ยักษ์ใหญ่แผลงฤทธิ์
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2547 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

ยักษ์ใหญ่แผลงฤทธิ์

 

เมื่อวานนี้เอาของไปลงโรงพยาบาลคำตากล้า แล้วเตลิดไปบ้านแพง ไปสั่งเสียนั้นนี้ปุบปับๆ  อยู่บ้านแพง ๒๐ นาทีกลับเลย เมื่อวานนี้ไปสายๆ กว่าจะไปก็อย่างนี้ละดูเอาซิ เสร็จจากนี้แล้วถึงจะไปกุฏิ จัดนั้นจัดนี้แล้วก็ออก เมื่อวานออกจากนี้แล้วก็เอาของไปลงโรงพยาบาลคำตากล้า จากนั้นก็เตลิดถึงบ้านแพง ไปสั่งเสียนั้นนี้ๆ แล้วกลับ ดูเหมือนอยู่ประมาณสัก ๒๐ นาที ไม่นาน กลับมานี้ก็พวกที่ไหนอีกเต็มอยู่ในศาลา รออยู่แล้ว ดูว่ามาจากทางพิษณุโลก เยอะ ว่านักเรียนมันไม่ใช่เด็กนักเรียนนะมันอะไร (เป็นนักเรียนมาอบรมธรรมะที่จังหวัดเลยครับ) ดูไม่ใช่นักเรียนเป็นคนอายุสูงแล้วน้า (เขาบอกเรียนชั้นมัธยมปลายครับ) เออ มาทั้งผู้ใหญ่ทั้งอะไรเราก็เลยไม่ทราบว่าเป็นนักเรียนไม่ใช่นักเรียน เยอะ นี่ก็ได้เทศน์ให้ฟัง

เราเห็นใจโรงพยาบาลต่างๆ เพราะฉะนั้นเราถึงได้ซอกแซกซิกแซ็กเข้าไป ที่ไหนอยู่ลึกเท่าไรเรายิ่งซอกแซกเข้าไปหา ถ้าอยู่ใกล้ถนนหนทางวิ่งผ่านไปมาเพื่ออะไรๆ มันก็สะดวก อยู่ลึกๆ แล้วแหม ลำบากนะ เราจึงต้องไป อย่างจังหวัดเลยพอไปได้ก็ภูหลวง ภูเรือ ถ้าลึกเข้าไปจริงๆ อย่างด่านซ้ายเราก็ไม่ไป มันขึ้นเขาอะไรไกลมากเลยไม่ไป ที่พอไปได้เราไป ถึงไกลถ้าหากเป็นความสะดวกสบายเราก็ไป ถ้าปีนเขาเราไม่อยากไป เหนื่อยมากนะ

จิตใจนี้สำคัญมากนะ คือ คำว่ากิเลส คำว่าธรรม อยู่ในหัวใจดวงเดียวกัน ถ้าเป็นกิเลสแล้วจะมีแต่พิษแต่ภัย แสดงออกจากใจดวงนั้นจะเป็นพิษเป็นภัยไปตลอด แล้วแต่กิเลสของใครมีมากมีน้อย ถ้าเป็นผู้ใหญ่ด้วยแล้วกิเลสยิ่งมากยิ่งหนาแน่นด้วยแล้ว นั้นละตัวภัยของชาติบ้านเมือง อยู่ที่หัวใจนะ ถ้ามีธรรมแล้วยิ่งกว้างขวางเบิกบานยิ้มแย้มแจ่มใสชุ่มเย็นไปหมด ดังพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่าน ท่านไปไหนเย็นไปหมด ถ้าว่าอบอุ่นก็อบอุ่นไปหมด นี่ละธรรมในใจ กับกิเลสอยู่ในใจ กิเลสแสดงออกมานี้เป็นฟืนเป็นไฟ ไปที่ไหนกระทบกระเทือนไปหมด นี่เรียกว่ากิเลส ผู้ที่ยังไม่เคยได้ยินว่ากิเลสให้ทราบเอา มันมีอยู่ในหัวใจทุกคนๆ แต่ไม่รู้จักชื่อมันเท่านั้นแหละ กิเลสมาเป็นเราเสียก็เรียกว่าเราไปเลย เราจะเอา เราจะอย่างนั้นเรื่อย อะไรก็มีแต่เราๆ

เมื่อกิเลสมาเป็นเราเสียแล้วมันก็ใหญ่โตมาก พิษภัยมันแสดงอย่างเต็มเหนี่ยวๆ ถ้าธรรมเป็นเราแล้วจ้าไปหมดเลย ถ้าว่าธรรมถือว่าเป็นเราท่านก็ไม่เรียกเสีย ว่าธรรมเป็นเรา เราเป็นธรรมอะไร ท่านไม่เรียกเสีย มันจะจ้าอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา นั่นละใจดวงนั้นเป็นอย่างนั้น ให้ฝึกฝนอบรมเอานะ นี่ได้พยายามสอนทุกแง่ทุกมุม จวนตายมาเท่าไรยิ่งสอนให้หนักแน่นเข้า ลงจุดๆ เพื่อผู้ฟังทั้งหลายจะไม่สงสัย เพราะการสอนนี้เราแน่ใจตลอดเลย ไม่มีคำว่าผิด เพราะถอดออกจากที่เราปฏิบัติมาแล้ว ผิดก็เป็นครู ถูกก็เป็นครู เราผ่านมาหมดแล้ว อะไรๆ ที่ไม่ดีก็ปัดออกๆ เวลาสอนก็สอนไปตามนั้น

เพราะฉะนั้นการสอนบรรดาลูกศิษย์ลูกหา เราจึงไม่ได้สอนด้วยความสงสัย เราสอนด้วยความแน่ใจ ถอดออกจากนี้ทุกอย่าง ทั้งฝ่ายผิดก็บอกอย่างนั้นๆ เราผ่านมาแล้ว ฝ่ายถูกเราก็ผ่านมาแล้ว ทีนี้ทั้งสองก็ปฏิบัติได้ถูกต้อง การสอนเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องจิตตภาวนา อันนี้สำคัญมากนะ เรียนจบพระไตรปิฎกแบกมาก็หลังหักเฉยๆ เหมือนหมอเถื่อนนั่นละ แบกยาเต็มตู้มาก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรหมอเถื่อน ถ้าหมอจริงแล้วรู้หมดอยู่ในนั้น ยาชนิดไหนแก้อะไรรู้หมด นั่นละหมอจริงเป็นอย่างนั้น ถ้าหมอเถื่อนไม่รู้ แบกไปจนหลังจะหักก็ไม่รู้ ดีไม่ดีฟาดเอายาที่เป็นพิษไปให้คนไข้กินตายเลยก็มี มีเยอะ ทีนี้ธรรมะแยกออกไปทางเป็นพิษมันก็เป็นกิเลสไปเสีย ไม่รู้ ผู้ฟังก็สำคัญผิดไปด้วย และผิดไปด้วยก็มี เพราะฉะนั้นการสอนจึงเป็นของสำคัญมาก

เฉพาะจิตตภาวนา ผู้สอนต้องมีหลักใจ เป็นผู้ผ่านมาโดยลำดับลำดา เช่นผู้ที่ชำนิชำนาญทางด้านสมถะความสงบ ไปถึงสมาธิ ท่านก็สอนได้ถูกต้องๆ พอถึงขั้นปัญญาขั้นใดๆ ก็สอนไปได้ตามขั้นนั้น เปิดเผยหมดสอนได้หมดเลย นั่นเป็นอย่างนั้นนะ ใจดวงนี้แหละเวลากิเลสหุ้มห่อมีแต่เป็นพิษเป็นภัย เป็นผู้ใหญ่เท่าไรกิเลสหนาๆ นั้นละตัวมหาภัยของชาติ ของศาสนา ของโลก อยู่ตรงนั้น คือมันจะทะนงตัวตลอด เรื่องกิเลสจะยอมตนนี้ไม่มี ไม่มีคำว่ายอมตน ต้องเอาธรรมเข้าบังคับด้วยเหตุผล เอาเหตุผลบังคับแล้วมันก็ลง ลงด้วยกิริยา ภายในมันไม่ลงกิเลส นี่ละเรื่องกิเลสจึงพองตัวเสมอ เย่อหยิ่งจองหองไม่มีอะไรเกินกิเลส ยิ่งเป็นผู้ใหญ่เท่าไรไปที่ไหนนี้ โห เบ่งอีกนะ ตัวเท่าอึ่งอ่างนี้เบ่ง

วัวจริงๆ แล้วเขาไม่เบ่ง เขาหากินเรื่อย แต่อึ่งอ่างนี้เบ่ง เห็นไหมในนิทานอึ่งอ่างกับวัว นี่เราก็เคยได้อ่านในหนังสือนั่นแหละ อึ่งอ่างกับวัว อันนี้ก็เอาออกมาจากธรรมะในคัมภีร์โน่นนะ แต่ก่อนเราเป็นนักเรียนเราอ่านไปตามนี้ เวลาบวชแล้วไปเรียนไปเห็นอยู่โน้น โอ๋ย ออกจากนี้ๆ ไปโน้น อย่างที่เขาว่านิทานอีสปนั่นแหละ ออกมาจากคัมภีร์ อย่างที่ว่าอึ่งอ่างกับวัว คืออึ่งอ่างมันอยู่ในรูของมันในถ้ำของมัน แล้ววัวก็ไปหากินตามเรื่องของวัว มันตัวใหญ่ซิวัว อึ่งอ่างอยู่นี้มันมองเห็นวัวมานี้มันก็กลัวจะเหยียบมัน มันก็หลบซ่อนอยู่ในนั้นละไปไหนไม่ได้ วัวก็หากินผ่านไป พอแม่มาก็บอกแม่ว่า อู๊ย สัตว์อะไรไม่รู้แม่มาหาหนู เหยียบเฉียดไปเฉียดมา ตัวมันใหญ่มากแม่ แม่อึ่งอ่างก็พองตัวขึ้น ตัวเท่านี้ไหม โอ๋ย มันใหญ่กว่านี้แม่ แม่ก็พองขึ้นอีก เท่านี้ไหมๆ อึ่งอ่างก็ตัวเท่ากำปั้นใช่ไหม พองขนาดไหนมันก็เท่ากำปั้นจะไปเท่าวัวได้ยังไง พองไปพองมาแข่งกับวัว สุดท้ายอึ่งอ่างท้องแตกตายเลย

นี่ละกิเลสตัวอึ่งอ่าง อึ่งอ่างกับวัว ธรรมธาตุนี่ครอบโลกธาตุเท่ากับอึ่งอ่างหรือจอมปราชญ์ท่าน พวกเรานี่พวกอึ่งอ่าง ได้ความรู้มาเท่าอึ่งอ่างก็พองตัวขึ้น ยิ่งได้ชื่อได้นามว่าเป็นนายพันตรี พันโท พันเอก พลตรี พลโท พลเอก ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วอึ่งอ่างนี้ก็พองเรื่อย มันท้องแตก พวกนี้พวกท้องแตกทั้งนั้น เข้าใจไหมพวกอึ่งอ่างพวกท้องแตก เช่นฝ่ายพระนี่ก็เหมือนกัน ฟาดตั้งแต่สมุห์ ใบฎีกา ปลัด ขึ้นไปพระครูพระคัน เจ้าฟ้าเจ้าคุณ ขึ้นสมเด็จ มีแต่พวกอึ่งอ่างทั้งนั้นละ สมัยทุกวันนี้สมัยอึ่งอ่างนะ พระเรานี้ก็เป็นอึ่งอ่างพองเรื่อย ใหญ่เท่าไรยิ่งพองตัว เลยเป็นมหาโจรปล้นวัดนั้นวัดนี้ เป็นอำนาจใหญ่หลวงขึ้นมา ตั้งเป็นเจ้าคณะนั้นเจ้าคณะนี้ซึ่งในธรรมวินัยไม่มี แต่ก่อนไม่เคยมี ตั้งให้เป็นเจ้าคณะนั้นเจ้าคณะนี้ เจ้าคณะตำบล อำเภอ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาคนั้นภาคนี้ ไม่มีในหลักธรรมวินัย นี้มาตั้งขึ้นมาใหม่

นี้ละพวกอึ่งอ่าง เข้าใจไหม พอตั้งขึ้นมาแล้วมันก็พองตัว มียศขนาดนี้ก็อึ่งอ่างขนาดนี้ ตัวนั้นขนาดนั้น พองขึ้นไป ฟาดขึ้นสมเด็จนี่ลบไปหมด เลยเป็นมหาโจร ถึงขั้นสมเด็จแล้วนะ ไปเที่ยวหาตีเอาสมบัติเงินทองในวัดนั้นวัดนี้ไปเสีย กว้านเอาหมดด้วยอำนาจอึ่งอ่างที่พองตัวขึ้น ว่าเป็นผู้ใหญ่ผู้โต เจ้าฟ้าเจ้าคุณ เป็นสมเด็จ ใหญ่เท่าไรก็ยิ่งเป็นอำนาจมหาโจรใหญ่ เที่ยวบีบบี้สีไฟเอาวัดเล็กวัดน้อยที่อยู่ใต้อำนาจของตน ที่ตนเป็นเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะใหญ่นี่คือยักษ์ใหญ่ เข้าใจไหม เวลานี้เป็นอย่างนั้นนะ ตั้งเป็นอะไรๆ มันไม่มีความสำคัญ เท่ากับเสริมมหาโจรให้ลำพองตัวมากขึ้น ก่อความเดือดร้อนบีบบี้สีไฟแก่ผู้น้อยให้ได้รับความเดือดร้อนทั่วหน้ากัน เวลานี้เป็นอย่างนี้ ไม่ได้มีของดิบของดีอะไร แล้วชอบตั้งกันนะ

นี่ก็จวนจะถึงวันที่ ๕ ธันวานี้กำลังส่งเสริมเป็นบ้ากันนะ ส่งเสริมเป็นบ้ากัน เสนอรายชื่อมาขอสมณศักดิ์ๆ เต็มบ้านเต็มเมือง เต็มวัดเต็มวาทั่วประเทศไทยเวลานี้ขอแต่สมณศักดิ์ เอาชื่อเอานามมาเป็นของดิบของดีประดับประดาตกแต่งซากผีที่ยังไม่ตายเต็มอยู่นั้น ว่าเป็นของดิบของดีมาตกแต่ง ศีลธรรมไม่สนใจ ที่จะปฏิบัติตัวให้เป็นคนดีพระดี มีศีลมีธรรม เป็นความสง่าราศีแก่ตนเองและผู้อื่นนี้ไม่มี ไม่สนใจ พองหาตั้งแต่อย่างนี้ละ อึ่งอ่างเข้าใจไหม หาแต่ยศแต่ศักดิ์

         วันที่ ๕ นี้เราก็กลัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระทัยจะแตก เพราะพวกนี้กวน พวกพระอึ่งอ่างนี่กวน เอามาประดับตัวพองขึ้นซิ ยศนั้นๆๆ สมณศักดิ์ชั้นนั้นชั้นนี้ หาแต่อย่างนี้ละพวกอึ่งอ่าง ได้มาแล้วก็มาพองตัวซี บีบบี้สีไฟผู้น้อย วัดเล็กวัดน้อยผู้อยู่ใต้อำนาจ พวกนี้เป็นมหายักษ์เที่ยวตีนั้นตีนี้ไปเรื่อย วัดไหนมีเงินมากไปโกยเอามาๆ ถือว่าเราเป็นเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะใหญ่ปากกว้างท้องใหญ่ ไปหากว้านเอามาหมด เวลานี้เป็นอย่างนี้

         ตั้งขึ้นมาเหล่านี้ไม่ได้มีในธรรมวินัย ตั้งเป็นเจ้าคณะนั้นคณะนี้ขึ้นมาไม่มีในธรรมวินัย แต่มันมีอยู่ในของปลอมอันนี้ มันแทรกธรรมวินัยขึ้นมามันก็เป็นกาฝากของศาสนา แล้วกำลังทำลายศาสนาแหลกเหลวไปหมด ด้วยโรคกาฝากมหาภัยเหล่านี้เวลานี้ ใหญ่โตเท่าไรยิ่งเป็นฟืนเป็นไฟทั่วหน้ากันหมด เอ้า พิจารณาถ้าว่าหลวงตาพูดผิด เอาธรรมวินัยกางออกมาพูด สิ่งใดที่ไม่มีในธรรมวินัยก็บอกว่าไม่มี สิ่งใดที่มีก็บอกว่ามี เหล่านี้ไม่มี มันตั้งขึ้นมาเป็นกาฝากแล้วทำลายต้นลำของต้นไม้ต้นนั้นละ อันนี้กาฝากนี้จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไปในตัวของมันเสร็จเลย นี่ละกาฝากใหญ่ ตั้งให้ใหญ่เท่าไรๆ ยิ่งพองตัวขึ้นใหญ่

         กว่าจะถึงวันที่ ๕ ธันวานี่ โอ๋ย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี้จะอกแตก ภาษาของเรานะจะอกแตกเพราะพวกนี้กวน พวกอึ่งอ่างนี้กวน มันชอบเหลือเกินพวกอึ่งอ่าง  ชอบพองตัวอยากใหญ่ ใหญ่แต่ชื่อแต่เสียง ตัวเองนี้เน่าเฟะ เป็นป่าช้าผีดิบอยู่ในตัวของมัน ศีลธรรมไม่มีแม้นิดหนึ่งเลย มีแต่ความชั่วช้าลามก ความเป็นฟืนเป็นไฟออกกระจายเผาวัดเผาวา เผาพระเผาเณร เผาประชาชน ทั่วแดนพุทธศาสนาจากพระหัวโล้นๆ นี่แหละ ที่มันพองตัวเวลานี้ กำลังพองตัวมากนะ เป็นใหญ่เป็นโต ไม่ทราบมันใหญ่อะไรก็ไม่รู้ ก็ตาคนมันก็เห็นกันอยู่มันจะใหญ่ขนาดไหน ดีหรือไม่ดีมองดูมันก็รู้กันอยู่นี้ แล้วมาอวดหาอะไร

         ใหญ่เท่าไรยิ่งเป็นฟืนเป็นไฟ ยิ่งเป็นยักษ์เป็นผี เป็นมหาภัยต่อผู้น้อยๆ ไปเที่ยวเหยียบย่ำทำลาย ปล้นเอาสมบัติวัดนั้นวัดนี้ไป เวลานี้ก็มีอยู่ในเมืองไทยของเรา พูดนี้ไม่ใช่พูดเล่นๆ เอาเรื่องความจริงมาพูด เราไม่ไปดูเองเห็นเอง บรรดาลูกศิษย์ลูกหาผู้เห็นเหตุการณ์อย่างแท้จริงนำมาพูด เขาไม่ได้มาโกหกเรา เราก็พูดตามเรื่องราวนั้น จะเป็นการโกหกไปไหน เวลานี้กำลังยักษ์ใหญ่แผลงฤทธิ์เต็มบ้านเต็มเมือง เต็มวัดเต็มวาทั่วทุกแห่งทุกหน ไม่ใช่เล่นๆ ยักษ์ใหญ่ขึ้นถึงขั้นสมเด็จนะ ตัวนี้ตัวยักษ์ใหญ่ ตัวมหาโจรปล้นชาติ ปล้นศาสนาอยู่เวลานี้ คือมหาโจรสมเด็จ

         สมเด็จพระพุทธเจ้าเป็นยังไง กับสมเด็จเปรตผียักษ์มารทุกวันนี้เป็นยังไง ต่างกันยังไงบ้างพิจารณาซิ กำลังอาละวาดเวลานี้ พวกนี้แผลงฤทธิ์มากนะ หน้าด้านที่สุดคือพวกนี้ ไม่มีคำว่ายางอาย มีแต่จะเอา จะให้ได้อย่างใจๆ อย่างเดียวเท่านั้น ความผิดถูกชั่วดีไม่ฟัง ไม่เอาเลย ถ้าเข้าไปจริงๆ  เขาตีหน้าผากแล้วก็หงายมาสักทีหนึ่ง แล้วหลบไปขึ้นทางนั้นอีก ถูกเขาตีหน้าผากแล้วหลบไปเสียทีหนึ่งมาขึ้นช่องนี้อีก ไม่ถอยนะพวกหน้าด้าน อาละวาดที่สุดคือพวกนี้เอง โอ๋ย เลวมากเวลานี้ศาสนา-พระเณรเราเลวมากจริงๆ ทั้งเขาทั้งเราดูไปที่ไหนมันไม่อยากดู ดูเขาก็ดูไม่ได้ ดูเราก็ดูไม่ได้จะให้ทำยังไง มันเลอะเทอะไปขนาดนั้น

         คัมภีร์วินัยที่ศาสดาองค์เอกสอนไว้ด้วยความเลิศเลอของศาสดา เป็นธรรมที่เลิศเลอมันไม่มองดูเลย มันจะมองดูตั้งแต่มูตรแต่คูถ ยศถาบรรดาศักดิ์ ความร่ำความรวย ความแผลงฤทธิ์แผลงเดช นี่ละเหมือนมูตรเหมือนคูถ มันตะครุบอยู่แต่อันนี้ละ ขยี้ขยำอยู่กับอันนี้ มันไม่ไปสนใจกับศีลกับธรรมอะไรละพวกนี้ เหมือนพวกหนอนเข้าใจไหมล่ะ หนอนมันจะขยี้ขยำอยู่กับมูตรกับคูถ มันไม่ได้ไปหาทองคำธรรมชาติอะไรที่ไหนละพวกหนอน ธรรมของพระพุทธเจ้ามันก็ไม่ไปมองดู มันจะไปเที่ยวดูตั้งแต่ยศถาบรรดาศักดิ์ ลาภยศนั้นนี้ อำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ นี่คือมูตรคือคูถ มันจะไปขยี้ขยำอยู่กับอันนี้เท่านั้นแหละ อย่างอื่นมันไม่ไปสนใจ ดูเอาเมืองไทยเรามี

         นี่ละภาษาธรรม เรานำมาพูดให้ชัดเจนอย่างนี้เอง ถ้าเราพูดไปนี้ผิด เอ้า เอาเหตุผลมาอ้างมาตัดคอเราได้เลยถ้าเราพูดผิด เรานำตัวของเราด้วยการปฏิบัติตามทางของศาสดามาตั้งแต่วันบวชจนกระทั่งบัดนี้ เราก็นำมาเต็มความสามารถของเรา ปฏิบัติมาก็ถูกต้องเรื่อยมา ผลเป็นที่พอใจโดยลำดับ เฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของอยู่ที่ไหนตั้งแต่ยังไม่ได้ออกภาวนาก็อบอุ่น ด้วยความมีศีล เป็นศีลที่บริสุทธิ์ ไม่เคยข้ามเกินเรื่องศีลด้วยความหน้าด้าน มีแต่ความระมัดระวัง ถ้าจะผิดก็ผิดด้วยความพลั้งเผลอไม่รู้ตัว ใครก็ผิดได้อย่างนี้นะ แต่เจตนาที่จะเป็นมหาโจรปล้นศาสนา เหยียบหัวพระพุทธเจ้าด้วยการข้ามเกินธรรมวินัยนี้ไม่มี เท่านี้ก็อบอุ่นแล้ว

         ไปอยู่ในป่าในเขาศีลระมัดระวังให้มาก ไปอยู่คนเดียว เวลาผิดพลาดมานี้จะไปแสดงอาบัติ บอกโทษของตนแก่ผู้อื่น สารภาพโทษของตนแก่พระที่เป็นเพื่อนกันก็ไม่มี ไปคนเดียวต้องระมัดระวังอย่างหนัก ไปที่ไหนระมัดระวังมาก เพราะเวลาต้องอาบัติมาแล้วจะไม่มีผู้แสดงอาบัติ ตายจมตกนรกได้เลย อย่าง เอรกปัตตนาค เป็นต้น จึงต้องได้ระมัดระวัง เมื่อระมัดระวังแล้วผลแห่งความระมัดระวังอบอุ่น ทำสมาธิภาวนาไม่ระแวงแคลงใจกับศีลของตน ก้าวเดินไปเรื่อยๆ มา นี่เราก็ปฏิบัติตัวของเรามาอย่างนี้ จนกระทั่งจิตเข้าสู่ความสงบเย็นใจ เป็นสมาธิแน่นหนามั่นคงขึ้นมาก็ยิ่งแน่ใจๆ ในธรรมของพระพุทธเจ้าที่สอนไว้แล้วโดยถูกต้อง ปฏิบัติก็แน่ใจของตนเอง เป็นเครื่องยืนยันกับธรรมพระพุทธเจ้าโดยลำดับลำดามา นี่ก็ได้ปฏิบัติมาอย่างนี้

พระพุทธเจ้าท่านถือสิ่งเหล่านี้เป็นภัยอย่างยิ่ง ลาภยศสรรเสริญเยินยอ สมณศักดิ์นั้นสมณศักดิ์นี้ พระองค์ปัดตลอดเวลา เวลาตั้งชมเชยนี้ก็เพื่อให้สาธุชนทั้งหลายได้เพิ่มศรัทธา ความเชื่อความเลื่อมใส เป็นมหามงคลแก่เขาผู้เคารพนับถือพระเจ้าพระสงฆ์ต่อไปนั้น พระองค์จึงทรงตั้งพระสาวกทั้งหลาย ๘๐ องค์ ตั้งเป็นเลิศไม่ได้บอกว่าเป็นสมณศักดิ์นะ องค์นี้เลิศทางนั้น องค์นั้นเด่นทางนั้นๆ เรียกว่าเอตทัคคะ เลิศคนละทิศละทาง ไม่ได้บอกว่าตั้งสมณศักดิ์อย่างทุกวันนี้ สมณศักดิ์ คือ ศักดิ์ศรีดีงามของสมณะ คือของพระ พระเดี๋ยวนี้มันศักดิ์ศรีดีงามที่ไหน ตั้งสมณศักดิ์ก็ตั้งให้ลิงนั่นแหละทุกวันนี้ ไม่ได้ตั้งให้พระนะตั้งให้ลิง สมณะแปลว่าความสงบ พระเป็นผู้สงบ ศักดิ์ศรีแห่งความสงบก็คือศีลคือธรรม อันนี้มีแต่ชื่อเฉยๆ ตั้งชั้นนั้นชั้นนี้ เริ่มตั้งแต่สมุห์ ใบฎีกา ขึ้นไปเรื่อยๆ พระครู เจ้าฟ้าเจ้าคุณ สมเด็จ ฟาดยังไม่ได้ขึ้นถึงขั้นสมเด็จจรวดดาวเทียม แต่มันขึ้นไปอยู่จรวดดาวเทียมก่อนแล้ว เข้าใจไหมพวกนี้

         ถ้าเรื่องลิงแล้วมันสูงกว่าครู สูงกว่าศาสดา เหยียบหัวศาสดาลงไป พวกนี้เวลานี้กำลังตั้งหน้าตั้งตาเหยียบหัวศาสดา คือธรรมวินัยไม่มองดูเลย เหยียบไปเลย ศาสดาคือธรรมและวินัยนั้นแหละมันเหยียบไปเลยไม่มองดู เวลานี้เลอะมากที่สุด เพราะความหน้าด้าน นี่ละพวกอึ่งอ่างมันพองตัวอย่างนี้ ให้พากันระมัดระวังนะ เลอะเทอะมากที่สุดศาสนาเวลานี้ เลอะเทอะกับผู้ปฏิบัติ ศาสนาท่านสะอาด แต่ผู้ปฏิบัติเป็นมูตรเป็นคูถไปโปะท่านเลยสกปรกไปตามๆ กันหมด วันนี้พูดเพียงเท่านี้ ไม่พูดมากอะไร เอาละพอ

         ผู้กำกับ พิมพ์ไทยเกี่ยวกับการคืนพระราชอำนาจ

         หลวงตา พิมพ์ไทยอ่านเสีย เราจะฟัง อันนี้เป็นประโยชน์อยู่มากทีเดียว หนังสือพิมพ์ไทยนี้ออกเป็นกลางๆ เป็นธรรมว่างั้นเถอะเราจึงยินดีฟัง เอ้าว่าไป

ผู้กำกับ จากนสพ.พิมพ์ไทย คอลัมน์วิจารณธรรม วันศุกร์ที่ 12 พ.ย.47

 

จำหน้าไว้ใครค้านถวายคืนพระราชอำนาจ

 

โผล่หน้าออกมาให้เห็นกันแล้วกับพระบางรูป และฆราวาสบางคนที่แสดงท่าทีคัดค้านการแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ เพื่อถวายคืนพระราชอำนาจในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชแด่พระมหากษัตริย์เช่นที่เคยเป็นมาในอดีต ก็ดีเหมือนกันเพื่อจะได้รู้กันเสียทีว่าใครจะมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างไร

พระบางรูปที่มีม็อบอยู่ในบัญชาการก็ออกมาขู่ทางหน้าหนังสือพิมพ์แล้วว่า หากยังขืนดำเนินการเพื่อคืนพระราชอำนาจกันต่อไป ก็อาจจะต้องเผชิญกับการก่อม็อบครั้งใหญ่ (ม็อบอึ่งอ่างนั่นเหรอ เอ้า ว่ามา) ทั้งยังกล่าวตำหนิเสียอีกด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาท และอีกเพียง 1 วันถัดมาท่านส.ว.ปราจีนบุรีผู้ทรงเกียรติก็ออกมาแสดงการคัดค้านในทำนองเดียวกัน

เขาคัดค้านกันเพื่ออะไร เพื่อพวกพ้องที่สุมหัวกันเสวยสุขอยู่ในขุมอำนาจ หรือเพื่อความสงบร่มเย็นของพระพุทธศาสนา ยังมิได้สำนึกอีกหรือว่าการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชโดยพระราชวินิจฉัยของพระมหากษัตริย์ กับผู้ที่มิใช่องค์พระมหากษัตริย์นั้นผลลัพธ์ที่ออกมาแตกต่างกันอย่างไร

เพียงแต่มีอำนาจเป็นประมุขปกครองหมู่สงฆ์โดยพระราชกฤษฎีกา สังฆมณฑลยังระส่ำระสายหนักถึงเพียงนี้ หากได้ใช้อำนาจเต็มตามมาตรา 7 หรือมาตรา 10 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน หมู่สงฆ์ในสังฆมณฑลจะมิเกิดความร้าวฉานกว่านี้หรือ

สงฆ์ทั้งสังฆมณฑลต่างก็รู้อยู่แก่ใจดีว่า การใช้ข้อกฎหมายในปัจจุบันที่บัญญัติให้พระราชาคณะผู้มีสมณศักดิ์สูงสุดเท่านั้น ที่จะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เพราะเหตุนี้จึงทำให้มีการวางหมากวางเกมกันขึ้น มีการวิ่งเต้นวิ่งเส้นวิ่งสายเพื่อให้ได้มาซึ่งสมณศักดิ์สูงสุด หวังรั้งตำแหน่งได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เรื่องความดีงามในสมณจริยวัตร การมีศีลธรรมจรรยา หรือควรมีคุณธรรมอย่างไร ก็ไม่มีการพิจารณากันตรงนี้

เมื่อเป็นเสียดังนี้ ภาพพจน์ของพระพุทธศาสนาจึงตกต่ำลงแทบจะถึงขีดสุด สมเด็จพระสังฆราชต้องถูกละเมิดด้วยอำนาจเถื่อน เพียงทรงประชวรด้วยชราภาพก็โพนทะนาว่าทรงประชวรด้วยพระโรคหลายโรค พระองค์ต้องถูกยึดอำนาจ ถูกห้ามออกรับแขก ถูกห้ามเยี่ยม และยังห้ามมีพระบัญชาเกี่ยวกับการคณะสงฆ์ทุกกรณี

หากในมาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับปัจจุบันไม่ได้บัญญัติไว้ดังที่เป็นอยู่นี้ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ในหลวงทรงตรัสเรียกโดยส่วนพระองค์ว่า “สมเด็จพระอาจารย์” จะถูกละเมิดได้ไหม ?

เช่นเดียวกัน หากการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชมีบัญญัติให้เป็นไปโดยพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์เช่นแต่ก่อน บรรดาลิ้วล้อของผู้มีอำนาจการปกครองสงฆ์สูงสุดก็คงจะไม่กำเริบเสิบสานเที่ยวใช้อำนาจอันมิชอบปลดพระสังฆาธิการรูปนั้นรูปนี้ เช่นที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้

การปลดหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโสธรออกจากตำแหน่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากผู้ทำหน้าที่เป็นองค์ประธานในที่ประชุมมหาเถรสมาคมในวันนั้น เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ในหลวงทรงสถาปนา

เมื่อสั่งปลดโดยไม่ชอบมาพากล (หาว่าชราภาพ หาว่าหูหนวก หาว่าหย่อนยาน) ความเสียหายต่อพระพุทธศาสนาจึงต้องเกิดตามมา ดังที่ผมได้เคยเตือนไว้แล้วว่าให้ระวัง ระวังไว้เถอะ (ฟัง หยุดรอไว้ก่อน ที่ว่าชราภาพจะไปปลดท่าน วัดโสธรๆ ใครชราภาพหรือไม่ชราภาพอย่างนี้ ไปตายทั้งเป็นอยู่ในโรงพยาบาลพึ่งออกมาได้ ๒-๓ วันนี้ มันควรจะขับลงทะเลแล้วคนนี้นะ แล้วจะมาว่าอะไรขับลงทะเลนั้น มันจะเหมาะสมกันกับไปปลดเจ้าอาวาสที่ไม่มีความผิดใดๆ เลย อันนี้ความผิดหรือไม่ผิดก็ดูกันซิ อันนี้ละดูเป็นอย่างนี้ละ มหาภัยเข้าใจไหมเข้าใจแล้วเหรอ เอาๆ อ่านต่อไป ต้องมีสอดเข้าไปซิ)

ย้อนนะครับ เมื่อสั่งปลดโดยไม่ชอบมาพากล หาว่าชราภาพ หาว่าหูหนวก หาว่าหย่อนยาน(เจ้าของมันตายทั้งเป็นอยู่ในโรงพยาบาล มันหย่อนยานหรือไม่หย่อนยาน เขี่ยลงทะเลเสียซิ ไปว่าให้เขายังงั้นก็เขี่ยลงทะเลคนนี้มันจึงจะเป็นธรรมใช่ไหมล่ะ ไม่ยังงั้นไม่เป็นธรรม เอา ว่าต่อไป)

อันนั้นเสียหายมากกว่าหูหนวกต่างๆ หำชำรุด (ฟังว่าหำชำรุดนะ ได้ยินว่าหำชำรุด นี่เป็นขนาดนั้น แล้วยังจะทรงงานทรงการได้อย่างใหญ่หลวงอยู่เหรอ พวกหำชำรุด เข้าใจไหม อันนี้เพียงหูหนวกเท่านั้นทำไมจึงวิกลวิการขับไล่ออกจากตำแหน่ง อันนั้นมันวิการขนาดไหน ขนาดหำจะขาดยังไม่วิการอยู่เหรอ เอาละว่าไป)

ต่อนะครับ ความเสียหายต่อพุทธศาสนาจึงเกิดติดตามมา ดังที่ผมได้เคยเตือนไว้แล้วว่าให้ระวัง ระวังไว้เถอะ

ใครที่เกี่ยวโยงโกงกินกับเงินของวัดหลวงพ่อพุทธโสธรจำนวน 1,800 ล้านบาท(นู่นน่ะ ๑,๘๐๐ ล้านบาท ฟังซิ ยักษ์ตัวไหนไปกิน เอาไล่หากันซิ ๑,๘๐๐ ล้านบาท นี่พวกยักษ์ไปเที่ยวหากลืนๆ วัดเล็กวัดน้อย ว่าตัวอำนาจใหญ่หลวงเที่ยวกลืนกินนี่ เสือโคร่งใหญ่ยังสู้นี้ไม่ได้เข้าใจไหม เอาว่าไป)

ระวังกรรมหนักจะมาเยือน !

แล้วผู้ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะได้รักษาการแทนเจ้าอาวาสก็ไม่กล้ารับตำแหน่ง ในที่สุดผู้ที่นำเรื่องให้มหาเถรสมาคมมีมติปลด ก็ต้องจำใจรับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสเอง บรรยากาศในวันที่เจ้าคณะจังหวัดมอบตราตั้งนั้น ดูไม่จืด !

เห็นกรรมรึยังที่เอาเงินของวัดโสธรมาก่อม็อบพระในสำนักพุทธแล้วเป็นอย่างไร??

                                                            ณ. หนูแก้ว

หลวงตา นั่น ไปโกยเอาเงินวัดโสธรมาก่อม็อบ ฟังซิน่ะมันฟังได้ไหม มหายักษ์ เข้าใจเหรอ เอาละเราไม่ใช่ ณ หนูแก้ว เราก็หยุดว่าอย่างนั้นเถอะ

ผู้กำกับ อันนี้ถวายเงินกฐินบ้านแพงครับ รวมแล้วทั้งหมด ๑๔,๘๐๐ บาทถ้วนครับ

หลวงตา เออพอใจๆ สาธุพร้อมกัน(สาธุ) นี่บำรุงศาสนา ไม่ใช่ไปปล้นวัดปล้นวาโกยเอาเงินมาก่อม็อบเข้าใจไหม

โยม ผมนำผ้าป่าสามัคคีของคณะข้าราชการเรือนจำอำเภอพลครับผม

หลวงตา เอ๊ เรือนจำอำเภอพลนี้ได้ช่วยอะไรบ้างน้า

โยม ทางหลวงตาช่วยเงินไป สามแสนสองหมื่นกว่าบาทครับ สร้างอาคารโรงเลี้ยงอาหารของผู้ต้องขังหญิง ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ แล้วท่านผู้ว่าราชการจังหวัดไปทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๗ ตุลาที่ผ่านมาครับ

หลวงตา นี่ก็ลาดยาวกำลังสร้างตึกสามชั้น บ้านสามชั้นให้นักโทษหญิงที่ลาดยาวอยู่ ออกเป็นตัวเลขมาแล้วว่า ๔๗ ล้าน เดี๋ยวนี้นะ ฟังซิ ๔๗ ล้านนี่เป็นตายตัวที่จะต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน ทีนี้เวลาเราเข้าไปเยี่ยมนี้เขาจะต้องขอนั้นอีก ขอนี้อีก อันนี้เป็นส่วนเกินไม่ทราบจะเกินเท่าไร แต่ต้องเกินแน่ละ เอาละพอใจ

โอ๋ เรือนจำหลายแห่งนะ ทางบึงกาฬก็มี สว่างแดนดินก็มี ๕-๖ แห่งละมั้ง หนองบัวลำภูเราไปช่วยทั้งหมดนั่นละ ช่วยเรือนจำนะ บึงกาฬ สว่างแดนดิน หนองบัวบำภู  อุดรธานี อุดรธานีนี้เยอะนะ ที่มากที่สุดก็คือลาดยาว สร้างไว้แล้วว่า ๔๗ ล้าน

ฟังเอานะพี่น้องทั้งหลาย กิริยาที่แสดงออกทั้งหมดนี้เป็นกิริยาของธรรมล้วนๆ เราไม่มีกิเลสตัวใดจะมาแทรก ด้วยความไม่พอใจ โมโหโทโสแสดงออก ไม่มี เป็นพลังของธรรมล้วนๆ ออกให้ท่านทั้งหลายฟังเอา จะว่าอาจหาญหรือว่าขี้ขลาดหวาดกลัวก็แล้วแต่จะพิจารณาเอา ธรรมไม่เคยกล้า ไม่เคยกลัว เป็นธรรมเหนือโลกตลอดเวลา

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก