เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
ทุกข์ในหัวใจ
ทองคำที่กรุงเทพ ๑๑ กิโลครึ่ง ทองคำที่อุดร ๒ กิโลครึ่ง รวมแล้วเป็นทองคำทั้งหมดเป็น ๑๔ กิโลพอดีที่เราได้มาใหม่ ที่ประเภทไหลซึมนะได้ถึง ๑๔ กิโลแล้ว บวกกับ ๓๗ กิโลครึ่งเป็น ๕๑ กิโลครึ่งแล้ว เราบอกไว้เลย เพราะเราพูดกับพี่น้องทั้งหลายแบตลอด เราไม่เคยกำเลยแม้แต่บาทเดียว ด้วยเจตนาที่ลามกไม่มี การจับการจ่ายมากน้อยนี้ เราจ่ายด้วยเหตุด้วยผลทุกอย่าง แม่นยำๆ นะ ใครมารุ่มร่ามกับเราไม่ได้เลย เรารับผิดชอบคนเดียวการเงินการทอง เป็นผู้สั่งเอง อันนั้นเท่าไรๆ สั่ง ควรจะจ่ายเงินสดได้ก็จ่ายเงินสด ควรจะจ่ายเช็คก็จ่ายตลอดมาอย่างนี้ มากน้อยเราเป็นผู้รับผิดชอบทุกบาทไปเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงไม่มีทางรั่วไหลไปไหนเลย ส่วนทองคำได้มาเท่าไรก็อย่างว่านั่นแหละ เก็บไว้ก็แบบเดียวกัน บริสุทธิ์แบบเดียวกันหมดเลย พอถึงเวลาก็เอาออกๆ จากนั้นก็เข้าคลังหลวง เหมือนกันหมด
เราจึงว่าภูมิใจเราได้ช่วยพี่น้องทั้งหลายด้วยความเมตตาจริงๆ ถึงขนาดร้องโก้กนั่นละ แล้วมันจะไปมีแก่ใจเอานั้นเอานี้ได้ยังไง ไม่มีสำหรับเรา เรียกว่าไม่มีเลย มีแต่ออกทั้งนั้นๆ เวลานี้ก็หลายตึก ทางจันท์ผ่านมาแล้ว ๖ ล้าน เขาจดหมายมาบอกแล้วเมื่อวานนี้ ส่งไปครบเรียบร้อยแล้ว มัน ๖ ล้านเท่าไร อย่างน้อย ๖ ล้าน มาบอกขอบบุญขอบคุณ อย่ามาบอก ขอบหาอะไร
เวลานี้ทองเราได้ส่วนสุดท้ายนี้ ๑๔ กิโล มันจะค่อยเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ ละ ใครจะตูมตามมาก็ตูมตาม หน้าแล้งลูกเห็บใหญ่ลงตูมตามให้มีประวัติศาสตร์ในชาติไทยเราบ้างซิ มีแต่ยิบแย็บๆ อยู่ๆ ก็ตูมลงมาให้เห็นสักทีน่ะ ตั้งแต่ ๑๑ ตันเรายังได้วะ ทำไมอันนี้จะไม่ได้
ขอให้พี่น้องทั้งหลายตั้งอกตั้งใจในศีลในธรรมนะ เวลานี้โลกร้อนมากทีเดียวเพราะขาดศีลธรรม กิเลสออกหน้าถือบังเหียน โกยแต่ความทุกข์มาเผาสัตว์โลก ใครอยู่ที่ไหน เราอย่าไปคำนึงคำนวณว่าผู้ใหญ่ผู้น้อย คนมีคนจนว่าจะมีความสุข ความทุกข์ในหัวใจนั้น มีมากเท่าไรยิ่งทุกข์มากๆ เอาธรรมจับเข้าไป เอาตาเราจับนี้ก็จะมองกันอย่างว่า โอ๊ย นี่เขามีตึกรามบ้านช่อง มีสมบัติเงินทองข้าวของมากอะไรๆ เขามียศนั้นยศนี้ ดูแต่นั้นก็เพลินเป็นบ้ากับกิเลสไป ทางนี้ก็ดีดก็ดิ้นไป
ถ้าเอาธรรมจับปั๊บนี้ดูหัวใจเท่านั้น กองไหนกองทุกข์มากที่สุด กองไหนกองทุกข์น้อย คนที่มีมากทุกข์ที่สุด คนที่มียศมากทุกข์ในหัวใจที่สุด นี้หมายถึงทุกข์ในหัวใจนะ ภายนอกมีแต่ภายในเป็นไฟเผา เพราะกิเลสอยู่ข้างใน กิเลสบีบบังคับให้ทำอย่างนี้ๆ หมุนอยู่อย่างนี้ในหัวใจ หัวใจจึงร้อนมากทีเดียว เป็นผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งร้อนมาก ดีไม่ดีตาสีตาสาอยู่ตามท้องนาเขาไม่ได้ร้อนมากเหมือนผู้ใหญ่ผู้โต ผู้มั่งมีศรีสุข นี้เราพูดตามอรรถตามธรรม หมายถึงว่าทุกข์ในหัวใจ
ผู้แบกหามทุกข์มากที่สุดคือหัวใจ เอาธรรมจับเข้าไปเห็นหมดรู้หมด ใครจะว่าใครมั่งใครมีใครมีความสุขมาก เรามีเงินมีทองข้าวของมากมาย เราเป็นเศรษฐีเรามีความสุขมาก เรามียศถาบรรดาศักดิ์สูงเรามีความสุขมาก อันนี้เป็นเพียงลมปากเฉยๆ ตัวจริงแท้ๆ อยู่ที่หัวใจ เผาอยู่ตลอดเวลามากน้อยตามสมบัติเงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์ที่มี เข้าใจไหม สร้างอารมณ์ใส่ตัวเอง เผาหัวใจตัวเอง สมบัติเขาอยู่อย่างนั้นแหละ มีอะไรเขาก็อยู่อย่างนั้นของเขา แต่ใจนี้สร้างตัวเองขึ้นมาเผาตัวเองตลอดเวลา ครั้นเวลาตายแล้วสิ่งทั้งหลายที่มีอยู่นั้นก็มีอยู่อย่างนั้นแหละ สุดท้ายก็ไปเผาด้วยไฟเหมือนกันหมดเลย เผาด้วยไฟไปเท่านั้นเอง ไม่เห็นมีอะไรแปลกต่างคนมีคนจน
แต่คนที่มีบุญมีกุศลสร้างไว้ภายในใจนี้ไม่เป็นอย่างนั้น ต่างกันอยู่มากทีเดียว ผู้นี้มีที่เกาะที่ยึด มากน้อยมีที่เกาะที่ยึด ตายใจๆ ไปได้ อาศัยอันนี้เองนะ สิ่งเหล่านั้นอย่าหวังจะได้อาศัย อาศัยในชีวิตของเราที่มีอยู่ประโลมโลกไปอย่างนั้นแหละ ส่วนภายในที่จะฝากเป็นฝากตายจริงๆ ไม่ได้มีนะ เราอยากจะพูดว่าอย่างนั้น มีก็หยอมแหยมน้อยๆ เช่นอย่างชาวพุทธหรือผู้มุ่งอรรถมุ่งธรรมจริงๆ ผู้นี้เป็นผู้มีหลักมีเกณฑ์ มีมากมีน้อยพึ่งเป็นพึ่งตายได้คือผู้นี้แล จำให้ดีนะ
นี่ได้สอนทั้งหลายด้วยการปฏิบัติมาแล้วเต็มกำลังความสามารถ คิดดูซิเวลามันดีดมันดิ้นหาอรรถหาธรรมมันก็ทุกข์อันหนึ่ง แต่ก็ทุกข์เพื่อความสุข ดีดขนาดไหนดิ้นขนาดไหนมันจะเป็นจะตาย ถึงขั้นมันจะตาย เอา มอบเลยๆ เราก็เคยพูดแล้ว เฉียดสลบไสลไปเรื่อยๆ ความเพียรของเรา แต่ไม่เคยสลบไม่เคยตาย เรื่องความทุกข์แสนสาหัส แต่ความสุขที่จะเกิดขึ้นจากความอุตส่าห์พยายามเพื่อความดีงามทั้งหลายนี้ มันแทรกกันไปๆ ทุกข์มากเท่าไรความสุขจะตามกันมา ทีนี้ทุกข์ด้วยการเสาะแสวงหาความชั่ว ทุกข์มากเท่าไรยิ่งทุกข์เพื่อมหันตทุกข์นะ
เราอย่าไปเข้าใจว่าทุกข์เหล่านี้จะเบาบางลง ไม่เบาบาง ถ้าวิ่งตามกิเลสแล้วไม่มีวันเบาบาง ถ้าวิ่งตามอรรถตามธรรมแล้วนับวันเบาบาง เรื่องความทุกข์ความลำบากทั้งหลาย เรื่องหลักเกณฑ์ที่เรายึดในจิตใจของเรา เพื่อแคล้วคลาดปลอดภัยโดยลำดับนี้มีในหัวใจของผู้เสาะแสวงหาอรรถหาธรรมนะ ผู้ไม่เสาะแสวงหาอย่าหวังเลย พูดให้ชัดๆ อย่างนี้เลย ธรรมต้องยืนตัว เป็นอย่างไรต้องบอกอย่างนั้น ไม่มีหวังแหละ ดิ้นกันอยู่อย่างนั้น เหมือนคนหรือสัตว์ตกน้ำในท่ามกลางมหาสมุทร มองไปนี้ป๋อมแป๋มๆ หาฝั่งหาฝาจะยึดจะเกาะเพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัยให้พ้นจากการตกน้ำนี้ไปไม่มีเลย ต่างคนต่างสัตว์ป๋อมแป๋มๆ อยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร มหาสมมุติมหานิยม นี่เรียกวัฏจักร คือมหาสมมุติมหานิยม ลอยกันอยู่นี้ไม่มีหลักยึด ไปไม่ได้
ผู้ที่มีคุณงามความดีแม้จะตกอยู่ในนั้นก็ยังมีเครื่องรองรับๆ มีเรือมีแพเข้ามารับให้ผ่านไปได้ หรือมีเกาะมีดอนพอปีนขึ้นเกาะได้ นี่คือผู้มีบุญมีกุศล ยังพอมีฝั่งมีฝาที่เกาะยึดได้ ถ้าไม่มีบุญมีกุศลเลยมีแต่สิ่งเหล่านั้น ก็เท่ากับคนตกน้ำไม่มีฝั่งมีฝาจะเกาะยึดนั้นแหละ พากันจำเอานะ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้
ผู้กำกับ จากนสพ.พิมพ์ไทย คอลัมน์วิจารณธรรม วันศุกร์ที่ 22 ต.ค.47
เหตุมันเกิดเพราะเงินแท้ๆ !!
การมีคำสั่งปลดท่านเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโสธร ต้นเหตุเกิดมาจากอะไรหากไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน ก็เงินนี่แหละเป็นที่มาแห่งลาภ ยศถาบรรดาศักดิ์ และตำแหน่งทางการปกครอง ดังนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับวัดของหลวงพ่อพุทธโสธรจึงมีต้นเหตุมาจากเงิน
เงินตัวเดียวเท่านั้นที่เชื่อว่าเนรมิตได้ทุกอย่าง ซึ่งพระคุณเจ้าผู้แตกฉานในอรรถในธรรมท่านตั้งชื่อให้เจ้าเงินตัวนี้ว่า ไอ้หลังลาย เจ้าหลังลายตัวนี้แหละหากพระรูปใดขืนไปยึดติดกับมันเข้ามันจะแว้งกัดเอาทันที ทำให้พระเสียพระ เสียผู้เสียคน
หรืออาจจะต้องเสียหมา !
ตามที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านพูดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีพระรูปหนึ่งในวัดชอบขนเงินของวัดไปปรนเปรอพระผู้ใหญ่ในส่วนกลาง ทำให้ระบบการควบคุมดูแลการเงินของวัดเกิดปัญหา เมื่อมันมีปัญหาเรื่องเงินเกิดขึ้น ความเสียหายต่อชื่อเสียงของวัดก็จะตามมา ดังนั้นในฐานะที่มีอำนาจควบคุมดูแลให้กิจการของวัดดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ตามมาอีก หลวงพ่อเจ้าอาวาสจึงตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาคณะหนึ่ง
มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
คณะกรรมการประกอบด้วยบุคคลผู้มีคุณวุฒิเป็นที่นับถือไว้วางใจในสังคม หลายท่าน แต่ไม่มีการแต่งตั้งให้พระหรือคนของวัดเข้าร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความเป็นกลางและยุติธรรมมากที่สุด เมื่อคณะกรรมการชุดนี้เริ่มดำเนินการตรวจสอบระบบบัญชีเงินของวัด จู่ๆ ก็เกิดมีวัวสันหลังหวะนำเรื่องเข้าไปฟ้องเจ้าคณะจังหวัด กับทั้งยังนำเรื่องนี้เข้าไปหารือกับเจ้าคณะพระผู้ใหญ่ในส่วนกลาง
แผนชิงบัลลังก์เจ้าอาวาสจึงเกิดขึ้น !
ต้องล้มก่อนที่อะไรๆ มันจะถูกเปิดเผย ?
ก่อนนั้นพระผู้ใหญ่ในส่วนกลางได้เคยร้องขอเงินก้อนเป็นจำนวนถึง 20 ล้านบาท อ้างว่าจะนำมาจัดตั้งเป็นกองทุนมูลนิธิ เรียกว่าอ้างเอาอย่างหน้าด้านๆ โดยไม่คำนึงถึงฝ่ายที่ต้องคุมบัญชีรับผิดชอบการเงินของวัด ซึ่งแต่ก่อนนั้นก็เคยจ่ายเป็นค่าปูทางขึ้นสู่ตำแหน่งให้อยู่แล้ว
พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาปั๊บ ก็ออกข่าวมส.มีมติสั่งปลดปุ๊บ ความผิดความเลวโยนให้แก่ท่านเจ้าอาวาสทั้งนั้น หาว่าสร้างโบสถ์ 10 ปียังไม่เสร็จบ้างละ สร้างเขื่อนค่อนข้างมีเงื่อนงำบ้างละ ปล่อยให้ลูกศิษย์จ่ายเงินไม่ถูกต้องแก่ผู้รับเหมาก่อสร้างบ้างละ ฮั้วกับผู้รับเหมาบ้างละ ว่าไปว่ามาก็มาลงว่าท่านเจ้าอาวาสชราภาพ หูหนวกไม่ค่อยได้ยิน
ควรยกให้เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ !
ลวงโลกได้สมบทบาทจริงๆ ครับท่านผู้ชม
ผู้ที่เสพข่าวสารที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็เทใจเชื่อเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ผลเสียก็คือวัดหลวงพ่อโสธรถูกละเลงเละเป็นโจ๊ก !!
เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น พระหรือเนี่ย ??
ถ้าเจ้าคณะจังหวัดยุติธรรมจริง ก็ควรต้องทำหน้าที่เข้าช่วยระงับอธิกรณ์เป็นด่านแรก เรื่องใหญ่เจ้าคณะพระสังฆาธิการมีหน้าที่ต้องทำให้เป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กๆ ต้องทำไม่ให้เป็นเรื่อง พูดได้อย่างไรว่าเรื่องนี้รองเจ้าอาวาสรายงานให้ทราบนานแล้ว ถ้ารายงานจริง รายงานข้างเดียวหรือรายงานทั้งสองฝ่าย ? ฟังความข้างเดียวหรือฟังทั้งสองด้าน ?
เมื่อรู้แล้วว่าวัดภายใต้การปกครองกำลังเกิดปัญหาด้วยวงเงินถึง 1,800 ล้าน ทำไมไม่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพื่อความเป็นธรรม ทำไมถึงรีบร้อนนำเรื่องเข้าไปพูดในที่ประชุมมส.โดยไม่ได้บรรจุเป็นวาระ ขณะที่สมเด็จพระมหาธีราจารย์ยังไม่ทราบเรื่อง
หรือมีกรรมการมส.รูปหนึ่งรูปใดรู้เห็นกับเงิน 1,800 ล้านนี้ด้วย ??
ณ. หนูแก้ว
หลวงตา เราพูดเรื่องไอ้หลังลาย เป็นยังไงล่ะถูกไหม หรือว่าหลวงตาอุตริเหรอ ฟังซิขึ้นแล้วเห็นไหมล่ะ ไอ้หลังลายมันสำคัญนะ มันประหารชีวิตพระก็ได้ขั้นไหนก็ตาม อย่างทุกวันนี้เขาตั้งสูงสุดถึงขั้นสมเด็จ จะให้เลยสมเด็จก็ตามไอ้หลังลายฟาดคอขาดหมดเลย เข้าใจไหม ไอ้หลังลายมันเก่งมาก เรื่องธรรมไม่มีความหมาย ไอ้หลังลายเหยียบแหลกหมดเลย ธรรมจึงไม่ค่อยมี นี่พูดย่อมๆ และไม่มีในพระเราเวลานี้ มีแต่ไอ้หลังลายขึ้นเหยียบอรรถเหยียบธรรมบนหัวโล้นของพระหมดเลย ไปที่ไหนมีแต่ไอ้หลังลายออกหน้าออกตา เรื่องศีลเรื่องธรรม ศีลาจารวัตร ถ้าปฏิบัติเพื่อความเป็นศีลเป็นธรรมแก่ตนเองและเพื่อส่วนรวม ไม่มีในพระผู้ที่ถูกไอ้หลังลายเหยียบหัวนี้เลย ไอ้หลังลายเหยียบไปหมดๆ
เราพูดเอาให้เต็มเหนี่ยวเลย พูดให้เต็มสัดเต็มส่วน หลวงตาบัวนี้ไอ้หลังลายเหยียบไม่ได้บอกตรงๆ ให้ปู่ไอ้หลังลาย ย่าไอ้หลังลาย โคตรแซ่ไอ้หลังลายมาเหยียบหลวงตาบัวเหยียบไม่ได้ มีแต่หลวงตาบัวเหยียบมันแหลกไปเลย เข้าใจไหม เหยียบไปใส่คนทุกข์คนจน สถานสงเคราะห์ โรงพยาบาล ที่ราชการต่างๆ ทั่วประเทศไทย เหยียบหัวมันไปตามนั้นไปเลย ให้เป็นตึกเป็นร้านขึ้นมาจากไอ้หลังลาย ที่จะให้มาเหยียบหลวงตาบัวนี้เหยียบไม่ได้ ท่านทั้งหลายฟังเสียนะ
หลวงตาบัวเอาธรรมเอาของจริงมาพูดให้ท่านทั้งหลายฟัง เพราะปฏิบัติอย่างจริงอย่างจัง ได้รู้เหตุรู้ผลมาตั้งแต่ต้นจนอวสานปัจจุบันนี้ เราเปิดเต็มที่ในการช่วยโลกคราวนี้ อย่างเขาจะมาตรวจเงินตรวจทองหลวงตาบัวว่าได้เงินได้ทองมายังไงๆ พวกเปรตพวกผีพวกกินไม่อิ่มนั่นแหละ หาเก็บตกตลอด เขาจะมาตรวจตราพาทีสมบัติเงินทองข้าวของกับหลวงตาบัว ได้มาทุจริตหรือสุจริตอย่างไร เขาจะมาตรวจ ทางนี้พอทราบข่าวก็บอกว่า ให้มันยกโคตรมาเลย มาเพียงคนหนึ่งสองคนไม่พอ ให้มันยกโคตรมาตรวจหลวงตาบัว หลวงตาบัวจะจับหัวมันไสเข้าโรงพยาบาลโรงเดียว มันตรวจอยู่สามเดือนไม่หมด เข้าใจไหม
คือเราจ่ายโรงพยาบาลนี้ค่าอะไรๆ ฟาดตั้งแต่เหล็กแต่อิฐแต่ปูนแต่ทรายขึ้นมาใช่ไหมล่ะ ให้มันไปไล่อยู่นั้นอีก สามเดือนก็ไม่จบ มันตายหมดทั้งโคตรทั้งแซ่ ไม่ได้ไปถึงตึกโรงพยาบาลหลังที่สองที่สาม พูดให้มันชัดๆ เราทำอย่างนี้เราทำกับโลก ไอ้เรื่องสกปรกโสมมจะมาเทียบทองคำทั้งแท่ง จะมาเหยียบทองคำเหยียบไม่ลง ธรรมเป็นธรรม เท่ากับทองคำทั้งแท่ง มูตรคูถคือกิเลสตัณหาตัวสกปรกเลวร้ายที่สุด จะไปเหยียบทองคำ ลดทองคำลงมาอย่างนี้เป็นไปไม่ได้เลย นี้ธรรมเป็นธรรม เรานำมาปฏิบัติต่อโลกปฏิบัติแบบนี้เอง เราไม่มีอะไร ให้พากันเข้าใจเอานะ
(มีผู้ถวายทองคำ) เออ ไหลซึมเข้ามาเรื่อยๆ อย่างนี้ นี่ได้ ๑๔ กิโลแล้ว ต่อไปนี้จะขึ้นเรื่อยๆ เราจะเอาเข้าคลังหลวง หนุนคลังหลวงของเรา คราวนี้เป็นคราวสำคัญของคนทั้งประเทศ ควรจะได้ทองคำที่เป็นเศษเป็นเหลือเข้าเป็นน้ำไหลซึมเข้าสู่คลังหลวงของเรา นี่เห็นไหมล่ะ ทั้งนั่งทั้งคู้เข่าทั้งเหยียด นั่งฉันจังหันก็จะไม่เสร็จ ปวดๆ ให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |