เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
เจ็บแล้วต้องเข็ด
ก่อนจังหัน
ทองคำให้ไหลซึมเข้ามาเรื่อยนะ ทองคำในคลังหลวงของเราขาดอยู่มากทีเดียว นี่เราได้เป็นก้อนใหญ่เข้ามานี้ก็พอใจแล้ว ได้ตามความสัตย์ความจริงที่มุ่งหมายไว้ของพี่น้องชาวไทยทั้งชาติ ได้ตามต้องการไม่บกพร่อง เมื่อเราได้เข้าไปแล้วส่วนที่มีอยู่ดั้งเดิมในคลังหลวงของเรารู้สึกว่ายังบกพร่องอยู่มากนะ ให้พากันพยายามตอนนี้แหละตอนที่นำสมบัติเข้าคลังหลวงหรือเข้าชาติของเราคราวนี้ ให้ต่างคนต่างหนุนเข้ามาๆ นะ ไม่อย่างนั้นไม่ได้
เป็นอย่างไรพากันเข็ดไหมปี ๒๕๔๐ เมืองไทยจะจม ใครทำให้เมืองไทยจม ถามลงไปหาต้นตอมันซิ ใครทำให้เมืองไทยจมปี ๒๕๔๐ เราร้องโก้กเลยเกิดมาแต่พ่อแต่แม่หลวงตาบัวไม่เคยร้องโก้ก คราวนี้ร้องโก้กทีเดียว เมืองไทยจะจมมองดูอะไรนี้ซบเซาหมดเลย จะไม่มีอะไรฟื้นเลย ใครเป็นรัฐบาลพิจารณาซิ คราวนี้จมๆ ฟื้นขึ้นมาได้นี่ ๔ ปี ๕ ปี ๖ ปีนี่ใครเป็นรัฐบาลอีกจำให้ดีนะ ถึงได้ฟื้นขึ้นมาๆ พอหายใจได้อ้าปากได้ จะจมลงปี ๒๕๔๐ ใครเป็นผู้ทำชาติให้จม รัฐบาลไหน ถามลงไปหาต้นตอมันซิ อย่าทำจืดๆ ชืดๆ อย่าสุกเอาเผากินนะให้ถึงใจทุกอย่าง ชาติเป็นของเราทุกคนๆ อย่าทำเหลาะๆ แหละๆ แล้วก็สุกเอาเผากินๆ นี่แหละสำคัญมากที่จะทำให้ชาติล่มจมได้
จำให้ดีนะ ๒๕๔๐ ชาติไทยจะจมทั่วประเทศ โอ๋ เราไม่เคย เราร้องโก้กเลย บวชมาในศาสนามุ่งอรรถมุ่งธรรมทำไมจึงได้ร้องโก้ก เพราะชาติกับศาสนาอยู่ด้วยกันจะจมไปด้วยกันทั้งพระมหากษัตริย์ แล้วจะจมไปด้วยกันทั้งสามพระองค์นี้ร้องโก้กเลยเรา เข็ดตั้งแต่บัดนั้นมา ปี ๒๕๔๐ แล้วใครเป็นผู้ทำรัฐบาลให้จมจำคนนี้ให้ดีด้วย รัฐบาลพวกนี้คนนี้น่ะ แล้วฟื้นขึ้นมาๆ ใครทำรัฐบาลให้ฟื้นฟูขึ้นมานี้จำให้ถึงใจด้วยกัน เราเป็นเจ้าของของชาติจมเราก็รู้ฟูเราก็รู้นะ พากันคิดให้ดีทุกคนๆ อย่าทำมักง่ายๆ ไม่ได้นะ
นี่ก็ทองคำของเราก็เป็นโอกาสมาตั้งแต่เริ่มต้นได้ ๕-๖ ปีเข้ามานี้แล้ว ค่อยไหลเข้ามาๆ ขอให้ทองคำเราได้มีส่วนได้บ้างในเวลาช่วยชาติคราวนี้ อย่าให้ได้เฉพาะที่เรากำหนดกฎเกณฑ์ตายตัวไว้แล้ว ส่วนที่จะค่อยได้เศษเหลือเข้ามาก็เป็นโอกาสนี้ที่เหมาะมากที่สุดนะ ขอให้พี่น้องทั้งหลายจงพิจารณา ใครมีมากมีน้อยค่อยเสียสละเข้ามาๆ
จำได้ไหมที่พูดตะกี้นี้น่ะ เราพูดเล่นๆ หรือ พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ชาติไทยเรามีมาตั้งแต่ปู่ย่าตายายบรรพบุรุษของเรา จมที่ไหนไม่เคยจม ๒๕๔๐ นี้ โอ๋ย.จะจมจริงๆ นะ จนกระทั่งเราสลดสังเวชทนไม่ได้ร้องโก้กๆ แล้วใครพาให้จมเอาอีกนะ รัฐบาลไหนไล่เข้าไปซิเป็นผู้รับผิดชอบชาติไทย แล้วจะเป็นผู้พาชาติไทยให้จมคือใคร จำให้ดีแล้วพยายามฟื้นฟูขึ้นมา นี่รัฐบาลไหนใครเป็นคนพาให้ฟื้นฟูขึ้นมา จำให้ได้ทั้งสองรัฐบาลนี้เป็นคนของชาติไทยด้วยกัน ที่จะพาให้จมก็ดีที่จะพาให้ฟื้นฟูก็ดีเป็นคนของชาติไทยเรา แล้วให้พากันจำให้ถึงใจทุกคนอย่าทำเหลาะๆ แหละๆ ทำอะไร โอ๋ ไม่ได้นะ เราเข็ดไม่ลืมเลย
ที่นี่จะให้พร
หลังจังหัน
ผู้กำกับ เป็นการ์ตูนจากนสพ.ไทยรัฐ เขามองดูประเทศไทย มองดูพรรคการเมืองในระยะนี้ เป็นภาพนายกทักษิณ อีกภาพเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านคือประชาธิปัตย์ ด้านฝ่ายค้านอ้าปากชูมือสูงๆ ว่า ทวงคืนประเทศไทย ส่วนด้านนายกทักษิณก็บอกว่า ปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ ที่ว่าใช้หนี้ก่อนสองปีน่ะครับ การ์ตูนเขาก็เขียนว่า ที่ว่าทวงคืนประเทศไทยนี่คือทวงคืนให้ฝรั่งหรือเอาไปจำนำต่อครับ
หลวงตา ฟังให้ถึงใจนะ นี่ละประเทศไทยเราจะจม การ์ตูนอันนี้กระเทือนใจคนทั้งประเทศ จะทวงคืนประเทศไทย เอาอำนาจไปไว้กับผู้ที่กำลังจะพาชาติให้ล่มจม ทวงนี้คืนคือจะให้ไปอยู่กับผู้ที่กำลังจะทำชาติให้ล่มจม แล้วอีกอันหนึ่งนายกทักษิณใช้หนี้ไอเอ็มเอฟเอ็มแอฟอะไรก็ไม่รู้แหละผ่านไปเรียบร้อยแล้วก่อนหน้าตั้งสองปีใช่ไหม นี่ก็เป็นรัฐบาลหนึ่ง จำให้ดี อีกอันหนึ่งทวงอำนาจคืน ทีนี้คนในประเทศไทยจะเป็นใครต่อใครก็ไม่ทราบ ทวงคืนไปให้ใคร ไปให้ฝรั่งหรือเอาไปจำนำต่อ นี่ละสองรัฐบาลกำลังเถียงกันอยู่
เราเป็นคนของชาติ เป็นคนของรัฐบาลทั้งสองนี้ ใครเป็นผู้ที่จะพาให้ล่มจม ใครเป็นผู้ที่จะหนุนขึ้น พี่น้องทั้งหลายให้ฟังทุกคน มันมีหลายแผนหลายแบบเดี๋ยวนี้นะ วิธีการที่จะเอาชาติไทยให้จมมีหลายแบบหลายแผน ขึ้นโต้งๆ ก็ทวงคืนอันนี้แหละ แล้วใครบ้างที่จะมาทวงคืนอยู่ในนั้น ที่จะจับมือกันเข้าไป ถ้าออกโต้งๆ นี้กลัวเขาจะไม่เชื่อ เพราะจะพาชาติให้ล่มจมไปหนหนึ่งแล้ว กลัวเขาจะไม่เชื่อก็แตกกันออกไป แล้วจับมือกันเข้าไป อันนี้ตั้งเป็นประชาธิปัตย์ อันนี้ตั้งเป็นมหาชน มหาชนกับประชาธิปัตย์นี้เป็นแขนซ้ายกับแขนขวา จะดึงผลประโยชน์เข้ามาสู่ร่างกายอันเดียวกัน รัฐบาลปัจจุบันเป็นของคุณทักษิณ พรรคไทยรักไทย กำลังกว้านเอาสมบัติเงินทองข้าวของต่างประเทศในประเทศที่ไหนๆ เข้ามาๆ สู่คลังหลวง
เวลาเงินในคลังหลวงของเรานี้เฉพาะเงินสหรัฐก็ได้ ๔๓,๐๐๐ ล้านเหรียญ นี่คือนายกทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ที่พยายามกว้านเอามาๆ ไว้ในคลังหลวงเวลานี้ ในคลังหลวงเราเวลานี้ที่นายกคนนี้ได้พยายามกว้านเข้ามาๆ ได้ ๔๓,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ เวลานี้กำลังแข่งกัน เป็นความกระทบกระเทือนทั้งได้ทั้งเสียอยู่กับพี่น้องชาวไทยเราทุกคน จึงต้องพากันฟังให้ดีทุกคน คนหนึ่งกว้านมา คนหนึ่งกำลังทวงอำนาจคืน ก็คือคืนจมลงในทะเลของเก่านั่นแหละจะไปไหน พูดให้ชัดๆ อย่างนี้ เจ็บแล้วต้องเข็ดต้องหลาบชาติไทย อย่าสุกเอาเผากิน ทำอะไรทำให้จริงจัง จมกันทั้งประเทศมีอย่างเหรอ
หลวงตาที่ได้มาพูดก้อกๆ ก็เพราะหลวงตามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในหัวใจกลางของชาติไทย ตามธรรมดาพระเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นเรียกว่าเล่นการบ้านการเมือง ผิดศีลผิดธรรมของพระ แต่เราไม่ผิดเพราะอะไร เพราะสมบัติของเราที่ช่วยโลกสงสารเข้าไปอยู่ในนั้น ได้รับความกระทบกระเทือนจะล่มจมไปด้วยกัน หลวงตาจึงต้องต้านทานเพื่อพี่น้องทั้งหลาย จึงไม่มีคำว่าเล่นการบ้านการเมือง เล่นเรื่องเป็นศีลเป็นธรรมต่อบ้านต่อเมืองของเราต่างหาก เราจึงพูดได้เต็มปาก เพราะทุกอย่างเราจะคำนึงถึงธรรมถึงวินัย เราจะไม่ให้นอกเหนือจากธรรมจากวินัย การทำเหล่านี้ถูกต้อง ธรรมก็ไม่ผิด วินัยก็ไม่ผิด เป็นประโยชน์แก่ชาติแก่ศาสนาแก่พระมหากษัตริย์ของเราอีกด้วย เราจึงได้เข้ามาเกี่ยวข้อง
เช่นอย่างพูดเวลานี้ก็เหมือนกัน ก็มาเกี่ยวข้องกับเราที่อยู่จุดศูนย์กลาง ซึ่งอุ้มทั้งชาติทั้งศาสนาทั้งพระมหากษัตริย์ด้วย เราไม่ให้หลุดมือ ทั้งสามพระองค์นี้เราไม่ยอมให้หลุดมือ นอกจากเราตายเสียเท่านั้นเอง เพราะเรามีความรับผิดชอบเกี่ยวโยงกับอันนี้ถึงขนาดร้อยเปอร์เซ็นต์ หัวอกของเรามอบไว้กับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทีนี้ทั้งสองฝ่ายนี้ ฝ่ายใดก็ว่าจะอุ้ม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขึ้นด้วยกัน กำลังโบกมือขึ้นมา อันหนึ่งบอกว่าจะทวงประเทศไทยคืน ผู้ที่ทวงคืนนั้นคือผู้ที่จะทำชาติไทยให้ล่มจมลงไปเมื่อ ๒๕๔๐ จำได้เหรอ ถ้าว่าเป็นพรรคก็เป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์มันก็มีอยู่อีกอันหนึ่ง ประชาธิปัตย์กับพรรคมหาชน ประชาธิปัตย์เป็นแขนซ้าย พรรคมหาชนเป็นแขนขวา สองแขนนี้จะดึงทางนี้เข้ามา ดึงทางนี้เข้ามาเพื่อนำอาหารมาหล่อเลี้ยงร่างกายจากแขนซ้ายแขนขวา เข้าใจไหม ที่นำอาหารมาหล่อเลี้ยงร่างกาย อาหารจะมาจากไหน มาจากตับจากปอดของประชาชนทั้งประเทศที่จะเข้ามาหล่อเลี้ยงอันนี้นะ ท่านทั้งหลายให้จำไว้
นี่ละมันแตกแขนงอยู่อย่างนี้ อย่าไปเอาแบบสุกเอาเผากินนะ พรรคนั้นเป็นอย่างนั้น พรรคนี้เป็นอย่างนี้ พรรคนี้เป็นยังไงต่อยังไงพิจารณาให้ทั่วถึงกันซิ นี่เราพูดให้ฟังอย่างชัดเจน เรามีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา เราจึงเตือนให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายฟัง พรรคสองพรรคนี้เป็นอันเดียวกัน จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม พรรคมหาชนก็ตาม ถ้าเอาเมืองไทยเราขึ้นได้ก็เรียกว่าทั้งสองพรรคนี้รวมกันแล้วประเทศไทยขึ้นได้เลย ถ้าหากให้จมพรรคทั้งสองนี้เป็นอันเดียวกัน จะทำชาติไทยของเราให้จมอย่างไม่สงสัยเช่นเดียวกัน เข้าใจเหรอ นี่เป็นพรรคหนึ่ง
แล้วพรรคหนึ่งเป็นพรรคคุณทักษิณ ไทยรักไทย นี้ยังไม่ปรากฏ เราจึงไม่พูดสิ่งที่ไม่ปรากฏ เราพูดได้แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาโดยลำดับแล้วว่า พรรคไทยรักไทยของเรานี้กำลังกว้านสมบัติในที่ต่าง ๆ ทั้งใกล้ทั้งไกลกว้างแคบเข้ามาสู่ชาติไทยของเรา เข้าสู่คลังหลวง เฉพาะอย่างยิ่งใช้หนี้ ไอ เอ็ม เอฟ เอ็มแอฟ ผ่านไปแล้ว ๒ ปี ล่วงหน้า ๒ ปี แล้วก็นำเงินเข้าสู่คลังหลวงของเราได้ ๔๓,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ นี่กำลังกว้านเข้ามา ๆ ทั้งสองรัฐบาลนี้เป็นความกระทบกระเทือนของพี่น้องชาวไทยเราทั้งชาติ พรรคไหนทำความกระทบกระเทือนให้จม พรรคไหนที่จะพยุงให้ขึ้น ให้จับไว้ทั้งสอง มาจากสกุลใด พรรคพาให้ล่มจมมาจากสกุลใด พรรคใดที่พาชาติไทยเราฟื้นฟูลืมตาอ้าปากได้บ้างคือสกุลใด จำให้ดีทุกคน
ที่จะเอากันเด็ดขาดก็คือวันหย่อนบัตร นั้นละเป็นวันสำคัญมาก การหย่อนบัตรต้องดู เป็นดาบสองคม บัตรของเรานี่ คมหนึ่งจะตัดคอเราให้ขาดสะบั้น ถ้าเราไปหย่อนบัตรแบบสุ่มสี่สุ่มห้า สุกเอาเผากิน คอเราขาดไปพร้อมกับการหย่อนบัตร ถ้าเราเป็นผู้รอบคอบสมกับว่าเราเป็นเจ้าของของชาติแล้วเราพินิจพิจารณา แล้วหย่อนบัตรลงไป บัตรนี้จะเป็นดาบที่แหลมคมมาก ตัดความล่มความจมของชาติไทยเราให้ขาดสะบั้นลงไป มีแต่ความฟื้นฟูของชาติขึ้นมาด้วยการหย่อนบัตรที่ถูกต้อง เข้าใจไหมล่ะ จำไว้นะคำนี้
วันนั้นละวันหย่อนบัตร เรื่องนี้จะออกมาทันทีละเรื่องที่หลวงตาพูดนี่ จะไม่ไปไหน ให้ท่านทั้งหลายพิจารณาตามอรรถตามธรรมก็แล้วกัน แล้วประการหนึ่งหลวงตานี้ตั้งแต่นำพี่น้องทั้งหลายมาก็ไม่มีเจตนาแม้เม็ดหินเม็ดทรายว่าจะทำชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้ล่มจม นอกจากอุ้มชูโดยถ่ายเดียวเท่านั้นตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้ ที่พาพี่น้องทั้งหลายดำเนินมา แล้วมีข้อบกพร่องตรงไหนๆ หลวงตาบัวไปหาเที่ยวต้มตุ๋นพี่น้องทั้งหลายให้เอนเอียง หรือล่มจมไปด้วยวิธีการใดบ้าง ให้นำไปคิด
เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว อุบายวิธีการที่หลวงตาบัวสั่งสอนเวลานี้ผิดถูกประการใด หรือว่าหลวงตาบัวนี้ต้มท่านทั้งหลายเหรอ เอานี้ไปคิดอีกนะ เมื่อคิดแล้วให้นำไปปฏิบัติเพื่อชาติของตนๆ จะได้แน่นหนามั่นคงขึ้นไป เจ็บแล้วให้เข็ดให้หลาบ ไม่เข็ดจมอีกๆๆ จำให้ดี วันนี้เราจะพูดเพียงเท่านี้ก่อน เป็นการเผดียงไว้วันนี้กับวันหย่อนบัตรเป็นวันเดียวกัน คำพูดแบบเดียวกัน ไม่นอกเหนือไปจากนี้เลย เข้าใจ ถูกต้องไหมที่พูดนี้ (ถูกต้องค่ะ) ก็พูดไม่ให้ผิด จะผิดไปไหน
ผู้กำกับ เขากล่าวถึงหลวงปู่มั่นกับหลวงปู่ฝั้น จากหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทยรายวันนะครับ หัวข้อว่า พระป่าคือใคร มีวัตรปฏิบัติอย่างไร ขึ้นต้นว่า ชีวิตพระป่า อันนี้เขียนโดยนายแพทย์อวย เกตุสิงห์ พระภิกษุในพระพุทธศาสนา แบ่งออกได้เป็นสองฝ่าย ฝ่ายปริยัติมุ่งศึกษาโดยการท่องบ่นตำรา ส่วนมากอยู่ที่วัดในเมืองหรือหมู่บ้านเพื่อความสะดวกในการเสาะหาอาจารย์ จึงเรียกว่าพระฝ่ายคามวาสี คือพระบ้าน อีกฝ่ายหนึ่งมุ่งศึกษาโดยการกระทำและอยู่ตามป่าตามเขาที่สงบสงัด สะดวกต่อการปฏิบัติ จึงเรียกว่าพระอรัญวาสี หรือพระป่า หรือพระธุดงคกรรมฐาน ในหนังสือนี้มีชื่อพระป่า เพราะสั้นและเข้าใจง่าย
ตัวพระเองท่านก็ชอบชื่อนี้ เมื่อพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร จังหวัดสกลนคร ได้รับนิมนต์ไปเทศน์โปรดทายกทายิกาที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อพ.ศ. ๒๕๑๘ ท่านได้ออกตัวว่าอาตมาเป็นพระป่า เทศน์ไม่ดี แต่พระอุโบสถในวันนั้นแน่นขนัดไปด้วยคน ซึ่งตั้งใจไปฟังท่านทั้งนั้น และยังได้อาราธนาให้ท่านเทศน์ซ้ำในวันหลังอีก คนนิยมฟังท่านเทศน์ เพราะนอกจากท่านมีดีเป็นส่วนตัวแล้ว ท่านยังเทศน์ธรรมะป่าอีกด้วย เทศน์ของพระป่าไม่มีพิธีรีตอง มีแต่เนื้อล้วน ๆ และตรงจุดสุดยอด คือเทศน์เรื่องจิตและการอบรมจิต ซึ่งนำไปสู่การหลุดพ้นโดยเฉพาะ
ในสมัยพุทธกาลพระทุกองค์เป็นพระป่า พระพุทธองค์เองก็ทรงเป็นพระป่า และได้ทรงกำชับสาวกของพระองค์ให้ออกไปสู่โคนไม้ คูหาหรือเรือนร้างเพื่อปฏิบัติภาวนา ในสมัยนี้พระส่วนใหญ่เป็นฝ่ายปริยัติ พระปฏิบัติแท้ๆ นั้นมีน้อยนับตัวถ้วน ทั้งนี้เข้าใจว่า เนื่องจากชีวิตของพระป่านั้นลำบากลำเค็ญยากที่คนทั่วไปจะทนได้ และอาจารย์ฝ่ายปฏิบัติที่ดีแท้นั้นหายาก ในสมัย ๕๐ ปีหลังนี้ อาจารย์ที่ขึ้นชื่อลือชาที่สุดน่าจะได้แก่ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แห่งจังหวัดสกลนคร ผู้ได้บำเพ็ญความเพียรในขั้นเอกอุบรรลุถึงธรรมชั้นสูงสุด ดังมีพยานหลักฐานและปรากฏอยู่ก็คือ อัฐิของท่านได้กลายเป็นพระธาตุ ดังที่มีบรรยายไว้ว่า เป็นลักษณะของพระอรหันตสาวก ศิษยานุศิษย์ได้นำประดิษฐานไว้ในพิพิธภัณฑ์บริขารที่วัดป่าสุทธาวาส ในจังหวัดสกลนคร หลังจากท่านมรณภาพ (๒๔๙๒)
ท่านพระอาจารย์มั่นได้อบรมสั่งสอนลูกศิษย์ชั้นอาจารย์ไว้เป็นอันมาก ซึ่งได้สืบต่อระเบียบระบบและวิธีการของท่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ เมื่อศิษย์หลายองค์ถึงแก่มรณภาพ อัฐิของท่านก็แปรสภาพไปในทำนองเดียวกันกับท่านพระอาจารย์มั่น ปรากฏการณ์เหล่านี้ได้เร่งเร้าความศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง เป็นเหตุแห่งการฟื้นฟูวัดป่าและชักจูงให้มีผู้บวชเป็นพระป่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ศิษย์เอกองค์หนึ่งที่ท่านพระอาจารย์มั่นไว้วางใจคือ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
ท่านผู้นี้บำเพ็ญบารมีในทางพระป่ามาตั้งแต่ต้น และได้ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตราบสิ้นชีวิต ตลอดเวลากว่า ๕๐ ปี ท่านมีชีวิตอยู่แต่ในวัดป่า และได้จาริกไปในเขตแคว้นทุรกันดารต่างๆ แทบทั่วประเทศไทย คุณธรรมของท่านได้ปรากฏให้คนทั้งหลายจนเป็นที่เลื่องลือไปทุกหนทุกแห่ง ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าท่านเป็นพระป่าที่ยอดเยี่ยมองค์หนึ่งในสมัยนี้
ในโอกาสถวายเพลิงศพของท่านในเดือนมกราคม ๒๕๒๑ ผู้เขียน (นพ.อวย เกตุสิงห์) เห็นสมควรจะนำความเป็นอยู่ของพระป่ามาเผยแพร่ เพื่อผู้ที่ยังไม่ทราบจะได้ทราบว่า การเป็นพระป่านั้นหมายความว่าอย่างไร ท่านพระอาจารย์ฝั้นต้องผ่านภาวการณ์ต่างๆ อย่างไรบ้างก่อนที่จะมาเป็นท่านอาจารย์ใหญ่ ดังที่พระป่าสายท่านพระอาจารย์มั่นได้ถวายสมญาไว้
ณ.หนูแก้ว
หลวงตา ก็น่าฟังนะ ไม่มีอะไรบกพร่อง สมบูรณ์แบบแล้ว อาจารย์หมออวยนี้สมชื่อว่า ศาสตราจารย์นายแพทย์อวย เป็นผู้ละเอียดลออรอบคอบทุกอย่าง เข้าหาพระด้วยความเฉลียวฉลาด เข้าไปหาแต่องค์สำคัญๆ ที่พระทั้งหลายบรรดาที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาเคารพอยู่แล้วๆ ท่านไปหาองค์ที่สำคัญๆ เรียกว่าจับไม่ผิดๆ ตลอดมาจนกระทั่งท่านมรณภาพ เป็นหมอตัวอย่างท่านหนึ่งในสมัยปัจจุบัน คืออาจารย์หมออวย อาจารย์หมออุดม อาจารย์หมออุดมนี้ก็เป็นแบบเดียวกัน ว่างเมื่อไรปั๊บเข้ามาอยู่ป่า เฉพาะอย่างยิ่งที่ขบขันอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้คือ ท่านมาพักอยู่วัดป่าบ้านตาด ท่านนุ่งกางเกงขาก๊วย ท่านลงจากกุฏิจะไปอาบน้ำที่บ่อน้ำ
แล้วมีคนของวัดป่าบ้านตาด ลูกหลานวัดป่าบ้านตาดนั่นแหละแต่เป็นฆราวาสมาพบท่าน เขาไม่รู้ว่าท่านเป็นใครเลยถามว่า จะไปไหนเฒ่าแก่ ท่านก็บอกว่าจะไปอาบน้ำ พอกลับคืนมานี้ก็เลยมาถามพระ เฒ่าแก่คนนี้มาจากไหน เฒ่าแก่ที่ไหน ที่นุ่งกางเกงขาก๊วยลงไปบ่อน้ำตะกี้นี้ โอ๊ยนั่นอาจารย์หมออุดมนี่ ไอ้บ้าตัวนั้นตัวสั่นไปเลย นี่เรื่องท่านมาอยู่อย่างนี้บ่อย ว่างเมื่อไรก็มา ท่านสองท่านนี้เป็นอาจารย์ทางฝ่ายหมอนี้เป็นตัวอย่างได้อย่างดีมากทีเดียว จากนั้นก็อาจารย์หมอโรจน์ต่อกันไปเรื่อยๆ ที่ออกหน้าออกตาทีแรกก็คืออาจารย์ทั้งสองท่านนี้ละ
ทีนี้ก็จบเรื่องคุณงามความดีของท่านที่เสาะแสวงหาอรรถหาธรรม ไม่หาแต่ทางโลกโดยถ่ายเดียว มาหาอรรถหาธรรม จะคิดโต้ตอบกับเรานั้น เราไม่พูดละ เอากันเลยนะ เปิดอกใส่กัน เอาท่านอาจารย์หมอก็เรียนวิชาทางโลกมาอย่างเต็มเหนี่ยว ทางนี้ก็เรียนวิชาทางธรรมมาเต็มหัวใจเหมือนกัน เอาวันนี้เปิดอก ขัดตรงไหนให้ค้าน ซัดกันเลยวันนั้น เอากันเต็มเหนี่ยว สุดท้ายท่านหมอบกราบตั้งแต่บัดนั้นมา คือได้เปิดเวทีซัดกันแล้วกับอาจารย์หมออวยนะ เอาละจบเท่านั้นพอ
ผู้กำกับ อันนี้มีข่าวมาจากพ.ศ.ครับ นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยหลังประชุมมหาเถรสมาคม วันที่ ๑๑ ต.ค.ว่า ตนได้รายงานความห่วงใยในสถานการณ์ทางพระพุทธศาสนาของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กรณีความคิดเห็นที่แตกต่างระหว่างพระป่ากับพระบ้านต่อ มส. และถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องเร่งแก้ไขให้เสร็จสิ้น โดยตนจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา ๑ ชุด ช่วยกันระดมสมองหามาตรการในการแก้ปัญหา มีตัวแทน มส.อาจจะเป็นเลขานุการสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ ตัวแทนพระป่า ตัวแทนศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ตัวแทน พศ. และตัวแทนกลุ่มองค์กรต่างๆ ซึ่ง มส.เห็นด้วย
ขณะนี้ตนกำลังเจรจากับตัวแทนกลุ่มต่างๆ เพื่อจุดลงตัว นอกจากนั้นได้ชี้แจงการทำงานว่า ต่อไปนี้ พศ.จะไม่เลือกยืนอยู่กับพระสงฆ์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะรับฟังทุกกลุ่มและจะถือปฏิบัติเหมือนกันหมด ตนเชื่อว่าพระสงฆ์ทุกกลุ่มมีเจตนาดีต่อพระพุทธศาสนา แต่จะไม่ยอมให้มีการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย ตนมองว่าที่ผ่านมาเกิดปัญหาเพราะมีการปิดกั้นและเลือกปฏิบัติ ส่วนปัญหาพระสงฆ์ที่ภาคใต้ พล.อ.ชวลิตให้เร่งทำแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาโดยด่วนเช่นกัน
หลวงตา เอ่อเอาแค่นี้ละ อันนี้เอาวางไว้กลางๆ ยังไม่ได้ออก บอกแผนการว่างั้นเถอะนะ แผนการที่จะก้าวเดินต่อไป เราจะคอยฟัง คือมีหัวหน้ามาทุกด้าน ทางฝ่ายปฏิบัติก็มีไม่ใช่หรือนี่ ทุกๆ ด้านเข้ามาฟังความคิดเห็นต่างๆ โดยยึดหลักธรรมหลักวินัยและกฎหมายบ้านเมืองเข้ามาแทรกด้วย ไม่ใช่เข้ามาเป็นใหญ่ต่อธรรมวินัยนะ เข้ามาแทรกคอยดูแลตรงไหน เพราะกฎหมายนี้เป็นของคนมีกิเลสตั้งขึ้นมา ธรรมวินัยเป็นของพระพุทธเจ้าที่บริสุทธิ์แล้วตั้งขึ้นมาเป็นศาสดาองค์เอก จึงใหญ่กว่ากฎหมายบ้านเมือง จึงเรียกว่ากฎหมายบ้านเมืองแทรกเข้าไปคอยดูแล ควบคุมดูแล ปฏิบัติบำรุงรักษา ช่วยแก้ไขรักษาทางด้านกฎหมาย ไม่ใช่ช่วยเข้าไปทำลายธรรมวินัยซึ่งเป็นองค์ศาสดา เข้าใจแล้วเหรอ เท่านั้นละนะ เอาละให้พร สายแล้ว
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |