆ ควรจะพูดหนักเบามากน้อยเราพูดได้ทั้งหมด เพราะเรื่องของธรรมเหนือโลกไปแล้ว ร่างกายเหมือนท่านทั้งหลายก็ตามแต่ธรรมไม่ใช่ร่างกาย ธรรมสอนโลกนี้เป็นธรรมล้วนๆ เหนือโลกทุกอย่างแล้ว นำมาสอนโลก เราจึงพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจของเรา ไม่ผิด ถ้าลงได้พูดออกไปแล้ว แน่ใจแล้วไม่ผิด ออกเลยๆ ไม่มีคำว่าสูงว่าต่ำ ผิดบอกว่าผิดถูกบอกว่าถูกไปอย่างนี้จึงเรียกว่าธรรม ถ้ามีสูงๆ ต่ำๆ อย่างนั้นว่าไม่เรียกว่าธรรม เอนเอียง ธรรมต้องเสมอภาคไปเลย

          นี่เราก็พูดอย่างนั้นสอนอย่างนั้น สอนโลก ตั้งแต่รัฐบาลลงมา รัฐบาลก็เป็นลูกคนไทย ธรรมก็เหนือรัฐบาล เหนือคนไทยทั้งชาติ เหนือสัตว์โลกอีก ทำไมธรรมจะนำมาสอนสัตว์โลกเพื่อความดีงามไม่ได้ เราก็เอาธรรมประเภทนี้มาสอนโลก ใครจะว่ากระทบกระเทือนอะไรๆ มันก็กระทบกระเทือนสำหรับผู้ทำผิดเท่านั้น ผู้ทำถูกธรรมไม่ไปเกี่ยวข้องนะ ผู้ทำผิดมันไปโดนผู้ทำผิดๆ ก็เป็นพิษขึ้นมาต่อต้านต่างๆนานาก็ทราบว่าความชั่วมันต่อต้านธรรมทั้งหลายก็ทราบ แต่เรื่องธรรมต้องเป็นธรรมสอนไปตลอดอย่างนี้เอง จะให้สอนไปอย่างอื่นไปไม่ได้ ไม่เรียกว่าธรรม ตายใจไม่ได้

          ด้วยเหตุนี้เองเราจึงกล้าพูดได้ทุกอย่าง เมื่อเห็นว่าถูกต้องดีงามกับอรรถกับธรรมไม่ผิดพลาดแล้วพูดไปเลย ไม่มีคำว่าสูงว่าต่ำ เพราะความผิดมันผิดได้ด้วยกัน ก็ต้องเตือนได้ด้วยกันให้แก้ไขดัดแปลง อย่างเมืองไทยของเรานี่เวลานี้กำลังเดือดร้อนมากประชาชน ดังที่เราพูดอยู่เดี๋ยวนี้เราก็เอาความจริงออกมาพูด บรรดาลูกศิษย์ลูกหาก็มีมากต่อมากที่มาเล่าให้เราฟัง เหตุการณ์ต่างๆ ความเคลื่อนไหวของรัฐบาล เคลื่อนไหวยังไงๆ การตั้งกดขี่บังคับกฎหมายกฎหมอยอะไรนี้ตั้งมาแบบไหนบ้าง  แบบไหนบ้างมันก็ฟัง เพราะผู้เขียนตั้งกฎตั้งเกณฑ์ออกมาก็คือคน ผู้ฟังก็คือคน ผิดถูกดีงามก็คือคน จะต้องพิจารณากันโดยเอาธรรมไปพินิจพิจารณา ไม่เอาความเห็นแก่ตัวเข้าไปพิจารณา เอาธรรมเข้าไป อะไรถูกอะไรผิดถือธรรมเป็นที่ตั้ง จุดศูนย์กลางอยู่ที่ธรรม

          เราจึงพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างที่เราเตือนรัฐบาลอยู่เวลานี้ นี่เราก็ทนไม่ไหว เพราะถูกร้องเรียนต่างๆ นานาเข้ามา ว่ารัฐบาลเราเวลาปัจจุบันนี้กำลังร้ายแรงมาก ควรที่จะทำให้บ้านเมืองล่มจม บางคนเขาว่ารัฐบาลเพชฌฆาต บางคนเขาว่ารัฐบาลทรราช เขาว่าอย่างนั้นเราก็พูดตามเขาจะให้ว่าไง นี่เสียงธรรมเป็นอย่างนี้ละ มันเป็นยังไงมันถึงเป็นอย่างนั้น ตั้งรัฐบาลมานี้มันก็มีมาเป็นมาก็รู้กันอยู่ แต่ไม่รุนแรง ๆ แต่มาปัจจุบันนี้รู้สึกรุนแรงเข้าเป็นลำดับลำดา จนจะไม่มองหน้าประชาชน นอกจากคนสามสี่คนจับกลุ่มจับพวกเป็นมหาอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ อยู่นั้นกวาดกินเผากินทุกอย่าง

          นี่เราทราบมาจากความจริง ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง เคลื่อนไหวเพื่อจะยกชาติบ้านเมืองให้ขึ้น หรือเคลื่อนไหวเพื่อจะกินตับกินปอดประชาชน บีบบี้สีไฟประชาชน ส่วนมากมันมีแต่กินตับกินปอด บีบบี้สีไฟประชาชน ด้วยอำนาจป่าเถื่อนๆ รายไหนออกมามีแต่อำนาจป่าเถื่อน จับมือกันมีอำนาจป่าเถื่อนด้วยกัน แล้วกินกลืนราษฎรเข้าไป เขาก็เป็นคนเขามีหัวใจพอที่จะระบายความทุกข์ได้ยังไงเขาก็มาระบาย สุดท้ายก็มาระบายจุดแห่งธรรม คือธรรมเป็นที่ตายใจได้

          ใครก็มาเล่าให้ฟัง เราจวนจะตาย แก้วหูจะแตก จะว่าไง ก็ระบายออกทราบ เป็นการเตือนผู้ทำผิดอย่าทำ ให้ลดละสิ่งที่ทำ มันเป็นความเสียหายแก่ชาติของตน เราจะเป็นคนมั่งมีศรีสุขกี่คนอยู่ในวงรัฐบาล ร่ำรวยขนาดไหนก็ตาม แต่คนทั้งประเทศจนกันทั้งประเทศ เอาน้ำหนักมาชั่งกันซิเป็นยังไง คนรวยมีสามสี่คนขึ้นนั่งอยู่บนหัวคน ขี่รถหัวคนทั้งประเทศ แต่คนที่จมนั้นจมลงไปถูกขี้รดด้วย มันดูได้ไหม ให้พิจารณาซิ นี่ละธรรมพูดตามความจริงอย่างนี้

          เวลานี้กำลังเป็นอย่างนี้ เหลวแหลกทางรัฐบาลเรา เราจึงได้เตือนเข้าไปหานายกฯ ในฐานะว่าเราเป็นอาจารย์นำธรรมมาสอนโลก ธรรมนี้สอนได้ทุกแบบทุกฉบับ ใครจะเอาหรือไม่เอาเป็นเรื่องของเขา แต่เรื่องของธรรมผิดถูกชั่วดีต้องพูดไปตามหลักเกณฑ์แห่งความผิดถูกชั่วดี พูดอย่างอื่นไปไม่ได้ไม่เรียกว่าธรรม เราก็พูดอย่างนั้น จะผิดถูกชั่วดีอะไรให้คำนึงเจ้าของ ธรรมที่สอนมานี้ผิดไหม แล้วเราที่ทำอยู่เวลานี้เราทำผิดถูกชั่วดีประการใด ขัดกับธรรมอย่างไรบ้างให้เอาไปพินิจพิจารณาตัวเอง ถ้าต้องการเป็นอรรถเป็นธรรม อยู่ร่วมกันเป็นความสุขในคนทั้งประเทศก็ต้องพิจารณาอย่างนั้น

          ที่จะเอาตั้งแต่ใจตัวเอง ใช้อำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ มาบีบบังคับ มันบีบบังคับคนทั้งประเทศ มันจะบีบได้ยังไงพิจารณาซิ เราจะว่าเรามีอำนาจอย่างนั้นมีอำนาจอย่างนี้ อำนาจมันก็ไม่เหนือกรรม มันหากมีวันหนึ่งเวลาหนึ่งกรรมที่จะมาดลบันดาล เผาหัวคนที่มีอำนาจมากให้ล่มจมลงต่อหน้าต่อตาก็ได้ อำนาจแห่งธรรมนี่นะ เราอย่าไปอวดกรรมนะ นตฺถิ กมฺม สมํ พลํ ไม่มีอานุภาพใดที่จะเหนือกรรมดีกรรมชั่วนี้ไปได้ นั่นฟังซิ กรรมดีมีอำนาจในทางที่ดี กรรมชั่วมีอำนาจทางที่ชั่วตลอดมาตั้งกัปตั้งกัลป์ พระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็ลบกรรมอันนี้ไม่ได้ จึงต้องสอนให้ระวังกรรมนะ ถ้าลบได้แล้วท่านจะลบให้หมด ให้พวกนี้ได้อยู่สะดวกสบาย ทั้งกินทั้งขี้ทั้งเยี่ยว ขี้ใส่บนหมอนก็ได้ ไม่เป็นอะไรมันไม่เหม็น บังคับไม่ให้มันเหม็น นี่ขี้ราดเหม็นคลุ้งออกมาเลย ตั้งแต่ตดเฉยๆ มันก็เหม็นใช่ไหม

          นี่ท่านสอนตามหลักความจริง ให้ระวังกรรมนะ อย่าอวดดิบอวดดีทั้งที่เราหายใจฝอดๆ เหมือนมนุษย์ทั้งหลาย เราไม่ได้เลิศกว่ามนุษย์ทั้งหลายละ มีแต่จิตใจที่ ความโลภโมโทสังเจ้าของ เป็นบ้าอำนาจไปเท่านั้นเอง บ้าอำนาจแล้วก็บ้าทุกสิ่งทุกอย่าง โลภก็ไม่รู้จักเมืองพอ เหมือนว่าป่าช้านี้จะไม่มี คนเขาตายกันทั้งโลก ทำไมเราจะอยู่ค้ำฟ้าได้เพียงสองสามคนที่ตั้งตัวเป็นเศรษฐีอยู่บนหัวของคนทั้งโลกนี้ละ เราจะตั้งตัวอยู่ได้ไหม โลกเขาตายเราจะไม่ตายหรือ มหาเศรษฐีเลยนั้นไปมันก็ตาย ถึงกาลเวลาแล้วอยู่ไม่ได้ อยู่กับชีวิตจิตใจลมหายใจขาดตายได้ด้วยกันทุกคน

          ควรจะคำนึงถึงเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่อยู่ร่วมกันทั้งประเทศ และยกขึ้นคนใดที่จะพอไว้วางใจได้ เวลาหย่อนบัตรนี้ก็คนทั้งประเทศหย่อน ไม่ใช่ธรรมดานะ คนทั้งประเทศมาหย่อนบัตร หย่อนบัตรก็เพื่อความไว้วางใจ ที่จะให้ผู้นี้เป็นผู้นำประเทศชาติบ้านเมืองให้เป็นไปเพื่อความราบรื่นดีงาม แต่เราเมื่อได้บัตรไปแล้วกลับเป็นหอกเป็นดาบมาฟันคอ ฟันตับฟันปอด ฟันหมดทั้งร่างของคนทั้งประเทศนี้มันเป็นไปได้ยังไง โดยวิธีการกอบโกยรีดไถ วิธีการอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ เด็ดขาด ไม่ใช่อำนาจมนุษย์ มันอำนาจยักษ์อำนาจผี ถ้าเป็นรัฐบาลก็รัฐบาลเพชฌฆาต รัฐบาลทรราช นั่น ใครเขาจะไปต้องการอย่างนี้

          นี่เราก็เตือนไป เตือนไปด้วยความเป็นธรรม ชาติไทยนี้ทุกคนเป็นสมบัติของชาติไทย แล้วทุกคนเราเป็นเจ้าของของชาติด้วยกัน แล้วต้องมีหัวหน้ามาปกครองรักษา การปกครองรักษาเป็นไปด้วยธรรมหรือไม่ มันก็ต้องได้พิจารณา ประชาชนราษฎรเขามีหัวใจทุกคน เขาไม่ได้มีหัวใจตั้งแต่เราคนเดียวที่ตั้งตัวเป็นเศรษฐี เบ่งอยู่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว นั่นซิ จึงได้เตือนให้รู้เนื้อรู้ตัวน้า เราเป็นเหมือนคนทั้งหลาย เวลามีอำนาจก็มีอำนาจอย่างนี้ละ อำนาจนี่มันอาจจะมาบีบเจ้าของ บีบคนอื่นได้ทำไมมันจะบีบเจ้าของไม่ได้ อำนาจนี่ อำนาจชั่วเมื่อหนักเข้าๆ มันก็บีบเจ้าของให้จมทั้งเป็นก็ได้นะ ต้องระวังสิ่งเหล่านี้

          ใครอย่าอวดดีกว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทั้งหลายนี้เลิศเลอมากทุกพระองค์ ๆ ไม่ปฏิเสธกรรมนะ ยกกรรมไว้เสมอ ดังที่ว่านี่ นตฺถิ กมฺม สมํ พลํ ไม่มีอานุภาพใดที่จะเหนือกรรมดีกรรมชั่วนี้ไปได้ กรรมดีกรรมชั่วเหนือหมดทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้เองใครอย่าไปกล้าหาญชาญชัยไปลบธรรมะบทนี้ออกกรรมอันนี้ออก แล้วทำอย่างสบายๆ อย่าไปหาญนะ จะจมยิ่งกว่าคนทั้งหลายที่เขากลัวบาปกลัวกรรมเป็นไหนๆ พากันพิจารณา

           

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก