เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
ศูนย์เพชฌฆาต
ก่อนจังหัน
ใครอย่ามาเห็นแก่ปากแก่ท้องในวัดนี้ไม่ได้นะ วัดนี้เป็นวัดสั่งสมอรรถธรรม ความสม่ำเสมอภาค ความอยู่เย็นเป็นสุขทั่วหน้ากัน ไม่มีอะไรหนักอะไรเบา พอที่จะเกิดความกระทบกระเทือนภายในจิตใจ ทุกสิ่งทุกอย่างสม่ำเสมอนั้นคือธรรม แล้วจิตใจก็จะเสมอกันหมด ให้พากันพินิจพิจารณา อย่าเห็นแก่ปากแก่ท้อง ให้เห็นแก่ธรรม ปากท้องมันจะเหือดจะแห้งไปบ้างก็ตาม ขอให้ธรรมคือความสม่ำเสมอภาคเต็มหัวใจแล้วสบายด้วยกันทั้งนั้นแหละ อาหารเต็มท้องจิตใจไม่มีธรรมเลยนี้มันเหมือนเต่าตัวหนึ่งนั่นแหละ ไม่เกิดประโยชน์อะไร ขอให้พากันศึกษาอบรม
เวลานี้ศาสนาจะไม่มีเหลือแล้วนะ เรายิ่งจวนจะตายเท่าไร ยิ่งให้เกิดความสลดสังเวชในโลกในสงสารที่สกปรกมากเข้าทุกวันๆ เฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทยเมืองพุทธเรานี้แหละ เลอะเทอะ ไม่มองดูอรรถดูธรรมเลย มองดูตั้งแต่ความดีดความดิ้นไปตามกิเลส หูขาดปากฉีก จมูกขาด ถูกมันจูงไปๆ เพลินไปกับมัน อู๊ย น่าทุเรศจริงๆ เราไม่ได้พูดดูถูกเหยียดหยามโลก เราเกิดกับโลกมานี้อายุเท่าไร เฉพาะในชีวิตนี้ไม่ค่อยดูอะไรนัก พอออกมาปฏิบัตินี่ เวลาปฏิบัติก็ดูตัวของเราอีก ดูตัวของเราจนแตกกระจายไปหมดแล้ว ทีนี้ดูโลก ปิดไม่อยู่ว่างั้นเลยนะ นี่ละที่สอนโลกทั้งหลายนี้เราสอนโลกด้วยปิดไม่อยู่ ปิดธรรมไม่อยู่ มันจะเห็นหมดนั่นแหละ นอกจากพูดหรือไม่พูด เพราะธรรมไม่เป็นข้อหนักใจ เห็นไม่เห็นก็เฉย นอกจากจะเป็นประโยชน์อะไรก็หยิบยกออกมาพูดๆ ดังที่พูดเวลานี้
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ไม่เห็นไม่รู้ รู้มาแต่เมื่อไร แต่ถึงกาลเวลาที่จะหยิบยกอะไรออกมาพูดเพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม ก็หยิบยกออกมาพูด เพราะฉะนั้นขอให้ท่านทั้งหลายได้พินิจพิจารณานะ ธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เลิศโลก ถ้าไม่มีธรรมนี้โลกจมตลอด เหมือนนรกอเวจีของมนุษย์นั่นแหละ จากนี้ไปก็ไปลงนรกอเวจีของผี นรกอเวจีของมนุษย์เรานี้คือไม่มีศีลมีธรรม ใครกวาดได้กวาดเอา เอาตามความชอบใจป่าๆ เถื่อนๆ ของตนนั่นแหละ เวลานี้เลอะมากที่สุดนะ ขอให้พูดเต็มปากเสียที เพราะมันรู้เต็มหัวใจ
ธรรมพระพุทธเจ้าเปิดเผยอยู่ในหัวใจ ใครจะปิดที่ไหนปิดไปเถอะ แต่หัวใจกับธรรมที่เป็นอันเดียวกันแล้วปิดไม่อยู่นะ พระพุทธเจ้า โลกวิทูๆ อาโลโก อุทปาทิ รู้แจ้งโลกๆ สว่างจ้าทั้งวันทั้งคืนตลอดเวลา นี้คือหัวใจพระพุทธเจ้า หัวใจของพระอรหันต์ก็ลดกันลงมาตามขั้นตามภูมินิสัยวาสนา ปิดไม่อยู่เหมือนกัน เราดูแล้วสลดสังเวช นี่พระพุทธเจ้าทรงท้อพระทัยในการสั่งสอนสัตว์โลก ทั้งๆ ที่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้ามากี่กัปกี่กัลป์ ประเภทแรก ๑๖ อสงไขย แสนมหากัป ที่สอง ๘ อสงไขย แสนมหากัป ที่สาม ๔ อสงไขย แสนมหากัป ที่ปรารถนามาสั่งสอนโลก พอเต็มภูมิแล้วที่จะสั่งสอนโลก เวลามันรู้เต็มภูมิแล้วเลยท้อพระทัย ความปรารถนาที่จะสั่งสอนโลกกลับจะสั่งสอนไม่ลง เพราะมันมืดมันหนา มันมีตั้งแต่มูตรแต่คูถเต็มโลกเต็มสงสาร แล้วจะสอนยังไง
ต้องคุ้ยเขี่ยขุดค้นหาดู มันจะมีสารประโยชน์อะไรบ้างในมูตรในคูถเหล่านี้ คุ้ยเขี่ยหา จึงได้เป็นประเภทอุคฆฏิตัญญู วิปจิตัญญู เนยยะ ปทปรมะ ๔ ประเภทนี้ออกมา อุคฆฏิตัญญู ผู้ที่รู้เร็วมี เหมือนวัวอยู่ปากคอกคอยที่จะออก พอเปิดประตูปั๊บโดดผึงออกเลย ประเภทที่สองก็โดดตามหลังกัน ประเภทที่สามทั้งจะโดดเข้าทั้งจะโดดออก ทั้งจะโดดใส่หมอนใส่เสื่อ ทั้งจะโดดไปทางจงกรมนั่งสมาธิภาวนา ประเภทที่ ๔ หลับครอกๆ ตั้งแต่วันเกิดกระทั่งวันตาย หาความรู้จักศีลจักธรรมไม่มีเลย นี่ประเภทที่ ๔ ปทปรมะ พวกเรานี้อยู่ในประเภทไหนให้ถามตัวเองนะ ทั้ง ๔ ประเภทจะไม่พ้นจากหัวใจของเราไปได้
ประเภทที่จะควรอุคฆฏิตัญญู รวดเร็ว ไปเองๆ เมื่อบำรุงรักษาตลอดเวลาจะผึงเลย เต็มที่แล้ว ลำดับที่สองก็ตามกันไป ลำดับที่สามต้องลากกันไปลากกันมา ทั้งจะได้ทั้งจะเสีย ทั้งจะขึ้นทั้งจะลง ทั้งจะเน่าจะเฟะจะเป็นรสชาติอันดีงาม อยู่ในคนๆ เดียวกัน ส่วนประเภทที่ ๔ นี้หมด มีแต่ลมหายใจฝอดๆ อยู่กับโลกเขาก็ฝอดๆ อยู่กลางโลกเขา หาค่าหาราคาไม่ได้ มีแต่ไฟนรกอเวจีเผาอยู่ในหัวใจตลอดเวลา นี้เป็นประเภทที่ ๔ เหล่านี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เรากับพระพุทธเจ้าใครเก่งกว่ากัน เราอย่าเอาความโง่มืดบอดของเราที่จะจมในนรกนี้ไปอวดพระพุทธเจ้า จะจมลึกเข้าไปอีกนะ ขอให้พากันพินิจพิจารณา
เราสลดสังเวช หลวงตาบัวขอพูดเต็มหัวใจเถอะ บวชมาในศาสนานี้จ้าขึ้นมาได้ ๕๕ ปีนี้แล้ว ระยะนี้ก็ยิ่งเป็นเวลาจวนจะตาย จึงรีบเปิดๆ สอนโลก ใครจะว่าอวดว่าโอ้อะไรให้ว่าไป เราไม่ได้อวดได้โอ้ เราไม่มีได้มีเสีย เราพอทุกอย่างแล้ว โลกจะตำหนิติเตียนอะไรเราไม่มีส่วนรับ สอนโลกด้วยความเมตตาล้วนๆ เมื่อมันรู้มันเห็นมันเป็นอยู่อย่างนี้แล้วก็สอน ทำไมพวกเรามนุษย์แท้ๆ เป็นชาวพุทธจะไม่รู้จักดีจักชั่วมีอย่างเหรอ ขอให้พากันพินิจพิจารณา
ในวงพระขอให้พิจารณาบ้างเถอะ อย่ามีแต่ผ้าเหลืองคลุมหัวโล้นๆ แล้วอวดฤทธิ์อวดเดช อวดอำนาจบาตรหลวง พระพุทธเจ้าสอนให้ละกิเลส มันไปกว้านกิเลสเข้ามา บวชเข้ามาเพื่อลาภเพื่อยศ เพื่อสรรเสริญเยินยอ เพื่ออำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ นี้คือเรื่องของกิเลสล้วนๆ เข้ามาเหยียบหัวธรรม เหยียบหัวพระ เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไป ทางวงราชการงานเมืองก็เหมือนกัน มีแต่อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ เสียมากต่อมากปกครองบ้านเมืองเวลานี้ ทางพระก็อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ปกครองพระ พระท่านผู้มีศีลมีธรรมท่านจะลงใจได้ยังไง เมื่อเอาความสกปรกมาโปะทองทั้งแท่งๆ ท่านจะยอมให้โปะหรือ
ท่านผู้มีศีลมีธรรมเหมือนทองทั้งแท่ง ไอ้พวกสกปรกโสมมเหมือนมูตรเหมือนคูถ อวดอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ ตั้งเป็นนั้นตั้งเป็นนี้ แล้วขึ้นมาอวดฤทธิ์อวดเดชป่าๆ เถื่อนๆ กาฝากมหาภัยคือนี้เอง ทั้งสกปรก ทั้งเป็นพิษเป็นภัย มันเป็นอยู่ในพระเราเวลานี้ มีไหมพระในเมืองไทยเรา แล้วมีไหมในตัวของเรา ในศาลาหลังนี้มีไหม ทั้งฆราวาสทั้งพระมีไหมเรื่องเหล่านี้ เอาไปสอนตัวเองนะ ไม่ได้ให้ไปสอนผู้นั้นผู้นี้ ตำหนิคนนั้นคนนี้ โดยไม่ตำหนิตัวเอง ไม่ถูก ต้องดูตัวเองด้วย ตำหนิตัวเองด้วย ควรชมชม ควรหนุนหนุนขึ้นไป ดูให้ดีพระเรานะ เลอะเทอะมากนะเวลานี้ พระออกฤทธิ์ออกเดชออกลวดออกลาย ด้วยอำนาจของกิเลสทั้งมวล
ศาสดาองค์เอกถูกเหยียบหัวแหลกไปหมดๆ ด้วยการเหยียบย่ำทำลายธรรมวินัยนั้นแหละ เรียกว่าเหยียบหัวพระพุทธเจ้า ยกสิ่งที่เลวร้ายขึ้นมาๆ โปะหัวธรรมวินัย แล้วเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตำหนินี้ขึ้นมาเป็นของดิบของดี มาเหยียบหัวพระพุทธเจ้าต่อหน้าต่อตา เรียกว่าเลอะเทอะมากที่สุดนะพระเรา ขอให้พิจารณาเถอะ เวลานี้ลมหายใจยังฝอดๆ อย่าอวดนะอวดนรกอเวจี อวดบาปอวดกรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เรียบร้อยแล้ว เรียกว่าสวากขาตธรรม อย่าอวดนะ เรามันสวากขาตธรรมที่ไหน มีตั้งแต่คืบได้คืบไปคลานได้คลานไปเหมือนบุ้งกือ บุ้งกือวิเศษอะไรดูซิ นั่นเป็นอย่างนั้น
ทางฆราวาสบ้านเมืองก็เหมือนกัน เวลานี้พวกป่าเถื่อนกำลังปกครองชาติไทยเรา ทางบ้านเมืองนี้ก็พวกฤทธิ์พวกเดช มีตั้งแต่พวกอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ เข้ามาเหยียบย่ำทำลายคนดิบคนดีทั้งหลายในเมืองไทยให้หมอบๆ พวกป่าๆ เถื่อนๆ นี่ แล้วทางพระก็แบบป่าๆ เถื่อนๆ นั่นแหละ เข้ามาเหยียบหัวพระผู้มีศีลมีธรรมอยู่เวลานี้ ดูเอานะ อย่าด่วนคิดว่าหลวงตาหาเรื่องหาราว ให้พิจารณาตามที่ว่านี้ มีไหมในเมืองไทยเราเวลานี้ ยกทัพออกมาด้วยขบวนของพระมาออกข้าศึกศัตรูที่พุทธมณฑล วันที่ ๙ เดือนอะไรที่ผ่านมานี้ เห็นไหม เป็นยังไงหลวงตาบัวอวดอุตริหรือ มันเป็นของถูกต้องดีงามแล้วหรือ ในแดนพุทธศาสนานี้ไม่เคยมี หลักธรรมหลักวินัยไม่เคยมี มันออกมายังไง พิจารณาซิ
อู๊ย อวดอำนาจบาตรหลวง อำนาจบาตรหลวงตั้งเป็นเจ้าคณะนั้นเจ้าคณะนี้ คณะนั้นคณะนี้ก็ไม่มีในหลักธรรมหลักวินัย ไม่มี ตั้งขึ้นมาแผลงๆ เดี๋ยวนี้พวกแฝงๆ นี่เป็นกาฝากมหาภัยอยู่เวลานี้ พอตั้งขึ้นมาเป็นเจ้าคณะนั้นเจ้าคณะนี้แล้วก็ผึ่งผายทีเดียว อวดใหญ่โต อวดอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ ว่ามีอำนาจมาก บีบที่นั่นบีบที่นี่ บีบวัดนั้นบีบวัดนี้ สมบัติเงินทองข้าวของอยู่ในวัดไหนซึ่งตามหลักธรรมวินัยแล้ว วัดไหนเป็นผู้มีอำนาจปกครองวัดนั้นๆ โดยเฉพาะตามหลักธรรมหลักวินัย อันนี้พอเป็นเจ้าคณะขึ้นมาก็ไปกวาดเอา บีบเอาวัดนั้นมาบีบเอาวัดนี้มา มีไหมในธรรมวินัย ไม่มี นี่ตั้งขึ้นมาจากเป็นเจ้าคณะนั่นแหละ ว่าใหญ่มันใหญ่แบบนั้นละ พิจารณาซิเวลานี้
กำลังรุกรานนะพวกเจ้าคณะใหญ่ๆ ใหญ่เท่าไรยิ่งรุกรานใหญ่เวลานี้ เต็มบ้านเต็มเมือง เอานะ ท่านทั้งหลายฟัง ฟังแล้วถ้าไม่พอใจ ว่าหลวงตาบัวนี้พูดผิด เอาคอหลวงตาบัวไปตัดเลย หลวงตาบัวไม่ได้เสียดายยิ่งกว่าธรรม ธรรมนี้กราบตลอดไป ส่วนเหล่านี้ไม่กราบ ถึงตายก็ไม่กราบ แต่มันสลดสังเวช ทนไม่ได้ ถึงกาลเวลาที่จะพูดพูดบ้าง ทำไมจะไม่พูด ธรรมเป็นธรรมสอนโลกพูดไม่ได้สอนโลกได้ยังไง นี่ก็เอาธรรมพระพุทธเจ้ามาสอนโลก ขอให้พากันพินิจพิจารณา
เวลานี้เมืองไทยกำลังเลอะเทอะนะ ฝ่ายราชการงานเมืองก็มีแต่เจ้าอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ มาเหยียบย่ำทำลายคนดีทั้งหลายในวงราชการต่างๆ ฝ่ายพระก็เอาอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ขึ้นมาบีบบี้สีไฟพระผู้ทรงศีลทรงธรรมให้เดือดร้อนไปหมดทั้งทางบ้านทางวัด ทางบ้านเมืองและทางศาสนาเวลานี้กำลังร้อน เพราะอำนาจของกิเลสตัวเก่งๆ ตัวเลวร้ายที่สุดนี่ละมันกำลังอาละวาดเดี๋ยวนี้ เอาละพูดเพียงเท่านี้ให้ท่านทั้งหลายเอาไปพินิจพิจารณา นี้เป็นธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ธรรมหลวงตาบัว ผิดถูกชั่วดีพูดไปตามอรรถตามธรรม ตามพระพุทธเจ้าที่พาสั่งสอนสัตว์โลกมา นี้ก็นำนั้นมาสั่งสอน ดีชั่วมีอยู่ในโลก สอนก็สอนโลกที่มีดีมีชั่วให้รู้จักดีจักชั่ว จะไปสอนใคร เอาละให้พร
หลังจังหัน
ให้โลกนะ แต่สอนโลกทำประโยชน์ให้โลกเต็มเม็ดเต็มหน่วยพระพุทธเจ้า ท่านไม่เอาอะไร พระพุทธเจ้า พระสาวกทั้งหลาย นั่นละอำนาจแห่งธรรมเป็นอย่างนั้น อำนาจแห่งธรรมไปไหนเย็นไปหมดๆ พระพุทธเจ้า พระสาวกไปไหน แบมือตลอดไม่กำ สละออกเพื่อประโยชน์แก่โลก อำนาจของธรรมไปไหนเย็นไปหมด ถ้าอำนาจของกิเลสไปไหนร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ
ก่อนฉันจังหันก็เทศน์บ้างแล้วไม่ใช่หรือ ได้ฟังไหม ที่เทศน์แล้วนี้ผิดหรือถูก หลวงตาอุตริเหรอ ฟังซิน่ะ เวลานี้พระทุศีล พระอลัชชี ใช้อำนาจบาตรหลวงปกครองพระผู้ทรงศีลทรงธรรม ถึงได้เดือดร้อน พระผู้ทรงศีลทรงธรรมท่านปฏิบัติด้วยความสงบร่มเย็น ไอ้พระที่มีแต่หัวโล้นๆ ผ้าเหลืองๆ ไม่มีศีลมีธรรมเลย มันก็เป็นฟืนเป็นไฟ แต่ใช้อำนาจป่าเถื่อนไปบีบบังคับตามอำนาจป่าเถื่อนของตน ทีนี้ผู้ทรงศีลทรงธรรมผู้สะอาดกับผู้สกปรกมันเข้ากันไม่ได้ซิ นี่ละที่มันฟัดมันเหวี่ยงกัน
เวลานี้ก็ดูเอาซิเรื่องราวกำลังเกิดขึ้น ไปประชุมที่วัดอโศการามกี่ครั้ง นี้มีแต่พระผู้ทรงศีลทรงธรรมทั้งนั้น ท่านสะอาดสะอ้าน ถูกพวกสกปรกมอมแมมนี้เข้าไปก่อไปกวนไปทำลายทุกแบบทุกฉบับ ท่านต้องได้เคลื่อนไหวออกมาประกาศหลักเกณฑ์ไว้ให้ทราบ หลักเกณฑ์มีอย่างนี้ๆ นั่น อันนั้นไม่มีหลักมีเกณฑ์ มีแต่เรื่องทำลายๆ นี่ละที่ว่าพระอลัชชี พระทุศีล พระไม่มีศีล มีแต่หัวโล้นผ้าเหลืองไปปกครองพระผู้ทรงศีลทรงธรรม ก็เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายกระทบกระเทือนมากมายดังที่เห็นนี่ดูเอา นี่อุตริไหม
ทางฆราวาสก็เหมือนกัน พวกสกปรกมอมแมม ไปทำลายพวกคนดีผู้ปฏิบัติหน้าที่การงานตามกฎหมายบ้านเมือง ปฏิบัติไม่สะดวก ผู้ที่สกปรกใช้อำนาจป่าเถื่อนบีบบังคับให้ทำอย่างนั้นๆ สมมุติว่าผู้ทำผิด เจ้าหน้าที่เช่นตำรวจจะไปใช้ตามกฎข้อบังคับ ไอ้อำนาจป่าเถื่อนเหนือนั้นบีบบังคับไม่ให้ใช้ เช่นจะปฏิบัติหน้าที่ต่อคนผิดอย่างนี้ แล้วไอ้ป่าเถื่อนนั้นมันก็มาบีบบังคับ เช่นใช้อำนาจหน้าที่นี้ คนนี้ก็จะถูกย้ายไปโน้นๆ ฟังซิน่ะ ย้ายไม่มีเหตุมีผล นี่เรียกอำนาจป่าเถื่อน ทีนี้ผู้อยู่ใต้อำนาจก็ลำบากเหมือนกัน กฎหมายก็เลยกลายเป็นกฎหมอยไป กฎหมอย กฎหมา ไม่ใช่กฎหมาย ปกครองบ้านเมืองไม่ได้ ปกครองได้แต่หมาเท่านั้น
กฎหมาย กฎหมอย กฎหมา ปกครองได้แต่หมา ปกครองมนุษย์ไม่ได้ มนุษย์ไม่ยอมรับ อย่างที่พวกหัวโล้นๆ ที่กำลังอาละวาดอยู่ด้วยความสกปรกมอมแมมนี้ จะมาบีบบังคับฝ่ายผู้มีศีลมีธรรมที่สะอาดสะอ้าน บีบบังคับท่านไม่ได้ แน่ะก็อย่างนั้น เมื่อไม่ได้ก็ต้องต่อสู้กัน แก้กัน สลัดกันใช่ไหมล่ะ มันเป็นอย่างนี้ให้เห็นอยู่นี่ เรื่องสกปรกไปไหนแหลกไปหมด ลำบากนะ กระทบกระเทือนมาก
เราบวชมาในศาสนานี้มานานแต่เราก็ไม่เคยเห็น พึ่งมาเห็นครั้งนี้ โหย สลดสังเวชนะ พระออกหน้าทัพเหมือนไปรบข้าศึกศัตรู เหมือนพวกทหาร ตำรวจ เขาไปรบข้าศึกศัตรูเพื่อป้องกันชาติของเขา ไอ้นี้ออกแนวรบพระผ้าเหลืองๆ อยู่ในพุทธมณฑล วันที่ ๙ ไม่ใช่เหรือ นั่นละพระออกหน้าทัพไปรับ ทีนี้ไม่ได้ไปรบแบบทหาร ตำรวจ ที่ไปรบข้าศึกศัตรูเพื่อรักษาชาติซิ อันนี้มันไปรบเพื่อทำลายชาติ เพื่อทำลายศาสนา ก็อย่างนั้นแล้ว และเดี๋ยวนี้ก็เงียบๆ อยู่เห็นไหม นี่ละพวกป่าเถื่อน เงียบๆ อยู่อย่างนี้ เรื่องเหล่านี้เป็นธรรมดาเมื่อไร ผิดทั้งกฎหมาย ผิดทั้งหลักธรรมหลักวินัย แล้วอยู่ยังไงเฉยๆ อย่างนี้พิจารณาซิ
ถ้าว่าบ้านเมืองไม่เข้ามายุ่ง นี้เป็นเรื่องของพระของสงฆ์ ของสงฆ์อะไร ของเปรตของยักษ์ของมารของข้าศึกศัตรูจะทำลายชาติ ทำไมบ้านเมืองจะเข้ามายุ่งไม่ได้ มันผิดกฎหมายแล้วบ้านเมืองยุ่งไม่ได้มีเหรอ ผิดธรรมวินัยแล้วจับสึกไม่ได้มีเหรอ นั่นเรื่องราวเป็นอย่างนั้น คนผิดกฎหมาย หน้าที่การงานทางบ้านเมืองเขาต้องจัดการตามกฎหมาย หลักความจริงเป็นอย่างนี้ อย่างนี้ละอำนาจป่าเถื่อน ผู้รักษากฎหมายก็นิ่งๆ อยู่ ไม่ใช่ท่านโง่นะ ท่านนิ่งดูเหตุการณ์ต่างๆ แต่ธรรมของเรานี้เปิดออกเลย เข้าใจไหม เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ มันผิดอย่างร้ายแรงมากที่มาทำอย่างที่เห็น ผ้าเหลืองๆ หัวโล้นๆ น่าสลดสังเวช ออกหน้าทัพที่พุทธมณฑล วันที่ ๙ สิงหา นี่ละใครดูได้ไหม พิจารณาซิ
ธรรมเปิดออกมาตามความจริงอย่างนี้ เอา ตัดคอหลวงตาบัวเลยถ้าพูดนี้ผิดธรรมผิดวินัยไป ผู้ทำนั้นมันผิดหรือไม่ผิด พูดเรื่องความจริงของผู้ทำ พระวินัยท่านจับสึกเลย เอาไว้ไม่ได้ ทางกฎหมายเขาจัดการเลย นี่มันก็อ้าง ถ้าบ้านเมืองจะไปเกี่ยวข้อง นี้เป็นเรื่องของสงฆ์ สงฆ์ที่ไหนใครรับรอง มีแต่สงฆ์ปากมันนั่นแหละรับรอง ก็ดูซิเงียบๆ อยู่นี้เห็นไหม แต่การเงียบๆ เราไม่ตำหนิทางบ้านทางเมืองอะไร ท่านสังเกตเหตุผลอยู่ ไม่ใช่ท่านยอมพวกเปรตพวกมหาภัยอย่างเดียวนะ แต่เรื่องมันเป็นอยู่อย่างนี้เราก็นำมาพูดตามความจริงนี้ก่อน ส่วนที่ท่านจะพิจารณายังไงให้ท่านพิจารณา
ทำไมจะจัดการไม่ได้อย่างนี้ กฎหมายบ้านเมืองมีอยู่ หลักธรรมวินัยมีอยู่ ทำไมจะปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยหลักกฎหมายบ้านเมืองที่มีอยู่ไม่ได้ ต้องปฏิบัติได้ ไม่อย่างนั้นกฎหมายมีมาทำไม หลักธรรมวินัยมีมาทำไมถ้าไม่ปกครองพระ นั่น ใครมาทำอย่างนี้ มันเป็นพระหรือเป็นอะไร มันสกปรกอย่างนี้ พิจารณาซิ แล้วเดือดร้อนกันไปหมด ไปไล่หาทุบหาตีวันนั้น หาทุบหาตีคนดีด้วยนะ ถ้าไปหาทุบหาตีพวกโจรพวกมารปล้นบ้านปล้นเมืองเราก็ไม่ว่า นี้ไปหาทุบหาตีคนที่ดิบที่ดี อย่างเขาเอาภาพติดไว้นั้น ไปไล่ตีคุณทองก้อนกับพระทั้งหลายอยู่นั้น เป็นยังไง คุณทองก้อนเป็นผู้ทำหน้าที่ของชาติบ้านเมือง เป็นหัวใจของชาติ ได้ช่วยชาติบ้านเมือง เรียกว่าตัดคอเลยคุณทองก้อน แล้วเป็นยังไงคนๆ นี้จึงต้องไปหาตี พิจารณาซิ มันน่าทุเรศเอาเหลือเกิน หยาบโลนที่สุดเลยพวกนี้น่ะ
นี่ละความสกปรก คนสกปรก พระสกปรก ไปที่ไหนทำลายไปหมด ก่อกวนไปหมดให้เดือดร้อน พระผู้ที่อยู่ในป่าในเขาอุตส่าห์พยายามปฏิบัติด้วยความมีศีลมีธรรม เพื่อมรรคเพื่อผลเพื่อนิพพาน ก็ต้องเดือดร้อนต้องกระทบกระเทือน ต้องออกมาประชุมกัน เฉพาะอย่างยิ่งที่วัดอโศการามกี่ครั้ง ก็เพราะพวกนี้ไปก่อกวนไปทำลายนั่นเอง มันไม่ได้หาของดิบของดีอะไรพอจะส่งเสริมสักนิดนะ มีแต่คนอื่นเขาก่อเขาทำ ส่งเสริมความดี บำรุงความดี มันไปทำลายมันไปเผา พวกนี้พวกกองเผากองทำลาย
แล้วก็ตั้งชื่อว่า ศูนย์พิทักษ์ๆ พิทักษ์อะไรมันศูนย์สังหาร ศูนย์เพชฌฆาต ศูนย์ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างนี้ถูกต้องดี มันไปส่งเสริมที่ไหน มีแต่ทำลายเท่านั้น พวกนี้ไปส่งเสริมที่ไหน ไปรักษาที่ไหน พอจะชื่อว่าพิทักษ์ๆ แปลว่า ความอารักขา พิทักษ์รักษา มันไปรักษาที่ไหนมีแต่ไปทำลาย แล้วเข้ากันได้ยังไง ถ้าว่าศูนย์ทำลาย ศูนย์เพชฌฆาต ถูกต้อง ไม่ตั้งก็ถูกต้อง มันทำอย่างแบบหน้าด้านเลยนะ พวกนี้พวกหน้าด้านที่สุด ไม่มียางอาย อยากให้ได้อย่างใจๆ ใจมันก็ใจเป็นฟืนเป็นไฟ ใจเป็นส้วมเป็นถาน แล้วจะเอาอะไรไปเป็นสาระ พิจารณาซิ
ทางบ้านเมืองก็เหมือนกัน อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ มันแทรกอยู่ในทางบ้านเมือง ผู้ที่จะทำหน้าที่การงานทางบ้านทางเมืองก็ทำไม่สะดวก ถูกกีดถูกกันถูกบังคับบัญชาด้วยอำนาจป่าเถื่อนอย่างนี้ละ ทางบ้านเมืองมันก็ไปเป็นอำนาจป่าเถื่อนแทรกอยู่นั้น คุมอยู่นั้น ทางพระมันก็เอาพวกหัวโล้นๆ ผ้าเหลืองๆ ศีลไม่มีสักตัว เป็นอลัชชีนี้มาบีบบังคับผู้ทรงศีลทรงธรรม มันเดือดร้อนไหม พิจารณาซิ เรายกมาสองประเภทให้พากันพิจารณา นี่ละถ้าขัดต่อศีลต่อธรรมต่อกฎหมายบ้านเมืองเดือดร้อนอย่างนี้เอง
โอ๊ย มันน่าทุเรศจริงๆ นะ ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นเสียแล้ว แล้วพวกนี้นะที่กำลังพยายามแผลงฤทธิ์แผลงอำนาจ ส่งเสริมกำลังวังชาขึ้นมา จะทวงประเทศไทยคืนมา เขาเขียนไว้ในการ์ตูนว่า จะทวงประเทศไทยคืนมา จะทวงคืนมาให้ฝรั่งหรือจะทวงคืนมาเพื่อไปจำนำต่อครับ เขาว่าอย่างนั้นใช่ไหม คือมันน่าหมั่นไส้เหลือเกินเขาก็ออกมา เพราะพวกนี้มันขวางบ้านขวางเมือง ขวางชาติขวางศาสนาเหลือเกิน ทั้งๆ ที่มันเกิดอยู่ในท่ามกลางชาติ ศาสนา มันก็ตั้งหน้าตั้งตาทำลายชาติ ศาสนา ตลอดพระมหากษัตริย์ พวกนี้พวกทำลาย ศูนย์ทำลาย พวกทำลาย
ทางฆราวาสก็ทำลายแบบเดียวกัน ทางพระก็ทำลายแบบเดียวกัน ดูเอาพี่น้องทั้งหลายถ้าว่าหลวงตาบัวหาเรื่องอุตริ ถ้าผิดแล้ว เอา เอาไปตัดคอเลยหลวงตาไม่เสียดาย ไม่มีสะทกสะท้าน ไม่มีการแก้ตัวอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าว่าผิดเอาคอไปตัดเลย ธรรมสอนโลกต้องสอนอย่างนี้ สอนผิดจากนี้ไม่ได้ เป็นยังไงต้องว่าตามหลักความสัตย์ความจริง นี้เรานำธรรมมาสอนโลกต่างหาก ไม่ใช่อีตาบัวคนนี้มีอำนาจบาตรหลวงทำท่าสอนนั้นว่านั้นดุนั้นดุนี้ ไม่มี อีตาบัวไม่ทำอย่างนั้น อีตาบัวเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอนโลกต่างหาก เหมือนพระพุทธเจ้า สาวกทั้งหลายท่านสอนกันเรื่อยมา ท่านก็สอนกันโดยธรรม
นี้ก็นำธรรมสอนมา ใครผิดบอกว่าผิด ใครถูกต้องบอกว่าถูก พูดอย่างอื่นไปไม่ใช่ธรรม ต้องเอาเรื่องธรรมออกเสมอ เพราะธรรมนี้เป็นธรรมสอนโลก ไม่ได้เข้าว่าการบ้านการเมือง ธรรม เช่นอย่างเขาจะว่าหลวงตาบัวเล่นการบ้านการเมือง หลวงตาบัวเป็นพระ ไม่ใช่เป็นการบ้านการเมือง หลวงตาบัวนำธรรมมาสอนโลกต่างหาก เหมือนพระพุทธเจ้า สาวกทั้งหลายนำธรรมมาสอนโลก ใครผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก เป็นการบ้านการเมืองที่ไหน เป็นธรรมสอนโลกต่างหาก เข้าใจเหรอ เอาละวันนี้เอาแค่นี้ก่อน พูดมากจะไม่มีโวหารพูดวันหลังมันจะหมดเสียก่อน เข้าใจไหม ต้องถนอมเอาไว้ หามาใหม่วันหลัง
โยม กราบขอประทานอนุญาตหนึ่งนาทีพูดว่า ชีวิตสิบกว่าปีที่มารับใช้อยู่ ได้เห็นคุณค่าของพระเดชพระคุณ รู้สถานภาพทางการเมืองและแก้ไขเป็นจังหวะมา ตั้งแต่พื้นที่สีชมพู หาเงินช่วยชาติและทำงานทุกอย่าง ถ้าไม่ได้พระเดชพระคุณช่วงสิบกว่าปีมา ไม่รู้เมืองไทยจะเป็นอย่างไรเจ้าค่ะ
หลวงตา อันนี้ก็เป็นธรรม เราก็ฟังเป็นธรรม เราก็แน่ใจของเราว่าดำเนินมาอย่างนั้นด้วยความบริสุทธิ์ต่อพี่น้องทั้งหลาย คิดดูซิว่า เงินพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยผ่านเข้ามาหาหลวงตาบัวให้เป็นผู้รับผิดชอบ ตั้งแต่ทองคำ ดอลลาร์ เงินสดมา แบตลอดแบมือ บาทหนึ่งหลวงตาไม่เคยแตะ อย่าว่าแต่ทองคำ ดอลลาร์เลย เงินไทยเรานี้รวมแล้วเรียกว่าบาทหนึ่งหลวงตาไม่เคยแตะ ออกช่วยโลกทั้งหมด นี่จะเขียนประวัติศาสตร์ก็เป็นประวัติศาสตร์อย่างชี้นิ้วเลย เพราะเราทำต่อโลกสอนโลก เราสอนด้วยความอิ่มพอของเราแล้ว แต่เต็มไปด้วยความเมตตาสอนโลก จึงไม่มีอะไรจะหยิบนั้นหยิบนี้มาให้เป็นมลทินต่อจิตใจเรา เรียกว่าไม่มี
วัตถุเงินทองได้มาเท่าไรออกหมดเพื่อโลกทั้งนั้น เรื่องธรรมสอนโลกเวลานี้ก็กระจายไปทั่วโลกแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ใช่แต่เพียงทั่วเมืองไทยเรานี้ พูดอยู่นี้ก็ออกทั่วโลกแล้ว เอา ยอมรับ อันนี้ก็เป็นธรรม เห็นผู้นั้นพูดเป็นธรรมมา นี้พูดเป็นธรรมหรือไม่ก็พิจารณาเอาซิพี่น้องทั้งหลาย เราบริสุทธิ์ขนาดนั้น เราจึงพูดได้เต็มปาก ไอ้พวกกองทำลายศูนย์ทำลายนี้มันก็มาหาเรื่องว่า หลวงตาบัวเอาเงินไปไว้ที่ไหน เขาจะหาคนมาตรวจสอบเรื่องการเงินของเราเป็นยังไงๆ เราก็บอกว่า ให้มันยกโคตรมาเลย เอ้ามาเลย มันไม่กล้ามานะ เห็นวันหนึ่งตำรวจเดินย่องๆ มานี้มาฉากดูลาดเลา เขาจะให้เราเซ็นชื่อ เราก็ว่า เซ็นเพราะเหตุผลกลไกอะไร เราไปก่อความเดือดร้อนอะไรจึงต้องให้เราเซ็นชื่อ เซ็นชื่อเพราะเหตุผลกลไกอะไร เราไม่เซ็น ถ้าหากว่าจะให้เราเซ็นแล้ว เอา เรื่องราวเกิดขึ้นมายังไงๆ บ้างแล้วเราจะเซ็น ร้อยเซ็นก็จะเซ็น แล้วจะขึ้นเวทีเราบอก เอ้าว่ามา รับรองได้ไหม เขาว่ารับรองไม่ได้ เมื่อรับรองไม่ได้แล้วเข้ามาหาทำไม ใส่แล้ว เปิดเลย
อย่างนั้นแล้ว ก็คนดีๆ มาหาเรื่องใส่กันอะไร ตัวคนชั่วมันเข้ามาอยู่นี้ เห็นหยกๆ อยู่นี้ เห็นตัวมันอยู่นี้ ทำไมจะไม่ซัดกันบ้าง สมควรที่จะซัดก็หมัดเรามีนี่ หมัดเราไม่มีก็ไปเอาหมัดไอ้ปุ๊กกี้มา หมัดไอ้ปุ๊กกี้เต็มตัวมัน มาช่วยกันกับหมัดเรา แตกฮือเลยพวกนี้ จมหมดทั้งโคตรมันแหละ เอาละพูดตลกบ้าง ก็พระนี่วะ ตลกในศีลในธรรมเป็นไรไป
ผู้กำกับ มีหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ครับ
หลวงตา เอ้าว่ามาเราจะฟัง เราทำประโยชน์เพื่อโลก พูดเพื่อโลกทั้งนั้นนะเราไม่ได้พูดเพื่อเรา ทุกอย่างเราพอหมดแล้ว เราไม่เอาอะไร เราพูดเพื่อโลกด้วยความเมตตาสงสารโลก ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก ให้แก้ไขดัดแปลงและส่งเสริมในสิ่งที่ถูกให้ดีขึ้นเท่านั้นเอง เราไม่มีอย่างอื่น เอ้าว่ามา
ผู้กำกับ นสพ.พิมพ์ไทยรายวัน ประจำวันอังคารที่ ๑๖ พ.ย.๔๗ หัวข้อเรื่องว่า ให้พระองค์ทรงเลือกพระที่กราบได้สนิทใจเถอะ
หลวงตา เออ เราเห็นด้วยทันทีเลย เพราะเรื่องขนบประเพณีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี้ ทรงแต่งตั้งหรือสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชมาเป็นประจำ ประเพณีเมืองไทยของเรา เป็นเรื่องของพระองค์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีใครมายุ่มย่าม เดี๋ยวนี้พวกกองทำลายมันกำลังเข้ามายุ่มย่าม มายึดอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มันจะเอาไปตั้งให้เป็นสังฆราชคะแรดอะไรเราก็ไม่รู้แหละ ใครจะไปกราบถ้าไม่ใช่ไอ้ปุ๊กกี้ เขาไม่กราบหรอก คนเขาไม่กราบ
ผู้กำกับ มีข้อความดังนี้ครับ
กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคไทยรักไทยจำนวน 70 ท่านได้ร่วมกันลงชื่อเสนอให้กระบวนการทางสภาพิจารณาแก้ไขพรบ.คณะสงฆ์ในมาตรา 7 และมาตรา 10 ในอันถวายคืนพระราชอำนาจแด่ในหลวง ในการทรงพระราชวินิจฉัยสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช (หลวงตา อำนาจนี่ขึ้นมาภายหลังขนบประเพณีของเรา ขึ้นมาแย่งเอาไปอยู่นี่ ได้กำลังเอาคืนมา พวกกองทำลายเป็นอย่างนี้ เอาว่าไป) และคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในขั้นตอนของส.ส.พรรคไทยรักไทย
แว่วมาว่าส.ส.พรรคไทยรักไทยส่วนใหญ่แล้ว จะเห็นด้วยกับแนวทางการนำเสนอของส.ส.จำนวน 70 ท่าน นอกจากนี้ส.ส.ส่วนใหญ่ในกลุ่มวังบัวบานก็ยังมีความเห็นด้วยที่จะให้มีการถวายคืนพระราชอำนาจแด่ในหลวง ในเมื่อมีผู้เห็นด้วยก็ต้องมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อวันวานได้มีส.ส.ของพรรคไทยรักไทยท่านหนึ่ง ที่ได้ดิบได้ดีมาจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้ออกมาคัดค้านการถวายคืนพระราชอำนาจอย่างโดดเดี่ยว โดยให้เหตุผลว่าหากนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในสภา ก็อาจต้องเผชิญกับความวุ่นวายในบ้านเมือง อาจจะเกิดการก่อม็อบพระกันขึ้นที่หน้ารัฐสภาก็เป็นได้ และอาจบานปลายไปมากกว่านั้น คือ อาจเกิดม็อบชนม็อบที่หน้าสภา
โอ้.พิโธ่พิถัง ! กะอีแค่กลัวม็อบเท่านั้นเองหรือ ??
ควรจะมองถึงปัญหาที่แท้จริงบ้าง จริงๆ แล้วปัญหานี้เกิดขึ้นมาก็เพราะการแก่งแย่งกันในเรื่องสมณศักดิ์เพื่อจะจ่อคิวขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ต่อไป การแก่งแย่งนั้นมีทั้งการวิ่งเต้นเข้าเส้นเข้าสายพระผู้ใหญ่ และวิ่งซื้อวิ่งขายเพื่อให้ได้รับการเสนอชื่อเลื่อนสมณศักดิ์ตามต้องการ จึงทำให้ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชขาดคุณภาพ ขาดคุณธรรม บริหารกิจการพระพุทธศาสนาล้มเหลว ส่งผลให้สังคมไทยขาดความสงบสุข เพราะในเมื่อผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณขาดคุณธรรมเสียแล้ว จะเอาอะไรไปสั่งสอนให้ประชาชนในชาติมีคุณธรรม
แม่ปูยังเดินเอาข้างไป แต่จะสอนให้ลูกปูเดินเอาหน้าไป มันจะเป็นไปได้หรือ ??
ตัดปัญหาการแก่งแย่งขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ตัดปัญหาสมเด็จพระราชาคณะวิ่งซบอำนาจทางการเมือง ในเมื่อพระท่านเป็นผู้ละวางแล้ว ไม่สะสมสมบัติข้าวของเงินทองแล้ว เรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ทำไมถึงยังไม่ยอมละวาง ก็น่าจะดีแล้วถ้าถวายคืนให้เป็นพระราชอำนาจของในหลวง
พระผู้ใหญ่ท่านจะได้แข่งขันกันทำความดี แข่งขันกันมีศีลธรรมและคุณธรรมให้เป็นที่ประจักษ์ต่อพระเนตรพระกรรณของสมเด็จพระบรมมหาบพิตร !!
ปัญหาความเน่าเฟะและเหลวแหลกของสังคม ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในบ้านเมืองเวลานี้ มิใช่เป็นเพราะผู้คนขาดศีลขาดธรรมดอกหรือ การแก้ปัญหาจึงควรแก้กันที่ต้นตอตัวต้นเหตุ มิใช่จะมาแก้กันที่ปลายเหตุ
การบริหารกิจการพระพุทธศาสนาขาดประสิทธิภาพมานาน การศึกษาของคณะสงฆ์ขาดการเอาใจใส่ดูแลตามที่ควรจะมีจะเป็น ยิ่งการเผยแผ่ด้วยแล้วแทบจะไม่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนใดๆ จากองค์กรสงฆ์ ลองสำรวจตัวเลขพระอาจารย์ผู้มีความรู้ความชำนาญในการเผยแผ่ได้เลยที่วัดยานนาวา เขตสาธร ลองนับดูซิว่าพระอาจารย์ที่ถูกทิ้งขว้างเหล่านี้มีจำนวนมากมายเพียงไร
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ไม่ได้รับการปลูกฝังให้เข้าสู่จิตใจคน พระผู้ใหญ่ในวันนี้ท่านมัวทำอะไรอยู่ ??
มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาและลัทธิอื่นๆ ที่เป็นดังนี้ก็เพราะผิดหวังในการทำหน้าที่ของพระผู้ใหญ่ ที่ได้อำนาจบริหารมาจากข้อบัญญัติในพรบ.คณะสงฆ์ฉบับปัจจุบัน ดูได้ พิจารณาเอาเองได้ จากกรณีการสั่งปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดสว่างภพ คลองสาม จังหวัดปทุมธานี ในคราวนั้นมีสามเณรชาวเขาและชาวเราจำนวนไม่น้อยกว่า 300 รูปต้องถูกส่งตัวกลับไปยังถิ่นฐานบ้านเกิด
เหมือนกับถีบหัวส่ง !
ถามว่าพระผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจได้ให้การปกป้องคุ้มครองต่อศาสนทายาทตัวน้อยๆ ที่เราเองไปรับเขามาอย่างไรบ้าง รู้ทั้งรู้ว่าการจัดการศึกษาของวัดนี้มีปัญหาทำไมพระผู้ใหญ่ถึงไม่เข้าไปช่วยแก้ไข เห็นมีแต่คล้อยตามและเป็นใจไปกับฝ่ายข้าราชการและนักการเมือง หวังอะไรหรือ ? หวังจะให้พระพุทธศาสนาดีขึ้น หรือหวังจะได้รับการเสนอให้เลื่อนตำแหน่งทางการปกครองจากข้าราชการและนักการเมือง ??
สมเด็จพระสังฆราชไม่จำเป็นต้องเป็นธรรมยุตหรือมหานิกาย แต่พระที่จะได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชควรจะเป็นพระที่พระองค์ทรงกราบไหว้ได้สนิทใจ !
ทูลเกล้าถวายของสูงย่อมเป็นมหามงคลแก่บ้านเมือง
ณ. หนูแก้ว
หลวงตา มันก็จะไปไหน มันก็อยู่ในหลักเดิมนั่นแหละ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวเท่านั้น ที่ทรงพระอำนาจสง่างามทั่วประเทศไทย ที่คนทั้งชาติยอมรับกันกราบไหว้บูชาตลอดมา เป็นประเพณีมาดั้งเดิมจนกระทั่งบัดนี้ ไม่มีผู้อื่นใดที่จะให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ของประชาชนได้ยิ่งกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ที่ทรงตั้งพระสังฆราชขึ้นมาองค์ใดก็เป็นที่กราบไหว้ได้ลงคอ จะเอาหมามาตั้งเป็นสังฆราชใครจะกราบได้วะ มันมาแย่งมาชิงกันยุ่งอยู่เดี๋ยวนี้ มีแต่พวกหมาทั้งนั้นละได้แย่งตำแหน่งสมเด็จสังฆราชนะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวเท่านั้น ประเพณีคนไทยเรายอมรับกันทั้งประเทศ นอกนั้นไม่มียอมรับ จะเรียกว่าหมามาแย่งอำนาจก็ได้จะผิดไปที่ไหนวะ มันเลวขนาดนั้นนะพวกนี้ ยื้อแย่งแข่งดีในความเลวทรามทั้งหลาย แล้วยิ่งเลวเข้าไปโดยลำดับๆ หาความดีไม่ได้
นี้เรื่องธรรม เราพูดอย่างนี้เอง พูดเป็นกลางๆ ขนบประเพณีนี้ไม่มีใครคัดค้านต้านทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงตั้งหรือสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมา โลกกราบไหว้อย่างสนิทใจตลอดมา ไม่ว่าจะทรงตั้งนิกายใดก็ตาม นิกายๆ แปลว่าหมู่ว่าคณะนั่นละ อันนี้เป็นชื่อเป็นนามต่างหาก ความดีของผู้ที่จะเป็นสังฆราชนั้นต่างหากที่จะกราบไหว้ได้ลงคอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งที่ใดๆ มาก็ตาม ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มาจนกระทั่งบัดนี้ ใครกราบไหว้ได้ลงคอด้วยกันทั้งนั้น แต่เวลานี้เป็นยังไง กราบไหว้ได้ลงคอไหม เราจะเอาหมาหัวบาดเข้ามาให้เป็นสังฆราชใครจะกราบได้ลงคอ ที่มันกำลังปีนป่ายกันอยากเป็นสมเด็จสังฆราชๆ หมาในวัดนั้นมันก็จะเป็นสมเด็จสังฆราชด้วยกัน อย่าว่าแต่เจ้าอาวาสวัดเป็นสมเด็จสังฆราช วัดไหนก็ตาม ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วไม่มีใครกราบ หมาเป็นสังฆราชใครจะกราบได้ หมาหัวบาดมาเป็นสังฆราชใครจะกราบได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นที่ทรงตั้งแล้วคนกราบได้สนิทใจมาดั้งเดิมจนบัดนี้ นี้เป็นพื้นฐานแห่งชาติไทยของเราที่ยอมรับ นอกนั้นไม่ยอมรับ มีแต่พวกทำลาย มีแต่พวกยื้อแย่งแข่งชั่วแข่งความลามกกันทั้งนั้น
เราไม่พูดแข่งดี มันเอาความดีมาจากไหนมาแข่ง ถ้าว่าขาดศีลธรรมอาจจะเป็นได้ บวชวันแรกมีศีลมีธรรม จากนั้นมาแล้วศีลธรรมแหลกไปหมด มันมีศีลมีธรรมอะไรมีแต่หัวโล้นๆ พระเรา พูดให้มันตรงศัพท์ตรงแสงอย่างนี้แหละ เอาแต่ความชั่วช้าลามกเรื่องของสกปรกเข้ามาทำลายศาสนา เรื่องศีลเรื่องธรรมที่จะพากันส่งเสริมศาสนาให้มีความสงบร่มเย็นต่อกันนี้ไม่มี เดี๋ยวนี้เราเชื่อว่าไม่มี มีแต่เรื่องก่อกวนก่อทำลาย ไอ้ที่ว่าก่อม็อบก่อแม็บ ก่อไหนก็ก่อไปซิความจริงมีอยู่นี้ มันจะก่อไปไหนให้ก่อไปซิ ความจริงมีอยู่ เอาความจริงยันขึ้นไป
เช่นอย่างธนบัตรใบนี้ใบจริงหนึ่งร้อยบาท นอกนั้นปลอมไปหมด เอา เอาก่อม็อบเข้ามาซิ ก่อม็อบธนบัตรปลอมเข้ามาตีธนบัตรจริงนี่ตีได้ไหม ใครจะยอมรับ คนทั้งประเทศ คนทั้งโลกเขายอมรับไหม พวกก่อม็อบนั้นคือว่าธนบัตรปลอมทั้งนั้นก่อม็อบขึ้นมา จะมาทำลายธนบัตรจริงอันเดียวนี้ ใครจะยอมให้ทำลาย เข้าใจไหม ม็อบนี้ก็เป็นม็อบนั้นแหละจะเป็นอะไร มันก่อขึ้นมาก็ให้มันก่อเข้าไปซิ ความจริงมีอยู่ก็ว่ากันไปตามหลักความจริง มีอะไรอีก ที่ว่ากลัวจะก่อม็อบก่อแม็บ นี่เราก็พูดให้ฟังตามเหตุตามผล
ผู้กำกับ มีส.ส.คนหนึ่งนะครับ ที่เขาได้ดิบได้ดีมาจากวงการสงฆ์ที่จะมาก่อม็อบนี่ละครับ เขาเป็นผู้คัดค้าน มีคนเดียวละครับ
หลวงตา คัดค้านเป็นธรรมไม่ใช่เหรอ
ผู้กำกับ ไม่เป็นธรรมละครับ
หลวงตา ไม่เป็นธรรมก็ไม่เห็นด้วย ถ้าเป็นธรรมเห็นด้วยทันที อย่าว่าแต่ ส.ส. ๗๐ เห็นด้วยเลย เราก็เห็นด้วย อันนี้มันเอาอำนาจบาตรหลวงมาจากไหน เก่งยิ่งกว่าพระมันจะมาคัดค้านพระ จะให้ไอ้นี้แหละเป็นสรณํ คจฺฉามิ ของพระทั้งประเทศ ใครจะยอมรับมันคนๆ นี้น่ะ ไม่ยอมรับ ค้านก็ค้านไปอย่างนั้น ค้านเพื่อทำลายนั่นเอง
เรื่องที่ ส.ส.ไทยรักไทย ๗๐ คนที่จะขอถวายพระราชอำนาจคืนนี้ เราเห็นด้วยมีเท่าไรให้มาให้มาเซ็น นี้เป็นความเป็นธรรมแล้ว ขนบประเพณีชาติไทยของเรายอมรับกันทั้งหมด นอกนั้นไม่มีใครยอมรับ เอาเท่านั้นละนะแล้วมีอะไรอีกล่ะ
ผู้กำกับ ก็มีรายการงานนิมนต์ของหลวงตา ระหว่างวันที่ ๒๕๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
หลวงตา วันที่ ๒๕ ไปเชียงใหม่ ๒๖ อยู่เชียงใหม่ ๒๗ ไปปางสัก ๒๘ อยู่ปางสัก ๒๙ จากปางสักมาแพร่มาค้างคืนหนึ่ง วันที่ ๓๐ กลับอุดรฯ เข้าใจหรือ เราสรุปให้ฟังอีกสักทีหนึ่ง เอาละพอ ให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |