เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๘
เหตุผลต่อเหตุผล
ก่อนจังหัน
นี่ได้ทราบว่าเวลาเราจะลงไปกรุงเทพนี้มีพระลาไปกรุงเทพกับผม มีองค์ไหนให้ไล่ออกจากวัดทันทีนะ เราไปกรุงเทพเราจะไปทำประโยชน์ในกรุงเทพ พระวัดนี้องค์ไหนที่จะดอดตามเราโดยที่เราไม่ได้จัด องค์ไหนมาหาว่าจะลาไปกรุงเทพกับผมให้เอาออกจากวัดทันที หรือไม่เอาออกก็จดไว้ๆ ผมมาผมจัดการเอง มันเลวมากพระเหล่านี้น่ะ ผมอุตส่าห์พยายามตั้งอกตั้งใจเมตตาสงสารรับไว้ๆ เพื่อบำเพ็ญธรรม มันดอดไปกรุงเทพนู่นมันมีไหม ถ้ามีให้ไล่ออกจากวัดนี้ให้หมด ผมจะอยู่องค์เดียวผม สั่งสอนโลกมันไม่เกิดประโยชน์อะไรสั่งสอนไปหาอะไร คอยโดดตามๆ มันไม่ใช่ทางเลย ฟังไม่ได้นะ ฟังไม่ได้จริงๆ
เรารับไว้เพื่ออรรถเพื่อธรรมรับพระจำนวนมากน้อย ไม่ได้รับไว้เพื่อโกโรโกโสอย่างนั้นนะ มีองค์ไหนที่จะไป องค์ไหนผมจะเอาไปผมสั่งไว้เรียบร้อยๆ แล้วไปเท่านั้น เกินกว่านั้นมีเหตุมีผลมาเพราะเหตุไร นั่น นี่ได้ทราบว่างั้นนะ ว่ามีพระจะมาขอไปด้วย ถ้ามีให้จับเอาไว้องค์นั้น ถ้ายังมีอยู่ในวัดนี้ผมมาแล้วผมจัดการเอง ไม่ต้องอุทธรณ์ แหมเด็ดมากนะ กิเลสของพระเหล่านี้เด็ดมาก อันนี้ต้องเด็ดมากเหมือนกันไม่งั้นไม่ทันกัน โลกมันสกปรกเอาเหลือประมาณเวลานี้ ธรรมแทบไม่มีติดหัวใจพระนะ มันกลายเป็นส้วมเป็นถานไปหมดเลย แม้ที่สุดในนี้ก็เหมือนกันที่เราเข้มงวดกวดขันอย่างมาก มันยังดอดออกมาให้จับได้อีกเรื่องราวอย่างนี้น่ะ เลวมากนะ ถ้าเราทราบไล่ทันทีเลยไม่ให้อยู่
มันสมบัติอะไร ท่านไปกรุงเทพท่านไปธุระ ท่านรับเราไว้ที่นี่ท่านรับไว้เพื่ออะไร ท่านจะเอาองค์ไหนไปท่านจัดของท่านไปเองนี่ นี้ทำไมมาเป็นอย่างนั้นพระนี่ แสดงความหยาบโลนให้เห็นมากนะ นี่อันหนึ่ง แล้วยังธรรมลีอีกนะ เวลาธรรมลีไปพระจะดอดไปตามธรรมลีอีก นั่นก็งุบๆ งิบๆ พระขึ้นขี่คอไปก็ไป แบกไปหามกันไปอย่างนั้น นี่อันหนึ่ง เวลาเราไปกรุงเทพนี้มันจะแอบไปตามธรรมลีอีกนะ หนักมากนะเรื่องเหล่านี้น่ะ มันเป็นยังไงพระเรา สอนให้ดิบให้ดีเท่าไรยิ่งเลวลงๆ เป็นยังไง เราอิดหนาระอาใจมากนะเรื่องพระเรื่องเณรของเรานี่ พิลึกจริงๆ จำให้ดีนะ ให้พร
หลังจังหัน
หนูทำไมมันมากมายเอานักนะ จับได้ ๘๐ พอดีนะ นู่นน่ะฟังซิ สองคืนนี้ได้ ๘๐ ตัว ไฟนี่มองไปไหน มองไปนอกกำแพงก็จ้าๆ นะไฟ ขบขันนะ มันมีหลายแบบนะในวัดนี้อดขบขันไม่ได้ ทั้งไล่หนูทั้งไล่แมว ทีนี้ไล่แมวมันขบขันดีนะ พระไปไล่แมว ไอ้หมาก็ออกไปตามไล่แมวอีก เราว่า ระวังนะหมาไล่แมวมันกัดแมวตายนะ หมามันไปไล่แมวด้วย แต่ดีอันหนึ่งเวลาเห็นหมามันโดดขึ้นต้นไม้ ได้ตรงนั้นแหละ คือถ้ามีแต่มันแล้วไล่ไม่ทัน หมามาด้วยมันกลัวมันวิ่งขึ้นต้นไม้แล้วก็จับเอา ไม่เคยได้ยินว่าหมากัดแมวละ เราบอกเอาไว้ ให้ระวังนะ ถ้าหมาไล่แมวมันกัดจริงๆ มันไม่ได้กัดละ ไล่มันก็วิ่งขึ้นต้นไม้เสียก็จับเอา เอาบ่วงเอาอะไรคล้องเอา ถ้าให้มันไล่ตายจริงๆ แหละหมา มันวิ่งเร็วกว่าแมว มันไม่ใช่น้อยๆ นะมีสามตัวสี่ตัวอยู่นั้น มันเป็นกองทัพหมาไล่แมว ขบขันดี มันมีทุกแบบนะวัดเรา
(ร่วมทำบุญเครื่องมือรักษาตาค่ะ) เออ ดีละ ที่ให้โรงพยาบาลอุดรที่เขาขอวันนั้น ๗ ล้าน ๒ แสน คืออันนี้เราเคยสั่งสิ่งต่างๆ พวกเครื่องมือแพทย์แหละมากต่อมาก สั่งแล้วมันไม่ตกมาทีเดียว มันค่อยตกมาเรื่อยเป็นระยะๆ ทีนี้เราก็หาเงินทัน หาหรือไม่หาก็ไม่รู้ละดังเห็นอยู่นี้แหละ เรียกว่าหาเงินทัน แล้วมันตกมาๆ ทางนี้ได้มาๆ ก็พอดีๆ เพราะฉะนั้นเขาว่าเครื่องมือแพทย์ ๗ ล้าน ๒ แสน เราถึงรับเลย ถ้าธรรมดาเอาให้ ๗ ล้าน ๒ แสนทีเดียวตายเลยเรา ก็เราไม่มีเงิน เป็นแต่เพียงว่าเคยผ่านเหตุการณ์มาแล้ว เท่าไรๆ ก็ทางโน้นค่อยทยอยมาๆ ทางนี้ก็ทยอยให้ไป พอดีกัน เรามันเคยผ่านเหตุการณ์มาแล้ว ลูกศิษย์ลูกหาจะตกใจกันละ พอว่า ๗ ล้าน ๒ แสน โถ ขึ้นเลย ความจริงเครื่องมือมันจะทยอยตกมาๆ เราก็ทยอยให้ตามที่ตกมาๆ ก็ผ่านไปได้โดยลำดับนะ ผ่านมาโดยลำดับไม่เคยจนตรอก ที่จะให้เรามีเงินเป็นก้อนๆ ตูมมาแล้วตูมให้ไม่มีละ มีเท่าไรก็ไหลออกๆ อยู่อย่างนั้น
มันมากจริงๆ นะที่ช่วยโลก อย่างที่ว่าช่วยชาตินี้หยุดแล้วนะ ไอ้คนมาขอไม่หยุด ช่วยชาติหยุด การเทศนาว่าการหยุด ทีนี้จตุปัจจัยที่ได้มาเพื่อช่วยชาติมันก็หยุดไปตามๆ กัน แต่พวกที่มาขอไม่หยุดนะ ขอตลอดเลย นี่ละเราจะตายอย่างนี้ละ คือ โรงพยาบาลอุดรที่เราให้เครื่องมือแพทย์เกี่ยวกับเรื่องตานี้ เราได้บอกกับโรงพยาบาลแล้ว เรียกว่าทุ่มใส่กันเลย เพราะเราสงสารพี่น้องเราทั้งหลาย เฉพาะอย่างยิ่งทางภาคอีสานวิ่งมานี้หมด วิ่งมาโรงพยาบาลศูนย์และศรีนครินทร์ ขอนแก่น ไปดูทีไรคนแน่นๆ ห้องตรวจตาแน่นๆ ไม่เคยบกบาง ไม่ว่าตอนเช้า ตอนสาย บ่าย เย็น เต็มตลอด จนถึงกับเราได้ถามว่า ก็เมื่อคนมามากๆ อย่างนี้แล้วการตรวจทันไหมล่ะ เขาบอกว่าทัน ถ้าไม่ทันก็โดนดุนะนั่น คือเราบอกให้ครบ คนมากเอาให้ทัน เครื่องตรวจไม่ทันจะโดนดุตรงนี้แหละ เขาบอกว่าทันก็หมดปัญหาไป
เรื่องตานี้เรียกว่าทุ่มลงเลย เพราะฉะนั้นที่เขาขอ ๗ ล้าน ๒ แสน เราให้เลย เพราะเราเชื่อพี่น้องทั้งหลาย มานี้ไม่มีบกบาง ตาสำคัญมากนะ ในอวัยวะของเรา หูหนวกค่อยยังชั่ว ตายังเห็นอยู่ค่อยยังชั่ว ถ้าตาบอดเสียแล้วหูดีก็ตามเถอะไม่ค่อยมีความหมาย ถ้าตายังดีอยู่นี้ไม่เป็นไร หูหนวกหนวกไปเถอะ เพราะฉะนั้นเราจึงหนักในทางตา บอกไม่ให้ขาดเลยเครื่องมือตาสำหรับโรงพยาบาลศูนย์ เอาขาดตรงไหนให้สั่งมาเลย เราบอกอย่างนั้นนะ ไม่ต้องขออนุญาตจากเรา เมื่อหมอเห็นสมควรแล้วว่าจะสั่งเครื่องมือตาชนิดใดแล้วให้สั่งมาเลยๆ เมื่อของตกมาแล้ว รับรองคุณภาพแล้ว แล้วค่อยส่งบิลไปหาเราๆ เราก็จ่ายตามนี้ไปบริษัทขายเครื่องมือ บริษัทใดก็ตามในกรุงเทพเขาจะบอกมาในบิลเสร็จ พอได้รับแล้วก็จ่ายเช็คส่ง อย่างนี้ตลอด
แต่คราวนี้เขาเห็นว่ามากเกินพอดี เขาจึงต้องมาบอกมาขอจากเรา ว่าเครื่องมือตาคราวนี้ราคาถึง ๗ ล้าน ๒ แสน เขามาเองเพราะมันราคาสูงเกินไป ตามธรรมดาพูดกันเราก็ไม่ได้ว่าสูงหรือต่ำละ เราเปิดไว้เลย ทางนั้นเขาก็เกรงใจ เขาเลยต้องมาบอกว่าเครื่องมือตาหลายเครื่องที่คราวนี้จำเป็นเป็นราคา ๗ ล้าน ๒ แสน เราก็ให้หมดเลย เอาเลย นี่มันก็ค่อยตกมานะ ไม่ตกมาทีเดียว มันค่อยตก ไม่ได้มาพร้อมกันพรึบนะ มันมาเป็นชุดๆ เพราะการสั่งไม่ได้สั่งที่เดียวกัน มันสั่งหลายบริษัทหลายแห่ง บริษัทนั้นมีนั้น บริษัทนี้มีนี้ หรือบริษัทไหนเด่นอันไหนก็เอาอันนั้น ทีนี้เวลาส่งก็ส่งตามบริษัท เวลามาจึงไม่พร้อมกัน ค่อยมาๆ ส่วนมากมักจะมาจากเมืองนอก
เครื่องมือทำตานี้เรียกว่าเต็มที่ละ เราให้เต็มที่เลย เดี๋ยวนี้ยังไม่ได้ปิดเรื่องปวารณา เราบอกไว้ปวารณาจนกระทั่งวันเราตาย คำปวารณาจะสิ้นสุดเกี่ยวกับเรื่องเครื่องมือตาในวันนั้นแหละ ถ้าเรายังไม่ตายยังพอตะเกียกตะกายได้อยู่ เราจะให้อย่างนั้น มือเขียนต้องมือลบซิ นี่เราเปิดโอกาสให้เขาแล้วเรื่องตา เขาก็ขอมาตามนั้น เราก็รับตามนั้นเลย เป็นอย่างนั้นละ แล้วก็ตึก มีสองที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลศูนย์ตึกนี้เขาขอสองชั้นเราก็ให้สองชั้น อีกสองปีมาขออีกขอต่อเป็นสามชั้น ทีนี้ที่ทานน้ำหนักมันไม่พอ ถามช่างเขาบอกไม่ได้เพราะนี่กะไว้เพียงสองชั้น เลยตกลงให้หมดเดี๋ยวนั้น เอา จะปลูกอะไรขึ้นมา สร้างอะไรขึ้นมา เอา เราให้หมด แน่ะ
โรงพยาบาลนี้ทั้งหมดขาดหรือบกพร่องตรงไหนซ่อมตรงไหน เราจ่ายให้ตลอด ปวารณาตลอดไปเลย อันนี้ก็ตลอดไป เครื่องมือตาก็ตลอดไป อย่างนั้นละเราช่วยโลก เราช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ สมกับที่ว่าเราพูดว้อๆ ๆ นี่ พูดออกมาจากใจจริงนะ ไม่ได้พูดแบบเหลาะแหละ เราไม่มีคำว่าเหลาะแหละ ถ้าลงได้จริงแล้วผางเลยๆ ถ้าเล่นมันเอาแน่ไม่ได้ ถ้าเล่นกับไอ้หยองนี้ก็เล่นอึกทึก เล่นกับหมาใครมายุ่งไม่ได้นะ เล่นกับหมาต้องเป็นหมาไปด้วยกัน พลิกมาหาคน หมายุ่งไม่ได้เดี๋ยวต้องถูกต้มยำ เป็นอย่างนั้นนะ เราช่วยอย่างนั้นละเราช่วยโลก
คิดดูเราแบอยู่ตลอด เรามีเงินที่ไหน แบตลอด ได้มาเท่าไรว่าเขาถวายเรา เราไม่มีอะไรสำคัญละ ลงเพื่อโลกทั้งนั้นๆ เราไม่เอาอะไรเราบอกแล้ว เราพอทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรในจิตใจของเราว่าเราจะต้องการนั้นนี้เราไม่มี มีแต่ความเมตตาครอบโลกธาตุไปเลย พูดให้มันเต็มสัดเต็มส่วน เราไปที่ไหนจึงไม่มี มีแต่จะให้ๆ ไปที่ไหนมองไป เมตตาไปพร้อม เห็นเขาขายของอยู่ตามทางก็ลงเอาของสักชิ้นหนึ่งสองชิ้น ให้เงินเขาเท่านั้นๆ ไป อย่างนั้นนะ ไปอย่างนั้นละหลวงตาไปไหนเป็นแบบนั้น ให้จริงๆ ไม่ใช่ให้ธรรมดา ให้จนไม่มีอะไรเหลือ เรานี้ไม่หวังอะไรสักบาทเดียวเลย มีแต่เพื่อโลกทั้งนั้นๆ มากน้อยเท่าไรให้หมดเลยๆ เราจึงพูดได้ตามหัวใจของเราที่เป็นอยู่นี้ออกมา จะเด็ดจะเดี่ยวเฉียบขาด ออกมาจากหัวใจที่เต็มไปด้วยเมตตาทั้งนั้น
วันพรุ่งนี้ก็จะลงกรุงเทพ ไอ้พวกนี้มันจะหลั่งไหลไปตามเรานะ แห่ไปกับเรา ดีไม่ดีครัวร้างมันจะแห่ไปกับเรา ไอ้พระก็จะแห่ไป ตีหน้าผากแล้วเมื่อเช้านี้ เอาแล้วนะ ถ้าจับได้ว่าองค์ไหนอยู่ในวัดนี้จะขอไปกรุงเทพกับเรา องค์นี้ต้องถูกไล่จากวัดทันที เรารับพระเหล่านี้เราไม่รับไว้เพื่อไปกรุงเทพ เรารับไว้เพื่ออรรถเพื่อธรรมต่างหาก สอนอรรถสอนธรรม เราไปกรุงเทพเราไปด้วยความจำเป็นเกี่ยวกับประโยชน์ของโลกนั่นแหละ เราไม่ได้ไปเพื่ออะไร เราไม่ได้เอาอะไร ไปกรุงเทพเราก็ไม่หวังอะไรนะ หวังทำประโยชน์ให้โลก มีเท่าไรทุ่มหมดๆ เราไม่เอาอะไรทั้งนั้นตลอดไป ทั้งไปทั้งมาทั้งอยู่ที่ไหนแบบเดียวกันหมด เราแบมืออยู่อย่างนี้ตลอดเราไม่เอาอะไร เป็นอย่างนั้นตลอดมาและตลอดไปจนกระทั่งเราตาย จิตดวงนี้เป็นอย่างนี้เราบอกตรงๆ เลย เราช่วยอย่างนั้นช่วยพี่น้องทั้งหลาย ช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย
วันพรุ่งนี้ก็จะออกเดินทาง พอฉันเสร็จแล้วก็ออก รถจะให้วิ่งประมาณ ๑๑๐ กะว่าจะพอดีกัน รถทุกคัน เพราะกำลังไม่เหมือนกัน แต่ก่อนเราไปถ้าทางดีฟาด ๑๒๐ ก็มี บางทีขึ้นถึง ๑๓๐ ก็ยังมี เรามองดูเข็ม แต่มองดูทางมองดูคนเราก็ปล่อยไปเสีย เราไม่ค่อยคิดข้างหลังว่ารถมีกำลังวังชาหนักเบาต่างกันอย่างไรบ้าง ทีนี้พอมีเหตุการณ์ขึ้นมาแล้วเราก็เลยพลิกใหม่ รถจะวิ่งเพียง ๑๑๐ เท่านั้น จากนี้ถึงกรุงเทพไม่ให้เลยนั้น คิดว่าเฉลี่ยแล้วรถทุกคันจะพอบืนไปได้ทุกคัน เพียงขนาด ๑๑๐ ไม่ให้เลยนั้น เราไปไหนทุกวันนี้ ๑๑๐ ทั้งนั้นแหละ ถ้าเราสั่งแล้วต้องตายตัวทุกอย่าง ไม่ได้เหลวไหลนะ ดูเข็มไมล์เขาทีไรก็ ๑๑๐ ทางดีๆ ดูเข็มไมล์ก็ ๑๑๐ แต่ก่อน ๑๒๐ เขาขึ้นของเขาตามเรื่องเราก็ไม่ได้ห้าม ทีนี้มาประมวลเหตุการณ์แล้วว่า ๑๑๐ เหมาะเราก็เลยเอา ๑๑๐ ไปลำพังเราก็ ๑๑๐ ไปกับเพื่อนกับฝูงมีรถกี่คันก็ ๑๑๐
ไปกรุงเทพนี้กว่าจะได้กลับมาก็ชนพรรษานั่นแหละ ธรรมดาเป็นอย่างนั้น วันสิ้นเดือนไป วันที่ ๓ ฟ้าหญิงก็จะมาถวายอาหารวันเกิดของท่าน ท่านจะนิมนต์เราไป นั่นเห็นไหมท่านก็นักเหตุผล เราก็นักเหตุผล ลงกันได้สนิทเลย เราพูดตามธรรม เราไม่ได้พูดตามเรื่องของความอยากของจิตใจคนแต่ละคนนะ เราจะเอาธรรมกางเลยเทียว ท่านมาท่านจะนิมนต์เราไปวันที่ ๔ ไปฉันที่พระตำหนักท่าน มีงานวันเกิดวันนั้น นิมนต์พระมาฟังว่า ๙ องค์ กะว่าจะเอาเรานี้องค์ที่ ๑๐
ทีนี้เวลามาแล้วเราก็พูดโดยตรงเลย พูดให้ฟังชัดเจนตอนที่ท่านเสด็จมาเยี่ยมนี้ เป็นอันว่าตกลงกันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่อยู่ที่นี่นะ คือประชาชนที่เข้ามาในสวนแสงธรรมนั้นน่ะ มีจำนวนมากมีหัวใจทุกคนๆ ที่มาสวนแสงธรรมไม่เพียงแต่มาในที่แถวนี้ กรุงเทพฯเป็นที่หนึ่ง จังหวัดนั้นๆ หลายจังหวัดที่มารวมกันอยู่ที่นี่ ล้วนแล้วแต่มุ่งหน้ามุ่งตามาหาครูหาอาจารย์เต็มศาลาๆ ครั้นมาแล้วอาจารย์โดดหนีไปฉันเสียในที่แห่งเดียวซึ่งมีคนไม่กี่คน กับคนจำนวนมากนี้ น้ำหนักมันเข้ากันไม่ได้ เขาจะยุบยอบไปหมดในหัวใจของคนทั้งหลาย เราเพื่อเฉลี่ยให้พอเหมาะพอสมกัน เรามีจำนวนน้อยกว่าเขา เราจะคิดยังไงพอเฉลี่ยกันให้ได้สัดได้ส่วนพอดิบดี เราว่าอย่างนี้เลย ควรจะคิดเสีย
ถ้าจะให้พ่อ คือท่านถวายตัวเป็นลูกบุญธรรมแล้ว ถ้าจะให้พ่อไปอย่างนั้น พ่อก็เห็นใจทางนู้น แต่ในขณะเดียวกัน พ่อก็เห็นใจหัวใจทุกดวงที่มานี้ พิจารณาซิ ตกลงก็เลยว่าทางนั้นจะมาถวายอาหารตอนเช้าวันที่ ๓ แน่ะ ตกลงเราก็ไม่ได้ไปวันที่ ๓ วันที่ ๔ ไม่ได้ไป มอบให้สวนแสงธรรมทั้งหมดซึ่งมีคนจำนวนมากมาย ท่านก็ยอมรับเลยท่านไม่เห็นฝืน นั่นเป็นอย่างนั้นนะ เหตุผลต่อเหตุผลใส่กันเข้ากันง่าย เพราะเราไม่เห็นแก่คนนั้นคนนี้สูงต่ำอะไร เราเห็นแก่หัวใจที่เฉลี่ยแล้วมีหัวใจทุกคนๆ มาทั้งใกล้ทั้งไกลสละมานี้สละขนาดไหน นั่น มีแห่งเดียวเมื่อไร มาหลายจังหวัดเต็มไปนี้ นี้เราโดดหนีไปเสียแล้วจิตใจจะยุบยอบขนาดไหนให้พิจารณา แล้วไปยิ้มแย้มแจ่มใสเพียงไม่กี่ราย คนอยู่ในนั้นนะ ทางนี้ยุบยอบไปหมด มันเข้ากันได้ยากนะเราบอก
ท่านก็ตัดทันทีเลย ท่านบอกท่านจะมาถวายเอง วันที่ ๓ ตอนเช้า ตอนเช้ามาถวายจังหัน วันที่ ๔ ท่านก็มีงานของท่านในตำหนัก ตกลงเรื่องเราก็ผ่านไป เป็นอันว่าเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ตอนท่านมาตอนนี้นะ นั่นละพูดอะไรต้องให้มีเหตุผลอย่างนั้น ท่านไม่ขัดนะ พอเราเล่าเรื่องเล่าเหตุผลกลไกให้ฟังแล้วท่านยอมรับทันทีเลย เราเฉลี่ยหมดเรื่องจิตใจมีทุกคน ที่มานี้มีจิตใจทุกคน มุ่งหน้ามุ่งตาต่อครูต่ออาจารย์ทุกคนๆ ที่มานี้ ทางโน้นเป็นยังไงจำนวนคน ทางนี้จำนวนคนเป็นยังไง ท่านรับทันทีเลย อย่างนั้นละ วันนี้ก็พูดเพียงเท่านั้นละนะ
นี่น่ะ คนๆ นี้เห็นแก่ตัวมากนะ ไปที่ไหนอาหารที่ดีๆ ไปหยิบเอากินหมดๆ เอาของเขาหมดนะ จี้เลยอย่างนี้ละ อย่ามาเป็นอย่างนี้ในวัดนี้เป็นอันขาดนะ ถ้ามาอย่างนี้ไล่หนีเลย เข้าใจเหรอ เราจับมานานแล้วนะอย่าว่าไม่จับ จะเตรียมตัวไปไหนหลีกเลี่ยงไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นละเราจับได้แล้ว อย่ามาทำอย่างนี้ในวัดนี้ มีปากมีท้องทุกคนเฉลี่ยเผื่อแผ่ให้ถึงกัน เห็นไหมพระท่านจัดอาหาร จนกระทั่งพระท่านฉันจะอิ่มแล้วค่อยด้อมๆ มา คือท่านจัดยังไม่เสร็จจัดเข้าครัว เสร็จแล้วค่อยมาๆ เราจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้ ไปอยู่ในครัวนี้ก็ไปแย่งอาหารเขากินในครัวใช้ไม่ได้นะ นี่อนุโลมยังพอให้มาได้อยู่ แล้วไปกรุงเทพฯมันก็จะด้อมตามไปอีก ไปแย่งอาหารเขาอีกนะ ตัวสำคัญๆ ฟังให้ดีนะ นี่ตัวมันทำมันเลวมันไม่อายมัน พูดอย่างนี้มันอายไหมนี่ เราพูดเป็นธรรม อย่ามาทำเป็นอันขาดนะในวัดนี้ เราเห็นขนาบทันที ไล่ไม่ว่าประชาชนไม่ว่าพระเณรนะ
คิดดูซิเราจะไปกรุงเทพฯใครที่อยากไปกรุงเทพฯกับเรา ไปลาท่านสุดใจ ได้ยินว่างั้นนะ เราจับอันนี้ไว้ แล้วองค์ไหนที่ลาไปกรุงเทพฯกับเรา องค์นี้จะต้องไล่ออกจากวัดทันที เรารับไว้เพื่อปฏิบัติธรรม ไม่รับไว้เพื่อไปกรุงเทพฯนะ นี่ละสำคัญตรงนี้ จิตใจเราอ่อนทันทีเลยนะกับพระกับเณร เลวมากทีเดียวจิตใจพระทุกวันนี้ เลวลงทุกวันๆ นี้จำให้ดีนะ เราพูดตรงไหนอย่ามาค้าน เราจับไว้ตลอดทุกอย่างๆ แล้วค้านไม่ลง ค้านไปยิ่งเพิ่มโทษเข้าๆ ที่จะให้ลดไม่มี เพราะได้พิจารณาแล้ว
การที่จะพูดแนะนำตักเตือนสั่งสอนดุด่าว่ากล่าวใคร เราจับไว้ถนัดแล้วค่อยออก เรียกว่ามัดคอเลยว่างั้นละ ดิ้นไม่หลุด ดิ้นเท่าไรยิ่งมัดเข้า อย่ามาทำให้เห็นนะในวัดนี้ หัวใจมีทุกคนปากท้องมีทุกคน มาอาศัยซึ่งกันและกัน มีมากมีน้อยเฉลี่ยเผื่อแผ่ อดก็อดด้วยกัน อิ่มอิ่มด้วยกันนั้นเป็นธรรม อย่ามาอิ่มแต่เราเขาอดจะตาย เห็นแก่ใจเราไม่เห็นใจเขา เห็นแก่พุงเราไม่เห็นพุงเขา ไม่ได้นะอย่างนี้ ธรรมไม่มีอย่างนั้น ธรรมเฉลี่ยเลยเผื่อแผ่ไปเลย อดก็อด ยังก็ยัง ตายก็ตายด้วยกัน เป็นเป็นด้วยกัน นี่เรียกว่าธรรม พากันจำเอานะ เอาละทีนี้จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |