ของเทียมด้วย เป็นมหาภัยด้วย
วันที่ 2 ธันวาคม 2547 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

ของเทียมด้วย เป็นมหาภัยด้วย

 

ก่อนจังหัน

พวกที่ถ่ายภาพเราก็อนุญาตให้ไปถ่ายภาพทางจงกรมของเรา แล้วในวัดนี้ทั่วๆ ไปมันเหมือนกันกับทางจงกรมของหลวงพ่อ เป็นแต่เพียงว่าไม่ได้ลาดซีเมนต์ ของเราเป็นเอกเทศพิเศษ ลาดซีเมนต์ เพราะเวลาฝนตกกลางคืนมันลื่น เราลาดซีเมนต์แล้วก็แข็ง ส่วนในวัดพระทั้งหลายท่านไม่ได้ทำอย่างนี้ ท่านมีกระต๊อบอย่างกระต๊อบในทางจงกรมหลวงตา นั้นยังเป็นกระต๊อบที่อยู่ของท่านด้วยนะ ไม่ใช่กระต๊อบพักเฉยๆ ข้างในนู้นเป็นอย่างนั้นละดูเอา พวกกระต๊อบๆ แล้วแอ้มด้วยผ้าจีวรขาดอะไรอย่างนี้ อยู่ข้างในมีแต่อย่างนั้นทั้งนั้น มาหรูหราฟู่ฟ่าตรงนี้ละ เห็นโลกเขาอวดกัน เราก็มีหัวใจเราก็สู้บ้างซิเอามาอวดบ้าง เข้าไปข้างในมีแต่กระต๊อบอย่างของหลวงตา กระต๊อบของหลวงตายังดีนะ ถ้าพูดภาษาโลกของท่านเหมือนของทิ้ง ท่านอยู่อย่างนั้นละท่านภาวนา แต่หัวใจท่านสง่าจ้า ให้ดูตรงนั้นอย่าไปดูแต่ด้านวัตถุ

ด้านวัตถุเป็นที่อาศัยของใจที่จะบำเพ็ญ จิตใจสว่างจ้าอยู่ภายใน นี่ละโลกเจริญ เจริญที่ใจ ถ้าใจเจริญด้วยอรรถด้วยธรรมแล้วแสดงออกต่อกันเป็นความสงบร่มเย็น ประสานสามัคคี เห็นอกเห็นใจกันได้หมด นี่เรื่องธรรม ถ้าเรื่องกิเลสนี้มีแต่จะเอาดีเอาเด่นเหยียบคนอื่น แต่มันไม่ดีนะนั่น เอาชั่วเลวทรามไปเหยียบคนอื่น ที่ไม่ให้เข้าไปข้างในก็เพราะไม่สะดวก สถานที่ข้างในเป็นที่บำเพ็ญของพระล้วนๆ บรรดาประชาชนมาก็ให้อยู่ในบริเวณนี้ ข้างในเป็นที่บำเพ็ญของพระล้วนๆ จึงไม่ให้ใครเข้าไปเกี่ยวข้องเลย

ของหลวงตานี้อนุญาตให้เข้าไปเป็นพิเศษนะ ธรรมดาใครไม่ไปยุ่งแหละ ก็มีนี่ให้เป็นพิเศษให้ไปดู แล้วก็เป็นตัวอย่างของสถานที่ที่เดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนาของพระทั้งหลายทั่ววัด เป็นแต่เพียงว่าไม่ได้ลาดซีเมนต์ ของพระท่านเดินธรรมดาๆ กระต๊อบเล็กๆ ทางจงกรมประจำๆ อย่างนี้ ในวัดนี้เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น และวัดกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นนี้เป็นอย่างนั้นแทบทั้งนั้น กรุณาดูเอาเวลามาดูก็ให้ดูให้ดี นี่เห็นว่าตั้งใจมาเพื่อประโยชน์ตัวเองและส่วนรวม เราจึงอนุโลมอนุญาตให้เข้าไปดูทางจงกรมของเรา ถ้าธรรมดาไม่มีใครเข้าไป มีแต่เราเท่านั้นแหละเข้า นี่ให้ไปดูเป็นเอกเทศอันหนึ่ง แล้วพอๆ กันกับที่ทั้งหลาย ทีนี้จะให้พร

หลังจังหัน

นี่ละเราจึงได้ผ่อนผันให้โอกาสได้เข้าไปดูในทางจงกรมของเรา แต่ไม่ให้เข้าไปข้างใน มันมีทั้งผู้หญิงผู้ชาย ไปนี้ก็ทั่วถึงแล้วมันเหมือนๆ กัน เป็นแต่เพียงว่าทางจงกรมเราลาดซีเมนต์ นอกนั้นไม่มี มีของเราอย่างเดียว เป็นทางยาวกว้าง ๑ เมตร ลาดซีเมนต์ทะลุ เพราะเราเคยล้มในทางจงกรม มันลื่น ฝนตกเดินไปลื่น เลยล้มในทางจงกรม เอ๊ ไม่ได้การ เลยให้ท่านปัญญาท่านลาดซีเมนต์ให้ จึงมีลาดซีเมนต์เฉพาะทางของเราอันเดียว ให้เขาไปดู จะมีคิดอ่านอะไรก็ให้เขาดู จากนั้นก็ให้ออกมา และไม่ให้เข้าไปข้างใน เพราะข้างในเป็นที่บำเพ็ญของพระ พระท่านเต็มอยู่ในนี้ องค์ที่ไม่ฉันท่านอยู่ข้างใน ท่านภาวนาของท่าน เวลาอนุญาตให้เข้าไปจึงลำบากนะ เลยไม่อนุญาตให้เข้า

         มาแล้วไม่ได้อยู่นะ เมื่อวานนี้ก็ต้องไป นี่ละเป็นห่วงด้วยความเมตตาสงสาร เมื่อวานนี้แทนที่จะพักไม่นะ นู่นไปชัยภูมิ ใกล้เมื่อไร ทางดูเหมือนจะเป็น ๒๔๐ ระยะนี้ละ ไปบ้านเขว้า บ้านเขว้าเขามาขอรถยนต์เราก็ให้ไปคันหนึ่ง แล้วขออะไรอีกสองเครื่องที่ตกมา เมื่อวานนี้เขาเอาบิลมาให้ดู เราก็จ่ายเช็คไปทางบริษัทที่เขาส่งของมาให้ ไม่ได้ไปโรงพยาบาลนะ คือสิ่งของที่เขาส่งมาๆ จากบริษัทใด เวลาเราส่งเช็คก็ส่งไปบริษัทนั้นๆ เลย เมื่อวานนี้ก็ไปโรงพยาบาลบ้านเขว้านี่ละ เขาบอกว่าเรียบร้อยดีทุกอย่างแล้ว สองเครื่องเมื่อวานนี้ ก่อนไปเราก็โทรไปบอกเขากลัวจะไปถึงหลังเที่ยงหรือเที่ยงไปแล้ว เราเลยโทรไปบอกเขาว่าจะไป

เมื่อวานนี้คนเต็มเลย โรงพยาบาลเล็กๆ แต่คนไม่ใช่คนไข้ มาเต็มหมดเลย นี่ละถ้าโทรไปก่อนแล้วเป็นอย่างนั้น เขาจะบอกกันทันที พอไปเขาเตรียมผ้าป่าไว้แล้วในห้องโถงของโรงพยาบาล พอเราเข้าไปนั้น เขาก็เอาผ้าป่ามาตั้งกึ๊กแล้วก็เรี่ยไรกันลึกๆ ลับๆ เงียบๆ แหละ แล้วก็เอามาตั้งไว้ข้างต้นผ้าป่า อย่างนั้นละเราทำให้ขบๆ ขันๆ นะ เขาไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยิน เขาเรี่ยไรกันเป็นอัธยาศัยของเขาเอง ต่างคนต่างเรี่ยไรแล้วเอามาวาง เอา พากันนับ ต้นผ้าป่าเอามาถวายหลวงตารับเรียบร้อยแล้ว อันนี้ก็เหมือนกันพากันนับทั้งหมด แล้วไปปิดประตูโรงพยาบาลไว้อย่าด่วนให้ออกไป ถ้าขาดเหลืออะไรจะได้มัดเอาๆ เอาเงินในนั้น เสร็จแล้วค่อยเปิดประตูให้ เขาก็หัวเราะ

ดูเหมือนได้เงิน ๖ พันหรือ ๘ พันเราก็ลืมเสีย เราก็เอาของเราออกมาตั้ง ๑ หมื่นเลย อันนี้ขาดเหลือเท่าไรจะเอาให้ได้ ๒ หมื่น ดูเหมือนได้ไม่ ๖ พันก็ ๘ พัน เราก็เอาของเราเพิ่มเข้าอีกเป็น ๒ หมื่น สงสารจะทำยังไง เมื่อวานนี้เรียกว่าให้เงินสด ๒ หมื่น ที่เราไปให้เป็นพิเศษก็ไปเขาสวนกวาง ไปเอาไก่ที่นั่น ๗๐ ตัว ไปโรงไหนธรรมดาก็โรงละ ๗๐ ตัว แล้วก็กล้วยห่อใหญ่ๆ กล้วยไข่กำแพงเพชรหรือไง คือมันไม่เสียง่าย ๔ ถุงใหญ่ เมื่อวานนี้นับว่านั่งนานอยู่ ดูเหมือน ๑๘ นาที พอไปเขาก็รุมมาหมด พูดให้เขาฟังบ้างเล็กๆ น้อยๆ จากนั้นก็กลับเลย จากโรงพยาบาลบ้านเขว้ามาถึงวัดเรานี้ ๒ ชั่วโมง ๓๕ นาที ไม่ใช่เล่นนะ รถเราวิ่งเร็วด้วย รถเรามันแข็งแรง แล้วรถเปล่าๆ ด้วยเวลาขากลับวิ่ง บางทีเราดูเข็ม ถ้าทางเรียบๆ นี้ถึง ๑๓๐ ก็มี ๑๒๐ นี้รู้สึกจะเป็นพื้นฐาน เพราะรถเรามันแข็งแรง

วันหนึ่งๆ ถ้าเราไม่ได้ให้ทานรู้สึกมีอะไรๆ ในนี้นะ แปลกๆ อยู่ ถ้าเราได้ให้เป็นประจำวันๆ รู้สึกมันเต็มตื้นของมันอยู่ในนั้นละ ถ้าไม่ได้ทำอย่างนั้นรู้สึกจะแหว่งๆ อะไรชอบกล ถ้าเป็นภาษาโลกเขาเรียกว่า เคยให้ทานแล้วไม่ได้ให้ทานอยู่ไม่ได้ ว่างั้นนะ ลักษณะของมันเป็นอย่างนั้น ถ้าวันไหนได้ให้ทานแล้วรู้สึกว่าเต็มตื้น อบอุ่น เป็นอย่างนั้น อันนี้ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน นี่ละผลทานอันนี้พอทำลงไปแล้วเข้าอยู่ในหัวใจ คือใจเป็นของไม่ตาย บรรจุได้ทั้งบาปทั้งบุญ เราทำมามากน้อยไม่สำคัญ คือไม่มีที่แจ้งที่ลับ เป็นความจริงตลอด ทำที่แจ้งที่ลับ ทำดีเป็นดี ทำชั่วเป็นชั่ว อยู่ในผู้ทำคือจิต เวลาทำไปก็หนุนเข้าไปๆ  ถ้าเป็นแม่น้ำก็เรียกว่าไหลใกล้ทะเลหลวงเข้ามาเป็นลำดับ ไหลใกล้เข้ามาๆ

ผู้ทำบุญให้ทานเรียกว่าสร้างบารมี เหมือนน้ำไหลเข้าสู่มหาสมุทรทะเลหลวง อันนี้น้ำบุญน้ำกุศลไหลเข้าสู่มหาวิมุตติมหานิพพานก็แบบเดียวกัน ตามกันมาเรื่อยๆ เพราะไม่มีคำว่าสูญหาย คือการกระทำเป็นที่ตั้งเลย ที่แจ้งที่ลับไม่มี ทีนี้พอถึงแล้วก็ปั๊บเข้า เหมือนน้ำที่ไหลมาจากที่ต่างๆ ลงแม่น้ำมหาสมุทรปั๊บ เป็นน้ำมหาสมุทรด้วยกันหมดเลย ไม่นิยมว่าน้ำนี้มาจากห้วยไหนคลองใด เรียกได้แม่น้ำมหาสมุทรอย่างเดียวกันหมด ผู้สร้างบารมีค่อยก้าวไปๆ ก็เหมือนน้ำไหลมาๆ ใกล้เข้ามาใกล้ทะเลหลวง อันนี้สร้างบารมีมาโดยลำดับก็ใกล้มหาวิมุตติมหานิพพานเข้าเป็นลำดับๆ  พอถึงปั๊บเท่านั้นเป็นอันเดียวกันหมดเลย เหมือนน้ำมหาสมุทรพอถึงปั๊บก็เป็นอันเดียวกันหมด

โลกรู้ได้ยาก เพราะฉะนั้นพระองค์ถึงได้ท้อพระทัยในการที่จะสั่งสอนสัตว์โลก สอนโลกตาบอด ไม่รู้เห็นได้ง่ายๆ ทั้งๆ ที่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้ามาตั้งหลายอสงไขย แต่ละประเภทๆ ของพระพุทธเจ้ามี ๓ ประเภท ประเภทที่หนึ่ง ๑๖ อสงไขย แสนมหากัปติดแนบ ประเภทที่สอง ๘ อสงไขยแสนมหากัปติดแนบ ประเภทที่สาม ๔ อสงไขยแสนมหากัป นี้เป็นพระพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์เหมือนกัน อย่างพระพุทธเจ้าของเรานี้พอตรัสรู้ผางขึ้นมาท้อพระทัย มองลงไปมันมืดตื้อ นี่ที่ว่าท้อพระทัยในการสั่งสอนสัตว์โลก ทำความขวนขวายน้อยไม่อยากสอน ที่คาดไว้ๆ ในเวลาบำเพ็ญพระบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้านั้น ก็มีการคาดไว้ๆ เพราะยังไม่เห็นตัวจริง

พอเข้าถึง เป็นพระพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์แล้วปั๊บ เห็นตัวจริงแล้วเลยกลับท้อพระทัย ทั้งๆ ที่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเพื่อจะสั่งสอนสัตว์โลก แต่เวลามาเจอความจริงเข้าแล้วกลับท้อพระทัย ทำความขวนขวายน้อยไม่อยากสอน ขนาดนั้นละ นี่ละความจริงกับความคาดความเดาผิดกันอย่างนี้ อันนี้ก็มีพยานเข้ามาอีก ไม่ได้หมายถึงพระพุทธเจ้าโง่นะ ว่าถึงขนาดท้าวมหาพรหมมาอาราธนา ใครจะไปเลิศเลอยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก ท้าวมหาพรหมก็เป็นลูกศิษย์ตถาคตนี่วะ เห็นพระองค์ทรงพิจารณาสัตว์โลกแล้วท้อพระทัย ทำความขวนขวายน้อยในการที่จะสั่งสอนสัตว์โลก พร้อมด้วยพระญาณพิจารณาๆ

ระยะนั้นท้าวสหัมบดีพรหมนั่นแหละมาทูลอาราธนา ว่าสัตว์โลกนี้ผู้มีมลทินอันเบาบางยังมีอยู่มาก ขอพระองค์อย่าทอดอาลัย ทำความขวนขวายน้อยในการสั่งสอนสัตว์โลก เพราะผู้มีมลทินเบาบางยังมีอยู่มาก ทั้งๆ ที่พระพุทธเจ้าก็ทรงทราบยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม ท้าวมหาพรหมมาเป็นพยาน เหมือนหนึ่งว่าพระพุทธเจ้าโง่ ท้าวมหาพรหมฉลาด ว่างั้นเถอะ ความจริงพระองค์ครอบไปหมดแล้วด้วยพระญาณพิจารณา อันนี้ท้าวมหาพรหมมาเป็นพยานต่างหาก ไม่ได้มาเลิศเลอกว่าพระพุทธเจ้านะ

นี่ละเทศน์ที่ไหนจึงว่า พฺรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปติ. สหมฺปติ ก็คือสหัมบดีพรหมนั่นแหละ กตฺอญฺชลี อนฺธิวรํ อยาจถ, สนฺตีธ สตฺตาปฺปรชกฺขชาติกา, เทเสตุ ธมฺมํ อนุกมฺปิมํ ปชํ. คือเพื่ออนุเคราะห์ สงสารโลก ก็เลยเอาอันนี้มาเป็นคำอาราธนาเวลาจะเทศนาว่าการว่า พฺรหฺมา จ โลกาฯ อาราธนาให้ท่านแสดงธรรม เอานี้มาเป็นตัวอย่าง เรื่องราวมีมาตั้งแต่โน้น ตั้งแต่ท้าวมหาพรหมมาอาราธนา จึงถือเป็นคติตัวอย่างอันดีงามเรื่อยมา

อย่างที่ชาวไทยเราถือคติตัวอย่างอันดีงามราบรื่น แน่นหนามั่นคงเสมอมาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ทรงตั้งหรือสถาปนาพระให้เป็นสมเด็จพระสังฆราช มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นทรงทำหน้าที่ของพระองค์เองตลอดมา พร้อมกับประชาชนอนุโมทนาสาธุการเรื่อยมา เป็นประเพณีอันดีงามแน่นหนามั่นคงมาตลอดประจำชาติไทยของเรามาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ นี่เป็นประเพณีที่แน่นหนามั่นคงมาดั้งเดิม ทั้งฝ่ายกษัตริย์ทั้งฝ่ายมหาชนเป็นอันเดียวกัน อนุโมทนาสาธุการเรื่อยมา

เวลานี้กองแย่งพวกเปรตพวกผีมันก็เข้ามาแย่งเอาตำแหน่ง มาลบล้างพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมาตั้งอะไรก็ไม่รู้ พ.ร.บ.สงฆ์ พอรอบอแส็ง อัน พรบ.สงฆ์มันเกิดมาเมื่อไร เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ นี่พวกนี้ยังไม่เกิด(พรบ.สงฆ์) ประเพณีของชาติไทยเรามีมานานสักเท่าไร อันนี้พึ่งมาเกิดปี ๒๕๐๕ มาตั้งกฎกติกาตั้งเพื่อความกินของเขานั้นแหละ สงฆ์พวกนี้จะเรียกสงฆ์พวกเปรตพวกผีก็ได้ไม่ผิด มาทำลายขนบประเพณีอันดีงามของชาติไทยที่เป็นมาดั้งเดิมด้วยความราบรื่นดีงาม ให้เอนให้เอียงให้วุ่นอยู่เวลานี้ คือพวกเปรตพวกผีนี้เอง ที่เข้ามาแย่งตำแหน่ง มาลบล้างอำนาจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ลบล้างขนบประเพณีอันดีงามของชาติไทยทั้งชาติให้จมลงในทะเล มันจะเอาขนบประเพณีของยักษ์ของผี ของกินไม่อิ่มไม่พอ ของพวกเปรตพวกผี ของพวกอลัชชีนี้เข้ามาเหยียบย่ำทำลายศาสนาเวลานี้

เพราะฉะนั้นภาษาธรรมเราแล้วเราพูดได้โดยตรง บอกว่าลบล้างไม่ได้ มันจะตั้งเข้ามาขนาดไหนก็ตั้งมา พวกนี้พึ่งเกิดมาเมื่อเร็วๆ ได้สองสามปี มาตั้งเป็น พรบ.สงฆ์ พอรอบอแส็ง มากดขี่บังคับขนบประเพณีของพระมหากษัตริย์กับของคนทั้งชาติให้ล้มเหลวกัน เอานี้ขึ้นมาเหยียบแทนอย่างนี้ไม่ได้ บอกงั้นเลย คัดค้านกัน พระสงฆ์ทั่วแดนสังฆมณฑลผู้ทรงศีลทรงธรรมท่านไม่ยอมรับ พระสงฆ์ไทยไม่ยอมรับในขนบประเพณีนี้ ปัดออกให้หมด นี้เป็นความถูกต้องตามหลักธรรม พรบ.๒๕๐๕, ๒๕๓๕ นี้ปัดออกให้หมด อย่ามาเป็นกาฝากเกาะกินเนื้อกินหนัง ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ของเราให้ล่มจมลงไป เพราะธรรมชาติเหล่านี้เป็นสิ่งที่เทิดทูนมาแล้ว คนไทยทั้งชาติประคองพระมหากษัตริย์ของเราที่พาดำเนินด้วยความถูกต้องดีงามมาแล้ว แล้วจะมาทำลายไปหาอะไร พวกนี้พวกทำลาย

ตั้งขึ้นมามันก็มีความหมายของมันที่จะกลืนจะกินทั้งนั้น เพราะคลังกิเลสเต็มไปด้วยความโลภ บ้าอำนาจ ตั้งขึ้นมาตรงไหนเข้าไปเหยียบของจริงๆ ด้วยของเทียมๆ เทียมๆ ธรรมดาค่อยยังชั่วนะ มันเทียมๆ เป็นมหาภัยด้วย พวกนี้เป็นมหาภัย เพราะฉะนั้นจึงว่าพระสงฆ์ไทยยอมรับไม่ได้เลย พรบ. ๐๕ พรบ.๓๕ อะไรเหล่านี้รับไม่ได้ ขนบประเพณีอันดีงามของชาติไทยเรามา ตั้งตั้งแต่โคตรแซ่ของพรบ.สงฆ์เหล่านี้ยังไม่เกิด มันตั้งขึ้นมาเหยียบหัวคนไทยทั้งชาติ ทั้งพระมหากษัตริย์ด้วย ให้อยู่ใต้ฝ่าตีนฝ่าเท้าอันสกปรกของมันอย่างนี้ไม่ยอม หัวคนจะไปยอมได้ยังไง หัวพระมหากษัตริย์จะไปยอมได้ยังไง เพราะฉะนั้นจึงว่าไม่ยอมรับ บอกตรงๆ อย่างนี้เลย

หลักเกณฑ์ก็มีอยู่นี่ แน่นหนามั่นคงขนาดไหนขนบประเพณีอันดีงาม ชาติไทยของเราเทิดทูนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่พวกพรบ.รอแบทั้งโคตรของมันยังไม่เกิดนั่น มันพึ่งตั้งขึ้นมานี้ มาเหยียบย่ำทำลายประเพณีอันดีงามของชาติไทยเรา ซึ่งเคยเทิดทูนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรให้ล่มจมลงไป เรียกว่าพระสงฆ์ไทยยอมรับไม่ได้เลย ประชาชนก็ไม่ยอมรับ มีแต่พวกมันที่จะเที่ยวหากินหากลืนเที่ยวยุแหย่เที่ยวทำลายเท่านั้น นี้พวกกองทัพมหาโจรมีพระเป็นหัวหน้า พระก็เป็นมหาโจรกองใหญ่กำลังรุกรานศาสนาไทยของเราให้แหลกเหลวไปหมด ผู้ทรงศีลทรงธรรมเดือดร้อนไปตามๆ กัน เพราะพวกเลวร้ายทั้งหลายนี่มันหาตั้งแต่เรื่องก่อกวนเรื่องทำลายไปตลอด

จึงบอกได้ตรงๆ เลยว่าพระสงฆ์ไทยท่านผู้ทรงศีลทรงธรรม ท่านเทิดทูนขนบประเพณีอันนี้ว่าถูกต้องดีงามตามอรรถตามธรรมแล้ว ท่านไม่ยอมรับสิ่งจอมปลอมที่เข้ามาเป็นกาฝากมหาภัยนี้ ตั้งมาเท่าไรก็ไม่มีความหมาย รับไปหาอะไรของเป็นภัย มาเป็นภัยต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีอย่างเหรอ ไม่ยอมรับ ปัดออกให้หมด นี้เป็นภาษาธรรม เป็นภาษาของพระสงฆ์ไทยผู้ทรงศีลทรงธรรม และประคับประคองขนบประเพณีอันนี้มาดั้งเดิมแล้ว จะมาทำลายอันนี้ไม่ได้ ตั้งขึ้นมาเมื่อไรมันก็เป็นมหาภัย ปัดออกให้หมด ภัยจะได้ไม่มีในของจริงทั้งหลาย จะได้ประคับประคองกันต่อไป นี่เป็นภาษาธรรม เราพูดอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้

มาทำลายทำไม ถ้าว่าดิบว่าดีก็ส่งเสริม ก่อขึ้นมาซิ ให้คนไทยทั้งชาติได้อนุโมทนาสาธุการ โอ้ กองทัพอันนี้ดีนะๆ มันมีแต่กองโจรกองมหาภัยทั้งนั้น จะถือว่าดีได้ยังไง ไปที่ไหนทำลายที่นั่น เวลานี้กำลังเป็นสังฆราชี ทำความร้าวรานแก่พระสงฆ์ทั่วประเทศไทย ต่อจากนี้ก็เป็นสังฆเภทจากพวกเปรตพวกผี กองทัพเทวทัตนี่ จะเป็นกองทัพที่ไหน ใครไม่รู้ไปดูเอา เราเอาหลักคัมภีร์วินัยมาพูด เราไม่ได้มาพูดสุ่มสี่สุ่มห้า เหล่านี้พวกปลอมแปลงจากคัมภีร์วินัยจะมาเหยียบย่ำคัมภีร์วินัยซึ่งเป็นหลักใหญ่ของพุทธศาสนาให้ล่มจม พร้อมทั้งประชาชนชาวพุทธเราให้ล่มจมไปตามๆ กัน อย่างนี้ยอมไม่ได้ ว่างั้นเลย ไม่ยอมรับ ตั้งขึ้นมาเท่าไรก็ไม่ยอมรับ เดินตามขนบประเพณีอันดีงามของเรา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านจะทรงตั้งเท่าไรตามพระราชอัธยาศัยของท่าน พระสงฆ์องคเจ้าองค์ใดที่ท่านทรงตั้ง ให้เป็นเรื่องอัธยาศัยของท่าน อย่าเข้ามายุ่มย่าม อย่าเข้ามาแย่งมาชิง พวกบ้าอำนาจ พวกกินไม่อิ่มไม่พอ พวกทำลายศาสนาทำลายชาติ ปัดออกให้หมดไม่เอา ขนบประเพณีอันดีงามนี้หนาแน่นมาแล้วมาทำลายทำไม ถ้าว่าดีไปหาตั้งขึ้นมา ถ้าดีกว่านี้ทางนี้จะยอมรับเข้ามาเป็นสิริมงคล เทิดทูนกันขึ้นไป เดี๋ยวนี้เข้ามาทำลาย จะยอมรับได้ยังไง ไม่ยอมรับ ว่างั้นเลย

หลักเกณฑ์ก็มีอยู่นี้เห็นอยู่ด้วยกันทุกคน มันเสือกหาอะไร มันดิ้นอยู่ไม่หยุดนะพวกนี้ ดิ้น พวกบ้ายศ โอ๋ย กำลังเป็นบ้ายศ กำลังบ้าอำนาจนะเวลานี้ เที่ยวตั้งกันทุกแห่งทุกหน ใครไปทำความชั่วช้าลามกมาได้มากน้อยเท่าไร ผู้นั้นละมีความดีความชอบ ตั้งยศถาบรรดาศักดิ์ เลื่อนสมณศักดิ์ให้เป็นบ้ากันไปเลย พวกบ้าสมณศักดิ์ บวชเข้ามาหลักธรรมวินัยก็มีอยู่ พระพุทธเจ้าให้ตัดออกหมดเรื่องโลกธรรม ๘ ไม่ให้เข้ามายุ่งในอรรถธรรมของผู้ปฏิบัติธรรม โลกธรรม ๘ ก็คือ ลาภ ยศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ อยู่ด้วยกันนี้ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีนินทา มีสรรเสริญ มีสุข มีทุกข์ เป็นโลกธรรม ๘ เหล่านี้เป็นเรื่องของโลก

พระบวชมามุ่งแต่ธรรมอย่างเดียว ไม่ได้เอาสิ่งเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้อง มุ่งแต่อรรถแต่ธรรม ยศถาบรรดาศักดิ์เต็มอยู่กับพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนี้แล้ว ธรรมสมบูรณ์อยู่กับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่ได้อยู่กับพวกกาฝากมหาภัย เที่ยวกัดเที่ยวแทะที่นั่นที่นี่ ยุที่นั่นแหย่ที่นี่ ทำลายที่นั่นที่นี่อะไรนะ ไม่ได้อยู่กับพวกนี้ พวกนี้เป็นพวกทำลายอาศัยมันได้ยังไง ไว้ใจกับมันได้ยังไง ถ้ามีมากขึ้นเมืองไทยจมได้นะ พี่น้องทั้งหลายให้ดูให้ดี เราเป็นเจ้าของของสมบัติ พวกนี้เป็นกองทำลาย ออกไปทุกแง่ทุกมุม ตั้งแต่วงศาสนาคืบคลานเข้าไปหาวงราชการ เวลานี้คืบคลานไปหมด พวกนี้มันจะกุมอำนาจป่าเถื่อนของมันไปหมดนั่นแหละ

เรื่องธรรมจึงเปิดออกให้เห็นชัดเจนว่าไม่ถูก เป็นเรื่องที่จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์โดยถ่ายเดียวเท่านั้นอย่างอื่นไม่มี พิจารณาแล้วไม่มี นี่เราก็พูดให้ทราบกันเรื่องหลักขนบประเพณีอันดีงามของเรา นี้ตั้งไว้แน่นหนามั่นคง เอา ดำเนินกันไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านจะทรงตั้งใครๆ เป็นเรื่องของพระองค์เองอย่ามายุ่มย่ามพวกเปรตพวกผี อย่ามายุ่มย่าม จะทำลายชาติ ศาสนาให้ล่มจมไป มายุ่มย่ามหาอะไร อยู่เป็นสุขไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ดีดได้ดิ้นเป็นบ้าอยู่เหมือนหมาบ้าว่าอย่างนั้นละ พวกนี้เป็นกองทัพหมาบ้ารู้จักไหม เที่ยวกัดโน้นฉีกนี้ ไม่รู้จักผิดจักถูกชั่วดี แล้วบ้าอำนาจนี่ตัวสำคัญ อู๋ย ใหญ่มากนะ อำนาจบ้าอะไรก็ไม่รู้ละมีแต่ลมปากบ้า

ตัวศีลธรรมมีอยู่กับตัวของมันสักนิดไหม ไม่มี ถ้ามีจะไม่แสดงความแสลงหูแสลงตากระเทือนใจของประชาชนได้ขนาดนี้ นี้กระเทือนไปหมดทั่วประเทศไทยเวลานี้ มีแต่พวกเปรตพวกผีไม่มีศีลมีธรรมในใจ มีแต่บาปกรรมอันลามกจกเปรต เราคาดเอาไว้นะว่าพวกนี้มันจะไปเป็นนายยมบาล นายกรรม นตฺถิ กมฺมสมํ พลํ ไม่มีอานุภาพใดที่จะเหนืออานุภาพแห่งกรรมดีชั่วนี้ไปได้ นั่นพระพุทธเจ้าสอน แล้วมันจะไปเป็นนายใหญ่ครอบงำอานุภาพแห่งกรรมเหล่านี้ เอ้า ลองให้มันไปดูซิ ให้มันไปตีประกาศก้องกันหมดทั้งโลกนี้ ใครมีโคตรมีแซ่เท่าไรพวกโคตรเทวทัตนี้ให้ประกาศก้องกัน ไปวางอำนาจใส่อำนาจแห่งกรรมดีกรรมชั่วที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ เหยียบกรรมเหล่านี้ลง แสดงฤทธิ์เดชของตัวเองขึ้นไปเหนือกรรม ให้ได้เห็นสักทีน่ะ พิจารณาซิ เราไม่เคยเห็น

พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้ว นตฺถิ กมฺมสมํ พลํ ไม่มีอำนาจใดที่จะเหนืออำนาจแห่งกรรมดีชั่วนี้ไปได้ ใครทำก็ทำเถอะอยู่ใต้อำนาจแห่งกรรมที่ตนทำแล้วทั้งนั้น เหนือไปไม่ได้ นี้มันจะมาเหนือเมฆที่ไหน เมฆก็อยู่ใต้อำนาจแห่งกรรมเหมือนกัน มันจะเหนือเมฆไปไหน มันไปอยู่โลกไหน โลกที่เหนือกรรมไปได้ไม่มี เก่งขนาดไหนก็เก่งไปเถอะ ไอ้เก่งแบบมูตรแบบคูถอย่าไปอวดทองคำเลย วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน เอาละพอ

นักข่าว พระที่หลวงตาพูดถึงรวมสายธรรมยุตและมหานิกายด้วยหรือเปล่าเจ้าคะ)

หลวงตา ไม่ว่าสายไหน ใครชั่วบอกว่าชั่ว ชั่วเราจะว่าดีไม่ได้ ถ้าคนนี้ชั่วเราจะชี้หน้าเลยว่าคนนี้ชั่ว คนทั้งหลายเขาดีคนนี้ชั่วคนเดียวเราจะชี้ ถ้าคนนี้ดี ดีกว่าคนทั้งหลาย เขาก็จะบอกว่า แหม นี่เขามาใหม่ หน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดูหน้าเหมือนเทวดา แต่ใจจะเป็นใจเทวทัตหรือเทวดาอะไรไม่ทราบ ใจเป็นอะไร ถ้าใจเป็นเทวดาเราก็จะยกให้ว่าสูงกว่าพวกนี้ นี่เราเอาตรงไปตรงมาอย่างนี้นะเข้าใจไหม เอา ถามมาเราจะตอบ

ธรรมยุต มหานิกาย อย่าเอามาพูด เราพูดถึงเรื่องคนชั่ว พระชั่วต่างหาก ใครชั่วก็ตามเข้าใจเหรอ เราไม่ได้ว่านิกายนั้นนิกายนี้อะไร ใครชั่วใครดีนิกายไหนก็ตาม ชั่วบอกว่าชั่ว ดีบอกว่าดี เข้าใจแล้วเหรอ

ผู้กำกับ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ทีวีช่อง ๕ ครับ เขาจะมาสัมภาษณ์คนดีแผ่นดินไทยครับ

หลวงตา ทีวีช่อง ๕ ก็ฟังเอาเสียซิ เราพูดสนุกกัน วันนี้ยุติไว้เสียก่อนนะ นี้หมดเวลาแล้วเราจะไป ให้ไปเตรียมไว้ให้ดี อะไรเตรียมให้พร้อมแล้วค่อยมาถาม หลวงตานี้อั้นตู้ให้คนเห็นทั้งหมดนี่ก็ให้ได้เห็น เข้าใจเหรอ แล้วใครจะอั้นตู้ก็ให้เห็นกัน เอา มันชัดๆ อย่างนี้ หลวงตาไม่มีแพ้มีชนะ ไม่มีคำว่าโง่ว่าฉลาด พูดเป็นธรรมไปเลย เราก็พูดสนุกไปอย่างนี้แหละพูดกับลูกกับหลาน ก็สวยอยู่นะ

นักข่าว ทำยังไงถึงจะมีความสุขเจ้าคะ สวยแต่ไม่มีความสุขไม่มีความหมายหรอกเจ้าค่ะ

หลวงตา เดี๋ยวนี้มีแต่ทุกข์เหรอ (เจ้าค่ะ) โอ้โฮ แล้วกัน เอาทุกข์มาอวดเขาทำไม คนทั้งโลกเขาหาสุขแล้วเอาทุกข์มาอวดยังไง

นักข่าว จะวางไว้ที่อุดรฯ นี้ละเจ้าค่ะ

หลวงตา อย่ามาทิ้ง ที่อุดรฯ นี้ทุกข์เต็มหมดแล้ว มันล้นแล้ว ล้นปากโอ่งปากไหแล้ว ไม่เอา เอาคืนไปตามเดิมๆ ของใครของเราไป ไม่ยอมรับใครแหละ เอาละเอาไว้แค่นี้ก่อนเวลาเราไม่พอ เอาละจะให้พรๆ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก