ช่วยโลกด้วยความพอ
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2547 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

ช่วยโลกด้วยความพอ

 

         (โรงพยาบาลศูนย์อุดร กราบขอเมตตาเครื่องเอกซเรย์ช่วยผ่าตัด ๑ เครื่องครับ) เอาสั่งใหม่ได้เลย บอกหมออ้วนก็ได้ ทางโน้นไม่ต้องเป็นกังวลละนะ ทางนี้จะสั่งให้เลย โรงพยาบาลศูนย์นี้ได้ช่วยมากจริงๆ ฟังแต่ว่าศูนย์เป็นไร มาทุกทิศทุกทาง จุดศูนย์กลาง จึงได้ช่วยมากโรงพยาบาลอุดร เครื่องมือสำคัญๆ ทั้งนั้น เฉพาะอย่างยิ่งตานี้เรียกว่าสมบูรณ์แบบเลยไม่ให้บกพร่อง เราเปิดอกเลย เครื่องมือทำตานี้อะไรบกพร่อง หรืออะไรที่ควรจะซ่อมให้รีบซ่อม ถ้าซ่อมไม่ได้ให้สั่งใหม่เราว่างี้เลย แล้วเครื่องมือทั้งหมดสำหรับเครื่องตานี้ หมอมีความต้องการอะไร มีความจำเป็นอะไรให้สั่งเลย ไม่ต้องมาขออนุญาตจากเรา สั่งมาแล้วเครื่องมือมาถึงแล้ว หมอตรวจคุณภาพสมบูรณ์แล้วจึงค่อยส่งบิลไป ก็ปฏิบัติอย่างนั้นเรื่อยมา พอส่งบิลมาถึงเราก็แน่ใจว่าทางโน้นเรียบร้อยแล้ว บิลมานี้บริษัทไหนๆ จ่ายเงินทางนู้นๆ เลย เอาละเข้าใจกันแล้ว สั่งใหม่เลย ก็มีเท่านั้น

ต้นเหตุที่จะได้ช่วยโรงพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องตาที่โรงพยาบาลศูนย์นี้ ก็เพราะตาเราไปผ่าที่กรุงเทพ พอไปผ่ามาแล้วเห็นคุณค่าของตา สว่างขึ้น มาอยู่ในวัดเพียง ๓ วันเท่านั้น พูดตามความจริง นิสัยเราเป็นอย่างนั้นนี่นะ เอาจริงเอาจังมากว่างั้นเถอะ มาจากกรุงเทพมาถึงวัดได้ ๓ วันเข้าโรงพยาบาลศูนย์เลย เชิญหมอมาประชุมกันเลยอย่างรีบด่วนเกี่ยวกับเรื่องตา เราบอกอย่างนี้เลย สรุปเลยว่าตานี้เราจะให้ทั้งหมด ให้สั่งได้เลย เครื่องมือตาให้สั่งมาทั้งหมด แล้วหมอล่ะ ถ้าสั่งมาทั้งหมดนี้หมอจะพร้อมไหม เวลานี้ยังไม่พร้อมเพราะเครื่องมือยังไม่มี เอา ถ้าได้เครื่องมือแล้วครบไหม ครบ ถ้างั้นเอาเลย เรียกว่าใส่กันตูมเลย หมอครบ เครื่องมือให้ครบตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งบัดนี้ ๒๕๓๐ นะเราไม่ลืม เราผ่าตาปี ๒๕๓๐ มาอยู่วัดได้ ๓ วันเข้าโรงพยาบาลเลย โรงพยาบาลศูนย์ ไปตกลงกันกับหมอเพราะเห็นคุณค่าของอันนี้

เพราะฉะนั้นโรงพยาบาลศูนย์เราจึงเรียกว่าสมบูรณ์เรื่องเครื่องมือตา เพราะเราปวารณาไว้เรียบร้อยแล้ว คือให้หามาอย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องบอกเรา ไม่ต้องมาขออนุญาตจากเรา ที่หมอเห็นสมควรในเครื่องมือตาแล้วให้เอาตามนั้นเลย ก็ปฏิบัติมาอย่างนี้ กับตึกรวมเมตตาก็เหมือนกัน เราก็ปวารณาไว้หมด พอเสร็จแล้วอยู่ไม่กี่ปีแหละ มันสองชั้นมาขอเพิ่มอีกเป็นสามชั้น เอาช่างมาดูเขาบอกไม่ได้ แบบเขากำหนดไว้เพียงสองชั้น ทานน้ำหนักได้เท่านั้น ตกลงก็เลยไม่ได้ที่จะต่ออีกชั้นหนึ่ง เมื่อไม่ได้เราก็เลยปวารณาไว้ มีความจำเป็นอะไรจะสร้างอะไรขึ้นแถวนี้เราให้ทั้งนั้นๆ ตั้งแต่บัดนั้นมา ตึกมีความชำรุดทรุดโทรมที่ตรงไหนๆ เราให้หมดจนกระทั่งบัดนี้ ปวารณาจนกระทั่งวันเราตาย

โรงพยาบาลศูนย์เรานี้ที่สมบูรณ์ก็คือเครื่องมือตา เราบอกไว้แล้วไม่ให้บกพร่อง ให้หามาอย่างสมบูรณ์เลย เพราะฉะนั้นเราจะเห็นเครื่องมือไม่เห็นเครื่องมือก็ตาม เราก็ต้องบอกว่าสมบูรณ์ เพราะเราได้พูดกับหมอเอง ถ้าบกพร่องก็หมอเป็นผู้บกพร่อง เข้าใจไหม ก็เราไม่ได้บกพร่อง หมอโกหกเราก็โกหก โกหกมาจากหมอ แน่ะ อย่างนั้นละเรื่องราว โรงพยาบาลศูนย์เราถึงได้สมบูรณ์เกี่ยวกับเรื่องตา เราก็เคยพูดแล้วว่า ห้องตานี้ไม่มีเวลาบกบาง ไปวันไหนเวลาใดเต็มๆ เราก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก โอ๊ย ทำไมห้องอื่นๆ ไม่เห็นมีคนมากเหมือนห้องตา เป็นเพราะเหตุไร ตานี้มาทีไรแน่นทุกทีๆ

หมอได้ชี้แจงให้ทราบ โอ๋ย คนที่มาห้องตานี้มาทุกทิศทุกทาง คนไข้ธรรมดานี้ไม่ค่อยมาอะไรมากนัก แต่ตานี้มาทุกทิศทุกทาง ทางภาคนี้มานี้หมด ก็มีทางศรีนครินทร์บ้างแบ่งเบา เพราะฉะนั้นห้องตาคนไข้ถึงมากตลอด เราถึงได้พิจารณา โห ก่อนที่เราจะมาช่วยตานี้ คนคงตาบอดหรือพิการทางตานี้เยอะ เราคิดอย่างนั้น เพราะไปทีไรแน่นทุกทีๆ ที่ไปผ่ากรุงเทพก็หมออุทัย รัตนิน แหละเป็นคนผ่าตาให้ หมออุทัยก็เป็นลูกศิษย์ เวลาบวชก็มาพักอยู่ที่นี่ พักวัดป่าบ้านตาด ลาราชการบวชหรือไง ก็มาพักอยู่ที่นี่

โรงพยาบาลต่างๆ นี้ให้ตลอดนะ โรงพยาบาลทั่วๆ ไปให้ตลอด เดี๋ยวเครื่องนั้นเครื่องนี้หลายอย่าง เราให้ทั่วๆ ไปหมดแหละ พวกเอกซเรย์ พวกอุลตราซาวด์เหล่านี้รู้สึกจะมาก เครื่องมือย่อยๆ ก็มีอยู่ทั่วไป กับรถหนึ่ง รถนี่ก็ทั่วไปหมด เดี๋ยวนี้ดูเขาติดข้างแล้วว่า บริจาคโดยอาจารย์มหาบัว เราบอกเขาจำเป็นอะไร เราไม่หาเอาชื่อเอานาม ชื่อเรามีแล้วตั้งแต่วันเกิด จำเป็นอะไรจะต้องเขียนหาอะไร เราว่าให้เขาแล้วเดี๋ยวนี้ก็ยังเห็นอยู่เรื่อยๆ แสดงว่าเขาไม่ฟังเสียงเรา เขาจึงเขียนไว้อย่างนั้น เพราะรถนี่มันมากต่อมากที่ช่วยโรงพยาบาลต่างๆ เมื่อเร็วๆ นี้โรงพยาบาลบ้านเขว้า ชัยภูมิ ก็มารับ นี้เป็นคันสุดท้ายยังไม่มีมาต่ออีก ถ้าเราว่าให้มันก็มาทันทีแหละ แต่เราไม่มี คือไม่มีแต่รถ อย่างอื่นก็มีที่เราจะช่วยอยู่ตลอด

เราช่วยมากจริงๆ เรื่องโรงพยาบาล เรียกว่าเป็นอันดับหนึ่ง โรงเรียนและที่ราชการ สามประเภทนี้หนักมากนะ โรงพยาบาล โรงเรียน ที่ราชการ หนักมาก ทางราชการก็เยอะ ราชการก็เช่นอย่างลาดยาว มากกว่าเพื่อนนะ เรือนจำลาดยาวเวลานี้เขาบอกมาชัดเจนแล้วว่า ๔๗ ล้าน ทีนี้เวลาเราเข้าไปดูนั้นจะไม่มีแต่เราดูเฉยๆ นะ พอเราเข้าไปนี้จะรุมเข้ามาแหละ เพราะเขาเห็นผลประจักษ์มาเท่าไรแล้วเราให้ คราวก่อนก็สร้างตึกให้หลังหนึ่ง ๖ ล้าน แล้วให้มูลนิธิ ๑ ล้าน คราวนี้บอกไว้แล้วว่า ๔๗ ล้าน เวลาไปนี้เขาจะรุมมาขอนั้นขอนี้อีก จะเพิ่มอีกนะ ๔๗ ล้านนี้เรียกว่าตายตัวแล้ว ไม่หลุดไม่ขาดแหละ จากนั้นมาก็ส่วนเพิ่มเติม เวลาเราไปเขาจะมาขอนั้นขอนี้ เราก็ต้องได้ให้ตามสมควรที่จะให้ได้มากน้อยเพียงไร

เห็นไหมสถานีรถไฟอุดร สง่างามหรือไม่สง่างาม เหมือนว่ารื้อออกหมดเลยนะ โถ ตั้งสิบกว่าล้าน ไม่ใช่เล่นนะ นั่นแล้วทางที่ราชการก็เป็นอย่างนั้น สร้างที่ไหนไม่น้อยๆ จึงเรียกว่าเงินเรา เราบอกกับพี่น้องทั้งหลายแล้วว่า บาทหนึ่งเราไม่เคยแตะ ฟังซิท่านทั้งหลาย บริจาคเงินมาทั่วประเทศไทยมาให้หลวงตาบัวเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียว หลวงตาบัวก็รับผิดชอบร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดมา เพราะเราช่วยโลกเราไม่ได้ช่วยด้วยความบกบาง ไม่ได้ช่วยด้วยความหิวโหยอะไร เราช่วยโลกด้วยความพอของเรา โลกนี้มีทุกข์มาก ขาดเขินบกพร่องมาก

         เราไม่มีทุกข์ในหัวใจของเรา สมบูรณ์แบบเต็มที่มาได้ ๕๕ ปีนี้แล้ว เราก็บอกตรง ๆ อย่างนี้ นี่ละธรรมเป็นของพูดได้ ดีพูดได้ ชั่วพูดได้ บาปพูดได้ บุญพูดได้ กิเลสพูดได้ เรื่องธรรมะพูดได้ ทำไมเรื่องธรรมะที่จะเชิดชูสัตว์โลกทั้งหลายจะพูดไม่ได้ จะหาว่าโอ้ว่าอวดหาอะไร กิเลสมันหาอะไรมาให้โลกมันถึงจะมาว่าธรรมนี้โอ้อวด มันเอาอะไรมาโอ้อวด มันเต็มตัวมันอยู่แล้วกิเลส สร้างกองทุกข์ให้สัตว์โลกเต็มโลกเต็มสงสารเห็นไหมล่ะ มีแต่เรื่องกิเลสสร้าง ธรรมไม่ได้สร้าง ทุกข์แต่เวลาทำ เวลาอุตส่าห์พยายามนี่เป็นทุกข์ แต่ทุกข์เพื่อความสุข ไม่ได้ทุกข์เพื่อมหันตทุกข์เหมือนกิเลสพาให้ทุกข์นะ

         นี่ที่ว่าเราช่วยโลก จะเขียนประวัติได้เลย ประวัติของเราที่ช่วยโลกนี้ เราเอาอะไรของโลกมาเป็นมัวหมองในเราแม้เม็ดหินเม็ดทรายบอกว่าไม่มีเลย เราเปิดขนาดนั้นละ คิดดูซิว่าเงินบาทเดียวเราไม่เคยทำ คำว่าบาทหนึ่งไม่เคยทำ เป็นความคิดทุจริต แม้บาทหนึ่งก็ไม่เคยมี จะจ่ายมากน้อยนี้เรามีเหตุมีผล มีเหตุมีผล จ่ายจนหมดไม่มีเหลือ จ่ายทั้งหมด ส่วนที่จะมาเป็นมลทินสำหรับเรานี้บอกว่าไม่มีเลย เพราะเราช่วยโลกด้วยความพอแล้วทุกอย่าง เราไม่หวังอะไรกับโลก

         ดิ้นอยู่ทุกวันนี้มีเวลาว่างเมื่อไร เราดิ้นเพื่อโลกเราไม่ได้ดิ้นเพื่อเรา เราพูดจริงๆ  ดิ้นเพื่อในธาตุในขันธ์นี้ก็แก้ไขดัดแปลงบำรุงกันไปเท่านั้น พอได้ทำประโยชน์ให้โลก ที่จะบำรุงรักษาเพื่อเรานี้เราปล่อยทิ้งไปนานแล้วแหละ เราขี้เกียจแบกหามมัน พาอยู่พากิน พาขับพาถ่าย พาหลับพานอน พาเคลื่อนไหวไปมา ยืน เดิน นั่ง นอน มีแต่เพื่อธาตุเพื่อขันธ์ ไม่ได้มีเพื่อจิตใจเลย ใจไม่มี เราพูดจริง ๆ นี่คุณค่าแห่งการปฏิบัติธรรม ท่านทั้งหลายจำเอานะ

         เราปฏิบัติมาแทบเป็นแทบตาย เป็นเวลา ๙ ปีเหมือนตกนรกทั้งเป็น ที่ฟัดกับกิเลสไม่มีเวลาหยุดเวลาถอย เหมือนนักมวยเข้าวงในกันเลยเชียว ซัดกัน ๙ ปี ทางไหนตกเวทีก็ไม่รู้ เราก็จ้าขึ้นมาแล้ว นั่น กิเลสขาดสะบั้นลงไปจากหัวใจ ตั้งแต่วันนั้นเราไม่เคยมีทุกข์ในหัวใจ ทั้งๆ ที่โลกทั้งหลายทุกข์เต็มโลกเต็มสงสาร สอนโลกที่เต็มไปด้วยทุกข์เต็มโลกเต็มสงสารด้วยความไม่มีทุกข์ในหัวใจเรา สอนโลกที่บกพร่องขาดเขิน เราไม่มีอะไรขาดเขินในหัวใจของเรา เราดิ้นเราดีดนี้เพื่อโลกทั้งนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายได้ทราบนะ เราไม่ได้ทำเพื่ออะไรๆ

         ทั้งหมดที่แสดงให้โลกทั้งหลายเห็นทั้งชาติทั้งศาสนา เราก็ได้ช่วยเต็มกำลังความสามารถ ที่อะไรมันจะขาด จะหลุด จะลอย จะล่มจะจม เราก็ช่วยฉุดช่วยลาก ช่วยตักช่วยเตือนเข้ามาเรื่อยๆ อย่างนี้ละ เราไม่ได้เพื่อทำให้ล่มจม เราทำเพื่อพยุงขึ้นมาทั้งนั้นๆ จะดุด่าว่ากล่าว เด็ดขาดขนาดไหน เหมือนกับเรายกภาระที่หนักก็ต้องยกแรง ไม่ใช้กำลังแรงของหนักยกไม่ขึ้น เรื่องราวมีหนักมีเบาก็ต้องว่ากันไปตามเรื่องหนักเบามากน้อยของโลกสงสารที่อยู่ร่วมกัน เราช่วยอย่างนั้นต่างหาก

         เราไม่มีอะไรกับโลก ถึงจะดุด่าว่ากล่าวเด็ดขาดขนาดไหนเพื่อความดีทั้งหมด คำว่าความชั่วที่แทรกนั้นเม็ดหินเม็ดทรายเราบอกว่าเราไม่มีในหัวใจเรา เราพยุงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา เราพยุงเต็มกำลังความสามารถในเวลามีชีวิตอยู่ ไม่ได้อยู่ละทุกวัน วันหนึ่งๆ ไม่ได้อยู่ ดีดนู้นดิ้นนี้เพื่อโลกเพื่อสงสาร เราไม่ได้เพื่อเรา เพื่อเราอะไร นี่ละธรรมเมื่อบำเพ็ญเต็มหัวใจแล้วพออย่างนี้ เราไม่ได้เคยได้ทำธุระหน้าที่ฆ่ากิเลสตัวใดอีก ซึ่งเป็นภาระอันหนักมาดั้งเดิม กิเลสขาดสะบั้นลงไปแล้ว เมื่อขาดสะบั้นลงไปก็ดีดผึงเลย จิตดีดผึง

         ตั้งแต่นั้นมาเราไม่เคยมีทุกข์ในหัวใจ ภาระให้ใจได้ทำงานเพื่อนั้นเพื่อนี้กับกิเลสนี้ไม่มี ตั้งแต่วันนั้นว่าง สุญฺญโต โลกํ ว่างเปล่าไปหมดในหัวใจนี้ไม่มี หมดโดยสิ้นเชิง นี่ละธรรมพระพุทธเจ้า พอมันจ้าขึ้นหัวใจนี้ไม่ต้องไปทูลถามพระพุทธเจ้าพระองค์ใด เหมือนกันหมดเลย ไม่จำเป็นต้องไปทูลถามพระพุทธเจ้า พูดแล้วสาธุ ไม่ได้เย่อหยิ่งจองหองนะ เราพูดความจริงเข้ากันได้หมด ไม่มีสูงมีต่ำ ความจริงเข้ากันได้หมดเลย อันนี้ความจริงคือธรรมเข้ากันได้หมดเลย

         เรากราบพระพุทธเจ้าอย่างสนิท พุทธศาสนาสอนโลกให้หลุดพ้นจากทุกข์โดยลำดับๆ จนกระทั่งหลุดพ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิง คือพุทธศาสนาของเรา ให้ท่านทั้งหลายจับเอาไว้ เป็นศาสนาของผู้สิ้นกิเลสโดยแท้ สอนอะไรสอนด้วยความแจ้งขาวดาวกระจ่างไปหมด ไม่มีมืดๆ มัวๆ กำดำกำขาว ลูบๆ คลำๆ มาสอนกัน ไม่มี คำสอนของพระพุทธเจ้ากระจ่างแจ้งไปหมด เรียกว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้วทุกอย่าง ตั้งแต่ธรรมพื้นๆ ขึ้นไปถึงธรรมสูงสุดวิมุตติพระนิพพาน สอนด้วยความรู้แจ้งแทงทะลุของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น จึงเป็นธรรมที่ตายใจได้ ฝากชีวิตจิตใจ พึ่งเป็นพึ่งตายได้เลย

         นอกจากนั้นเราไม่รับรองว่าศาสนาๆ มีเต็มบ้านเต็มเมือง เป็นศาสนาของกิเลสก็ได้ เรื่องพุทธศาสนาหรือศาสนธรรม คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นเลยเชียว แน่นอน เด่นในโลกธาตุนี้ มีพุทธศาสนาที่เด่นสุดในโลกธาตุนี้ ไม่มีอะไรบกพร่องทั้งหมดเลย สมบูรณ์แบบทุกอย่าง เพราะผู้เป็นศาสดาเป็นผู้สิ้นกิเลสแล้ว มาสอนธรรมทั้งหลาย จึงเป็นธรรมที่ชำระกิเลสได้ด้วยกัน จนกระทั่งสิ้นกิเลสโดยสิ้นเชิงเหมือนกันกับพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ธรรม ฆ่ากิเลสสิ้นซากไปหมด ไม่ผิดกันเลย

         ที่ว่าศาสนาๆ ศาสนามีหลายประเภทนี่นะ ศาสนาของผู้สิ้นกิเลสกับศาสนาของคลังกิเลสต่างกันยังไงบ้าง เอาไปพิจารณา ดีไม่ดีศาสนานั้นๆ คือคลังกิเลสนั้นๆๆ ก็ได้นี่นะ นี่เราพูดตามอรรถตามธรรม ไม่ได้ออกทางนู้นเข้าทางนี้ เพราะผู้สอนเป็นคลังกิเลส ออกไปถ้ากิเลสไม่นำหน้าอะไรนำหน้า ก็สอนด้วยอำนาจของกิเลส ผู้เป็นธรรมจิตใจบริสุทธิ์ล้วนๆ แล้ว สอนด้วยอำนาจแห่งธรรม สอนเป็นธรรม สอนด้วยอำนาจแห่งธรรมไม่มีผิดมีพลาด ผู้มีกิเลสในหัวใจเป็นศาสดาจะเป็นห้าศาสดาก็ตามในศาสนาหนึ่งๆ ก็คลังกิเลสด้วยกัน สอนผิดพลาดไปด้วยกันทั้งนั้นแหละ จะว่าศาสนาเป็นคำสอนที่ถูกต้องดีงามไปด้วยกันมีอย่างที่ไหน ไม่รับรอง ไม่ยืนยัน

         ถ้าเป็นศาสนธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วผู้สอนนั้นคือผู้สิ้นกิเลสแล้ว ถูกต้องทุกอย่างแล้วจะผิดที่ตรงไหนสอนโลก อันนี้ผู้ผิดผิดอยู่ในหัวใจ กิเลสมีความผิดเต็มอยู่ในหัวใจ สอนโลกจะให้ถูกต้องไปได้ที่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มี ว่างั้นเลย นอกจากนั้นก็ลากสัตว์ทั้งหลายที่เขาเคารพนับถือว่าเป็นสาวกของเขาๆ ให้จมไปด้วยกันก็ได้ เพราะคำว่าศาสนาๆ คือคลังกิเลสนั่นเอง มาเสกเป็นศาสนา เอาคลังกิเลสมาเสกเป็นศาสนา หัวหน้าสอนว่ายังไงบริษัทบริวารก็เชื่อ หัวหน้าก็คลังกิเลส บริษัทบริวารของกิเลสเรื่อยๆ ไปเลย

         ศาสนาเต็มโลกเต็มสงสารทำผู้ใดให้มีความสงบร่มเย็น มีมากเท่าไรศาสนาก็ยิ่งก่อกวนวุ่นวายให้มากขึ้นๆๆ โลกสงสารนี้มีแต่ข้าศึกสงครามเต็มบ้านเต็มเมือง ศาสนาแท้สอนคนให้ทำสงครามกันที่ไหน ไม่มี มีแต่ชำระสงครามคือความยุ่งเหยิงวุ่นวาย ความแตกความทำลายกันออกโดยลำดับเท่านั้น นี่จึงเรียกว่าศาสนธรรม ศาสนกิเลสนี้ไปที่ไหนเป็นไฟไปทั้งนั้นแหละ

         ศาสนกิเลสกับศาสนธรรมต่างกันนะ ศาสนธรรมนี้เป็นธรรมล้วนๆ ผู้เป็นเจ้าของศาสนาเป็นธรรมล้วนๆ มาสอนธรรมเป็นธรรมล้วนๆ ผู้เป็นคลังของกิเลสสอนธรรมทั้งหลาย เอาธรรมมาว่าๆ จริงๆ แต่เป็นกิเลสล้วนๆ ไปก็ได้ เราอยากว่ากิเลสล้วนๆ ไปเลยละ เราไม่อยากพูดว่าธรรมแทรกนะ เอาธรรมเข้ามาอวดเฉยๆ โลกมันถึงได้ร้อน ถ้าต่างคนต่างคัดต่างเลือก หาเหตุหาผลจริงๆ แล้ว พุทธศาสนานี้ท้าทายได้เลยว่าไม่ผิดพลาด เอาเถอะจับลงไปพุทธศาสนา ใครได้มากได้น้อยที่จะไปปฏิบัติจะเป็นความสงบสุขร่มเย็นแก่ตนและส่วนรวม มากตามส่วนของตนที่ปฏิบัติได้ทั้งนั้นแหละ ให้พากันปฏิบัติ

         อย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้า จิตใจเป็นของเล่นเมื่อไร เป็นของที่สมบุกสมบันมาก ได้รับความสุขความทุกข์ ส่วนมากมีแต่ความทุกข์ ถ้าเจ้าของเป็นผู้นำ นำกองทุกข์มามันก็เผาเจ้าของนั่นแหละ เผาคนอื่นด้วย ถ้าเป็นคนดี เป็นอรรถเป็นธรรม นำเจ้าของได้แล้วนำผู้อื่นไปได้ดังพระพุทธเจ้าของเรา ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัตินะ มีเท่านั้นละ วันนี้พูดเท่านั้นไม่พูดมากนะ มันมากพอแล้ว เหนื่อยแล้ว เอาละพอให้พร 

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก