ธรรมเข้าสู่ใจแล้วมีคุณค่า
วันที่ 4 พฤษภาคม 2548 เวลา 8:05 น. ความยาว 39.27 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

ธรรมเข้าสู่ใจแล้วมีคุณค่า

 

ก่อนจังหัน

สำหรับวัดป่าบ้านตาดนี้ ไม่ให้มีงานอะไรยิ่งกว่างานภาวนาของพระและผู้มาบำเพ็ญในวัดนี้นะ ให้หนักแน่นในทางภาวนาอบรมจิตใจ ใจนี้เป็นตัวสำคัญมากทีเดียว โลกไม่มองกัน มองแต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียว มองโลกมีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวมองทั่วถึง นอกนั้นไม่มอง ว่าอย่างนี้เลยถนัดใจกว่า คือใจนี้เป็นตัวสำคัญมากทีเดียว ตัวพาเกิดพาตายได้รับความทุกข์ความลำบากทั้งหมดมาอยู่ที่ใจดวงเดียว ใจดวงนี้มีตัวพิษภัยอยู่ที่นั่น ท่านเรียกกิเลส ความเศร้าหมองมืดตื้อ คือกิเลสอยู่ภายในใจ ธรรมก็มีอยู่ด้วยกันแต่แสดงออกมาไม่ได้ เพราะอำนาจของกิเลสรุนแรงมาก เพราะฉะนั้นความทุกข์จึงมากยิ่งกว่าความสุข ความสุขมีน้อยมาก

เพราะฉะนั้นขอให้ท่านทั้งหลายได้ถือพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว พิสูจน์กันภาคปฏิบัติ พิสูจน์พุทธศาสนาเราพิสูจน์ด้วยภาคปฏิบัติ จะกราบพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้สนิทใจ โดยไม่ต้องได้เห็นพระองค์แหละ จ้าขึ้นนี้แล้วมันจะบอกไปหมดเลย เพราะฉะนั้นจึงให้พากันอบรมจิตใจให้ดี จิตใจเวลานี้เป็นฟืนเป็นไฟแสดงเปลวตลอดเวลา แสดงออก ความอยากนี้ละสำคัญ ความอยากความหวังนั้นหวังนี้พลุ่งๆ แล้วให้เจ้าของดีดดิ้นไปตาม ผิดหวังละมาก อยากส่วนมากผิดหวัง ได้มาแล้วไม่ถูกตามความอยาก เป็นภัยไปๆ

ขอให้ภาวนาด้วยความตั้งอกตั้งใจพระเรา ในวัดนี้ผมไม่ให้มีงานอะไรนะ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาวัดป่าบ้านตาดไม่ให้มีงานใดยิ่งใหญ่กว่างานภาวนา นี้ถือเป็นหลักทีเดียวสำหรับวัดนี้ ให้ได้ภาวนากัน หากมีความจำเป็นจะรบกวนเพื่อนฝูงบ้างก็ให้มีเป็นกาลเวลา แต่กำหนดไว้เสมอ ไม่ได้เหมือนภาวนา ภาวนานี้เอาตลอด ไม่มีว่ากำหนดเวลานั้นเวลานี้ ส่วนงานนอกเข้ามารบกวนนั้น หากจำเป็นจริงๆ ก็แยกให้เสียนิดหนึ่งๆ แล้วปัดออกเข้าสู่งานด้านภาวนา

ท่านทั้งหลายลงได้เห็นซิ เห็นใจเป็นยังไง อยู่กับใจไม่เคยเห็นใจตัวเองเป็นยังไง พระพุทธเจ้าสอนลงที่ใจว่ามหาเหตุๆ เป็นยังไงมหาเหตุนั่นน่ะ เอาคำสอนพระพุทธเจ้าปฏิบัติตามนั้นลองดู จะเห็นมหาเหตุ ขึ้นต้นมหาเหตุคือกิเลส ความดีดความดิ้น ความยุ่งเหยิงวุ่นวายเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ที่หัวใจแสดงออกมาๆ ทีนี้มหาคุณก็เอาจิตตภาวนาสอดเข้าไปๆ จะได้เริ่มเห็นกันๆ ระงับที่เป็นฟืนเป็นไฟลงด้วยน้ำคือจิตตภาวนาเรื่อย จิตใจจะเย็นขึ้นๆ เมื่อเย็นขึ้นเต็มที่แล้วครอบโลกธาตุ ไม่มีอะไรที่จะเลิศเลอยิ่งกว่าหัวใจที่ได้อบรมเต็มเม็ดเต็มหน่วยถึงขั้นธรรมธาตุ ไม่มีอะไรที่จะมาเสมอเหมือนได้แล้ว นี่ละใจสะอาดเป็นอย่างนั้นนะ

ใจสวยงาม ใจมีคุณค่า ไม่ได้เหมือนกิเลสมีคุณค่า ที่เสกสรรปั้นยอขึ้นมา อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี เสกขึ้นมาแข่งธรรม ธรรมเหมือนทองคำทั้งแท่ง กิเลสมันเหมือนมูตรเหมือนคูถ แข่งขนาดไหนมันก็เป็นกิเลสวันยังค่ำๆ แต่มันก็พอใจแข่ง ให้ถอยไม่มีถอยนะ กิเลสแข่งธรรมไม่มีถอย เหยียบไปจนได้ๆ นั้นแหละ แต่ผู้มีธรรมในใจเหยียบไม่ได้นะ ออกมาแง่ไหนๆ รู้หมดกลมายาของกิเลสออกแง่ใดรู้หมดๆ นั่นเรียกว่าธรรมเหนือโลก เหนือโลกก็คือเหนือกิเลสนั่นแหละ ถ้าไม่มีธรรมในใจจะมองไม่เห็นกิเลสเลย มีแต่กิเลสเหยียบเอาๆ

ให้ท่านทั้งหลายเอาภาวนานี้ไปปฏิบัติลองดู จะได้เห็นพระพุทธเจ้าสดๆ ร้อนๆ ว่านิพพานไปเท่านั้นปีเท่านี้เดือน ที่นั่นที่นี่ จ้าขึ้นในใจนี้เป็นอันเดียวกันหมดเลย ไม่ได้นิยมว่าไกลว่าใกล้ พระพุทธเจ้ามีกี่พระองค์ถึงกันหมดเลย เหมือนเราเอามือจ่อลงน้ำมหาสมุทร จ่อลงเท่านั้นถึงกันหมดมหาสมุทร ทีนี้จิตนี้พอจ่อเข้าสู่ธรรมอันเลิศเลอเหมือนกันหมดเลย ท่านแสดงไว้ว่า บรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ตรัสรู้เป็นผู้บริสุทธิ์แล้วเสมอกันหมด ท่านว่า ไม่จำเป็นจะต้องไปดูหน้าดูตา ดูอันนี้ถึงกันหมดเลย ท่านว่า นตฺถิ เสยฺโยว ปาปิโย ไม่มีผู้ใดยิ่งหย่อนกว่ากัน เสมอกันหมด คือจิตที่บริสุทธิ์เป็นธรรมล้วนๆ หรือธรรมธาตุแล้ว นี้เกิดขึ้นจากจิตตภาวนา ไม่มีใครที่จะรื้อฟื้นจิตขึ้นมาเป็นของเลิศเลอได้ นอกจากพระพุทธเจ้าเป็นพระองค์แรกๆ เท่านั้น ให้นำมาปฏิบัติ เราอยู่กับของเลว เอาของเลวไปแข่งธรรม เอาความทุกข์ไปแข่งความสุขมันแข่งได้ยังไง

ให้ตั้งใจภาวนาพระเรา อย่าดูอะไรยิ่งกว่าดูหัวใจ กิจการงานอะไรก็ตาม ให้ดูจิต สติติดแนบกับจิต หน้าที่การงานอะไรจะรอบคอบๆ ไม่ค่อยเผลอตัวถ้าไม่เผลอสติ ถ้าเผลอสติอะไรก็ไม่เป็นท่าทั้งนั้น สติเป็นสำคัญมาก แล้วปัญญาก็แนบกันไปๆ

 

หลังจังหัน

โรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ไม่ใช่น้อยๆ นะ เฉพาะที่ก็ ๔ ไร่ ๔ ล้านที่ขยายออกไป มันแคบ อยู่ในย่านตลาด ไม่ได้ห่างออกไปนะ อยู่ติดกับตลาด ทีนี้ที่มันก็แคบ เราเลยให้ติดต่อว่าที่ต่อกันไปนี้เขาจะขายไหม ให้ไปติดต่อ เขาโทรศัพท์ถึงกัน พูดกันเดี๋ยวนั้นตกลงเดี๋ยวนั้นเลยปุ๊บปั๊บ ที่ ๔ ไร่ ๔ ล้าน แล้วถมดินอีก โถ ไม่ใช่เล่น มันอยู่ลึก ถมขึ้นให้เสมอ เราบอกถมให้เสมอเลย เรายังไม่ลืมที่ไปซื้อที่ให้โรงพยาบาลสีชมพู แคบนิดเดียว ทางลงไปนาเขาเป็นทางตรงกลางมันก็ติดกับโรงพยาบาลอยู่เท่านี้ นอกนั้นก็ไม่มีที่ขยาย ถามเขาจะขายไหม จะขายสักเท่าไร กี่ไร่ ไปถามเขาได้ความแล้วเขาก็มาบอก ดูเหมือนที่ ๑๕ ไร่ แต่ก่อนมัน ๙ ไร่ โรงพยาบาลนี้มี ๙ ไร่เท่านั้นเอง เราซื้อออกไป เขาขายเท่านั้น ๑๕ ไร่ ก็ซื้อเอาหมดทั้ง ๑๕ ไร่ ดูเหมือนไม่ถึงล้านนะ ๑๕ ไร่ แต่เวลาถมดินนี้ฟาดเสียล้านสามแสนกว่า โน่นเห็นไหมล่ะ ถมสูงให้มันเสมอกัน ค่าถมดินแพงกว่าที่ซื้อที่ดิน อย่างนั้นแหละ ล้านสามแสนหรือไงถมดิน ซื้อที่ดินไม่ถึงล้าน ขาดนิดหน่อย บทเวลาถมที่แพงกว่า

ทุกแห่งแหละ ซื้อที่ขยายที่ให้ถ้ามันแคบตรงไหน นอกจากเขาไม่ขายก็สุดวิสัย มีอยู่หลายแห่งที่ไปดูมันแคบอยู่ ที่ต่อกันไปเขาไม่ขายมันก็หมดปัญญา  ก็ไม่ได้ซื้อแหละ คับแคบอยู่อย่างนั้น เช่นโรงพยาบาลดงหลวงนี่ก็แคบ เขาไม่ขายก็ไม่ได้ ถ้าขายก็ให้แล้ว อย่างนั้นละขยายๆ  อย่างอำเภอฝางนี่ยกให้ทั้งโรงเลยเทียว เข้าไปเหมือนอยู่ในครัว เนื้อที่ ๘ หรือ ๙ ไร่ อยู่กลางตลาดเลย อู๊ย อยู่ยังไง เข้าไปก็เห็นเอกซเรย์มันเสียแล้วแหละ เอาผ้าคลุมไว้เห็นมันโผล่ออกมา นั่นอะไร ศพอะไร เราว่าอย่างนั้น นั่นศพอะไรเอาผ้าคลุมไว้นั้น เขาบอกว่าศพเอกซเรย์ เขาเลยพูดตลกเลยว่าศพเอกซเรย์ แล้วทำไมเป็นอย่างนั้น มันเสียใช้ไม่ได้ ให้เลย แน่ะ

จากนั้นที่ก็แคบ เลยซื้อที่ใหม่ให้ดูเหมือน ๒๕ ไร่ หมดเท่านั้นแหละ เอาหมดเลยที่ ๒๕ ไร่ ยกอันนี้ออกไปเลย แต่เราบอกว่าเราไม่มีวัตถุสิ่งก่อสร้างให้ เราให้แต่ที่เท่านั้น ให้ติดต่อทางราชการเอา เราบอก เขารับรองว่าจะได้ เอา ถ้าได้เอาเลย เราก็ซื้อให้เลย ยกไปเลย ที่เก่านี่ก็ดูเหมือนจะเป็นสาธารณสุขไป ยกไปใหม่ ๒๕ ไร่ กว้างพอประมาณ เราไปดูเที่ยวหลังเขาทำเรียบร้อยแล้ว วัตถุสิ่งก่อสร้างมอบให้เขาทั้งหมด บอกว่าเรารับไม่ได้ เรารับให้แต่ที่เท่านั้น ซื้อให้ ๒๕ ไร่ หมดไปหลายล้านอยู่นะ อย่างนั้นละช่วยทุกแห่งทุกหน

ถ้าพูดถึงเรื่องการช่วยโลกนี้ เราอยากชี้นิ้ว ว่างี้เลย เราไม่คุยเราเอาธรรมออกพูดนี่นะ เราไม่ต้องการความยกยอสรรเสริญ เหยียบย่ำทำลาย เราเป็นธรรมล้วนๆ เหนือทั้งสองอย่างนี้แล้ว  เราจะพูดโดยธรรมๆ ทุกอย่าง ผิดถูกบอกตรงไปตรงมา ถ้าลงได้ออกแล้วถูกทั้งนั้นแหละ พิจารณาเรียบร้อยแล้วออก จะปฏิบัติตามหรือไม่ปฏิบัติตามก็เป็นเรื่องของเขา แต่เรื่องธรรมที่ออกไปนี้ถูกต้องแล้วๆ อย่างนั้นละเรา ขยายที่ให้โรงพยาบาลไม่น้อยนะ ที่ซื้อให้หมดก็มีโรงพยาบาลอำเภอฝางแห่งเดียว นอกนั้นซื้อเพิ่มๆ อู๊ย มากต่อมาก ทางไหนๆ ทางวาริชภูมินี่ก็เหมือนกัน เอากันครึ่งหนึ่งเลยเชียว ที่ของเขาเอาหมดเลย ขยายออกกว้าง น่าดู

มันช่วยหลายแบบหลายฉบับ ถ้าพูดถึงเรื่องการช่วยโลกเราอยากยกนิ้วเลย เราช่วยเต็มกำลังจริงๆ โดยไม่หวังอะไรเลย ไม่เอาอะไรเลย มากน้อยเราไม่เคยเอามาติดมือเราเลย ออกหมด เพราะเราช่วยด้วยความเมตตา เราไม่ได้ช่วยด้วยความหิวโหยอะไร เราไม่มี ช่วยล้วนๆ มีอะไรออกบริสุทธิ์ใจๆ จะจ่ายมากจ่ายน้อย ก็อย่างนี้ละ เขาว่าเท่านั้นๆ จ่ายตามนี้เลย ก็ถูกต้องตามนั้นแล้วใช่ไหมล่ะ อย่างนี้ละเรียกว่าบริสุทธิ์ อย่างเขาว่ากี่แสน เอ้าจ่ายเลย แน่ะมันก็ถูกต้องแล้ว อย่างนั้นละจะจ่ายมากจ่ายน้อยให้มีเหตุมีผลถูกต้องดีงาม จ่ายชุ่ยๆ เราไม่เอา ต้องให้แม่นยำ หมดมากหมดน้อยให้มีเหตุมีผลครอบๆ อยู่หมด เราทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ ทำอะไรเหมือนกันต้องแม่นยำๆ ไปตลอด จะหมดมากหมดน้อย เอ้า หมดไปด้วยเหตุผล เอาเหตุผลจับปุ๊บๆ เข้าไปเลย

เราช่วยจริงๆ เต็มกำลังความสามารถของเราละการช่วยโลก การก่อสร้างนี่ก็ สมบัติเงินทองที่รักสงวนของพี่น้องทั้งหลายโกยออกมาช่วยพี่น้องร่วมชาติกัน ที่ไหนบกพร่องขาดเขินช่วยไปๆ โรงเรียนกับโรงพยาบาลนี้มากจริงๆ  โรงพยาบาลรู้สึกจะมากกว่าโรงเรียนเสียอีก โรงเรียนก็ว่ามากแล้ว แต่โรงพยาบาลยังมากกว่านั้น คือโรงพยาบาลไม่ขาดวรรคขาดตอน สร้างตึกให้เรื่อยๆ โรงเรียนยังมีขาดบ้าง นี่ก็ขาดไป พึ่งมาสร้างหลังนี้หลังหนึ่ง(โรงเรียนบ้านกกสะทอน) ขาดเป็นวรรคเป็นตอนบ้าง แต่โรงพยาบาลไม่ค่อยขาด ติดกันมาเรื่อยๆ เราช่วยอย่างนี้แหละ

เงินที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมานั้นให้ตายใจได้เลย บอกว่าเราไม่มีอะไรเลย ช่วยจริงๆ ช่วยโลก ไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว ที่จะไปหยิบนั้นหยิบนี้ของพี่น้องทั้งหลายมา เราบอกไม่มี ตัดขาดเลย เราพอแล้วทุกอย่าง เห็นไหมอาหารบิณฑบาต ฉันให้ตายก็ตาย เหลือเฟือ แต่ผู้ที่อดอยากขาดแคลนมียังไงก็ต้องดูกันให้ทั่วถึงซิ คนอยู่ด้วยกันไม่ดูกันจะดูใคร จะดูแต่ตัวของตัว คนที่ดูแต่ตัวของตัว คนนี้คอยเอารัดเอาเปรียบนะ คอยรีดคอยไถคอยคดคอยโกงหลายสันพันคม คือคนที่มองดูตัวเอง ไม่ได้มองดูรอบด้าน ถ้ามองดูรอบด้านมันจะกระจายออกทันที ความจำเป็นที่ไหนๆ เขากับเราจำเป็นมันก็เหมือนกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นมันก็ต้องเฉลี่ยถึงกันๆ นี่ละเรื่องธรรมเป็นอย่างนั้น ธรรมไม่ได้มองแคบนะ ธรรมมองกว้างทีเดียว

เรานี่พอใจที่เราช่วยชาติคราวนี้ ช่วยสุดขีดสุดแดน สุดกำลังความสามารถทุกด้านทุกทาง ทางด้านวัตถุก็ดังที่เห็นนั่นแหละ หมดเลย มีเท่าไรทุ่มลงหมด ด้านนามธรรมเวลานี้ก็กำลังออก เทศนาว่าการก็ออกทั่วโลกมานานแล้ว ยังวิทยุในเมืองไทยเราก็กำลังกระจายออกไปเวลานี้ ธรรมนี้รู้สึกว่าสำคัญมากนะ เข้าสู่จิตใจแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะดีไปตามๆ กัน ถ้าธรรมเข้าสู่ใจ นอกจากนั้นเลอะเทอะนะ อะไรจะมีมากมีน้อยไม่สำคัญ ถ้าธรรมเป็นหลักใจไม่มี สิ่งเหล่านั้นไม่แน่นอน ถ้ามีธรรมเป็นหลักใจแล้วแน่นอนไปตามส่วนของมัน ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ไม่ลืมเนื้อลืมตัว คือคนมีธรรมในใจ

ถ้าไม่มีธรรมในใจแล้วลืมตัวทั้งนั้นแหละคนเรา มีมากเท่าไรลืมตัวไป เดี๋ยวเย่อหยิ่งจองหองและเหยียบหัวคนอื่นไปด้วยนะ เป็นอย่างนั้นละกิเลส ถ้าธรรมไม่เหยียบ เหยียบไม่ลง เสมอกันหมดเลย อำนาจเมตตา ตั้งแต่เล็กถึงใหญ่เมตตาซ่านถึงกันหมด เสมอกัน เหมือนอวัยวะของเรา นิ้วไหนๆ ก็ของเราๆ รักอันไหนมากอันไหนน้อย มันเท่ากันหมด นั่น อันนี้ก็เหมือนกัน ความเมตตาเสมอกันหมดเลย ความเมตตาไปไหนเย็นไปหมดนั่นแหละ ขอให้เอาธรรมเข้าสู่ใจ จิตใจจะกว้างขวาง ตาของเราก็จะกว้าง หูก็จะกว้าง ความคิดความอ่านจะกว้างเพื่อผู้อื่นๆ อย่าเพื่อเรา

เราเกิดมานี้เกิดมากับเพื่อนกับฝูง ต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วก็ต้องมองกันคนเรา ถ้ามองไปแล้ว เรื่องราวที่ไม่ดีนั้นมีน้อยมากนะ เรื่องดีจะมากขึ้นๆ ถ้าดูแต่เจ้าของ เรื่องราวที่ชั่วช้าลามกจะมากขึ้นโดยลำดับ ไปที่ไหนเดือดร้อน คนที่มองแต่เจ้าของไปที่ไหนมักจะทำความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น แต่คนที่มีจิตใจอันกว้างขวางโดยอรรถโดยธรรมแล้วจะเย็นไปเรื่อยๆ พากันจดจำเอา ธรรมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เราฟื้นธรรมขึ้นมา ในปัจจุบันนี้ก็คือหลวงตาบัว อีตาบัวนี้แหละ ที่รื้อธรรมขึ้นมาให้ท่านทั้งหลายได้ทราบทั่วหน้ากัน ถอดออกมาจากหัวใจ ที่กระจ่างออกไปหมดออกไปจากใจนะ ไม่อย่างนั้นพูดไม่ได้

ไม่รู้ไม่เห็นพูดได้ยังไง มันเห็นมันรู้ก็พูดออกมาตามส่วนเห็น อะไรที่ควรจะออกหนักเบามากน้อยก่อนหลังมันก็ออกของมันไปเรื่อยๆ เพราะมันเห็นอยู่นี่ อะไรที่ยังหนักอยู่ก็ปล่อยไว้เสียก่อน อะไรที่ควรแก้ไขดัดแปลงก็ช่วยกันไปเรื่อยๆ อย่างนี้ นั่นละธรรมเป็นอย่างนั้น โลกอยู่ด้วยกันผาสุกด้วยธรรมนะ เราอย่าเข้าใจว่าอยู่ด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ อยู่ด้วยความมั่งความมีดีเด่นโดยไม่มีธรรมในใจ อยู่ไม่ได้นะ ร้อน ถ้ามีธรรมในใจ คนทุกข์ก็ดี คนมั่งมีก็ดี เย็นไปตามๆ กันหมด ขอให้มีธรรมแทรกเข้าในใจเถอะ นี่ละเครื่องหล่อเลี้ยง ทุกสิ่งทุกอย่างสมบัติเงินทองจะเย็นไปตามๆ กันถ้าใจมีธรรมเสียอย่างเดียว ถ้าใจไม่มีธรรมร้อนไปหมดนะ ให้ท่านทั้งหลายนำธรรมนี้ไปปฏิบัติต่อใจตัวเอง ไปไหนท่านทั้งหลายจะมีเพื่อนฝูงมากทีเดียวนะ มีความเฉลี่ยเผื่อแผ่ เห็นใจเขาใจเรา ตาก็กว้าง หูก็กว้าง ใจก็คิดกว้าง ไม่คับแคบตีบตัน ไปไหนเบิกกว้างไปหมดเลย

ไปเมื่อวานซืนนี้ เราก็อดไม่ได้นะ เราเอาของไปลงที่ด่าน คือเราไม่ลงรถแหละ ตั้งแต่นั่งรถปั๊บเข้าไปจนกระทั่งมาถึงวัด ถึงลงรถทีเดียว ไม่ลงที่ไหนเลย ไปนี้บึ่งไป ไปถึงด่านนี้เปิดท้ายรถออก ขนของๆ ออก เสร็จเรียบร้อยแล้วบึ่งเลยเราไม่ลง ทีนี้ก็ไปด่านสุดท้ายที่มันน่าคิดนะ พอไปด่านสุดท้ายคนเต็มอยู่นั้น โห คนมายังไงมากมายนัก เราก็ไปจอด เขาเต็มอยู่นั่น พอไปจอดเปิดประตูรถออกจะเอาของลง พอเขามองเห็นนี่รู้หมดนะ ตาลุกวาวแล้วรุมเข้ามาเลยเต็มไปหมด อ้าว มายังไงไปยังไง รู้ไหมว่าเป็นใคร โอ๊ย หลวงตาบัว รู้ได้ยังไง รู้ทางทีวี อย่างนี้แหละ เราปุ๊บปั๊บบอกว่า นี่จะไปยังไงกันเห็นมากมายนัก อ๋อ จะไปนครสวรรค์ แล้วอยู่จังหวัดไหนล่ะ อยู่จังหวัดชลบุรี

แล้วหัวหน้าเขาปุ๊บปั๊บเข้ามานี้ รู้สึกจะกระเทือนใจอยู่มากละท่า ถ้าคิดให้กว้างออกไปก็คือว่า ผู้นี้แหละผู้ช่วยโลก ความหมายว่าอย่างงั้น มันก็ถึงใจเขาล่ะซิ ไม่เคยเห็นหน้าก็ตาม เห็นในทีวีก็ทีวีช่วยโลกจะว่าไง พอปุ๊บปั๊บมา เขาก็จับเท้าเราไปถูหัวเขา คนนั้นละคนที่เป็นหัวหน้า จับเท้าเราไปถูหัว เอ้า ถูอะไร เท้ามันสำหรับเหยียบขี้เหยียบตดเหยียบอะไรไปอย่างนั้น ไม่ใช่เพื่อเหยียบหัวคน อู๊ย เหยียบหน่อยเถอะ ว่าอะไรยิ่งเอาใหญ่ แน่ะก็เป็นอย่างนั้น นี่มันก็กระเทือนถึงว่า ผู้นี้เองผู้ช่วยโลกน่ะ ถ้าจะคิดกว้างขว้างออกไปก็คือผู้นี้แหละ มันก็ถึงใจเขาเองใช่ไหมล่ะ

เคยเห็นหน้ากันอะไรคนนี้ ไม่เคยเห็น มาๆ จับฝ่าเท้าเราไปถูหัวเขา เอ้า ฝ่าเท้าสำหรับเหยียบขี้เหยียบตดไม่ได้เพื่อเหยียบหัวคน โอ๊ย เหยียบเถอะยิ่งถูใหญ่เลย เอาใหญ่เลย ถูเอาเสียจน...เอาละพอๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสทั่วหน้ากันหมด นี่เห็นไหม นี่ละเรื่องความกว้างขว้าง มันถึงกันหมดอย่างนี้ เราเคยเห็นกันที่ไหนกับเขา ทำไมรุมเข้ามาแล้ว เครื่องหมายก็คือว่า อุ้มชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มองเห็นปั๊บเขารู้ทันทีว่าเป็นผู้นำการช่วยชาติในคราวนี้คือเรา แน่ะ มันกระเทือนถึงกันหมด เพราะฉะนั้นใจมันถึงลงทันทีเลย เท้าเราอยู่นี้มันก็ยังมาจับไปถูหัวมัน บอกว่าเท้านี่สำหรับเหยียบขี้นะ โอ๊ย ไม่สนใจ เหยียบขี้อะไร ขอเหยียบหัวสักหน่อยเถอะยิ่งถูใหญ่เลย ขบขันดีนะ

นี่ละหัวใจลงอย่างนั้นละ ธรรมพาให้ลง เราก็เลยไม่ลืม มันไปสัมผัสก็เลยเล่าเสีย ออกจากนี้ก็จะไปทางนครสวรรค์ มีโอกาสพากันมาเที่ยว เขาว่างั้นนะ มาจากจังหวัดชลบุรีมากนะ ไม่ใช่เล่นๆ รุมกันมาหมดเลย โอ๋ เมืองชลเราก็ไป กลับเมื่อสองสามวันนี่แหละเราก็ว่างั้น พึ่งกลับมาจากกรุงเทพเราก็มาที่นี่ ก็มีเท่านั้นไม่มีอะไร วันนี้ก็อย่าให้พูดมากนักละ เทศน์ขนาดนี้ก็พอดีแล้ว เรื่องธรรมเข้าสู่ใจ เรื่องธรรมเข้าสู่ใจมีคุณค่ามากนะ ขอให้ท่านทั้งหลายนำธรรมเข้าสู่ใจ ให้จิตใจกว้างขว้าง ตาเบิกบานดูกันให้ทั่วถึงโลกเรา ตา ใจ ดูกันทั่วถึง เฉลี่ยถึงกัน เมตตาต่อกัน จะกว้างขวางไปหมด ไม่ต้องถามถึงชาติชั้นวรรณะฐานะสูงต่ำประการใด อยู่จังหวัดใดภาคใดไม่ต้องถาม มนุษย์เหมือนกันเท่านั้นเสมอกันหมดทั่วโลก เมื่อธรรมะเข้าถึงนี้กระจายทั่วกันไปหมด ความดีถึงกันลงกันได้ ก็เห็นไหมล่ะ อยู่ๆ ก็เอาฝ่าเท้าเราไปเหยียบหัวมัน เห็นไหมล่ะ เคยเห็นกันที่ไหนสักที นั่นน่ะใจมันลง ลงเพราะเหตุไรเขาก็รู้แล้ว เป็นอย่างนั้นแหละ ต่อจากนี้ก็จะให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก