สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๒ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๑๕ บาท ๓ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒๔๖ ดอลล์ เราพยายามจะให้ได้ทองคำคราวนี้ให้ได้มากนะ ที่หลวงตาคิดไว้หรือจะว่าฝันสดฝันแห้งก็แล้วแต่พี่น้องทั้งหลายจะพิจารณาเอา ที่ประกาศก้องมาตลอดนั้นก็คือว่า ๔ พันกิโลนี้เป็นของที่พี่น้องทั้งหลายบริจาค รวมเลือดเนื้อทั้งหมดทั้งประเทศเรานี่เข้ามาให้ได้ ๔ พันกิโล ขาดสตางค์หนึ่งไม่ได้ นี้เป็นพื้นฐานอันสำคัญ จากนั้นก็เอาเงินช่วยชาติเรานี่เพิ่มเข้าไปอีก เราคิดว่าจะได้ถึง ๒ ตันนะ เวลานั้นทองคำถูก บทเวลาจะเอาจริง ๆ ทองคำขึ้นมันเลยจะไม่ได้ ๒ ตันละมั้ง เรายังสงสัย แต่ก่อนแน่แล้วในระยะนั้น ที่พูดกันระยะที่ทองคำอยู่ในระดับนั้นก็พอดีว่า เงิน ๘๐๖ ล้านนี้ยังไงก็พอ ๒ ตัน เหลือ เขาว่าอย่างนั้นนะ เที่ยวนี้เลยหวุดหวิด พอหรือไม่พอนาไปอย่างนั้น
ถ้ามันพอก็ ๔ พันกิโลกับ ๒ พันกิโลนี้จะต้องเป็น ๖ พันกิโล เราฝันไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ละ นี้ค่อนข้างแน่ที่เรากำหนดไว้ ส่วน ๔ พันกิโลนั้นแน่ทีเดียว ขาดสตางค์หนึ่งไม่ได้ ทีนี้ที่ฝันไปตอนมันละเมอ แตกกิ่งแตกก้านละเมอไปเรื่อย ๆ ครั้งแรกได้ ๔ พันกิโล ครั้งที่สองโครงการช่วยชาติถอนเงินออกมาซื้อเป็น ๖ ตัน ครั้งที่สามนี้เราเดา ๆ ไปอย่างนั้นละ ถ้าหากว่าได้ทองคำในคราวช่วยพี่น้องชาวไทยคราวนี้ ซึ่งเป็นประวัติการณ์ของชาติไทยเราด้วย เป็นประวัติชีวิตของหลวงตาบัวด้วย ถ้าได้ทองคำถึง ๑๐ ตันแล้ว หลวงตาบัวนอนหลับฝันไปเลยก็ได้ เรียกว่าเต็มภูมิเต็มในหัวใจเราเองนะ ถ้านอกจากนั้นยังไม่เต็ม
ก็รู้อยู่ ไม่เต็มก็ต้องตำหนิวาสนาของตัวเอง ถ้าลงได้ ๑๐ ตันแล้วนี้ โอ๋ย ผึงเลยทันที เต็ม ว่างั้นเลย นี่เรากะเอาไว้นะ กะด้น ๆ เดา ๆ ไปอย่างนั้น การช่วยชาติคราวนี้ควรจะได้หลักได้เกณฑ์ เป็นประวัติศาสตร์แห่งชาติไทยของเราในจุดที่สำคัญคือว่าทองคำ ได้เท่านั้นตันแล้วพอใจ ถ้าเป็น ๑๐ ตันแล้วพอใจเต็มเหนี่ยวเลย เต็มที่เลย ส่วนดอลลาร์จะไปที่ไหนก็ให้มันไป สำหรับทองคำนี้เป็นจุดที่เน้นไปตลอด ๆ จุดสุดท้ายก็คือว่าถ้าได้ถึง ๑๐ ตัน โอ๋ย พอใจเลย หลับเมื่อไรไปเลย ไม่ต้องมากุสลาให้หลวงตาบัวละ บอกว่า ๑๐ ตันนี้พอแล้ว ๆ แทน กุสลา ธมฺมา ไปเลย
เราจะพยายามเพราะทองคำเราบกบาง บกบางอยู่มากทีเดียว เพราะฉะนั้นเราถึงได้เน้นหนัก ๆ ตั้งแต่วันเข้าไปดูมา เจ้าหน้าที่เขาก็ไว้วางใจ วันนั้นเป็นวันที่เราไปมอบทองคำ ดอลลาร์ ด้วย เขาก็นิมนต์เราไปดูห้องเก็บทองคำ แล้วเขาบอกด้วยว่าห้องเก็บทองคำนี้ก็มี สมเด็จพระเทพฯ องค์หนึ่ง แล้วหลวงตานี้เป็นองค์ที่สอง นอกนั้นไม่มีใครมารู้มาเห็นได้เลย เขาตั้งหน้ามานิมนต์เราไปจริง ๆ คนเราก็ต้องหวังพึ่งกันอยู่แล้ว ประกอบกับวันนั้นเป็นวันที่เราไปมอบทองคำและดอลลาร์ด้วย เขาก็ให้ไปดูหลักฐานพยานมีมากมีน้อยเท่าไรที่จะมาช่วยชาติบ้านเมือง หลักของชาติบ้านเมืองมีมากมีน้อยเท่าไรเขาให้ไปดู ความหมายก็ว่างั้น เราจึงเข้าไปดู
เขาวางเป็นตับ ๆ เป็นล็อก ๆ ดูหมดเลยเทียว วันนั้นตั้งหน้าดูจริง ๆ ทุกล็อกในบริเวณทองคำดูหมดทุกล็อก จากนั้นแล้วไปคุยกันสองต่อสอง พวกเจ้าหน้าที่เขาไม่ไปยุ่งแหละ มีแต่เรากับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเป็นหัวหน้าหมู่เพื่อน ไปคุยกันสองต่อสองโดยเฉพาะ ๆ ถามละเอียดลออถึงว่า เวลานี้ชาติไทยของเรานำทองคำไปฝากไว้ที่ไหนบ้าง เพราะเราคิดไว้แล้วว่า โลกทั้งหลายอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนมีหลักประกัน เราถือว่าทองคำเป็นหลักประกันสำคัญสำหรับโลกทั่ว ๆ ไป จึงถามเขา
ทองคำเวลานี้เอาไปไว้ที่เมืองไหนบ้าง คือเอาไปไว้เพื่อประกันชาติไทยของเรา เอาไปไว้เมืองนั้น ๆ เขาบอกว่าเมืองนั้นเท่านั้น ๆ บอกเป็นลำดับ แล้วในเมืองไทยของเราล่ะ เวลานี้เฉพาะเมืองไทยของเราที่เก็บไว้นี้มีเท่าไร บอกว่ามีเท่านั้น รวมกันทั้งหมดแล้วเป็นจำนวนทองคำเท่านั้น นี่เราทราบชัดเจน เรามาประมวลแล้วก็เชื่อว่าทองคำเรารู้สึกยังมีน้อยอยู่มากทีเดียว พอออกมาจากนั้นไปถึงสวนแสงธรรมยังไม่มืดแหละ โว้กเว้กขึ้นเลย มันเป็นยังไงทุกวันหนังสือพิมพ์มากวนเอาเสียเหลือเกิน ต้องได้ดุตลอดเวลา แล้ววันนี้หนังสือพิมพ์ไปไหนกันหมด วันจำเป็นที่ต้องพูดอย่างนี้ กำลังจะมืดแล้ว
ไม่นานนะล่ะ เขาคงจะอยู่แถวนั้นแหละ พอเราพูดโว้กเว้กขึ้นด้วยความไม่สบายใจนั้นแหละ เป็นยังไงวันนี้นักข่าวไปไหนกันหมด ประมาณสัก ๑๐ นาทีได้นักข่าวมาแล้ว เอ้า มา ๆ แต่ก่อนดุเขา เขาไม่ค่อยมายุ่งนั่นแหละดุเขา ทีนี้ เอ้า มา ๆ มาขึ้นนี้ออกข่าวเลยนะ เวลานี้ทองคำเรามีน้อยมาก หลวงตามีความมุ่งหมายอย่างไรต่อชาติบ้านเมืองเรา ที่พยายามหาทองคำเข้าสู่คลังหลวง ให้ออกประกาศเลย ตั้งแต่บัดนี้ต่อไป เพราะฉะนั้นเขาถึงออกตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งทุกวันนี้ เขาคงขี้เกียจ ถ้าเขาประกาศเขาก็คงประกาศว่าเวลานี้ทองคำล้นทะเลหลวงเมืองไทยแล้ว ทองคำล้นคลังเมืองไทยแล้ว แทนที่จะว่าทองคำมีน้อยให้หามาเพิ่มอีก เขาขี้เกียจประกาศให้เลยกลับคำว่า เวลานี้ทองคำล้นคลังหลวงแล้ว หมดท่าเลยเรา ประกาศตั้งแต่โน้นมาจนกระทั่งบัดนี้ เพราะเราเป็นห่วงมาก
อันนี้ที่ว่าเงิน ๘๐๖ ล้านนี้ ก่อนหน้าที่เราไปดูอันนี้เราไม่ได้พูด เราพูดออกไปว่า เงินสดจำนวนจำนวนเหล่านี้ทั้งหมด คือเราบอกว่าทองคำกับดอลลาร์เท่านั้นที่จะเอาเข้าคลังหลวง สำหรับเงินสดนี้เราจะกระจายทั่วประเทศไทยเราบอกอย่างนี้ นี่ก่อนหน้าที่เราทราบทองคำนะ ทองคำมาทราบทีหลัง เวลาเราเอาทองคำเข้าคลังหลวงแล้วจึงมาทราบทีหลัง จึงได้มาคิดอีกทีหนึ่ง เจียดเอาเงินนี้ออกมาเพื่อทองคำ ๆ ที่ว่าจะช่วยชาติทั้งหมดนั้นก็เป็นคำของเราพูดเองในความคิดเห็นเวลานั้น ก่อนที่เรายังไม่ทราบเรื่องทองคำในคลังหลวงมีมากน้อยเพียงไร ทีนี้พอทราบนี้จึงมาเปลี่ยนแปลงใหม่ แล้วคัดเอาเงินซึ่งมีอยู่ทั้งหมดเวลานั้น ๘๕๐ ล้าน ๘๐๐ ล้านนี้หักออกมาเลย ยังเหลือ ๕๐ ล้านไว้เรื่อย ๆ มาอย่างนี้ จึงได้หักจำนวนที่ประกาศเอาไว้นี้ออกซื้อทองคำ นี่ก็ออก ๖๐๐ ล้านแล้วยังอีก ๒๐๐ ล้านที่ตายตัว เพราะกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว
นี่ก็ได้เตือนพี่น้องทั้งหลายให้พากันมีมากมีน้อยก็ตาม เราต้องเพื่อชาติไทยของเรา ๆ ซึ่งเป็นเรื่องหนักแน่นมากทีเดียว เราอาศัยชาติ ทุกคนอาศัยชาติ ชาติเป็นของเรา ความบกพร่องสมบูรณ์เป็นของเราทุกคนที่จะต้องได้ดูให้ทั่วถึงกันสม่ำเสมอ สมบูรณ์ก็เพิ่มเข้าด้วยความดีใจ บกพร่องหนุนเข้าไป ด้วยความตะเกียกตะกายของพวกเราทุกคน นี่หลวงตาก็ได้ช่วยพี่น้องทั้งหลายเต็มกำลัง ก็ได้เรียนให้ทราบมาเป็นลำดับลำดาว่าเราได้ทุ่มมา ๒ ครั้งนี้ ครั้งแรกเราทุ่มใส่ตัวของเราเพื่อฆ่ากิเลส ครั้งที่สองทุ่มเพื่อชาติบ้านเมือง
เพราะฉะนั้นกิริยาท่าทางของหลวงตาที่แสดงออกด้วยอรรถด้วยธรรม ไม่มีกิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายเข้ามาแทรกในหัวใจ อันเป็นกิริยาแสดงออกอย่างลามกจกเปรต เราไม่มี จะเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดขนาดไหน เป็นเรื่องของธรรมออกล้วน ๆ กิริยาท่าทางนี้จึงไม่มีคำว่าอ่อนแอ เพราะด้วยอำนาจแห่งความเมตตาครอบอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่วันประกาศตนออกนำพี่น้องทั้งหลาย คงเส้นคงวาหนาแน่น เราไม่เคยเหลาะแหละ ทำอะไรไม่เหลาะแหละ นี่ก็จะพยายามช่วยพี่น้องทั้งหลายเต็มกำลังความสามารถของเรา
เพราะฉะนั้นใครมีมากมีน้อยก็ให้พยายามโอนเข้ามา คือโอนเข้ามานี้ก็เป็นสองอย่างอย่างที่ว่านะ โอนเข้ามานี้แล้วก็จะเป็นสองหารอยู่ในตัวของมันนั่นแหละ แยกทางประชาชนทั่วประเทศไทย แล้วเข้าสู่คลังหลวงเพื่อเป็นหัวใจของประชาชนโดยทางทองคำ เราแยกไปอย่างนั้น เวลานี้ก็ได้แล้วถึง ๔ พันกิโล อันนี้กะว่าหลังจากวันที่ ๑๒ ผ่านไปแล้วเราถึงจะลงไปกรุงเทพไปมอบทองคำ เพราะมีมากแล้วก็ไม่อยากจะเก็บไว้ในตู้นิรภัยมากนัก ไม่อยากเก็บไว้นานเพราะของจำนวนมาก ตั้ง ๑๐๐ แท่ง เราจึงจะไปมอบเสีย เมื่อเข้าสู่อันนั้นกึ๊กแล้วก็เป็นหัวใจของชาติเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ของมัน เป็นเครื่องยันชาติไทยของเราให้แข็งแกร่งตลอดเลย
เท่าที่เราทราบมานี้ประเทศอื่น ๆ เช่น เวียดนาม เงินสดของเราแทบจะไม่มีค่าเลย ครั้นเวลาถามดูแล้วก็เพราะทองคำเป็นพื้นฐานรับรองไม่มี มีเพียงนิดหน่อยเท่านั้น เงินออกมาจึงเหมือนไม่มีคุณค่า ๆ ทองนี้ยังพอฟัดพอเหวี่ยงอยู่ ก็เพราะทองคำพอเป็นพอไป ด้วยเหตุนี้จึงไม่ควรนอนใจ หนุนเข้าไป ๆ ให้อันนี้ได้เป็นหลักเกณฑ์เราพอใจ เงินสดของเราก็พอฟัดพอเหวี่ยงกันไป เพราะมีอันนี้เป็นเครื่องยืนตัวเอาไว้ เราจึงต้องสงวนและเสาะแสวงมากที่สุดในทองคำ ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ส่วนทองคำอยู่ในเมืองไทยของเรานี้จำนวนเท่าไร ใครมาเปิดตับหลวงตาบัวจะเห็นแต่ตับ จะเห็นความจริงแห่งสิ่งที่รับรองความลับความสงวนของเรานี้ เห็นไม่ได้เลยเข้าใจไหม
เราว่าลับ-ลับจริง ๆ ล็อก-ล็อกจริง ๆ นี้คือหัวใจของชาติไม่บอกให้ใครทราบเลย ที่เจ้าหน้าที่เขาบอกเฉพาะเรา เราก็ถามเฉพาะ ๆ เป็นหัวใจของกันและกันเพื่อชาติบ้านเมืองเราโดยเฉพาะเท่านั้น เพราะฉะนั้นว่าทองคำเวลานี้มีอยู่ในเมืองไทยเท่านั้นเท่านี้เราพูดไม่ได้เลย ตายก็ตายไปเปล่า ๆ แต่ที่มีน้อยเรายอมรับว่ามีน้อย ให้หามา ก็มีเท่านี้ พากันเข้าใจเอานะ
มันมีหวังอยู่นี่มันเป็นยังไงไม่ทราบ มันมีหวังอยู่งั้น หวัง ๔ พันกิโลแล้วก็หวัง ๖ พันกิโล แล้วยังจะหวัง หมื่นกิโลอีก มันหวังเล่น ๆ เมื่อไรหลวงตานี่น่ะ ไม่ได้หวังเล็ก ๆ น้อย ๆ นะ หวังเพื่ออุ้มชาติไทยของเราให้เด่นดวง ถ้าลง ๑๐ ตันแล้วรู้สึกว่าเด่น สมทีเดียวว่าทั้งชาติทั้งศาสนาออกช่วยกันยกชาติไทยของเราขึ้น ทองคำฟาดถึง ๑๐ ตันนี้ โถ ของเล่นเมื่อไร เขามาคุยโม้ให้เราฟังเราลืมเมื่อไร พวกนรกจกเปรตที่ไหนก็ไม่รู้ แต่แถลงออกทางรัฐบาลให้เราทราบมาถึง ๒ ครั้ง เรานั่งฉันจังหันอยู่นี่แหละ เขามาเล่าให้ฟัง เขาออกแถลงทางรัฐบาล ว่าจะหาทองคำให้ได้ ๒๐๐ ตัน โดยที่จะไปเอาร้านทองร้านนั้นร้านนี้ ตีกระจายออกไปทั่วประเทศไทย จะหาทองคำให้ได้ ๒๐๐ ตัน
เราก็ฟังมาเรื่อย ผ่านมาถึง ๒ ปี เงียบ ๆ ไม่เห็นวี่แววเลย ของเราไม่ประกาศแต่ออกมาเรื่อย ผู้นั้นให้เท่านั้น ผู้นี้ให้เท่านี้ ขึ้นเรื่อย ๆ อันนี้ละไปตีเอา เข้าใจไหม ไอ้ ๒๐๐ ตันมันหายหน้าไปไหน มันประกาศมาอย่างชัดเจน แถลงการณ์ทางรัฐบาลเสียด้วย จากนั้นก็ฟาดเข้าไปตรงนั้นซี รัฐบาลไม่เป็นที่ไว้ใจของประชาชนใครจะไว้ใจ รัฐบาลเป็นหัวใจของประชาชนมาพูดเหลาะแหละได้เหรอ ขึ้นแล้วที่นี่ ซัดเข้าไปตรงนี้เลย ๒๐๐ ตันมันไปไหน กิโลเดียวไม่เห็นเลย นี่หลวงตาพยายามหาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ได้บอก ๒๐๐-๓๐๐ ตัน ได้เท่าไรแล้วเวลานี้ มาอวดทำไม ก็ซัดกันเลย แน่ะก็อย่างนั้นแล้ว ก็จับเอาไว้ ๆ นี่ ยังไม่ได้เรื่องเลย
นี่เราก็เกริ่นมาโดยลำดับ นี้เราก็ได้มาเป็นลำดับของเรา ใช่ไหมล่ะ ทีนี้เราเกริ่นถึง ๑๐ ตันนะให้ฟังนะ เกริ่นไปถึง ๑๐ ตันแล้ว ๔ ตันก็ขึ้นมาแล้ว แล้วจากนั้นก็อีก ๒ ตันเป็น ๖ ตัน ก้าวขึ้นไปเรื่อย ๆ เราจะช่วยตลอดไปอย่างนี้ช่วยชาติของเรา เต็มกำลังความสามารถของเรา ทั้งชาติทั้งบ้านเมืองทั้งศาสนา อยู่ในความรับผิดชอบของประชาชนที่จะรักษาทะนุถนอมด้วยกันหมดทั้งสองภาค เพื่อเป็นหัวใจประชาชน แล้วหนุนขึ้นเลยเทียว พวกเรานี่แหละที่จะช่วยชาติบ้านเมืองของเรา ให้ต่างคนต่างเห็นแก่ชาติของเรานะ อย่าเหลาะแหละ ถ้าเหลาะแหละชาติของเราเหลวไหลนะ ต้องแน่นหนามั่นคงถึงถูกต้องดีงาม ต้องมีความรักความสงวนในชาติของเรา บำรุงรักษาชาติของเรา
ความพร้อมเพรียง ความสามัคคี นี้เป็นสำคัญมากนะ พุทธศาสนาพระพุทธเจ้าของเราแสดงความพร้อมเพรียงความสามัคคีสำคัญมากทีเดียว แสดงพระสงฆ์ก็เน้นหนักเรื่องความพร้อมเพรียงความสามัคคี แสดงประชาชนทั่วไปก็ลงจุดเดียวกันนี้ แสดงว่าธรรมประเภทนี้มีน้ำหนักมากที่สุด ความพร้อมเพรียงความสามัคคี ความแยกแยะความแตกสามัคคีนี้คือมหาภัย ความพร้อมเพรียงความสามัคคีนี้คือมหาคุณ จำให้ดี ให้นำไปปฏิบัติต่อตัวเองและครอบครัวเหย้าเรือน ผัวเมียอย่าทะเลาะกัน มันแตกสามัคคีรู้ไหม ลูกใครทะเลาะกันก็เอามาสั่งมาสอน พอเฆี่ยน-เฆี่ยนเลย นั่นถูกต้อง เฆี่ยนเพื่อตีเข้าไปให้แน่นหนามั่นคง มีความกลมกลืนสามัคคีรักกัน ระหว่างลูกต่อลูกด้วยกันต่างคนต่างรักกัน
พ่อกับแม่ก็รักกัน อย่าไปหาอีหนูไอ้หนูมานะ เดี๋ยวลูกทั้งหมดมันจะรุมตีพ่อตีแม่แหลกจะว่าไม่บอกนะ จะเห็นแต่ว่าพ่อแม่ถูกอย่างเดียว มันถูกซีมันไปหาอีหนูไอ้หนูนั่น ลูกดูอยู่นี่ ไม่ใช่ลูกตาบอด เอาพ่อแม่มาหวดหลงทิศไปนี่ ถ้าหลวงตาเป็นลูกแล้วฟาดมันขี้ทะลักเลยพ่อกับแม่ไม่เป็นท่า จะเป็นแบบพิมพ์ของลูกเต้าไม่ได้ เป็นอย่างนั้นนะ นี้ความพร้อมเพรียงความสามัคคี ถ้าต่างคนต่างปฏิบัติตัวดีแล้วลูกเต้าก็ดี สามัคคีกันดี พ่อกับแม่ดีมาเป็นเบื้องต้นแล้ว จากนั้นบ้านก็มีความรักสามัคคีซึ่งกันและกัน ความเสียสละพร้อมเพรียงกันทุกอย่าง จากนั้นก็ขยายไปส่วนใหญ่จนกระทั่งประเทศทั้งประเทศมีความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน เป็นประเทศที่แน่นหนามั่นคง ให้พากันจำอันนี้นะ ถ้ายอกแยกคลอนแคลนไม่ได้นะ ให้ระมัดระวัง
ร่างกายของเรานี้ทุกสัดทุกส่วน เราเป็นผู้รับผิดชอบโดยสมบูรณ์ทุกอย่าง อะไรที่จะมาทำความบกพร่องแก่ธาตุขันธ์ของเรา ที่จะทำความเสียหายแก่ธาตุขันธ์ของเราแล้ว ให้รีบพยายามกำจัดปัดเป่ามันออกไป เป็นโรคเป็นภัยก็รักษาเยียวยา อันใดที่แสลงต่อโรคอย่านำเข้ามาเกี่ยวข้องมันจะมาทำลาย นี่ก็เหมือนกัน ความสามัคคีพร้อมเพรียงของเราเป็นอวัยวะอันสมบูรณ์แบบ อะไรที่เข้ามาทำความแตกแยกโดยวิธีการอะไรก็ตาม นั้นคือมหาภัย อย่ายินดี อย่าคุ้น อย่าเห็นแก่หน้าแก่ตาประเภทมหาภัย ต้องเอาประเภทมหาคุณเข้าบวกกันแล้วเป็นมหาคุณล้วน ๆ อันนี้ทรงชาติบ้านเมืองได้เป็นอย่างแน่นหนามั่นคงเลย
เรื่องความแตกแยก ความมีแผนการอย่างนั้น แผนการอย่างนี้ นี้คือแผนการทำลายชาติ อย่าคุ้นอย่าเคยกับใครนะ แผนอันนี้แผนทำลาย ระเบิดลูกเดียวตูมลงมานี้หมดเมืองไทยเรา อันนี้แผนทำลายก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ผู้ที่จะคอยทำลายมีแต่อุบายวิธีการจะคอยทำลายอย่างเดียว ผู้ที่จะทำความดีก็พยายามทำความดีเต็มความสามารถ ให้เสริมคนทำความดี ระมัดระวังพวกที่จะเป็นแผนทำลายให้ดี พวกนี้เป็นแผนทำลาย แม้ตั้งแต่อยู่ในท้องเรา ถ้าเป็นเชื้อโรคมันก็ทำลายลำไส้ของเราหมดไม่มีอะไรเหลือ ไม่ต้องอยู่ที่อื่น แม้แต่อยู่ในท้องก็ทำลายท้องของเรา อยู่ในบ้านเมืองชาติไทยของเรา ทำไมจะทำลายชาติไทยของเราไม่ได้ แล้วสมควรแล้วหรือที่เราจะคุ้นกับพวกเปรตพวกผีพวกยักษ์พวกมาร พวกมีแผนการต่าง ๆ ที่จะคอยทำลายชาติโดยถ่ายเดียว
เด็กดูก็รู้ได้จะว่าแต่ผู้ใหญ่อะไร หลักธรรมชาติดูหลักธรรมชาติ อย่าไปดูแผนนั้นแผนนี้ กฎหมายบัญญัติอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าไม่มีในกฎหมายไม่ยอมรับ ๆ หลักธรรมชาติยอมรับแล้ว จะมีกฎหมายกฎหมอยไม่มีก็ตาม หลักธรรมชาติทำดีเป็นดี ทำชั่วเป็นชั่ว ที่แจ้งที่ลับไม่มี คือทำดีทำชั่วแล้วในที่นั้น นี่หลักธรรมชาติ ให้พากันจำเอา ให้สังเกตสังกาทุกคนนะ วันนี้ก็ไม่ได้เทศน์มากอะไรนัก เทศน์เรื่องความพร้อมเพรียงความสามัคคี ให้ระวังภัยที่จะเกิดแก่ชาติไทยของเราทุกคน ๆ ให้ระวังให้ดีทุกคนนะ แล้วก็ให้ฟังเสียงธรรม เสียงธรรมเสียงศาสนาซึ่งกำลังประกาศก้องอยู่เวลานี้ จะไม่นำสิ่งที่ปลอมแปลงมาสอนพี่น้องทั้งหลาย ดีบอกว่าดี ชั่วบอกว่าชั่ว ตลอดไป
ธรรมไม่มีคำว่าเอนว่าเอียง ตรงไปตรงมา เพราะธรรมไม่ได้อยู่ในวง เช่น อย่างวงโลกวงสงสาร หรือวงทะเลาะวิวาทบาดหมางซึ่งกันและกัน วงทะเลาะกัน ธรรมไม่อยู่ในนั้น ธรรมเป็นกรรมการใหญ่ที่คอยแยกคอยแยะ อันไหนไม่ดีตัดออก ๆ ตำหนิใครที่ควรตำหนิ-ตำหนิ ใครที่ควรชม-ชม นี้เรียกว่าธรรม ธรรมอยู่นอกวงนั้นนะ เพราะฉะนั้นการที่นำศาสนามาสอนพี่น้องทั้งหลายนี้ หลวงตาไม่ได้อยู่ในวงนั้น เพราะธรรมไม่ได้อยู่ในวง ธรรมอยู่นอกวงที่จะมาชำระสะสางให้เป็นของดิบของดีขึ้นมาเท่านั้น ให้ตั้งหน้าตั้งตาฟังเสียงอรรถเสียงธรรมนะ ฟังเสียงโจรเสียงมารแล้วจะผลาญชาติไทยของเราให้แหลกหมด ถ้าฟังเสียงอรรถเสียงธรรมแล้วจะค่อยเจริญรุ่งเรือง วันนี้พูดเพียงเท่านี้ ไม่พูดมากนักละ
ตั้งแต่บัดนี้ต่อไปที่ว่าเมรุนั้น เราประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ผู้ใดที่จะรื้อจะถอนเมรุรอบบริเวณนอกนั้นออก ออกได้เลยนะวันนี้ ไม่เลือกใครต่อใคร ไม่ว่าหญิงว่าชายใครก็ตาม จะรื้อจะถอนนี้ออก ให้เหลือตั้งแต่รั้วเล็ก ๆ ที่รอบเมรุเท่านั้น นอกนั้นเอาออกหมดเลย เพื่อทางเดินของรถ รถก็จะเข้าผ่านหน้าศาลา ศาลาใหญ่นี้ไม่มีทางรถผ่านไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นเราถึงเปิดทางให้รถผ่านออกได้สบาย ๆ ไปหน้าศาลา ส่วนเมรุเราก็มีเท่านั้นแหละ มีเฉพาะเมรุและรั้วรอบเล็ก ๆ นอกนั้นรื้อออกหมดเลย
แมวมาเรื่อยนะ เดี๋ยวนี้น่ะ ถึงได้เห็นเหตุเห็นผลชัดเจนว่าแมวนี้ยกกองทัพมากินสัตว์ของเราตายไปสักเท่าไร ๆ ตั้งแต่สมัยท่านอุ่นเอากระแตมาปล่อยทีละ ๕๐-๖๐ ตัวหายหน้าไปหมดเลย ไม่หายยังไงมันยกทัพมากินกันอยู่นี้น่ะ คราวนี้ถึงได้รู้ชัด พอปิดเหล่านี้เรียบร้อยหมดแล้ว มันหลั่งไหลมาทีละ ๓ ตัว ๔ ตัว เดี๋ยวนี้ยังเหลืออยู่ทีละตัว แทบทุกคืนนะมานี่ ทาง ตชด.เขาจับได้ก็มี จับไม่ได้วิ่งเข้าป่าก็มี วันหลังมาใหม่ มาก็เข้าไม่ได้แหละ เราไม่ให้เข้าแล้วนี่ ต่อไปนี้กระต่ายจะเยอะละ นี่ตะกวดก็เอาไปปล่อย ๑๐ ตัวแล้ว เบาบางไปแล้วนะ กระต่ายก็จะงอกเงย ลูกกระต่ายนะ กระแตเหมือนกันเวลานี้กำลังงอกเงย
แต่ว่าเสียใจที่ไก่ตาย เวลานี้มันก็ยังตายอยู่ละมั้ง (ดีขึ้นเยอะแล้วครับ) ต้องอย่างนั้นซิ แหม เราวิตกจริง ๆ นะ จนกระทั่งที่ว่าก้นร้อนนะ เที่ยวซอกแซกซิกแซ็กดูไก่ ไปดูหมดที่ไหน ๆ เข้าข้างใน จากนั้นก็มาซอกแซกดู ไปที่ไหนมีแต่เหงา ๆ โอ๋ย น่าสงสารไปยืนดูอยู่ จะรักษายังไง มันเหงาอยู่ทุกแห่งนะ เมื่อวานนี้ยิ่งได้ดูชัด น่าสงสาร วันดีขึ้นเหรอ(ครับ) ไก่กำลังซบเซาและหมดไป ๆ ด้วยนะ น่าสงสารจริง ๆ ก็เราเลี้ยงดูตลอดด้วยความรักความเมตตานี่นะ ทำไมจิตใจจะไม่สะเทือน