หมดภัยแล้วถึงนิพพาน
วันที่ 14 พฤษภาคม 2548 เวลา 8:05 น. ความยาว 42.33 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

หมดภัยแล้วถึงนิพพาน

 

ก่อนจังหัน

วัดนี้พระทางประเทศนอกมีเยอะนะ พระฝรั่งมีเยอะ เราเห็นใจทั้งพระไทยพระฝรั่งพระต่างชาติ คือแบ่งรับทางโน้นบ้างรับทางนี้บ้างให้สม่ำเสมอกันตามสัดส่วนมากน้อย เพราะมีหัวใจด้วยกัน พระไทยนี้เป็นอันดับหนึ่ง รับมากตลอดเวลาทุกภาค การรับพระเราทุกภาคให้สม่ำเสมอกันหมด ไม่หนักภาคนั้นหนักภาคนี้ เราไม่มี นั้นไม่ใช่ธรรม ความจำเป็นเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด หัวใจมีด้วยกัน ทางพระเมืองนอกก็เหมือนกัน เมืองนอกเข้ามาๆ เราก็คิดเฉลี่ย เมืองนอกมาแล้วกี่องค์ เมืองนั้นมาแล้วกี่องค์ มาอยู่ที่นี่แล้วกี่องค์ ค่อยแบ่งสันปันส่วนอยู่ในตัว แล้วรับเป็นระยะๆ เป็นพักเป็นวรรคเป็นตอนไปอย่างนั้น นี่เรียกว่าธรรม

ธรรมต้องให้ความเสมอภาคทั่วหน้ากันหมด เรียกว่าธรรม ไม่เอนไม่เอียง โลกจึงยอมกราบไหว้ธรรม เพราะธรรมไม่มีคำว่าเอนว่าเอียง สม่ำเสมอ ไม่มีศาสนาใดพูดอย่างถนัดชัดเจนเท่าที่ผ่านมาแล้ว ต้นตอของศาสนานั้นๆ เป็นยังไงๆ ค้นมาๆ จึงยอมรับพุทธศาสนา เป็นศาสนาชั้นเอก พิสูจน์กันด้วยภาคปฏิบัติอีกด้วย ชี้แจงแนวทางว่าถูกต้องๆ ปฏิบัติตามนั้นได้ผลตามนั้นๆ ท่านสอนให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ปฏิบัติแล้วก็รู้ไปเห็นไปๆ ถึงจริงๆ เหมือนอย่างอุดรมาวัดป่าบ้านตาด ชี้แนวทางมาโดยลำดับ กี่แยกๆ ก็ตามอย่าไป ไปทางที่ลูกศรชี้บอกว่าไปวัดป่าบ้านตาดก็ถึงได้ นี่เรียกว่าถูกต้อง

ไม่ใช่ชี้บ๊งเบ๊งๆ ไปนะ ชี้นี้ไปสวรรค์ ชี้นั้นไปนิพพาน เข้าไปตรงไหนมีตั้งแต่หม้อเหล้าหม้อยา หม้อพวกขี้ฝิ่นกัญชายาเสพย์ติดเต็มบ้านเต็มเมือง นี่ละลูกศรมันชี้ไปอย่างนั้นลูกศรของกิเลสชี้ ลูกศรของธรรมชี้ไปตามหลักความจริง นั่นหลุมนรก หลุมใหญ่ หลุมเล็กหลุมน้อย รวมกันแล้วเท่านั้นหลุม เหล่านี้เป็นภัยทั้งนั้น มหาภัยทั้งนั้น อย่าไป ถ้าอยากไปให้ทำความชั่วให้มากๆ ไม่ต้องบอก นี่ก็เรียกว่าธรรม ไม่มีคำว่าลำเอียง ธรรมบอกตรงแน่วไปเลย พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม นำธรรมนี้มาสั่งสอน จึงเป็นธรรมที่ตรงแน่วตามความสัตย์ความจริง ท่านชี้บอกไว้อย่างนั้น

อย่าพากันให้กิเลสลบรอยศาสดานะ กิเลสมักตามลบรอยศาสดา ก็คือลบหน้าผากเรานั้นแหละไม่ใช่อะไร กิเลสคอยกระซิบกระซาบอยู่ตลอดที่เราจะสร้างคุณงามความดี กิเลสจะเข้ามาทันทีๆ กระซิบกระซาบแล้วหลงไปตามมันๆ มากต่อมาก ให้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมแล้วดำเนินตามทางพระพุทธเจ้า ดำเนินไปเท่าไรแคล้วคลาดปลอดภัยไปเรื่อยๆ นี่เรียกว่าธรรมที่เลิศเลอ ให้พากันนำไปปฏิบัติ

ฟังเสียงธรรมนี้ขอให้ฟังมากๆ เถอะ ไอ้ฟังเรื่องโลกเรื่องสงสารเรื่องนรกอเวจีนี้ฟังมาทุกถ้วนหน้ากันแล้ว ทั่วโลกดินแดนฟังแต่เสียงเหล่านี้ เสียงนรกมันกระหึ่มขึ้นมากล่อมหูเรา อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี อันนั้นน่าเพลิน อันนี้น่าเพลิน เรื่อย เป็นบ้าไปตามมัน นั่นละเสียงกิเลสมันกล่อมกระหึ่มใส่หูเรา หลงไปตามมันหมด ธรรมนี้กิเลสคอยปัดไม่ให้เข้าหู เพราะฉะนั้นโลกทั้งหลายจึงไม่อยากฟังเสียงธรรมยิ่งกว่าเสียงกิเลสตัณหา เสียงฟืนเสียงไฟ เสียงเผาไหม้ ลงนรกอเวจีกระหึ่มอยู่ในนรกอเวจี ท่านทั้งหลายทราบไหมว่านรกอเวจีใครเป็นผู้แสดงออกมา

พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ตรัสรู้ขึ้นมานี้จ้าขึ้นเลย แสดงแบบเดียวกันหมด หนักเบามากน้อยแห่งโทษและคุณแสดงตามความเป็นจริงๆ เลย จึงเป็นธรรมที่ตายใจได้แล้วจากพระพุทธเจ้าของเรา ไม่ว่าพระองค์ใดสอนออกมาแบบมีแถวมีแนว เอาภาคปฏิบัติจับก็รู้กันเลย ถ้ามีแต่เรียนเฉยๆ ไม่มีภาคปฏิบัติ ผลไม่ค่อยได้เท่าที่ควร ถ้าตั้งใจปฏิบัติจริงๆ ผลได้โดยลำดับลำดา และประจักษ์กันในภาคปฏิบัติของเรา นั่นละยอมรับพระพุทธเจ้าจากภาคปฏิบัติของตน ที่ท่านชี้บอกแนวทางที่ถูกต้องไว้แล้ว

เสียงอรรถเสียงธรรมให้ฟังบ้างนะ อย่าฟังแต่เสียงฟืนเสียงไฟเผาไหม้กันไม่มีวันอิ่มพอ เจ็บปวดแสบร้อนขนาดไหนก็ไม่มีวันเข็ดหลาบ กิเลสทรมานสัตว์โลกไม่ยอมให้เข็ดหลาบง่ายๆ มันเอานั้นมากล่อม เอานี้มากล่อม ถ้าจะตายจริงๆ มันก็เอายาแก้สลบมากล่อม แล้วเป็นบ้าไปกับยาแก้สลบ ทีนี้มันก็ไสเข้าไฟอีกๆ นี่ละกิเลสหลอกโลก มีธรรมเท่านั้นปราบได้ และรู้กลมายาของกิเลส ไม่มีอะไรรู้ยิ่งกว่าธรรม ธรรมต้องหมายถึงผู้ปฏิบัติธรรม ธรรมเข้ามารู้ภายในจิตใจนี้เป็นเครื่องมือที่เลิศเลอขึ้นมาๆ จ่อตรงไหนรู้หมดๆ นั่นเรียกว่าธรรม พากันนำไปปฏิบัติ

สำหรับพระเราอย่าลดหย่อนอ่อนความพากความเพียรนะ ศีล สมาธิ ปัญญา นี้คือสมบัติของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติซึ่งเป็นแนวหน้าแห่งพุทธศาสนาของเรา แนวหน้าประชาชนญาติโยมทั้งหลาย ให้พากันนำไปปฏิบัติ ตั้งหน้าตั้งตา ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นเรื่องเล็กน้อยแล้วเหรอ ศีลตั้งแต่วันบวชมาทีแรก อุปัชฌาย์มอบประกาศศีลลงไปในตัวของเราแล้ว รับตั้งแต่บัดนั้นมา เทิดทูน จากนั้นก็อบรมธรรม ศีล สมาธิ สมาธินี้เรียกว่าเป็นฝ่ายธรรม สมถธรรม สมาธิธรรม วิปัสสนาธรรม ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ

ศีลเป็นธรรมชาติที่แวดล้อมไม่ให้ผ่านออกไปจะเจออันตราย ศีลเป็นรั้วกั้นอันแน่นหนามั่นคงดีแล้ว ผู้นั้นอบอุ่น ผู้ใดรักษาศีลของตนดีแล้วผู้นั้นอบอุ่น การปฏิบัติธรรมอยู่ในวงของศีลที่เป็นรั้วกั้นอันดีแล้วนั้นก็ไม่มีความระแคะระคาย ว่าได้ทำศีลด่างพร้อยข้อนั้นข้อนี้ ไม่มี การบำเพ็ญธรรมก็สงบร่มเย็นได้ง่าย เพราะจิตไม่มีอารมณ์ขุ่นมัวมารบกวนใจตัวเอง แล้วก็สงบ ใจสงบ โลกไม่เคยมีละ มีแต่เป็นฟืนเป็นไฟด้วยกันทั้งนั้น ใจดวงใดก็เถอะน่ะ บอกว่าเถอะน่ะเลยนะ ถ้าลงไม่ได้มีธรรมเข้าไปแทรกแล้วใจดวงไหนก็เถอะ ว่างั้นเลย ใครอย่ามาคุยอย่ามาอวดอย่ามาโม้ต่อธรรมของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

ถ้าใจได้รับความสงบด้วยการอบรมแล้ว นั่นละจะเริ่มขึ้นมา เราคนเดียวเท่านั้นมันก็ชนะไปแล้ว โลกไม่มีทางที่จะมากล่อมจิตใจของผู้สงบแล้วว่าธรรมไม่มี หรือความสงบในโลกไม่มี ความสุขในโลกไม่มี ไม่มีใครมากล่อม หลอกได้เลย เพราะจิตดวงนี้รับไว้เรียบร้อยแล้ว อันเดียวเท่านั้นพอ พอจิตดวงนี้รับปั๊บเท่านั้นกระจายไปหมดเลย สมถะคือความสงบเย็นใจ จากนั้นความสว่างไสวแน่นหนามั่นคงไปในทางธรรมทั้งหลาย ก้าวขึ้นๆ เพียงคนเดียวชนะเลิศๆ เรื่องกลอุบายกิเลสมีมาสามโลกธาตุมาหลอกท่านผู้บำเพ็ญธรรมประเภทนี้ไม่มีทาง มีแต่ขาดสะบั้นๆ ไปเลย พุ่งถึงนิพพาน มองโลกได้อย่างตลอดทั่วถึง คือท่านผู้ถึงนิพพานโดยสมบูรณ์แล้ว นี่ละหมดภัยแล้วถึงนิพพาน สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ให้พร

หลังจังหัน

เมื่อคืนนี้ขบขันดี เราไปดูโรงไฟฟ้า เพราะสั่งพระให้เปิดตลอดรุ่ง เราก็เดินไปดู พอออกไปนี้มองเห็นแสงไฟพาบพีบๆ อยู่ข้างนอกกำแพง โอ๊ะ มันไฟอะไรผิดปรกติเหลือเกิน แมวออกไปข้างนอกเหรอ ไล่แมวข้างนอกเหรอ เราเดินไป แสงไฟกล้าๆ ทั้งนั้นนะพาบพีบๆ จากนู้นถึงนู้นเลย ทำให้เชื่อแน่ว่าไล่แมวอีกแล้ว พอว่างั้นเราก็เดินไป กำลังเอากันมาพะรุงพะรังหน้าประตู พอดีเราก็ออกไปที่นั่น ได้จริงๆ ทั้งพวกข่ายพวกอะไรพะรุงพะรัง ทั้งพระทั้ง ตชด. เราดูขบขันดีนะ กำลังจะเปิดประตูเอาแมวเข้า

พอดีเราไปถึงพอดี ได้จริงๆ เหรอได้ที่ไหน ได้นู้นตะวันตก แล้วทำไงถึงได้ โอ๋ย เอาข่ายดัก ไล่จนได้ ได้แล้วเมื่อคืนนี้ ขบขันดี มองดูไฟนี้ โถ แสงมันพาบๆ ไปหมดแถวนั้น ได้อีกตัวหนึ่ง ตัวเมื่อวานหรือวานซืนไปปล่อยชัยภูมิ พวกนี้พวกถูกเนรเทศทั้งนั้นแหละ นี่ก็จะถูกเนรเทศไปจังหวัดไหนก็ไม่รู้แหละ ส่วนมากจะ ตชด.ฉวยโอกาส คือพอได้แมวแล้วเขาไปปล่อยเอง คนไปปล่อยแมวอยู่จังหวัดไหนเขาก็ไปปล่อยจังหวัดนั้น ไปเยี่ยมบ้านด้วย อยู่ชัยภูมิเขาก็ไปปล่อยชัยภูมิ ไปถามเขา เขาบอกอยู่จังหวัดชัยภูมิ เขาเอาแมวไปปล่อย ตัวนี้จะไปไหนไม่รู้ละ

พวก ตชด.พวกอะไรเหล่านี้ที่ทำงานในวัดเป็นลูกของพระทั้งนั้นพวกนี้นะ พวก ตชด. พวกคนงานเหล่านี้ เป็นลูกของพระในวัดนี้ทั้งนั้น ยั้วเยี้ยๆ เมื่อคืนนี้ถึงขบขัน โหย อึกทึกนะมา ทั้ง ตชด. ทั้งพระรุมกันมา แมวตัวเดียว เราไปดูเขากำลังจะเปิดประตูเข้ามา ประตูล็อคอยู่ เขากำลังไปเอากุญแจมาเปิด ดูแมวสีขาวๆ คล้ายตัวนั้น มึงดื้อเกินไปมึงถูกทรมานถูกจับอย่างนี้ มึงจะถูกเนรเทศนะ สูมีแต่พวกถูกเนรเทศทั้งนั้น พวกโทษอุกฉกรรจ์คือแมว จับได้ตัวไหนเนรเทศทั้งนั้น มันมาเรื่อยๆ  ถ้ามีแมวแล้วสัตว์เหล่านี้ตายไปโดยลำดับลำดา

คือแมวไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหิวโหยไม่หิวโหยนะ พอเจอนี้ย่องใส่เลยกัดเลย อย่างนั้นละเข้ามาแล้วพวกกระจ้อน กระแต เป็นไม่เหลือแหละ กระแตหมดเร็วที่สุด กลางคืนหนู กลางวันกระจ้อน กระแต มันไปเที่ยวได้ทั้งกลางคืนกลางวัน ตามันดีทั้งนั้น จึงต้องได้จับออก เราสงสารสัตว์ แมวเข้ามาแต่ละทีนี้สัตว์เหล่านี้ตายพินาศนะ ด้วยเหตุนี้เองที่เราจับออกไปๆ สัตว์เหล่านี้เราคุ้มครองรักษาอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้มีอะไรมาเบียดเบียนทำลาย แมวเข้ามาแต่ละทีนี้เอาแหลกๆ จึงต้องจับไปปล่อยเสมอ

ไปปล่อยข้างนอกก็ทราบว่าเขาต้องหากินแบบเดียวกันนี้ แต่ยังไงก็อย่าให้เห็นต่อหน้าต่อตาในความอารักขาของเราบรรดาสัตว์ที่อยู่ในวัดนี้ก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นเราถึงเอาไปปล่อย นี้เราอารักขาเรารักษามันตลอด อาหารการกินเต็มไปหมดไม่อดอยากวัดนี้นะสำหรับสัตว์ ร้านเล็กๆ เต็ม กระรอก กระแต หนู อะไรได้ทั้งนั้น ไก่ก็เต็มไปหมด ข้าวให้สมบูรณ์แบบเต็มที่ๆ เมื่อเห็นสัตว์มาทำลายอย่างนั้นมันดูไม่ได้นะ

ไหนที่ว่าปราจีนบุรีที่จะมาพักจำพรรษาที่นี่ เราไม่รับบอกตรงๆ ไหนเจ้าของอยู่ไหน บอกให้ชัดเจนด้วยเหตุผล บอกไม่รับนะ กุฏินี้สำหรับรับถ่ายเทเปลี่ยนแปลงมา เข้าออกๆ ตลอดเวลา เมื่อมีคนมาอยู่ประจำแล้วก็จะขัดข้องมาก เพราะฉะนั้นกุฏิที่จะให้คนมาอยู่ประจำนี้จึงไม่ให้มา มาแบบถ่ายเท คนนั้นเข้าคนนี้ออกอยู่อย่างนี้ บอกให้ชัดเจนเสียนะ ลูกก็มาฝากไว้กุฏิหลังนั้น ก็ถือกรรมสิทธิ์กุฏิหลังนั้น แม่มาอยู่กุฏิหลังนี้ถือกรรมสิทธิ์หลังนี้ มันเกินไป เข้าใจไหมล่ะ ให้ยกเลิก เข้าใจเหรอ ส่วนลูกรับไว้แล้ว แม่ไล่กลับ ลูกก็โตแล้วมาตามกันหาอะไร เข้าใจหรือยัง มีลูกมีหลานเล็กๆ ให้กลับไปด้วยกัน ถ้าตัวเล็กๆ ไม่กลับย่าจะไม่กลับแหละ เดี๋ยวจะได้ขนาบย่ามันอีก

กุฏิเหล่านี้สำหรับถ่ายเทเปลี่ยนแปลง เข้าออกๆ ตลอดเวลา จึงไม่ให้มีใครอยู่เป็นประจำที่นั่นเลย ใครจะเข้าๆ ใครจะออกๆ เลย ถ้าให้เป็นประจำแล้วก็หมด คนที่จะเข้ามาพักก็เข้าไม่ได้แล้ว หมด เราเอาไว้ช่องนี้ช่องเดียว ส่วนข้างในใครเข้าไปออกมามันก็เป็นอยู่อย่างนั้น เราไม่เข้าไปเกี่ยวเพราะมันเลยเถิดไปแล้ว พิลึกพิลั่นนะ เต็มไปหมดในครัว ไม่ทราบว่าคนแบบไหนต่อแบบไหนอยู่ในนั้น เราไม่ได้เข้าไปแหละ เข้าไปก็เดินผ่านๆ ดูนั้นดูนี้ไป ไปเห็นตามกุฏิต่างๆ แต่ก่อนก็มีบ้างเราก็ไม่ว่าอะไร เราก็ดูไปๆ ครั้นต่อไปนี้ตกแต่งเรื่อยนะ พวกหินพวกทราย ปูน อยู่ที่ไหนๆ ในเมืองไทยนี้ ดูจะไหลเข้ามาวัดป่าบ้านตาดแล้วเข้าครัวนี้หมดละ พวกอิฐพวกปูนพวกหินพวกทรายไหลเข้าไป ไปเห็นตกแต่งที่นั่นตกแต่งที่นี่หนาตาขึ้นเรื่อย มันขวางอยู่ตลอดนะเราไม่พูดเฉยๆ

เพราะสถานที่นี่คือที่วัดนี้ไม่ได้ตกแต่งภายนอกยิ่งกว่าตกแต่งภายใน ตกแต่งภายในก็ตกแต่งกายวาจาใจของเจ้าของ เฉพาะอย่างยิ่งตกแต่งใจ ใจนี้เป็นตัวคึกตัวคะนอง น้ำล้นฝั่งตลอดเวลา จึงต้องมีน้ำดับไฟตลอดๆ ไม่อย่างนั้นดูไม่ได้นะ นี่จึงว่าตกแต่งจิตใจ ส่วนภายนอกอยู่อะไรอยู่ไป สะอาดหรือไม่สะอาดก็ดังโลกเขาอยู่กัน ทางวัดทางบ้านเมืองก็เหมือนกัน อยู่กันด้วยอย่างนั้น แต่ภายในนี้ทางวัดสนใจมาก จะต้องได้ทำการตกแต่งตลอดเวลา เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา มีแต่ตกแต่งใจนะ

ตัวสกปรก ตัวดีดตัวดิ้นที่สุดคือใจ จึงต้องเอาสติจับตลอดเวลา ตกแต่งตัวนี้ให้ดี เมื่อตัวนี้ดีแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเขาเป็นปรกติของเขาอยู่แล้ว เขาไม่รู้ว่าเขาดีไม่ดี มันตัวนี้ตัวแสบ ตัวไปหาเรื่องหาราว ตกแต่งนั้นๆ อันนั้นให้ดีอันนี้ให้ดี ตัวเองตัวคึกตัวคะนองตัวเป็นบ้าน้ำล้นฝั่งอยู่ตลอดเวลานี้ไม่ได้ตกแต่งมัน ไม่ได้มาแก้ไขดัดแปลงมัน เสียตรงนี้ เพราะฉะนั้นเข้าไปตอนเย็นวานซืนหรือวันไหนจึงเอาเสียบ้าง เพราะมันขวางขึ้นเรื่อยๆ มองไปที่ไหนเห็นแต่ที่ตกแต่งๆ เอ๊ พวกนี้เข้ามาตกแต่งภายนอกเหรอ ไม่ได้มาตกแต่งภายใน

ดูภายนอก ไม่ว่าพวกอิฐพวกปูนพวกหินพวกทรายมีดาดาษเข้าไปแล้วนะเวลานี้ บริเวณนั้นจะกลายเป็นสถานที่ก่อสร้างอันหนึ่งขึ้นมา ของกองทัพกิเลส ซึ่งเป็นกองทัพใหญ่ๆ นั้นแหละเข้ามา  นี่เคยชินต่อนิสัย ไปอยู่ที่ไหนก็เอานิสัยกิเลสเข้าไปทำหน้าที่แทนๆ ธรรมเลยไม่ได้สนใจ การตกแต่งจิตใจให้สดสวยงดงามนั้นเลยไม่มี มีแต่ตกแต่งภายนอกใช้ไม่ได้นะ โลกตกแต่งแต่ภายนอกทั้งนั้น จึงไม่มีที่สิ้นสุด มีแต่ความทุกข์ความทรมาน หามาได้ไม่พอๆ กับความต้องการ ความต้องการเป็นน้ำล้นฝั่ง วิ่งตามนี้มันก็วุ่นไปตามๆ กันหมด ธรรมไม่ใช่น้ำล้นฝั่ง ธรรมพอปั๊บเข้าไปในจิตนี้มันจะเริ่มสงบ เริ่มสงบก็เริ่มยุติความดีดดิ้นเข้าไปโดยลำดับ ค่อยสงบลงๆ ตัวนี้ตัวดิ้น ดูตัวใจนี่ซิ

พอบังคับนี้ด้วยสติ สติเป็นอันดับหนึ่ง ปัญญาจะออกเป็นเวลาๆ  สติกับสัมปชัญญะติดกับตัวเอง ดูใจตัวเอง ค่อยตกค่อยแต่งอยู่ภายใน มันคิดออกเรื่องใดไม่ดีไม่งามตีไว้ๆ ให้เข้าร่องเข้ารอยทางความดีงามทั้งหลาย นั่นท่านเรียกว่าตกแต่งใจ พระท่านมาภาวนาท่านมาตกแต่งใจนะ ไปดูซิกระต๊อบข้างในนั่น ถ้าโลกเขาไปดูในวัดป่าบ้านตาด บริเวณพระบำเพ็ญธรรมจะดูไม่ได้นะ เป็นยังไงกระต๊อบเท่านี้ๆ ท่านอยู่ข้างใน ใครไปเห็นเมื่อไร นี่เราปิดประกาศไว้ไม่ให้เข้าไป นั่นละที่บำเพ็ญธรรมฟัดกับกิเลส ท่านฟัดกันอย่างนั้น ท่านดัดแปลงภายใน แก้ไขภายในคือใจท่านแก้อย่างนั้น

อยู่ที่ไหนท่านอยู่ได้ทั้งนั้น กระต๊อบเล็กๆ สูงแค่นี้แล้วมีพัก ออกมาจากที่พักก็ลงพักนี้ปั๊บ ทางจงกรมเลื่อมพั่บๆ ที่นั่งสมาธิที่ภาวนา ที่เดินจงกรมของท่านเลื่อมพั่บๆ ท่านทำงานเป็นประจำ นั่นละสำนักงานของพระกรรมฐานที่ท่านชำระจิตใจ ท่านดัดแปลงจิตใจตัวคึกตัวคะนอง ตัวผาดโผนโจนทะยาน คือตัวนั้นเอง ท่านเอาธรรมเข้าปราบปราม ในวัดนี้ที่อยู่จึงดูไม่ได้ มีสดสวยงดงามบ้างข้างนอกนี่ ทำไว้โก้ๆ โลกเขาโก้ เราก็เป็นคนเหมือนกันเราก็โก้บ้างซิ ก็เลยตกแต่งหลังนั้นหลังนี้สดสวยงดงาม ไปข้างในเป็นยังไง เมื่อเอากิเลสเข้าไปเทียบแล้ว ข้างในดูไม่ได้เลยเหมือนส้วมเหมือนถาน เมื่อเทียบกับธรรมแล้วข้างในสะอาดสุดยอด ทางนี้สกปรกยิ่งกว่าส้วมกว่าถานเสียอีก

ภายในสะอาด อยู่ไหนสะอาดไปหมด ถ้าภายในสกปรก อยู่ไหนไม่ดีละ ขึ้นไปอยู่หอปราสาทราชมณเทียรก็ไปครวญครางอยู่โน้นละ เพราะไฟไปเผาเจ้าของที่อยู่บนหอปราสาทนั้นให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนครวญครางตลอดเวลา เหมือนคนไข้เอาขึ้นห้องไหนก็ขึ้นไปซิ ชั้นใดก็ขึ้น เวลาไข้หนักมันก็ไปครวญครางอยู่ข้างบน พอหายไข้เท่านั้นอยู่ไหนอยู่ได้หมดคนไข้ อันนี้พอจิตใจเราสงบจากโรคภายในจิตใจคือกิเลส สงบลงมากเท่าไรยิ่งสงบลงๆ แล้วสบายๆ ไปเลย เพราะฉะนั้นท่านจึงให้แก้ไขดัดแปลงภายในจิตใจมากกว่าสิ่งอื่นๆ ในวัดนี้ต้องการอย่างนั้นทั้งนั้น เราไม่ได้สนใจกับอะไรมากยิ่งกว่าดูภายในใจ ภายในใจนี้เป็นตัวสำคัญมาก ได้เห็นโทษของมันจนกระทั่งถึงน้ำตาร่วง สู้มันไม่ได้ เราไม่ลืมนะ นิสัยอันนี้เป็นอย่างนั้นมันฝังลึกมาก ถ้าลงได้ฝังอะไรแล้วลึกมาก ไม่มีถอนง่ายๆ ฝังกึ๊กลงเลย ถ้ายังไม่ควรลงไม่ลง เหตุผลพร้อมแล้วลงผึงเท่านั้นละพอ ไม่ต้องวินิจฉัยใคร่ครวญอะไรมากแล้ว ได้พิจารณาเรียบร้อยแล้วลงแล้วด้วยความถูกต้อง

         นี่ก็เหมือนกัน เราไม่เห็นอะไรที่จะเลิศเลอยิ่งกว่าธรรมภายในจิตใจ ธรรมภายในจิตใจนี้ไปที่ไหนจ้าอยู่ตลอดเวลา เข้าไปในห้องส้วมห้องถานนี้ก็จ้าอยู่ในนั้น ไม่ได้สกปรกไปตามสิ่งเหล่านั้นนะ นี้ตกแต่งตัวเจ้าของก็เป็นส้วมเป็นถาน อยู่ภายในนั้นก็เป็นส้วมเป็นถาน อยู่ภายนอกเป็นส้วมเป็นถาน ส้วมถานตกแต่งกัน มูตรคูถตกแต่งกันให้มันสดสวยงดงาม กลิ่นหอมหวนชวนดมมีที่ไหน ไม่เคยมี เหม็นไปตามๆ กันหมด เหม็นคลุ้งไปหมด

         ดังที่เราพูดถึงเรื่องธรรม ที่เราออกสิ่งที่ควรต้านทานเราต้านทานดังที่โลกทั้งหลายได้ทราบกัน ก็มีหลวงตาองค์นี้แหละออกต้านทานสิ่งไม่ดีงามทั้งหลายที่มันขัดมันขวางต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา เราเป็นผู้อุ้มทั้งชาติ ทั้งศาสนา ทั้งพระมหากษัตริย์อย่างเต็มหัวใจ อะไรที่มากีดมาขวางจะมาทำลายทั้งสามพระองค์นี้ต้องได้รับการต่อต้านจากเราตลอด นี่ละที่เสียงของเราออกอยู่เรื่อยๆ คือมันมาขวางอรรถขวางธรรม ความสงบร่มเย็น ความแน่นหนามั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราในฐานะที่รักษาทั้งสามพระองค์นี้อยู่เราจะอยู่ไม่ได้ ต้องคัดค้านต้านทานกันสุดเหวี่ยงนั่นแหละ ดังที่เห็นอยู่นี่

         เรื่องธรรมเป็นอย่างนั้นต้องได้ค้านเอาไว้ ไม่งั้นจมเลยนะ แหลกๆ ต้องมีธรรม ผู้ที่ต้องการความดิบดีทั้งหลายและต้องการหลักเกณฑ์ก็ต้องฟังเสียงธรรม เสียงธรรมสร้างแต่ความแน่นหนามั่นคง ความสงบร่มเย็นให้เท่านั้น ส่วนกิเลสสร้างแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ แหลกเหลวไปตามๆ กันหมด นี่คือกิเลส นี่พูดถึงเรื่องอะไรที่เข้าไปข้างใน ไปเห็นแต่ที่ตกแต่ง โห พวกดินพวกหิน หินกรวดหินทรายนี้ถ้าใครไปหาที่ไหนไม่เจอ อย่าไปหลับตาหามัน มาลืมตาดูวัดป่าบ้านตาดเข้าไปในครัวนั่น เราจะเห็นที่ตกแต่งสวยงามมากนะอยู่ในนั้น มันทนไม่ไหวก็ใส่เสียเปรี้ยงๆ ไปยืนฟาดเอาเสียแหลกแล้วก็ออกมา มันโมโห ไปวันนั้นดูนั้น ไปวันนี้ดูนี้

         มันแปลกต่างไปทางไหนมันไม่ได้แปลกต่างไปเพื่อขึ้นนะ เพื่อลงๆ ผู้หนึ่งฉุดแทบเป็นแทบตาย เวลามาเห็นมีแต่ข้าศึกของการฉุดการลากละซิก็เอาเสียบ้างนั่นแหละ อยู่ที่ไหนอยู่ไปอยู่ยากอะไร ขอให้ดูใจนี่ ขอให้ใจได้ที่เหมาะสมอยู่ได้หมด ที่ไหนอยู่ได้หมด ใจอยู่ในที่เหมาะสมคือธรรม สมถธรรมได้แก่ความสงบใจ มีสติปัญญาคุ้มครองรักษาตลอดเวลา ปราศจากภัยไปโดยลำดับลำดา อยู่ที่ไหนเย็นสบายๆ ชำระไม่หยุดไม่ถอย อะไรมีมากมีน้อยชำระออกๆ ฟาดเสียจนจ้าแล้วทีนี้หมด ในโลกอันนี้หมดเลย อะไรที่จะมาเป็นคู่แข่งกับธรรมชาตินี้ดูไม่ได้คู่แข่งเหล่านั้น ฟังซิ มันต่ำขนาดไหน เลวขนาดไหน สกปรกขนาดไหน กับธรรมชาตินั้นดูกันไม่ได้ เข้ากันไม่ได้เลย

         นี่ละไปที่ไหนจึงจ้าตลอด พระพุทธเจ้า สาวกอรหันต์ไปไหนท่านจ้าอยู่ภายในนะ ภายนอกก็เป็นเหมือนเราๆ ท่านๆ เพราะเรื่องธาตุเรื่องขันธ์มันเหมือนโลกทั่วๆ ไป การปฏิบัติดูแลเรื่องธาตุเรื่องขันธ์นี้ก็เป็นธรรมดาเหมือนกัน แต่ภายในของท่านจ้าๆ อยู่ตลอดเวลา หาที่ต้องติไม่ได้เลย หมดทางที่ต้องติ ตัวเองก็หาที่ต้องติไม่ได้ แล้วจะชมตรงไหนมันก็เลยชมไปเสีย ว่าจะตำหนิก็เลยไปเสียทุกอย่างๆ เรียกว่าเลยสมมุติ หาที่ต้องติไม่ได้ พูดได้แต่ว่าเลิศเลอ อันนั้นถ้าจะว่าเลิศเลอเหมือนโลกก็เอาอีกละเข้ากันไม่ได้อีก อันนั้นเลิศเลอขนาดไหน มันต่างกันอย่างนั้นนะ

         นี่ละธรรมที่พระพุทธเจ้าได้นำมาสั่งสอนสัตว์โลกพระองค์ครองอยู่นี้ พระพุทธเจ้าทุกองค์ครองธรรมประเภทนี้ พระสาวกอรหันต์ทั้งหลายท่านครองธรรมประเภทนี้ด้วยความอุตส่าห์พยายามบึกบึนอย่างที่พวกเราๆ ท่านๆ ทำนี่แหละ ผลได้ขึ้นมาเป็นลำดับๆ ได้สุดท้ายก็เรียกว่ายุติเรื่องกองทุกข์ทั้งมวล หมดโดยสิ้นเชิง เมื่อกิเลสตัวสร้างทุกข์ได้สิ้นซากลงไปจากหัวใจแล้วทุกข์ไม่มี บรมสุขก็ขึ้นแทน ไม่ต้องถามหา นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง ไม่ต้องถาม จ้าขึ้นมาเลย เหอ นี่เหรอนิพพาน ถามหาที่ไหนล่ะ ขอให้ใจจ้าขึ้น

         เวลานี้ใจถูกบีบบี้สีไฟตลอดเวลา เพราะฉะนั้นผู้ที่เข้ามาที่นี้ให้ดูภายในนะ อย่าดูตั้งแต่ภายนอกตกแต่งนั้นตกแต่งนี้ ไปที่ไหนเห็นแต่เรื่องตกแต่งภายนอกๆ ภายในไม่เห็นมี ไม่สนใจ เข้ากันไม่ได้นะ เราสั่งสอนนี้เราสนใจทั้งภายนอกภายใน ปฏิบัติให้ถูกต้องดีงามเสมอกันหมด เราไม่ได้ไปปล่อยว่าข้างนอกไม่เอาไหนไม่เอา ข้างนอกก็เรียบร้อยดีงาม มีขอบมีเขต มีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติต่อกัน  ภายในก็ปฏิบัติให้ถูกต้องดีงาม

         ส่วนที่สำคัญมากก็คือได้ภายใน พอได้ภายในแล้วที่ไหนปลงตกหมดเลย หมดไม่มีอะไรเสมอนี้ ที่มีก็อยู่ไปกินไปอย่างนั้นแหละ โลกเขาเป็นอย่างนั้น ธาตุขันธ์เราก็เป็นอย่างนี้ ก็อยู่ไปตามสภาพ ส่วนธรรมชาตินั้นเป็นยังไง หมดที่ต้องติแล้ว อดีต-อนาคตที่จะไปล่มจมที่ไหนอีกตามที่เคยเป็นมาไม่มี แล้วจะไปล่มจมที่ไหนอีกในอนาคตข้างหน้า ที่จะต้องไปเสวยทุกข์ด้วยเคราะห์กรรมอันชั่วช้าลามกของตนไม่มี ปัจจุบันเป็นยังไง จ้าอยู่แล้ว นั่นเห็นไหม ท่านจะมีความเดือดร้อนที่ไหน พระพุทธเจ้าสอนโลกไม่ได้สอนด้วยความเดือดร้อนนะ โลกนี้เดือดร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ พระพุทธเจ้าสอนด้วยความเย็นแห่งธรรมที่บริสุทธิ์ สาวกทั้งหลายสอนธรรมด้วยความเย็นบริสุทธิ์ของใจท่านทั้งนั้นแหละ พากันตั้งใจปฏิบัติ

         ศาสนาจะไม่มีเหลือแล้วนะในเมืองไทยเรา ก็มีหลวงตาคนเดียว เขาจะว่าเป็นบ้าก็เอาว่าไป ปากใครปากเราอยากพูดก็พูดไป ปากเราเป็นปากธรรมเราจะสอนไปอย่างนี้ ใครจะควรยึดเอาได้ข้อไหนเอายึด ยึดไม่ได้ก็ตามแต่กรรมของสัตว์เท่านั้นเอง ให้ตั้งใจปฏิบัตินะ การฝึกตนนี้ ไม่มีอะไรที่จะยากยิ่งกว่าการฝึกตนอบรมตน ฉุดลากตนนะ ตนนี้หนักมาก ภูเขาทั้งลูกเราไม่ได้แบกเขา แผ่นดินทั้งแผ่นเราไม่ได้แบกเขา แต่กิเลสตัณหาที่มันฟัดอยู่ในหัวใจนี้ทำให้หนักมากที่สุด แบกอันนี้หนักมาก บางคืนนอนไม่หลับ บางรายเป็นบ้าก็มี เพราะความคิดความปรุงของกิเลสมันทำให้หนัก หนักจนกระทั่งนอนไม่หลับ เป็นบ้าก็มี นี่ละอำนาจของกิเลส เมื่อชำระออกหมดโดยสิ้นเชิง อะไรจะมาทำให้นอนหลับไม่หลับ มันก็รู้เองเจ้าของ พากันจำนะ

         วัดนี้ก็คนหนาแน่นขึ้นทุกวันๆ เราก็ไม่ทราบจะแยกทางไหนๆ ให้ทางไหนๆ ให้เหมาะสม เราเป็นผู้ดูแลทุกอย่าง จัดทางไหนๆ จะเหมาะสมอย่างไรบ้างเราก็ดูแล ดังที่พูดตะกี้นี้ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านั้นแหละ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก