มหาเถรสมาคมสิ้นท่าแล้วหรือ
วันที่ 22 มกราคม 2548 เวลา 8:50 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

มหาเถรสมาคมสิ้นท่าแล้วหรือ

 

ก่อนจังหัน

พระที่อยู่ข้างในท่านไม่ออกมาฉันเยอะอยู่นะ เป็นประจำเลย สำหรับในวัดนี้พระไม่เคยมาฉันครบองค์เลย ขาดอยู่ตลอดๆ แล้วพอองค์นี้มาฉัน เอา องค์นั้นหายไปแล้วๆ องค์นี้มาฉัน องค์นั้นหายไป อย่างนี้เป็นประจำ สำหรับวัดนี้ตั้งแต่สร้างวัดมาเป็นอย่างนั้น ไม่เคยเห็นมีพระมาฉันจังหันครบองค์เลยแหละ คือท่านฝึกอดทน พากเพียรในทางการชำระกิเลส กิเลสมันชอบกินมาก นอนมาก ขี้เกียจมาก นี่เรื่องของกิเลส เรื่องของธรรมต้องชะล้างกัน กินน้อย นอนน้อย ความเพียรมาก เป็นอย่างนั้นนะ

ผู้มาศึกษาทั้งทางฝ่ายฆราวาส ทั้งทางฝ่ายพระ ต่างคนต่างมีสิ่งที่เป็นภัยอยู่ในหัวใจด้วยกัน เรามาเสาะแสวงหาธรรมเพื่อเป็นน้ำดับไฟ ไฟกิเลสอยู่ในหัวใจ เผาหัวใจ เอาน้ำดับไฟได้แก่ธรรมเข้าไปแก้ เพราะฉะนั้นเวลามาให้ดู ให้สังเกตสังกาทุกสิ่งทุกอย่าง เช่นอย่างเข้ามาในวัดนี้ให้ดู ดูสถานที่ ดูพระดูเณร ดูสิ่งต่างๆ ที่ท่านจัดท่านเก็บเอาไว้ ท่านทำยังไงๆ เพื่อไปเป็นคติเครื่องเตือนใจตัวเอง อย่ามาแบบเพ่นๆ พ่านๆ มาแบบสนุกสนาน ใช้ไม่ได้นะ

วัดนี้ไม่ได้สร้างเพื่อความสนุกสนานพอกพูนกิเลส แต่สร้างไว้เพื่อพอกพูนธรรมต่างหาก ใครมาก็ให้สังเกต พินิจพิจารณา ถ้าใครมีธรรมในใจแล้วจะไม่ค่อยขาดทุนและไม่ขาดทุน จากนั้นก็ได้กำไรไปเรื่อยๆ ถ้ามีธรรมในใจแล้ว อย่าเอาสมบัติล้นฟ้ามาอ้างกันนะ นั้นคือไฟเผาหัวใจคนที่ลืมตัว ผู้มีธรรมเป็นผู้ไม่ลืมตัว มีธรรมในใจแล้วไม่บกพร่อง อยู่ที่ไหนสบายๆ ธรรมในใจ ถ้ามีกิเลสภายในใจแล้วไม่มีความพอดีแหละ จะต้องแสดงฤทธิ์แสดงเดชของมันอยู่ในนั้น ท่านเรียกว่ากิเลส ความมัวหมองมืดตื้อ และสิ่งเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้หัวใจสัตว์โลก มันอยู่ที่หัวใจ

ไม่มีใครที่จะสอนได้ถูกต้องแม่นยำ ชำระสิ่งที่เป็นภัยคือกิเลสซึ่งอยู่ในหัวใจได้เหมือนพระพุทธเจ้า ใครสอนที่ไหนก็สอนเถอะน่ะ ที่จะสอนให้ชำระกิเลสภายในหัวใจซึ่งเป็นตัวภัยโดยแท้นี้ เรายังไม่ปรากฏ ถ้าพูดถึงเรื่องศาสนาก็ไม่ปรากฏ ว่างั้นเลย มีพุทธศาสนาเท่านั้น เราไม่ได้เหยียบย่ำทำลายหรือยกยอศาสนาใดสิ่งใด ด้วยปราศจากเหตุผล เราจะพูดตามหลักเหตุผล สำหรับพุทธศาสนานี้ สอนโดยถูกต้อง ไฟไหม้ที่หัวใจ น้ำคือธรรมดับลงที่หัวใจ ด้วยการแก้ไขดัดแปลง ชำระซักฟอกอยู่ที่หัวใจเรานั้นแหละ พากันจำเอานะ

มาวันนี้เป็นวันเสาร์แล้วว่าเป็นวันเพลิดวันเพลินใช้ไม่ได้นะ ส่วนมากเมืองไทยเราชอบเพลิดเพลิน เพลินจนเป็นบ้าเลย ทุกภาคเหมือนกันหมดเมืองไทยเรานี้ ชอบเพลิดชอบเพลิน เที่ยวโน้นเที่ยวนี้สนุกสนาน สนุกสนานจนเป็นบ้าว่างั้นเถอะน่ะ พากันจำเอานะไปที่ไหน เช่นอย่างมาวัดนี้ดูให้ดี เป็นยังไงดูพระดูเณร ดูสถานที่ ดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาสัมผัสสัมพันธ์กับตัวของเรา เป็นโทษได้เป็นคุณได้ทั้งนั้น ถ้าเราดูให้เป็นโทษเป็นได้ ดูให้เป็นคุณเป็นได้ มาศึกษาให้ศึกษาอย่างนั้น วันว่างควรจะเป็นวันเสาะแสวงหาความดีงามเข้าสู่ใจของเรา ไม่ใช่เสาะแสวงหากิเลสตัณหามาพอกพูน ปรกติมันมีอยู่แล้วกิเลสภายในใจ

พระที่มาปฏิบัติก็ให้ตั้งใจปฏิบัติจริงๆ ศาสนาพระพุทธเจ้านี้เลิศเลอแล้วแหละ ขอให้นำเข้ามาสู่ใจ ออกจากนั้นระบายออกมาทางกาย ทางวาจา ความประพฤติ หน้าที่การงาน จะดีไปหมดถ้ามีธรรมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ส่วนมากมีแต่กิเลสขยำเอาๆ นั่นซี เอาละจะให้พร

หลังจังหัน

         ผู้กำกับ มีหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ครับ

หลวงตา เออ หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย เป็นสิริมงคลแก่พี่น้องชาวไทยทั่วหน้ากันนะ เราอ่านอย่างไม่ลำเอียง หนังสือนอกนั้นเราไม่ค่อยได้ใกล้ชิดสนิทกับหนังสือเหล่านั้น จึงไม่กล้าที่จะยกจะยอจะตำหนิติเตียนตรงไหน อันนี้ถ้าควรติติได้ทันทีเรา เอ้า ว่าไป

ผู้กำกับ จากนสพ.พิมพ์ไทย คอลัมน์วิจารณธรรม ประจำวันนี้ หัวข้อเรื่องว่า

บทเรียนที่ได้จากคลื่นสึนามิ

ความเสียหายที่ได้รับจากมหันตภัยสึนามี ทั้งคนไทยและคนทั่วโลกต่างได้ทราบทางข่าวแขนงต่างๆ อย่างทั่วถึงเหมือนๆ กันหมด และทุกคนต่างก็รู้สึกสลดสังเวชใจต่อความสูญเสียและความพลัดพรากของเพื่อนร่วมชาติและญาติร่วมโลก จนไม่อาจจะนิ่งดูดายต่อไปได้

หลายคนกุลีกุจอ เพื่อหาหนทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหล่านั้นในทันทีทันใด โดยสละแรงกายเข้าร่วมการช่วยเหลือกับทางมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่างๆ บ้าง จัดซื้อจัดหาสิ่งของที่จำเป็นเข้าร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้นบ้าง ร่วมบริจาคโลงศพบ้าง บริจาคเป็นเงินสดบ้าง ซึ่งผู้ที่มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเหล่านี้ ต่างมิได้รอคอยให้ใครมาชักจูงหรือบงการให้กระทำการนี้แต่อย่างใด

ล้วนเกิดจากจิตสำนึกของตนเอง

หากจะถามว่าองค์กรคณะสงฆ์ ได้เข้าไปมีบทบาทต่อมหันตภัยคลื่นสึนามิอย่างไรบ้าง ผมก็ต้องยืนยันอยู่เช่นเดิมเช่นเดียวกับที่เคยเขียนไปแล้ว ที่ว่าองค์กรคณะสงฆ์ทำงานล่าช้าและเฉื่อยชากับเรื่องนี้มาก โน่น..กว่าที่จะขยับตัวและกว่าจะสั่งการอะไรออกไปได้ เวลาก็ล่วงเลยไปแล้วเกือบ ๒๐ วัน

จะมีก็แต่จิตสำนึกของพระภิกษุสามเณรและนักบวชบางสำนักใหญ่เท่านั้น ที่ไม่ต้องมามัวรอรับคำสั่งจากองค์กรสงฆ์ ผู้เป็นประธานสงฆ์หรือประธานนักบวชในสำนักใหญ่ๆ เหล่านั้น ได้สั่งการให้เข้าไปช่วยเหลือต่อผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที

อย่างวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี ได้รีบจัดส่งพระภิกษุและเจ้าหน้าที่ประมาณ ๖๐ ท่านเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย ขณะเดียวกันก็รีบจัดส่งเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นนับเป็นหมื่นๆ ชุดเข้าช่วยเหลืออย่างทันทีทันใด โดยให้เหล่ากัลยาณมิตรในพื้นที่คอยทำหน้าที่ประสานงานร่วมกัน

ทางด้านหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด ก็สั่งการให้คณะศิษย์รีบจัดส่งข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาลทราย อาหารกระป๋อง และขนมขบเคี้ยวต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือในทันทีที่ทราบข่าว

หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ก็สั่งการให้คณะศิษย์รีบจัดส่งข้าวสารอาหารแห้งทุกชนิดเท่าที่มีอยู่ในคลัง รวมทั้งยารักษาโรคที่มีอยู่ทั้งหมด พร้อมกับเงินสดของลูกศิษย์อีกกว่า ๒ ล้านบาท ส่งเข้าไปช่วยเหลือในทันที และต่อมาจึงเดินทางเข้าไปปลอบขวัญและให้กำลังใจถึงในพื้นที่ โดยไม่มีการเลือกว่าจะต้องเป็นชาวพุทธหรือชาวมุสลิม

ส่วนพระธรรมสิทธิเวที รักษาการเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ได้นิมนต์เจ้าคณะพระสังฆาธิการในเขตการปกครองจำนวน ๑,๐๐๐ รูป เข้ามาเจริญพระพุทธมนต์แผ่เมตตาให้แก่ผู้ประสบภัย พร้อมกันนี้ก็ได้บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแก่รัฐบาลอีกจำนวนหนึ่ง

ขณะที่มหาเถรสมาคมเพิ่งจะมีมติเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคมที่ผ่านมานี้เอง มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จัดส่งพระนิสิตอาสาสมัครเข้าไปยังพื้นที่ เพื่อช่วยฟื้นฟูจิตใจแก่ผู้ประสบภัย โดยพระเทพโสภณ อธิการบดี ได้ออกมาตรการห้ามไม่ให้คณะสงฆ์ทำงานซ้ำซ้อนกัน ต้องประสานการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

หมายความว่า คณะสงฆ์ทุกหมู่เหล่าที่เข้าไปปฏิบัติศาสนกิจในพื้นที่ จะต้องทำงานร่วมกับทางมหาวิทยาลัยฯเท่านั้น เพื่อผลงานจะได้เกิดแก่องค์กรใหญ่ของคณะสงฆ์

มหันตภัยสึนามิ ให้บทเรียนอะไรๆ แก่เราได้มากมายเชียวครับ

                                           ณ.หนูแก้ว

หลวงตา ก็เท่านั้นละนะ ได้ทราบกันทั่วถึงหมดแล้ว เขาพูดด้วยความเป็นธรรม กระจายไปทั่วถึงกันหมดแล้ว ใครช้าใครเร็วใครอืดอาดเนือยนาย ใครเป็นภัยใครเป็นคุณก็รู้กันในนั้นแหละ

ที่ว่ามหาเถรสมาคมนี้นะ พระสงฆ์ไทยเราได้สาปแช่งตำหนิแล้ว ขับออกจากคณะภิกษุสงฆ์ไทย มอบให้เป็นโรงงานใหญ่มหาโจรปล้นศาสนา โดยมีสมเด็จเกี่ยวเป็นหัวหน้าใหญ่เป็นมหาโจรอยู่ในมหาเถรสมาคมนั้นแล้ว หลวงตาบัวได้พูดออกมาแล้วคำนี้ เพราะฉะนั้นว่ามหาเถรสมาคมนั้นๆ นี้ๆ เราจึงฟังไม่มีความหมายอะไรเลย เราพูดตรงๆ อย่างนี้ เพราะพวกนี้ทำความเจ็บแสบแก่ศาสนามากมาย ทำลายศาสนาได้มากที่สุด มีสมเด็จเสียด้วยนะเป็นมหาโจรอยู่ในวงศาสนาเวลานี้ พูดให้ชัดๆ เอ้า โต้มาหลวงตาขึ้นเวทีแล้วไม่มีถอยใคร จะเอาตั้งแต่ความสัตย์ความจริงออกพูดเท่านั้น ความจอมปลอมหลอกๆ ลวงๆ อย่าเอามาพูด อย่าเอามาหลอก เราหลอกไม่เป็น ธรรมพระพุทธเจ้าไม่เคยหลอกใคร พูดอย่างตรงไปตรงมา ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก อันนี้ทำความเสียหายมากมายมานานแล้วมหาเถรสมาคม

เริ่มมาตั้งแต่โน้น นายอุดมอุเด็ม ฟังว่าเป็นพลโทพลเทอะไรก็ไม่รู้แหละ นี่ก็แผนการของมันนั่นแหละเอาไปทำงานในสำนักงานพุทธศาสนา เป็นหัวหน้าสำนักงาน ไปทำลายเสียหายมากมาย นี่ก็พระสงฆ์ไทยนั่นเองได้ขับออก ร้อนถึงนายก เรากับนายกได้พูดกันเลยทีเดียว เราพูดจริงๆ อย่างนี้ ความเสียหายเหตุผลกลไกอะไรเราชี้แจงให้ทราบหมด ทางโน้นยอมรับ เมื่อยอมรับแล้วก็ให้ไล่นายอุดมนี้ออกจากสำนักงานพุทธศาสนา ทางนั้นก็ขออยู่ไปถึงวันเกษียณอายุ ทางนี้ก็กำชับไปว่า ตั้งแต่นี้ไปถึงวันเกษียณอายุ อยู่ในนี้อย่าก่อเหตุเรื่องราวอะไรขึ้นดังที่เป็นมาแล้ว มันก็ก่อตลอดเวลาจนกระทั่งถึงเกษียณอายุ

เกษียณอายุแล้วสมเด็จเกี่ยวนี้ มหาโจรตัวนี้เองไปลากเอานายอุดมเข้ามาสู่มหาเถรสมาคม คนนี้เป็นคนเสียหายมาก ทำลายแก่วงการพุทธศาสนามากมาย ถึงขนาดขับไล่ออกไป เป็นภัยมากทีเดียว แล้วก็สมเด็จเกี่ยวนี่เองไปลากเอาคนที่เป็นมหาภัยนี้เข้ามาสู่มหาเถรสมาคม มหาเถรสมาคมมีกฎเกณฑ์ข้อไหนที่ฆราวาสจะเข้าไปยุ่งได้ แต่นี้สมเด็จเกี่ยว มหาโจรตัวนี้เองไปลากเอาตัวมหาภัยเข้ามาสู่มหาเถรสมาคม ให้มาเป็นที่ปรึกษาอย่างนั้นอย่างนี้ ปรึกษาอะไรปรึกษาเพื่อทำลายศาสนาให้แหลกเหลวไปอย่างละเอียดเท่านั้นถูกต้อง ที่จะมาปรึกษาหารือเพื่อเป็นความสุขความเจริญไม่มี เราพูดอย่างตรงไปตรงมา

นี่ก็ลากนายอุดมเข้ามาเป็นที่ปรึกษาอยู่ในมหาเถรสมาคมเวลานี้ ว่ายังไงมันก็เฉยๆ มันไม่ตอบ แต่การทำความชั่วต่อส่วนรวมมันไม่ถอยนะพวกนี้ เวลานี้นายอุดมอยู่ในมหาเถรสมาคม มหาเถรสมาคมจึงกลายเป็นเรื่องว่า เป็นโรงมหาโจรอันใหญ่หลวง มีสมเด็จเกี่ยวเป็นหัวหน้ามหาโจร เพราะฉะนั้นมหาเถรสมาคมนี้ พระสงฆ์ไทยผู้ทรงศีลทรงธรรมจึงไม่มีใครรับรอง ไม่มีใครยอมรับ เพราะฉะนั้นพูดคำไหนออกไปจึงไม่มีค่ามีราคาอะไรเลย เราพูดอย่างตรงไปตรงมา

เวลานี้นายอุดมก็อยู่ในนั้น แล้วมหาเถรสมาคมนี้มีกฎเกณฑ์ยังไงจึงต้องให้ฆราวาสไปเป็นผู้ชี้แจงเด็ดขาด ปรึกษาหารืออย่างนั้นอย่างนี้ พระมันสิ้นท่าแล้วหรือพระมหาเถรสมาคม ในวงมหาเถรสมาคมนั้นมีพระยังไงบ้างอยู่ในนั้น ทำไมจึงยอมให้นายอุดมที่ว่าเจริญๆ นี่เข้าไปอยู่ในนั้นและยอมรับ ไม่เห็นได้ยินว่ามีตอบโต้อะไรในสิ่งเสียหายที่นายอุดมเข้ามา เพราะการลากจูงของสมเด็จเกี่ยว ให้เข้ามาอยู่เวลานี้ ยังอยู่นั้นนะเวลานี้ นี่ละมหาเถรสมาคมนี้เป็นมหาโจร ทราบทั่วกันแล้วบรรดาพระสงฆ์ไทยไม่มีใครยอมรับ มีแต่พวกมหาโจรนี้ยอมรับกันเท่านั้นเอง เราพูดในขั้นนี้ก่อน ให้พากันเข้าใจตามนี้ นี้เราพูดตามหลักความจริง เอาความจริงมาพูด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจอมปลอมหลอกลวงต้มตุ๋นมาตลอด พวกนี้ไม่มีความจริง มีแต่สิ่งทำลายๆ ใหญ่เท่าไรยิ่งเป็นมหาโจรใหญ่

อย่างสมเด็จเกี่ยวนี้ใหญ่ขนาดไหน ใครเป็นคนตั้งขึ้นให้เป็นสมเด็จเกี่ยว แล้วมาทำความเสียหายอย่างร้ายแรงตลอดมาอย่างนี้ทำได้ยังไง พิจารณาซิ ถ้าพูดตามหลักธรรมหลักวินัยก็ดี พูดตามหลักกฎหมายบ้านเมืองก็ดี ไม่มีใครทำได้ แต่สมเด็จเกี่ยวทำได้อย่างสะดวกหน้าด้าน มันทำได้อย่างนี้เอง เราจะตอบโต้อย่างนี้ เอ้าตอบมาเราจะเป็นคนตอบ เพราะเราเอาความจริงออกพูดทั้งนั้น พวกนี้มีแต่จอมปลอมหลอกลวง ถ้าไม่จริง เอา ไปสืบถามดูซิ มหาเถรสมาคมเป็นความจริงอย่างหลวงตาบัวนี้พูดไหม

         เพราะขับออกจากสำนักงานพุทธศาสนา ก็หลวงตาบัวนี่เป็นหัวหน้าขับออก ตัวมหาโจรว่าไปเป็นหัวหน้าเพื่อจะทำศาสนาให้เจริญ มันไปทำลายศาสนา จึงได้ขับกันออก ร้อนถึงนายกฯ ให้ขับออก เวลานี้สมเด็จเกี่ยวนั่นแหละตัวสำคัญมหาโจร ถึงขั้นสมเด็จ เป็นโจรถึงขั้นสมเด็จเวลานี้อยู่ในนั้น ไปลากเอาคนนี้เข้ามาอยู่ในมหาเถรสมาคม จริงหรือไม่จริงไปดูเอา ถ้าว่าหลวงตาบัวพูดหลอกพูดลวงไม่เป็นความจริง ต้มตุ๋นพี่น้องทั้งหลาย ให้ไปดูเอาเองนะ ความจริงเป็นมาอย่างนั้นเราพูดตามหลักความจริงอย่างนี้ นี่ละเรื่องราวเป็นอย่างนี้ จึงน่าสลดสังเวชมากนะ

         พระผู้ใหญ่ตั้งเป็นสมเด็จสมแด็ด ไม่ใช่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเป็นใคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นคนเล็กน้อยเหรอ เป็นพ่อใหญ่โต เป็นแม่ใหญ่โตของประเทศไทยทั้งชาติ ตั้งขึ้นมาเป็นสมเด็จ ทำไมสมเด็จนี้จึงเป็นมหาโจรเหยียบหัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปได้อย่างสบายๆ เอา พิจารณาซิ มันสมแล้วเหรอ พระบาทสมเด็จฯแท้ๆ เป็นผู้ตั้งให้เป็นสมเด็จขึ้นมาแล้วไปทำความชั่วช้าลามกอย่างหน้าด้านอย่างนี้มีเหรอ เอา พิจารณา พี่น้องทั้งหลายพิจารณา

         ไม่มีใครพูดอย่างนี้ ใครก็กลัวๆ เราไม่มีคำว่ากล้า เราไม่มีคำว่ากลัว มีแต่เหตุผลอรรถธรรมเท่านั้นที่จะพูดออกเต็มเหนี่ยวทีเดียว ตามความสัตย์ความจริง ที่ถูกหรือผิดประการใดจะว่าตามนั้น เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ เอาแค่นี้เสียก่อน แล้วมีอะไรต่ออีกล่ะ แหม พวกนี้มันทำเจ็บแสบมากนะ เวลานี้กำลังเริ่มทำลายศาสนา ตัวใหญ่ตัวที่ว่ามหาโจรนี่ งัดเอานั้นออกมา งัดเอานี้ออกมา คัดค้านต้านทานเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่อยมาตั้งแต่จัดตั้งสมเด็จพระสังฆราช เห็นไหม

         พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกี่พระองค์ที่ทรงสถาปนา หรือตั้งสมเด็จพระสังฆราชพร้อมกับประชาชนทั้งพระสงฆ์ทั่วประเทศไทย อนุโมทนาสาธุการน้อมรับ ทูลถวายท่านให้ทรงตั้งสมณศักดิ์ให้เป็นสมเด็จพระสังฆราช นี่ใครคัดค้านไม่มี แต่ก่อนไม่มีเลย นี่ก็ตัวเก่งที่มาแย่งเอาตำแหน่งนี้ออกไป  ตั้งกฎนั้นเข้ามาตั้งกฎนี้เข้ามาแย่งตำแหน่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชอำนาจเสียด้วยนะ ซึ่งคนทั้งประเทศทั้งพระเจ้าพระสงฆ์ยอมรับด้วยน้อมถวายท่านให้ทรงตั้ง เป็นความราบรื่นดีงาม เป็นประเพณีอันดีงามเรื่อยมา

         เพราะฉะนั้นประเพณีอันนี้จึงมีน้ำหนักเท่ากันกับชาติไทยของเรา ชาติไทยของเรามีน้ำหนักขนาดไหน มีคุณค่าขนาดไหน พระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงตั้งสมเด็จพระสังฆราชจึงมีน้ำหนักเท่ากัน แล้วมาแย่งไปอะไร การแย่งมาแย่งเพราะเหตุผลกลไก เอา อ้างมาซิ ตั้งกฎเกณฑ์ข้อไหน กฎหมายข้อไหน กฎหมอยข้อไหน กฎหมาข้อไหน กฎหมัดข้อไหน ตั้งขึ้นมาแย่งพระราชอำนาจของคนทั้งแผ่นดินที่มอบถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงตั้งสมเด็จพระสังฆราชตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้ แล้วมันเอาอำนาจบาตรหลวงมาจากไหนมาตั้ง

         ถ้าเป็นรัฐบาล รัฐบาลก็ผิด จะเป็นอะไรไม่ผิดยังไงรัฐบาลเป็นลูกของประชาชนทั้งประเทศว่าไง คนทั้งประเทศเขายอมรับถวายพระราชอำนาจให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมา แล้วพวกนี้เอาอำนาจมาจากไหนมาแย่งไป มีเหตุผลกลไกอะไร แย่งไปแล้วประชาชนทั้งประเทศเขาเป็นยังไงหัวใจของเขาคนทั้งประเทศ ทั้งพระสงฆ์ทั่วประเทศไทยเขามีหัวใจยังไง เขามีหัวใจเหมือนกันกับเรา  ใจเขาเป็นยังไงคนทางนี้ ที่พวกนี้มาแย่งอำนาจไป แย่งไปอำนาจนี้ เอาไปอะไรอำนาจอันนี้ เอามาจากไหน มาเป็นมงคลแก่คนทั้งชาติหรือมาเหยียบย่ำทำลายคนทั้งชาติ เอา พิจารณากันตรงนี้น่ะ

         นี่ละถึงได้พูดกันอยู่ เราพูดจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องผิด รัฐบาลตั้งรัฐบาลก็ผิด ใครตั้งขึ้นมาก็ผิด กฎหมายไหน กฎหมอยไหนผิดทั้งนั้น เพราะอันนี้เป็นหลักประเพณีของชาติไทยที่มีน้ำหนักเท่ากันกับชาติไทย ได้ตั้งมาดั้งเดิม ไม่มีใครที่จะมาโค่นมาทำลายได้เลยถ้าตามหลักธรรมชาติแล้ว พวกนี้มันมาทำได้ยังไง นี่แย่งอำนาจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปแล้ว กำลังพูดกันอยู่เวลานี้ ยังจะเอากันอีกอยู่ ถ้าหลวงตาบัวยังไม่ตายกับคนชาติไทยทั้งประเทศยังไม่ตายยังจะเอากันอยู่ตอนนี้

         มันมาแย่งไปหาอะไร อำนาจบาตรหลวงมาจากไหน มาจากเทวบุตรเทวดาองค์ไหนมันจึงมาแย่งอำนาจไป จะไม่ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้ง แล้วพวกนี้จะแย่งไปกินกันหมด มันแย่งไปหาอะไร รัฐบาลก็เป็นรัฐประหารละซิถ้าเป็นอย่างนี้ ประหารคนทั้งชาติ ขนบประเพณีเป็นหัวใจของคนทั้งชาติ เรียกว่าถ้าหากรัฐบาลเป็นผู้ตั้ง รัฐบาลนี้ก็เป็นเพชฌฆาตของหัวใจคนทั้งชาตินั่นเอง ไม่มีใครเห็นด้วยเลย เราพูดตรงๆ อย่างนี้

         นี่ละภาษาธรรม เราพูดอย่างตรงไปตรงมาอันนี้เป็นความถูกธรรมสุดขีดแล้ว ไม่มีอะไรผิดพลาดประการใดเลย ขนบประเพณีที่พี่น้องชาวไทยทูลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์มาจนกระทั่งบัดนี้ ให้ทรงตั้งพระสงฆ์ที่สมควรที่จะเป็นผู้ใหญ่ได้สูงสุดคือเป็นพระสังฆราช พระองค์ทรงตั้งมาโดยลำดับลำดา แล้วการมาแย่งหาเหตุผลมาซิ เป็นอะไรจึงต้องมาแย่ง ทางนี้ทำความบกพร่องประการใดบ้างที่ทำกันมา ขนบประเพณีของชาติไทยดำเนินมา ทูลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงตั้งสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมานี่ผิดตรงไหน พวกนั้นจึงมาแย่ง

         เอาเหตุผลมาอ้างกันซิ ถ้าไม่มาอ้างให้รีบถอนตัว ไม่ถอนก็เป็นเพชฌฆาตของชาติไทยทั้งชาติพวกนี้ ถ้าเป็นรัฐบาล รัฐบาลก็เป็นเพชฌฆาตของคนทั้งชาติ แล้วใครเป็นคนตั้งกฎหมายขึ้นมา ผู้ตั้งกฎหมายก็เป็นเพชฌฆาตของคนทั้งชาติอีกเหมือนกัน กฎหมายนี้ไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากเป็นเพชฌฆาตสังหารหัวใจคนทั้งชาติเท่านั้น เพราะขนบประเพณีอันดีงามนี้เป็นน้ำหนักที่ประชาชนชาวไทย ทั้งพระเจ้าพระสงฆ์เทิดทูนกันตลอดมา แล้วมาทำลายทำไม

         เอา หาเหตุผลมาอ้างนะ ถ้าไม่หาเหตุผลมาอ้างให้รีบเอาคืนมา ถอนคืนมา นี้อย่างอนุโลม ไม่ปรับโทษปรับกรรมอะไร มาแย่งสมบัติอันล้นค่าของเขาไป เขาบอกให้เอาคืนมาเท่านั้น เขาไม่ได้ปรับโทษ ยังฐานกรุณา ชาติไทยทั้งชาติไม่ได้ว่าอะไร ให้เอาคืนมาเท่านั้น ไม่เอาโทษเอากรณ์อะไร ถ้าความเป็นธรรมเป็นนักกีฬาจริงๆ ยอมรับแพ้รับชนะแล้วต้องเอาคืนมา แล้วมาขอขมาโทษด้วย ขอขมาโทษคนไทยทั้งชาติว่าได้ผิดพลาดไปอย่างนั้นๆ อย่างนี้ถึงจะถูก นี้จะมาเอาอย่างแบบหน้าด้านอย่างนี้ได้เหรอ

         นี่ก็กำลังจะหย่อนบัตร จะหย่อนบัตรแบบไหน คราวที่แล้วๆ มานี้ เห็นไหมคนทั้งชาติจมไปด้วยกัน ขนบประเพณีอันนี้จมไปแล้ว คนทั้งชาติเท่ากับจมไปด้วย แล้วจะหย่อนบัตรขึ้นมาเอาอะไรอีก เอาคนทั้งชาติจมไปแล้วจะเอาหมาตัวไหนให้จมไปตามอีก มันก็จมไปกับเจ้าของแล้วหมาก็ดี หรือจะเอาหมูตัวไหนอีก มันน่าพิจารณานะเรื่องเหล่านี้น่ะ นี้เราพูดเป็นธรรม เรื่องขนบประเพณีนี้ถูกต้องดีงามที่สุดแล้ว ไม่มีที่ต้องติแล้ว ควรจะเทิดทูนรักษาไว้เป็นขนบประเพณีอันดีงามต่อไป ให้กุลบุตรสุดท้ายภายหลังได้เคารพนับถือกราบไหว้บูชาต่อไป ไม่ควรที่จะเอาฟืนเอาไฟอย่างนี้มาเผาบ้านเผาเมือง เพราะพวกเหล่านี้ตั้งแต่วงรัฐบาลลงมาเป็นลูกของชาติไทยทั้งนั้น ทำไมจะมาทำลายพ่อแม่ของตนได้ลงคอ มันสมควรแล้วเหรอ เอาแค่นี้ก่อนนะ

         เป็นอย่างนั้นแหละเรา เวลาขึ้นเวทีแล้วซัดเลย ลงมาแล้วก็ธรรมดาไม่มีอะไร นำเหตุผลออกมาซิ เราพูดด้วยความสัตย์ความจริง มีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์อ้างออกมา เอา ถ้าผิดเราจะยอมรับ นั่นเข้าใจไหมละ ถ้าเราไม่ผิดทางนั้นผิดให้ถอนตัว นั่นมันถึงถูก จึงเรียกว่านักกีฬายอมแพ้ยอมชนะซิ ตัวแพ้จะว่าตัวชนะได้ยังไง ให้พร

ไปภูทอก เราไม่เคยขึ้น นี่ละท่านจวน ต้นเหตุมันนะ แต่นี้ท่านทำแล้วเราก็ไปว่าเอาเฉยๆ  เราไปที่ภูทอกนั่นละ ท่านจวนก็มาหาเรากราบเรา เราก็ว่าให้ฟัง ท่านจวนท่านก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ไม่ทราบจะให้ผมตำหนิท่านยังไง ท่านเคยไปจำพรรษากับหลวงปู่มั่นด้วยกัน นี้หลวงปู่มั่นท่านสั่งให้ท่านมาสร้างความกังวลวุ่นวาย นรกทั้งเป็นไว้ที่นี่ได้ยังไง นี่ถ้าหากว่าท่านจะพิจารณาตามอรรถตามธรรมแล้ว ความอุตส่าห์พยายาม ความคิดความอ่าน กำลังวังชาที่ท่านขวนขวายมาสร้างนี้จนกระทั่งถึงโน้น ถ้าเป็นฆ่ากิเลส กิเลสเรียกว่าไม่มีกระทั่งผุยผง แหลกหมด เพราะความอุตส่าห์พยายามทุกวิถีทางที่ท่านนำมาสร้างแล้วเอาไปทุ่มฆ่ากิเลส กิเลสจะขาดสะบั้นไปหมดเลย ทำไมท่านมาทำอย่างนี้ ครั้นทำลงไปแล้วท่านรู้ไหมว่านี้บ่อนรก จะกวนทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่สร้างนี้ขึ้นมา ว่าบันไดสวรรค์มันบันไดนรกท่านรู้ไหม เราว่าอย่างนี้ ว่าเอาจริงๆ ท่านทำไมไม่คิดไม่อ่านบ้าง

ท่านหมอบนิ่งไม่ตอบว่าอย่างไรเลย พอเรามาไม่นานท่านก็ขึ้นแหละ อู๊ย ท่านอาจารย์มหาบัวพูดทำไมถึงถูกเอานักเอาหนา ว่าบันไดสวรรค์มันไม่ใช่บันไดสวรรค์ มันบันไดนรก คนนี้ยุ่งทั้งวันทั้งคืนเลย นั่นเห็นไหมล่ะ ก็อย่างนั้นซิ ตั้งแต่การก่อการสร้างมันก็ยุ่งพอแล้ว นี่ถ้าทุ่มเทกำลังวังชาลงไปเพื่อฆ่ากิเลส กิเลสจะแหลกไปหมดเลย ท่านก็มายอมรับเลยที่นี่นะ ที่ท่านอาจารย์พูดหาที่ผิดไม่ได้เลย ผมยอมรับ นี่แสดงว่าท่านเป็นนักกีฬา ท่านยอมรับว่าท่านผิด เราก็ชมท่าน แน่ะ ว่าตั้งแต่ทำนั้นมาแล้วไม่มีเวล่ำเวลาเลย ไม่ว่ากลางวี่กลางวันกลางคืนเสียงเวิ้กว้ากๆ อยู่นี้ สถานที่นี้ควรจะเป็นที่สงบสงัด กลายเป็นโรงระบำรำโป๊ไปหมด ท่านยอมรับ ถ้าหากว่าไม่สร้างนี้ขึ้นมา สถานที่นี้จะเป็นสถานที่เหมาะสมมากในการเพาะอรรถเพาะธรรมใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวนี้มันไม่เป็น เราไม่ได้ตำหนิ พูดตามหลักความจริง สถานที่ควรจะรื่นเริงบันเทิงในทางไหนเขาก็ทำอย่างนั้น ส่งเสริมไปทางนั้น อันนี้สถานที่ควรจะรื่นเริงบันเทิงในอรรถในธรรม ทำไมจึงไปทำอย่างนี้ มันขัดกัน เข้าใจเหรอ

ท่านจวนท่านก็ดี สำหรับกับเราพูดตรงๆ เลยท่านลงเต็มที่มาแต่ไหนแต่ไร เพราะฉะนั้นเวลาเราไปว่าเราก็ว่าอย่างมีเหตุมีผลนี่ ท่านนิ่งเลย ฟัง พอกลับมาไม่นานท่านก็กลับมายอมหมดเลย อย่างนั้นซิธรรมต้องมีเหตุมีผล ทำสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง เดี๋ยวนี้มันจะหาความสงัดไม่ได้แล้วนี่ที่ภูทอก ทำเลชุลมุนวุ่นวายไปหมดแล้ว เราไม่ค่อยไป นานๆ ไปที ด้อมๆ ไปเฉยๆ ไม่ได้หวังเอาผลประโยชน์อะไรแหละ ไปอย่างนั้นเอง มีความหมายอันหนึ่งอันใดอยู่ในนั้น...ไป

ท่านจวนท่านเก่งทางหาที่สงบสงัด แต่ท่านเป็นยังไงก็ไม่ทราบ ท่านไปหาที่สงัดที่ไหนดีๆ เช่น ถ้ำจันทน์ก็ดี ถ้ำจันทน์ก็ท่านจวนแหละไปอยู่ที่นั่น แต่ก่อนบ้านเขาอยู่ที่ไหนไม่รู้ ถ้ำจันทน์อยู่กลางป่า ครั้นทำไปทำมาเลยตกลงถ้ำจันทน์กลายเป็นอยู่กลางบ้านไปแล้ว บ้านเขาล้อมรอบหมดเลย นี่ละถ้ำจันทน์นี่ก็ท่านจวนไปเสาะแสวงหาได้ ท่านชอบหาที่แปลกๆ ท่านเล่าให้ฟังถ้ำจันทน์ เราก็ไปดู ไม่สูง ตอนนั้นท่านเป็นไข้มาลาเรีย ท่านนอนอยู่ มีกองไฟกองหนึ่ง ท่านนอนอยู่นั้นเงียบๆ อยู่ๆ เสือมันโดดขึ้นมานั้นเลย มันไม่รู้ว่าคนอยู่ที่นั่น เพราะเสือเหล่านี้มันเคยหากินหมา เสือดาว ท่านนอนอยู่ธรรมดา เอาผ้าคลุมโปง

อยู่ๆ เสือมันโดดขึ้นมาปุ๊บ ท่านมองไป ทีนี้เสือพอมองเห็นคนมันก็มีท่าแต่จะไป พอดีมันมองไปเห็นคน คนก็มองดูมันอยู่แล้ว มันก็คอยแต่จะเปิด ท่านก็ขยับผ้าคลุมโปง มันก็เปิดผึงเลย โดดแพล็บไปเลย นี่ละถ้ำจันทน์ ท่านจวนเล่าให้ฟัง ท่านเป็นไข้มาลาเรีย ท่านนอนอยู่ กองไฟอยู่นี้ เสือโดดขึ้นมานั้น มันไม่รู้ว่าคนอยู่นั้น พอโดดขึ้นมาปั๊บมาเจอเอาคน พอเจอคน คนก็ดูมัน มันก็มีแต่ท่าจะเปิดไม่มีท่าสู้ ท่านว่านะ พอคนขยับผ้ามันก็โดดผึงไปเลย มึงมาอะไรที่นี่ นี่ถ้ำจันทน์ ก็เป็นกลางบ้านแล้วเดี๋ยวนี้ แล้วภูทอกก็เป็นอย่างนั้นละดูเอา ท่านเสาะแสวงหาที่ไหน ครั้นได้แล้วก็เป็นอย่างนั้นๆ มันก็แปลกอยู่นะ เอาละเลิกกัน สายแล้ว

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก