ธรรมมีแต่จริงล้วนๆ
วันที่ 29 พฤษภาคม 2548 เวลา 8:00 น. ความยาว 55.27 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

ธรรมมีแต่จริงล้วนๆ

 

         เมื่อวานนี้งานที่โรงพยาบาลโนนสะอาด ธรรมลีเป็นหัวหน้าในงานนี้ ทองคำได้ ๒๐ กิโล ๕๕ บาท ๗๘ สตางค์ ดอลลาร์ ๔๖๖ ดอลล์ เงินไทยได้ ๗๖๗,๕๘๐ บาท งานเมื่อวานนี้ ทองคำที่ได้รับหลังจากมอบคลังหลวงเรียบร้อยแล้ว เป็นทองคำประเภทซึมซาบ เวลานี้ได้ ๑๒๑ กิโล ๖๖ สตางค์ จะต่อไปเรื่อยๆ นะ กรุณาทราบไว้ทั่วกัน เมืองไทยเราหัวใจอยู่กับทองคำ เราพิจารณาเรียบร้อยแล้วถึงได้ออกประกาศขอบิณฑบาตออดอ้อนกับบรรดาพี่น้องทั้งหลาย ให้ต่อหางทองคำเรา ทองคำเราเวลานี้มีแต่ตัว หางยังไม่มี หางพึ่งงอกมานิดๆ หน่อยๆ นี่งอกได้เยอะแล้วหาง หางทองคำงอกได้ ๑๒๑ กิโลแล้ว เอาให้มันงอกยาวๆ ไปหน่อย เสริมทองคำส่วนใหญ่ เราวิตกวิจารณ์ ในโอกาสที่เหมาะสมซึ่งควรจะได้ทองคำในคราวนี้ เราอยากจะได้ๆ ถ้าหยุดจากนี้แล้วไม่ได้นะ มันเป็นวรรคเป็นตอน จะมาตั้งขึ้นปุ๊บนี่ก็แสลงตาแสลงใจได้นะ อันนี้ไม่แสลง ตั้งแต่เริ่มแรกช่วยชาติของเรามา ส่วนใหญ่แล้วย่อยลงมาๆ เป็นตนเป็นตัวแล้วก็ลงมาหาง หางทองคำ ได้ ๑๒๑ กิโล ๖๖ สตางค์ จะพยายามให้ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ถ้าเลยจากนี้แล้วจะไม่มีโอกาสได้นะ

คือเวลาเราจะตั้งขึ้นนี่ต้องมีเหตุมีผลที่พอเหมาะพอสมสังคมยอมรับกัน นี่ก็สังคมเมืองไทยของเรายอมรับแล้วว่าการช่วยชาติ มีหัวหน้าช่วย นี่สวยงามแล้ว เราก็ได้มาเป็นชิ้นเป็นอัน ทีนี้ทองคำเรายังขาด แม้จะได้มากพอสมควรที่ได้มอบแล้วก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ของทองคำเรายังขาดอยู่มาก แล้วพยายามต่อหาง มันก็มีเหตุมีผลของมันไป ต่อหางทองคำให้ยาวขึ้น ฟาดจากนี้ยาวถึงเมืองอุดรข้ามแม่น้ำโขง นี่หางอะไรยาวๆ หางทองคำ ก็ว่าอย่างนั้นซี เขาถาม หางทองคำมาจากไหน มาจากทุกคน ใครไม่มีอันนี้คนนั้นหางด้วน ใครมีทองคำคนนั้นมีหาง เข้าใจไหม ต่อเรื่อยอย่างนี้แหละ ให้ได้เรื่อยๆ คือมันเป็นโอกาส เป็นจังหวะ ถ้าไม่ใช่โอกาสก็ไม่เหมาะ ต้องเป็นโอกาสเป็นจังหวะ นี้ยังเป็นโอกาส เป็นจังหวะที่เหมาะสมอยู่กับที่เราจะพยายามขวนขวายทองคำเพิ่มเติมเข้าสู่คลังหลวงของเรา เรียกว่าทองคำประเภทซึมซาบ ให้ค่อยไหลเข้าๆ เข้าสู่ส่วนใหญ่ เพราะทองคำในคลังหลวงของเรายังขาดอยู่มาก

อะไรก็ตามถ้าลงเราไปเห็นเองแล้วพูดได้เต็มปากๆ อย่างทองคำนี่เราไปดูเอง เราจึงพูดได้เต็มปาก เหตุที่จะดูก็คือว่า วันนั้นไปมอบทองคำกับดอลลาร์เข้าสู่คลังหลวงธนาคารชาติเรา พอเสร็จแล้วหัวหน้ามานิมนต์เราให้เข้าไปดูทองคำ นั่นเห็นไหมล่ะ ก็เราไปมอบทองคำวันนั้นมันก็มีสายเกี่ยวโยงกันไป คงมีหวังว่างั้นเถอะน่ะ จึงนิมนต์เราไปดูทองคำในคลังหลวง พอเข้าไปแล้วก็มีจริงๆ จึงประกาศป้างตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งบัดนี้ยังไม่ถอยทองคำนะ นี่เห็นไหมล่ะมันมีเหตุมีผลของมันมาอย่างนี้ละ

(คณะลูกศิษย์บุรีรัมย์กราบถวายสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน จ.บุรีรัมย์ แด่หลวงตา) เออ พอใจ เวลานี้สถานีต่างๆ กำลังกระจายไปทั่วทุกภาคเดี๋ยวนี้ กำลังออกทุกภาค

(ลูกศิษย์         พรุ่งนี้จะไม่อยู่ ติดประชุม เลยรีบมาถวายวันนี้ค่ะ) เออ ดีแล้ว มาเสียวันนี้ ว่างเวลาไหนมาเวลานั้น ฉวยโอกาสเอาบุญเอากุศลความดีงามของเรา ให้เอาเวลานี้นะ ที่จะคอยให้กิเลสให้โอกาสไม่มีทาง อย่าหวัง กิเลสปิดกั้นตลอดเวลา ธรรมะต้องแยกออก แทรกออกๆ พอได้ช่องไหนออกช่องนั้นๆ เบิกกว้างออกแล้วตีกิเลสแหลกไปเลย เป็นอย่างนั้นละ

พระ                 กราบเรียนถามปัญหาธรรมะครับ จิตที่เป็นผู้รู้อยู่ ผมดูมันอารมณ์บางครั้งก็รุนแรง อารมณ์สัญญาเก่าๆ มันรุนแรงเลยไม่เห็นจิตที่แท้จริงได้ เลยอยากจะปรึกษาว่าจะพิจารณายังไง

หลวงตา       อารมณ์รุนแรง ต้นเหตุมาจากอะไร มันเบาหรือรุนแรงขึ้นเป็นเพราะสาเหตุอะไร

พระ            สัญญาเก่าๆ ครับ มันปรุงมันแต่งอยู่อย่างนั้น

หลวงตา       ยังจับต้นเหตุไม่ได้ อารมณ์รุนแรง รุนแรงอยู่ในขั้นใด มันมีหลายขั้นของธรรม ขั้นวัตถุ ขั้นกามกิเลสนี้รุนแรง ยอมรับรุนแรงมาก(จะต้องพิจารณาหรือปล่อยไปตามสภาพของเขาครับ) เรื่องอสุภะเป็นเครื่องปราบอันนี้ก็พูดแล้วนี่ จะให้ว่าอะไรอีก ต้องพิจารณาอสุภะเอาให้แหลกแตกกระจายเลยนะ ขั้นนี้เป็นขั้นชุลมุน นักปฏิบัติจะทราบบนเวทีของเจ้าของเอง ขั้นนี้เป็นขั้นที่รุนแรงมากที่สุด ในสามแดนโลกธาตุไม่มีขั้นใดที่จะรุนแรงมากยิ่งกว่าขั้นกิเลสกามราคะ อันนี้รุนแรงมาก ดึงสัตว์โลกลง ไม่มีใครพ้นไปได้เลย ขั้นนี้เป็นขั้นที่รุนแรง ชุลมุน ถ้าเป็นนักมวยก็ซัดวงในกันเลย กรรมการมายุ่งไม่ได้ ต่อยกันอย่างเต็มเหนี่ยวๆ

หลังจากนั้นมาแล้วก็เป็นสติปัญญาอัตโนมัติ ฝึกซ้อมอันนี้ที่สอบได้ขั้นภูมิแล้ว ฝึกซ้อมให้ละเอียดลออเข้าไป ก้าวขึ้นเรื่อยๆ เป็นสติปัญญาอัตโนมัติ ตอนชุลมุนวุ่นวาย อารมณ์รุนแรง ให้ใช้อสุภะให้มาก นั่งอยู่ ยืนอยู่ เดินอยู่ เวลาไหนก็ตาม ฟัดให้มันแหลกแตกกระจาย เข้าใจเหรอ เอาเท่านั้นละไม่ต้องพูดมาก อันนี้รุนแรง พออันนี้สงบแล้วเป็นสติปัญญาอัตโนมัติ ก้าวเรื่อยๆ ทีนี้ไม่ลง ขึ้นเรื่อยๆ ตัวนี้ดึงลง ให้ขึ้นเวทีถึงรู้กันนักปฏิบัติ ถ้าไม่ขึ้นเวที เอาคัมภีร์มาอ่านก็เป็นหนอนแทะกระดาษไปอย่างนั้น ไม่เกิดประโยชน์อะไร ดึงจากคัมภีร์ออกมาเข้ามากางในตัวเอง ธรรมภาคปฏิบัติซัดกันลงตรงนี้จะเห็นผลขึ้นมา รับกันกับคัมภีร์ที่ท่านสอนไว้ๆ

         (ถวายสร้างเจดีย์วัดอโศฯสองแสนบาทค่ะ) ให้แยกไว้เป็นพิเศษ ให้แน่นอนนะอย่ามาสุ่มสี่สุ่มห้ากับเรา ว่าอะไรเป็นอันนั้น แยกทันทีๆ ไม่ให้คละเคล้ากัน ทางวัดอโศฯก็อยู่ในหัวอกของเราเหมือนกันนะ ไม่ใช่เล่นๆ หนักมากอยู่วัดอโศฯ เวลานี้ก็ได้ช่วยไปแล้ว ๙ ล้านกว่า หนุนไปทางวัดอโศฯ หนุนไปทางนู้นหนุนไปทางนี้เงินในวัดนี้นะ จึงไม่มีเงินติดเนื้อติดตัว หนุนลงทางนั้นหนุนลงทางนี้ ทางวัดอโศฯก็บอกไปเลย เอา ครูบาอาจารย์ทั้งหลายอยู่ที่นี่หมด เราลงใจจุดนี้นะ เพราะฉะนั้นเราจึงสละปึ๋งเข้าไปเลย ครูบาอาจารย์ที่เป็นเพชรน้ำหนึ่งๆ เวลาสร้างเจดีย์นี้จะอาราธนาท่านมารวมอยู่ในจุดเดียวกันหมด ให้เป็นที่กราบไหว้ของประชาชนในสมัยปัจจุบันว่า เป็นยังไงมีพระอรหันต์ไหม พูดง่ายๆ ว่างั้น ถ้าลงอัฐิของท่านได้กลายเป็นพระธาตุตีตราแล้ว ไม่มีใครรับรองก็ตาม อัฐิกลายเป็นพระธาตุนั้นตีตราแล้ว เรียกว่า สนฺทิฏฺฐิโก อันนี้แน่นอนๆ

         นี่เราได้พยายามเต็มกำลัง บอกท่านทอง เอาๆ ไปเลย อย่าให้หยุด หัวใจของชาติไทยเรายังไม่ขาดดิ้นไม่ถอย บอก เอาเจดีย์นี้ขึ้นให้ได้ เขาจะได้กราบไหว้ครูบาอาจารย์สมัยปัจจุบันคือเพชรน้ำหนึ่งๆ ในเจดีย์หลังนี้ เราบอกอย่างนั้นเลยละ เพราะฉะนั้นจึงเอากันหนัก บอกว่าไม่หยุด เงินจะขาดเหลือเท่าไร เอา บอกมา เราจะค่อยพิจารณาเต็มกำลังความสามารถของเรา เราว่าอย่างนั้น เพราะฉะนั้นงานนี้จึงไม่ให้หยุดว่าขาดเงิน จะเอาให้ได้ทันที งานต่อกันเรื่อยๆ ไม่ให้ขาด นี่สั่งเรียบร้อยแล้ว

         เวลานี้ขาดเงินอยู่เท่าไรล้าน เท่าไรล้านช่างมันเถอะ เจดีย์สำเร็จเท่านั้นละเป็นจุดหมาย ถ้าเจดีย์ไม่สำเร็จจะกี่ล้านก็มา ไม่ถอย จะลากเข้ามานี้หมดเลย เราว่างั้นละ เราเคารพมากครูบาอาจารย์ทั้งหลาย มีแต่ครูบาอาจารย์เพชรน้ำหนึ่งทั้งนั้นนะ เราสั่งแล้วให้อาราธนาพระธาตุของครูบาอาจารย์สมัยปัจจุบัน นับตั้งแต่หลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่นลงมา ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุๆ อาราธนารวมมาที่เดียวกันหมด ให้เมืองไทยของเราในสมัยยุคปัจจุบันนี้ให้ได้เห็น พระอรหันต์ยุคปัจจุบันสดๆ ร้อนๆ ที่เจดีย์วัดอโศการาม นั่นละเรามุ่งอย่างนี้ เพราะฉะนั้นจึงเอาให้หนักมือเชียว ในสมัยปัจจุบันให้ได้เจดีย์อันสง่างาม พระอรหันต์สดๆ ร้อนๆ ในปัจจุบันขึ้นให้พี่น้องชาวไทยเราได้กราบไหว้บูชา จุดศูนย์กลางคือวัดอโศการาม นี่ละเราจึงได้ตั้งหน้าตั้งตาเอาอย่างจริงจัง เพราะพิจารณารวบรวมเหตุผลกลไกทุกอย่าง ลงแล้ว เลขลงตัวแล้วจึงว่าถอยไม่ได้เลย เอาให้เต็มเหนี่ยว

         นี่ครูบาอาจารย์ที่อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุน้อยเมื่อไร นี่ละภาคปฏิบัติเห็นได้อย่างชัดเจน ให้กิเลสมาเห่าว้อๆ เอาขี้มาโปะธรรม มาโปะธรรม ธรรมอยู่ในใจเลยมุดมอดไปหมด ไม่มีธรรมเหลือภายในใจ ให้กิเลสมาหลอก ศาสนาหมดยุคหมดสมัย บาปก็ไม่มี บุญก็ไม่มี นรกก็ไม่มี สวรรค์ไม่มี มรรคผลนิพพานไม่มี ใครจะทำบุญให้ทานเท่าไร มรรคผลนิพพานไม่มี นี้คือกิเลสหลอกสัตว์โลกให้จมดิ่งอยู่ในวัฏวนนี้มากี่กัปกี่กัลป์แล้ว ธรรมะมีแต่ลากขึ้นๆๆ โดยถ่ายเดียว ไม่มีหลอกใคร ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่หลอกใคร สดๆ ร้อนๆ

         นี่ก็ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายเรานับเอาเฉพาะสมัยปัจจุบันนี้คือ หลวงปู่มั่น-หลวงปู่เสาร์มา แล้วอัฐิของครูบาอาจารย์ที่ท่านล่วงลับไปแล้วอัฐิกลายเป็นพระธาตุตั้ง ๒๐ กว่าองค์แล้วนะ เวลานี้ไม่ใช่น้อยๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็มีเวลานี้ พูดให้มันชัดเสียนะ อยู่ในป่าในเขาท่านทรงธรรมประเภทนี้ไว้มีน้อยเมื่อไร เฉพาะอย่างยิ่งกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น อยู่ตามป่าตามเขาท่านตักตวงธรรมะ มรรคผลนิพพานอยู่อย่างเงียบๆ เวลามาคุยกันนี้ กี่ชั่วโมงลืมเวลา เพลินในธรรมทั้งหลาย องค์นี้รู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ เห็นอย่างนั้นๆ องค์นี้รู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ เห็นอย่างนั้น มารวมกันแล้วเป็นกำลังใจ เพราะฉะนั้นเวล่ำเวลาจึงลืมไป คุยกันไม่ทราบกี่ชั่วโมง มีแต่ธรรมะล้วนๆ โลกไม่มีแม้เปอร์เซ็นต์เดียว มีแต่ธรรมล้วนๆ

         นี่ละธรรมออกสนามบนหัวใจผู้ปฏิบัติ กระจายออกไปสู่หัวใจประชาชน ได้รับความสงบร่มเย็นจากกระแสธรรมที่ท่านปฏิบัตินำมาสั่งสอนพวกเรา ให้พากันตั้งอกตั้งใจนะ ธรรมะพระพุทธเจ้าสดๆ ร้อนๆ สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม ตรัสไว้ชอบแล้วทุกแง่ทุกมุมในธรรมทุกขั้น ไม่มีคลาดเคลื่อนเลย ให้ยึดอันนี้เป็นหลัก กิเลสออกแง่ไหนๆ มีแต่หลอกทั้งนั้น หลอกตั้งแต่โคตรแซ่ของกิเลสลงมา มีแต่โคตรแซ่หรือสกุลที่หลอกลวงสัตว์โลกทั้งนั้น ส่วนธรรมแล้วมีแต่จริงล้วนๆ ให้ยึดอันนี้เป็นหลัก

         พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ เท่านั้นกระเทือนโลกแล้ว แต่เรามันไม่ได้ว่า พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ กระเทือนโลกซิ ไอ้กิเลสนี้มันกระเทือนหัวใจเราทุกคน เราไม่รู้ตัวนะ ไม่รู้ตัวว่าเราถือกิเลสเป็นสรณํ คจฺฉามิ วันนี้เหนื่อยมากสรณํ คจฺฉามิ  พักผ่อนสักหน่อยสรณํ คจฺฉามิ  จะไปวัดไปวา โอ๊ยวันนี้ไม่มีโอกาสสรณํ คจฺฉามิ จะไปทำบุญให้ทาน โอ๊ยวันนี้มีน้อยมากทีเดียวสรณํ คจฺฉามิ กิเลสเอาไปกินหมด สรณํ คจฺฉามิของกิเลส เข้าใจเหรอ เป็นอย่างนั้นละพวกเรา ไอ้สรณํ คจฺฉามิเงียบๆ นี้มันกินตลอดนะ สรณํ คจฺฉามิอย่างเปิดเผยนี้มีนิดหน่อยเท่านั้นละ ทั้งๆ ที่ว่าสรณํ คจฺฉามิของพระพุทธเจ้าแต่จิตมันหยั่งใส่หมอน กิเลสร่ายมนต์อยู่หมอน มาทางนี้ก็ล้มตูมเสียงหมอนแตกดังตูมตาม

         พระอรหันต์อยู่ในปัจจุบันนี้มีน้อยเมื่อไร ท่านไม่ได้โฆษณา ท่านไม่พูด ท่านไม่คุย ท่านปฏิบัติอยู่ในป่าในเขา ตักตวงเอามรรคผลนิพพาน เวลามาถึงกันนั้นละชัดเจน วงปฏิบัติจะถึงกันได้อย่างละเอียดลออมาก ในวงปฏิบัติด้วยกันคือพระกรรมฐานด้วยกัน เข้าหากันแล้วคุยกันนี้รู้เรื่องละเอียดลออของมรรคของผล ของแต่ละองค์ๆ ที่ได้ปฏิบัติตนได้ผลประจักษ์ออกมาแสดงต่อกัน เพราะฉะนั้นเวลาท่านคุยกันนี้หลายชั่วโมง  ลืมวันลืมคืน เพลินในอรรถในธรรมไป นี่ละออกจากนี้ท่านก็เป็นกำลังใจของกันและกันนะเวลามาคุยกันแล้ว ต่างองค์ต่างขะมักเขม้น บืนแล้วก็สำเร็จมาเรื่อยๆ

         ในปัจจุบันนี้ผู้ที่สำเร็จมรรคสำเร็จผล ในวงกรรมฐานสายพ่อแม่ครูจารย์มั่นน้อยเมื่อไร ยังมีชีวิตอยู่นั้นแหละ แต่ท่านไม่แสดงตัว เฉย นอกจากมีโอกาสที่จะแสดงบ้างในพวกเดียวกันคณะเดียวกันก็แย็บออกๆ พอเป็นหลักใจของกันและกัน ที่เป็นบ้าอยู่เวลานี้ ปากเปราะก็คือมีหลวงตาบัวองค์เดียว ในวงสายพ่อแม่ครูจารย์มั่นพูดตรงๆ เลย มีหลวงตาบัวองค์เดียวปากเปราะมากที่สุดเลย ฟาดทั่วประเทศไทย ดีไม่ดีออกทั่วโลก แต่ก่อนก็ไม่ออก แต่ก่อนออกออกที่ศาลานี่เท่านั้น เทศนาว่าการสอนพระมีแต่แกงหม้อเล็กหม้อจิ๋วบนศาลานี่ ผึงๆๆ

         เทปเหล่านี้ละที่ได้แจกไปทั่วประเทศไทย บรรดาวงกรรมฐานวัดป่าอยู่ที่ไหนๆ ออกหมดนะ เทปที่เทศน์วัดป่าบ้านตาดออกไปทั่วถึงกันหมดทุกภาค เงียบๆ นะ จนกว่าว่าเราได้ออกมาช่วยชาติบ้านเมือง เทศนาว่าการก็เลยกลายเป็นเรื่องปากเปราะฟาดเสียเปรี้ยงๆ ไปเลย เราก็พิจารณาสมควรแก่เหตุ เพราะเหตุไร เพราะเราไม่ได้แสดงด้วยความโอ้อวด ไม่ได้แสดงด้วยแบบโลกๆ สงสารเขาเป็นกัน เราไม่มีอย่างนั้น มีแต่ความเมตตาล้วนๆ ที่เมืองไทยเราจะล่มจมต่อหน้าต่อตา อะไรจะฉุดลากเมืองไทยขึ้นได้ ถ้าธรรมะฉุดไม่ได้แล้วไม่มีอะไรฉุดได้ในโลกอันนี้

         พระพุทธเจ้าฉุดลากสัตว์โลกขึ้นจากทุกข์ได้เพราะธรรมของพระพุทธเจ้า ทำไมธรรมพระพุทธเจ้ามาฉุดลากสัตว์โลก เฉพาะอย่างยิ่งเมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธ นับถือพุทธศาสนามาดั้งเดิม จะไม่ฟังเสียงครูเสียงอาจารย์เชียวเหรอ  เอ้า จะเป็นผู้นำ เห็นไหมทีนี้ก็ออก ออกก็สมมักสมหมาย พี่น้องชาวไทยเราได้ชมเชยตลอดมา ไม่ว่าท่านผู้ใดคนทุกข์คนจนคนมีสละออกมาจากความรักชอบของตัวเอง สงวนของตัวเองในปัจจัยทั้งหลายที่มีเอาออกมาๆ รวมแล้วทองคำได้ตั้ง ๑๑ ตันกว่า นั่นเห็นไหมล่ะ เป็นน้ำใจของพี่น้องชาวไทยเราที่แสดงตัวออกมาในเวลาคับขัน ช่วยตัวเองด้วยทองคำ

         จากนั้นก็ดอลลาร์ อย่างน้อยที่เข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ ๑๐ ล้านกว่า นอกจากนี้ที่เป็นเงินไทยกระจายทั่วประเทศไทย ไปที่ไหนเห็นแต่สิ่งก่อสร้างเต็มบ้านเต็มเมือง อย่างที่ไปโนนสะอาดเห็นไหมเมื่อวาน ตึกใหญ่ๆ นั่น ๒๒ ล้าน อีกหลังหนึ่ง ๘ ล้าน ทำเสร็จ หลังนั้นขึ้นหลังนี้มาพร้อมกัน เลยกลายเป็นเรื่องฉลองตึกเมื่อวานนี้นะ ๓๐ ล้าน เงินสดออกอย่างนี้ละ เรียกว่าเราภูมิใจที่สุด หรือจะหาใครมาแข่งก็บอกได้เลย เราพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจของเรา ว่าใจนี้บริสุทธิ์สุดส่วนที่ได้ช่วยพี่น้องทั้งหลาย ไม่มีแม้หินเม็ดทรายที่เราได้ระแคะระคายในตัวเองว่ามุบมิบ หรือมัวหมอง ได้หยิบเอาสมบัติพี่น้องทั้งหลายเท่านั้นเท่านี้มาเป็นเรื่องความทุจริตแก่ตัวเอง เราบอกว่าไม่มีเลย เปิดโล่งๆ มีเท่าไรพุ่งๆ หมด นี่ละเราพอใจ

         ที่ได้มานี้ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ พี่น้องทั้งหลายให้ทานด้วยความบริสุทธิ์ เรานำออกไปช่วยโลกก็ด้วยความบริสุทธิ์ใจ โลกได้รับก็เห็นสง่างามอยู่ทั่วประเทศไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจเหมือนกัน เราจึงพอใจในการนำพี่น้องทั้งหลายด้านวัตถุ เวลานี้กำลังก้าวเข้าสู่ธรรมะ ธรรมะเริ่มออกทางวิทยุ อินเตอร์เน็ต กำลังทั่วประเทศไทย ก็เป็นธรรมอันนี้เหมือนกัน ธรรมที่เราแน่ใจ การนำพี่น้องทั้งหลายนำออกด้วยความแน่ใจทุกอย่าง จึงรู้สึกว่าไม่ผิดพลาดตลอดมา ราบรื่นดีงามเรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้

         ที่ได้นำทางด้านธรรมะก็ธรรมะทุกขั้นเราถอดออกมาจากหัวใจเรา ที่ได้ผ่านสนามบนเวทีมาแล้วอย่างโชกโชน  และเป็นที่แน่ใจว่ากิเลสพังหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือ มีแต่ธรรมล้วนๆ เต็มหัวใจ แสดงออกมาแง่ไหนรับรองทันที เป็นธรรมสำเร็จรูปเรียบร้อยๆ แล้วด้วยความถูกต้องๆ ไม่ว่าธรรมขั้นใดๆ ถึงนิพพานเราไม่สงสัย ถ้าใครเห็นว่าเราเทศนาว่าการอย่างนี้มีข้อข้องใจ มีข้อผิดพลาดจากธรรมะพระพุทธเจ้าแล้วให้ค้านมา เราจะตามตอบ เราบอกอย่างนั้นแล้ว

         ตั้งแต่ธรรมพื้นๆ ถึงนิพพาน เราจะตอบให้หมดบรรดาที่ข้องใจว่าธรรมะเราเทศน์ผิดที่ตรงไหน ๆ ที่ว่าเราเทศน์ผิดนี้ออกมาแจง เราจะแก้ทันทีๆ เลย แต่ก็ยังไม่เคยเห็นใคร ก็เพราะธรรมนี้ถูกต้องแล้ว เราแสดงด้วยความถูกต้องแม่นยำทุกอย่าง ใครจะมากล้าขัดกับธรรมของพระพุทธเจ้า แสดงต่อโลกสามโลกธาตุพระพุทธเจ้าแสดง ใครมาค้านพระพุทธเจ้าไม่มี นี้ก็ธรรมประเภทเดียวกัน รู้อย่างเดียวกัน เห็นอย่างเดียวกันมาแสดงอย่างเดียวกัน เอาอะไรมาค้านกัน เพราะมันถูกต้องอย่างเดียวกัน นี่ละที่ได้อุตส่าห์พยายาม

         เวลานี้ธรรมะเรากำลังขยายออกสู่จิตใจของพี่น้องชาวไทยเรา ให้พากันนำธรรมะปฏิบัตินะ จิตใจที่ลุกเป็นฟืนเป็นไฟอยู่นี้เพราะอำนาจของกิเลส ให้เอาน้ำไปดับไฟได้แก่ธรรมไประงับจิตใจของตน ความโกรธมันจะรุนแรงขนาดไหนมันจะระงับเมื่อถูกน้ำดับลงไป ความโลภ ความโกรธ ราคะตัณหาทุกอย่างจะระงับลงด้วยน้ำดับไฟคือธรรม ถ้าไม่มีน้ำแล้วจมได้นะ เหลือแต่เถ้าแต่ถ่านเท่านั้นละ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้พอ

         เราพูดถึงเรื่องพระอรหันต์ที่ท่านล่วงไปแล้วลูกศิษย์หลวงปู่มั่นทั้งนั้นนะ เวลานี้อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุชัดเจนมาก ๒๐ กว่าองค์แล้วนะ ที่พอทราบได้ๆ บางองค์เป็นพระธาตุอยู่ลับๆ ก็มี อย่างนั้นไม่เปิดเผย ทราบไม่ได้เราก็ไม่นำออกมาชี้แจง ที่ทราบเรียบร้อยแล้วตั้ง ๒๐ กว่าองค์ นี่เห็นไหมมรรคผลนิพพานท้าทายกิเลสอยู่ตลอดเวลาจากผู้ปฏิบัติ ผู้ไม่ปฏิบัติตายทิ้งเปล่าๆ ไม่ได้อะไรนะ กอดคัมภีร์ก็เป็นหนอนแทะกระดาษอยู่นั้นแหละ ไปกอดผ้าสบงจีวรพระพุทธเจ้าก็เกาะอยู่เฉยๆ เหมือนเล็น ถ้าตั้งใจปฏิบัติไม่จำเป็นจะต้องติดตามพระพุทธเจ้า เอาหลักธรรมหลักวินัยเป็นศาสดาแทน ตามเสด็จพระพุทธเจ้าโดยหลักธรรมหลักวินัยพอ มรรคผลนิพพานอยู่ที่นี่หมดเลย ท่านแสดงไว้อย่างนั้น

ถ้าพูดถึงเรื่องมรรคผลนิพพานที่พระท่านปฏิบัติอยู่เวลานี้มีน้อยเมื่อไร แต่ท่านเงียบๆ อย่างที่เคยพูด มีแต่หลวงตาบัวองค์เดียวโว้กว้ากๆ ใช่ไหมล่ะ นอกนั้นท่านเงียบๆ เพราะไม่ใช่กาลเวลาที่จะแสดงท่านก็ไม่แสดง อันนี้ก็เหมือนกัน ที่เราแสดงนี้ไม่ได้แสดงด้วยความกระโตกกระตากอยากโอ้อยากอวดเรื่องอรรถเรื่องธรรม เราไม่มี มีแต่เรื่องความเมตตาสงสารโลกที่คนไทยทั้งชาติจะจมลงทะเลหลวงหมดนี้ มันยังไงกัน ร้องโก้ก ร้องโก้กด้วยความเมตตาสงสาร จากนั้นธรรมก็ออก เอา จะช่วย พอช่วยแล้วมีเท่าไร ฟาดมันทั้งศอกทั้งเข่าทั้งอะไร อย่างท่านอาจารย์ฝั้นท่านพูด เราเป็นกรรมฐานต้องสู้ทุกด้านซิ นักมวยก็ต้องฟาดทั้งศอกทั้งเข่าทั้งหัว พอว่าทั้งหัว ท่านหัวล้านนะ โอ๊ะโดนเรา แน่ะเวลาท่านจะตลกท่านอาจารย์ฝั้น ทางไหนเอาหมด ศอกก็เอา เข่าก็เอา เตะอะไรๆ เอาหมด พอมาถึงหัวก็เอาหัวชนเลย โอ๊ะ หัวล้าน ท่านเป็นอย่างนั้นละ

วงกรรมฐานท่านตักตวงเอามรรคผลนิพพานเงียบๆ น้อยเมื่อไร ที่ชัดเจนมากก็คือวงกรรมฐานสายพ่อแม่ครูจารย์มั่น ไม่ว่าธรรมยุต มหานิกาย เช่นอย่างอาจารย์ชานี้ก็เป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์มั่น เป็นสายเดียวกัน เรียกว่าสายหลวงปู่มั่นเหมือนกัน ท่านเหล่านี้เป็นผู้ตั้งหน้าตั้งตาบำเพ็ญธรรมะ แล้วตักตวงเอามรรคผลนิพพานอย่างเงียบๆ เย็นอยู่ในนั้น โลกจะร้อนเป็นไฟก็ตามท่านเย็นตลอด พากันจำเอานะ ขอให้พากันบำเพ็ญ ธรรมะนี่สดๆ ร้อนๆ ตลอดเวลา อย่าไปเชื่อกิเลส มันหลอกโลกมานาน พาโลกให้จมมาตั้งกี่กัปกี่กัลป์ไม่เข็ดหลาบบ้างเหรอ เอาธรรมลากขึ้นด้วยความเข็ดหลาบซิ เอาละ

นี่พี่น้องทั้งหลายได้ทราบหรือยัง เราเทศน์สอนโลกนี้มานาน ก็ได้เผดียงบ้างเล็กน้อย ยังไม่ได้ประกาศให้ทราบทั่วถึงกัน ว่าภาษาของเราที่พูดที่เทศนาว่าการอยู่ทุกวันนี้ เป็นภาษาภาคปฏิบัติธรรม ผลออกมาจากธรรม ไม่ใช่ภาษาดั้งเดิมของเรา ภาษาดั้งเดิมของเราก็เหมือนโลกทั่วๆ ไป เวลาศึกษาเล่าเรียนได้มากได้น้อย จนกระทั่งถึงขั้นได้เป็นมหา เรียนออกมาแล้วภาษาก็เป็นแบบโลกทั่วๆ ไป ไม่เป็นภาษาแปลกประหลาดอะไร เขาเทศน์ยังไงเราก็เทศน์ยังงั้นพูดอย่างนั้น ไม่เลยกรอบของปริยัติ ปริยัติท่านว่างั้นก็ว่าไปตามนั้นๆ จึงเป็นเหมือนกับภาษาทั่วๆ ไปทั่วประเทศไทยเรา เราใช้แบบนั้นมาดั้งเดิม

เราไม่เคยคิดเคยอ่านเลยว่า ภาษานี้จะขึ้นมา ที่เรานำมาเทศน์อยู่ทุกวันนี้ เป็นภาษาใหม่ของการปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า จะเรียกเป็นภาษาใหม่ ใหม่จากของเก่าที่เราเคยใช้มาแล้ว เข้าใจไหมล่ะ นี่ละให้ฟังกันอย่างชัดเจน เปิดออกมาให้ฟังอย่างชัดเจน ภาษาเช่นนี้เราไม่เคยใช้ เวลาเราใช้เราก็ดึงเอาตามปริยัติ ปริยัติมากน้อยๆ ดึงไปตามนั้นก็เป็นแบบโลกทั่วๆ ไป ทีนี้พอมาปฏิบัติ นี่ละสำคัญตรงนี้นะ มันเป็นเครื่องยืนยันเหมือนว่าตีตราเอาไว้นี้เคลื่อนจากนี้ไม่ได้ เป็นยังไงต้องออกอย่างนั้น เป็นยังไงต้องออกอย่างนั้น ตีตราไว้อย่างถูกต้องๆ หมดแล้ว ความรู้ความเห็นที่เป็นอยู่ภายในจิตใจนี้ถูกต้องแล้ว เวลาจะออกโดยเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นอย่างใดขัดๆ แล้วไม่ขัดเป็นยังไง ต้องให้พูดเป็นไปตามนั้น นั่นเห็นไหมล่ะ เมื่อพูดไปตามนั้นก็เป็นภาษาธรรม เรียกว่าภาษาธรรมล้วนๆ

นี่ละที่โลกทั้งหลายเขาตำหนิติเตียน เราก็ไม่สนใจแต่เรานำมาพูดเฉยๆ ตามที่ได้ยินได้ฟังทั่วโลก ว่าเขาตำหนิติเตียนมา หลวงตาบัวพูดกระแทกแดกดันเป็นขวานผ่าซากอะไรเขาว่าไป พูดดุพูดด่า เหล่านี้เป็นภาษาธรรมทั้งนั้น มีแง่หนักเบาที่จะชำระกิเลส ถ้ากิเลสหนักมากขนาดไหนธรรมะจะหนักเข้าไปๆ ไม่ใช่จะไปกระทบกระเทือนผู้หนึ่งผู้ใด แต่กระทบกระเทือนกับกิเลสที่เป็นภัยต่อธรรม เพื่อโลกให้ได้ยึดเป็นคติตัวอย่าง เพราะฉะนั้นภาษาธรรมนี้จึงออกมาเรื่อยๆ ออกมานี้ไม่มีเพียงเท่านี้ ถ้ามีผู้มาถามในเรื่องอรรถเรื่องธรรมที่ละเอียดลออลึกขนาดไหนมันจะออกทันทีๆ ทั้งที่เราไม่เคยคิดเคยอ่านเอาไว้จะออกรับกัน ทางเข้ามาของปัญหาเป็นยังไง เข้ามาตรงนี้ ปัญหาที่ตอบรับจะออกตรงเดียวกันเท่ากันๆ โดยไม่คิดไว้เลย นี่ภาษาธรรม ให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้

ที่ได้เทศนาว่าการทั้งหลาย ขอความกรุณาจากพี่น้องทั้งหลายว่า ให้ตายใจได้เลย ภาษาของหลวงตาและกิริยาอาการหลวงตา ที่แสดงออกต่อพี่น้องทั้งหลายนี้ไม่เป็นภัยแม้เม็ดหินเม็ดทราย จะเผ็ดร้อนขนาดไหนดุเดือดขนาดไหน เป็นเรื่องของธรรมทำงานเพื่อประโยชน์แก่โลกทั้งนั้น ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใดเลย กรุณาทราบตามนี้ เราปฏิบัติธรรมเรารู้อย่างนี้เห็นอย่างนี้ แยกเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงได้นำธรรมประเภทนี้ออกมาแสดง แล้วมันก็ต่างจากโลกทั้งหลาย เพราะความรู้นี้ไม่ได้เหมือนที่เราเรียนมา รู้ตรงไหนแม่นยำๆ แน่นอนๆ เคลื่อนไม่ได้ เมื่อเคลื่อนไม่ได้ออกมาก็ต้องเป็นแบบเดียวกัน ออกมาควรหนักๆ ควรเบาๆ ไปเรื่อยๆ กรุณาทราบตามนี้นะ

นี่ละแก้กิเลสภายในใจบนสนาม คือจิตใจนี่เวทีของกิเลสกับธรรมฟัดกันบนสนาม ฟัดกันตรงนี้รู้กันตรงนี้ เห็นกันตรงนี้ กิเลสพังๆ ตรงนี้ เพราะภาษาธรรมประเภทใด นี่ละดูเอา นี่ละเอาออกมาใช้ ใช้ที่ได้ชัยชนะเรียบร้อยเป็นมงคลแล้ว นำมาใช้ต่อพี่น้องทั้งหลาย จึงคิดว่าไม่มีคำว่าเฉนียดจัญไร เพราะฉะนั้นกิริยาของหลวงตาที่แสดงออกทุกแง่ทุกมุมนี้ เราจึงไม่มีอะไรที่เป็นภัยต่อโลก เราพูดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าไม่มี จะเป็นกิริยาท่าทางแบบไหนก็ตาม เป็นธรรมแสดงออกล้วนๆ กิเลสไม่มี ที่จะมาแทรกให้เป็นพิษเป็นภัยไม่มี กรุณาทราบตามนี้นะ การเทศนาว่าการธรรมะลึกตื้นหยาบละเอียด จะเป็นภาษาธรรมไปล้วนๆ อย่างนี้เองเป็นอื่นไปไม่ได้นะ เอาละพอ ทีนี้ให้พร

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก