เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๘
กฎของนักโทษ
ก่อนจังหัน
ใครมาหน้าวัดเห็นไหมป้ายเขียนติดไว้นั่น ป้ายข้างนอกวัดสองป้าย อยู่ข้างในมีอีกป้ายหนึ่งเขียนไว้นั่น มันมาเที่ยวเพ่นพ่านๆ ในวัด เหมือนกับโรงลิเกละครอยู่ในวัดนี้เลยนะ ไม่ได้หน้าได้หลัง ถามคนไหนเป็นอย่างนั้นทั้งนั้น เราเป็นคนถามเอง มาจุ้นจ้านๆ ไม่มีเวล่ำเวลาในวัดนี้ เพ่นพ่านๆ มันรำคาญตาเหลือเกิน ผู้รักษารักษาเต็มกำลังความสามารถ ผู้ทำลายมีเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามมันก็ทำลายในตัวของมันเอง ทั้งวันแหละตั้งแต่สว่างมา จุ้นจ้านๆ เด้นๆ ด้านๆ มองดูที่ไหนหน้าตาเถ่อๆ มองๆ เร่อๆ ร่าๆ ดูไม่ได้นะ
ผู้หนึ่งรักษา ผู้หนึ่งมีสติปัญญาพินิจพิจารณาด้วยความรอบคอบทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้หนึ่งมาเร่อๆ ร่าๆ มันดูกันได้ไง วัดนี้ไม่ใช่เป็นวัดที่จะสอนคนให้เร่อๆ ร่าๆ อย่างนั้นนะ เพราะฉะนั้นจึงติดประกาศไว้นั้น ไม่มีธุระจำเป็นอะไรอย่าเข้ามา เราไม่ได้หวังกินอะไรกับพวกเร่อๆ ร่าๆ เหล่านี้นะ เรากินชิ้นหนึ่งเท่านี้เราพอใจแล้ว ขอให้ได้หัวใจคนเข้าสู่อรรถสู่ธรรมเราเป็นที่พอใจ เราเป็นอย่างนั้นนะทุกวันนี้ สอนโลกสอนอย่างนั้น ควรดุจึงต้องดุ ดุเพื่อดีนั่นเอง ไม่ใช่ดุเพื่อทำลาย
มันพิลึกกึกกือนะวัดป่าบ้านตาดเวลานี้ เซ่อๆ ซ่าๆ เร่อๆ ร่าๆ ไม่ได้หลักได้เกณฑ์อะไรเลย มองรายไหนมาคณะไหนมามองดูแล้วมันจะดูไม่ได้ๆ มันเคยนิสัยมาแล้วนั่น เข้ามาในสถานที่ที่ควรจะสำรวมระวังพินิจพิจารณา มันไม่ยอมพิจารณา เพราะความเคยชินนั่นละ เร่อๆ ร่าๆ เซ่อๆ ซ่าๆ นั่นละมาเหยียบไปหมด เราติดไว้นั่นเห็นไหม อ่าน วัดนี้เป็นวัดของพุทธศาสนา สอนคนให้ดีให้พ้นจากทุกข์มาเป็นลำดับลำดาแล้ว ทำไมสถานที่นี่ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกัน มาแล้วจึงมาเหยียบย่ำทำลายด้วยนิสัยที่ว่าหยาบนั่นแหละ มันเร่อๆ ร่าๆ เท่อๆ ท่าๆ ไปที่ไหนดูไม่ได้นะ
เข้ามาในวัดในวาแบบนั้นละมันมากที่สุด ที่จะตั้งอกตั้งใจมาปฏิบัติศีลธรรม เพื่อศีลธรรมเข้าสู่ใจนั้นรู้สึกว่ามีน้อยๆ ไอ้แบบนั้นละมันมากที่สุด นี่เตือน เขียนไว้แล้วให้อ่านนะนั่น ถ้าไม่จำเป็นอย่าเข้ามาวัดนี้ เราไม่ต้องการคนประเภทนั้น เราต้องการแต่คนที่เข้ามาเพื่อมุ่งอรรถมุ่งธรรมเพื่อเหตุเพื่อผลเท่านั้น เข้ามาเซ่อๆ ซ่าๆ อยู่ที่ไหนก็มี เกลื่อนอยู่ทั่วโลกทั่วสงสาร ผลของมันทำให้โลกเดือดร้อนวุ่นวายไม่เห็นเหรอ ศีลธรรมปกครองและสั่งสอนที่ไหน เมื่อปฏิบัติตามนั้นแล้วมีแต่ความเป็นสารประโยชน์ ชื่นตาชื่นใจมองเห็นกัน ต่างกันนะกับคนมีธรรมไม่มีธรรม จำเอาไว้ทุกคน
เข้ามาในวัดนี้ดู ดูพระดูเณรก็ให้ดู พระท่านมาจากประเทศไหนบ้าง มีแต่ประเทศไทยเราเมื่อไร ประเทศนอกมีเยอะ ท่านเข้ามาเป็นแบบเดียวกันหมดเห็นไหมนั่น ธรรมวินัยร้อยกรองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามเหมือนกันหมดดูซิน่ะ นั่นละหลักศาสนาร้อยกรองคนให้เป็นผู้ดิบผู้ดี มีกฎมีระเบียบเรียบร้อยเป็นเครื่องปกครองตัวเอง และประสานกันก็เป็นความสวยงามทั่วหน้ากันไป นั่นละดูเอาซิพระท่านมาที่นี่ ให้ดูเอา มาจากชาติชั้นวรรณะใดไม่ถาม ธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าครอบเข้าไปนั้นสวยงามตามๆ กันหมดเลย
ไอ้แบบเร่อๆ ร่าๆ มันใช้ไม่ได้นะ มันเคยต่อนิสัยของเมืองไทยเรา เมืองไทยเราเป็นเมืองสนุกสนานตามใจชอบ อะไรมาก็ชอบๆ ตามใจนิสัยเมืองไทยเรา เพราะเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำมาดั้งเดิมแต่ปู่ย่าตายาย ไม่เคยอดอยากขาดแคลน ทีนี้เวลามาเจออะไรๆ คว้ามับๆ ลิงนี้วิ่งตามหลังนะ มันไม่ได้เร็วยิ่งกว่าเราคว้ามับๆ เป็นอาจารย์ใหญ่ของลิง อะไรมาคว้าเลยๆ ไม่คิดเลยว่าอะไรดีอะไรไม่ดี นี่เป็นนิสัยไม่ดีเมืองไทยเรา
ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมยกให้เมืองไทยเรา รถนี่ดูซิ ป่าช้าเหล็กอยู่ในเมืองไทยหมด โรงไหนที่โรงผลิตรถยนต์เครื่องยนต์กลไกเอามาใช้ในเมืองไทยไม่เห็นมี ไปคว้าเอามาจากเมืองนั้นเมืองนี้ๆ มากองอยู่ในประเทศไทยเราเป็นป่าช้าเหล็ก อะไรๆ เอะอะต้องมาดูเมืองไทย ดูที่อื่นไม่เจอ ถ้าดูเมืองไทยเห็นหมดทุกอย่าง นี่ละเป็นเมืองฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม อยู่ที่ไหนเคลื่อนไหวไปไหน กิริยาความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมมีเต็มเนื้อเต็มตัว หาหลักเกณฑ์ไม่ได้นะ
พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สร้างหลักเกณฑ์ต่อจิตใจและความประพฤติ หน้าที่การงานของคน จนกระทั่งถึงการประสานซึ่งกันและกัน เป็นสาระทั้งนั้น นี้คือหลักพุทธศาสนา ให้นำไปปกครองและปฏิบัติตัวเองนะ อย่าเร่อๆ ร่าๆ มาวัดก็มาเฉยๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไรใช้ไม่ได้นะ จำให้ดี
มันเลอะเทอะไปมากแล้วนะเมืองไทยเรา มีแต่ชื่อว่าเมืองพุทธๆ มันเต็มไปด้วยผีด้วยเปรตเดี๋ยวนี้อยู่ในเมืองไทยเรา ไม่ว่าที่ไหนในวัดนอกวัด ประชาชน มันแบบเดียวกันหมด ให้คัดเลือกตัวเองจากธรรมมาปฏิบัติ ให้เป็นคนดีพระดีบ้างจะพอดูได้นะ เอาละให้พร
หลังจังหัน
ที่ศาลาเรานี้ที่ระเกะระกะไม่ค่อยเป็นระเบียบอยู่อันหนึ่งก็คือการนั่ง จับพวกอ้วนๆ ไปนั่งอยู่ด้วยกัน พวกผอมอยู่ด้วยกัน จะเป็นระเบียบดี นี่มันก็ระเกะระกะเหมือนกัน ใช่ไหมล่ะ มันระเกะระกะเหลือเกิน มองไปที่ไหนมันตำตาๆ มันน่าจะจัดระเบียบใหม่
ทองคำประเภทที่ซึมซาบถึงวันที่ ๑๙ มิถุนา ๒๕๔๘ ที่หลอมแล้วได้ ๑๒๕ กิโล เท่ากับ ๑๐ แท่ง จากทองคำประเภทซึมซาบ ที่ยังไม่หลอมได้ ๖ กิโล ๗ บาท ๗๘ สตางค์ รวมทองคำซึมซาบทั้งหมดได้ ๑๓๑ กิโล ๗ บาท ๗๘ สตางค์ นี่ละที่ได้เศษได้เหลือมา ถ้าหากว่าเราหยุดเสียตั้งแต่การมอบเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นก็ ทองคำ ๑๓๑ กิโล ๗ บาท ๗๘ สตางค์นี้ก็ไม่มีเลย นี่ก็ได้มาขนาดนี้ ทองคำหนึ่งร้อยขึ้นไปแล้วของเล่นเมื่อไร นี่ได้ ๑๓๑ กิโล ๗ บาท ๗๘ สตางค์ ก็ค่อยได้ซึมซาบมาจากทางนั้นทางนี้ ไหลเข้าสู่คลังหลวง
เราเป็นห่วงพี่น้องทั้งหลาย เป็นห่วงถึงขนาดนั้นนะ พินิจพิจารณารอบเมืองไทยเรา การช่วยก็เหมือนกันได้พิจารณาเต็มกำลัง ช่วยเต็มกำลังเรื่อยมา ปรากฏผลว่าไม่ผิดพลาดนะ ไม่ว่าทางด้านวัตถุ ไม่มีผิดพลาดเลย เข้าเป็นประโยชน์ส่วนรวมทั้งหมด ไม่ได้มีคำว่ารั่วไหลแตกซึมที่นั่นที่นี่ดังที่เคยเป็นมาทั่วแผ่นดินไทยเรา พูดง่ายๆ ว่างี้ มันไม่ได้ไปตรงนะ มันไหลซึมจริงๆ กว่าจะถึงจุดหมายเหลืออยู่สองสามหยด มันไหลซึมออกตามรายทางๆ อันนี้ไม่มี พุ่งถึงเลยๆ นี่ก็ได้พิจารณาเต็มกำลังแล้ว และดำเนินตามนี้ก็ราบรื่นดีงามเรื่อยมาอย่างนี้แหละ นี่เป็นประเภทด้านวัตถุที่ช่วยมานี้ ก็ราบรื่นดีงามเรื่อยมา
ทีนี้ทางด้านธรรมะ ที่ได้คิดไปพร้อมกับโครงการนี้เรียบร้อยแล้ว ว่าคราวนี้ธรรมะจะได้เข้าสู่ใจประชาชนจากการช่วยชาติคราวนี้ ซึ่งมีทั้งวัตถุและนามธรรม นามธรรมได้แก่ธรรมเข้าสู่จิตใจ ด้านวัตถุก็ดังที่เห็นกันแล้วนี้ พี่น้องทั้งหลายจะได้ยินได้ฟังอรรถธรรมคราวนี้ไปพร้อมๆ กัน อันนี้โลกทั้งหลายเขาคิดเมื่อไร มีแต่ว่าช่วยชาติๆ ไม่ทราบช่วยแบบไหน เราคิดหมด ด้านวัตถุคิดเต็มกำลัง ด้านธรรมะคิดเต็มกำลัง
ที่หนักมากก็คือด้านธรรมะ เพราะธรรมะนี้รู้สึกจะลำบากมาก ใครๆ ไม่ค่อยคิดค่อยอ่านกันเลยละ โลกมันถึงเลอะเทอะ ไม่มีธรรมในใจ นี่ก็คิดเรียบร้อยแล้วว่าคราวนี้ธรรมะจะได้เข้าสู่ใจชาวพุทธเรา ก็เห็นไหมล่ะเข้าหรือไม่เข้า จนกระทั่งได้ถูกต้านทานกีดขวางเอาไว้ เพราะธรรมะนี้ออกสู่หัวใจประชาชนเรา ตั้งแต่เริ่มออกช่วยชาติมาการเทศนาว่าการไม่มีหยุดหย่อน เมืองไทยทั้งประเทศ จากนั้นออกทั่วโลกด้วย ธรรมะที่ออกนี้ออกเพื่อหัวใจของประชาชน ใจแต่ละดวงๆ นี้มีคุณค่าเพราะธรรมเป็นเครื่องประดับ ไม่ใช่มีคุณค่าเพราะเครื่องสังวาลอะไรๆ เครื่องประดับต่างๆ นะ จิตใจต้องธรรมเป็นเครื่องประดับ
นี่ก็ได้เทศน์สอนเต็มกำลังความสามารถ จนปรากฏในหูในตาของพี่น้องทั้งหลายชัดเจนขึ้นมาแล้วว่า ธรรมะหลวงตาบัวที่แสดงคราวนี้รู้สึกจะเฟ้อเกินไปและเป็นภัยต่อโลกไม่มีขอบเขต เขาจึงต้องมาสกัดลัดกั้นไว้ให้อยู่ในความพอดี การเทศนาว่าการ เสาวิทยุให้ตัดลงมายังเหลืออยู่เท่าไร(๓๐ เมตรครับ) เออ เสาวิทยุที่จะประกาศธรรมให้ได้ประโยชน์อันกว้างขวาง กลับเป็นโทษอันใหญ่หลวงให้ตัดเข้ามาเหลือ ๓๐ เมตร พวกนี้เห็นว่าเป็นความพอเหมาะพอดี ไม่ให้สูงกว่านั้น
ธรรมะที่เคยเป็นประโยชน์แก่โลก เวลานี้กลายเป็นความฟุ้งเฟ้อเป็นอย่างน้อย เป็นพิษเป็นภัยต่อโลก ในสายตาความคิดเห็นความกีดกันของพวกนี้มากที่สุดแล้วเวลานี้ พวกนี้เป็นพวกกีดกัน แสดงว่าธรรมะเป็นผู้ต้องหา เรียกว่าเฟ้อมากไปแล้วธรรมะหลวงตาบัว น่าจะเฟ้อมากไปแล้ว ในหัวใจของพี่น้องชาวพุทธเราเห็นว่าเป็นยังไง เอาไปพิจารณาซิ เวลานี้ธรรมะออกที่ไหนถูกกีดถูกขวางคัดค้านต้านทาน จะทำลายๆ โดยถ่ายเดียวว่างั้นเลย ที่จะส่งเสริมเรายังไม่มองเห็น มีแต่เรื่องทำลายๆ
นี่ละธรรมที่ออกสู่โลก เราก็ออกมาเต็มกำลังความสามารถด้วยความเมตตา เราไม่หวังผลประโยชน์อะไรสำหรับเรา แม้สตางค์หนึ่งเราไม่เคยมี ทำเพื่อโลกเพื่อหัวใจ หัวใจเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก เมื่อมีธรรมเป็นเครื่องประดับแล้วจะมีคุณค่ามหาศาล เราจึงได้อุตส่าห์พยายามแนะนำสั่งสอนเต็มกำลังความสามารถ จนกลายเป็นธรรมนี้เป็นอันตรายต่อโลกไปแล้วเวลานี้ กีดขวางโลก เขาถึงต้องมากีดกันให้อยู่ในความที่เขาเห็นว่าพอดี แต่ก่อนเสาวิทยุนี้เท่าไร (๖๐ เมตร ๑๐๐ เมตรก็มีครับ) เออ ๖๐ เมตร ร้อยเมตร แล้วให้ตัดลงมายังเหลืออยู่เพียง ๓๐ เมตร ความกว้างก็ไม่ให้เลย ๑๕ กิโลเมตรไม่ใช่เหรอ นี่ความพอดีของเขาที่ประกาศอยู่เวลานี้
ธรรมะที่เราเทศน์นี้ใช้ไม่ได้แล้ว มันเฟ้อและเป็นภัยต่อโลก เอาสิ่งที่เขาเห็นว่าดีที่ประกาศลั่นอยู่เวลานี้ ด้วยอำนาจมาตรานั้นมาตรานี้ ใครเกินไปนี้เขาจะปรับโทษ ติดคุกติดตะราง (ปรับสี่หมื่น จำคุกสองปี กับปรับหนึ่งแสน จำคุกห้าปี ครับ) เออ นั่นเห็นไหมล่ะ นี่พวกนี้จะมากำจัดเรื่องอรรถเรื่องธรรมไม่ให้มีในโลกเลย ฟังซิท่านทั้งหลาย เวลานี้ธรรมะถูกเป็นผู้ต้องหาไปแล้วเห็นไหม ไอ้ตัวจอมปลอมมันกลายมาเป็นผู้มีสง่าราศีในวงแห่งความสกปรกของมัน กำลังเสกมูตรเสกคูถขึ้นเป็นทองคำทั้งแท่ง กำลังกดทองคำทั้งแท่งให้อยู่ใต้ดิน คือธรรมพระพุทธเจ้าเป็นทองคำทั้งแท่ง
ไอ้พวกเปรตพวกผีพวกสกปรกโสมมที่ท่านผู้ดีทั้งหลายตำหนิติเตียน มันยกขึ้นมาเป็นของดี มูตรคูถกองขี้ดีไหม นี่กำลังมากีดมาขวาง ยกตนขึ้นเป็นของสะอาดสะอ้าน เป็นของมีประมาณ แล้วมีมาตรานั้นมาตรานี้รับรองไว้ด้วย ธรรมทำไมไม่มีมาตรารับรองล่ะ ถ้ามีคนถามมาอย่างนี้จะว่าไง ไม่มีคนถามมาเราไม่ตอบแหละ ถ้ามีคนถามมาจะทันทีเลย ฟังซิมันกีดมันขวางมาทุกแบบทุกฉบับ ขึ้นชื่อว่าของดีจะไม่ให้มีอยู่ในเมืองไทยเลย แล้วจะกลายเป็นมีแต่คนเลวคนสกปรกคนเลอะๆ เทอะๆ ไปหมด คนมาตรานั้นมาตรานี้ไปหมด เข้าใจไหม ธรรมไม่มีมาตรา มีแต่คนที่เขาจะครองบ้านครองเมืองครองความสงบร่มเย็นให้แก่พี่น้องชาวไทยเรา
นี่พูดถึงเรื่องเราช่วยโลก พระพุทธเจ้าช่วยเหลือโลกยังไง เหตุผลต้นปลายที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงบำเพ็ญมาขนาดไหนจนได้เป็นพระพุทธเจ้า สอนโลกหนักมากไหม สามโลกธาตุอยู่ในพระโอวาทการแนะนำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น สอนโลกสามโลกธาตุไม่มีอะไรไปกีดไปขวางพระพุทธเจ้า ว่าสอนโลกให้สอนอยู่ในเขตนั้นเขตนี้ ความสูงความต่ำ ความกว้างความแคบ มีใครไปจำกัดจำเขี่ยหรือบังคับบัญชาพระพุทธเจ้าที่ไหนไหม ไม่มี นี่พระพุทธเจ้าสอนโลก เต็มเม็ดเต็มหน่วยเรื่อยมาทุกๆ พระองค์ จนกระทั่งมาปัจจุบันของศาสนาพุทธเราพระพุทธเจ้าสมณโคดมสอนมา พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ท่านไม่มีขอบเขตแห่งความเมตตา ครอบโลกธาตุ สอนได้ทั่วไปหมดไม่มีคำว่าขอบเขตมาเรื่อยๆ
เวลานี้ธรรมะเหล่านี้ กำลังเริ่มเป็นผู้ต้องหาต้องถูกคุมขัง ด้วยข้อกำหนดให้เทศน์อย่างนั้นให้เทศน์อย่างนี้ เสียงของธรรมที่จะออกแค่ไหนต้องถูกบังคับบัญชาไว้หมด ความกว้างของธรรมที่จะกระจายออกไปเป็นประโยชน์แก่โลกมากน้อยเพียงไร ให้ได้แค่ ๑๕ กิโลเมตร ท่านทั้งหลายฟังซิ คำพูดคำนี้ฟังให้ดี กำลังมาบังคับบัญชา นักโทษในเรือนจำมาบังคับบัญชาคนที่มีสมบัติผู้ดีมีอิสระเต็มตัวทั่วประเทศ เป็นยังไงน่าฟังไหม นักโทษในเรือนจำตัวสกปรกมอมแมม ตัวชั่วช้าลามกที่เหมาโทษเหมากรรมอยู่ในนั้นหมด มันออกมาเป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงปกครองคนดี ท่านทั้งหลายฟังได้ไหม
เวลานี้กำลังเป็นอย่างนี้ออกมาปกครองอรรถครองธรรม ซึ่งเป็นธรรมชาติที่เลิศเลอตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ให้เป็นผู้ต้องหาอยู่ในความบังคับบัญชาของนักโทษเหล่านี้ สกปรกมอมแมม หัวใจมีแต่มูตรแต่คูถ ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง เอาออกมาชะล้างโลกให้สะอาดมันจะสะอาดได้ยังไงกองขี้ ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง มันสะอาดได้ยังไง พิจารณาซิ เวลานี้ธรรมะกำลังถูกตามต้อนทุกแบบทุกฉบับ ฟังเอานะ เทศน์ไปที่ไหนๆ เที่ยวสกัดลัดต้อนไว้หมด พวกนี้พวกจองล้างจองผลาญอรรถธรรม ไม่ให้มีภายในจิตใจของโลก กำจัดออกหมดไม่ให้มีเหลือเลย ให้เหลือตั้งแต่ความสกปรกโสมม อำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ
ตั้งกฎนั้นขึ้นมา ตั้งกฎนี้ขึ้นมา ก็กฎของนักโทษ หัวใจของมันสกปรกรกรุงรังสุดยอดที่ผู้ดีทั้งหลายจะฟังจะดูได้แล้ว มันยังเอามาประกาศสอนโลก เช่นอย่างที่มาประกาศบังคับธรรมสอนธรรมนี่ละ พิจารณาซิ นักโทษในเรือนจำมาสอนพลเมืองดี ใครฟังได้ไหม อันนี้ก็แบบเดียวกัน นักโทษในเรือนจำมาประกาศสอนคนดี กิเลสตัณหาตัวเต็มส้วมเต็มถานออกมาประกาศตัวสอนทองคำ ชะล้างทองคำทั้งแท่งนั้นให้เป็นของสะอาดสะอ้านจากตัวของมันที่ว่าสะอาดสุดยอดแล้วคือมูตรคือคูถ เข้าใจไหมล่ะ ให้ทองคำสะอาดแบบมูตรแบบคูถ จะสะอาดได้ยังไงแบบนั้น
ทองคำเป็นทองคำ มูตรคูถเป็นมูตรคูถ จะเข้ากันได้ยังไง นี้บังคับเท่าไรก็บังคับเถอะว่างั้นเลย ธรรมต้องเป็นธรรมวันยังค่ำ ความสกปรกมอมแมมนี้จะเป็นขี้เป็นมูตรเป็นคูถตลอดไป กระแสของมูตรของคูถออกไปที่ไหนคนจะอิดหนาระอาใจทั่วถึงกันไปหมด ธรรมออกไปไหนยิ้มแย้มแจ่มใส นอกจากพวกกองมูตรกองคูถเท่านั้นมันไม่ยอมรับธรรม มันจึงไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส ตามต้อนตามตี ตามจุดตามเผาทุกหนทุกแห่งนั่นแหละทุกวันนี้ เราเห็นมาตลอด เฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เราออกช่วยชาติ
เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วยชาติ เรื่องเหล่านี้ก็ติดตามกันมาอย่างนั้น ผูกพันกันมา เหมือนหนึ่งว่าจองกรรมจองเวรกันมา ผู้หนึ่งสร้างความดี ผู้หนึ่งสร้างความชั่ว จองกรรมจองเวรกันมาอย่างนี้ เวลานี้ธรรมกำลังออกให้เป็นประโยชน์แก่โลก ตามความคิดเห็นของเราที่ได้สอนโลกด้วยอรรถด้วยธรรม ว่าธรรมะจะได้เข้าเป็นประโยชน์แก่โลกมากมาย นี่เวลานี้ธรรมะกำลังถูกตามถูกต้อนถูกเป็นผู้ต้องหาให้เข้าอยู่ในวงแคบ วงแคบก็คือเรือนจำนั่นเอง กำลังเป็น ท่านทั้งหลายฟังเอานะ ฟังทุกคนๆ ถูกตีถูกต้อน ปรับนั้นปรับนี้ มีมาตรานั้นมาตรานี้บังคับมาเรื่อยๆ นั่นแหละ บังคับธรรม นักโทษในเรือนจำ ตัวสกปรกในเรือนจำมันออกมาบังคับคนดิบคนดีให้อยู่ใต้อำนาจของมัน จำเอานะ เอาละเพียงเท่านี้
อันนี้ไม่แยกละนะ ที่ว่ามาบังคับธรรมอะไร ก็เราอธิบายให้ชัดเจนไว้แล้วใช่ไหมล่ะ วันนี้ไม่พูดมากละ ให้พิจารณาทุกคน พูดไปๆ มันเหนื่อยปุ๊บ มันมาสะกิดธาตุเลยหยุดทันทีเลย ธรรมะยังไม่ถึงไหนมันมีในนี้แล้ว เลยขาดวรรคขาดตอน
ผู้กำกับ ทางพะเยาแจ้งมาครับว่า วิทยุในเครือข่ายจังหวัดพะเยา ได้ออกกระจายเสียงเทศน์ขององค์หลวงตา คลื่นความถี่ FM 104 MHz ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2548 เวลา 21.00 น.เป็นต้นมา บัดนี้ได้เปิดกระจายเสียงตั้งแต่เวลา 5.00-24.00 น. เป็นประจำทุกวัน พบว่ามีเพียงประชาชนในรัศมี 10 ก.ม.เท่านั้นที่ฟังได้ชัดเจน เพื่อให้เสียงธรรมแท้ขององค์หลวงตาแผ่ไปมากยิ่งขึ้น จึงกราบขออนุญาตองค์หลวงตาจัดตั้งกองผ้าป่าสามัคคีขึ้นในจังหวัดพะเยา เพื่อนำปัจจัยมาใช้ในการปรับเปลี่ยนสถานี โดยเปลี่ยนจากเบย์อะลูมิเนียมเป็นเบย์ทองแดง และติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียม ประมาณว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินมากกว่า 138,500 บาทครับ
หลวงตา ก็อย่างนี้ละฟังเอาซิ ประชาชนเราส่วนมากต่อมากเป็นชาวพุทธ ไม่ใช่ชาวเปรตชาวผี ทางพะเยาก็กำลังพร้อมเพรียงกันจะตั้งกองผ้าป่าสามัคคีรวมกันเข้า เพื่อนำเงินมาซื้ออุปกรณ์ต่างๆ สร้างวิทยุ เสียงนี้จะกระจายออกสู่หัวใจประชาชน ก็เห็นกันอยู่อย่างนี้ว่าไง ธรรมะเป็นอย่างนี้ละ ไอ้พวกเปรตพวกผีมันทำประโยชน์อะไร เราอยากถามย้อนศรขึ้นไปดูนะ มันทำประโยชน์อะไรพวกนี้ ตั้งแต่เริ่มช่วยชาติมาเป็นเวลา ๗ ปีนี้ มันเคยมีทองคำสักบาทไหมมาให้เรา มาให้คณะทำดีเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นี้ ทองคำหนึ่งบาทมีไหม เรายังไม่เคยเห็นในสายตาของเราซึ่งเป็นผู้นำ หนึ่งดอลลาร์ก็ไม่เคยเห็น หนึ่งสตางค์ก็ไม่เคยเห็น แต่เรื่องการจองล้างจองผลาญจองทำลาย การกีดการขวาง การจุดการเผานี้ พวกนี้ติดตามตลอด
เวลานี้กำลังติดตามกีดขวางเรื่องวิทยุ มีแต่พวกนี้ละจะเป็นพวกไหนไปพิจารณาซิ ก็เห็นกันอยู่ชัดๆ โลกเขาทำดีกัน อันนี้ไม่มีอะไรจะทำ มีแต่ทำความชั่วช้าลามกจกเปรตเต็มหัวใจ เต็มตัวอันธพาลของมันคือหัวใจ มหาภัยเต็มหัวใจมัน แสดงลวดลายออกมาเป็นภัยทั่วประเทศไทยเรา เป็นอย่างนั้นนะ ที่ว่านี้มันเอาอะไรมาให้ไม่มีนะ เราผู้อยู่จุดศูนย์กลางรับการบริจาค จะได้อนุโมทนาว่าพวกนี้มาช่วยชาติ จึงมีสิทธิที่จะมาประกาศตำหนิติเตียนหรือยกยออะไรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ในฐานะเราก็เป็นเจ้าภาพด้วยกันไม่มี นั่นเห็นไหมล่ะ แต่การออกมาทำลายมีทุกแบบ พวกนี้เก่งมาก จึงว่าการฆ่าการแกงการแทงข้างหลังไม่มีใครเกินพวกนี้ จำให้ดีคำนี้น่ะ
การแทงข้างหลังนี่เป็นภาคสาธารณะทั่วๆ ไป แต่ทางภาคอีสานเขาเรียกว่า การหักหลัง การฆ่าการแกงการหักหลัง หักหลังนี่เจ็บมากถึงใจเลย เหมือนว่าแทงข้างหลัง เป็นไวพจน์ใช้แทนกันได้ ภาคไหนจะเอาไปใช้มีน้ำหนักเท่ากัน นี่มันเป็นอย่างนี้ละ การฆ่าการแกงการแทงข้างหลัง การหักหลังไม่มีใครเกินพวกนี้ พวกที่กำลังก่อกวนทำลาย ตั้งกฎนั้นกฎนี้ มันก็มีเจ้าอำนาจป่าเถื่อนตัวแสบๆ แทรกอยู่ในวงรัฐบาล มันจึงแผลงฤทธิ์ออกมาเรื่อยๆ ตั้งกฎนั้นตั้งกฎนี้ จะปรับเท่านั้นจะปรับเท่านี้ ทั้งปรับทั้งจำด้วยนะ เวลานี้ก็ใกล้เข้ามาหาหลวงตาบัวเป็นผู้เทศนาว่าการ ก็เรียกว่าหลวงตาบัวจะเริ่มเป็นมหาโจรขึ้นมา ต้องถูกทั้งปรับทั้งจำ ฟังนะพี่น้องทั้งหลาย หลวงตาบัวคอยฟังอยู่นี่ละ ตั้งแต่บวชมานี้ช่วยตัวเองเต็มกำลังความสามารถ แล้วช่วยโลกเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากช่วยตัวเองเต็มกำลังแล้ว แล้วก็นำธรรมมาสอนโลก ธรรมนี้เลยจะกลายเป็นโทษ พาพี่น้องทั้งหลายติดคุกติดตะรางไปหมดแล้วว่าไง พิจารณาซิ มันอดคิดไม่ได้นะ โห น่าทุเรศ
เมื่อวานนี้โรงพยาบาลมาโรงเดียว วันอาทิตย์เมื่อวานมาโรงเดียว อำเภอพล ต่อนี้ไปจะมากๆ วันละสี่โรงห้าโรงหกโรงเป็นประจำ คือเราเห็นใจโรงพยาบาล เราช่วยด้วยความเมตตาจริงๆ เพราะคนไข้วิ่งหาหมอ เพื่อจะเอาชีวิตให้รอดพ้น วิ่งเข้าไปอะไรมอบไว้กับหมอหมด หยูกยาการพยาบาล อาหารการบริโภค จะอยู่กับหัวอกของโรงพยาบาลทั้งนั้น โรงพยาบาลก็เขียมๆ ทุกอย่าง แล้วจะเอาอะไรมาช่วยคนไข้ ก็ต้องอาศัยทางอื่นมาหนุนมาช่วย นี่ละที่เราช่วยโรงพยาบาลอยู่เวลานี้ วิ่งเข้าไปไม่ว่าคนมีคนจน พอเจ็บไข้ได้ป่วยจะวิ่งเข้าหาหมอทันที หมอก็ต้องรักษาตามมารยาท คนไข้ประเภทไหนๆ มาหมอรักษาเต็มที่
เมื่อรักษาแล้ว ค่าหยูกค่ายาอะไรๆ มีหรือไม่มี ไม่มีเขาก็กลับบ้าน หมอก็รับเคราะห์ไป เฉพาะอย่างยิ่งทางภาคอีสานเป็นภาคคนจน แล้วโรงพยาบาลจะเป็นโรงพยาบาลเศรษฐีมาจากไหน ก็ต้องเป็นโรงพยาบาลคนจน นี่ละจึงได้ช่วยทุกแห่งทุกหน ช่วยทางภาคอีสานนี่มากที่สุด เราไม่เอียงนะ เราช่วยโลกช่วยทั่วโลก แต่ตรงไหนจำเป็นมากน้อยเราก็ช่วย อย่างแยกแยะไปทางภาคอีสานนี่นะ โรงพยาบาลภาคอีสานรู้สึกจะได้รับการสงเคราะห์จากเรา ซึ่งเป็นเงินส่วนรวมของพี่น้องชาวไทยทั้งแผ่นดินมาช่วยเหลือกัน ภาคอีสานเป็นภาคคนจน แต่ที่พอชมเชยอยู่อันหนึ่งก็คือ เป็นภาคที่มีน้ำใจต่อกัน ตรงไหนต่ำก็บอกว่าต่ำ ตรงไหนสูงก็ยกให้เป็นสูง แต่น้ำใจนั้นดีไม่ค่อยมีเรื่องมีราว เฉลี่ยเผื่อแผ่ จิตใจกว้างขวางยกให้ ทางภาคอีสานรู้สึกว่ามีน้ำใจ
ไม่ได้หมายถึงว่าภาคอื่นๆ ไม่มีน้ำใจนะ นี้เอาภาคความจนมาเฉลี่ยกันกับสิ่งที่มันจมอยู่นั้นให้ฟื้นขึ้นมาบ้าง ว่ามีน้ำใจ ก็ชมขึ้นมาให้สูงหน่อย ไม่ใช่ภาคอีสานมีน้ำใจแล้วภาคอื่นไม่มี มีเหมือนกัน แต่ภาคอีสานไม่มีที่อาศัยก็คว้าเอาน้ำใจมาใส่ เข้าใจไหมล่ะ นี่ที่เราช่วยอยู่เวลานี้ การช่วยนี้เราช่วยทุกอย่าง พินิจพิจารณาเรียบร้อยแล้ว และมีเมตตาเป็นพื้นฐานประจำเลย ไปที่ไหนเมตตานี้เป็นพื้นฐานประจำๆ ตลอดมา เพราะฉะนั้นทางภาคอีสาน จึงได้รับการอนุเคราะห์สำหรับโรงพยาบาลจากเรามากทีเดียว จากเราก็จากพี่น้องทั่วแผ่นดินไทยนั้นแหละนำไปช่วยเหลือ ช่วยเหลือเรื่อยมาอย่างนี้ วันนั้นไปโรงนั้น วันนี้ไปโรงนี้ มาเท่าไรก็ให้ไปๆ ตามนั้นเลย เราจัดไว้ให้เรียบร้อย สั่งอะไรๆ แล้วพระจะรู้นิสัย ที่เราเคยสั่งเคยเสียอะไรไม่มีเหลาะแหละ ทุกอย่างตรงแน่วๆ เป็นไปตามนั้นๆ ทุกอย่างเลย เราทำอย่างนั้นไม่เคยเหลาะแหละ มีเท่านั้นละ ทีนี้จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |