เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
ถึงชนะก็ชนะแบบแพ้
ก่อนจังหัน
เปลี่ยนหน้ามาเรื่อยพระ เปลี่ยนหน้าเรื่อยๆ มาอยู่วันหนึ่งสองวันหายๆ แล้วเข้าออกๆ มันจะไม่ได้หลักได้เกณฑ์นะพระเรา พระกรรมฐานเราน่ะ มาไม่ทราบว่ามาศึกษาหรือมาเถลไถล มาแบบโก้ๆ เก๋ๆ ก็ไม่ทราบนะ ธรรมพระพุทธเจ้าละเอียดลออสุดขีด ในโลกนี้ไม่มีอะไรเสมอเหมือน เพราะฉะนั้นเราเป็นลูกศิษย์ตถาคต ตาให้เป็นธรรม หูเป็นธรรม จมูก ลิ้น กาย จิต ให้เป็นธรรม เกี่ยวข้องกับธรรมอยู่เสมอแล้วจะเป็นประโยชน์ สักแต่ว่าดูว่าฟังอะไร โลกมันเต็มโลกอยู่งั้น เลอะๆ เทอะๆ ไปหมด ถ้าดูแบบธรรมพระพุทธเจ้าแล้ว สงบๆ ๆ ลงนะ ไม่เคยทำใครให้เสียหายคือธรรมของศาสดาองค์เอก แม้แต่อยู่ในสัตว์ก็น่าดูจะว่าไง อยู่กับคนทำไมจะไม่น่าดูถ้าไม่เลวกว่าสัตว์ น่าดูทั้งนั้นแหละธรรมแทรกเข้าที่ตรงไหน
นี่เห็นพระออกไปอะไรที่ส้วมประตูวัดนั่นน่ะ พระไปยุ่งเหยิงวุ่นวายอะไรเกินไป หือ ไม่ได้นะ นี่เป็นงานของฆราวาสเขา งานหยาบๆ ไม่ใช่งานของพระจะไปยุ่มย่ามๆ นอกจากจำเป็นจริงๆ ก็ไปดูชั่วระยะๆ เท่านั้น จะไปมั่วสุมเสียจริงๆ แบบฆราวาสเลวกว่าฆราวาสนะพระน่ะ เรื่องแก้กิเลสเป็นของง่ายเมื่อไร ท่านทั้งหลายจะมาเหลาะๆ แหละๆ อยู่อย่างนี้ได้เหรอ ผมมองไปเห็นเมื่อวานนี้ จนกระทั่งค่ำแล้วคนหมดแล้ว ตามธรรมดาคนหมดนั่นแหละเราถึงจะด้อมๆ ออกไปดูนั้นดูนี้ ถ้าไปดูเวลาอื่นไม่ได้มันเลอะเทอะ คือมันรุมเอา ว่างั้นเถอะ จนกระทั่งคนหมดไปแล้วถึงด้อมๆ ออกไป เมื่อวานค่ำๆ ออกไปยังมองเห็นพระอยู่ในงานส้วมทางประตูออกวัดน่ะ มันพระยังไงไม่รู้จักประมาณ มันจะเลอะๆ เทอะๆ แล้วนะพวกนี้น่ะ
ไอ้เรื่องเลอะๆ เทอะๆ นี่เร็วที่สุดนะ มองไปไหนมันตำตาๆ ตลอด เอ๊ ทำไมผู้มาศึกษาอรรถธรรมจึงมาให้เห็นความแสลงธรรมต่อหน้าต่อตาอยู่เรื่อยๆ อย่างนี้ล่ะ น่าคิดอยู่นะ การทำหน้าที่ภายนอกทำชั่วกาลชั่วระยะเวลาเท่านั้น สำหรับงานทางด้านธรรมะ สติกับจิตพิจารณาดูความเคลื่อนไหวของใจนี้จับติด นี่เป็นงานของพระพุทธเจ้าสั่งสอนสัตว์โลก พระองค์ได้ทำมาก่อนแล้ว พิจารณาให้ดีนะท่านทั้งหลาย นักภาวนาก็เต็มป่าเต็มรกแต่ไม่ได้เรื่องได้ราว ก็คือเลอะๆ เทอะๆ เหลาะๆ แหละๆ ไม่จริงไม่จัง ถ้าว่าความเพียรก็หย็อกๆ แหย็กๆ สติไม่อยู่กับตัว จิตไม่อยู่กับตัว ให้กิเลสเอาไปถลุงหมด แล้วก็มาทวงเอามรรคผลนิพพานจากการเดินหย็อกๆ แม้แต่หมาเขาก็เดินได้ เขาวิ่งได้ด้วยหมา สี่ขาเขามีขาไหนพักไม่มี วิ่งไปด้วยกันทั้งนั้น แต่มันก็เป็นหมาอยู่งั้นละถ้าไม่มีสติไม่มีปัญญา เรื่องความพากความเพียรเป็นอย่างนั้นนะ พากันจำให้ดี
สติเป็นสำคัญ ผมย้ำแล้วย้ำเล่า อยู่ที่ไหนก็ตามสติเป็นพื้นฐาน จากนั้นก็สัมปชัญญะ กระจายออกจากจุด เช่นอย่างเราบริกรรม สติจับจุดคำบริกรรม เรียกว่าสติ ที่เป็นความรู้ตัวรอบตัว ความเคลื่อนไหวของกายของกิริยาอาการต่างๆ ทางร่างกาย หรือจะพูดก็ดี สติติดแนบๆ นี้เรียกว่าสัมปชัญญะ คือขยายออกไป ถ้าเข้ามาจุดเฉพาะก็คือคำบริกรรม หรือจิตที่มีความสงบ จ่ออยู่กับความสงบ รู้อยู่กับความสงบ นั่นเรียกว่าสติ จำให้ดี นักปฏิบัติจะไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรนะ
ศาสนานี่เลิศเลอสุดยอดแล้ว ไม่มีอะไรเสมอแล้วในโลกนี้ผมพูดจริงๆ ผมขึ้นเวทีฟัดกับกิเลสมาเป็นเวลา ๙ ปีเต็มเลย ออกจากนั้นมาขยายธรรมทั้งหลายที่ในหัวใจออกมา เพราะฉะนั้นจึงพูดได้ทุกแบบทุกฉบับ ไม่มีสะทกสะท้านกับสิ่งใด เพราะประจักษ์อยู่ในหัวใจๆ เหมือนพระพุทธเจ้าประจักษ์ธรรมทีแรกนั่นแหละ ธรรมอันเดียวกันประจักษ์ในหัวใจ ใจเป็นนักรู้ทำไมจะไม่รู้ ขอให้มีสติเถอะน่ะ มีสติมีปัญญาพิจารณาเถอะ ธรรมพระพุทธเจ้าจะเป็นธรรมที่เลิศเลอขึ้นที่หัวใจๆ ที่เคยเลอะเทอะนี้แหละ จำให้ดีทุกคนๆ พระก็ดี
ข้างนอกก็เลอะ ข้างในก็เลอะ มันคอยแต่จะเลอะอยู่เรื่อย มองเห็นที่ไหนที่จะสะดวกตาสะดวกใจไม่ค่อยมี มันสะดุดๆ ผิดธรรมแล้วนั่นมันถึงสะดุดไม่ใช่อะไรนะ ถ้าผิดธรรมต้องสะดุด เราพิจารณาโดยธรรมทั้งนั้น เอาละให้พร
หลังจังหัน
เรื่องการช่วยเหลือโลกนี้เราก็สุดกำลังของเรา ช่วยเหลือ เฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวไทยเรา เราช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกอย่างเลย ถึงขนาดติดหนี้เขาก็ยังมี นั่นน่ะฟังซิ ขนาดติดหนี้เขาก็มี มันไม่ทัน แต่ความจำเป็นที่จะให้ติดมีก็ต้องติดไปก่อนอย่างนั้นก็มี เราบริสุทธิ์เต็มที่ เพราะฉะนั้นการแสดงออกของเราทั้งทางบ้านเมืองทั้งทางศาสนาหรือรวมไปหมดเลย เราแสดงออกในแง่ใดมุมใดเรายืนยันรับรองเป็นความบริสุทธิ์ถูกต้องสุดส่วนเลย เราไม่มีผิด เราพิจารณาโดยธรรมทั้งนั้น ก้าวเดินตามธรรม ไม่ได้เป็นเรื่องกิเลสตัณหาเห็นแก่ตัวๆ พอลับๆ พอลี้ๆ พอลึกๆ เป็นอย่างนั้นนะ ลึกลับๆ ทำได้ทั้งนั้นพวกนี้ เราไม่มี เรื่องเหล่านี้ไม่มีในหัวใจเรา
แม้แต่เพียงคิดออกมาอะไรมันขัดอย่างนี้ มันหากเป็นอยู่ในนี้ มันปัดของมันเองนะ แล้วเราจะไปฝืนเป็นขโมยใหญ่ หลวงตาบัวเป็นขโมยใหญ่ มหาโจรใหญ่ได้ยังไง ว่าอย่างนี้เลย คิดดูเพียงมันคิดในจิตนี้ไม่ถูกมันปัดออกทันทีเลย มันเป็นหลักธรรมชาติของมัน พี่น้องทั้งหลายไม่เคยฟังก็ฟังเสียนะ นี้ละธรรมภายในใจเปิดเผยอยู่กับตัวเอง ไม่จำเป็นจะต้องมีที่แจ้งที่ลับ เปิดเผยอยู่กับตัวเองคือใจที่เป็นนักรู้ ธรรมอยู่กับใจแล้ว เรียกว่าบอกกันพอดีเลย ออกมาพอเหมาะพอดี นี่ที่เราปฏิบัติต่อพี่น้องชาวไทยเรา ไม่ว่าจะแบบใดภูมิใด เราภูมิใจของเราตลอดว่าเราไม่ผิด ก้าวเดินตามความถูกต้องดีงามของอรรถของธรรมที่เราได้ปฏิบัติมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทีนี้เวลาออกช่วยโลกตามขั้นตามตอนหยาบละเอียด เราก็ก้าวเดินตามนั้นเรื่อยมา ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมตลอด เราไม่มีอะไร นี่เรียกว่าเราภูมิใจในการช่วยชาติคราวนี้
เราบริสุทธิ์เต็มเหนี่ยว คิดดูซิว่าบาทหนึ่ง ในจิตของเราไม่มีเลยที่ว่าผิดไปแล้วหนึ่งบาท หรือไปเอาแบบลี้ลับอะไร แม้แต่หนึ่งบาทขึ้นไป เรื่องสตางค์ไม่ต้องพูดเดี๋ยวนี้เขาไม่ใช้เงินสตางค์ เขาใช้แต่เงินบาท เราก็บอกบาทไปเลย เป็นอย่างนั้นละ เป็นอย่างนั้นหัวใจเรา ท่านทั้งหลายให้ทราบเสีย นี่การปฏิบัติธรรม เราจึงเปิดเผยได้ทุกแง่ทุกมุม ด้วยความเป็นธรรมล้วนๆ ไปเลยทีเดียว ไม่ว่าจะพูดแง่หนักแง่เบาพูดอะไรๆ ไปแล้วผ่านเรียบร้อยไปเลยๆ ไม่ได้มาวิตกวิจารณ์ตรงนั้นผิดไปตรงนี้ถูก อันนั้นสูงไปต่ำไป ไม่มี ออกมาสำเร็จรูปพร้อมๆๆ เลยเทียว เราจึงกล้าพูดทุกอย่างที่พิจารณาเรียบร้อยแล้วออกๆ เลย ถ้ายังไม่เรียบร้อยไม่ออก ถ้าออกต้องเรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นขึ้นเวทีก็โบกมือ เอ้า มา ว่างั้นเลย ให้ถอยไม่มีขึ้นเวทีแล้ว รอที่จะต่อยเท่านั้น ถ้าหมายถึงเรื่องเวทีนะ นี้เราขึ้นเวทีหรือสังคมของชาติ ศาสนาอยู่ด้วยกัน เอาศาสนาออกเวทีทีเดียว ขึ้นเวทีเลย พูดทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความถูกต้อง เราพิจารณาเต็มสัดเต็มส่วนแล้ว
ตั้งแต่พาพี่น้องดำเนินมานี้เราก็ไม่ได้เคยมีข้อต้องติของเราในวัตถุทั้งหลาย ที่ท่านทั้งหลายได้บริจาคมานี้ เรารับมาด้วยความบริสุทธิ์ จ่ายด้วยความบริสุทธิ์ล้วนๆ ตลอดมาเลย คิดดูซิว่าบาทหนึ่งเราไม่เคยมีในจิต ไม่ปรากฏเลย จะจ่ายมากจ่ายน้อยเรามีเหตุผลทุกอย่าง มาสุ่มสี่สุ่มห้ากับเราไม่ได้ จ่ายเท่าไรก็ตามต้องมีเหตุผลจับปุ๊บๆ พร้อมแล้วเอ้าจ่ายๆ นี่เรียกว่าบริสุทธิ์แล้ว ความหมายว่าอย่างนั้น ที่จะมียิบแย็บไว้ในจิตนี้ โอ๋ย ไม่มีเลยในหัวใจเรา มีไม่ได้ว่างั้นเลย ใจดวงนี้เปิดขนาดนั้นละ นี่เปิดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เราเปิดหัวใจของเราเต็มสัดเต็มส่วน เราไม่มี
เรากล้าแสดงออกได้ทุกอย่างที่เห็นว่าถูกต้องแล้วๆ ผิดบอกว่าผิดเลย ถูกบอกว่าถูก ไม่มีคำว่าสูงว่าต่ำ ธรรมเหนือหมดแล้ว เราเอาธรรมเหนือหมดแล้วมาออกเลยทันที ควรค้าน-ค้านเลย ไม่ว่าทางไหนก็ตาม ถ้ายอมรับก็ยอมรับทันทีเลย ถ้าผิดก็ค้านไปเลย อย่างที่เวลานี้ยังอยู่ในนี้ ปัญหานี้ยังใหญ่โตอยู่นะ ยังจะได้เอากันอยู่ ถึงขั้นรัฐบาลโน่นละ เราพูดจริงๆ ประเพณีของชาติไทยเราพระมหากษัตริย์เป็นผู้ทรงตั้งสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมา ตั้งแต่องค์ไหนๆ นานมาสักเท่าไรแล้วเมืองไทยเรา ขนบประเพณีอันนี้ทั้งพระเจ้าพระสงฆ์ทั่วประเทศไทย ทั้งประชาชนทั่วประเทศน้อมรับ ทูลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงตั้งสมเด็จพระสังฆราชเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ใครมาแย่งไม่ได้ อันนี้เป็นประเพณีของชาติไทยเรา มีน้ำหนักเท่ากันกับชาติไทยเรา จะมาแย่งเอาไปอย่างนี้ไม่ได้ นี้เอาไปแล้วนะ ยังจะเอากันอยู่นี่
เราพูดจริงๆ นี่มันผิด เราก็บอกว่าผิดอย่างนี้ละ ผิดอย่างใหญ่หลวงทีเดียว ถ้าเป็นรัฐบาลทำรัฐบาลก็ผิด บอกตรงๆ เลย ธรรมเหนือรัฐบาลนี่วะ รัฐบาลเป็นลูกชาวพุทธ เป็นลูกชาวผีมาจากไหนถึงจะมาแย่งเอาอย่างนี้ไป นี้เป็นขนบประเพณีของชาติไทยเราดำเนินมา ทั่วแผ่นดินไทยยอมรับทั้งพระเจ้าพระสงฆ์ หมดทั่วแผ่นดินไทยว่างั้นเถอะ มอบทูลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงตั้งสมเด็จพระสังฆราชขึ้น เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีใครจะมาแย่งเอานั้นเอานี้ไป นี่ทราบว่าแย่งเอาไปแล้ว ผิด บอกงี้เลย เราบอกว่าผิด รัฐบาลทำก็ผิด บอกงี้เลย
นี้เป็นขนบประเพณีของชาติไทยเรา ไม่มีส่วนใดที่จะมายื้อแย่งแข่งดีเอาไปได้เลย เพราะอันนี้เป็นน้ำหนักเท่ากันกับชาติไทยเรา มาแย่งไปหาอะไร แย่งไปเพื่อประโยชน์อะไร เอา หาเหตุผลมา ไม่มี มีแต่ความเสียหายต่อคนทั้งชาติ มีแต่ความเสียหายโดยถ่ายเดียวเท่านั้นเราพิจารณาหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเราถึงกล้าออกเวทีเลย บอกว่าถ้ารัฐบาลทำอย่างนี้รัฐบาลก็ผิด บอกอย่างนี้ละ ส่วนรัฐบาลจะฟังเสียงเราหรือไม่ฟังเสียงเรา เสียงเราต้องเป็นเสียงธรรม ถูกอยู่อย่างนี้ตลอดไป เราพูดตรงๆ อันนี้ต้องมอบกลับคืนให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เท่ากับมอบกลับคืนให้คนทั้งประเทศนั้นเองจะเป็นอะไรไป แล้วแย่งไปหาอะไร การมาแย่งเอาไป แย่งไปเพื่ออะไร เอาเหตุผลมาจับกันซิ มีแต่แย่งไปเพื่อพวกโจรพวกมาร พวกมหาภัยเท่านั้น ไม่ใช่เป็นมหาคุณต่อชาติพอจะมาอุดหนุนประเพณีของชาติไทยเราอันนี้ให้สูงขึ้น มีแต่เหยียบย่ำทำลายลงไป ธรรมเห็นด้วยไม่ได้เราก็บอกว่าเห็นด้วยไม่ได้
อันนี้ถ้ารัฐบาลทำรัฐบาลก็ผิด นี่ละธรรมเหนือรัฐบาล เราพูดอย่างตรงไปตรงมา ประเพณีอันนี้มีน้ำหนักเท่ากับชาติไทยของเรา แล้วใครจะมาเอากฎหมายกฎหมอยกฎหมัดที่ไหนมาแย่งไปถ้าไม่ใช่มหาโจร ปล้นชาติ ปล้นศาสนา ปล้นคนทั้งชาติ หัวใจคนทั้งชาติเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่น ถ้าเป็นรัฐบาลทำรัฐบาลก็เป็นมหาภัยต่อชาติ ใครทำขึ้นมา กฎหมายกฎหมอยไหนก็ตาม เป็นมหาภัยต่อชาติทั้งนั้น เราพูดตรงๆ อย่างนี้ละ นี่ละภาษาธรรมฟังเอาพี่น้องทั้งหลาย เพราะฉะนั้นเรายังยอมไม่ได้ตามความถูกต้องเหตุผลแล้ว ส่วนเขาจะทำตามไม่ทำตามเป็นเรื่องของเขา เรื่องของธรรมเราจะออกเต็มเหนี่ยวของธรรม ในฐานะที่ว่าธรรมเป็นเครื่องปกครองชาติไทยของเราที่เป็นชาวพุทธ เราก็นำธรรมออกมาแสดง ธรรมคือความถูกต้อง
ถ้าอันนั้นว่าถูกต้อง เอาๆ มาเหยียบธรรมดูซิ ยกเหตุผลมา ที่มาแย่งเอาไปนี้เพราะเหตุไร ยกเอามา ถ้าควรจะให้แล้วจะให้หมดทั้งประเทศนี้เลย ถ้าไม่ควรให้อย่ามาแย่ง อย่ามาทำสุ่มสี่สุ่มห้า บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมายบ้านเมือง มีศาสนา ศาสนาเป็นศาสนาเลิศเลอของพระพุทธเจ้าเสียด้วย เป็นที่ยอมรับกันแล้ว เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมยอมรับกันทั้งหมดนั่นแหละ ถ้าไม่ยอมรับก็มีตั้งแต่พวกเปรตพวกผีเท่านั้น มันขัดมันแย้งมันลบล้างศาสนา เพื่อจะเอามูตรเอาคูถเข้ามาโปะแทนศาสนาเท่านั้นเอง มีเท่านั้นอย่างอื่นไม่มี อันนี้อันหนึ่งที่ยังอยู่เวลานี้ เรายังไม่ตายยังจะมีกันอยู่ อันนี้นะ เราพูดจริงๆ ส่วนเขาจะทำตามไม่ทำตามนั้นเป็นเรื่องของเขา แต่เหตุผลเป็นอย่างนี้ว่างั้นเลย ถึงเขาจะชนะก็ชนะแบบแพ้มา ไม่ได้ชนะแบบชนะมา แบบแพ้ แพ้เหตุแพ้ผลแพ้อรรถแพ้ธรรม มาเหยียบหัวธรรมก็เหยียบไปเฉยๆ นั่นละจะว่าไง
ไม่มีชิ้นดีละเรื่องมาเหยียบหัวธรรม เอาชนะแบบกิเลสไม่มีชิ้นดีเลยแหละ ภาษาธรรมเป็นอย่างนี้ ท่านทั้งหลายฟังเอา นี่สอนโลกมา ดำเนินมา เจ้าของเองดำเนินมาก็เหมือนกัน ตรงไหนที่ผิดแล้วปัดออกๆ มันจะสงวนขนาดไหนปัดตลอดเลยเทียวไม่ยอมถอยกัน ก็ได้ชัยชนะมาโดยลำดับลำดา จนกระทั่งเต็มเหนี่ยวแล้วในหัวใจ หาที่ต้องติไม่ได้แล้วในหัวใจของเราเอง บอกตรงๆ เลย ในโลกอันนี้ สามแดนโลกธาตุเหนือไปหมดเลยทุกอย่าง อยู่ในท่ามกลางของคนที่เขาจะยกธรรมมาพูด ทั้งสามโลกธาตุมาหาเรา เราก็ไม่เคยหวั่น เพราะธรรมชาตินี้เหนือโลกแล้วจะไปหวั่นหาอะไร ธรรมชาตินี้เหนือแล้ว เราก็พูดตามหลักธรรมชาตินี้เอง
เพราะฉะนั้นการนำพี่น้องชาวไทย เราจึงไม่เคยได้ตำหนิตัวของเราว่าผิดพลาดตรงไหน ทางด้านวัตถุก็ดี ทางด้านนามธรรมเราก็สอนโลกมาตั้งแต่เริ่มออกนำพี่น้องทั้งหลาย การแนะนำสั่งสอนทั่วประเทศไทยเราสอนไปหมด มิหนำซ้ำเวลานี้ออกทั้งเมืองนอกเมืองนานอกโลกไปแล้วนี่ พวกอินเตอร์เน็ต ไปเรื่อยๆ อย่างนั้น เราก็ทำมาเต็มกำลังความสามารถ ก็ไม่เคยได้ต้องติตามหลังไปว่า เราดำเนินอย่างนั้นผิดไป ตรงนั้นผิดไป ไม่มี การแนะนำสั่งสอนในธรรมทุกขั้น เราก็ไม่เคยได้ตำหนิธรรมของเราว่าผิดไปในขั้นนั้นๆ ตอนนั้นๆ ไม่มี เพราะสำเร็จรูปทุกอย่างแล้วออก ทุกแง่ทุกมุมออกสำเร็จรูปเรียบร้อยกินได้เลยๆ นี้เป็นหลักธรรมชาติของธรรมที่มีอยู่ในหัวใจ เราแสดงออกเต็มเม็ดเต็มหน่วยของเรา เราจึงไม่มีที่ต้องติ อันใดที่ควรต้องติเราก็ต้องติ อันใดที่ควรชมก็ชมไปตามอรรถตามธรรมทั้งนั้นแหละ เราได้ช่วยเต็มกำลังความสามารถ
คิดดูซิอย่างเงินพี่น้องทั้งหลายมานี้ กี่พันกี่หมื่นล้าน นี้ออกทั่วประเทศไทยเลยเราไม่เคยเก็บ ฟังซิ เงินเราไม่เคยเก็บ ในวัดนี้ไม่มีการเก็บเงิน ไม่มีเลย มีแต่ออก ถึงจะเหลืออยู่นี้ก็เหลืออยู่เพื่อจะออกทั้งนั้น ไม่ใช่เหลือเพื่อจะเก็บสั่งสม มีเงินในบัญชีเรามีเราบอกตรงๆ ในบัญชีนี้เราคำนวณไว้แล้วว่า สร้างอันนั้นเท่านั้นๆ กับบัญชีนี้มีอย่างนั้นๆ คำนวณไว้เรียบร้อยหมดแล้ว เป็นแต่ยังไม่ออกเฉยๆ เวลาเราตายแล้วจะมีผู้ว่า โถ หลวงตาบัวนี้มีเงินตั้งหลายล้านนะ จะมีมาว่า อย่างเขาว่าท่านอาจารย์ฝั้น ท่านอาจารย์ฝั้นท่านมีเงินล้านห้าแสน แต่ก่อนเงินมีราคามาก ท่านสั่งไว้เรียบร้อยแล้ว ห้าแสนนี้เอาไว้ที่นั่น ห้าแสนนั้นเอาไว้ที่นั่น ห้าแสนนั้นเอาไว้ที่นี่ ท่านบอกไว้ชัดเจน เราก็ทราบจากท่านชัดเจน
ทีนี้เวลาท่านล่วงลับไปปั๊บ เขาโจมตีท่านว่าท่านอาจารย์ฝั้นมีเงินอยู่หนึ่งล้านห้าแสนบาท คนงงกันไปหมด จนสมเด็จมหามุนีวงศ์ วัดนรนาถฯ เขาออกทางหนังสือพิมพ์ประกาศลั่น ขายท่านอาจารย์ฝั้น ตาย อาจารย์ของเราที่นี่ ท่านไม่มีที่ไหนที่จะรับทราบละเอียดลออ ท่านก็บึ่งมาเลย มาหาเราที่วัดเลย พอดีตอนบ่ายเราออกไป ท่านเข้ามา ท่านเห็นรถเรา ท่านมาทางโน้นท่านเปิดไฟพาบ โอ้ นี่จะมีอะไรนะนี่ เราก็เบารถแล้วแยกไปทางซ้าย พอหยุดรถกึ๊ก ท่านก็บอกว่ายังไงกัน แล้วมีอะไรล่ะ อู๊ย เดี๋ยวนี้เขากำลังโจมตีหลวงปู่ฝั้นเรา เป็นยังไงเอ้าว่ามาซิ ท่านก็ว่าอย่างนั้นๆ
พอดีเราทราบเรื่องราวมาเราก็กราบเรียนท่านเดี๋ยวนั้นเลย เงินล้านห้าแสนนี้ จำนวนห้าแสนเอาไว้วัดนั้น อันนั้นเอาไว้วัดนั้น อันนี้จะเอามาเข้าโรงพยาบาล ท่านบอกเรียบร้อยแล้ว พอดีเงินล้านห้าแสนก็หมดใช่ไหมล่ะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ท่านสั่งไว้เรียบร้อยแล้ว กระผมเป็นผู้ทราบมาเอง เอ๊อ ต้องอย่างนี้ซิ กลับไปนี้จะไปแก้ข่าว ท่านว่าอย่างนั้น มีเท่านั้นหรือ มีเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นพระเดชพระคุณก็กลับเสีย กระผมจะออกไปธุระ เสร็จแล้วเราก็ออก ท่านก็ตามหลังเราไป ท่านไปของท่านเลย เราก็ไปของเราจนกระทั่งป่านนี้ จนกระทั่งท่านตายไป เรื่องท่านออกแล้วก็เลยเงียบเลย เป็นอย่างนั้นนะ
นี่ท่านอาจารย์ฝั้น เขาโจมตีท่าน นี่หลวงตาบัวก็มีเงินอยู่มากกว่าล้านห้าอยู่ในบัญชี ไม่ใช่น้อยๆ นะ แต่เราคำนวณไว้หมด ใครรู้เมื่อไรเงินในบัญชี เพราะฉะนั้นเราจึงต้องติดหนี้ คือเงินในบัญชีนี้แตะไม่ได้ เรากำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว เวลามันมาจ๊ะเอ๋แบบจังๆ ไม่ได้ทำยังไง เฉพาะอย่างยิ่งคือโรงพยาบาล เครื่องมือแพทย์เป็นความจำเป็นขนาดไหนๆ พอดีเงินเราที่มีเศษเหลืออยู่บ้างมันก็ไม่พอ นี้ทำยังไงนะ ถ้าไม่ติดทางนี้ก็จะเสียกันอย่างมาก ติดไม่เป็นไร ติดยังจะพอหาได้อยู่ เอ้าติด นี่ละติด
คือเงินอันนั้นไปแตะไม่ได้ที่เรากำหนดไว้แล้วนั้น เงินจำนวนนี้มันไม่พอ เลยต้องติด เราทำมาขนาดนั้น บริสุทธิ์ขนาดไหนพี่น้องทั้งหลายฟังเอาซิ เราทำกับพี่น้องชาวไทยเรา เราทำขนาดนั้นละ ควรติดเราติด ถ้าไม่ควรติดไม่ติด แม้แต่โรงพยาบาลเองก็ตามถ้าเป็นสร้างตึกสร้างอะไรต่ออะไรเราเป็นคนสั่งเสียมาเองนี้ไม่มีติด เรียบร้อยๆ ทุกอย่าง แต่มันแบบจ๊ะเอ๋นี่ติด โรงพยาบาลนี่ติด ติดอันนี้เอง อย่างอื่นไม่ติด สร้างตึกสร้างอะไร รถราเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ ถ้าเราตกลงให้ไปแล้วเรียกว่าเรียบร้อยไปเลยๆ ทุกอย่าง
นี่เราก็เรียนพี่น้องทั้งหลายทราบ เรื่องมีเงินเราบอกตรงๆ เราไม่มี เพราะเราไม่เคยมีในหัวใจเรา มีแต่ความเมตตาครอบโลกธาตุ จะมาว่าอะไรเพียงเท่านี้ ครอบโลกธาตุ ไปที่ไหนก็มีแต่จะเอาๆ ไปทำบุญให้ทาน จนเขาบอกรถมันจะไปไม่ได้แล้ว คือมันแน่น ไปนั้นอันนั้นดีอันนี้ดี จอดลงเอานั้นๆ มันเป็นเหมือนแม่ครัวนะเรา ถ้าออกจากวัดไปแล้วอะไรก็ดีหมดจะเอาไปทาน จนกระทั่งเขาบอกรถจะไปไม่ได้แล้ว เหอ อย่างนั้นเหรอ ไป ครั้นไป อันนี้ดีนะ มันรถไปไม่ได้ ขนาดนั้นละ
มันหากเป็นอยู่ในหัวใจ นี่เพราะอะไร เพราะความเมตตา อะไรก็มีแต่เมตตาที่จะให้ๆ ที่จะเอามันไม่มี เราพูดตรงๆ เราไม่มี มีแต่ได้มาเพื่อ เพื่อทั้งนั้น ที่จะมาเก็บไม่มี เราปฏิบัติต่อพี่น้องทั้งหลายกรุณาทราบเสียปฏิบัติอย่างนี้ละ เพราะฉะนั้นเราจึงกล้าทุกสิ่งทุกอย่าง ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก เราเป็นธรรมล้วนๆ เราไม่มีอะไรที่จะผิด เราจึงพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยของเรา การช่วยชาติก็ช่วยมาอย่างที่เห็นมานี่ละ ถ้าเรายังไม่ตายยังจะช่วยอีกตลอดไปนะ
นี่ก็ยังมาวิตกวิจารณ์ถึงทองคำ พี่น้องทั้งหลายหัวใจของคนทั้งประเทศอยู่กับทองคำนะ นี่เราก็พูดแล้ว ทองคำเราเวลานี้มีอยู่ในคลังหลวงน้อยมากอยู่นะ เราไปดูเอง ไปดูออกมาแล้วจึงได้ประกาศป้างๆ ตั้งแต่บัดนั้นมา ได้ทองคำเต็มเม็ดเต็มหน่วยตามที่ต้องการ ได้แล้วส่วนที่ยังเศษออกไปนั้นบกพร่องอยู่มาก เพราะฉะนั้นจึงได้เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ แกมบิณฑบาต แกมออดแกมอ้อนไปเดี๋ยวนี้ ให้ได้ทองคำประเภทน้ำไหลซึม ได้เล็กน้อยก็เอา ให้มันค่อยหนุนเข้าไปๆ เพราะทองคำเราบกพร่องอยู่มาก เราคิดเพื่อหัวใจพี่น้องชาวไทยเราทั้งประเทศนี่นะ จะได้อาศัยอันนี้อยู่ ลมหายใจอยู่กับอันนี้
สำหรับหลวงตาบัว หลวงตาบัวไม่มีอะไร ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น พี่น้องทั้งหลายพิจารณา นี่ก็เพราะความเมตตานั่นเอง อุตส่าห์พยายาม พอได้อะไรก็อยากจะขวนขวายเข้ามาๆ ให้ลูกหลานชาติไทยของเราได้อบอุ่น เราคิดอย่างนั้นนะ สำหรับเราเองเราไม่มีอะไร ทุกอย่าง ดูซิบิณฑบาตมาเมื่อเช้านี้ฉันให้ตาย-ตายแล้วนะไม่มีเหลือ หลวงตาบัวว้อๆ อยู่นี่ ตายแล้ว มันมากต่อมาก แล้วจะกินอะไรใช้อะไรนักหนา ความอดอยากขาดแคลนทั่วโลกมีอยู่นี้ เราจะมาอยู่เฉยๆ ได้หรือ เราต้องพิจารณาซิ นี้ก็ความจำเป็นของคนทั้งชาติอยู่ในทองคำ มีอยู่ เราจึงพยายามเพื่ออันนี้แหละ เราตายแล้วให้ได้รับความสะดวกสบายหายห่วงกับบรรดาพี่น้องชาวไทยเรา จะไม่อดอยากขาดแคลนจนเกินไป เมื่ออยู่ในฐานะที่พอจะขวนขวายหาได้อยู่
เพราะเหตุนี้เองจึงได้รบกวนพี่น้องทั้งหลาย กรุณาทราบตามนี้นะ ทองคำประเภทน้ำไหลซึมเพื่อจะซึมเข้าสู่คลังหลวง ให้เพิ่มลมหายใจพี่น้องชาวไทยเข้าเท่านั้นแหละ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |