เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๘
ก้างขวางคอของธรรม
ก่อนจังหัน
พระเราไม่มีธุระอะไรนะ ธุระของพระเป็นประจำที่เป็นพื้นฐานอันสำคัญสำหรับพระหรือชีวิตของพระ ก็คือการประกอบความพากเพียร ศีลเป็นเครื่องประดับพระให้สวยงามมาก ธรรมประดับอยู่ภายใน ศีลประดับอยู่ภายนอก พระเราไม่มีอะไรเป็นของสวยงามนะ ผมก็โกนออก มีแต่หัวโล้นๆ เอาอะไรมาเป็นเครื่องประดับ เอาศีลเอาธรรมเป็นเครื่องประดับ พระไม่มีอย่างอื่นใดเป็นเครื่องประดับ ดังที่กำลังเป็นบ้ากันอยู่ทุกวันนี้ เอายศนั้นยศนี้มาประดับ ชั้นนั้นชั้นนี้มาประดับ
พูดอย่างนี้แหละ หลักธรรมมียังไงเราพูดตามหลักธรรม สิ่งเหล่านั้นมีแต่สิ่งจอมปลอม เป็นกาฝาก กาฝากเหล่านี้เป็นกาฝากมหาภัยด้วยนะ ยศถาบรรดาศักดิ์ถ้าจิตไม่มีธรรมแล้ว เหล่านี้เป็นกาฝากมหาภัย ส่งเสริมพระให้เป็นบ้าไปได้ เวลานี้พระเรากำลังเป็นบ้ากับยศนะ ยศถาบรรดาศักดิ์ ชั้นนั้นชั้นนี้ ศีลธรรมที่เป็นธรรมชาติที่เลิศเลอที่พระพุทธเจ้าประทานให้แล้วไม่สนใจนะ มันไปโดดใส่กองมูตรกองคูถ ยศๆ แย็ดๆ อะไรไปอย่างนั้นนะเวลานี้ มันเป็นจะให้ว่าไม่เป็นได้ยังไง สิ่งเหล่านี้เป็นของดีเหรอ มันเป็นเรื่องตื่นยศไปอย่างนั้น
ท่านเอายศเป็นเครื่องประดับพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ให้มีแก่ใจปฏิบัติดียิ่งขึ้นไป ท่านตั้งยศให้เป็นเครื่องส่งเสริมนะ ไม่ใช่ให้เป็นเครื่องลืมตัวเป็นบ้าดินเหนียวติดหัวว่าตัวมีหงอน เดี๋ยวนี้พวกพระดินเหนียวนะ ดูในวัดป่าบ้านตาดนี้ก็ดู ผ้าย้อมกรักสีแก่นขนุนว่าสวยงาม หัวใจเป็นยังไง มีแต่ความขี้เกียจขี้คร้านใช้ไม่ได้นะ ให้ตั้งใจปฏิบัติ
ศาสนาอยู่ที่ไหนเป็นพุทธศาสนาและมีผู้ปฏิบัติตามแล้ว จะสวยงามสงบร่มเย็น สมชื่อสมนามว่าพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาองค์เอกโดยแท้ เรามาปฏิบัติขอให้มีชีวิตจิตใจอยู่กับศีล ศีลสมบัติ สมบัติของพระคือศีลสมบัติ สมาธิสมบัติ สมบัติของพระคือความสงบร่มเย็น จิตใจเป็นสมาธิ ความแน่นหนามั่นคง ปัญญาสมบัติ คือความเฉลียวฉลาดทางด้านปัญญา นี่ละสมบัติของพระ จำเอานะ สมบัติของพระที่พระพุทธเจ้าประทานให้ อย่าดีดอย่าดิ้นหากองมูตรกองคูถ ยศถาบรรดาศักดิ์ ถ้าดีดดิ้นอย่างนั้นยศถาบรรดาศักดิ์แทนที่จะมาเป็นเครื่องส่งเสริม เป็นเครื่องประดับพระ กลับมาเป็นเครื่องมาโปะพระให้สกปรกมากขึ้นนะ
ปัญญาสมบัติคือความเฉลียวฉลาดโดยความเป็นธรรมๆ ประดับพระ วิมุตติสมบัติ จากนั้นก็เป็นผลให้หลุดพ้น พอหลุดพ้นแล้วก็เป็นเครื่องประดับตัดสินใจเด็ดขาดได้เลยเป็น สนฺทิฏฺฐิโก ก็คือ วิมุตติญาณทัสสนะ เป็นผู้รู้แจ้งในความหลุดพ้นของตน นั่นซ้ำเข้าไปอีก พระเอาให้ได้นะ พระบวชมาตามหลักพุทธศาสนาแล้วพระองค์ก็สอนอย่างนี้ สอนเพื่อศีลสมบัติ สมาธิสมบัติ ปัญญาสมบัติ วิมุตติสมบัติ วิมุตติญาณทัสสนะสมบัติ นี่คือสมบัติของพระ
อย่าเป็นบ้ากับเรื่องภายนอก เดี๋ยวนี้ไปที่ไหนมีแต่กิเลสเต็มวัดเต็มวาเต็มพระเต็มเณร มองหาพระแทบไม่เห็น มีแต่เรื่องของกิเลสมาพอกเป็นดินเหนียวติดหัวบ้าง เป็นอะไรทุกอย่างมาประดับ กิเลสมันเร็วนะ มันขึ้นบนหัวพระหลงๆ น่ะ ดินเหนียวติดหัว ข้าเป็นชั้นนั้นชั้นนี้ ดูซิน่ะ มันเป็นบ้าไปหมดแล้วนะเดี๋ยวนี้พระเรา แล้วจะหาความสงบร่มเย็นอะไร ถ้าลงเป็นไปกับกิเลสร้อนทั้งนั้น ไม่ว่าฆราวาสญาติโยม ไม่ว่าพระเณรเรา จะหาความร่มเย็นเป็นสุขไม่ได้ถ้าดีดดิ้นไปตามกิเลส ถ้าผู้ปฏิบัติตามศีลตามธรรมพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนแล้ว พระก็สงบร่มเย็น ประชาชนก็รู้จักประมาณ การเป็นอยู่ปูวาย การประพฤติเนื้อประพฤติตัวมีขอบเขตเหตุผล หลักธรรมเป็นเครื่องป้องกันตัวย่อมมีความสงบร่มเย็น
พระไม่ต้องการอะไรละ อาหารการกินไม่มีใครยิ่งกว่าพระ บวชมาฝากชีวิตไว้กับญาติกับโยม ที่อยู่อาศัย ปัจจัยเครื่องอาศัยต่างๆ ประชาชนเขารับรองหมดไม่อดอยากขาดแคลน นอกจากเจ้าของจะลืมเนื้อลืมตัว กินอิ่มแล้วนอน กินอิ่มแล้วลืมเนื้อลืมตัวในความประพฤติของตนเองนี้มีเยอะนะ อย่าให้มีในวัดนี้ ให้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติจริงๆ ศาสนาจะไม่เหลือแล้วนะเวลานี้ ถูกเหยียบย่ำทำลายโดยเจตนาก็มี ไม่มีเจตนาก็มี ที่เป็นอยู่เวลานี้ พระพุทธศาสนากำลังถูกเหยียบย่ำทำลาย อันดับหนึ่งก็คือพระเณรของเรานั้นแหละ เหยียบย่ำทำลายอยู่ในตัวของมันๆ อย่างเปิดเผยโจ่งแจ้งบ้าง อย่างลี้ๆ ลับๆ บ้าง ศาสนากำลังถูกทำลาย
เมื่อศาสนาถูกทำลายก็เท่ากับทุกคนๆ ใครคิดอย่างนั้น ประพฤติตัวอย่างนั้นเป็นผู้ทำลายตัวเองทั้งนั้นแหละ เลอะเทอะไปหมดนะ จะไม่มีเหลือแล้วนะศาสนาเวลานี้ มองเห็นแต่ผ้าเหลืองๆ ความประพฤติอันเป็นสมบัติของพระชีวิตของพระ ไม่สนใจ มันดีดมันดิ้นกับกิเลสตัณหา เคยเห็นไหมกิเลสตัณหาพาใครให้ได้ดิบได้ดีมีไหม ไม่เห็นมี ดิ้นไปเท่าไรยิ่งเหมือนแหพันลิง เคยเห็นไหมแหพันลิง เหมือนกิเลสพันหัวพวกเราทั้งหลายนี่แหละดูเอา ไม่ต้องไปหาดูแหกับลิงพันกัน ให้ดูกิเลสกับคอเราพันกัน มันไม่รู้เนื้อรู้ตัวนะพวกนี้ เลอะเทอะ ถ้าไม่มีใครธรรมเข้าไปเป็นเครื่องกำกับไว้แล้ว ใครอย่าอวดเก่งนะ เก่งขนาดไหนก็เลวขนาดนั้นแหละ ถ้ามีธรรมแล้วสวยงามเป็นลำดับลำดา สงบร่มเย็น ไม่ว่าทางโลกทางธรรม ทางธรรมนี้เป็นธรรมล้วนๆ สำหรับพระ ตั้งใจประพฤติปฏิบัตินะ
เหลวแหลกๆ ไปทุกวันทุกเวลา หาที่หลบที่ซ่อนไม่ได้แหละ ประชาชนเขาเดือดร้อนวิ่งเข้ามาหาพระ พระก็เป็นพระแบบเดียวกัน ไปด้วยกันเลย หางกุดหางด้วนไปเลย เราดูซิวัดป่าบ้านตาดนี่ หมาหางกุดหางด้วนมีเยอะ เหมือนพวกเรานี่แหละหางกุดหางด้วนไปด้วยกัน กิเลสกัดหางกินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวต่อไประวังคอจะขาดนะ ไม่รู้ตัวตลอดเวลา อย่าเห่ออย่าเหิม อย่าดีดอย่าดิ้นเกินเหตุเกินผล นี้เป็นเครื่องล่อของกิเลสทำให้คนเสียหายล่มจม
ให้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม เสียงพระพุทธเจ้าเป็นเสียงมหามงคลต่อสามแดนโลกธาตุ เสียงกิเลสเป็นเสียงมหาภัย เต็มอยู่ทุกแห่งทุกหน โลกชอบแต่เสียงมหาภัยนี้แหละ ให้ระวังนะ ศาสนาก็มี เครื่องป้องกันตัวก็มี เครื่องส่งเสริมตัวให้ดีก็มี คือพุทธศาสนา ให้นำไปปฏิบัตินะ อย่าอยู่เฉยๆ กินเฉยๆ เห่อนั้นเห่อนี้เห่อหาอะไร เดี๋ยวนี้มันก็เป็นบ้าพอแล้ว แล้วยังเห่อหาบ้าที่ไหนอีก อยู่ในตัวของเรายังไม่พอเหรอ ยังไปเห่อหาบ้าที่ไหนอีก จำให้ดีนะ เอาละให้พร
หลังจังหัน
เมื่อวานฉันเสร็จแล้วไปโรงพยาบาลพรเจริญ ไกลนะ พอฉันเสร็จแล้วไปเลย ไปถึงโน้นให้เขาขนของลงปุบปับๆ แล้วออกเลย ไม่ลงนะเมื่อวานนี้ กลับมาถึงนี้บ่ายโมง แล้วทีนี้หนังสือที่เขามานิมนต์เราให้เป็นประธานงานศพอาจารย์เหรียญ มาข้องใจ ไม่ทราบว่ากาลใดเวลาใดที่จะไปเป็นประธานในงานนี้ เลยถือจดหมายออกมาถามพระ ก็เลยทราบว่าทางโน้นออกเดินทางแล้วตั้งแต่เวลาเท่านั้นๆ เลยแน่ใจว่าถึงแล้วตั้งแต่วานนี้ เราก็เลยออกจากนี้ไปงานศพท่านอาจารย์เหรียญ คนก็เยอะอยู่ ไปก็ไม่มีอะไรแหละ ขึ้นไปกราบศพท่านแล้วก็พูดกับพระเณรและประชาชนเล็กน้อย
เทศน์เมื่อวานไม่ออกไหนนะ เทศน์หน้าหีบศพท่านอาจารย์เหรียญนั่นแหละ พูดเคาะกระเป๋าโน้นเคาะกระเป๋านี้ ไม่เทศน์เรื่องอะไรมีแต่เรื่องเคาะกระเป๋านั้นกระเป๋านี้ ได้เงินหนึ่งแสนสองหมื่นหกพัน นี่ละกัณฑ์เทศน์เราว่า คือเราเทศน์เคาะกระเป๋า เขาให้มาเรียกว่ากัณฑ์เทศน์ กลับมาพอดีมืดเมื่อวานนี้นะ คนก็มากอยู่ เรียกว่าเมื่อวานไม่ได้พักเลย
ส่วนงานศพที่คนยั้วเยี้ยๆ นั้นมันได้ระลึกเอางานศพมาเป็นคติเครื่องเตือนใจหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ มันไม่ค่อยคิดนะ ไปก็ไปอย่างนั้นละ ไม่ได้ไปเพื่อความเป็นธรรมสำหรับตัวเอง ไปงานศพนั้นเพื่อปลงอนิจจัง เช่นอย่างชักผ้าบังสุกุลนี้ก็ว่า อนิจฺจา วต สงฺขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปๆ ที่แดนเกษมก็คือว่า เตสํ วูปสโม สุโข นั่นละความสงบอันราบคาบ เมื่อพิจารณาอันนี้ให้เสร็จสิ้นลงไปภายในจิตใจแล้ว ใจก็ดีดผึงเลย ท่านพูดของท่านมีเหตุผลอนิจจา ให้ไปชักบังสุกุล เรามันไปหาชักเอาแต่ผ้าแต่อะไรๆ มา เขาเอาอะไรให้เอาหมด ได้เท่านั้นพอ ไม่ได้สนใจว่าอนิจจาคืออะไร ไปแต่อย่างนั้นแหละ
อย่างไปในงานศพมันเป็นโลกไปหมดว่างั้นเลย พูดอย่างนี้เราก็ระลึกได้ที่ไปเทศน์วัดธาตุทอง ไม่มีใครเทศน์ คือไปมันฟังไม่ได้เลย มองปากไหนๆ หูไหนๆ จ่อใส่กัน คุย พระสวดอะไรไม่สนใจเลยนะ เราไปนั่งถึงเวลาจะเทศน์ นั่งดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่วัดธาตุทอง ลูกศิษย์นั่นละเขานิมนต์ไปเทศน์ในงานศพ ไปไม่มีอะไรนะ ได้เรื่องราวอะไรมาระบายต่อกัน เป็นตลาดน้ำลายที่ในงานศพแต่ละศพๆ เมืองใหญ่เช่นกรุงเทพเป็นต้น พูดให้ตรงศัพท์ตรงแสงซิ ก็เราไปเห็นด้วยตาเนื้อของเรานี้ มีแต่เรื่องกองทุกข์กองอะไรมาระบายต่อกัน พระท่านมาสวดอะไรต่ออะไรไม่สนใจฟัง เราก็ดูอยู่งั้น อ๋อ มาแบบนี้กัน ไม่ได้เรื่องอะไร
ทีนี้เวลาเราขึ้นเทศน์มันก็จะเอาแบบนั้นมาใช้ละที่นี่ แบบนี้มันไม่ใช่แบบนั้น พอขึ้นเทศน์ไปๆ ก็ใส่เสียเปรี้ยงเลยทีเดียว ตีกระจายไปหมดแถวนั้น แหลกไปหมด เงียบเลยที่นี่ เสียงเทศน์นี่ขึ้นอย่างเต็มเหนี่ยวๆ เขาก็จะได้ยินคราวนั้นแหละ ว่ามีพระจากไหนมาขึ้นธรรมาสน์ เขาไม่เคยคาดเคยคิดเขาก็ไม่ได้ระวังตัวละซิใช่ไหม นี่ก็เปรี้ยงออกเลย เพราะสั่งสมไว้หมดด้วยสายหูสายตา ความรู้สึกทุกอย่างมันวิ่งถึงหมดแล้วนั่น
จากนั้นมาก็เทศน์ เทศน์มันก็เอานั้นออกมาต่อสู้กับคำเทศน์ของเรา เราก็ใส่นิวเคลียร์นิวตรอนให้ เงียบหมดเลยนะ ก็คงจะมีวันนั้นละที่ศพวัดธาตุทอง เทศน์ในงานศพวัดธาตุทองก็มีวันนั้นละที่เงียบที่สุด เปรี้ยงที่สุดก็มีวันนั้นเท่านั้น นอกนั้นคงไม่มีที่ไหน เราก็ไปเทศน์วัดธาตุทองหนเดียวเท่านั้น ได้เห็นเรื่องราวมา มันเป็นอย่างนั้นนะ มันไม่ได้มีอรรถมีธรรมในใจอะไรเลย
ท่านว่า อนิจฺจา วต สงฺขารา อุปฺปาทวยธมฺมิโน
อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ เตสํ วูปสโม สุโข
สพฺเพ สตฺตา มรนฺติ จ มรึสุ จ มริสฺสเร
ตเถวาหํ มริสฺสามิ นตฺถิ เม เอตฺถ สํสโย.
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดขึ้นมาแล้วดับไป เจริญขึ้นเสื่อม เกิดขึ้นมาแล้วดับไป เตสํ วูปสโม สุโข ความระงับดับสังขารตัวสมุทัยที่พาให้เกิดให้ตายไม่หยุดไม่ถอยนี้เสียเท่านั้น เตสํ วูปสโม สุโข นั้นคือความสงบอันยิ่งใหญ่ ถ้าพิจารณาปลงตกนี้แล้ว เตสํ วูปสโม สุโข เป็นความสุขอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณานี้แล้วปล่อยหมด ดีดไปได้เลย ท่านแสดงตั้งแต่ต้นถึงที่สุดธรรมเลย เป็นอย่างนั้นละ แต่อนิจจาทุกวันนี้มีแต่อนิจจาไปหากินข้าวต้มขนมเขาไปอย่างนั้น มันไม่มีละธรรมในใจน่ะ ไม่ว่าเขาว่าเราเป็นแบบเดียวกัน กิเลสเหยียบหมด ทับหมดๆ จึงได้แหวกกิเลสออกดูเรื่องดูราว มันไม่มีธรรมนะ แล้วจะไม่ให้พระพุทธเจ้าอ่อนใจได้ยังไงก็มันหนาแน่นขนาดนั้น ธรรมที่จะแหวกออกมาไม่มีช่องทางออก มีตั้งแต่กิเลสหนาแน่นยิ่งกว่าภูเขาทั้งลูก น่าสลดสังเวชนะ
ใจนี้เวลาเปิดออกแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่ว่านะ เหยียบมูตรเหยียบคูถออกจ้าขึ้นมานี้เห็นหมดว่าไง ต่างกันนะ ใจพระพุทธเจ้า ใจสาวกอรหันต์ท่าน ไม่ได้เหมือนใจพวกเราๆ ท่านๆ ที่มีแต่มูตรแต่คูถครอบไว้หมด หาใจแท้ไม่เห็น มูตรคูถก็คือขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง อยู่ในนั้นมันครอบเอาไว้ไม่ให้เห็น พอเปิดนี้ออกมันก็จ้าออกๆ เปิดออกหมดจ้าเลย พระพุทธเจ้าจึงท้อพระทัยละซิ
วันนี้ไม่ได้เทศน์อะไรละ เทศน์แต่อนิจจานี้ก็พอแล้ว ให้เป็นคติเครื่องเตือนใจ ธรรมะเดี๋ยวนี้จะไม่มีทางออกได้แหละ ถูกกิเลสปิดๆ หมดเลย ในวัด นอกวัดนอกวา พระเณร เหมือนกันหมดเลย ธรรมะไม่มีทางออกได้ กลายเป็นเรื่องกิเลสเสียทั้งหมดเลย ให้ใจเบิกออกจากนี้มันจึงได้เห็นกันชัดเจน ถ้าเบิกไม่ได้เมื่อไรก็หมอบอยู่ตลอดเวลา
เมื่อวานนี้มา ๖ โรง โรงพยาบาลมาเมื่อวานนี้ ๖ โรง อย่างนั้นแหละ โกดังใหญ่ๆ นี่เต็มนะ เอาของมาไว้สำหรับโรงพยาบาล ไม่ว่าที่ไหนมาได้ทั้งนั้นๆ เมื่อวานนี้ ๖ โรง ไม่ใช่เล่นๆ วันละ ๓ โรง ๔ โรงเป็นธรรมดา วันละ ๖-๗ โรงนี้มีน้อย แต่สูงสุด ๙ โรง ไม่ถึง ๑๐ ถึง ๙ โรงก็มีวันหนึ่งๆ แจกให้หมดเลย ของนี่สั่งมาไว้เต็มโกดังๆ ตลอดไม่ให้บกพร่อง อันใดที่จำเป็นๆ ให้ได้ครบทุกอย่าง แจกเสมอกันหมด เป็นสองพัก พักที่พิเศษก็มี จังหวัดที่ไกลเรากำหนดเอาไว้ เช่น อุบล โคราช อุตรดิตถ์ นี้เรียกว่าให้พิเศษๆ พิเศษก็เสมอกันหมดเหมือนกัน ที่ไกลกว่านั้นไปอีกไม่ต้องพูด เรียกว่าพิเศษทั้งนั้นเลยถ้ามา เช่นอย่างว่าตาก บางทีมีมา จังหวัดไหนไกลๆ มีมาให้เป็นพิเศษๆ ทั้งนั้น
เวลาจะไปเติมน้ำมันให้ ปั๊มน้ำมันมีสำหรับเติมน้ำมัน วันหนึ่งเห็นเขาบรรทุกน้ำมันใส่ถังใหญ่ๆ มาเต็มรถเอี๊ยดเลย อู๊ย มันอะไรมากมายนัก บอกว่าถังน้ำมัน น้ำมันอะไร น้ำมันที่ปั๊มเรานี้แหละ แล้วก็เลยไปสัมผัส เอ้อ เดือนหนึ่งมันหมดสักเท่าไรเติมน้ำมันนี่ ห้าแสนกว่าว่างั้น โอ้โห ขนาดนั้นเชียวเหรอ เดือนละห้าแสนกว่า เติมน้ำมันไม่ว่ามาใกล้มาไกล เติมน้ำมันให้เต็มทุกคันๆ
เราพยายามเต็มที่แล้วกับที่เราช่วยโลก ช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราไม่เอาอะไรนะ ไม่มีที่เราจะเอา ไม่มีเลย มีแต่ให้ แบมือตลอด แบตลอดเลย ไปที่ไหนเหมือนกันที่จะไปเอามาไม่มี ไปให้ๆ ทั้งนั้น มันเป็นอันหนึ่งของจิต ถ้าได้ทำอย่างนั้นมันก็โล่งของมันไปสบาย พวกตระหนี่ถี่เหนียวนี่เป็นก้างขวางคอของธรรมนะ ความตระหนี่ถี่เหนียว ความเห็นแก่ได้เห็นแก่เอา เอารัดเอาเปรียบ เป็นก้างขวางคอๆ แห่งธรรมทั้งหลาย ธรรมก้าวไม่ออก
ถ้าใครมีก้างแบบนี้ติดๆ แล้วโลกนี้เป็นโลกที่เป็นฟืนเป็นไฟ หาความสุขความสบายให้สมกับว่ามนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากนั้นไม่มีเลย ถ้ามนุษย์เราต่างคนต่างมีน้ำใจด้วยกัน ไม่ว่ามากว่าน้อยแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะลงราบเพื่อความสงบเย็นใจต่อกันหมดเลยธรรม ถ้าให้กิเลสเข้าไปตรงไหน คนนั้นสูงคนนี้ต่ำ คนนั้นมีคนนี้จน เหยียบย่ำทำลายกัน ดูถูกเหยียดหยามกัน นี้คือกิเลสชอบเหยียบเขา ยกตัวขึ้น คือกิเลส ถ้าธรรมแล้วเสมอหมดเลย ไม่มีผู้สูงผู้ต่ำ สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น ราบไปหมด ใจเขาใจเราเหมือนกัน เขาเราเหมือนกัน หวังพึ่งซึ่งกันและกันเหมือนกันหมด เมื่อเป็นเช่นนั้นจิตใจก็เฉลี่ยกันออก ใครมีมากมีน้อยช่วยเหลือกันเต็มกำลังความสามารถ ไปไหนสนิทกันไปได้หมด ไม่ว่าใกล้ว่าไกลว่าบ้านนอกที่ไหนสนิทกันได้หมด
ถ้าธรรมไปไหนประสานๆ ถ้ากิเลสไปไหนตีออก ตีให้แตกให้แยกทำลาย เผานั้นเผานี้ไป อย่างนั้นนะ ต่างกัน โลกชอบแบบเผานั้นเผานี้ เย่อหยิ่งจองหองพองตัว ถ้าธรรมมีที่ไหนก็ดีอย่างนั้นละ วันนี้ไม่พูดอะไรมากละนะ พอสมควร เอาละที่นี่จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |