เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๘
หย่อนบัตรชุ่ยๆ ชาติไทยจมได้
ผู้กำกับ จากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยรายวัน คอลัมน์วิจารณธรรม วันอังคารที่ 1 ก.พ.48 ชื่อเรื่องว่า ชะตากรรมของชาติอยู่ที่มือของท่าน
หลวงตา ชะตากรรมของชาติอยู่ที่มือของท่าน มือจะไปหย่อนบัตรเข้าใจไหม เราพูดไปก่อนก็ได้ มือนี้เป็นดาบสองคม คมหนึ่งถ้าหย่อนผิดพลาดไปแล้วตัดคอเจ้าของ คมหนึ่งถ้าหย่อนถูกต้องแล้วก็เป็นความดีของชาติไทยเรา เรียกว่าอุ้มชาติไทย แต่ละมือๆ ไปอุ้มชาติไทย ถ้ามือสุกเอาเผากินอย่างนี้คว่ำเลยชาติไทยทั้งชาติ เราบอกไว้ก่อนก็ได้นะ เอ้าว่าไปที่นี่
ผู้กำกับ คงเหลือเวลาตัดสินใจเลือกผู้แทนอีกเพียง 4 วันเท่านั้น ซึ่งขณะนี้อำนาจการชี้เป็นชี้ตายทางการเมืองอยู่ในอุ้งมือของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคน ถ้าตัดสินใจเลือกเอาคนดีๆ เข้าไปเป็นผู้แทนของเราในสภา ประเทศชาติศาสนาของเราก็จะเจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าหากเราเลือกเอาคนเลวๆ เข้าไปเป็นผู้แทนของเรา ก็แน่นอนละว่าประเทศชาติศาสนาของเราจะต้องถอยหลังลงคลองไปอีก 4 ปี
ความเดือดร้อนจะตกอยู่กับประชาชนทั้งประเทศ !!
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เทศนาว่าการ ณ วัดป่าบ้านตาด ถึงนักการเมืองที่กำลังเสนอตัวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศว่า
ยิ่งวงราชการงานเมืองด้วยแล้วเป็นงานของแผ่นดิน ผู้นำชาตินำบ้านเมืองต้องคิดอ่านไตร่ตรองให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อชาติ เพื่อศาสนา ไม่ใช่เพื่อพรรคเพื่อพวก ไม่ใช่เพื่อพุงตัวเอง ถ้าอย่างนั้นจะแหลกไม่มีเหลือ ถ้าเพื่อพรรคเพื่อพวกเพื่อพุงตัวเอง แหลก ชาติไทยแหลก ถ้าเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แล้วเรียกว่าเจริญๆ ให้พากันพิจารณาเพื่อส่วนใหญ่ อะไรส่วนใหญ่จะมีความแน่นหนามั่นคง ให้พากันหนักแน่นในทางนั้น การประพฤติปฏิบัติตัว ก็ให้มุ่งมั่นไปในทางที่จะให้เกิดความเจริญและแน่นหนามั่นคงต่อส่วนรวม อันนี้สำคัญมาก
เมื่อสดับธรรมเทศนาของหลวงตาแล้ว ก็ขอให้ปวงชนชาวพุทธจงตระหนักถึงการเลือกผู้แทนกันให้มากๆ พิจารณากันให้ดีๆ เลือกสรรเอาแต่ผู้สมัครที่มีประวัติดีเข้าไปเป็นผู้ทำหน้าที่แทนเราในสภา อย่าเลือกนักการเมืองที่เห็นแก่พุง เห็นแก่พวกพ้อง หรือเห็นแก่ความร่ำรวยของญาติพี่น้องมากยิ่งกว่าความสำคัญของประเทศชาติบ้านเมือง
โดยเฉพาะตัวของเราเอง เราต้องพิจารณาถึงตัวเราเองก่อนสิ่งใด การจะตัดสินใจเลือกผู้แทนในครั้งนี้เราได้เห็นแก่พุงตัวเองหรือไม่ เราเห็นแก่พวกพ้องที่เป็นผู้สมัครหรือว่าเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ ?
ถ้าเห็นแก่พุงของตัวเอง (ขายเสียง) หรือเห็นแก่พวกพ้อง (เกรงใจคนใกล้ตัว) โดยที่เรามิได้พิจารณาให้ดี เราก็จะได้ผู้แทนชนิดเลวเข้าไปนั่งในสภา ผู้แทนที่เราเลือกเข้าไปอย่างผิดๆ นี่แหละที่จะเข้าไปให้โทษแก่เราเองในวันข้างหน้า ผู้แทนจำพวกนี้เขาจะไม่มีวันเห็นใจประชาชนมากยิ่งกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างเขาจะทำเพื่อตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น และแน่นอนที่สุดก็คือเขาจะต้องถอนทุนที่ต้องเสียเงินซื้อเสียงเข้าไป และแสวงหาผลกำไรด้วยการทุจริตคอรัปชั่นจากเงินภาษีอากรของประชาชน
การเลือกหาคนดีเลือกได้ไม่ยาก เพราะผู้สมัคร ส.ส. แต่ละคนก็ล้วนแต่เป็นคนที่เรารู้จักมักคุ้นกันดีอยู่แล้ว ลองพิจารณาให้ดีซิว่า ผู้สมัครคนนั้นๆ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร เป็นกัลยาณมิตรหรือเป็นอมิตรต่อคนรอบข้าง เป็นผู้ตั้งอยู่ในศีลในธรรมหรือไม่ มีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์หรือไม่ เคยเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาบ้างหรือไม่
หากไม่มีจิตใจตั้งอยู่ในศีลในธรรม ไม่เคยเกรงกลัวบาปกรรม ไม่มีจิตใจรักประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผู้แทนจำพวกนี้ขออย่าเลือก !
อย่าเลือกเข้าไปทำลายประเทศชาติ ศาสนา เป็นอันขาด !!
ชะตากรรมของชาติกำลังอยู่ในมือของท่าน
ณ. หนูแก้ว
หลวงตา ที่หนังสือพิมพ์ออกมาอันนี้ เป็นความถูกต้องดีงามแล้ว เรายอมรับหนังสือพิมพ์นี้ เราฟังทุกระยะเลย แง่หนักแง่เบาเป็นสาระสำคัญ ขอให้พี่น้องทั้งหลายยึดเอาเสียงหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นหัวใจของชาติโดยตรงนี้ไปพินิจพิจารณา อย่าทำแบบสุกเอาเผากิน ประเทศไทยของเราไม่ใช่ปลาเน่าพอจะสุกเอาเผากิน อันนี้เน่าเขี่ยลงทะเลหลวง เมืองไทยเราก็ลงทะเลหลวงได้เลย เข้าใจเหรอ ขอให้คิดให้ดี เจ็บแล้วให้เข็ดให้หลาบ เจ็บเพราะเหตุใด เพราะใครเป็นผู้ทำให้เจ็บ เพราะใครจะเป็นผู้ทำให้ชาติไทยจมที่ผ่านมาเมื่อสักกี่ปีมานี้จำให้ดี หลวงตาร้องโก้ก ไม่ลืมนะ หลวงตาร้องโก้กเพราะอะไร บวชมานี้ไม่เคยสนใจกับทางบ้านทางเมืองเขา รัฐบาลตั้งมากี่ชุดกี่สมัยก็ได้ยินได้ฟังได้ทราบมาตลอด เพราะลูกศิษย์ลูกหามีอยู่ทุกกระทรวงตลอดมา เราก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องของเรา มีแต่ปลงธรรมสังเวช เอ๊อ สังเวชนะ เท่านั้นละนะ
จนเข้ามาถึงระยะที่เราจะร้องโก้กนี่ ลูกศิษย์เขาเอาหลักฐานสำคัญๆ ออกมาจากส่วนใหญ่ เรียกว่าหัวใจของชาติคือคลังหลวงของชาติออกมา ติดหนี้เขาเท่านั้นๆ มาบวกเฉลี่ยกันแล้วคนหนึ่งตั้งแต่เด็กขึ้นมาหาผู้ใหญ่นี้คนละห้าหมื่นบาท ฟังซิ เมืองไทยเรา ๖๒ ล้านคนระยะนั้นคนละห้าหมื่นบาท ติดหนี้กันหมด แต่เขาไม่ได้มาตรวจมาถามในวัดนี้ว่า ที่นี่มีกี่คน มีหมากี่ตัว เราจะได้แจง ที่นี่มีหมาหลายตัว ไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง นี่จะต้องติดหนี้เขาหมดตัวละสองหมื่นห้าพันบาท หมาเราในนี้ก็ต้องติดไปหมด เป็ดไก่อยู่ในนี้เลี้ยงไว้ยั้วเยี้ยๆ ติดหนี้ไปหมด แล้วทางชาติบ้านเมืองเรามีจำนวนเท่าไร รอหัวจะจมลงทะเลด้วยกัน ความหมายว่าอย่างนั้น เจ้าของจม สิ่งเหล่านี้จะไม่จมได้ยังไง อย่างวัดป่าบ้านตาดจม ไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง จะอยู่ไม่ได้ ต้องจมไปด้วยกัน
นี่ที่เราได้ร้องโก้ก เขาอ่านให้ฟังแล้ว แหมยังไงกันนี่ คิดย้อนหลังสงสารถึงปู่ย่าตายายที่นำพวกเรามา นำลูกนำหลานมาด้วยความสงบร่มเย็น ทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์พูนผล ไม่มีอะไรเลย จนกระทั่งลูกหลานมีถึง ๖๒ ล้านคน แล้วจะกวาดกันลงทะเลหลวงด้วยความล่มจมกันเสียทั้งหมด แล้วปู่ย่าตายายเหล่านั้นไปเกิดอยู่ในภพใดๆ น้ำตาจะต้องร่วงๆ ทั่วหน้ากันไปหมดเลย เป็นยังไงเมืองไทยเราถึง ๖๒ ล้านคนนี้ลงทะเลกันทั้งหมด ทั้งๆ ที่ปู่ย่าตายายพาถ่อพาพายมาด้วยความสงบร่มเย็น นี่ละที่กระเทือนใจเอามากทีเดียว ถึงขนาดร้องโก้กทีเดียว
ทีนี้มาประมวลถึงเหตุผลกลไก ถึงเรื่องเมืองไทยเราจะล่มจม ล่มจมเพราะเหตุใด ใครที่ไหนมาเป็นข้าศึกต่อเมืองไทยเรา เมืองไหนเมืองใดมารบราฆ่าฟันเมืองไทยเรา ถึงได้ล่มจมถึงขนาดนี้ มองที่ไหนก็ไม่มีใครมาเป็นข้าศึก รวมลงแล้วก็เป็นคนไทยทั้งชาติประพฤติแบบลืมเนื้อลืมตัว ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เป็นข้าศึกต่อตัวเองๆ เงินมีเท่าไรทุ่มลงๆ อะไรผ่านเข้ามาคว้ามับๆ ซื้อไม่หยุดไม่ถอย มีแต่ของดิบของดี อะไรมาดีหมดๆ นี่ละเป็นการสังหารตัวเอง เรียกว่าเพชฌฆาต แต่ละคนๆ เป็นข้าศึกต่อตัวเอง ไม่มีข้าศึกมาจากที่ไหน ก็คือเมืองไทยทั้งชาติ รู้ตัวแล้วยัง ถ้ารู้ตัวแล้วให้ฟิตตัวใหม่ ใช้ความพลิกกันก็คือว่า ใช้ประหยัดมัธยัสถ์อย่าลืมเนื้อลืมตัวตั้งแต่นี้ต่อไป ไม่เช่นนั้นเมืองไทยเราจะจมแน่นอน เดี๋ยวนี้กำลังเริ่มจะจมแล้วนะ เอา ให้ฟิตตัวเดี๋ยวนี้
เราก็เลยออกประกาศ เอา เราจะเป็นผู้นำ เราว่าอย่างนี้ละ มีมากมีน้อยกำลังวังชาของเราซึ่งไม่เคยเกี่ยวข้องกับชาติบ้านเมืองมากระเทือนเรา และเป็นหัวใจของชาติอีกด้วย เราอยู่ในท่ามกลางชาติจะทำยังไง ชาติจม ศาสนาก็จม ใครก็จมทั้งหมด หมูหมาเป็ดไก่จมไปด้วยกันมีอย่างเหรอ เอา ฟื้นขึ้นมาให้หมด บอกงั้นละ แต่เราไม่ได้บอกว่าไอ้ปุ๊กกี้มึงอย่ากินมากนักนะ ไม่ได้บอก ไอ้หยอง ไอ้หมี มึงอย่ากินมากนักนะ กูไม่พามึงกินมาก กูกินวันละหน มึงกินวันละกี่หน เราไม่ได้ไปปรึกษาหารือกับไอ้ปุ๊กกี้เท่านั้นแหละ มีแต่บอก เอา จะเป็นผู้นำ
จากนั้นมาก็เอาละที่นี่เรานำ ประกาศ พร้อมด้วยชาติไทยของเราเป็นชาติแห่งชาวพุทธ ฟังเสียงครูเสียงอาจารย์ เสียงศาสนา ศาสนธรรม ไปประกาศที่ไหน เทศนาว่าการที่ไหนผู้คนไม่เคยพูดได้เลยว่าที่นั้นมีจำนวนคนไม่มาก มีแต่อัดแน่นๆ ทุกแห่งทุกหน ถึงขนาดอำเภอบางสถานที่จนจะได้ตั้งเป็นจังหวัด เพราะคนมาหนาแน่นเกินคำว่าอำเภอจะรับไว้ได้ ต้องเป็นจังหวัดถึงรับได้คนจำนวนมากอย่างนี้ บางอำเภอก็ไปตั้งเป็นจังหวัดให้เขา นี้ให้เป็นจังหวัด นายอำเภอคนนี้ให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด หลวงตาอยู่นี้ตั้งให้ได้เดี๋ยวนี้เลย ยกฐานะขึ้นให้เต็มเหนี่ยว นี่หมายถึงว่าคนที่มีความพร้อมเพรียงกัน เขามาฟังเทศนาว่าการทุกอย่าง จตุปัจจัยไทยทานก็ไหลเข้ามาๆ เรื่อย
ไม่ว่าทองคำ ไม่ว่าดอลลาร์ ไม่ว่าเงินสด ไปเทศน์ที่ไหนเป็นเหมือนกันหมดเลย ทั่วประเทศไทยเราไปเทศน์ที่ไหนคนนี้มากจริงๆ ทุกแห่งทุกหน ถึงกับยกฐานะอำเภอขึ้นเป็นจังหวัดก็ยังมี เพราะคนมากต่อมาก นี่ก็เป็นความพร้อมเพรียงของพี่น้องชาวไทยเราที่เชื่อถือศาสนธรรม พุทธศาสนา เชื่อถือครูอาจารย์ และอาจารย์ก็เป็นเราด้วย เต็มเหนี่ยวด้วยนะ คำว่าอาจารย์นี้ ไม่ใช่ว่าพี่น้องทั้งหลายพร้อมเพรียงกันมาหาอาจารย์ แล้วอาจารย์จะพาทำความล้มเหลวแก่พี่น้องชาวไทยนี้เราไม่มีเลย
สมที่ว่าเราออกปากร้องโก้กทีเดียว สงสารปู่ย่าตายาย ตายอยู่ในภพใดชาติใด น้ำตานี้ก็จะร่วงไปตามๆ กันหมด เพราะลูกหลานทำลายชาติบ้านเมืองที่พาถ่อพาพายมา จนกระทั่งถึงตายไปแล้วนึกว่าจะหายห่วง แล้วลูกหลานมาสังหารชาติของตัวเองให้จมนี้ ปู่ย่าตายายของเราก็จะเป็นอย่างนี้ นี่ละเราจึงต้องนำเอาอย่างเต็มเหนี่ยวเหมือนกัน นำด้วยความเมตตาล้วนๆ เลยทีเดียว นำด้วยความบริสุทธิ์ อยากพูดให้ตรงเป๋งตามความจริงเลยว่า บรรดาสมบัติเงินทองข้าวของทุกอย่างที่มาถวายหลวงตาให้เป็นผู้รับผิดชอบของสมบัติพี่น้องทั้งหลายทั้งประเทศนี้ เรารับผิดชอบได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกอย่าง
ที่นี่ เอารวมมาเลย ทองคำก็ดี ดอลลาร์ก็ดี เงินสดก็ดี รวมทั้งหมดเหล่านี้บาทหนึ่งเราไม่เคยแตะเลย สมเหตุสมผลที่ว่าเราร้องโก้กนั่นละ เราไม่เคยแตะ เงินจำนวนเหล่านี้เข้าสู่จุดรวมๆ ด้วยเหตุผลที่เราเป็นคนสั่งจ่ายแต่ผู้เดียวเท่านั้นๆ จึงไม่มีอะไรบกพร่องในหัวใจเรา การเคลื่อนไหวของเราที่นำพี่น้องทั้งหลายก็ไม่เคยบกพร่อง ถูกต้องดีงามตลอดมา เรายังไม่เคยได้ตำหนิตัวเราเองที่ได้นำพี่น้องทั้งหลายไปนี้ ได้ผิดพลาดตรงนั้นๆ เราได้ตำหนิติเตียนเรา เราไม่เคยมี มีแต่ความภาคภูมิใจๆ ตลอดการเทศนาว่าการไปพร้อมกัน
เราก็ได้คิดขึ้นในเบื้องต้นแล้วว่า คราวนี้ละศาสนธรรมของพระพุทธเจ้าจะเริ่มกระจายออกไปกับด้านวัตถุ ด้านวัตถุนี้เราช่วยชาติบ้านเมือง ส่วนทางด้านจิตใจเกี่ยวกับเรื่องธรรมะนั้นประชาชนเขาจะไม่คิด แต่เรานี่คิดไว้เต็มหัวใจแล้ว คราวนี้เป็นคราวที่ศาสนธรรมจะได้ออกกระจายให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบไปในเวลาเดียวกันกับด้านวัตถุ ชาติไทยของเราจะได้ฟื้นฟูขึ้นมาทั้งด้านวัตถุและด้านนามธรรมในคราวนี้ ตั้งแต่นั้นไปที่ไหนก็เทศนาที่นั่น
การเทศนาว่าการนี่มีกี่กัณฑ์ เทศน์มา ๖ ปีเต็มแล้ว ทั่วไปหมด ถ้าว่าคัมภีร์ เอาคัมภีร์มาจากไหนมาเทศน์ให้พี่น้องทั้งหลายฟังถึง ๖ ปี บางแห่งเทศน์วันละ ๓ กัณฑ์ก็มี ๒ กัณฑ์ก็มี เทศน์อยู่อย่างนั้นตลอดจนกระทั่งบัดนี้กี่พันกัณฑ์ หรือว่ากี่หมื่นกัณฑ์ เราอยากจะพูดว่าอย่างนั้นเพราะเทศน์อยู่ไม่หยุดไม่ถอย นี่ธรรมะได้กระจายออก และวัตถุของเราก็ได้สมมักสมหมายตามที่คาดเอาไว้ไม่เคยผิดพลาด ทองคำก็ได้ถึง ๑๑ ตัน ๓๗ กิโลครึ่ง ที่มอบคลังหลวงเรียบร้อยแล้ว และดอลลาร์ก็ได้มอบ ๑๐ ล้าน สองแสนกว่าดอลล์ ส่วนเงินบาทนี้ได้เข้าซื้อทองคำเพียงสองพันล้านเท่านั้น นอกจากนั้นกระจายออกสู่ประเทศชาติทั้งหมด
ไม่ว่าภาคใดทั่วประเทศไทย สมบัติของพี่น้องทั้งหลายคือเงินสดนี้ได้ออกช่วย โดยการสงเคราะห์คนทุกข์คนจน ซึ่งอยู่ในเหตุผลที่จะควรสงเคราะห์ แล้วสถานสงเคราะห์ โรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาล ที่ราชการต่างๆ ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าภาคไหนช่วยทั้งหมดเลย จากเงินที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคนี้ตลอดมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ นี่เราได้ช่วยพี่น้องทั้งหลายด้วยความภาคภูมิใจของเรา เราคิดดูตัวเองว่าได้ตำหนิติเตียนตนตรงไหน และได้มีความเศร้าหมองในจิตใจ คิดทุจริตต่อพี่น้องชาวไทยเราที่ตรงไหน บาทไหนกี่บาทไม่เคยมี เราเปิดโล่งอย่างนี้เลย เพราะเราทำด้วยความเมตตาจริงๆ ถึงขนาดร้องโก้ก การทำเช่นนี้เราทำอย่างถึงใจของเรา ทุกอย่างถ้าได้ถึงใจแล้ว คนเราถ้าเป็นฝ่ายชั่วฆ่ากันได้อย่างทันใจทีเดียว ถ้าเป็นฝ่ายดีก็พุ่งขาดสะบั้นไปเลย นี้เป็นฝ่ายดี ยกชาติของเรา
เอา ได้แค่ไหนก็เอา ซัดกันเต็มเหนี่ยวเลย ก็พอดีตั้งรัฐบาลขึ้นมาในระยะเดียวกันกับการช่วยชาติ ยกรัฐบาลขึ้นมาใหม่ รัฐบาลเก่าเป็นยังไงพี่น้องทั้งหลายก็ทราบแล้ว จะทำบ้านเมืองเราให้ล่มจมเห็นชัดเจน นี่เป็นภาษาธรรมเราพูดตรงๆ อย่างนี้ มองไปที่ไหนชาติไทยของเรานี้ แหม เหงาหงอยไปหมดเลย นั่งรถไปตามถนนหนทาง รถราที่ขนเครื่องไม้เครื่องมือในการก่อสร้างทั่วประเทศไทย ไปที่ไหนมีแต่การก่อสร้าง กลับสงบงบเงียบลงหมดเลยจนจะไม่มีเหลือ ปรากฏว่าเป็นเมืองร้างในเวลานั้น เราเกิดความสลดใจ นั่งรถไปตามถนนหนทาง ไปที่ไหนเงียบไปหมดๆ โถ ชาติไทยเราถึงขนาดนี้เชียวนา
นี่แหละที่ได้ฟื้นขึ้นมา เราก็ได้เห็นอย่างชัดเจน พร้อมกับการช่วยชาติ และรัฐบาลใหม่ขึ้นมาพร้อมนี้ ต่างคนต่างช่วยชาติบ้านเมืองของเรา ทางศาสนาก็ดังที่ท่านทั้งหลายเห็นแล้ว เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง ไม่มีบาทใดที่จะมาติดในหัวใจเราที่เป็นหัวใจสกปรก ไม่สมชื่อสมนามว่าประกาศช่วยพี่น้องทั้งหลายเลย อย่างนั้นไม่มี สมบูรณ์พูนผลทุกอย่าง ทีนี้ทางชาติบ้านเมืองของเราก็ยกคุณทักษิณนี้ขึ้นมาทีเดียว แล้วเป็นยังไงคุณทักษิณของเรา ที่ช่วยชาติบ้านเมืองมาขนาดไหน เราได้ยกขึ้นมาประกาศคุณสมบัติที่คุณทักษิณซึ่งเป็นนายกนี้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีนายกคนใดรัฐบาลใดที่ได้ทำบ้านเมืองของเราให้เด่นดวงขึ้นมาในคราวที่จะล่มจมนี้ ได้เด่นดวงขึ้นมาด้วยความฟื้นฟูอย่างนายกของเราคนนี้เราก็ไม่เคยเห็นใคร เราเห็นได้อย่างชัดเจน เรายกตัวอย่างมาแล้ว ๑๓ ข้อใช่ไหมที่มีแต่หนักๆ ที่ใครๆ ทำไม่ได้ นายกของเราคนนี้ทำได้
เฉพาะอย่างยิ่งยาเสพย์ติด อันนี้เรียกว่าเป็นโรคที่หนักมากทีเดียว เอาให้เมืองไทยจมเป็นหมูเป็นหมาไปได้หมดเลย ถ้าลงได้ติดยาเสพย์ติดนี้แล้วเมืองไทยเป็นหมาขี้เรื้อนกันทั้งหมด ไม่มีใครจะมีค่ามีราคา มันลุกลามเข้ามาถึงขนาดนั้นแล้ว ไม่มีใครที่จะแก้ให้ตกได้เลย ยาเสพย์ติดนี้รุกล้ำเข้าไป ก็มีคุณทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันปราบเรียบไปเลย นั่นเห็นไหม ยกชาติไทยของเราเป็นคนเต็มคนร้อยเปอร์เซ็นต์ๆ หมาขี้เรื้อนตกทะเลไหนก็ไม่รู้ ที่เมืองไทยของเราทั้งคนทั้งหมาจะเป็นหมาขี้เรื้อนไปหมดด้วยกัน ฟื้นขึ้นมาได้เป็นคนกันทั้งหมดทีเดียว นี่เป็นความดีของผู้นำคนนี้
ผู้นำคนนี้เด่นหลายประเภทนะ ให้ท่านทั้งหลายพิจารณาเอา การคัดเลือกก็ให้พิจารณาให้ดี ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในชาติไทยของเรานี้ใครเป็นผู้นำ ใครเป็นผู้พยายามหาสมบัติเงินทองข้าวของที่ขาดแคลนไปเสียมากต่อมาก ถึงขนาดจะให้เมืองไทยล่มจม ได้ฟื้นฟูขึ้นมานี้มีใคร ท่านทั้งหลายจำให้ดี นี้เราพูดเป็นเสียงธรรม เราไม่ได้เป็นการบ้านการเมืองกับผู้หนึ่งผู้ใด เราไม่มี ธรรมนี้เหนือโลกเหนือสงสารนำมาสอนโลก นี่ก็สอนท่านทั้งหลายคัดเลือกให้ดี อย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้า ทำสุ่มสี่สุ่มห้าชาติไทยของเราจมได้ดังเคยเป็นมาแล้วนั้นเห็นไหมล่ะ ถึงขนาดเราอยู่ในศาสนาไม่เคยเกี่ยวข้องกับทางโลกทางสงสาร ยังได้ร้องโก้กขึ้นมาได้เลย
นี่เราก็เจ็บเราก็เข็ดเหมือนกัน จึงสอนพี่น้องทั้งหลายให้เข็ด ท่านทั้งหลายก็จะเจ็บยิ่งกว่าเราอีก เราเป็นฝ่ายพระถึงเรื่องความเจ็บจะกระเทือนกันก็ตาม แต่หัวใจเราเป็นธรรมไม่มีอะไรเจ็บ แต่เจ็บแทนพี่น้องทั้งหลาย พี่น้องทั้งหลายก็ควรจะเจ็บแสบในหัวใจ เจ็บแล้วให้เข็ดให้หลาบ จุดไหนจุดทำลายชาติไทยให้จำให้ดี จุดไหนเป็นจุดที่จะทำชาติไทยของเราให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นไปโดยลำดับดังที่เคยเป็นมาแล้ว เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ก็คือรัฐบาลยุคปัจจุบันนี้ เป็นยุคสำคัญมาก เราได้ยกขึ้นชมเชย เพราะขนของที่ติดหนี้ติดสินเขามากมายนี้ โกยออกไปใช้หนี้ใช้สินเขา ใช้หนี้เอ็มเอฟเอ็มแอฟอะไรเหมือนเสียงกบนั่น แล้วมันฟาดเมืองไทยเราจมทั้งเมืองไอเอ็มเอฟนี่น่ะ นี่ใครฟื้นขึ้นมา ปัดมันลงทะเลหลวงไปแล้ว เรายกเป็นเอกเทศ ชาติไทยของเราเป็นเอกราชเต็มตัวไม่ได้ติดหนี้ติดสินใคร
นี่ใครเป็นคนยกขึ้นมา ติดหนี้ติดสินปัดหนี้สินออกไปเป็นเอกราชขึ้นมาในพวกเราเอง ถ้าไม่ใช่นายกคนนี้จะเป็นใคร พิจารณาซิ เวลานี้เงินในคลังหลวงก็กี่หมื่นล้าน เหอ (๔๗,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐครับ) นั่น ๔๗,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ เวลานี้เงินไทยของเราที่รัฐบาลปัจจุบันนี้สั่งสมขึ้นมาได้ มากขนาดไหน ฟังซิ รัฐบาลไหนเราไม่ได้ตำหนิ เราพูดตามหลักความจริง ไม่เห็นมี มีแต่มากินมากอบมาโกยเอาตับเอาปอดประชาชน มิหนำซ้ำยังจะฟาดเอาคลังหลวงให้แหลกไปหมดนี้เราจำไม่ลืมนะ เราเองเป็นคนพูด จะมาซัดเอาคลังหลวง รวมบัญชี ฟังซิน่ะ นั่นไม่มีทางกินแล้ว คำว่ารวมบัญชีก็หมายถึงคลังหลวงนั่นเอง เมื่อรวมบัญชีแล้วคลังหลวงต้องอยู่ในการรวมบัญชี ต้องเอามาได้หมด นั่น พอแย็บเข้าไปเท่านั้นเราก็รู้ทันที เราก็บอกตรงๆ เลยอย่ามาแตะ เราเป็นคนพูดเองเราไม่ลืม
คลังหลวงเป็นหัวใจของชาติ ถ้าคลังหลวงหมดแล้วชาติต้องจมไปหมด อย่ามาแตะ ถ้ามีปัญญาไปหามาใหม่ เพิ่มพูนขึ้นมาใหม่ถึงจะถูก ปู่ย่าตายายหามาแทบเป็นแทบตายมาไว้เป็นคลังหลวงหัวใจของชาติ แล้วทำไมจะมากอบโกยไปไหนอีก บอกว่าอย่ามาแตะ นั่นเราพูดเราไม่ลืมนะคำพูดคำนี้ นี่ได้ออกให้พี่น้องชาวไทยได้ทราบ ว่าพระออกสงคราม สู้สงครามแห่งความจนก็คือคราวนี้ เราได้พูดเองเราไม่ได้ลืม จากนั้นก็ค่อยฟื้นฟูขึ้นมาดังที่เห็นนี่แหละ
ทีนี้ขอสรุปความลงมาเวลานี้ ขอให้ท่านทั้งหลายพิจารณาด้วยดี เจ็บแล้วให้เข็ดให้หลาบอย่าคุ้นนะ ความเจ็บความแสบนี้จมได้เมืองไทยเรา เจ็บแสบมากจมได้หมด ให้เข็ดให้หลาบ อย่าสุกเอาเผากิน ไปหย่อนบัตรให้คนไหนว่าเป็นคนคุ้นเคยกันๆ ความจนนี้ละพาให้ชาติล่มจม ชาติล่มจมเป็นความคุ้นเคยกับใคร ให้ถามดูซิ คุ้นเคยขนาดไหนแล้วพาชาติให้ล่มจมมีอย่างเหรอ ต้องเอานี้ให้ดีนะทุกคนๆ เราประกาศด้วยความเป็นธรรม ให้ท่านทั้งหลายวางลงถูกบทถูกบาทที่สมชื่อสมนามว่า เราเป็นเจ้าของของชาติ สมบัติทั้งหลายเป็นสมบัติของชาติไทยเรา อย่าให้เราและชาติไทยเราจมก็แล้วกัน ด้วยการหย่อนบัตรชุ่ยๆ ๆ นั้นจมได้นะ ให้พินิจพิจารณาด้วยกันทุกคนๆ
เจ็บแล้วให้เข็ด คำนี้ขอย้ำอีกทีหนึ่ง เราถึงร้องโก้กมาหนหนึ่งแล้วจึงเอามาซ้ำเข้าอีก เจ็บแล้วให้เข็ด ชาติไทยเราเจ็บขนาดนั้นละ เจ็บขนาดที่เราร้องโก้ก เราอยู่ในวงศาสนาไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับชาติบ้านเมืองเลย เราก็ได้ออกมาช่วยชาติบ้านเมืองเต็มกำลังความสามารถ เพราะอำนาจแห่งธรรมนั้นแหละ เราไม่ได้มาเล่นการบ้านการเมืองดังที่หมาอมขี้มันมาเห่าโว้กๆ ว่าหลวงตาบัวไปเล่นการบ้านการเมือง มันอมขี้มาเห่า เราอมธรรมออกประกาศช่วยโลกให้รู้เนื้อรู้ตัว นั่นมันอมขี้มาตีเรามาโปะเรา ก็ติดหน้าผากมันนั่นแหละ พากันจำเอานะ วันนี้พูดเพียงเท่านี้แหละ พอจะเข้าอกเข้าใจแล้วนะ การหย่อนบัตรถือเป็นสำคัญมากนะ อย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้า พิจารณาให้ดี
เมื่อวานนี้ก็ไปส่งของด่านน้ำหนาว คือด่านน้ำหนาวเราช่วยมาตั้งแต่เราไปสร้างโรงพยาบาลหล่มสัก เราผ่านไปผ่านมาเห็นด่านทั้งสองด่านเขาขายของอยู่ตามด่านนั้น เราไปเราก็ดูสังเกตไปเรื่อย ทีแรกก็ดูผ่านไปก่อน ครั้นต่อมาเขาขายอะไรก็ซื้อเขาแต่ไม่เอาของ เอาเงินให้ราคาเท่านั้น เอาเงินให้ไม่เอาของ จนกระทั่งสร้างโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้เราส่งตั้งแต่บัดนั้นมา เดือนละหนๆ ตลอดจนกระทั่งป่านนี้ ดูเหมือนได้เจ็ดแปดปีแล้ว นี่ทางด่าน เรารักสงวนมาก เพราะพวกรักษาด่านคือรักษาสมบัติของชาติ
ทางเขาใหญ่ก็เหมือนกัน ทางลงไปปราจีนบุรี พอเราไปถึงกรุงเทพแล้วเราจะต้องซื้อของให้หนักทีเดียวไปแจก ด่านนั้นดูว่ามี ๑๓ ครอบครัว สองด่านนี้มี ๒๗ ครอบครัว เต็มรถพอดี ส่วนด่านทางโน้นเอาไปหลายคันรถ ด่านเขาใหญ่ นั่นละถ้าเป็นของส่วนรวมเรารักสงวนมากนะ ใครมาแตะไม่ได้ เช่นอย่างทางน้ำหนาวนี้ เราไปซื้อที่ให้เป็นพันๆ ไร่นะ (๒,๕๐๐ ไร่ครับ) โน่นแน่ะ ที่ซื้อนี้คืออะไร คือนั้นเป็นต้นน้ำ เราซื้อบริเวณนั้นไว้หมดเพื่อรักษาสิ่งเพาะปลูกต่างๆ ให้มันหนาแน่นชุ่มเย็น แล้วน้ำก็ไหลได้อย่างสะดวกสบาย ออกมาจากนั้น เราซื้อไว้หมดเลย เมื่อซื้อไว้แล้วพระก็เลยไปตั้งวัดอยู่ตามนั้น ให้มีทางพระรักษาด้วย มีฝ่ายทหารคอยดูแลด้วยช่วยเรา นี่ละเราทำทุกอย่างสำหรับประโยชน์แก่โลกนะ
เรารักเราสงวนมากถ้าเป็นเรื่องส่วนรวม ใครมาแตะไม่ได้นะ เราช่วยไปหมด อย่างนี้เหมือนกันไปที่ไหนเราซื้อไว้หมด ซื้อไว้เพื่อส่วนรวมๆ ไปที่ไหนเห็นแต่เรื่องหลวงตาบัว หลวงตาบัวเอาเงินจากไหนมาบริจาค เขาจะว่าอย่างนั้น กูไม่ได้เป็นบ้า สูเป็นบ้าต่างหาก สูเป็นบ้าสูจึงมาว่าให้กู ใครทานอย่างกูนี้มีไหม อยากถามว่าอย่างนั้น สูเป็นบ้าหรือ อยู่ๆ มาเป็นบ้าต่อหน้ากู กูเป็นคนดี ว่างั้นละ อ้าว เป็นจริงๆ นะ หมดไปที่ไหน เราทำอย่างนั้น คือเราแบตลอด เราไม่เอาแม้สตางค์หนึ่ง ใครมาบริจาคมากน้อยออกส่วนรวม อย่างเขามาถวายเราตามอัธยาศัย ไม่เคยสนใจ ออกส่วนรวมทั้งหมดเราไม่เอาอะไรตลอดมาอย่างนี้ และจะตลอดไปจนกระทั่งวันตาย เราไม่เอาอะไรทั้งนั้น ช่วยโลกช่วยจริงๆ จังๆ เอาละให้พร
(โรงพยาบาลชาติตระการ จ.พิษณุโลก มาขอเมตตารถส่งต่อผู้ป่วย) เอา เราไม่มีก็ตามเราจะพยายามหาให้ เอา ให้เลย (สาธุ) เพราะแถวนี้เรายังไม่ได้ให้ อย่างนี้ละมีไม่มีบางทีติดหนี้เขาก็มี ก็อย่างนี้เอง ปุ๊บปั๊บมาก็ติดหนี้ ยิ่งรถไปถูกชนหรืออะไรตกเหวตกบ่อ อันนั้นไม่ได้ขอ อย่างเมืองพลก็เหมือนกันให้ไปคันหนึ่ง แล้วรถไปชนอะไรเสีย มาอีกให้อีกคันหนึ่ง รถคันก่อนซ่อมเสร็จเราเสียค่าซ่อมให้หมด แน่ะ แล้วรถคันใหม่เอาไปเลย อย่างนั้นแล้วมันมีอยู่ทุกแห่งที่ช่วย
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |