เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๘
เอาไว้ทำไมคนไม่ดี
ก่อนจังหัน
พระให้ตั้งใจปฏิบัติ ให้เคร่งครัดตลอด สติเป็นพื้นฐาน อย่าลืมนะสติ สติเป็นพื้นฐานตั้งแต่ต้นจนถึงมรรคผลนิพพาน พ้นจากสติไปไม่ได้ สติล้มลุกคลุกคลาน สติตั้งได้ขึ้นเป็นสติอัตโนมัติ ปัญญาอัตโนมัติ เป็นมหาสติมหาปัญญาอัตโนมัติ นี่สำคัญมาก กุญแจลูกใหญ่ดอกใหญ่หมุนติ้ว กิเลสขาดสะบั้นไปเลยถ้าลงสติปัญญาสองสามประเภทนี้ได้เข้าในหัวใจใด กิเลสจะไม่มีเหลือเลย พังๆ จำให้ดีนะ
เรื่องสตินี่สำคัญมากทีเดียว เผลอแป๊บกิเลสเข้าแล้ว กิเลสออกแล้วเข้าแล้วๆ ถ้าสติไม่เผลอ หนาขนาดไหนก็ดิ้นอยู่เฉยๆ ออกมาไม่ได้ เรื่องสติเป็นเรื่องใหญ่โตมาก ท่านทั้งหลายนักปฏิบัติให้จำนะ คำว่าสติๆ นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย มันจะหนาแน่นเต็มหัวอกก็ตาม ถ้าสติครอบไว้แล้วมันออกไม่ได้ เมื่อออกไม่ได้ก็มีแต่ธรรมทำงานๆ สติธรรมคำบริกรรมก็เป็นธรรมรักษาจิตใจ ใจจะได้สง่างามขึ้นมา สงบร่มเย็นเรื่อยๆ ก็แผ่รัศมีขึ้นมาๆ ให้เห็นโทษของใจคือกิเลสมันหุ้มห่ออยู่ปิดมิดชิด ถ้าไม่มีสติเข้าไปแก้ไขดัดแปลงชะล้างมัน เอาสติให้ดีนะ
การทำทุกอย่างให้ทำด้วยความจงใจๆ มีธรรมเป็นพื้นฐานๆ สติธรรมเป็นสำคัญ งานทุกชิ้นทุกอันจะเป็นงานที่เรียบร้อยสวยงามนะถ้ามีสติเป็นพื้นฐาน จงใจๆ ต่องานทุกอย่างด้วยความเป็นธรรมๆ คำว่าเป็นธรรมก็สติธรรมเป็นพื้นฐานเหมือนกัน มันจะเลอะเทอะไปหมดแหละเวลานี้ น่าทุเรศนะ เราดูกลางๆ ดูเป็นธรรม ไม่ได้เอนโน้นเอียงนี้เราพูดจริงๆ ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูกไปเลย นี่เรียกว่าธรรม ตายใจได้ ไม่เข้าข้างนั้นข้างนี้ ลำเอียง อย่างนั้นไม่ใช่ธรรม มีแต่กิเลสทั้งนั้น ถ้าเป็นธรรมไม่เอียง ตรงไปตรงมาๆ
ให้ดูเจ้าของด้วยความเป็นธรรม มีสติธรรมจับเข้าความเคลื่อนไหวของเจ้าของเป็นไปในทางถูกทางผิด ส่วนมากมักจะเข้าตัวเสมอ ถ้าทางผิดแล้วดีๆ ถ้าทางถูกปัดออกๆ ในหัวใจเรานั่นแหละ นี่มันเอียงอยู่ตลอดเวลา กิเลสเข้าตรงไหนลำเอียงๆ ธรรมเข้าตรงไหนตรงแน่วๆ พากันตั้งใจปฏิบัติ ศาสนาจะไม่มีเหลือแล้วนะ เตือนท่านทั้งหลายไว้ พุทธศาสนานี้เป็นหัวใจของชาวพุทธเราทั่วประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย นี่ละความเลิศเลอ สิ่งเลิศเลออยู่ที่พุทธศาสนา ให้ยึดเกาะไว้ให้ดี อันนี้เลิศเลอสุดยอดแล้ว ให้นำเข้ามาประคับประคองตนเอง
ทุกสิ่งทุกอย่างความเคลื่อนไหวไปมา หน้าที่การงานจะเรียบร้อยไปหมด คนมีพุทธศาสนา มีสติเป็นพื้นฐาน ปัญญาพินิจพิจารณา ทุกสิ่งทุกอย่างจะเรียบร้อยไปตามธรรมนั่นแหละ เดี๋ยวนี้มีแต่กิเลสเข้าเหยียบย่ำทำลายๆ ธรรมมองไม่เห็นนะ แบกคัมภีร์ก็เห็นแต่คัมภีร์เป็นกระดาษเฉยๆ ตัวคนมันเป็นเปรตเป็นผีเป็นยักษ์เป็นมารที่แบกคัมภีร์อยู่นั้นน่ะ ไม่ได้มีธรรมนะ ตัวมหาภัยต่อคัมภีร์ด้วยซ้ำไป เรียนมามากๆ สำคัญว่าตัวรู้หลักนักปราชญ์ฉลาดแหลมคม เพียงความจำเฉยๆ ใครก็จำได้ทุกคน กิเลสไม่ถลอกปอกเปิก จะเรียกว่าความรู้ที่เป็นธรรมได้ยังไง
ความรู้ที่เป็นธรรม นำมาปฏิบัติแล้วเป็นธรรมขึ้นทันทีๆ เพราะธรรมพระพุทธเจ้าเป็นธรรมอยู่แล้ว ขอให้ทุกท่านได้นำไปปฏิบัติ เวลานี้ป้วนเปี้ยนๆ เลอะๆ เทอะๆ ทั่วโลกเลย เพราะอะไรออกเพ่นพ่าน ก็เพราะใครก็ส่งเสริมแต่กิเลส ความโลภ โลภเท่าไรไม่พอๆ เอาจนตายก็ไม่พอ เมื่อไม่ได้สมใจแล้วโกรธแค้นฆ่าฟันรันแทง รบราฆ่าฟันกันให้ได้สมใจ ความสมใจก็คือเป็นเถ้าเป็นถ่านไปด้วยกัน มันดีไหมล่ะกิเลสหลอกคนให้เผากันๆ จำให้ดีนะ
ถ้าศาสนาไม่มีแล้วโลกนี้ไม่มีความหมาย จะว่าใครเจริญรุ่งเรืองที่ไหนก็ไม่มีความหมาย เสกสรรปั้นยอเอาเฉยๆ ตัวเองในหัวใจนี้เป็นฟืนเป็นไฟ ไม่เกิดประโยชน์อะไรแหละ เพราะฉะนั้นจึงให้นำธรรมไปปฏิบัติติดเนื้อติดตัวตลอดไป ใครอยู่ในอิริยาบถใด มีสติธรรม ปัญญาธรรม ความพากเพียรเป็นพื้นฐานไปเรื่อยๆ อย่าลดละ เอาละให้พร
หลังจังหัน
(จดหมายตอบขอบคุณหลวงตาจากปลัดกระทรวงยุติธรรม ลงวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๘ ที่มีเมตตานุเคราะห์บริจาคอาคาร ๓ ชั้น จำนวน ๒ หลัง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๔๙,๕๒๔,๒๘๕ บาท ให้แก่ทัณฑสถานหญิงกลางเพื่อไว้ใช้ในราชการต่อไป)
เรือนจำนี่มีเยอะนะ ลาดยาวเป็นที่หนึ่ง นอกนั้นก็เรื่อยไปหมด จังหวัดนั้นจังหวัดนี้ ช่วยปลูกตึกให้ก็มี ให้ที่หลับที่นอน อู๊ย มากต่อมากแล้วแต่เขาติดต่อมา ติดต่อมาอย่างไหนๆ ที่ควรช่วยเหลือได้เราให้ทันทีๆ บึงกาฬก็ช่วยไปแล้ว สว่างแดนดิน อำเภอพล ที่เราพอระลึกได้นะ นี่หมายถึงพวกเรือนจำ แล้วก็ไปทางหนองบัวลำภู อุดรมากอยู่ สร้างตึกสร้างอะไรให้หลายอย่าง ก็มีลาดยาวเป็นที่หนึ่ง อุดรน่าจะเป็นที่สองละมั้ง ต่อจากนั้นก็กระจายทั่วไปหมดพวกเรือนจำ อย่างนี้ละช่วยทุกแบบทุกฉบับเรา ช่วยโลกช่วยทั้งด้านวัตถุ ช่วยทั้งด้านนามธรรมคือการแนะนำสั่งสอนทุกแบบทุกฉบับเรื่อยมาอย่างนี้แหละ
สำหรับโรงพยาบาลเรียกว่าเป็นที่หนึ่ง อันดับหนึ่ง จากคลังหลวงใหญ่มาแล้ว ที่มอบเข้าคลังหลวงทั้งหมด จากนั้นมาก็เป็นพวกโรงพยาบาลเป็นอันดับหนึ่ง โรงพยาบาลหลายร้อยโรง ช่วยตลอดๆ ต่อจากโรงพยาบาลก็โรงร่ำโรงเรียน สถานสงเคราะห์ต่างๆ นี่ที่ราชการ เรือนจงเรือนจำก็ราชการไม่ใช่เหรอ ดูซิสถานีรถไฟอุดร นี่นายสถานีเลยมาหาเรา มาพูดแบบสุดๆ สิ้นๆ หวังพึ่งโดยถ่ายเดียว เหมือนว่าลมหายใจมามอบให้เราสูบให้เขา ขอที่ไหนก็ไม่ได้ ขอเงินงบประมาณก็ไม่ได้เรื่อง ได้มาก็สองสามบาท ว่างั้นนะ จะใช้อะไรก็ไม่พอใช้ได้
สละเงินเจ้าของออกไปช่วยสถานีเป็นแสนๆ เขาบอกเงินของเขาเอง มันก็ไม่หวาดไม่ไหว ไม่มองเห็นใคร มองเห็นแต่หลวงตา นายสถานีนะมาเอง แล้วแต่หลวงตาจะเมตตา เวลานี้สถานีจะใช้ไม่ได้แล้ว ชำรุดขนาดนั้นแหละ เออ เราจะพิจารณาดู เราว่างั้น เราก็ไปจริงๆ พอได้โอกาสเราก็ไปตามน้ำหนักที่มา คือนายสถานีมาเอง เขาก็รายงานให้ทราบเรื่องราวที่เขาช่วยทางงบประมาณให้มาก็ไม่ได้เรื่องได้ราว เอาเงินเจ้าของออกไปช่วยซ่อมแซมเป็นแสนๆ มันก็ไม่ได้เรื่อง มองเห็นแต่หลวงตาแหละ เลยมาหาหลวงตา
เราก็ไปดูจริงๆ ไปดูทุกอย่าง มันสมควรจะได้รื้อหมดอย่างว่า สมเหตุสมผลที่เขาไม่มีกำลังที่จะซ่อม หมดจริงๆ นับแต่จะพังตลอด การซ่อมไม่มีความหมาย พอไปเราก็บอกรื้อเลย สั่งช่างเขาให้รื้อเลยเทียวสถานีนะ เอาไว้แต่โครงเหล็กๆ นอกนั้นรื้อออกหมด เอา สร้างใหม่ให้หมดเลย นั่นเห็นไหมล่ะ แล้วสร้างตึกอีกหลังหนึ่งต่อกันไป จากนั้นยังให้ห้องน้ำห้องส้วม แต่ก่อนไม่เคยมีนะห้องน้ำห้องส้วม สร้างให้ใหญ่ๆ รั้วให้หมด ลานจอดรถสถานีรถไฟ เทคอนกรีตให้ทะลุถึงชานเมืองเลย ให้หมด มันสิบกว่าล้าน ไม่ใช่เล่นนะ เฉพาะตึกก็ไม่ใช่เล่นแล้ว ตึกรื้อหมดเลยแล้วทำขึ้นใหม่ นอกจากนั้นให้หมดเลย เรียกว่าสมบูรณ์
ช่วยอยู่ทุกแห่งทุกหน นี่หมายถึงวงราชการ ช่วยอย่างนี้แหละ ทางสถานีตำรวจก็ช่วยเต็มเหนี่ยว ให้หมดเลย อันนี้ก็สิบกว่าล้านเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเงินเราจึงไม่มี บรรดาคนที่เขาไม่มาใกล้ชิดกับเรา พอจะรู้เรื่องรู้ราวความเคลื่อนไหวแห่งการจับจ่ายของเรา เขาก็จะว่าแต่หลวงตาบัวมีเงินๆ เพราะไหลเข้ามาก็เห็นกันอยู่นี้จะว่าไง บทเวลาไหลออกไม่เห็นนะ เช็คใบหนึ่งมันกี่แสน ออกเงียบๆ อย่างที่จ่ายเหล่านี้แหละใครรู้เมื่อไรเราจ่าย ก็รู้แต่เวลาเข้ามาๆ บทเวลาเราเอาออกเขาไม่รู้ ช่วยขนาดนั้นละ
เรียกว่าเราช่วยเต็มกำลังความสามารถ แบบแบมือเลย ไม่มีคำว่ากำ เราบอกได้เลยว่าไม่มี มีแต่แบตลอดๆ มีเท่าไรตกออกหมดๆ ถึงขนาดนั้น บางครั้งบางคราวยังติดหนี้เขาก็มี ไม่ใช่เล่น มันความจำเป็นให้ติดหนี้ เอ้าติดก็ติด คุกมันใส่แต่ฆราวาสไม่เคยใส่พระ จะใส่เราก็ให้รู้ว่าติดหนี้เขาติดคุก ติดหนี้เขาแล้วไม่มีเงินใช้เขาก็ต้องติดคุกละซิ เอ้า ติดก็ติด แต่ไม่เคยติด เป็นอย่างนั้นเรื่อยมา เสียสละเพื่อโลกเราเอาจริงจังมากนะ เราไม่มีอะไรกับเรา บอกตรงๆ เราไม่มี มีเท่าไรออกหมดๆ ในวัดในวานี้สั่งสมอะไรไม่ได้ เราไม่ให้สั่งสม สั่งสมก็คือโกดัง นั่นสั่งสมไว้เพื่อแจกไม่ใช่อะไร เราทำสุดกำลังความสามารถของเรา
การเทศนาว่าการ เราอยากจะพูดว่าประเทศไทยนี้น่าจะมีอีตาบัวนี้มังเทศน์ เทศน์มาสักเท่าไร ๕๖ ปีนี้ เทศน์ไม่หยุดไม่ถอย แต่ก่อนเทศน์อยู่อย่างลึกลับๆ ศาลานี้ที่ฟังเทศน์ของพระ ยอดธรรมอยู่ตรงนั้นนะ เทปที่ออกจากนี้ออกทั่วประเทศไทยตามวัดป่าต่างๆ วัดป่ามาติดต่อเอาไปหมดทุกภาคในเมืองไทย วัดป่านี้ได้ก่อนเพื่อนๆ จากธรรมะประเภทยอดธรรมทั้งนั้น แกงหม้อเล็กหม้อจิ๋วๆ ตลอดเลย ถ้าเทศน์สอนพระมีแต่อย่างนั้นละ มีแต่หม้อเล็กหม้อจิ๋วเต็มเหนี่ยวๆ เลยมาได้ ๕๖ ปีแล้ว ส่วนเทศน์สอนประชาชนก็เทศน์บ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ก่อนการเทศนาว่าการเกี่ยวกับภายนอกไม่ค่อยมากเท่าไรนัก แต่เทศน์สอนพระนี้ประชุมเรื่อย เทศน์เรื่อย เป็นเนื้อเป็นหนังจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดา เพราะฉะนั้นเราถึงเข้มงวดกวดขัน
เขาร่ำลือว่าวัดป่าบ้านตาด หลวงตาบัวนี้ดุมาก ก็ไม่ดุยังไง มาเก้งๆ ก้างๆ มันน่าดูหรือ มีลิงกี่ตัวจูงมาด้วย จะให้พูดอย่างนั้นหรือ มาก็เก้งๆ ก้างๆ มา มาอะไร เอาละนะ มาผิดเวลานะ ถ้ามาธรรมดาเราก็ไม่เคยสนใจ ไอ้ยั้วเยี้ยๆ เราไม่เคยสนใจ มาผิดเวลานั่นซิ ตอนเย็นๆ มักจะโดนตอนนั้นแหละ ตอนเย็นคนบางแล้วเราจะแอบออกมา ถ้าตอนกลางวันมาไม่ได้ ตอนเย็นๆ เราก็แอบออกมาไปดูนั้นดูนี้ เพื่อจะชี้แจงอะไร แนะการแนะงานบ้างอะไรบ้าง ครั้นออกมาก็มาเจอที่เพ่นพ่านๆ มาอะไร ถาม จ้อจะต่อยแล้ว สักเดี๋ยวก็หลงทิศไปเลย
มารายไหนก็เถอะ ถ้าหลวงตาออกมาดู ถามเหตุถามผลไม่ได้เรื่องแล้วไล่เดี๋ยวนั้นเลย สถานที่นี่ไม่ใช่สถานโรงลิเกละคร ท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสงวนอรรถธรรม เทิดทูนอรรถธรรม มีอยู่ในวัดนี้นะ อย่ามาเพ่นพ่าน นิสัยสันดานไม่ดีนี่ ไปที่ไหนก็เพ่นพ่าน มาในวัดแทนที่จะเกิดประโยชน์ก็ได้แต่ความเพ่นพ่านเข้ามาแล้วออกไป ไม่เกิดประโยชน์อะไร ไป ไล่ ไม่ว่าใครทั้งนั้นถ้าลงได้เอาแล้วเอานะ ไม่มีคำว่าสูงว่าต่ำ ธรรมเหนือหมดแล้ว ความถูกต้องแม่นยำออกจากธรรมทั้งนั้นๆ เทศน์นี้ไม่ได้เสียหายอะไร เทศน์ให้คนที่เสียหายอยู่แล้ว ให้ไปประพฤติเนื้อประพฤติตัวให้ดีต่างหาก เป็นอย่างนั้นละ ออกมาทีไรมักจะโดน เอากันทุกที ตอนเย็นแหละตอนผิดเวล่ำเวลา เราออกมา
เขาว่าหลวงตาบัวดุ ไม่ดุยังไงมันมีแต่สิ่งที่น่าดุ จะให้ชมเชยได้ไง เขามาอย่างนั้นแล้วได้เอาลิงมากี่ตัวจูงมาด้วย มันเหมือนลิงพวกนี้ จะให้ชมอย่างนั้นเหรอ ชมได้ยังไง มันเลอะเทอะขนาดนั้นนะมนุษย์เราชาวพุทธ ไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย เข้ามาในวัดนี้ก็มาขายเนื้อขายตัว เก้งก้างๆ ตามกิริยามารยาทสันดานหยาบที่เคยเป็นมา โดยไม่มีการระมัดระวังรักษาตัวเลย เข้ามานี้ก็เอานิสัยเก่ามาใช้ แล้วมันดูไม่ได้นะ ผู้ท่านรักษาท่านรักษาอยู่นี่จะว่าไง มันดูไม่ได้ก็เอาซิ ดุเรื่อยแหละเรา ถ้าออกมามักจะโดน ตอนเย็นๆ
เวลาคนเลิกหมดแล้วเราจะออกมาตอนนั้น ที่ออกมาตอนนั้นตอนมันมาเก้งก้างๆ กลางวี่กลางวันเสียจริงๆ เก้งก้างเราก็ไม่สนใจนะ ถ้าผิดเวลานั่นละเอาละตอนนั้น มีอยู่เสมอ ผู้ปฏิบัติศีลธรรมเลยลำบากด้วยสิ่งสกปรกเข้าไปรบกวน เลอะเทอะไปหมดเลย นี่ที่เขาว่าหลวงตาบัวดุ ก็ไม่ทราบว่าดุว่าดีอะไร ฟังเอาซิ พูดทุกสิ่งทุกอย่างพูดโดยอรรถโดยธรรม มีเหตุมีผลทุกอย่าง ไม่ว่าจะพูดดุด่าว่ากล่าวนิ่มนวลอ่อนหวานอะไร มีเหตุมีผลไปทุกอย่างนั่นแหละ เราไม่ได้พูดแบบทิ้งไปๆ ทุกอย่างพูดมีเหตุมีผลไปตลอดเลย
ข้างในก็ให้เข้มงวดกวดขันกันนะ พักข้างในไม่น้อยนะ ร้อยกว่าๆ อยู่ข้างใน พระนี่เพิ่มอีกเท่าตัวยังสู้ไม่ได้ พระมีอย่างมาก ๕๐ องค์ อันโน้นร้อยกว่า ร้อยยี่สิบ ร้อยสามสิบ รวมกันเลยร้อยเจ็ดสิบแปดสิบนู่น มันได้เรื่องได้ราวอะไรไหมพวกอยู่ข้างในนั่น เราไม่ค่อยได้ไป ถ้าไปก็ด้อมๆ ไปนี่ๆ รอบๆ ครัวนี้ก็ออกมา ไม่ได้เข้าไปข้างในพอจะเห็นเรื่องราวอะไรต่างๆ ถ้าเข้าไปข้างในเห็นเรื่องราวนี้เดี๋ยววัดแตกนะ ครัวแตกเลยนะถ้าเราเข้าไปตรงนั้น เอาจริงๆ เพ่นพ่านๆ มาดีไม่ดีมาทะเลาะกันก็มีไม่รู้นะ แทนที่จะเอาธรรมมากระจายให้เป็นเครื่องประดับซึ่งกันและกัน มันจะเอาแต่ฟืนแต่ไฟมาเผากันข้างในก็มีนะ แต่ไม่กล้าออกมาแสดงเรื่องราวให้เราทราบ คือเมื่อแสดงแล้วเราจะไม่วินิจฉัย ถ้าได้ยินว่าทะเลาะกันไล่หนีหมดเลย เราไม่วินิจฉัย ไล่เลยๆ แต่อยู่ธรรมดานี้ก็หนักพอแล้ว ยังมาทะเลาะเบาะแว้งกันเกิดประโยชน์อะไร
สำหรับในวัดเราอย่างนั้นไม่มี พูดตรงๆ เรียบมาตลอด ปกครองวัดมาตั้งแต่สร้างวัดป่าบ้านตาด ที่วัดนี้จะเกิดเรื่องราวอะไรพระทะเลาะเบาะแว้งกันไม่เคยมี เรียบมาตลอด ส่วนในครัวมันก็มีตามภาษามันนั่นแหละ หมากับแมวมันอยู่ด้วยกันมันก็กัดกันอยู่ในนั้นแหละ อยู่ในครัวนั้นพวกหมากับแมวมันอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องทะเลาะกันกัดกัน เราก็ปล่อยให้เป็นเรื่องสองตัวนี้เสีย เราไม่ค่อยถือสีถือสา ถ้ามันรุกล้ำเข้ามามากๆ ถือสีถือสาหรือไม่ถือสีถือสาก็รู้เอา ถ้ามันแบบนั้นก็ปล่อยให้มันกัดกันอย่างนั้นแหละ นานๆ เอาไม้หวดเสียทีหนึ่ง
โธ่ การปกครองคนให้ดีนี้มันของเล่นเมื่อไร ปกครองเจ้าของซิ ตั้งแต่เป็นฆราวาสญาติโยมเราไม่มีอะไรเป็นเครื่องรักษา ตามอัธยาศัยทั้งเขาทั้งเราทั่วโลก ไปแบบนั้นแหละ ทีนี้เวลามาบวชศีลธรรมมัดเข้าละซิ ผิดข้อนั้นผิดข้อนี้ ระวังละซิ ระวังๆ ตลอด ทีแรกเหมือนผู้ต้องหานะ แหม ทุกข์มาก รักษาสิกขาบทวินัยมีแต่จะผิด ระวังเท่าไรยิ่งผิด ก็ระวังด้วยความโง่ มันไม่ระวังด้วยความฉลาดมันก็ผิดละซิ เอาความโง่ไประวัง ผิดเรื่อยไปๆ
พอพูดอย่างนี้ก็มีนิทานอันหนึ่ง หลวงพ่อกองเป็นเพื่อนกัน เกิดปีฉลูด้วยกัน นิสัยมันชอบตลกแบบเดียวกันนี้แหละ เราก็บวชใหม่ แกบวชก่อนเราปีหนึ่ง อายุพอบวชแล้วแกบวช เรายังไม่บวช เราบวชตามไปปีที่สอง ทีนี้เคยเป็นเพื่อนกันอยู่แล้วแต่เป็นฆราวาส มาแล้วขึ้นไปหา มีสองสามองค์ขึ้นไป เป็นพระใหม่ด้วยกันทั้งนั้น แกบวชก่อนพรรษาหนึ่ง นิสัยแกขบขันนะ ไม่ค่อยหัวเราะนะ ยิ้มๆ แกพูดนี่ขลังมาก อดหัวเราะไม่ได้ เราจะตาย
พอขึ้นไปปุ๊บๆ กราบลง สูบบุหรี่ เอาบุหรี่มาวางไว้ พระใหม่เหล่านี้น่ะ พูดเหมือนมีความผิดความพลาดจริงๆ นะ พวกเราที่บวชใหม่ พระใหม่เหล่านี้น่ะมันมีสิกขาบทวินัยไหมนี่ มันบวชมานี่น่ะ ไอ้บุหรี่นี่มันได้ทำตามหลักพระวินัยไหม มันถือมานี่ พระวินัยอะไรไม่รู้เรื่อง อู๊ย บวชมาขนาดนี้ยังไม่รู้พระวินัยอีกหรือ จี้เข้าไปอีก แล้วหน้าตาเฉยนะ ทำท่าขึงขัง ก็พวกเดียวกัน ไอ้เราก็มุ่งใส่ธรรม ทางนั้นพูดตลกนี่นะ ทางนี้มุ่งใส่ธรรมนึกว่าผิด มันผิดจริงๆ หรือ ยังไม่รู้อยู่หรือ บวชมาขนาดนี้แล้ว ยังเอาอีก ไล่อีกนะ บุหรี่นี่น่ะมันได้พินทุอธิษฐานหรือเปล่า นี่ละมันขบขัน
บุหรี่นี่น่ะได้พินทุอธิษฐานหรือเปล่า คือสิ่งต่างๆ เช่นผ้าสบงจีวรต้องพินทุอธิษฐานจึงใช้ตามหลักพระวินัย นี่เราก็ไม่ได้สนใจประสาบุหรี่จะพินทุอธิษฐานอะไร แกลากอันนั้นละขึ้นมาตลก บุหรี่นี่มันสูบเอาเสียจนตาดำตาแดง ได้พินทุอธิษฐานหรือเปล่า อ้าว ยังต้องมีพินทุอธิษฐานเหรอ ยังไม่รู้อยู่หรือพระวินัย เอาอีกตีเข้าไปอีก เราก็ร้อนละเราร้อนจริงๆ นะ ทางนั้นพูดเล่น ทางนี้พูดจริง เล่นก็เล่นแบบลักษณะจริง ขึงขังตึงตังเสียด้วย แล้วเป็นยังไงพระวินัยว่าไง พินทุอธิษฐานยังไง แล้วกัน ขู่ละ
บวชมาขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่อง มันเป็นอาบัติมากี่อาบัติแล้วตั้งแต่บวชมา สูบบุหรี่ไม่ได้พินทุอธิษฐาน มันผิดมานานเท่าไรแล้ว แล้วคำอธิษฐานว่าไง มันยังไม่รู้อีกเหรอ เอาอีก ตีเข้าไป เฉยนะ นิสัยแกเป็นอย่างนั้นนิสัยเฉย ตลกอยู่ในนั้นแหละ ยิ้มเท่านั้น เพราะฉะนั้นมันถึงขลังดีละซิ ไอ้เราร้อนเป็นไฟ ก็เราคิดเป็นธรรม ผู้หนึ่งตลก เผาเข้ามา ทีนี้ก็ถาม แล้วพินทุอธิษฐานทำยังไง บอกมาซิ โห ขนาดนี้มันยังไม่ได้คำพินทุอธิษฐาน ยังขู่อีก บทเวลาจะบอกนะ นี่เป็นภาษาอีสาน ฟัง อิมังควันถมดังอธิฏฐามิ อิมังแปลว่า นี้ ควันถมดังคือควันถมจมูก สูบบุหรี่จนควันถมจมูก อธิฏฐามิ โอ๊ย เราอยากว่าบักห่านี่ อยากว่าอย่างนั้น มันตลกเฉย เราร้อนเป็นไฟไปเลย อย่างนั้นซิบทเวลามันตลก นี่อีตากองเป็นนิสัยชอบตลก ถึงขั้นมันตลกมาเป็นพระก็พูดตลกจนเราร้อนเป็นไฟ คนหนึ่งคิดเป็นธรรม คนหนึ่งคิดแบบตลกละซิ มันเข้ากันไม่ได้ แกตายแล้วละเดี๋ยวนี้ เป็นเพื่อนกัน
เมื่อวานนี้ก็ไปคอนสวรรค์ไกลนะ ทาง ๒๑๑ กิโล ถึงโรงพยาบาลคอนสวรรค์ รถไป ๒ ชั่วโมง ๑๕ นาที รถเรามันเร็วนะ เวลาขากลับมาเมื่อวานนี้ดูเหมือน ๒ ชั่วโมง ๑๘ นาที ความเร็วแต่ก่อนเราปล่อยตามอัธยาศัยของเขา ถ้าทางดีเขาควรจะเร่งถึง ๑๒๐ ก็มี เราก็ไม่ว่าอะไร แต่ระยะนี้เรามาพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะไปทางไหน ไปกรุงเทพฯ ไปที่ไหนทางใกล้ทางไกลก็ตามตั้ง ๑๑๐ เท่านั้นไม่ให้เลย เราบอก นี่เขาก็ไป ๑๑๐ เราดูเข็มทีไรก็ ๑๑๐ ตลอด ดีนะไอ้เยี่ยมมันขับรถเก่ง แต่ไม่ยอ ถ้ายอมันมีอันหนึ่งเกิดขึ้นนะ ไม่ทราบเป็นยังไง อันนี้แปลกอยู่ ถ้าชมเชยองค์ไหนมักจะมีอะไรเกิดขึ้น เป็นอย่างนั้นนะ เอ๊ คำพูดเราเป็นยังไง พอชมเชยอะไรก็มักมีเรื่องเกิดขึ้น
อย่างชมเชยอาจารย์เจี๊ยะ ท่านเอาไม้ตีพระขี้เกียจภาวนา ชมเชยท่านอาจารย์เจี๊ยะอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้กี่วันเดี๋ยวได้ยินว่าท่านเอาไม้ตีพระ ตีเพราะอะไร พระขี้เกียจภาวนา โอ๊ย พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่เคยเอาไม้ตีพระ อันนี้มันเกินเหตุเกินผล อย่างนี้แหละ พอว่าอย่างนี้มันก็มีอย่างนั้นขึ้นมาเสีย ยอคนไหนไม่ได้ละ เลยต้องเฉยๆ ไว้ดีกว่า ถ้ามีคำยอที่ไหนมันจะมีเรื่องขึ้นมาที่นั่น เราเคยสังเกตคำพูดของเรา แสดงว่าไม่ชอบให้ยอใครนั่นเอง และเมื่อไม่ชอบให้ยอใครแล้วทำยังไง ไปที่ไหนตีดะเลย ความหมายมันก็เป็นอย่างนั้นใช่ไหมล่ะ คือไม่ให้ยอ ถ้ายอมันผิดอย่างนี้ แล้วทำยังไงจะไม่ผิด ตีดะเลย ไม่ต้องยอ ก็ต้องแบบนั้นละซิ พวกนี้พวกชอบตีดะเหรอนี่ มันเป็นอย่างนั้นนะ ยอที่ไหนไม่ได้ละ
อย่างธรรมลีนี้ก็พูดเพียงเบาะๆ นิดหน่อย ไม่พูดมาก บอกว่าธรรมลีนี้คือเศรษฐีธรรม เท่านั้นละเราไม่พูดมาก บอกว่าเศรษฐีธรรมภายในอยู่อย่างลึกๆ เท่านั้นพอ ไปยอที่ไหนมักจะมีๆ เราก็ได้พิจารณา เอ๊ คำพูดของเรานี้มันจะมีความเสียหาย การยอใครๆ นี้ผิด ต้องได้พิจารณาอย่างละเอียดอีกเหมือนกัน พอพูดออกมาผลตามมามันจะเป็นผลลบนะ เวลายอก็เป็นผลบวกๆ ไม่นานผลลบตามมา ตามมาเรื่อยๆ อย่างว่าอาจารย์เจี๊ยะ ยกยอท่าน แล้วท่านเอาไม้ตีพระ ตีเพราะเหตุไร เสียงลั่นมาหาเรา ตีเพราะอะไร พระขี้เกียจภาวนา ว่างั้น นั่งสัปหงกหรืออะไรท่านเอาไม้ตีเอา
อย่างนั้นละ ทีนี้ไม้ตีนี้มันเลยเป็นพิษเป็นภัยเป็นผลลบ ส่วนความขี้เกียจภาวนาเลยไม่พูดถึง ก็ท่านตีถูกแล้วนี่ ท่านตีแรงขนาดไหนไม่ทราบ เราไม่ได้บอกให้เอาขอนซุงไปฟาดเลย อย่างนั้นมันถึงจะสมใจคนขี้เกียจภาวนา ระวังให้ดีนะขอนซุงมานะนี่พวกนี้ เดี๋ยวขอนซุงมานะ มันขี้เกียจมากนะ ไม้ตีมันไม่พอ ขอนซุงกลิ้งทับเลย ให้มันไปด้วยกัน กุสลา ธมฺมา ผ่านไปเลย
เรื่องศีลเรื่องธรรมให้มีความหนักแน่นมากนะพี่น้องชาวไทยเรา จะได้มีหลักมีเกณฑ์ ชาติไทยทั้งชาติเป็นชาติแห่งชาวพุทธ การปฏิบัติตัวเป็นเรื่องของกิเลสความสกปรกมอมแมมไปหมด แม้แต่วงราชการลงมายังมาตำหนิติเตียนผู้ที่สร้างความดิบความดีด้วยความถูกต้องตามอรรถตามธรรมด้วยซ้ำ นี่เลวมากคนๆ นี้ ราชการคนนี้ วงราชการคนนี้ หรือข้าราชการคนนี้เลวมากทีเดียว ถ้าเข้าไปอยู่ในหน่วยไหนหน่วยนั้นก็กลายเป็นหน่วยเลวมาก ถ้าเข้าไปอยู่ในวงรัฐบาลก็รัฐบาลนี้เลวมาก คนๆ เดียวนี้แหละไปทำให้เลอะหมดในวงรัฐบาล
อย่างที่ว่าตำหนิติเตียน หรือหักห้ามต่างๆ เรื่องวิทยุนี่ มันเรื่องอะไร สันดานมันหยาบขนาดนั้นเชียวเหรอ ธรรมะพระพุทธเจ้าสอนโลกมากี่พระองค์ มีใครบ้าง ถ้าพูดถึงเทวดา อินทร์ พรหม มีเทวดา อินทร์ พรหม รายใดบ้างที่มาค้านธรรมะพระพุทธเจ้าว่าไม่ถูกต้องแม่นยำ เป็นเสนียดจัญไรแก่โลกทั้งหลาย ไม่มี แล้วสอนมนุษย์ก็สะเทือนสะท้านหวั่นไหว ดังพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมา ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแสดงไว้แล้ว พวกรุกขเทวดา อากาสาเทวดา ภุมมเทวดา จาตุมมหาราชิกา เรื่อยขึ้นไป จนกระทั่งถึงท้าวมหาพรหม มนุสฺสาเวสÿๆ พวกนี้ร่ำลือสะเทือนสะท้านพระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมา แล้วตื่นเต้นกัน บอกกันเป็นลำดับๆ จนกระทั่งถึงมหาพรหม ธรรมเลิศเลอขนาดไหน
อันนี้มันหากีดหากัน มันได้เรื่องได้ราวอะไร เราเลยไม่อยากถามหาเหตุหาผล คือมันหยาบเกินกว่าที่จะถามหาเสีย ไอ้ผู้มาบีบบี้สีไฟ บังคับบัญชา เรื่องวิทยุที่ประกาศธรรมสอนโลกนี้เป็นความเสียหายที่ตรงไหน นี่ที่มันน่าคิดอยู่มากนะ ตัวนี้ตัวเสนียดจัญไรมาก มันอยู่ที่ไหนคนๆ นี้ ข้อบังคับข้อนี้มาจากใคร ถ้ามาจากในวงรัฐบาล วงรัฐบาลนี้เป็นวงรัฐบาลเพชฌฆาต สังหารศาสนาซึ่งเป็นหัวใจแห่งชาติของตน พ่อแม่ของตนอยู่ในศาสนาหมด คนนี้หยาบโลนที่สุดเลย มันทำได้ลงคออย่างนี้ พิจารณาซิ
ธรรมสอนโลกมีความเสียหายที่ตรงไหน พระพุทธเจ้าสอนมาเสียหายที่ไหน พระสงฆ์สาวกสอนมาเสียหายที่ไหน กระทั่งปัจจุบันนี้เราสอนโลกที่ออกสนามมาเป็นเวลา ๗ ปี เอา ขัดข้องตรงไหน ผิดตรงไหนให้ค้านมา ธรรมะที่เราสอนไปนี้ ไม่เป็นประโยชน์แก่โลกและเป็นเสนียดจัญไรต่อโลกตรงไหนๆ ให้ค้านมาเสียก่อน ก่อนที่จะห้ามไม่ให้เทศนาว่าการแบบนั้น มีจำกัดจำเขี่ยเอาไว้ วิทยุไม่ให้สูงกว่าเท่านั้นเมตรเท่านี้เมตร แล้ววิทยุแห่งหนึ่งๆ เพียง ๑๕ กิโลๆ มันเอาข้อบังคับป่าเถื่อนมาจากไหนมาบังคับ
ศาสดาองค์เอกไม่มีกิเลสตัณหาภายในใจ สอนโลกด้วยความราบรื่นดีงาม รื้อขนสัตว์โลกให้พ้นจากทุกข์ไปจำนวนมากเท่าไร มันรื้อขนใครให้ออกจากทุกข์ มีแต่จะลากคนให้ลงจมลงนรกกับตัวมันที่ตัวหยาบๆ เท่านั้นเอง จะเป็นอะไรไป ว่าอย่างนี้แหละ เพราะมันหยาบมากที่สุด การประกาศทางวิทยุเสียหายที่ตรงไหน พิจารณาซิ มันไม่มีนะ ประกาศมาตั้งแต่หลวงตาบัวยังไม่เกิด มาสอนธรรมนี้ก็เอาวิทยุ วิทยุนี้ก็ด้วยความพอใจของประชาชนชาวพุทธทั้งหลาย เขานำออกไปตั้งวิทยุสถานที่ต่างๆ เพื่อจะได้ยินได้ฟังอรรถธรรม เสียงอรรถเสียงธรรมนี้ฟังได้ยากนะ นี่เป็นโอกาสอันดีงามที่จะได้ยินได้ฟัง เขาก็ไปตั้งสถานีวิทยุในที่ต่างๆ นี้ไปกีดไปกัน ไปขวางเขา
นี่ถ้าหากว่ามันพอห้ามได้มันจะห้ามขาดเลยนะ แต่นี้มันไม่กล้าที่จะห้ามได้มันก็ตีเอาทางนั้นทางนี้ มันตีอย่างนั้นเราก็ตีแบบนี้ละซี ตีแบบไหนมันก็ผิดทั้งนั้น ห้ามอะไร ก็บอกมาเป็นธรรมดาๆ ลูกศิษย์มีครูซิ อย่าเอาอำนาจป่าเถื่อนเข้ามาบังคับกัน กิเลสมีเต็มหัวใจ เอากิเลสมาบังคับธรรมของพระพุทธเจ้า ที่บริสุทธ์ผ่องใส ล้นโลกล้นสงสาร มันเป็นไปได้ยังไง พิจารณาซิ เห็นไหมมันอวดเก่ง อึ่งอ่างกับวัว อึ่งอ่างก็พองตัวอยู่เดี๋ยวนี้แหละ วัวคืออะไร คือธรรม เหนือโลกมาขนาดไหน อย่าไปพองตัวนะอึ่งอ่าง เดี๋ยวท้องแตก พากันเข้าใจเหรอ
ฟังแล้วมันสะเทือนใจมากนะ มันหาเรื่องหาราวมากีดมาขวาง มากดมาดันเรื่องศาสนาอยู่ตลอดเวลา ศาสนานี้ให้คุณแก่โลกมาเท่าไร พระพุทธเจ้าองค์ใดๆ สอนศาสนา รื้อขนสัตว์โลกออกจากทุกข์มีจำนวนมากมาย การหวงห้ามเรื่องการเทศนาว่าการไม่เคยมี อย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้ก็ไม่เคยมี พึ่งมาปรากฏในเมืองไทยเราเวลานี้ กีดกันท่านั้นท่านี้ หาเล่ห์หาเหลี่ยมออก แล้วตั้งกฎนั้นกฎนี้เข้ามา กฎมีแต่กฎทำลาย ไม่ใช่กฎส่งเสริม ไอ้พวกนี้น่ะตัวนี้ตัวแสบๆ นี้ แสดงออกมาแง่ไหนเราไม่เคยเห็นเป็นแง่ส่งเสริมพุทธศาสนา มีแต่แง่ทำลาย ทำลายเรื่อยๆ ไม่ได้ทำลายแบบนั้นก็ทำลายแบบนี้ กีดกันแบบนั้น กีดกันแบบนี้เรื่อยมา
หูนี่เป็นหูคน ทำไมมันจะไม่เข้าใจในเรื่องคำพูด ปากก็ปากคนพูดออกมา ผู้ฟังก็คือคน ทั่วประเทศไทยเขาเป็นคนด้วยกัน เขาไม่ใช่หมานี่นะ จะเป็นแต่เทวดาแต่เราคนเดียวมาอวดเก่งใส่เขาได้ยังไง พิจารณาซิ อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ อย่าเอามาใช้ในเมืองไทย เมืองไทยนี้เป็นเมืองคน ไม่ใช่เมืองหมา อย่าเอามาใช้ มากีดมาขวางสิ่งที่เป็นมงคลมหามงคลแก่หัวใจชาวพุทธเรา เฉพาะอย่างยิ่งทั่วประเทศไทย นับถือพุทธศาสนานี้มาเต็มหัวใจเลย
ไอ้ตัวเปรตๆ ตัวผีๆ ตัวแสบๆ มัน สรณํ คจฺฉามิ ใครไปพูดให้มัน ตั้งแต่มันพูดออกมานี้มันก็ขวางโลกพอแล้วนี่ อวดตัวออกมาได้ยังไงพิจารณาซิ ไปที่ไหนขวางโลกไอ้ตัวแสบตัวนี้น่ะ มันขวางโลกมาตลอดนะเกี่ยวกับเรื่องศาสนา มันจะส่งเสริมท่านั้นท่านี้เรายังไม่เคยเห็นมี แต่เรื่องกีดกันทุกสิ่งทุกอย่างที่มันจะทำได้มันทำมาตลอด เกี่ยวกับเรื่องศาสนาจะให้โยกให้คลอน ให้ล่มให้จมไปนี้ มาตลอดๆ มันเห็นมันได้ยินอยู่อย่างนี้จะให้ว่าไง ก็พูดตามเรื่องได้เห็นได้ยินได้ฟังตามหลักความจริงละซิ อันนี้มันน่าทุเรศมากนะเวลานี้
ใครเป็นวงราชการตัวเสนียดจัญไรทำลายหัวใจคนทั้งชาติ เกี่ยวกับเรื่องพุทธศาสนานี้คือใคร อยู่ในวงรัฐบาลเรานี่เวลานี้มีใคร ถ้ามันไม่น่าอยู่เขี่ยมันออกซิ เอาไว้ทำไม เป็นก้างขวางคอของคนทั้งชาติ ศาสนาจะจมไปด้วยไอ้ก้างขวางคอตัวแสบๆ นี่ คนดีกว่านี้ไม่มีหรือ คนไทยเราทั้งประเทศไม่มีคนดีหรือ มีคนเดียวเท่านี้หรือ ตัวเก่งๆ ทำลายทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไปด้วยกัน มันน่าคิดไหมพิจารณาซิ เราพูดเป็นอรรถเป็นธรรม เป็นความสัตย์ความจริง ไม่มีคำว่ากล้าว่ากลัว
เรื่องธรรมเป็นยังไง ถูกต้องยังไง เราจะพูดไปตามหลักเกณฑ์ของอรรถของธรรม เรื่องอันนี้ไม่มีใครทำมันยังมากล้าหาญทำ ไอ้ตัวแสบๆ นี่น่ะมันจะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้จมลงไป ด้วยอำนาจว่าฝีมือของมัน ฝีมือของใคร ในโลกนี้ใครก็มีมือเหมือนกัน มีมือแต่มันคนเดียวหรือจึงจะมีฝีมือคนเดียว คนที่ฟังอยู่นี้ไม่ใช่หมานะ คนทั้งนั้น ผิดถูกดีชั่วรู้กัน พุทธศาสนานี้โลกประคองมานานแสนนานแล้ว นี้มันพึ่งเกิดเมื่อสองสามวัน มันอวดเก่งกว่าพระพุทธเจ้า กว่าศาสนา กว่าคนทั่วประเทศที่นับถือพุทธศาสนามาได้ยังไง มันเอาอะไรมาอวด มาอวดหาอะไร
พี่น้องทั้งหลายก็ให้พิจารณา ให้จับตาดูไอ้พวกนี้ พวกตัวเปรตตัวผี มาอาศัยวงราชการว่าเป็นอำนาจอยู่ในนั้น มันอำนาจป่าเถื่อนอย่าเอามาใช้ วงราชการอำนาจด้วยความเป็นธรรมปกครองคนทั้งประเทศด้วยความเป็นธรรม ไม่ใช่เอาแบบเปรตแบบผีอย่างนี้มาปกครอง อย่าเอามาแบบนี้ ใครไม่ดีเขี่ยออก เอาไว้ทำไมคนไม่ดีในวงราชการก็ดี ราชการเป็นราชการของคนทั้งประเทศ ตั้งขึ้นเป็นวงราชการ แม้แต่นายกรัฐมนตรี หย่อนบัตรให้แทบเป็นแทบตายก็เพื่อจะให้เป็นวงราชการ ให้เป็นนายกฯที่ดิบที่ดี รัฐบาลที่ดิบที่ดี แล้วมาตั้งทำลายหัวใจคน เฉพาะอย่างยิ่งเอาพุทธศาสนามาขยี้ขยำ ต่อประชาชนทั้งประเทศด้วยวิธีการต่างๆ นี้ดูไม่ได้
ควรเขี่ยเขี่ยออกคนประเภทนี้อย่าเอาไว้ มันหนักชาติ หนักศาสนา หนักพระมหากษัตริย์ อย่าเอาไว้นะ ถ้าเอาไว้จะแหลกนะคนๆ นี้ หมอบหัวให้มันเหยียบหัวอยู่เหรอ หัวคนไม่ใช่หัวเต่านี่นะ ต้องดูซิผิดถูกชั่วดีอะไร มีธรรมที่จะพูดกัน ตั้งกฎนี้กฎถูกหรือผิด กฎทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือกฎเป็นเครื่องส่งเสริม ดูกันให้ดีซิ อะไรควรค้านต้องค้านกัน มนุษย์ด้วยกันอยู่ด้วยกันปกครองกัน เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้พอ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz
|