เห็นตัวว่าผิดก็แก้เสีย
วันที่ 5 มีนาคม 2548 เวลา 8:45 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

เห็นตัวว่าผิดก็แก้เสีย

 

         ผู้กำกับ        “หลวงตามหาบัว” เปิดฎีกา ประกาศต่อหน้า “สงฆ์-ฆราวาส” นับหมื่น ยืนยันเจตนารมณ์ “ขับสมเด็จเกี่ยว-ไม่ตั้งวิษณุ” ถวายแน่ 7 มี.ค.นี้ ยอมรับ เรียกร้องมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเห็นผล ระบุ “วิษณุ” ต้นเหตุ สร้างความแตกแยกในหมู่ “พุทธบริษัท”

วันนี้(4 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ว่า เมื่อเวลา 12.30น. พระสงฆ์และฆราวาสนับหมื่น ได้เริ่มทยอยเข้าสู่ภายในศาลาใหญ่ วัดป่าบ้านตาด และในเวลา 13.00 น. พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” ได้เข้ามาในศาลา และทักทายกับกลุ่มผู้ร่วมชุมนุม

จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.40 น. หลวงตามหาบัว ได้มอบหมายให้นายทองก้อน วงศ์สมุทร ศิษย์เอก อ่านเนื้อหาในฎีกาต่อพระสงฆ์และฆราวาสที่ร่วมชุมนุมอยู่ ซึ่งก่อนอ่านฎีกา นายทองก้อน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนอ่านฎีกา นายทองก้อน ได้ยกเรื่องการต่อสู้นางไฮ ขันจันทา ที่เป็นหญิงชราที่มีความทุกข์เรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน และต้องต่อสู้กับความไม่ถูกต้องของรัฐ จึงสามารถนำที่ดินของตนกลับคืนมาได้ กรณีดังกล่าวก็เหมือนกับการต่อสู้ของหลวงตามหาบัว ที่ต่อสู้กับความไม่ถูกต้องของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่กำลังดำเนินการอยู่ พร้อมกับได้ถามในที่ประชุมว่า  “เราจะพร้อมที่จะยกภูเขาออกจากอกหลวงตาได้หรือไม่”

เมื่อนายทองก้อนได้อ่านเนื้อหาในฎีกาซึ่งมีความยาว 5 หน้า เสร็จ หลวงตามหาบัว ได้มีเมตตาเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวซักถาม โดยผู้สื่อข่าวถามว่า เนื้อหาในฎีกาส่วนใหญ่ เป็นเรื่องเดิมที่เคยต่อสู้ และยื่นเรียกร้องมาแล้วหลายครั้ง ทำไมจึงยื่นอีก หลวงตามหาบัว กล่าวว่า การเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เสนอให้รัฐบาลหลายครั้งไม่เคยได้รับการแก้ไข เอาปัญหาไปเก็บไว้ในลิ้นชัก ไม่ทำอะไรที่เป็นรูปธรรมออกมา จึงต้องยื่นฎีกา ถวายต่อพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงพระวินิจฉัย ขณะเดียวกันไม่วางใจการใช้อำนาจป่าเถื่อนของนายวิษณุ ที่ก่อความไม่สงบให้แตกสามัคคีในหมู่พุทธบริษัท เดือดร้อนทั่วสังฆมณฑล โดยเฉพาะกับการเคลื่อนไหวของหลวงตามหาบัวและลูกศิษย์ ที่พยายามปิดกั้นไม่ให้เคลื่อนไหว เช่น ปิดกั้นการถ่ายทอดคลื่นสัญญาณธรรมะของหลวงตาบัว

จากนั้นในเวลา 14.50 น. หลวงตามหาบัวได้ให้ศีลให้พรกับคณะสงฆ์และฆราวาส ที่ร่วมชุมนุม เป็นอันเสร็จพิธี ประชาชนบางส่วนก็เริ่มทยอยกลับ บางส่วนก็เข้าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดป่าบ้านตาด

ทั้งนี้นายทองก้อน วงศ์สมุทร ศิษย์เอกหลวงตามหาบัว พร้อมด้วยคณะสงฆ์และฆราวาสประมาณ 10 คน จะนัดชุมนุมกันที่สนามหลวง ก่อนจะเดินทางไปยื่นฎีกาต่อ ที่สำนักงานราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ในวันที่ 7 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น.

หลวงตา       เขาเล่าตามเหตุการณ์ที่ประชุมไปแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร เล่าตามความจริงที่ประชุมไปแล้ว ประชุมกันยังไงๆ ก็เล่าตามนั้น ก็ไม่เห็นมีอะไร เราที่นำพี่น้องชาวไทยมานี้เรายังไม่เคยมีข้อตำหนิในตัวของเราว่า ได้นำพี่น้องไปด้วยความผิดพลาดโดยเจตนาอย่างใดอย่างหนึ่งไม่มี เรานำด้วยความเป็นธรรมล้วนๆ นำด้วยความเมตตา ถึงขนาดที่ว่าร้องโก้ก ที่เมืองไทยจะล่มจมลงต่อหน้าต่อตาของพี่น้องชาวไทยซึ่งเป็นลูกหลานของปู่ย่าตายายไทยของเรามาดั้งเดิมนี้ จะพากันจมลงทะเลหลวงให้เห็นต่อหน้าต่อตา

เราก็ไม่เคยสนใจกับทางบ้านเมืองมาแต่กาลไหนๆ ตั้งแต่บวชมาไม่เคยสนใจ รัฐบาลตั้งมากี่ชุด เรื่องทราบนั่นทราบมาโดยลำดับ ยิ่งเป็นพระอายุแก่เข้าเท่าไรสังคมก็ยิ่งกว้างขวาง วงราชการต่างๆ กระทรวงไหนเป็นลูกศิษย์ทั้งนั้นๆ อยู่ในนั้นมีอยู่หมด เขามาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ก็ฟังธรรมดาๆ เราไม่เคยสนใจ แต่ที่จะให้สนใจก็คือมากระเทือนเอาใหญ่หลวงคือว่า หัวใจของชาติไทยเรานี้จะพัง เมื่อหัวใจของชาติไทยเราจะพัง คือคลังหลวงจะพังพูดง่ายๆ แล้วคนไทยต้องพังหมดไม่มีอะไรเหลือ ร้องโก้กตรงนี้เอง คือมันจุดสำคัญจุดนั้น เรื่องราวเป็นอย่างนั้น

ติดหนี้เขาเท่านั้นๆ เรายังไม่แล้วให้เขาตามเข้าไปอีก ค้นเอาต้นตอที่แท้จริงออกมา ได้ความชัดเจนแล้วยิ่ง โอ๋ย เป็นไฟขึ้นเลยถ้าพูดภาษาของโลก มองเห็นสภาพของพี่น้องชาวไทยตั้ง ๖๒ ล้านคน หมูหมาเป็ดไก่ไม่มีเว้น จะจมไปด้วยกันหมดเลย นี้เป็นยังไง ปู่ย่าตายายของเราพาถ่อพาพายมาจนถึงบัดนี้เป็นความสงบร่มเย็นตลอดมา แต่มาถึงลูกหลานไทยแล้วทำไมจะพาชาติไทยของเราจม นี้เป็นไปได้เหรอ เท่านั้นละขึ้นแล้วที่นี่ ต่อจากนั้นก็เรื่อย ด้วยเจตนาต่อพี่น้องชาวไทย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราเทิดทูนสุดหัวใจตลอดมา เราจึงได้ออกดำเนินการอย่างนี้แหละ

เราไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องโลกสงสารที่จะให้ไปกระทบกระเทือน ให้เขาเกิดความเสียหายจากเรา ไม่มี เราพิจารณาโดยธรรมทุกอย่างๆ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากธรรม ถ้าเป็นธรรมแล้วเราหมอบทันที หมอบกราบๆ ถ้าไม่เป็นธรรมปัดออก มันจะเป็นข้าศึกต่อธรรมซึ่งเป็นมหาคุณอันใหญ่หลวงครอบโลกธาตุ เราก็ดำเนินไปเรื่อย เราจึงไม่สงสัยในการดำเนินของเราว่าได้พาพี่น้องทั้งหลายผิดพลาดไปด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา เพราะว่าโง่เขลาตรงไหนก็ยังไม่เห็น ก็ราบรื่นมาอย่างนี้เราทำมา เราพูดให้ฟังชัดๆ อย่างนี้ พี่น้องชาวไทยฟังเอา ออกทั่วประเทศ กิริยาอาการอะไร ความผิดความพลาด ความหลงลืมอะไรก็ออกนี้หมดให้เห็นทั่วหน้ากันนั่นแหละ

เราไม่มีอะไรสำหรับโลกนี้ที่จะให้โลกกระทบกระเทือนจากธรรมของเราที่ออกแสดงไม่มี ผิดเราบอกว่าผิด ถูกเราบอกว่าถูกตามความเป็นจริงไปเลย จึงเรียกว่าธรรม ธรรมต้องเสมอไปหมด จะยกว่าเป็นสูงเป็นต่ำไม่ได้ธรรม ธรรมเหนือหมดแล้ว ต้องเอาธรรมนั้นออกมา การมาทำเหล่านี้เราไม่ได้อยู่ในวงกรณีพิพาทอันนี้ เป็นผู้ต้องหาหรือเป็นคู่ต่อสู้กับพี่น้องทั้งหลายทั้งชาติไทยของเรานี้แหละ เราไม่มี เราเอาธรรมมาสอนโลกต่างหาก ผิดถูกประการใด ควรคัดควรเลือกประการใด ตำหนิติเตียนประการใด เราจะพูดตามธรรมๆ เราไม่มีเรื่องโลกเข้ามาแฝงเลย เราพูดอย่างนี้มาตลอด

ดังที่เสนอเรื่องเหล่านี้ก็เสนอความเห็นของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ เข้ามาสู่จุดรวมคือเรา ให้เราเป็นผู้นำออกเสนอ เราก็เห็นดีด้วย เมื่อเห็นดีแล้วเราก็นำออกเสนอดังที่เสนอไปแล้วนี้ เมื่อวานนี้ก็ได้อ่านกัน นี่คือความคิดเห็น ความพอใจของพี่น้องชาวไทยเราต้องการให้เป็นอย่างนี้ เราก็นำเรื่องเหล่านี้ออกมา แต่เราเป็นหัวหน้า เขาก็ต้องบอกมาหาหลวงตาบัว อะไรก็หลวงตาบัวๆ หลวงตาบัวรับทราบไว้ทั้งหมดทั้งดีทั้งชั่วผิดถูกประการใด รับทราบไว้โดยธรรม ไม่มีฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ธรรมไม่มีฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ผิดตรงไหนบอกตรงนั้นเลยๆ ก็บอกเรื่อยมาอย่างนี้

ที่เรานำออกเสนอนี้ก็เป็นเรื่องของหัวใจพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศที่เสนอเข้ามา เราหัวหน้าก็ต้องนำออกตามความเสนอของพี่น้องชาวไทย ไม่ใช่ความเห็นของคนหนึ่งคนใดเท่านั้น เป็นความเห็นของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศที่ออกเสนอคราวนี้ จึงเป็นเรื่องใหญ่โต อะไรจะมาขวางไม่ได้ ต้องออกตามนี้ นี่เป็นพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศแสดงตัวออกมา คนทั้งประเทศออกมาเสนอคราวนี้ จึงให้ท่านทั้งหลายทุกๆ คนทราบทั่วหน้ากัน เราไม่ได้มีฝักมีฝ่าย ฝ่ายโน้นฝ่ายนี้เราไม่มี เราเป็นอรรถเป็นธรรมมาล้วนๆ

ข้อเสนอนี้เราก็เห็นด้วย เป็นความถูกต้อง ที่เสนอมาว่าผิดประการใด ใครผิดยังไงๆ ก็แสดงมาตามความผิดนั้น ก็ไม่เห็นมีอะไรขัดข้อง เราก็นำเสนอตามนั้น ก็เป็นธรรมทั้งนั้นนี่นะ ใครที่เห็นตัวว่าผิดก็แก้เสียซิ จะมาขวางลำอยู่ทำไม มาเป็นก้างขวางคอของคนทั้งประเทศ มันก็เป็นมหาภัยของคนทั้งประเทศนั้นเอง มีกี่คนก็ตามก็คือก้างขวางคอนั้นเอง ขวางคอของคนทั้งชาติ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะมาเป็นก้างขวางคอของคนทั้งประเทศทั้งๆ ที่เราเป็นคนไทยด้วยกัน ควรจะแก้ไขดัดแปลงตนเองให้เป็นคนดีต่อไปเท่านั้นถึงถูกต้องดีงาม สมกับน้ำใจของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศที่แสดงออกมา อยากให้เป็นความมุ่งหมายอย่างนี้ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วก็ไม่มีเรื่องอะไร

เดี๋ยวนี้มันขัดมันขวางอยู่นี้ก็เกิดเรื่องนั่นเอง เกิดเรื่องเพราะมาขัดมาขวาง เป็นก้างขวางคอของคนทั้งชาติ มันดูไม่ได้ว่างั้นเถอะ ก็ต้องแสดงออกมาตามเรื่องความเป็นมาอย่างนี้ ไม่ผิดที่ผู้เสนอออกมา คนทั้งชาติมาหาเรา เราพิจารณาเรียบร้อยแล้ว เราถึงพานำออกให้ทราบด้วยกันเท่านั้นเอง เราไม่มีอะไร เราเอาธรรมมาสอน เรื่องราวที่ท่านทั้งหลายเสนอมาก็เพราะเห็นว่าเราเป็นจุดศูนย์กลางหรือเป็นผู้นำ มาเสนอเรา เราก็แสดงตามเรื่องราวที่เป็นมาอย่างนั้น เราไม่มีฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ ธรรมเหนือหมด ธรรมพระพุทธเจ้าเหนือหมดแล้ว พากันเข้าใจตามนี้ก็แล้วกัน

ผู้ที่ผิดพลาดประการใดก็อย่าทะนงตัวเก่งกว่าคนทั้งชาติ ไม่ดี คนไหนที่ว่าเก่งกว่าคนทั้งชาติ คนนั้นคือเลวกว่าคนทั้งชาติอีกละ นั่น ให้แก้ไขดัดแปลง ไปกีดไปขวางเขาทำไม คนทั้งชาติความคิดเห็นของเขาถูกต้องแล้ว ที่เขาตำหนิติเตียนตรงไหนๆ เป็นความถูกต้องแล้ว เราควรจะแก้ไข เราเป็นคนผิดอย่างนั้นแล้วต้องแก้ไขถึงถูกต้อง ไม่แก้ไขจะมาเป็นก้างขวางคออยู่ต่อไปมันก็ต้องเกิดเรื่อง คนทั้งชาติไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ คนใดคนหนึ่งไม่มีอำนาจเหมือนคนทั้งชาติ คนทั้งชาติมีอำนาจเสมอหน้ากันหมด เป็นประชาธิปไตยจะว่าไง แสดงความเห็นออกตามความรู้ความเห็นของตน แน่ะ มันก็ไม่ผิด ในนามประชาธิปไตยก็ถูกต้องแล้วนี่ หนังสือพิมพ์เขาออกก็ถูกต้องแล้ว ตามที่เสนอไปนั่น ก็ไม่เห็นมีอะไร แล้วมีอะไรอีกล่ะ

ผู้กำกับ        กราบเรียนเพิ่มเติมครับ ทีวีช่อง ๙ รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ออกเมื่อคืนนี้ ทำให้ผู้ที่รับชมรับฟังเข้าใจหลวงตาดียิ่งขึ้น ว่าได้เสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แรกๆ เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหลวงตาต้องถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พอเขาดูรายการเมื่อคืนนี้แล้ว เขาเข้าใจได้ดีและเห็นใจหลวงตายิ่งกว่าเดิมครับ

หลวงตา       ก็อย่างนั้นแล้ว เรามุ่งความเป็นธรรม เราออกเป็นธรรมนี่ จะมาขัดแย้งกันที่ตรงไหน มีเท่านั้นนะ

ผู้กำกับ        ผู้ใกล้ชิดคุณทองก้อน แจ้งมาว่า มีผู้พูดโทรศัพท์ขู่จะฆ่าคุณทองก้อน ในกรณีที่จะยื่นฎีกาในครั้งนี้

หลวงตา       นี่เราตอบตลกนะ ผู้ที่โทรศัพท์มาจะมาฆ่าคุณทองก้อน ทางนี้ก็โทรศัพท์กลับไปก็แล้วกัน ใครจะฆ่าคุณทองก้อน ให้รีบไปฆ่าคนๆ นั้นก่อนเข้าใจไหม นี่เป็นข้อตลก ตัวเหตุมันอยู่นี่

ผู้กำกับ        เขาว่ายื่นฎีกาเมื่อไรจะฆ่าเมื่อนั้นครับ

หลวงตา       ถ้าทางนั้นจะฆ่าเมื่อนั้น ทางนี้จะฆ่าก่อนนั้นอีก เข้าใจไหม คนทั้งประเทศนี่ จะมาอวดดีใส่กันได้ยังไง ปากไหนออกมา ทางนี้มันกี่ร้อยปาก มีปากทุกคนพูดได้ทุกคน แม้แต่หลวงตาบัวก็ยังพูดว้ากๆ อยู่เดี๋ยวนี้ ก็มีเท่านั้นละ อู๊ย เรื่องสกปรกขี้เกียจพูด ก็พูดไปอย่างนั้นละ เราไม่มีอะไรกับใคร เขาว่าอะไรก็ฟังในฐานะที่ว่าเป็นธรรมสำหรับโลกไว้ใจ ก็แสดงตามธรรมไปเท่านั้นเอง เราไม่มีอะไร

ผู้กำกับ        คุณทองก้อนเขาจะไปยื่นวันที่ ๗ มีนาครับ

หลวงตา       เขายื่นก็เป็นเรื่องของเขายื่นนี่นะ เป็นเรื่องของแผ่นดินไทยไปยื่น ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ใช่คุณทองก้อน คุณทองก้อนทำหน้าที่ต่อคนทั้งแผ่นดินไทย คุณทองก้อนจะมีอะไร คุณทองก้อนก็เหมือนกับเราๆ ท่านๆ นี้เอง แต่เมื่อได้ทำหน้าที่ของคนทั้งชาติ มอบความไว้วางใจให้ก็ออกมาแสดงตามหน้าที่ของตัวเอง ที่ได้รับมอบหมายมาจากคนทั้งชาติแล้วเท่านั้น ก็ไม่เห็นผิดอะไร เอะอะ คุณทองก้อนๆ คุณทองก้อนผิดอะไร คุณทองก้อนทำงานเพื่อคนทั้งแผ่นดิน ไม่ใช่ธรรมดา คุณทองก้อนผิดที่ตรงไหน ไปหาใครจะมาปฏิบัติหน้าที่อย่างคุณทองก้อนนี้มีที่ไหนล่ะ พิจารณาซิพี่น้องชาวไทยให้ทราบทั่วหน้ากันนะ คุณทองก้อนไม่ได้ผิดที่ไหน ตัดคอรองคนทั้งชาติไว้ตลอดมาก็คือคุณทองก้อนที่ออกมาทุกวันนี้ ใครก็จะฆ่าๆ ไอ้ผู้ที่จะเขามันก็กำลังจะตาย ดีไม่ดียังไม่ได้ฆ่าเขามันตายเสียก่อนก็ได้ เราไม่ได้แน่ใจกับหัวมันละ เพราะลมหายใจของเขาของเรามันเหมือนกัน หมดเมื่อไรตายเมื่อนั้น ก็มีเท่านั้นเอง

         เรานี่มันพูดอะไรตลกไปเสียด้วยในตัว อย่ามาถือสีถือสากับเราไม่ได้นะ คือเราไม่มีอะไรกับโลก พูดตรงๆ อย่างนี้ละ พูดอะไรๆ เหมือนว่าจะจริงจะจังแล้วตลกไปเสีย ก็มันไม่มีอะไรในหัวใจ ว่าได้สบายๆ

         (กลุ่มแม่ชีจากจังหวัดลพบุรี กราบเรียนหลวงตาเรื่อง จะตั้งสถานีวิทยุเสียงธรรมในเครือข่ายของหลวงตา ที่สำนักปฏิบัติธรรมวัดป่าแม่ชีธุดงค์บุญ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี กำลังส่งเริ่มที่ ๒๕๐ วัตต์ กระจายออกไปได้รัศมี ๕๐ กิโลเมตร เสาอากาศสูง ๖๐ เมตร หลวงตาท่านเมตตาจะซื้อเครื่อง ๑๐ กิโลวัตต์และเครื่องประกอบให้ทั้งหมด เพื่อธรรมะจะได้กว้างขวาง แต่ให้แม่ชีไปสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมก่อน เรียบร้อยแล้วหลวงตาท่านจะโอนเงินไปให้)

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก