ประธานาธิบดีตำแหน่งมหาภัยศาสนา
วันที่ 30 มิถุนายน 2548 เวลา 15:30 น.
สถานที่ : ศาลา สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

วันที่ ๓๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๘ (๑๖.๐๐ น.)

ประธานาธิบดีตำแหน่งมหาภัยศาสนา

 

          ไฟฟ้าเราไม่ให้มีแต่ไหนแต่ไรมานะ ไม่ให้มี แล้วมันก็ดอดเข้ามามีตรงนั้นละ มีข้าง  ๆ แล้วก็เลยกลายเป็นใหญ่ขึ้น ๆ ต่อไปน่ากลัวจะเป็นโรงไฟฟ้าใหญ่ตรงนั้น มันค่อยขยับของมันไปอย่างนั้น เราพยายามดับไฟนอกให้ไฟในนี่ขึ้น ดับไฟฟ้าภายนอก ให้ไฟฟ้าที่สว่างไสวภายในใจนี่ขึ้นแทน เราจึงปิดไฟภายนอก เปิดไฟภายในให้พระได้ภาวนา ไม่มีการยุ่งยากวุ่นวายอะไร มีแต่ดูจิตชำระจิตให้สง่างามขึ้นเรื่อย ให้มันกระจ่างแจ้งครอบโลกธาตุ จิตดวงนี้ของเล่นเหรอ เวลาเปิดให้เต็มที่แล้วสว่างจ้าเลยครอบโลกธาตุ  ไอ้ไฟฟ้ามันสว่างไปถึงไหน พิจารณาซิ มันต่างกันอย่างนั้นนะ

          เราจึงกีดกันเอาไว้ตั้งแต่ต้นนะ นู่นน่ะโรงไฟฟ้าเขา ตั้งแต่ไฟฟ้าโรงนะ ผู้อำนวยการก็ม.ร.ว.ดำรงวุธ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าโรงนะอุดร จะมาขอทำไฟฟ้าให้เราจากโรงนั้นเลยถึงวัด จัดการหมดเลย ไม่เอา เราไม่เอา จากนั้นไฟฟ้าก็เฉียดไปเฉียดมา อยู่นั้นเราก็ไม่เอา ไม่เอา นี้มันดอดมาได้ยังไงเข้าไปอยู่ในนั้นแล้วเวลานี้ ได้เปลี่ยนไปเครื่องหนึ่งแล้วนะ มันชำรุด เป็นเครื่องที่สอง เครื่องที่สามอาจเป็นโรงไฟฟ้าใหญ่ก็ได้ เราไม่แน่ใจนัก มันขยับเข้ามาอย่างนี้ละ เราคิดอย่างนี้เราคิดด้วยธรรมทั้งนั้นนี่นะ ถ้าลองไฟฟ้านี่มันจ้าขึ้นดูซิ ไฟฟ้านี่ร้อยดวงสู้ไม่ได้ สว่างไสว ทุกอย่างอยู่ในนี้หมด

          เพราะงั้นจึงให้ชำระใจซิ ไฟมืดมันปิด ไฟกิเลสมืดปิด ไฟแจ้งก็คือธรรมบำรุงนี้สว่างจ้าออก ๆ จ้าออกไปเลย นั่น ทีนี้จ้าออกด้วยความสุขความสงบเย็นใจมากขึ้น ๆ เต็มที่แล้วบรมสุขเต็มอยู่ในหัวใจนี้ ไฟไม่มีแม้แสงเดียว ไม่มี ใจของท่านผู้บริสุทธิ์แล้วจะไม่มีไฟ แม้แย็บหนึ่งก็ไม่มี หมดโดยสิ้นเชิง แล้วไฟนี้มาจากไหน มาจากกิเลส กิเลสขาดสะบั้นลงไปไฟที่มันเผาสัตว์โลกให้เป็นทุกข์ ซึ่งมาจากกิเลสก็ดับไปพร้อมกัน เพราะงั้นพระพุทธเจ้า-พระอรหันต์ท่านจึงไม่มีทุกข์ ไม่มีโดยสิ้นเชิง ทุกข์ในแดนสมมุตินี้หมดไปพร้อมกันกับกิเลสหมดจากหัวใจ หมด

          ทีนี้ธรรมก็จ้าขึ้นเลย นั่นละไฟฟ้า ไฟดิน ไฟครอบโลกธาตุอยู่ในนั้นหมดเลยนะ เข้าใจเหรอ พระพุทธเจ้าพระองค์แรกเป็นผู้เห็น พระสาวกทั้งหลายเห็นเป็นอันดับ เห็นไฟอันนี้นะ นอกนั้นไม่เห็น หูหนวกตาบอดไป พูดอะไรเขาก็ไม่เชื่อ เขาหาว่าพูดงู ๆ ปลา ๆ ข้าง ๆ คู ๆ เขาพูดไปตามความจริงว่าไปตามคูตามคันไปตามงูตามปลาไปเรื่อย ๆ เขาว่าถูกต้อง เข้าใจไหม กิเลสมันเป็นอย่างนั้นละ ข้าง ๆ คู ๆ มันก็กินไปหมด ถ้าเป็นเรื่องของกิเลส ถ้าเป็นเรื่องของธรรมจริงขนาดไหนปลอมไปหมด นี่อำนาจของกิเลสมันทับถมมากนะ

          พูดอย่างนี้เราก็ยังกระเทือนถึงเรื่อง เราพูดให้เต็มปากเลยนะ กระเทือนจริง ๆ  กระเทือนจิตดวงนี้กระเทือนจริง ๆ นะ ว่าเขาไปพูดไปถึงตำแหน่งประธานาธิบอดงบอดีอะไร  เขาว่าตำแหน่งประธานาธิบดีนี้ผู้มีศาสนาเรียกว่าเป็นภัยมาก ว่างั้น คือเป็นประธานาธิบดีแล้วมหากษัตริย์ก็ไม่มี ศาสนาก็ไม่มี เป็นความจริงแค่ไหนเขาเอามาพูดอย่างนั้นนะ พอได้ยินว่าศาสนาก็ไม่มีนี้กระเทือนใจเอามากทีเดียว นี่ตำแหน่งประธานาธิบดีเรียกว่าตำแหน่งมหาภัยของศาสนา ไม่มีเหลือ ของมหากษัตริย์ไม่มีเหลือเลย ตำแหน่งอันนี้เป็นของดีแล้วเหรอ

          ตำแหน่งนี้ก็เป็นตำแหน่งเพชฌฆาต สังหารจิตใจของคนที่นับถืออรรถธรรมมาดั้งเดิมให้พินาศฉิบหายไป ตำแหน่งประธานาธิบดีนี้ดีที่ตรงไหนเราอยากถามดู คนที่มาครองตำแหน่งประธานาธิบดีนี้มันจะไม่ตายเหรอ มันเหนืออนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ไปไหน มันจึงมาเหยียบย่ำทำลายถึงขนาดที่ว่าจะไม่ให้มีศาสนาเลย นี่เราสลดสังเวช เราได้ยินมาเฉย ๆ นะ เป็นความจริงแค่ไหนก็ตาม เขาคงไม่เอาความโกหกพกลมมาพูดเราด้วยเจตนาร้ายนะ เขาจะพูดตามความสัตย์ความจริง ว่าถ้าตำแหน่งประธานาธิบดีขึ้นมานี้กษัตริย์ก็หมด ศาสนาก็หมด จะมีแต่ประธานาธิบดีมหาภัยครอบอยู่ในโลกในเมือง เช่นในเมืองไทยก็ครอบในเมืองไทยเรา แล้วอะไรดี ท่านทั้งหลายพิจารณาซิ

          ประธานาธิบดีนั้นน่ะกับศาสนา กับชาติ กับพระมหากษัตริย์ เอามาเทียบกันซิคุณค่าทั้งสามประเภทนี้กับคำว่าประธานาธิบดีซึ่งเป็นตัวมหาภัย เป็นเพชฌฆาตยิ่งใหญ่นั้น อะไรเป็นภัยที่ร้ายแรง เหล่านี้ครองโลกมานาน ให้โลกได้รับความสงบร่มเย็นมา  เช่นพุทธศาสนาเรามีมาตั้งแต่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พุทธศาสนาเป็นศาสนาพื้นเพที่ยืนตัวมาจากท่านผู้บริสุทธิ์ คือพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ได้มาตรัสรู้เป็นศาสดาสอนโลกต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ทางจิตใจทุกสัดทุกส่วน เหมือนกันทุกพระองค์ นี่กำลังเดินตามแถวตามแนวมา

          เวลานี้พระสมณโคดมเรา สั่งสอนสัตว์โลกให้ได้รับความสงบร่มเย็นเรื่อยมา อยู่ในจุดนี้ ต่อจากนี้จะเป็นพระอริยเมตไตรย ในภัทรกัปนี้มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ห้าพระองค์ นี้เป็นสี่พระองค์แล้วนี่ นี้ละเป็นธรรมที่รื้อขนสัตว์โลกให้พ้นจากทุกข์ ๆ กิเลสมีแต่จะเอาจมลง ๆ โดยท่าเดียว ยิ่งประธานาธิบดีที่ไม่มีศาสนาเลยนี้คือเพชฌฆาตอันยิ่งใหญ่ที่สุดในหัวใจของสัตว์โลกผู้นับถือศาสนา เช่นพุทธศาสนาเป็นต้น ฉิบหายวายป่วงอย่างไม่มีอะไรเหลือ ทำลายจิตใจได้มากที่สุดก็คือประธานาธิบดี ถ้าจะเป็นประธานาธิบดีกษัตริย์ก็หมด ศาสนาก็หมด

          เมืองไทยสิ่งที่มาแทนคืออะไร คือหมา เข้าใจไหม หมามันไม่มีศาสนา นี่ละตำแหน่งนี้ละตำแหน่งหมานี้จะขึ้นครองบ้านครองเมือง จะมีแต่หมาไปเต็มตัวไปเลย เรื่องบุญเรื่องบาปจะไม่มี ลบล้างหมด การลบล้างคืออะไร คือกิเลสตัวมืดบอดนั่นเอง พระพุทธเจ้าองค์ไหนท่านลบล้างบาปที่ไหนไม่เคยมี ลบไม่ได้บาป ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใด บุญก็ดี เรื่องธรรมทั้งหลายลบล้างไม่ได้ สอนด้วยธรรมที่เป็นความถูกต้องดีงาม นำสัตว์โลกให้เข้าสู่ความร่มเย็นเป็นชั้น ๆ ขึ้นมาโดยลำดับ

          อย่างที่ท่านแสดงไว้ว่านรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน จนกระทั่งถึงสวรรค์ พรหมโลก นิพพาน นี้เป็นธรรมชาติที่มีอยู่ดั้งเดิมสำหรับอยู่ของสัตว์ทั้งหลายผู้มีกรรมดีชั่วหนักเบาต่างกัน นี่เป็นมาดั้งเดิม ลบไม่สูญ เรื่องกิเลสตัวนี้มันจะลบหมด จะไม่ให้มีเหลือ ให้เหลือตั้งแต่ไฟเผาหัวใจมันเท่านั้น คนคนนี้ถึงวันแล้วมันก็ตาย ตายแล้วมันก็ไปจมที่ว่าไม่มีที่มันลบนั่นละ มันจะลงไปจมที่นั่นนะ เลิศวิเศษวิโสกว่ามนุษย์ที่ไหนมา เสกสรรปั้นยอตัวเข้าว่าเป็นนั้นเป็นนี้ เช่นประธานาธิบดีก็เป็นบ้าลมปากเขาไปเฉย ๆ เจ้าของจะตายอยู่วันไหนมันไม่ได้ดูหัวใจเจ้าของ ธาตุขันธ์มันชำรุดทรุดโทรมไปทุกวัน ๆ เหมือนคนทั่ว ๆ ไป มาเสกสรรปั้นยอตัวเองขึ้นวิเศษวิโสเหนือโลกทั้งหลาย มันวิเศษไปได้ยังไง โลกนี้เขามีโลกเกิดตายด้วยกันทั้งนั้น

          นี่ละที่มาทำลายศาสนาที่เป็นสายทางเดิน เพื่อควาสงบสุขแล้วพ้นทุกข์ไปโดยลำดับของพระพุทธเจ้าทั้งหลายนี้ จึงสลดสังเวชมาก เราพูดจริง ๆ เราสลดสังเวช หัวใจเราครองธรรมชาตินี้อยู่แล้ว พูดให้มันชัด ๆ อย่างนี้เลย ครองธรรมชาตินี้ มันจ้าอยู่ครอบโลกธาตุ เห็นอยู่นี้ คือพระพุทธเจ้าเป็นผู้มาสั่งสอน แต่ก่อนก็เป็นอีตาบัว เป็นบักบัว อยู่ตามภาสีภาษาตามท้องไร่ท้องนา หาอยู่หากินกบ-เขียดตามท้องไร่ท้องนา ทีนี้เข้ามาบวชนั่นซิ พอเข้ามาบวชธรรมพระพุทธเจ้านี้สอดเข้ามาละนะ พอมาบวชอ่านธรรม ๆ เอ๊ะชอบกล ๆ นั่นเห็นไหมละ ฟังให้มันชัด ๆ อย่างนี้ละ

          พอฟังธรรมเข้าไปนี้ ความรู้ความเห็นความเป็นมาซึ่งเป็นนิสัยสันดานของปุถุชนเราธรรมดานั้นมันค่อยจางออก ความสนใจในธรรมเอ๊ะชอบกล ๆ เข้าไปเรื่อย ๆ จิตก็หมุนเข้าไป ๆ นั่น ครั้นหมุนเข้าไปอ่านธรรมตรงไหน ๆ หาที่ค้านไม่ได้ มีแต่ตำหนิเจ้าของ เอ๊ะนี่เราก็ผิดมาแล้ว นี่เราก็ผิดมาแล้ว พยายามปัดออกสิ่งที่ผิดไม่ทำต่อไป แล้วเปิดทางที่ดี ๆ เรื่อยขึ้นมา จนกระทั่งได้ออกบวช ออกบวชท่านแสดงธรรมบทใดบาทใดไม่มีคลาดเคลื่อนจากหลักความจริง นี่ก็เชื่อไปอีกประเภทหนึ่ง ยันถึงมรรคผลนิพพานท่านแสดงไว้เรียบร้อยแล้ว จิตใจก็ยิ่งดูดเข้าไป ดูดเข้าไป ถึงมรรคผลนิพพาน จากนั้นก็เรียกว่าตัดสินใจเลยในหัวใจเจ้าของเอง

          นี่เรียนจบเรียบร้อยแล้วนี่เราจะออกปฏิบัติเพื่อให้ได้มรรคผลนิพพาน คือเพื่อเป็นพระอรหันต์เท่านั้น นั่น ไม่เป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้นหยุดจากการศึกษาเล่าเรียนแล้วออกทันทีเลย ก็ไปเจออาจารย์ชั้นเอง ปรมาจารย์ หลวงปู่มั่น ท่านก็เหมือนว่าท่านจับเรด้าร์ไว้เรียบร้อยแล้ว เราไม่ลืมนะ พอขึ้นไปปั๊บก็ใส่เปรี้ยงเลย นั่น เรด้าร์ท่านจับไว้แล้ว ว่า “ท่านมาหาอะไร” นี่เราไม่ลืมนะ “ท่านมาหามรรคผลนิพพานเหรอ หรือมาหาอะไร ต้นไม้ภูเขาดินฟ้าอากาศทั่วแดนโลกธาตุไม่ใช่มรรคผลนิพพาน ไม่ใช่กิเลสไม่ใช่ธรรม ธรรมแท้ มรรคผลนิพพานแท้ กิเลสแท้อยู่ที่ใจ” ท่านชี้ลงมานี่

          “ให้ท่านชำระจิตใจของท่านให้ดี เวลานี้กำลังถูกหุ้มห่อปิดบังด้วยกิเลสทั้งหลาย สัตว์โลกมืดด้วยกัน เพราะกิเลสประเภทนี้ปิดบังหัวใจ ให้ท่านตั้งใจภาวนา” บอกภาวนาเลยนะ “เอาเปิดออก อันนี้ที่มันปิดบังหัวใจโลกให้มืดบอด หาทางไปทางมาไม่ได้ แล้วจมลง ๆ ตลอด เพราะกิเลสไสลง ๆ กิเลสอยากให้โลกทั้งหลายทำแต่สิ่งที่ต่ำทราม สิ่งที่สูงที่ดีมันไม่อยากให้ทำ อยากให้ทำตั้งแต่สิ่งที่ชั่วช้าลามก เอา ๆ ลงตรงนี้นะ” ท่านดันเข้ามาตรงนี้เลย ปฏิเสธหมด “ทั่วแดนโลกธาตุไม่ใช่กิเลส ไม่ใช่ธรรม กิเลสแท้ธรรมแท้อยู่ที่ใจ ที่จะบุกเบิกกิเลสออกได้คือธรรม เอาจิตตภาวนา เอาให้ดี เร่งให้ดี เอาให้หนัก” ท่านว่าอย่างนี้เลยนะ เราไม่ลืมท่านพูด วันแรกเลยละไปหาท่าน เพราะงั้นมันถึงจำได้ทุกกิทุกกี เรด้าร์ท่านจับไว้เลย ใส่เปรี้ยง ๆ เลยละ ท่านไม่ใช่ธรรมดานะ  

          พอได้ฟังธรรมท่านอย่างถึงใจเสียด้วยนะ ไม่ใช่ธรรมดานะ ท่านใส่ลงเปรี้ยง ๆ ถึงใจ ทางนี้พอออกมาจากท่านแล้ว เหมือนว่าตัวนี้พองหมดเลยนะ มันพออกพอใจทุกอย่าง มาก็ถามตัวเอง ถามตัวเองภายในใจนี้ ทีนี้มาฟังเทศน์ครูบาอาจารย์ที่เรามุ่งมั่นมานานแล้ว วันนี้ได้พบได้เห็นแล้ว ได้ฟังอย่างถึงใจแล้ว และฟังธรรมนี้อย่างถึงใจ ทีนี้เราเป็นยังไง เราจะจริงไหม ธรรมนี้มีแต่ธรรมจริงล้วน ๆ เราจะจริงไหม ทางนี้ก็ตอบรับกันผึงเลย ต้องจริง ไม่จริงตายเท่านั้น นั่นละ พอว่างั้นมันก็ฟัดกันเลยละ ทีนี้จิตหมุนแล้ว ตั้งแต่เริ่มแรกมาก็เล่าให้ฟัง จิตดวงนี้แหละหมุนเข้า ๆ ๆ ฟัดกิเลส

          เราสรุปความเลยฟัดเข้าค่อยเปิด จ้าออก ๆ ฟาดออกเสียขาดสะบั้นไปหมด กิเลสทั้งปวงที่หุ้มห่อจิตใจหายขาดสะบั้นไปหมดเลย เหลือแต่จิตใจดวงนี้จ้าตลอดเวลา เดี๋ยวนี้ก็จ้าอยู่ อวดท่านทั้งหลายเหรอ เราเทศน์สอนโลกเราเทศน์ทุกแบบทุกฉบับเราเทศน์ด้วยความจริงจังทั้งนั้น เราไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใดในสามแดนโลกธาตุ นี้ออกจากพุทธศาสนาของเรา แล้วจะไปลบล้าง ไปทำลายศาสนานี้หาอะไร ผู้ที่ไปลบล้างมันมีคุณค่าเหนือศาสนานี้ไปยังไงบ้าง ถึงจะมาลบล้างมาทำลายศาสนา

          เขาว่าตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นตำแหน่งหรือเป็นผู้ทำลายศาสนา นี่เขาเล่าให้ฟังว่าอย่างนั้นนะ กษัตริย์ก็ไม่มีเหลือและศาสนาก็ไม่เหลือ เหลือตั้งแต่หมาไม่มีหางเท่านั้นละ ประธานาธิบดีตัวนี้แหละตัวหมาไม่มีหางนี้ ตัวเป็นเพชฌฆาตอันใหญ่หลวงทำลายจิตใจของคนชาวพุทธทั่วโลกดินแดน คือตัวนี้เองตัวไม่มีหางนี่เอง แล้วทำลายกษัตริย์ ท่านเป็นกษัตริย์มาเท่าไร ให้ความร่มเย็นแก่โลกได้นานเท่าไร เราตัวยิ่งกว่าหมานี่อีก หรือร้ายกว่าหมาอีกยังจะไปยกยอว่าเป็นของดิบของดีเหรอ ใครเชื่อพิจารณาซิ

          พูดให้ชัดเจน หลวงตานี้จวนจะตายแล้ว ไม่เคยสะทกสะท้านกับสามแดนโลกธาตุ ไม่มีในหัวใจเลย ขาดสะบั้นไปหมด ตั้งแต่กิเลสพังลงไปที่ว่าวัดดอยธรรมเจดีย์  จ้าอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา เวลานี้ก็จ้าอยู่อย่างนี้จะให้ว่าไง เอาคอขาดขาดไปเลย คำว่าจ้านี้จะไม่มีลดละถอยหลังไปไหนละ นี่ธรรมะพุทธเจ้าฝึงใจถึงขนาดนี้ เราจึงกล้าพูดละซิ สิ่งเหล่านี้เป็นภัยต่อศาสนา เราก็ต้องบอกว่าพูด ลบล้างศาสนานี่เป็นมหาภัย ลบล้างมหากษัตริย์เป็นมหาภัยทั้งนั้น เป็นเรื่องใหญ่โตมากที่สุด ในเมืองไทยเราไม่เคยมีมา ถ้าจะมีมาก็จะมีมาตอนที่ใครก็ตามจะมาตั้งเป็นประธานาธิบดีนี้เรียกว่าสังหารหมด คนไทยจะยอมรับกันได้ไหม พิจารณาซิ อำนาจป่าเถื่อนมันจะมาบีบบังคับท่านั้นท่านี้ไปหมดเลย

          อย่างเวลานี้ท่านทั้งหลายได้เห็นไหม การเทศนาว่าการเทศน์มาตั้งแต่พระพุทธเจ้าองค์ไหน ๆ กี่กัปกี่กัลป์ เทศนาว่าการสอนโลกให้ได้รับความสงบร่มเย็น เป็นมหามงคลจนหลุดพ้นจากทุกข์ถึงนิพพานได้โดยลำดับมา ไม่เคยปรากฏว่าที่ไหนที่มีที่คัดค้านต้านทานศาสนา คำสอนของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ที่สอนมาโดยลำดับ ว่าไม่ให้สอนโลก มีการกีดกันมีการบังคับบัญชาไม่ให้เอาธรรมสอนโลกนี้เคยมีที่ไหน เวลานี้กำลังมีขึ้นในเมืองไทยของเรา การเทศนาว่าการที่ตรงไหนต้องกีดกัน พวกเปรตพวกผีพวกยักษ์พวกมารที่จะเป็นเพชฌฆาตสังหารศาสนา เวลานี้กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว ศาสนาสอนธรรมที่ไหน ๆ เช่นวิทยุ

          พอเทศน์อย่างนี้ก็หาว่าวิทยุเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ นี่เห็นไหมละ ดูเอาซิพี่น้อง ทั้งหลาย หัวใจมีทุกคน เราเปิดทางให้ดูให้คิดนะ เรานี้มันจะตายอยู่เร็ว ๆ นี้ กล้าเราก็ไม่มี กลัวเราก็ไม่มี แต่ความจริงมีเต็มหัวใจเราพูดได้เต็มปาก เราพูดตามหลักความจริงอย่างนี้แหละ นี่กำลังถูกกีดถูกกันเห็นไหมดูเอาซิศาสนาเวลานี้ วิธีนั้นวิธีนี้จะมากีดมาดัน เคยมีที่ไหนเรื่องธรรมสอนโลกไม่เคยมีใครมากีดกัน มาเห็นปัจจุบันในเมืองไทยของเรานี้ จะตัวเปรตตัวผี ตัวยักษ์ตัวมาร หรือเทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม มาจากไหนก็ไม่ทราบที่มาคัดค้านต้านทานศาสนา เพื่อจะลบล้างศาสนาไม่ให้มี ให้มีแต่หมาไม่มี่หางเท่านั้นครองบ้านครองเมือง แล้วกัดฉีกกันตลอด มันจะเอาความวิเศษวิโสมาจากไหนไม่มีศาสนา กัดกันเลวยิ่งกว่าหมาไปอีก นั่นจะว่าไง

          นี่ละพิจารณา เอาไปพิจารณาเห็นโทษเห็นคุณของมันซี เรื่องของมันเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าเลิศมาทุกพระองค์ ไม่เคยว่าพระพุทธเจ้าจะหย่อนในความเลิศเลอ เสมอกันหมดด้วยควมเลิศเลอ สอนโลกให้พ้นจากทุกข์ไปเป็นจำนวนมากขนาดไหน มีใครมาเป็นคู่แข่ง แข่งก็แข่งอย่างนี้แหละนี่ มีแต่มาลบมาล้างมาทำลาย มันจะมาสร้างความดี ให้ประชาชนได้รับความสงบร่มเย็นเป็นสุขแบ่งเบาพระพุทธเจ้าบ้าง ไม่มี มีแต่เรื่องการทำลาย

          พูดแล้วเราสลดสังเวช นี่เราจวนจะตายแล้ว พูดเสียเวลานี้ให้ท่านทั้งหลายได้ฟัง เราไม่เคยเสียดายชีวิต ร่างกายของเรานี้ก็เป็นเครื่องมือใช้สำหรับพี่น้องทั้งหลายนั่นแหละ ถึงกาลเวลามันจะเป็นของมันก็เป็นไปอย่างนี้ เจ็บนั้นปวดนี้แก้ไขรักษากันไป  ๆ เมื่อไม่ไหวแล้วก็ดีดผึงเท่านั้นเอง เราไม่เคยเสียดายในสิ่งเหล่านี้นะ ธรรมที่เลิศเลอประจำอยู่ในหัวใจ ถ้าว่าที่พึ่งไม่ต้องถามหา ถามหาอะไร นั่น มันอยู่กับหัวใจนี้แล้ว อันนี้ละธรรมชาตินี้เลิศมาจากพุทธศาสนานะ ไม่ได้เลิศมาจากผู้กีดกันหวงห้าม ทำลายประเภทต่าง ๆ นะ อันนั้นเลวที่สุด เป็นมหาภัยต่อศาสนา เป็นเพชฌฆาตอย่างร้ายแรงที่สุดทีเดียวที่กำลังก่อตัวขึ้นมาในเมืองไทยของเรานี้แหละ ให้ท่านทั้งหลายฟังให้ดี

          หลวงตาบัวตายแล้วจะไม่มีใครพูดอย่างนี้นะ ให้ฟังให้ดีนะ นี้ไม่เสียดาย ตายก็ตาย ถ้าลองได้พูดขอให้พูดได้เต็มอรรถเต็มธรรมเข้าสู่หัวใจพี่น้องทั้งหลายได้เป็นมหามงคลไปกราบไหว้บูชาเราเป็นที่พอใจ ชีวิตของเราเราไม่มีอะไรกับมันละ ก็เหมือนกับชีวิตของโลกทั้งหลาย หมดลมหายใจเราก็ไปเหมือนกันเท่านั้นเอง นี่สงสารหัวใจมีทุกคน ๆ เสาะแสวงหาความดี แล้วก็ผู้ที่เอาไฟมาเผา ๆ จะทำลายศาสนามันก็เร่งขึ้นมา เร่งขึ้นมา ฟังให้ดีนะ เลวมากที่สุดเลย สมัยปัจจุบันของเรานี้ละ

          เมืองไทยนี้ฟังว่ากำลังริเริ่มจะดีดดิ้นเป็นบ้า กำลังจะเป็นประธานาธิบดี เราทราบมาอย่างนั้นนะ กำลังดีดดิ้น ดีดดิ้นเพื่อเป็นประธานาธิบดีก็ดีดดิ้นเพื่อทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ นั่นเอง แล้วคนไทยทั้งหมดก็เป็นหมาไปหมด มันก็เป็นยักษ์ใหญ่กัดหมากินหมาแทนเป็นอาหาร มันไม่มีข้าวกิน มันจะเอาเนื้อมนุษย์หัวใจมนุษย์มาเป็นอาหารกินแทนข้าวแทนปลาไปเวลานี้ มันเลวที่สุดแล้วหัวใจนี่ เห็นตั้งแต่ความโลภโมโทโส เห็นแก่ลาภแก่ยศ มันจะตายอยู่วันไหนเหมือนโลกเขาทั่ว ๆ ไป มันไม่มองดูร่างกายมันบ้างเหรอ ไอ้นี้มันก็จะตายเหมือนกัน

          มันจะใหญ่ขนาดไหนมีแต่ลมปากเสกสรรปั้นยอเป็นนั้นเป็นนี้ ว่าใหญ่มันก็ตัวเท่าเดิมนั่นแหละ มันจะเป็นใหญ่ไปที่ไหน มันสร้างแต่ความชั่วช้าลามก กรรมอันนี้จะเผาหัวมันลงจมขนาดไหน ใหญ่แต่ชื่อตัวมันจะจมนะ พวกเปรตพวกผี พวกทำลายศาสนา-พระมหากษัตริย์จะจมแน่นอน เราขอพูดให้เต็มปากของเรา เราไม่เสียดาย  ในชีวิตของเราขอให้ได้ธรรมเป็นเครื่องระลึกของพี่น้องทั้งหลาย เท่านี้เราพอใจเราแล้ว สมกับว่าเราช่วยชาติบ้านเมืองมาเป็นเวลานาน

          เฉพาะอย่างยิ่ง ๖-๗ ปีมานี้ เราสอนเต็มเหนี่ยวทุกอย่าง เราไม่เคยออมปากเลย สอนเต็มเหนี่ยวด้วยความเมตตาสุดซึ้งในหัวใจ เทศน์สอนเต็มเหนี่ยว แล้วไม่สงสัยด้วยว่าธรรมเหล่านี้สอนจะผิดไปที่ตรงไหน ไม่มี เพราะมันจ้าอยู่นี่ ความถูกต้องเต็มอยู่นี่ ออกไปไหนมันก็ถูกต้องหมดละซี ถ้าผิดอยู่นี้ออกไปไหนมันก็ผิด อันนี้ความถูกต้องอยู่นี้แล้วมันจะไปไหนวะ ขอให้ท่านทั้งหลายไปพินิจพิจารณา เวลานี้ศาสนาของเรากำลังถูกกีดถูกกันทุกแบบทุกฉบับ เริ่มแล้วนะ ให้ฟังเอานะ

          เอาตั้งแต่วิทยุนี้ละ หาอุบายมากีดกันท่านั้นท่านี้ ทั้ง ๆ ที่มีมาตั้งกัปตั้งกัลป์ ธรรมนี้ไม่เคยเป็นภัยต่อผู้ใด ทำไมจึงกลับมาเป็นภัยเวลานี้ ถูกกีดกันทุกแบบทุกฉบับ จะทำลายให้จมนั้นเอง ศาสนาจม ดูเอานะ เวลานี้กำลังออกมาทุกแบบทุกฉบับด้วยอำนาจป่าเถื่อนของมันนั่นละ อวดอำนาจป่าเถื่อนเหมือนจะใหญ่โตยิ่งกว่าโลกทั้งสามนู่นน่ะคนคนนี้ แล้วมันก็จะตายเหมือนกัน เวลามันตายแล้วญาติวงศ์ของมันก็จะไปเที่ยวหาพระมา กุสลาธมฺมา กุสลาธมฺมา เปรตใหญ่ตัวนี้มันไปไหนน่า ถ้าให้เราตอบ เปรตใหญ่ตัวนี้มันลงนรกแล้วอย่าไปตามหาหัวมันนะ เราจะว่าอย่างนี้ เข้าใจไหมละ เอาละพอ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 

 

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก